web stats

ข่าว

 


In the City - บทที่7 ตัดไฟแต่ต้นลม

โพสต์โดย: anhann วันที่: 14 ธันวาคม 2017 เวลา 22:03:46 อ่าน: 216



บทที่7 ตัดไฟแต่ต้นลม







ทางรถไฟสายบลูเบลล์ทำให้เธอนึกถึงรถไฟที่แฮร์รี่ พอตเตอร์นั่งไปฮอกวอตส์  มันเป็นความวินเทจที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก  หากไม่นับรวมพฤติกรรมประหลาดของคนเมาไวน์ค้างอย่างเฮย์ลีย์  บรู๊ค  รูมเมทของเธอซึ่งจับพลัดจับผลูมาเป็นแฟนของเพื่อนพี่สาวของเธอ  หรือพี่สาวคนสนิทของเธอนั่นแหละ

เอลิซาคงไม่รู้ว่านี่มันเป็นความคิดที่แย่ไม่น้อย  สำหรับการปล่อยให้แฟนสาวของตนที่สวยขนาดนี้มาอยู่กับเธอ  จริงอยู่ที่เธอไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนเจ้าชู้อะไร  หากก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่ไหนนะ  ยอมรับว่ามันเกี่ยวกับหน้าตาของเฮย์ลีย์  เธอถึงชวนสาวตัวสูงมาเป็นรูมเมท  ยอมแบ่งห้องพักอันหวงแหนให้พักอยู่ร่วมด้วย  ถึงเธอจะไม่ได้คิดจะทำอะไรผู้หญิงคนอื่นนอกจากมินอาซึ่งเป็นแฟนของเธอ  แฟนที่คบกันมาตั้งแต่เธอเรียนไฮสกูลอยู่ที่บ้านในซานฟราน-ซิสโก  เธอก็ไม่อาจห้ามสายตาตนไม่ให้มองเฮย์ลีย์อย่างผู้หญิงสวยคนหนึ่งได้  เรื่องที่เกิดขึ้นในห้องน้ำนั่น  ก็ใช่ว่าเธอจะไม่ได้คาดเอาไว้ล่วงหน้า  โชคดีที่ทั้งเธอและเฮย์ลีย์ยังมีจิตสำนึกที่ดีพอ  ว่าการนอกใจไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ

เธอไม่อยากนึกถึงเวลาหลังจากมินอากับเอลิซากลับไปทำงาน  จะว่ากลัวก็ใช่  เธออาจไม่ได้หวั่นไหวอะไรกับใครง่ายๆ  แต่ความใกล้ก็ไม่ได้น่าไว้ใจ

"มีอะไรเกิดขึ้นตอนไปห้องน้ำใช่ไหม  เดนท์"  มินอากระซิบถามเบาๆ ระหว่างเราจูงมือกันเดินเล่นตามรางรถไฟ  มาดูหัวรถจักรไอน้ำ  ขณะที่เอลิซากับเฮย์ลีย์ขอนั่งพักกินน้ำบนม้านั่งตรงสถานี  และเราก็ตกลงกันว่าจะแยกกันเที่ยวเป็นคู่ๆ  แล้วค่อยมาเจอกันที่สถานีตอนขากลับ

"ไม่ต้องปิดพี่หรอก  เดนท์  พี่มองออก  แก่แล้วนะ" 

เอเดนสั่นศีรษะ  ไม่เห็นด้วยกับมินอาที่ว่าตัวเองแก่แบบนั้น

"พี่มินหน้าเด็กกว่าฉันตั้งเยอะค่ะ"

"นั่นอาจจะจริง  แต่ยังไงประสบการณ์ของพี่ก็มากกว่าเธออยู่ดี  จริงไหมล่ะ"  มินอาพูด  ยิ้มเอ็นดูเด็กตัวสูงที่ส่งยิ้มแห้งๆ อย่างรู้สึกผิดกลับมา  "พี่รู้  และพี่เชื่อว่าเดนท์ไม่ทำแบบนั้นแน่  แต่คนอื่น  พี่ไม่รู้  และพี่ไม่ไว้ใจ  ต่อให้เป็นแฟนของเอลิซาก็เถอะ"

