web stats

ข่าว

 


Angels & Devils_S4 - บทที่ 5 I Am What I Am

โพสต์โดย: anhann วันที่: 19 มกราคม 2018 เวลา 01:29:48 อ่าน: 209



บทที่ 5 I Am What I Am






เฟทไม่อยากให้เธอออกไปไหน  เพราะท้องของเธอใหญ่มากขึ้นจนสะดุดตาคนทั่วไปรวมถึงปีศาจด้วย  ถึงอย่างนั้นด้วยหน้าที่ของเธอแล้ว  เธอก็ต้องออกมาเจอใครๆ บ้างอยู่ดี  โดยเฉพาะทีมผู้เก็บกวาดซึ่งตัวเธอเป็นหัวหน้าอยู่  เธอไม่แปลกใจหรอกว่า  ทำไมบอสใหญ่ของเธอจึงไม่มีปัญหากับการที่เธอท้องในระหว่างดำรงตำแหน่งนี้  จะมีใครกล้ามี  โดยเฉพาะเมื่อพวกเขายังต้องอาศัยการคุ้มครองดูแลจาก...ท่าน

เธอเพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้เองว่าคนที่ไปพาเธอมาจากสถานพินิจนั้นเป็นใครแน่ๆ  --  มิคาเอล  --  เขาใช้ร่างอื่นเข้าไปพบเธอและพาเธอออกมา  แต่ก็ด้วยคำแนะนำจากกาเบรียลหรือเฟทอีกที  สองคน (องค์) สนิทกันมากเหมือนฝาแฝดกัน  หากจริงๆ เป็นเพียงพี่น้อง  เฟทถูกพระองค์สร้างมาเป็นคนสุดท้ายในบรรดาเทวทูตชั้นสูงทั้งหมด  ไล่ๆ กันมากับเคซีย์หรือคิวปิด 

ที่จริงเธอก็ไม่แน่ใจเรื่องลำดับขั้นว่าใครเป็นพี่เป็นน้องในหมู่เทวดาพวกนี้หรอก  เธอรู้แค่เพียงเฟทเป็นลูกคนสุดท้องของแด๊ดดี้เท่านั้น 

นิสัยก็เลยเป็นลูกคนเล็กแบบนี้ไงล่ะ!

เธอไปตรวจครรภ์ตามนัดของคุณหมอ  แน่นอนว่าไปกับคุณสามีที่ตอนนี้เป็นพ่อหนุ่มรูปหล่ออีกแล้ว  เพราะไม่อยากให้คุณหมอกับพยาบาลงงไปกับเธอด้วย  เธอคงถูกจับส่งไปพบจิตแพทย์แทน  ถ้าไปบอกใครว่าเธอไปโดนเทวดาเสกเด็กเข้าท้องมา  ไม่ได้มีลูกด้วยวิธีปกติแบบชาวบ้านเขา  เฟทจึงรับผิดชอบให้ด้วยการมาทำตัวเป็นพ่อของลูก (จริงๆ ก็คงเป็นนั่นแหละมั้ง)  ใช่ว่าเธอไม่ชอบ  ยังไงเฟทก็เป็นเฟท  แต่บางทีเธอก็คิดถึงหน้าสวยคมหยิ่งๆ แบบนั้นมากกว่า

คุณหมอบอกว่าลูกของเธอแข็งแรงดี  ไม่มีปัญหาอะไร  แค่กำชับให้เธอดูแลตัวเองให้ดี  กินยาบำรุงตามหมอสั่ง  คุณหมอคำนวณวันคลอดมาด้วยแล้ว  จริงๆ แล้วเธอไม่จำเป็นต้องทำตามขั้นตอนแบบนี้ก็ได้  ถ้ายอมให้เฟทใช้อิทธิฤทธิ์เทวดา  เธอคงได้เห็นหน้าฟินน์เดี๋ยวนี้เลย  แต่นั่นคงไม่ทำให้เธอรู้สึกถึงการเป็นแม่ที่แท้จริงไปได้  มันง่ายเกินไป...

"กลับบ้านเลยนะคะ"

"ฉันอยากไปสถาบันก่อน"  เธอพูด  มองหน้าเฟทขณะเกาะแขนเขาให้ช่วยพยุงออกจากโรงพยาบาล  ที่จริงเธอเดินเองได้โดยไม่ต้องทำอะไรแบบนี้เลย  เดินได้เร็วด้วย  เธอก็แค่อยากให้เฟทเอาใจตามประสาคนท้อง

"นึกว่าจะชวนไปซื้อของเตรียมไว้ให้ลูกเสียอีก"

คำพูดนี้ทำให้เธอระลึกได้ว่า  ไม่มีทางที่เธอจะเป็นแม่แบบปกติได้  เธอควรจะสนใจเรื่องลูกมากกว่าเรื่องอื่นๆ สินะ

"ไม่เป็นไรค่ะ  ไปเถอะ  แต่เธอไม่มีปัญหาเรื่องคนมองนะ"  เฟทพูด  เป็นห่วงเป็นใยจนคนดื้ออย่างเบย์ลีส์จำต้องรู้สึกผิด

"เมื่อวานฉันไปเจอพวกเขามาแล้วละ"  เบย์ลีส์สารภาพ  ยิ้มเจื่อนให้กับสีหน้าไม่แปลกใจของสามี  เธอลูบแขนเฟทที่เกาะไว้ด้วยมืออีกข้าง  ชายหนุ่มก็หันมามองเธอขณะกำลังมองหารถที่จอดไว้ในลานจอด

"ขอโทษที่ทำตามใจตัวเองตลอด"

