web stats

ข่าว

 


Lost in Blue vol.3 - ตอนที่ 10 Friend Zone

โพสต์โดย: anhann วันที่: 13 พฤษภาคม 2018 เวลา 22:52:59 อ่าน: 236




ตอนที่ 10 Friend Zone





"ฮาร์ปเอาคริสตัลให้คริสตัลเหรอ" 

ฮาร์เปอร์ขมวดคิ้วให้น้องสาวในจอโทรศัพท์ที่ถามเธอด้วยรอยยิ้มล้อเลียน  คาร์ลีย์เหมือนจะถูกใจมากที่เห็นเธออาย  "ใครบอกเธอ  เค  โคลด์ใช่ไหม  และฉันก็ให้ขวดน้ำหอมคริสตัลเขานะ  ไม่ใช่แก้วไร้ประโยชน์"

"โอเค  ไม่ไร้ประโยชน์  แถมได้โฆษณางานตัวเองด้วย"  คาร์ลีย์พูด  แววตาเจ้าเล่ห์  ฮาร์เปอร์ทำหน้าหงิกใส่น้อง

"บอกมาเลย  ใครคาบข่าวไปบอกเธอกัน"

"ฉันมีสายทุกที่แหละ  ฮาร์ปไม่รู้เหรอ"  คาร์ลีย์พูดกึ่งหัวเราะ  "แล้วเขาว่าไงมั่งอะ  ได้คุยกันหรือเปล่า"

"ไม่  แค่มองหน้ายังแทบไม่ได้มองเลย"  ฮาร์เปอร์ตอบ  เผลอทำหน้าตาเพ้อฝันจนเสียงคาร์ลีย์แซวขึ้นอีกครั้ง

"ฮาร์ปทำเหมือนหลงรักเขาจริงๆ นะเนี่ย"

"เปล่า  ไม่ใช่  มันแค่..."

"นี่  ไม่เป็นไรหรอก  ฉันจะไม่บอกเกรซหรอกนะ"  คาร์ลีย์พูดด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์อย่างที่ฮาร์เปอร์อดระแวงไม่ได้

"ฉันไม่ได้ชอบเขาแบบนั้นสักหน่อย..." 

"มันไม่แปลกหรอก  ฮาร์ป  ถ้าจะชอบคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนตัวเองน่ะ"

"แปลว่าเธอเคยงั้นสิ"  ฮาร์เปอร์ย้อน  ลุ้นในใจว่าคาร์ลีย์จะตอบว่าอย่างไร  แล้วน้องก็แกล้งให้เธอรอเก้อ  ตัดสายหนีไปเฉยเลย

"ฮาร์ป  ไปกันเถอะ" 

เสียงโคลอี้เรียกจากด้านหลัง  ทำให้ฮาร์เปอร์คิดได้ว่าทำไมคาร์ลีย์จึงรีบวางสายไปแบบนั้น  คาร์ลีย์มีความลับอะไรหรือเปล่านะ  หรือว่า...

"นี่ตั๋ว" 

ฮาร์เปอร์รับตั๋วเข้าสนามฟุตบอลซานซีโรมาจากมือโคลอี้  แล้วเดินตามนางแบบสาวไป  พยายามไม่นึกถึงคาร์ลีย์กับคำถามที่น้องไม่ยอมตอบ  เธออุตส่าห์ได้มาเที่ยวแล้วทั้งที  จะไม่ยอมให้เรื่องจุกจิกแบบนั้นมากวนใจแน่นอน  แม่เจย์กับเมดิสันยืนรอเราอยู่ตรงทางเข้า  ฮาร์เปอร์อมยิ้มเมื่อเห็นแม่ในเสื้อฟุตบอล  ทีมเดียวกับเธอ

"เจย์เชียร์อินเตอร์มิลานด้วยเหรอ"  ฮาร์เปอร์ถามคุณแม่เสียงใส  เจย์ทำหน้าตาเบื่อๆ ให้เธอ  แต่เหมือนแกล้งมากกว่า  "สงสัยแดนให้ใส่สินะ"

"เลิกพูดแล้วเข้าสนามกันได้แล้ว  คนเยอะ  แม่ขี้เกียจเบียดกับเขา"