"งั้นพี่จะให้ฉันทำยังไงคะ  จะให้บอกให้เขาย้ายออกไปไหม  ฉันเองก็ชักไม่สบายใจแล้วนะ"

"ไม่เป็นไรค่ะ  พี่บอกแล้วไง  ว่าพี่ไว้ใจเรา"

เอเดนพยักหน้าแต่ยังคงยิ้มไม่ออก  เธอไม่ชอบเรื่องแบบนี้เลย  ทั้งที่เธอพยายามจะไม่ไปอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมมาตลอดเวลาที่อยู่คนเดียวที่นี่  อยู่ห่างจากครอบครัวและคนรัก  แต่ก็ดูเหมือนว่าเธอจะติดกับเข้าซะแล้ว 

ติดเพราะความใจดีใจอ่อนของตัวเอง

"เดนท์  เดนท์คะ"  มินอาเขย่ามือเอเดน  เด็กน้อยตัวสูงหันมามองเธอด้วยดวงตาแดงๆ ราวกับคนจะร้องไห้  ใจเธอก็หายวาบไปด้วย  "โธ่เดนท์  ไม่เป็นแบบนี้สิคะ  พี่ก็บอกแล้วไง  ว่าพี่ไม่ได้ว่าอะไรเราเลยนะ  พี่รู้..."

"แต่ฉันไม่ชอบแบบนี้นี่คะ  ฉันไม่ต้องการใครทั้งนั้น  แค่พี่คนเดียวที่ฉันต้องการ  แล้วทำไม...ทำไมมันจะต้องเป็นแบบนี้ด้วย  ฉันจะให้เขาย้ายออก  ไม่เอาแล้วละ  ฉันน่าจะเชื่อแอนนา"

"เดนท์  ไม่เอาสิ  อย่าทำตัวไม่มีเหตุผลแบบนี้  อีกอย่าง  พี่ก็ไม่เห็นว่าเธอจะต้องกลัวอะไร  ยังไงเฮย์ลีย์ก็ไม่ใช่ผู้ชาย  อันตรายน้อยกว่า  และยังไงเขาก็บังคับเดนท์ไม่ได้  ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอกนะคะ  นอกเสียจากว่า  เดนท์จะไม่มั่นใจตัวเอง"

เอเดนนิ่งงัน  มองประสานสายตากับแฟนสาวเนิ่นนาน  เธอรู้ว่ามินอาไม่ได้ประชดเธอที่พูดออกมาแบบนี้  แค่ให้ข้อเท็จจริงเท่านั้น

"ค่ะ  เข้าใจแล้ว"

มินอายิ้มบางๆ  โล่งใจไปด้วยเช่นกัน  เธอกระชับมือของคนเด็กกว่าแต่ใหญ่กว่ามือเธอ  พลางสบตานัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน  ดวงตาคมที่เธอรักยิ่ง

"จริงๆ แล้ว  พี่อยากให้พวกเขาย้ายพี่มาลอนดอนมากกว่าปารีส  เราจะได้อยู่ด้วยกัน  พี่ไม่อยากทนคิดถึงเธอแล้ว  รู้ไหม  เดนท์"

หยดน้ำที่พยายามกลั้นเอาไว้ร่วงลงมาจนได้  เอเดนคว้าตัวแฟนสาวร่างเล็กมากอดจนแน่น  ไม่สนใจแล้วว่าใครจะมองพวกเธออย่างไร  พวกเธอไม่ได้ทำอะไรผิด  ก็แค่รักกัน...

"ฉันไม่รู้หรอกว่า  ทำไม... แต่ฉันรักพี่มากนะคะ  มินอา"

"พี่ก็ไม่รู้ว่า  ทำไมถึงรักเธอนักหนาแบบนี้เหมือนกัน  เจ้าเด็กยักษ์"

"เพราะฉันน่ารักไง  ฉันเป็นเด็กดีที่หนึ่งของพี่"

"จ้า  เด็กดี  ดีให้ตลอดนะคะ  ไม่งั้นถูกตีแน่ๆ"  มินอาแกล้งขู่

"ไม่มีทางซะหรอกค่ะ  ฉันจะเป็นเด็กดีของพี่ตลอดไป  เชื่อสิ"  เอเดนให้สัญญา  กอดร่างแฟนสาวแนบแน่น  แม้เธอจะเห็นสายตาของใครอีกคนมองมาทางนี้ 