เฟทยิ้ม  ส่ายหน้าและก้มลงหอมศีรษะเธออย่างอ่อนโยน

"ยกให้ค่ะ  แค่รักษาตัวให้ดีก็พอ"

"ฉันรู้หรอกน่า  ว่าทำอะไรอยู่"  เธอพูดเสียงห้วน  "พวกเขาก็ถามนั่นแหละ  ก็เลยต้องบอกไปตามจริง  คงไม่เป็นไรนะ"

"ไม่เป็นไรค่ะ  ยินดีด้วยซ้ำ"  เฟทตอบ "แล้วหมอนั่นไม่ว่าอะไรหรือ"

เบย์ลีส์นิ่งไปเล็กน้อย  หวนนึกถึงหน้าซีดๆ และตกใจของแฟนเก่าก็นึกสงสารเขาขึ้นมา  อย่างน้อยลูคัสก็เป็นคนดี  และรักเธอ

"ก็...ตกใจแหละ  แต่เขาก็คงรู้อยู่แล้วละ"  เธอตอบ  ฝังหน้าลงกับอกเฟทที่โอบตัวเข้าไปกอดปลอบ  ไม่กลัวคนเดินผ่านไปผ่านมาจะมองเราด้วยสายตารำคาญหรือไม่ชอบใจ  แต่ถ้ามีใครกล้าว่าคนท้องก็คงใจร้ายน่าดู

"โกรธฉันหรือเปล่า  ที่ฉัน --"

"จริงๆ ก็โกรธนะ  แต่อย่างน้อยหมอนั่นก็ช่วยดูแลเธออย่างดี"

"...โดยมีเธอแอบช่วยเขา"  เบย์ลีส์พูด  เงยหน้ามองคนตัวสูงที่ยิ้มกลับมาอย่างไม่ยินดียินร้าย  "นึกว่าฉันไม่รู้หรือไง"

เฟทหัวเราะในลำคอ  ไม่ตอบโต้ไม่เถียงกลับ  ทำเพียงพยุงเธอเดินต่อไปยังรถสีดำของเขา  เธอชอบนั่งรถของเธอ  ชอบบัมเบิลบีของเธอ  แต่เพราะท้ายรถเต็มไปด้วยอาวุธ  เฟทจึงบอกว่าให้มันจอดอยู่บ้านก่อนเถอะ  ทำเหมือนกลัวว่าเธอจะไปท้ารบกับใครเขาอย่างนั้นละ

"ถ้าเธอไม่ชอบพวกเขา  รอข้างนอกก็ได้นะ  หรือไปดูเบลค  ฉันคงไม่อยู่ถึงชั่วโมงหรอก"  เบย์ลีส์พูดเมื่อดอดจ์  ชาเลนเจอร์เลี้ยวเข้าจอดหน้าตึกสถาบัน  เธอปลดเข็มขัดนิรภัยออกและเตรียมจะออกจากรถ  แต่คนที่นั่งนิ่งอยู่และเงียบมาแทบจะตลอดทางกลับหันมาหาเธอ  ขังตัวเธอไว้ด้วยสองแขนยาว  หากเธอคิดว่าดวงตาคมคู่นี้ต่างหากที่ตรึงเธอไว้ไม่ให้ผลักไสเขา

"จูบหน่อยสิ  เบย์"  เฟทพูด  ไม่ใช่คำสั่งแต่เป็นคำขอร้อง

"ทำไม  เป็นอะไรไป..."

"เธอนั่นแหละ  เป็นอะไรไป"

เบย์ลีส์เม้มปากกับคำถามนี้ที่ตรงกับใจเธอ  หลายวันมานี้เธอถามตัวเองมาตลอด  ว่าทำไมจะต้องเย็นชากับเฟทด้วย  และเธอก็โทษฮอร์โมนของคนท้อง  มันทำให้อารมณ์เธอขึ้นๆ ลงๆ อยู่ตลอดเวลา  เป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว  เพียงแต่ช่วงนี้เป็นมากขึ้น  เธออึดอัดเวลาเฟทเข้าใกล้  ยังดีที่ยังยอมให้กอดได้  หรือเพราะเธอมีเซ็กซ์ลำบาก  ท้องเธอใหญ่แล้ว

"เปล่านี่  ไม่ได้เป็นอะไร"

"เธอทำเหมือนกลัวว่าฉันจะปล้ำ"  เฟทพูด  หลุบตาลงมองมือเล็กๆ ที่ยันอกตัวเองอยู่  ถ้าเบย์ลีส์เล็บยาวกว่านี้หรือเสื้อยืดเขาบางก็คงได้เลือดกันบ้างแล้วละ  "รำคาญฉันแล้วหรือ  อย่าเพิ่งรีบสิ  ฉันเหลือเวลาอยู่ที่นี่อีกไม่กี่วันแล้ว --"

"ฉันรำคาญตัวเอง  เฟท!"  เบย์ลีส์โพล่งอย่างเหลืออด  มือขยำเสื้อชายหนุ่มตรงหน้า  อยากจะบอกเขาว่าเธอรักเขามากแค่ไหน  และหงุดหงิดตัวเองมากแค่ไหนที่เอาอกเอาใจเขาไม่ได้เลย  "ฉันอยากจูบเธอ  กอดเธอ  ทำให้เธอมีความสุข  แต่ตอนนี้ฉัน... ฉันไม่เหมือนเดิมแล้ว  เข้าใจไหม"

เฟทมองหน้าภรรยาตาปริบๆ  ไม่เห็นด้วยกับเบย์ลีส์เลยสักนิดเดียว

"เดี๋ยวเฟท!"