ฮาร์เปอร์ยิ้มกริ่ม  หันไปยักคิ้วกับโคลอี้ที่ทำท่าเห็นดีเห็นงามกับเธอ 

"ได้แกล้งแม่แล้วมีความสุขหรือไง"  โคลอี้ถามเสียงขำ 

"สุดๆ อะ  โคลด์  แต่โคลด์เลียนแบบไม่ได้นะ  ระวังจะโดน"

"ฉันก็ไม่ขอเสี่ยง" 

"ฉันก็ไม่ได้จะกล้าเสี่ยงบ่อยๆ หรอกนะ  ดูจังหวะอยู่เหมือนกัน"

"เข้าใจ"

ทั้งสองหัวเราะเบาๆ ให้กัน  โคลอี้กอดคอฮาร์เปอร์เข้าสนาม  เสียงแฟนๆ ของสโมสรฟุตบอลของทั้งสองทีมดังลั่น  เป็นที่ถูกใจฮาร์เปอร์มาก  เธอรอมานานมากที่จะได้มาดูฟุตบอลยุโรปที่สนามจริงๆ แบบนี้  แม่แดนกับแซมเคยโม้ให้เธอฟังว่ามันต่างกันมากกับเวลาดูในทีวี  แน่ละ  เธอเชื่อ

เหมือนการมาดูคอนเสิร์ตหรือได้เจอดาราที่ชอบตัวเป็นๆ  อารมณ์มันต่างกันเยอะ  นี่ทำให้เธอนึกถึงตอนเจอคุณเคคนนั้นอีกแล้ว  ถึงจะต่างกันตรงที่เธอไม่ได้อายนักฟุตบอลตัวโตๆ ในสนามนั้นก็ตาม

"แล้วจะเข้าไปดูพิพิธภัณฑ์ด้วยไหม"  โคลอี้ถามชิดหูฮาร์เปอร์  กลัวจะไม่ได้ยินเสียงเธอ  เพราะตอนนี้เสียงในสนามดังมาก 

ฮาร์เปอร์พยักหน้า  พลางส่งกล่องข้าวโพดคั่วที่แวะซื้อมาแบ่งให้โคลอี้กินด้วย  "โคลด์เบื่อหรือเปล่าล่ะ"

โคลอี้สั่นศีรษะ  ดันแว่นกันแดดขึ้นไปเป็นที่คาดผม  "ฉันก็ชอบอยู่  ถึงจะไม่ค่อยได้ชอบฟุตบอลเท่าไหร่"

"จะเก็บข้อมูลไว้ไปทำงานล่ะสิ" 

"ก็เหมือนเธอ" 

ฮาร์เปอร์ยิ้มชอบใจ  ยื่นกล่องข้าวโพดคั่วไปให้คุณแม่บ้าง  เจย์ก็หยิบมันใส่ปากกินอย่างไม่มีพิธีรีตองอะไรนัก  แถมยังคุยกับเธอเรื่องฟุตบอลด้วยเสียอีก  "เจย์ดูบอลเป็นนี่นา"

"ทำไมถึงคิดว่าแม่ดูไม่เป็นล่ะ"  เจย์ย้อน "ไม่ใช่แดเนียลคนเดียวนะ  ที่ดูบอลเป็น"

"ดูด้วยกันล่ะสิ"

"ถ้าดูแล้วจะทำไม"

"ก็...เปล่า"  ฮาร์เปอร์รีบปฏิเสธทันที  บางทีการแซวแม่มากๆ อาจทำให้โดนแพ่นหัวได้  ยกเว้นว่าแม่จะกอดคอเธอระหว่างดูบอลไปด้วยแบบนี้ 

"ฮาร์ปถ่ายวิดีโอไปให้แดนดูด้วยสิ"

"แล้วทำไมเจย์ไม่ทำเองล่ะ"

ตาคมกริบที่ตวัดมามองทำให้ฮาร์เปอร์หัวเราะแฮะๆ  รีบทำตามสั่งทันใด  เจย์เป็นคนพากย์ว่าเธอควรจะถ่ายตรงไหนบ้าง  ตอนไหน  เป็นอันว่า  เธอกลายเป็นตากล้องของแม่ไปแล้ว 