วิธีที่ดีที่สุดของเธอตัดปัญหาก็คือ  ตัดไฟแต่ต้นลม

"เข้าไปเดินเล่นในสวนกันดีกว่าค่ะ  เดี๋ยวรถไฟหมด  ต้องโบกรถกลับ"

"งั้นเชิญเจ้าหญิงนำไปก่อนเลยพะย่ะค่ะ"

มินอายิ้มชอบใจ  แต่ยังไม่วายอยากแซวน้อง  "เธอให้พี่นำ  เพราะกลัวจะเหยียบระเบิดที่ม้าทิ้งไว้ล่ะสิ"

"รู้ได้ไง  พี่มินนี่ฉลาดจริงๆ เลย  แฟนใครนะ"  เอเดนทำเสียงรื่นเริง  โอบไหล่คนตัวเล็กพาเดินไปด้วยกัน  ไม่ได้ให้มินอาเดินนำอย่างที่พูด  "โอ้  แฟนฉันนั่นเองแหละ  และต่อไปก็จะเป็นภรรยา"

"เรียนให้จบก่อนเถอะย่ะ  ยายหนู"  มินอาพูด  พลางหัวเราะคิก 

"โอเค  ถ้าเรียนจบแล้วไปขอ  ก็รีบๆ ยื่นมือมารับแหวนด้วยละ  ใจร้อนมากเลยนะเนี่ย  รู้ไหมคะ"

"ทราบแล้วค่า  ทราบแล้ว"

เอเดนหัวเราะในลำคอ  โอบไหล่แฟนสาวเข้ามาใกล้ตัว  เดินหายลับเข้าไปในสวนเชฟฟิลด์อันกว้างใหญ่ด้วยกันสองคน

"เธอไม่สนใจจะเข้าไปบ้างเหรอ  ใจคอจะนั่งอยู่แบบนี้จนกว่าจะหมดเวลาหรือไง"  เฮย์ลีย์ถาม  แปลกใจที่เอลิซายังไม่มีท่าทีกระตือรือร้นที่จะตามมินอากับเอเดนเข้าไปในสวนที่ดั้นด้นมาด้วยรถไฟเก่าๆ กับคนตรวจตั๋วแก่ๆ  ซึ่งแทบจะไม่ได้ยินว่าเราพูดอะไรด้วย  จนเราต้องพูดเสียงดังคอแหบคอแห้ง

"ฉันทำงานอยู่"  เอลิซาพูด  ไม่แยแสแฟนตัวเองเท่าใด  ตั้งหน้าตั้งตาพิมพ์ข้อความใส่โทรศัพท์มือถืออย่างเดียว  จนกระทั่งมันถูกดึงออกไปจากมือ

"เฮย์ลีย์  เธอทำอะไรของเธอ  เอาคืนมานะ!"

"ลุกขึ้นมา  ลิซ่า  เธออยากมาเที่ยว  ฉันก็ยอมมาด้วยแล้ว  เธอจะมานั่งจดบันทึกบ้านี่อยู่แบบนี้ไม่ได้  ของแบบนี้มันต้องไว้ทำที่บ้าน  ไม่ใช่ที่นี่  ที่นี่มีไว้สำหรับมาเที่ยว  ลุกขึ้น  เดี๋ยวนี้เลย"

"เธอมา  เพราะสองคนนั้นมาต่างหาก  ไม่ใช่สิ  เพราะเอเดน"

เฮย์ลีย์นิ่งสนิท  นิ่งจนเอลิซามาคว้าโทรศัพท์มือถือกลับคืนไปได้

"เธอคิดอะไร  ทำไมฉันจะไม่รู้  ฉันคบกับเธอมานานแค่ไหนแล้ว  แต่ฉันขอร้องนะ  อย่าไปทำลายความรักของสองคนนั้น  ฉันสงสารเดนท์  เธอไม่รู้หรอกว่า  เดนท์น่ะต้องพยายามมากแค่ไหน  กว่าจะทำให้มินอามาสนใจเขาได้  เพราะฉะนั้น  ถอยออกมาซะ  อย่าไปทำให้เด็กดีๆ คนหนึ่งต้องไขว้เขว"