ไม่ทันแล้ว...รถทั้งคันถูกพรางด้วยมนตราเทวดา  ไม่มีใครเห็นมันอีกต่อไป  เบย์ลีส์พบตัวเองถูกเคลื่อนย้ายมาอยู่ในเบาะหลังด้วยความเร็วที่เกินจะคำนวณได้  เธอนั่งแผ่นหลังชิดประตูด้านหนึ่ง  สองขาถูกจับแยกออกจากกันเหมือนตอนหมอตรวจเธอในโรงพยาบาลเมื่อกี้  เพียงแต่หมอคนนี้กำลังทำให้เธอครางจนเสียงแหบแห้ง  กางเกงผ้าผูกของเธอร่นลงไปจนถึงข้อเท้า  กายสาวกำลังถูกรุกล้ำอย่างช่ำชองจากคนที่จับจองพื้นที่ตรงกลางหว่างขาของเธอ  เรียวนิ้วยาวหยอกเย้าเอาใจเธอจนพูดไม่ออก  ได้แต่ร้องขอให้เขาทำต่อไปอีกเรื่อยๆ  สาบเสื้อเชิ้ตบนตัวเธอเบะออกจากกัน  กระดุมถูกปลดตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ  หากสัดส่วนสวยงามท่อนบนของเธอก็กำลังได้รับความสนใจไม่น้อยหน้าท่อนล่าง  สะโพกเธอส่ายระริก  ลืมสิ้นแล้วว่าตัวเองกำลังท้องโตแค่ไหน

"เฟท...  เฟท --"  เธอครางเสียงอ่อน  สะดุ้งเฮือกกับการถูกล่วงล้ำ  นิ้วยาวสอดลึกเข้าไปในช่องทางเดียวกันกับที่หมอสำรวจตรวจดูเธอเมื่อกี้  แต่เขาคงไม่ได้กำลังเช็กว่าลูกเราจะพร้อมออกมาดูโลกวันไหนเหมือนหมอแน่ๆ  และเธอคงไม่ได้ข่วนต้นคอหมอแบบนี้ด้วย 

"อึดอัดไหมคะ  เบย์"

เสียงคำถามอ่อนโยนเหมือนการกระทำที่ค่อยๆ ปรนเปรอให้เธอได้รู้สึกถึงความสุข  แม้ร่างกายจะเป็นแบบนี้  เบย์ลีส์ส่ายหน้าพร้อมกับเอื้อมไปปลดกระดุมกางเกงคนด้านบน  ใช้มือเธอช่วยกระตุ้นเขาอีกแรง  และเธอก็มานั่งอยู่บนตักเขา  คล้องสองขาไว้กับเอว  ถูกจับโยกไปมา  หน้าอกระบมด้วยมือขยัน  ปากเขาโลมเล้าเธอจนไม่รู้สึกว่าเรื่องนี้มันยากอีกต่อไปแล้ว

"บ้าชะมัดเลย  เฟท"  เบย์ลีส์บ่นพึมพำ  หน้าแนบอยู่กับอกคนที่เธอนอนทับในเบาะหลังมัสเซิลคาร์  เสื้อผ้าของเธอยับยู่ยี่ไปหมด  เครื่องสำอางบนหน้าเธอก็เละเทะ  แบบนี้จะออกไปเจอใครได้ยังไง

"กลับบ้านเลยไหมคะ"  เฟทเย้า  มือเล็กจึงตีแก้มเข้าให้  และตนก็ต้องเป็นฝ่ายช่วยประคองสาวท้องขึ้นนั่ง  จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง 

"เช็ดหน้าให้ฉันด้วย  เลอะเทอะหมดละ"

"จะสวยไปให้ใครดูคะ"

"เรื่องของฉัน"  เบย์ลีส์สวนกลับ  หยิกแก้มสามีจนแดง  "ท้องโตขนาดนี้ไม่ต้องมาหึงให้เหนื่อยหรอกน่า"

"ไม่ได้หรอกค่ะ  ภรรยาทั้งคน"  เฟทตอบกึ่งหัวเราะ  โอบตัวเบย์ลีส์เข้ามาแนบอกและกดจมูกลงบนศีรษะ  "โอเค  คราวนี้ก็ลงไปได้แล้ว"

เบย์ลีส์มองหน้าเฟทก่อนเบนสายตาไปมองกระจกข้างของรถคันโก้  หน้าตาเธอกลับมาเป็นเหมือนตอนก่อนออกจากบ้านแล้ว  เฟทเล่นกลอีกละ  แต่ก็ไม่เสียเวลาดี  เธอขี้เกียจแต่งหน้าจะตายไป

"จะกลับเมื่อไหร่ก็ส่งข้อความไปบอกนะคะ  แล้วจะมารับ"  เฟทพูดขณะเบย์ลีส์โบกมือให้อยู่ข้างรถ  หญิงสาวพยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่สดใสขึ้น

เธอเดินเข้าตัวอาคารหลังจากเฟทขับรถออกสู่ถนนไปแล้ว  รู้สึกอยู่บ้างว่า  มีสายตาหลายคู่มองเธออย่างสงสัยเช่นเดียวกับเมื่อวานระหว่างที่เธอเดินจะเข้าไปหาห้องพักครูฝึก  แต่ก็ใช่ว่าเธอจะต้องแคร์อะไรพวกเขา  ช่วงหลังๆ มานี่เธอมีคนให้แคร์เพิ่มขึ้นมาอีกเพียบไปหมด