ไหนล่ะ  การดูฟุตบอลในสนามอย่างมีความสุขของเธอ  แต่แบบนี้ก็ไม่เลวอะไรนักหรอกนะ  เธอก็สนุกกับมันอยู่  รู้สึกใกล้ชิดกับแม่มากขึ้น  คนใกล้ตัวเธอคนนี้ก็เหมือนกัน  เธอเพิ่งรู้ว่าโคลอี้เชียร์บอลได้มันส์มาก

"เจ๋งเนอะ  แบบนี้ต้องหาเวลามาอีก"  ฮาร์เปอร์พูดขึ้นระหว่างเดินออกจากสนามพร้อมกับแฟนฟุตบอลคนอื่นๆ  พยายามเกาะกลุ่มกันเอาไว้  กลัวจะหลงกัน  โดยเฉพาะแม่ของเธอที่ตัวเล็กมาก  เทียบกับเธอและโคลอี้

"คราวหน้าซื้อตั๋วเองนะจ๊ะ"  เจย์ส่งเสียงมาจากด้านหน้า  ฮาร์เปอร์แยกเขี้ยวให้คุณแม่จอมโหด  "มีเงินเดือนแล้ว  ฮาร์เปอร์  หรือไม่เอาเงินเดือน  แม่จะให้เงินเราเที่ยว  แต่ทำงานฟรี  ตกลงไหม"

"ม่าย  แบบนั้นมันขี้โกงนะ  เจย์"

"โกงอะไร  นี่ให้เงินเที่ยวนะ  ค่าตั๋วเครื่องบิน  ค่าตั๋วฟุตบอล  ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์  ค่ากิน  ค่าอะไรอีกเยอะแยะ  แม่ออกคนเดียวนะ  งานนี้"

"เจย์รวยจะตายไป  แค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก"

"แม่แวกซ์หมดแล้ว  ไม่มีสักเส้นอยู่แล้วละ  จะเอาที่ไหนมาร่วง"

ฮาร์เปอร์สั่นหัวให้มารดา  แต่เจย์ก็ไม่สนใจเธอแล้วตอนนี้

"เถียงกันได้ตลอดจริงๆ"  โคลอี้วิจารณ์เสียงขำ  ขณะตาจ้องอยู่กับกล้องวิดีโอในมือตัวเองที่ถ่ายบรรยากาศในสนามกับคนรอบตัวโดยเฉพาะฮาร์เปอร์และเจย์  กับตัวเธอเอง

"มันสนุก"  ฮาร์เปอร์บอก  มองคุณแม่ร่างเล็กเดินคู่ไปลี  บอดี้การ์ดที่ติดตามแม่ไปทุกที่  และเมดิสันผู้ช่วยของแม่  เจย์หันไปคุยกับลีบ่อยกว่าเมดิสัน  คงเพราะคุยเรื่องฟุตบอลกันอยู่  เท่าที่เธอสังเกต  เมดิสันไม่ได้สนใจเจ้าลูกกลมๆ ในสนามมากกว่านักเตะหนุ่มรูปหล่อเลย

"แซมเป็นแฟนเอซี  มิลาน"  โคลอี้พูดขึ้นขณะอ่านประวัติความเป็นมาของทีมทั้งสอง  ทั้งอินเตอร์มิลานและเอซีมิลานอยู่ในพิพิธภัณฑ์

"มิน่า  ชอบข่มกันกับแดนประจำ"  ฮาร์เปอร์พูด  นึกถึงแฟนบอลสองคนที่บ้าน  แล้วคิดถึงทั้งสองคนนั้นขึ้นมา  "น่าจะได้มาด้วยกันเนอะ"

โคลอี้พยักหน้า  และเอ่ยต่ออย่างขำๆ  "แต่ไม่ต้องชวนเคมานะ"

"ใครจะชวน  เด็กนั่นดูบอลเป็นที่ไหน  ถ้าให้ไปช็อปปิงน่ะ  ไปแน่"

"แล้วเกรซชอบดูบอลหรือเปล่า"