"นี่เธอคิดว่าฉันเลวขนาดนั้นเลยเหรอ  ลิซ่า"

เอลิซายักไหล่  "ฉันไม่รู้  ฉันแค่หวังว่าเธอจะเห็นความดีของฉันบ้าง  ฉันอุตส่าห์หาที่อยู่ดีๆ ให้เธอ  ไม่ให้เธอต้องไปเจอคนไม่ดีในต่างถิ่น  เพราะงั้น  เธอควรรักษามันไว้ด้วย  เดนท์เป็นเด็กดี  และบางทีเธออาจได้รับอะไรดีๆ มาจากเขาบ้าง  ให้มันซึมซับเข้ามาในตัวเธอ  ฉันยังไม่หมดหวังกับเธอนะ  เฮย์"

เฮย์ลีย์พูดไม่ออก  เธอกลับมาทรุดตัวลงนั่งบนม้านั่งข้างเอลิซาที่เงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์มือถือมาสบตากัน  แม้จะบึ้งตึงอยู่แต่ในดวงตายังสามารถมองเห็นความบริสุทธิ์จริงใจ  และความรัก

เธอเอื้อมมือไปจับมือเอลิซามา  รายนั้นก็เลิกคิ้วให้อย่างฉงนใจ

"ขอบใจจริงๆ นะ  ลิซ่า  ฉันไม่รู้ว่าเธอทำได้ยังไง  แต่ก็ขอบใจมาก"

เอลิซาพยักหน้าคล้ายจะไม่เต็มใจ  แต่มุมปากมีรอยยิ้มแต้มอยู่  "ถ้าอยากขอบใจฉัน  ก็ทำตัวให้น่ารักๆ แบบเดนท์สิ  แต่เธอคงทำไม่ได้หรอก  ยาก"

"อย่าเพิ่งดูถูกกันสิ"  เฮย์ลีย์ประท้วง  คลึงหลังมือแฟนสาวด้วยปลายนิ้วหัวแม่มือ  "ให้โอกาสฉันอีกครั้งนะ  ลิซ่า"

"ก็ได้  ปล่อยมือฉันได้แล้ว  จะทำงาน"

"ไม่เอาอะ  ไม่ต้องทำหรอก  ไปเดินเล่นกันเถอะ  นะๆ ลิซ่า"

"ก็ได้  เธอนี่น่ารำคาญจริงๆ เลย"  เอลิซาบ่นอุบ  หากเธอก็รู้ว่าตัวเองยิ้มมาตลอดทางที่เฮย์ลีย์จูงมือเธอเข้าไปเดินชมสวนที่มีต้นไม้ดอกไม้พันธุ์ที่เธอไม่รู้จักเต็มไปหมด

...............................................

เรากลับเข้าเมืองมาในเช้ามืดวันรุ่งขึ้น  เพราะเอเดนมีเรียนช่วงบ่าย  เอลิซาก็มีสัมนาในโรงแรมแห่งหนึ่ง  เฮย์ลีย์รื้อของออกจากกระเป๋ามาจัดเข้าที่ภายในห้องของตนซึ่งแบ่งสรรมาจากห้องรับแขกของเอเดนอีกที  มินอาอยู่ในห้องนอน  ไม่ได้ออกมาเลยหลังจากเอเดนออกไปเรียน  เฮย์ลีย์ดีใจที่มันเป็นแบบนี้  ได้อยู่คนเดียวข้างนอกอย่างนี้  เธอยังกระอักกระอ่วนใจแปลกๆ เวลาเห็นหน้ามินอา  อาจเพราะความรู้สึกผิดในใจ

เอเดนไม่ได้พูดถึงเรื่องในห้องน้ำบนรถไฟสายบลูเบลล์  ราวกับว่ามันไม่ได้เกิดขึ้น  ซึ่งมันคงจะดีแล้ว  อย่าไปคิดว่ามันเกิดขึ้นเลย  เธอยังไม่อยากเสียมิตรภาพดีๆ ไป  มิตรภาพที่หาไม่ได้ง่ายๆ ในโลกใบนี้

เอเดนเป็นเด็กดี  แตกต่างจากเธอโดยสิ้นเชิง  เหมือนเอลิซาบอก...