เบลคออกมาจากบ้านพร้อมออเดรย์ที่ยืมรถเคซีย์มารับน้องสาว  ป่านนี้เด็กสาวก็คงจะอยู่ในชั้นเรียน  หรืออาจอยู่ในมหาวิทยาลัย  เธอไม่รู้ตารางเรียนของเบลค  ไม่คิดว่าจำเป็นจะต้องรู้  เพราะถ้าเด็กคนนั้นอยากจะมาเจอเธอ  ก็จะส่งข้อความมาถามแบบนี้ไง

เบย์ลีส์ขมวดคิ้วขณะอ่านข้อความในโทรศัพท์มือถือซึ่งขัดจังหวะให้เธอต้องยืนอยู่ในทางเดินนี้ก่อนทั้งที่ห้องพักครูฝึกอยู่ตรงหน้าไม่เกินเมตร  และเจ้าเด็กผมทองจอมยุ่งก็กระหืดกระหอบวิ่งมาหาเธอ  มายืนหอบหายใจเฮือกๆ อยู่ตรงหน้าเธอ  เหงื่อจะเข้าตาอยู่แล้ว

"รีบทำไม  ก็บอกแล้วว่ารอได้"  เธอพูด  มองเบลคสูดลมหายใจเข้าลึกๆ  พยายามตั้งสติ  พลางชำเลืองมองเข้าไปในห้องผ่านช่องกระจกประตู

"ฉันได้ยินออด์กับเคซีย์คุยกัน"  เบลคพูด  ยังหอบอยู่เบาๆ  เบย์ลีส์ตั้งใจฟัง  เธอจึงพูดต่อหลังจากมองซ้ายมองขวาแล้วอย่างดี  "พวกเขาเจอศพชาวบ้านที่... ที่มีลักษณะเหมือนถูกซัคคิวบัสฆ่า"

เบย์ลีส์เลิกคิ้ว  เรื่องนี้สะกิดใจเธอได้ชะงัด  เธอเคยตามล่าปีศาจชนิดนี้มายาวนานมาก  จนกระทั่งมาเจอเมเดอลิน  เธอตามเมเดอลินมาจากชิคาโก  แต่เวลาหลายปีนั้นก็มาสิ้นสุดลงที่ล็อกวูดแห่งนี้พร้อมกับความอดสูในฐานะผู้เก็บกวาดของเธอ  คงไม่มีใครล่วงรู้ความรู้สึกของเธอนอกจากเฟท  เธอไม่สามารถจับเมเดอลินได้  มิหนำซ้ำยังถูกจับไปเป็นตัวประกัน  เป็นทาสในเรือนรักของราชินีปีศาจอยู่นาน  อับอายเกินกว่าจะร้องขอความช่วยเหลือจากใคร  จนทุกคนคิดว่าเธอเต็มใจกับสถานะแบบนั้น  และทุกคนจึงปล่อยให้เธออยู่แบบนั้นไป  เธอถูกทำร้ายอยู่ใต้จมูกของเทวทูตที่ดูแลเธอมาตลอด  เพราะเขาคิดว่าเธอชอบแบบนั้น  --  น่าสมเพชเหลือเกินนะ

"แล้วเธอมาบอกฉันทำไม"  เธอย้อนถาม  เบลคทำตาปริบๆ คงไม่คิดว่าเธอจะพูดแบบนี้  "พวกเขาในนั้นคงรู้แล้วแหละ  เดี๋ยวก็คงไปจัดการกันเอง"

"แล้วคุณคิดว่าเมเดอลินเป็นคนทำหรือเปล่า"

เบย์ลีส์ชะงักเท้า  และพบว่าตัวเองกำลังจะเดินไปอีกทาง  ทางที่จะออกจากสถาบันทั้งที่เธอเพิ่งจะเดินเข้ามา  เบลคเข้ามายืนขวางทางเธอ  มองเธอด้วยสายตาราวกับผิดหวังอะไรมากมาย

"เธอจะให้ฉันทำอะไร  ฉันไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะทำอะไรได้"

"คุณสั่งพวกเขาได้"  เบลคพูด  สีหน้าขอความเห็นใจ  "คุณก็รู้ดีว่า  พวกเขาทำงานกันยังไง  พวกเขาฆ่าทุกคนที่เข้าข่าย"

"และเธอคิดว่า  อย่างเมเดอลินใครจะไปทำอะไรได้ล่ะ"

เด็กสาวนิ่งสนิท  ขมวดคิ้วครุ่นคิด

"ห่วงตัวเองดีกว่าเบลค  ไม่มีใครทำอะไรเพื่อนเธอได้หรอก  เชื่อฉัน"

"มันโหดร้ายมากเลยใช่ไหมคะ"

เบย์ลีส์ก้าวขาผิดไปหนึ่งจังหวะเพราะคำพูดโดนใจ  ราวกับเบลคสามารถเข้ามาในใจของเธอ  เปลี่ยนให้มันเป็นหนังสือและอ่านทีละหน้า

"ทำไมคุณถึงไม่พูดล่ะ  ถ้ามันเจ็บมากขนาดนั้น"  เบลคถาม  เดินตามคนที่พยายามเดินหนีเธอ  "เบย์ลีส์..."