"ดูได้  ไม่บ่นมากเหมือนเค  แต่ถ้าให้ดูคนเดียวก็ไม่ดูหรอก  ชอบอ่านหนังสือมากกว่าน่ะ  รายนั้น"  ฮาร์เปอร์ตอบด้วยรอยยิ้ม  นึกถึงแฟนสาวที่อยู่ที่บ้าน  ป่านนี้คงหลับคาหนังสืออีกตามเคย 

"นี่เรามาช้าไปนะ  ไม่งั้นได้เข้าไปดูห้องแต่งตัวนักฟุตบอลกับทัวร์สนามแล้ว"  โคลอี้พูดอย่างนึกขึ้นได้  ฮาร์เปอร์หันมาทำหน้าแหย  พเยิดหน้าไปทางคุณแม่ของตนที่เดินนำเราอยู่  "ไว้ถ้าเรามากันสองคน  ค่อยดูละกัน"

"พูดเหมือนโคลด์ว่างนักแน่ะ" 

"คนเรามันก็ต้องมีความหวังไว้บ้าง  จริงไหม"

ฮาร์เปอร์ยิ้มอย่างเห็นด้วย  แต่กลับพูดขึ้นอีกอย่าง  "จริงๆ แล้ว  ฉันเป็นแฟนแมนยูแหละ"

"ถ้างั้นต้อง  'โอลด์แทรฟฟอร์ด'  น่ะสิ"  โคลอี้พูดตาวาว  "โรงละครแห่งความฝัน"

"ข้อมูลแน่นเหมือนกันนี่  โคลด์  อย่าบอกนะว่าเป็นแฟนผีแดง"

"ไม่หรอก  แต่ก็ไม่ใช่หงส์แดงเหมือนกัน"

"ดูบอล  เพราะเคยมีแฟนชอบดูหรือเปล่า  โคลด์"  ฮาร์เปอร์สงสัย  เห็นโคลอี้ยิ้มแปลกๆ  เธอก็ชักไม่อยากรู้เสียแล้ว  โคลอี้เคยคบหนุ่มๆ มาหลายคน  จะแปลกอะไรถ้าจะเคยดูบอลกับพวกเขา  แต่เธอจะต้องคิดมากไปทำไมกัน  คนที่ควรคิดน่าจะเป็นคาร์ลีย์มากกว่า

"ก็ไม่เคยคบกันจริงจังขนาดจะดูอะไรแบบนั้นด้วยกันหรอก  ไม่ต้องคิดมาก"  โคลอี้พูดราวกับอ่านใจกันออก  แต่สีหน้าฮาร์เปอร์มันชัดมากจริงๆ  ต่อให้ปฏิเสธเสียงแข็งขนาดไหนก็ตาม 

"แล้วดูเอง..."

"เปล่า  ดูกับแซม"

คราวนี้ฮาร์เปอร์กะพริบตาและเผลอจ้องตาสีน้ำเงินของอีกฝ่าย  เพราะมันส่องแสงแวววาวผิดปกติ  จริงๆ แล้วมันเป็นปกติ  มันเกิดขึ้นประจำเมื่อโคลอี้พูดถึงแซม

บางครั้งเธอก็อยากจะถามว่า  ทำไมถึงชอบแซมมากขนาดนี้  แต่ปากเธอก็หนักเกินไปที่จะพูด  และมันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอด้วย  ตัวเธอเองก็มีบางเรื่องที่ไม่อยากบอกใครเหมือนกัน  จะแปลกอะไร  ถ้าโคลอี้หรือคาร์ลีย์จะมีมันบ้าง  เกรซก็เช่นกัน

"โคลด์จะกลับบ้านพร้อมกัน  หรือจะไปที่อื่น"  ฮาร์เปอร์เปลี่ยนเรื่อง 

"มีงานที่ปารีสต่อน่ะ"  โคลอี้บอก  ยิ้มให้ฮาร์เปอร์เมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของเด็กสาว  "ยังไม่เบื่อหน้าฉันหรือไง  ถ้ากลับไปด้วยกัน  จะต้องนั่งอยู่กับฉันอีกแปดชั่วโมงหรือสิบเลยนะ"

"คิดว่าตัวเองน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยหรือไงล่ะ"  ฮาร์เปอร์ย้อน  แปลกใจที่ทำไมต้องหงุดหงิดขนาดนี้  เธอดุว่าตัวเองในใจและหมุนตัวจะเดินไปอีกทาง  "ฉันไปดูตรงนั้นก่อนนะ"