เธอจัดเสื้อผ้าชุดใหม่สำหรับค้างคืนอีกสองวันเพื่อไปค้างกับเอลิซาที่โรงแรมตามข้อตกลงของเรา  จะว่าอยากไปก็ไม่เชิง  อย่างไรโรงแรมก็ไม่ใช่บ้าน  ถึงอพาร์ตเมนต์นี้จะไม่ใช่บ้านเหมือนกัน  แต่มันก็ถือเป็นที่ของเธอ  แม้จะเป็นเพียงพื้นที่เล็กๆ แบ่งมาจากเอเดนอีกทีก็ตาม

บางทีการห่างจากเอเดนไปตอนนี้ก็น่าจะดีเหมือนกัน

มันไม่ใช่ความรักหรอก  เธอรู้  มันก็แค่ความปลาบปลื้มใครคนหนึ่งที่ดูดีมากๆ  ถูกใจเธอมากๆ เท่านั้น  มันก็เหมือนที่แล้วมา  เธอชอบคนสวย  และมองพวกเขามากเกินไปจนเกิดเรื่อง  เหมือนพวกคนเจ้าชู้ที่ไม่รู้จักเข็ดหลาบ  ทั้งที่มีแฟนดีแสนดีขนาดนี้แล้วนะ

"จะไปค้างกับลิซ่าเหรอคะ"

เฮย์ลีย์ชะงักขณะเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋า  เงยหน้าขึ้นก็พบมินอายืนเกาะฉากกั้นห้องของเธออยู่  โผล่มาแต่ส่วนหัว  ตัวอยู่ด้านหลังฉาก  เธอจึงพยักหน้าและยิ้มบางๆ ให้

"สองคืนค่ะ  เดี๋ยวก็กลับแอลเอแล้วละ"

"ตอนนั้นฉันก็คงไปปารีสแล้วเหมือนกัน"  มินอาบอก  "ฉันได้ย้ายมาทำงานที่สำนักงานปารีสค่ะ  บางทีอาจมาบ่อยขึ้นนะคะ  ไม่ว่ากันนะ"

เฮย์ลีย์สั่นศีรษะ  "ก็ดีแล้วค่ะ  เดนท์จะได้ไม่เหงา"  เธอพูด  พลางนึกไปถึงช่วงแรกๆ ที่มาอยู่ร่วมห้องกับเอเดน  "บางทีเขาก็ดูนิ่งจนน่าห่วง  แทบจะไม่พูดอะไรเลย  ฉันก็ไม่ค่อยกล้าชวนคุย  ไม่รู้เขาอารมณ์ไหน  เลยปล่อยให้เขาอยู่เงียบๆ เสียส่วนใหญ่  แต่พอคุณมา  เขาพูดเก่งมาก  ยิ้มบ่อยจนฉันงงว่านี่คนเดียวกับที่ฉันเคยเห็นหรือเปล่า  เขาคงจะรักคุณมากเลยนะคะ"

"ฉันก็รักเขามากค่ะ"  มินอาตอบ  เดินมานั่งบนเตียงเหล็กกับเฮย์ลีย์  แต่ไม่ใกล้จนเกะกะคนกำลังจัดของ  "ฉันเคยมีแฟน  ผู้ชาย  ถ้าเทียบกันจริงๆ แล้ว  เดนท์นิสัยดีกว่าเยอะค่ะ  เจ้าเบื้อกนั่นนอกใจฉันน่ะ"

เฮย์ลีย์เงยหน้าขึ้นจากกระเป๋าที่กำลังรูดซิปปิดอยู่  สบตากับผู้หญิงร่างเล็ก  ใบหน้าน่ารักและแววตาสดใสของมินอามีความเจ็บปวดลึกๆ แฝงอยู่  นี่มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่กับตัวเองมากขึ้น  ถึงจะยังไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม

"ฉันไม่ว่าหรอกนะคะ  ถ้าคนเราจะเปลี่ยนใจ  หรือหมดรักกันน่ะ  แต่ขอให้บอกตรงๆ  อย่าทำอะไรลับหลัง  ในเมื่อฉันซื่อสัตย์ด้วยแล้ว  ฉันก็ควรจะได้ในสิ่งเดียวกันกลับมา  ฉันขอแค่นี้เอง  มันยากตรงไหน  ฉันไม่เข้าใจ"  มินอาพูดเหมือนปรับทุกข์  หากเฮย์ลีย์กลับรู้ดียิ่งกว่านั้น  ผู้หญิงคนนี้ฉลาดเป็นกรด 

"บางทีพวกเขาอาจไม่ได้ตั้งใจก็ได้นะคะ  คุณไม่คิดแบบนั้นบ้างเหรอ"

"แบบบรรยากาศพาไปน่ะเหรอคะ"  มินอาย้อน  เฮย์ลีย์เงียบ  รู้ตัวว่าขืนพูดไปก็เหมือนจะยิ่งเข้าตัวไปใหญ่  "ฉันเกลียดจังเลย  ข้ออ้างแบบนั้น  ถ้ารู้ตัวว่าไขว้เขว  หรือถูกชักจูงได้ง่ายก็ควรจะเลี่ยงไปสิคะ  ไม่ใช่ปล่อยให้ตัวเองต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น  ฉันไปมาทั่วแล้วนะคะ  เจอคนมาก็เยอะแยะ  ฉันยังไม่ทำตัวเละเทะเลย  ไม่ว่าใครจะมองแบบไหน  ฉันก็รู้ตัวฉันดี  เอเดนเองก็รู้ว่าฉันเป็นยังไง  และรู้ว่าฉันไม่ชอบอะไร"

"ถ้าอย่างนั้น  คุณก็ไม่ควรกลัวนะคะ"  เฮย์ลีย์พูด  รู้สึกว่าควรจะต้องพูดอะไรสักหน่อย  "เอเดนเป็นเด็กดี  ดีมากเชียวละค่ะ  คุณเป็นคนน่าอิจฉา"

"เอลิซาก็ดีค่ะ  และเธอก็รักคุณมากด้วย"  มินอาพูดแฝงความนัย  และลุกขึ้นยืน  "ฉันจะไปเตร่แถวมหาลัยเดนท์สักหน่อย  แล้วเจอกันนะคะ  ถ้าฉันยังไม่ได้ขึ้นเครื่องไปปารีสเสียก่อน"

เฮย์ลีย์แทบไม่ได้ยิ้มให้มินอา  ทำเพียงแสดงสีหน้ารับรู้คำพูดที่ดูจะคล้ายคำขู่ไม่ให้ไปยุ่งกับของของเขา  เธอเข้าใจมันดี  และไม่ได้โกรธมินอา  ถ้าเจ้าหล่อนจะหวงคนของตัวเองขนาดนี้  ตัวเธอเองก็ยังหวงเอลิซา  แต่ว่า...

หญิงสาวสั่นศีรษะ  ปัดความคิดเรื่องพวกนี้ทิ้งไป  ตวัดกระเป๋าเป้ขึ้นสะพายบ่า  ก้าวเดินออกจากห้องนอนที่ไม่มีประตูของตัวเอง  เธอไม่เห็นมินอาตรงโซฟาหน้าทีวี  อาจยังแต่งตัวอยู่ในห้องของเอเดนหรือออกจากห้องพักไปแล้วก็ได้  แต่มันก็ดีแล้วละ  เธอจะได้ไม่ต้องลา  บางทีตอนเธอกลับมาที่นี่อีกทีอาจจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วก็ได้  เจ้าตัวคงบินไปปารีสแล้ว  ปล่อยปลาย่างไว้กับแมวอย่างเธอ...แมวที่ถูกล่ามโซ่  และครอบปากจนกินอะไรไม่ได้แล้วละ

................................................