"มันผ่านไปแล้ว  และฉันจะขอบใจเธอมาก  ถ้าจะไม่พูดถึงมันอีก"

"คุณหนีปัญหา"

สีหน้าของเบย์ลีส์ตอนนี้คล้ายถูกมีดแทงเข้าที่อก  เบลคตกใจ  แต่เธอหยุดพูดไม่ได้  เธอทนมองมานานพอแล้ว

"คุณกลัวว่าจะเจอเรื่องแบบนั้นอีกใช่ไหมคะ  คุณกลัวว่าจะถูกจับไปทำอะไรแบบนั้นอีกหรือไง  ตอนนี้คุณยังต้องกลัวอะไร  คุณมีเขาอยู่ทั้งคน  เขาไม่มีทางให้คุณเป็นอะไรไปอยู่แล้ว"

"เธอไม่มีวันเข้าใจฉันหรอก  เบลค"  เบย์ลีส์สะบัดเสียง  "ไม่มีใครเข้าใจฉัน  ฉันไม่ได้กลัวถูกทำอะไรแบบนั้น  ฉันไม่ได้กลัวการมีเซ็กซ์  ฉันไม่แคร์ว่าใครจะคิดยังไง  จะว่าฉันแพศยาก็ตามใจเธอ  ฉันไม่สนใจหรอก"

"ถ้างั้นคุณกลัวอะไรล่ะ"  เบลคคาดคั้น  ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ  "ถ้าคุณไม่ยอมพูดอะไรเลย  แล้วใครที่ไหนจะเข้าใจคุณได้  ใครจะช่วยคุณได้ล่ะคะ"

"เพราะฉันทำงานไม่สำเร็จ"  เบย์ลีส์พูดในที่สุด  ยิ้มเยาะเมื่อเห็นท่าทีตกใจของอีกฝ่าย  "ฉันตามล่าปีศาจตนนั้นมานานมาก  และผลสุดท้าย  ฉันก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า  เธอจะให้ฉันมีความสุขดีอย่างนั้นเหรอ"

"บ้าศักดิ์ศรีชะมัดเลย"  เบลคพูดเหมือนบ่น  จับแขนเบย์ลีส์เอาไว้

"ทำไมเธอถึงชอบยุ่งกับฉันจัง  เบลค  จำไม่ได้เหรอว่าฉันเป็นใคร"

"เพราะฉันชอบคนแบบคุณ"

เบย์ลีส์จ้องหน้าเบลค  แปลกใจ  เด็กสาวหน้าแดง  โบกมือไปมา

"ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ  ฉันหมายถึง...ฉันชอบนิสัยคุณ"

"ฉันรู้"

เบลคลอบถอนหายใจโล่งอก  อาจเพราะสีหน้าของเบย์ลีส์ดีขึ้นด้วย  พวกเธอเดินไปด้วยกัน  ไม่ใส่ใจสายตาของเด็กนักเรียนคนอื่นที่มองตามมาด้วยความสงสัย

"คุณจะไม่บอกเฟทหรือว่าคุณจะไปไหน"

"เขาไม่ใช่ผู้ปกครองฉัน"  เบย์ลีส์ตอบอย่างดื้อดึง  "ต่อให้เขาเป็นสามีฉัน  เป็นพ่อของลูกฉัน  ฉันก็ยังเป็นเจ้าของตัวฉันอยู่  เข้าใจไว้ด้วย"

"คุณนี่สุดยอดจริงๆ"  เบลคพูด  แววตาแสดงความชื่นชม  "แล้วสรุปว่าคุณจะไปไหนคะ  แล้วเราจะไปกันยังไง  เราไม่มีรถนะ"

"เธอนี่ช่างถามจริงๆ  แต่ก็พอกับพี่เธอนั่นแหละ"  เบย์ลีส์พูด  แต่ยิ้มของเธอก็ทำให้เบลคไม่รู้สึกว่าถูกตำหนิ  "ฉันมีกุญแจรถของสถาบันอยู่  แค่ฉันไม่ชอบขับมัน  เพราะมันไม่ทันใจ  มันเป็นรถแม่บ้านมากๆ"

เบลคมองรถแม่บ้านที่เบย์ลีส์พูดถึงอย่างตะลึงขณะยืนอยู่ในโรงรถด้วยกัน  มันคือ Audi TT RS 2013  สีขาว  --  มันรถแม่บ้านตรงไหนเนี่ย!

"อยากจะลองขับดูไหม"  เบย์ลีส์เอ่ย  ชูกุญแจรถขึ้นให้เบลคดู 

"โอ้  คุณคะ  แค่บัมเบิลบีของคุณเมื่อวาน  ฉันก็หัวใจจะวายแล้ว"

"บัมเบิลบีของฉันมันมัสเซิลคาร์"

เบลคสั่นศีรษะ  ไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น  "คุณขับเถอะค่ะ"

เบย์ลีส์อมยิ้ม  เปิดประตูก้าวขึ้นรถ  เบลครีบกระโดดตามขึ้นมา

"อย่าซิ่งมากนักนะคะ  คุณมีฟินน์อยู่ในท้องนะ"

"มีกฎข้อไหนห้ามไม่ให้คนท้องขับรถเร็วด้วยหรือ"

"ไม่มีค่ะ  แต่ว่า --"  เสียงของเบลคขาดหายทันทีที่เจ้าออดี้ถูกกระชากออกจากจุดจอดไป  เธอเกาะสายเข็มขัดนิรภัยแน่น  ดวงตาเบิกโต

"โธ่เบลค  ฉันขับรถเป็นหรอกนะ"

"ฉันรู้  ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ  ขับไปเถอะ"

"เธอนี่จริงๆ เลยเชียว"  เบย์ลีส์บ่น  หากอมยิ้มไปตลอดทางที่เป็นฝ่ายถือพวงมาลัย

......................................................