"เดือนหน้าฉันจะไปโซล  ไปด้วยกันสิ"

เสียงโคลอี้พูดฉุดให้ฮาร์เปอร์เหลียวกลับมาอีกครั้ง  มองคนอายุมากกว่าตาปริบๆ  ขณะที่นางแบบสาวยิ้มเจ้าเล่ห์  ตาเป็นประกาย

"แม่เธอเปิดช็อปที่โซล  จ้างคุณเคคนสวยของเธอมาเปิดงานให้น่ะ  ถ้าจะไปก็ใส่ตัวเองลงมาในรายชื่อทีมงานด้วยละกัน"

ฮาร์เปอร์รู้สึกทันทีว่าดวงตาของเธอเบิกกว้าง  และกรามอ้าค้างอยู่นานจนโคลอี้ต้องเอามือมาดันมันขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะคิก

"แหม  ขวัญใจลูกสาวทั้งที  แม่เธอจะไม่ยอมเปย์หรือไง"  โคลอี้พูด  แล้วเดินหนีไป  ทิ้งให้ฮาร์เปอร์ยืนตัวแข็งอยู่หน้าตู้โชว์ถ้วยรางวัลของอินเตอร์มิลาน  จนกระทั่งลีมาตามตัว  บอกว่าแม่เจย์คนดีให้เธอรีบๆ เดินไปได้แล้ว  ไม่อย่างนั้นแม่จะทิ้งเธอไว้ที่นี่คนเดียว

นี่แม่เหรอ... ทำไมช่างโหดร้ายขนาดนี้!

.................................................

"ไปดูบอลถึงสนาม  แต่ไม่มีอะไรกลับมาเลยเหรอคะ"  แดเนียลบ่นอยู่ในลำโพงขณะที่เจย์กำลังนั่งแปรงผมตัวเองอยู่ในกระจก  ไม่ได้มองจอโทรศัพท์มือถือที่มีเจ้าของเสียงพูดปาวๆ อยู่ในห้องนอนของเธอภายในบ้านของเราในนิวยอร์ก

"จะให้ซื้ออะไรล่ะ  ฉันจะไปรู้ได้ไง  ว่าเธอจะเอาอะไร"  เจย์บอก  ปรายตามองคนหน้าบูดในจอแล้วยิ้มขำ  "ฮาร์เปอร์ซื้อให้แล้ว  เลิกบ่นได้แล้วน่า  แก่นักหรือไง"

"แก่สิคะ  คุณ  ลูกสาวยี่สิบกว่าแล้วนะ  ไม่ใช่สองขวบ"  แดเนียลว่า  ทำเป็นชี้ๆ ตรงหางตาว่ามีริ้วรอยเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่แล้วมากแค่ไหน 

"อย่าพูดคำว่า 'แก่' กับฉันนะ  แดน"

"แหมคุณ  เดี๋ยวนี้เขามีนวัตกรรมใหม่เยอะแยะไปค่ะ  ฉีดไขมันให้หน้าเด็กยังงี้  ยกกระชับหน้า  ร้อยไหม  สารพัดที่จะทำ  คุณก็เลือกเอาสิคะ"

"ที่พูดมาทั้งหมดนั่น  จะโฆษณาโรงพยาบาลตัวเอง  ว่างั้นเถอะ" 

"เปล่าสักหน่อย  ฉันไม่เคยรู้เรื่องแบบนั้นของที่นั่นสักหน่อย"

"ไม่รู้ได้ไง  แดเนียล  เธอเป็นหุ้นส่วนใหญ่นะ  ฉันเห็นเธอไปประชุมกับพวกเขาออกจะบ่อย"  เจย์แย้ง  แต่แดเนียลยังคงส่ายหน้า

"ฉันไม่ชอบที่นั่น  คุณก็รู้นี่คะ  ฉันก็ไปตามหน้าที่  แค่นั้นเอง"

"ถ้าอย่างนั้น  ที่ฮาร์เปอร์บอกว่า  หลานสาวของเธออยากให้เธอกับฮาร์เปอร์ไปช่วยบริหารโรงพยาบาลจะหมายความว่ายังไง..."