เมเดอลินก้มศีรษะลงต่ำขณะเดินเล่นอยู่ในตลาดนัดเกษตรกร  เธอรู้สึกมาได้ครู่ใหญ่แล้วว่ามีคนเดินตาม  แม้จะไม่เห็นตัว  สัญชาตญาณบอกเธอแบบนั้น  จากประสบการณ์ที่เคยถูกตามล่ามาตลอดชีวิต

ต้องมีอะไรอีกแน่ๆ  เธอรู้ว่ามันต้องมี  คิดไว้ล่วงหน้าแล้วด้วยว่าจะต้องโดนแบบนี้  ถ้าแมทธิวยังไม่ถูกจับ...

เมเดอลินสะดุ้งเฮือก  เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเสื้อแจ็กเกตเป็นต้นเหตุ  เธอรีบกดรับมันทันที  และหางตาเธอก็เห็นพวกมัน  ผู้คนท่าทางไม่ปกติในชุดปกติเหมือนชาวบ้านชาวเมืองทั่วไปที่มาเดินจับจ่ายซื้อของหรือเดินเที่ยวเตร่  พวกมันคงไม่รู้ว่าเธอดูออก  ว่านักล่าแตกต่างจากชาวบ้าน

"ออด์  ฉันโดนตาม"  เธอพูดสั้นๆ  ทางนั้นทำสุ้มเสียงตกใจกลับมา  แต่ไม่ได้ดูแปลกใจเท่าไหร่  "เธอรู้อะไรใช่ไหม"

"มีคนตายในเมือง  ลักษณะเหมือนที่เธอเคยทำ"

เมเดอลินสบถหัวเสีย  ขบฟันกรอด  นัยน์ตาสีฟ้ากลอกมองซ้ายขวาอย่างระมัดระวัง  "ฉันไม่ได้ทำ  ไม่ว่าเธอจะเชื่อหรือไม่"

"ฉันเชื่อ  เมด"  ออเดรย์ตอบ  น้ำเสียงราวกับจะมาช่วยตบไหล่ปลอบใจเธอถึงที่นี่  "ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน  ฉันกับเคซีย์จะไปรับ"

"ตลาด  ฉันอยู่ในตลาด  และพวกมันตามฉันอยู่"

"ตลาดไหน  ใช่ตลาดนัดเกษตรกรหรือเปล่า"

"ใช่  นั่นแหละ  แต่ฉันคิดว่าเธอไม่ต้องมาหรอก  ออด์  ฉันว่าฉันคงเอาตัวรอดได้"

"ไม่  อยู่ที่นั่น  เมด  แล้วฉันจะไปรับ"

"ด...เดี๋ยว!"  เมเดอลินจะร้องเรียกออเดรย์แต่ไม่ทันแล้ว  ทางนั้นตัดสายเธอไปเรียบร้อย  ครั้นจะโทรกลับเข้าไปใหม่ก็คงไม่มีประโยชน์อยู่ดี  อีกอย่าง  เธอควรจะมีสมาธิกับการหลบหนีมากกว่า  อย่างน้อยก็ถ่วงเวลาจนกว่าออเดรย์กับเคซีย์จะมา

แต่ดูเหมือนเธอจะเดินหลงมาสู่ทางตันแล้วสิ  เธอเซ่อซ่าเองหรือมันถึงคราวซวยของเธอกันแน่

ยังมีทางอื่นอีก...เมเดอลินมองถังขยะใบใหญ่เบื้องหน้าอย่างชั่งใจ  เธอปีนมันขึ้นไปเพื่อข้ามไปอีกฟากของกำแพงได้  แต่ถ้าพวกมันดักรอเธออยู่ตรงนั้นอีกก็จบเห่เหมือนกัน  ถึงอย่างนั้นเธอก็ต้องลองเสี่ยงดู

เธอหันมองดูพวกมันอีกครั้ง  คราวนี้เห็นชัดเลยว่าเธอถูกใบสั่งล่า  แปลกที่เธอไม่คิดว่าครั้งนี้เบย์ลีส์จะมีเอี่ยวด้วย  แม้ว่าสาวคนนั้นจะเป็นหัวหน้าใหญ่ทีมผู้เก็บกวาดของเมืองนี้  เบย์ลีส์จะต้องรู้ว่าเธอไม่ได้ทำ  ถึงเราจะไม่ได้ญาติดีอะไรนัก  และลิลิธก็เคยทำอะไรไว้กับหล่อนตั้งมากมาย

เมเดอลินกลั้นใจทนกลิ่นเหม็นๆ ของขยะปีนป่ายขึ้นไปจนถึงยอด  เธอใช้เวลามองสำรวจอีกฟากของกำแพงแค่เสี้ยวนาทีแล้วตัดสินใจกระโดดลงไปทันที  เธออาจจะข้อเท้าเคล็ดหรืออะไรก็ช่าง  แต่จะต้องไม่โดนจับ

เสียงเอะอะโวยวายจากฟากที่เธอเพิ่งจากมา  ทำให้รู้ว่าเธออาจหนีพวกมันได้พ้น  หากเธอจะหยุดตอนนี้ไม่ได้  ถึงการแลนดิ้งลงมาจากกำแพงสูงนั้นจะเป็นปฏิปักษ์ต่อขาและข้อเท้าของเธอไม่น้อย  เธอก็จะต้องกะเผลกไปจากตรงนี้ก่อน  ต้องขอบคุณใครไหม  ที่ตรงที่แห่งนี้เป็นสวนสนุกหรือสนามเด็กเล่นร้าง  มีสัญลักษณ์ตัวตลกน่ากลัวฉีกยิ้มให้เธออยู่ด้วย

"นี่มันวันซวยของฉันหรือไงนะ"  เมเดอลินสบถอีกชุดใหญ่  จำไม่ได้เลยว่าเธอเคยสบถหนักแบบนี้มาก่อนหรือเปล่า  แต่ตอนนี้คงไม่มีใครมาให้คะแนนมารยาทงามเธอหรอก  อย่าไปนึกถึงรางวัลที่ได้มาตอนเป็นนักเรียน  มันผ่านมานานโขแล้ว

ปีศาจสาวกะเผลกห่างจากกำแพงออกมา  เธอต้องหาที่ซ่อนตัวก่อนที่พวกนั้นจะมาถึง  จากนั้นก็ค่อยกำจัดมันทีละคน  เธอไม่ได้อยากจะฆ่าใคร  แต่เพื่อความอยู่รอดก็ต้องเลือกตัวเองไว้ก่อน  เธอเจออาคารร้าง  มันคงเคยเป็นสถานที่โชว์อะไรสักอย่าง  เธอตัดสินใจเดินเข้าไป  ไม่มีเวลาคิดนานนัก  เพราะเสียงเอะอะนั้นยิ่งเข้าใกล้มาทุกที  จริงอยู่ว่ามาแอบตรงนี้จะให้ออเดรย์กับเคซีย์หาตัวเธอได้ยาก  แต่สำหรับตอนนี้มันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด  เธอพยายามอยู่เงียบๆ  แม้แต่เสียงลมหายใจของตัวเองก็ยังไม่อยากให้มี  หากนั่นอาจหมายความว่าเธอได้ตายไปแล้ว 

ไม่สิ  เธอยังไม่อยากตาย  เธอยังอยากจะทำอะไรอีกเยอะแยะ!

"ทำไมไม่เรียกแม่มาช่วยล่ะ  เมด  แม่ลูกรัก"

เมเดอลินชะงัก  หันขวับไปมองต้นเสียง  ไม่ผิดเลยที่เธอระแวงมาตั้งแต่ตอนจะเดินเข้ามาแล้ว  และตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าสัญชาตญาณของเธอมันแม่นแค่ไหน

"แมทธิว"

"โอ้  ดีใจจัง  เธอจำฉันได้ด้วย"  เขาพูด  ฉีกยิ้มรื่นเริงจนเห็นฟันขาว  เขาหล่อเหลาแต่น่าขยะแขยงเป็นที่สุดสำหรับเธอ  "อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ  ฉันมาช่วยเธอนะ  หรืออยากจะโดนพวกนั้นจับ  แม่น้องสาว"

"ไปตายซะ  แมท!"  เธอตวาด  ลากขาหนีพี่ชายฝาแฝด  แต่เขาซึ่งแข็งแรงกว่าและขายาวกว่าก็เดินไปดักหน้าเธอได้ง่ายดาย

"หลบไป!"

"เธอทำฉันแสบนักนะ  เมด  คราวนี้เธอต้องชดใช้"

"นายทำตัวเองต่างหาก"

"ไม่จริง!  เพราะเธอ  เธอคนเดียว  เธอได้ทุกอย่างไปหมดคนเดียว  ถ้าไม่มีเธอสักคน  ฉันก็คง --"

"ไม่ต่างจากนี้หรอก" 

สองฝาแฝดอึ้งกับเสียงของบุคคลที่สาม  เมเดอลินใจชื้นขึ้นเมื่อเห็นหน้าตาคุ้นเคยนี้  ขณะที่แมทธิวสบถออกมาอย่างแค้นเคือง

"แส่ไม่เข้าเรื่องอีกแล้วนะ  กาเบรียล"

เจ้าของชื่อที่ว่ากระตุกยิ้มมุมปากราวกับนั่นเป็นคำเอ่ยชมที่ถูกใจ  ร่างสูงเพรียวก้าวเดินเข้ามาใกล้สองพี่น้องด้วยท่าทางดุจเดินบนแคทวอค  สร้างรอยชิงชังในดวงตาสีฟ้าของชายหนุ่มให้เพิ่มมากขึ้น

"ปล่อยเมดซะ  แล้วฉันจะไว้ชีวิตนายอีกครั้ง"

"ทำไมฉันจะต้องเชื่อฟังแกด้วย"

"เพราะแกไม่มีลิลิธคุ้มกะลาหัวอีกต่อไปแล้วไงล่ะ"  เฟทตอบง่ายๆ  โบกมือหนึ่งครั้ง  ร่างของแมทธิวที่กำลังจะพุ่งเข้าใส่เธอก็กระเด็นไปอีกทางชนโต๊ะเก้าอี้ไม้เก่าๆ ล้มระเนระนาด  เขามองเธอตาวาวขณะยันตัวลุกขึ้น

"แกไม่ได้มีฤทธิ์คนเดียวหรอกนะ"  เขาว่า และมองหาใครบางคน

"หาฉันเหรอ"  เสียงนี้ไม่ได้มีแค่เขาตกใจ  เฟทเองก็ด้วย  หัวใจเธอหล่นวูบไปทันที  หากที่สุดก็ยิ้มออกมาได้อย่างโล่งใจ  เพราะแทนที่จะเป็นฝ่ายถูกจับเป็นตัวประกัน  เบย์ลีส์กลับจ่อปืนไว้กับสีข้างของชายร่างสูงซึ่งคุณเธอดันตัวออกมา  ตามมาด้วยเบลคที่ถือมีดสั้นจี้คอหอยของชายอีกคน

"มีพรรคพวกกระจอกแบบนี้  น่าจะคิดให้ดีหน่อยนะ  หลานชาย"