"เราค่อยกลับมาคุยกันที่บ้านได้ไหมคะ  เจย์"  แดเนียลขอ  "ทำงานมาเหนื่อยๆ  พักผ่อนดีกว่านะ"

"วันนี้ฉันไปดูบอลมากับลูก  สนุกมากเลยละ"  เจย์พูด  นัยน์ตาเป็นประกายเหมือนเด็กๆ  แดเนียลทำหน้างอนๆ  เพราะรู้ว่าถูกเธอแกล้งอีกแล้ว  "อิจฉาล่ะสิ  บอกให้มาด้วยกันก็ไม่มาเอง"

"คุณสั่งงานฉันตั้งเยอะ  เจย์  คุณจะให้ฉันแบ่งร่างไปเหรอคะ"

"ทำได้ไหมล่ะ  ถ้าไม่ได้ก็อยู่ทำงานไปนั่นแหละ" 

"นึกแล้วเชียวว่าคุณต้องพูดแบบนี้"  แดเนียลพูด  เจย์ยิ้มถูกใจ  "แล้วลูกไปไหนคะ  เดินเที่ยวเหรอ"

"ไปเดินเล่นกับโคลอี้น่ะ  ฉันขี้เกียจเดิน  เลยปล่อยให้เขาไปกัน  เขาบอกจะกลับมากินมื้อเย็นด้วย  แต่บางทีฉันอาจจะออกไปหาเขาข้างนอก  นัดกินอะไรกันนอกโรงแรม"

"คุณชอบจับให้พวกเขามาอยู่ด้วยกันจังนะคะ"

"แล้วมันจะเป็นอะไรไปล่ะ  พวกเขาเข้ากันได้ดีออก"  เจย์พูดอย่างดื้อรั้น  "ถ้าเธอกลัวว่าพวกเขาจะทำอะไรไม่ดีกันละก็นะ  ฉันว่ามันป่วยการ  พวกเขาเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว  ถ้าคิดกันเองไม่ได้  ก็ไม่รู้จะว่ายังไง"

"มันก็ถูกของคุณ  แต่ว่า..."

"เธอจะกังวลทำไม  แดน  เธอก็รู้ว่าโคลอี้รักใคร"

แดเนียลเงียบไปทันที  ท่าทีจะโต้แย้งหายวับไปด้วย

"ส่วนลูกเรา  ก็ปล่อยให้เขารู้จักตัวเองไปเรื่อยๆ ก่อนเถอะ  มีอะไรอีกเยอะที่รอเขาอยู่ข้างนอกนั่น  เราอย่าไปเครียดแทนเขาเลยนะ  แดน"  เจย์บอกอย่างใจเย็น  มีเหตุผลราวกับเป็นคนละคนกับที่เถียงกับแดเนียลเมื่อครู่  คนที่อยู่นิวยอร์กจึงยิ้มออกมาได้

"แต่ตอนนี้ฉันจะวางสายแล้วนะ  มีอย่างอื่นต้องไปทำเหมือนกัน"

"ฉันก็มีนัดกับแซมค่ะ  แล้วเจอกันนะคะ  เจย์"

"เดี๋ยว  แดเนียล  จะไปเที่ยวไหนกัน  บอกฉันมา"  เจย์ทำเสียงเข้ม  คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาจ้องหน้าคนในจอเหมือนจะทะลุเข้าไปหากันได้

"ไม่ได้ไปไหนค่ะ  อยู่บ้านนี่แหละ  ฉันเหรอ  จะไปไหนได้"

"ก็เมื่อกี้เธอพูด --"

"นัดดูบอลค่ะ  ที่รัก  ดูในทีวีที่บ้านนี่แหละ  ไม่มีปัญญาไปถึงสนามเหมือนคุณหรอก  น่าสงสารไหม"

เจย์เบะปากให้คนในจออย่างหมั่นไส้  แต่อดยิ้มไม่ได้เมื่อแดเนียลทำหน้าตาตลกๆ ให้เธอดู  เราคุยกันอีกห้านาที  แดเนียลก็วางสาย  เธอจึงต่อสายหาคนอื่นบ้าง  เสียงสัญญาณรอสายดังเพียงสองครั้ง  เสียงขานรับก็ดังขึ้นมาในลำโพง