"ฉันไม่เคยนับถือแกเป็นน้าหรืออาอะไรทั้งนั้น"  แมทธิวตวาดเฟทที่ยักไหล่กลับมาให้อย่างกวนๆ  ราวกับจงใจยั่วโมโห 

"เลิกเล่นเถอะน่า  เลือกมาว่าจะไปกับพวกฉัน  หรือจะให้พวกนั้นจับตาย"  เฟทบอก  ทำท่าเงี่ยหูฟัง  และทุกคนในห้องโถงนี้ก็ได้ยินเสียงจากภายนอกที่บอกว่ามีคนมากมายกำลังตรงมาทางนี้ 

"จะบอกอะไรให้ไหมว่า  ซัคคิวบัสกับอินคิวบัสน่ะ  เป็นอาหารอันโอชะของผู้เก็บกวาดพวกนั้นเลยแหละ  ไม่อย่างนั้นไม่แห่กันมาแบบนี้หรอก"

"กะ  แก..."

"จุๆ  มานี่มาเจ้าหนู  มาหาปะป๊า"

"ฉันจะมาฆ่าแกให้ได้สักวัน  กาเบรียล!"  เสียงแมทธิวฟังดูเหมือนห่างออกไปไกลมาก  เพราะเจ้าตัวเขาหนีหายไปแล้วด้วยวิธีใดไม่ทราบ  แต่สองลูกสมุนของเขาทรุดเฮือกลงกับพื้นอย่างคนชะตาขาด  แม้ว่าเบย์ลีส์กับเบลคจะไม่ได้ทำอะไรพวกเขาเลยสักนิด  พวกเธอสบตาเฟทและเกือบยิ้ม  หากเมเดอลินไม่ทิ้งตัวลงและเฟทพุ่งเข้ามารับตัวไว้ได้ทันก่อนจะกองลงพื้น

"เมด... เฮ้  เมเดอลิน"  เฟทพยายามเรียกหลานสาว  และสะกิดใจกับกลิ่นคาวเลือด  มันติดอยู่ที่มือเธอ  และเสื้อด้านหลังของเมเดอลินก็เปื้อนไปหมด  "ระยำเอ๊ย  ไอ้เวรนั่นมันแทงเมด!"

"งั้นก็ช่วยเธอสิ"  เบลคร้อง  พุ่งเข้ามาช่วยประคองร่างไร้สติของเพื่อนสาวด้วยคน  เธอมองหน้าเฟทอย่างร้อนรน  "ช่วยสิคะ  ทำไม --"

"ซัคคิวบัสกินไอวิญญาณรักษาตัวได้  ใจเย็นสิ"  เฟทพูด  แต่กลับลังเลใจที่จะปลุกให้เมเดอลินลุกขึ้นมากินไอชีวิตของตน

"ก็ทำสิคะ"  เบลคเร่ง  มองเฟทแล้วเหลียวไปมองเบย์ลีส์ซึ่งเฟทมองไปหาคล้ายจะขออนุญาต  "งั้นมานี่ค่ะ  ฉันทำเอง"

"เดี๋ยว  เบลค!"  เฟทร้องห้าม  แต่ช้าเกินกว่าเด็กสาวใจร้อน  ตอนนี้เธอก็ทำได้เพียงแต่มองเบลคป้อนไอชีวิตรักษาชีวิตให้เมเดอลินซึ่งซัคคิวบัสควบคุมร่างกายแทนวิญญาณบริสุทธิ์ของหล่อนไปแล้ว 

"หยุด!  พอได้แล้ว!" 

เบลคถูกกระชากออกมาจากมือเหนียวหนึบของปีศาจสาวที่ยึดเธอไว้ราวกับจะกลืนกินไปทั้งตัว  เธอหอบตัวโยนอยู่ในอ้อมแขนของเฟท  มองเมเดอลินที่นั่งตาวาวเรืองน่ากลัวเหมือนไม่ใช่ตัวหล่อน  เหมือนถูกผีสิง

"เมด  กลับมา  กลับมา  เดี๋ยวนี้!  เมเดอลิน!"  เฟทเรียก  ดีดนิ้วให้สัญญาณคล้ายปลุกคนถูกสะกดจิต  เมเดอลินสะดุ้งเฮือก  ตาโตแต่ไม่ได้วาวสว่างแบบเมื่อกี้อีกต่อไปแล้ว  เธอมองไปรอบๆ เลิ่กลั่ก  และทำเหมือนจะอ้าปากถาม  "อย่าเพิ่งถาม  เมด  กลับบ้านก่อน"

ทุกคนเห็นด้วยกับเฟท  เบลคยันตัวขึ้นมายืนเอง  ขณะที่เฟทไปจับตัวเมเดอลินให้ยืนขึ้น  ปีศาจสาวยังมีท่าทีงงงัน  เบลคหันไปมองเบย์ลีส์ที่ยืนเงียบมานาน  เธออยากจะพูดอะไรสักอย่าง  แต่ทางนั้นยิ้มและส่งมือมาให้

"เธอใจดีเป็นออเดรย์อีกคนแล้วนะ"  เบย์ลีส์พูดขึ้น  เบลคยิ้มแหย  อาจเพราะฟินน์มายืนส่ายหัวอยู่ตรงนี้ด้วยคนระหว่างที่มืออุ่นๆ ของเบย์ลีส์ปลอบโยนเธอ     

...................


งงไหมล่ะ  ไม่หรอกเนอะ  อิอิ   :61: :27: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

19 มกราคม 2018 เวลา 14:44:53
เบลคนางน่ารักขึ้นทุกที จิตใจดีกันทั้งตระกูล
แสดงความคิดเห็น