"หวัดดี  พี่สาว  มีอะไรให้รับใช้"

"ไม่มี  แค่โทรมาเฉยๆ"

"จะโทรมาเช็กว่าฉันอยู่บ้านหรือเปล่าล่ะสิ  หรือเช็กแดน  ถ้าเป็นคนหลังละก็  นั่งเล่นกับเจ้าธอร์อยู่หน้าบ้านฉันนี่แหละ  รอแซม --"

"อืม  งั้นแค่นี้นะ"

"เดี๋ยว  เจย์  จะวางแล้วจริงดิ  นี่ไม่คิดถึงน้องนุ่งบ้างหรือไง"

"ไม่  แค่นี้นะ  เปลืองค่าโทรศัพท์"  เจย์ว่า  แกล้งทำเหมือนตัดสายไปแล้ว  แต่ความจริงยังนั่งยิ้มฟังเสียงโวยวายของเทย์เลอร์อยู่

..................................................

"อร่อยเว่อร์"  ฮาร์เปอร์อุทานออกมาอย่างมีความสุขเมื่อได้ลิ้มรสไอศกรีมเจลาโต้แท้ๆ จากร้าน  Ciocolatitaliani (โชโกลาติตาลินี่)

"นี่กินดีๆ เลอะหมดแล้ว" โคลอี้ว่า  หัวเราะลำคอขณะมองฮาร์เปอร์เลียไอศกรีมช็อคโกแลตเข้มข้นกินเหมือนเด็กๆ  "อยู่เฉยๆ  ฉันเช็ดให้"

"โคลด์ก็เลอะเหมือนกันแหละ"  ฮาร์เปอร์ว่า  หัวเราะคิก  แต่โคลอี้ขมวดคิ้วให้เธอที่เอาไอศกรีมไปป้ายแก้มเจ้าตัว "อ๊ะ โทษทีๆ  เดี๋ยวเช็ดให้นะ  โคลด์นี่กินเลอะเป็นเด็กๆ เลย"

"จะเล่นแบบนี้ใช่ไหม  ฮาร์เปอร์"  โคลอี้ถามเสียงเข้ม  เตรียมจะยัดไอศกรีมใส่ปากให้ฮาร์เปอร์  แต่ก็เสียดายความอร่อยของมันที่เธอต่อคิวซื้อมาด้วยความยากลำบาก  ขาแข้งแข็งไปหมด 

"ถ้าไม่กินก็เอามานี่เลยดีกว่า"

"ไม่เอา  โคลด์  นี่กว่าฉันจะได้มามันยากนะ  เมื่อยขาไปหมดเลย"

"เหรอ  ก็ยืนอยู่ด้วยกันนะ  ได้ข่าว"

ฮาร์เปอร์ยิ้มขำๆ  มองโคลอี้ที่สงบศึกกับเธอแล้ว  กินไอศกรีมโคนรสดาร์กช็อกโกแลตอย่างเอร็ดอร่อย  สีหน้าผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัด  และดูเหมือนจะเด็กลงกว่าอายุจริงสักสิบปี

"ฉันสนุกทุกครั้งที่ไปกับเธอ"  โคลอี้พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม 

ฮาร์เปอร์ชำเลืองมองคนอายุมากกว่าที่นั่งเล็มไอศกรีมอยู่ข้างเธอบนม้านั่งไม้ริมถนนตัวเดียวกัน  ดวงตาสีน้ำเงินส่งยิ้มให้เธอกลับมา  มันสวยเหมือนเดิม  แต่ตอนนี้โคลอี้ดูสวยเหมือนเจ้าหญิงยุคกลางมากทีเดียว  เมื่อมีจตุรัสดูโอโม่เป็นฉากหลังให้           


.................

หลังจากหายไปนาน  เราก็ยังอยู่มิลานกันอยู่นะคะ  อิอิ   :61: :27: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

14 พฤษภาคม 2018 เวลา 09:46:20
อาจเพราะแม่เจได้แฟนเด็กรึเปล่านะ ถึงต้องทั้งดุทั้งใจดีอย่างนี้ ลูกผัวทั้งกลัวทั้งรักนาง
แสดงความคิดเห็น