มันคงเป็นความรู้สึกเคยชินสำหรับเอเดน  ทุกครั้งที่กลับมายังห้องพัก  เธอก็จะเจอผู้หญิงอีกคนนั่งทำอะไรอยู่บนโซฟาหน้าทีวี  หรือเปิดเพลงแปลกๆ อยู่ด้านหลังฉากกั้น  แต่วันนี้เฮย์ลีย์ไม่อยู่  ไปค้างคืนกับเอลิซาที่โรงแรมตามที่บอกกับเธอไว้ล่วงหน้า  ถึงอย่างนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะมองหา  และรู้สึกแปลก  คล้ายคนในครอบครัวหายหน้าไปสักคน  คงเหมือนตอนบาร์บาร่าย้ายกลับไปบ้านที่ซานฟรานซิสโกใหม่ๆ

"เดนท์  เอาเสื้อมานี่  พี่แขวนให้" 

เอเดนส่งเสื้อโค้ตให้มือเล็กๆ ที่ยื่นมาขอ  พลางวางหนังสือกับกระเป๋าไว้บนโซฟาหน้าทีวี  และหย่อนก้นลงนั่ง  แปลกใจนิดหน่อยกับความใจดี  ช่างเอาอกเอาใจของคุณแฟน  มินอาไปยืนรอเธอตรงหน้าอาคารเรียนเลยด้วยซ้ำ

"เดนท์  น้ำส้มเย็นๆ"  มินอาพูดเสียงใส  ยื่นแก้วน้ำส้มคั้นสดที่ลงมือคั้นเองแล้วแช่ไว้ก่อนออกไปหาเอเดน  แฟนเด็กของเธอมองหน้าเธอแปลกๆ

"อะไร  กินได้  พี่ลองชิมแล้ว  ท้องไม่เสีย"  เธอว่า  เสียงงอนนิดหน่อย  เอเดนจึงยอมยกแก้วน้ำส้มขึ้นดื่ม  หากยังทำหน้านิ่งๆ ให้เธอต้องลุ้นว่าจะบ่นหรือจะชมกัน  ตอนที่ทำก็มั่นใจอยู่หรอกว่ามันอร่อยดีแล้ว  เพราะส้มที่เธอยอมเสียเวลาลงไปซื้อมาก็เป็นของดีและอร่อย  พ่อค้าก็ยืนยันว่ามันเป็นส้มสำหรับคั้นน้ำส้ม  แต่เธออาจคิดเข้าข้างตัวเองไปก็ได้

"ว่าไง  มันแย่เหรอ  เดนท์"

เอเดนเก็กหน้าแข็ง  แต่ก็ได้แป๊บเดียวเท่านั้น  เธอก็หัวเราะออกมาจนถูกมือเล็กๆ ตีไหล่ตีแขนให้เจ็บแสบนิดๆ  "ตัวแค่นี้  ชอบใช้กำลังจังเลยนะคะ  มานี่เลยดีกว่า  ต้องให้รางวัลหน่อยแล้ว"

"รางวัลอะไรเล่า  ไม่  เดนท์ --"  มินอาปฏิเสธ  ได้แป๊บเดียวเหมือนกัน  สุดท้ายเธอก็มานั่งอยู่บนตักเอเดนซึ่งวางแก้วน้ำส้มว่างเปล่าลงบนพื้น  เพื่อจะได้จูบเธออย่างดูดดื่มแบบนี้  มือเย็นๆ แทรกเข้ามาในร่มผ้า  พาให้ใจสั่นระทึก  เธอยังคงตื่นเต้นทุกครั้งเวลาเอเดนทำแบบนี้

"เดนท์  อา... เธอยังไม่ได้ล้างมือเลยนะ"

"ไม่เป็นไรค่ะ  แค่ข้างนอกน่ะ"  เอเดนบอก  รูดซิปกางเกงยีนมินอาลง  และสอดมือเข้าไป  ใช้ปลายนิ้วลูบไล้ส่วนลี้ลับของแฟนสาวภายนอกกางเกงชั้นในซึ่งเริ่มมีรอยเปียกชื้นนิดหน่อย  แสดงถึงความร่วมมือกันอย่างดี  มินอาเริ่มขยับสะโพกตอบรับ  พลางแอ่นอกให้เธอสัมผัสยอดถันที่แข็งเป็นไตสู้มือกับปลายลิ้นของเธอ  เสื้อชั้นในของสาวร่างเล็กถูกดึงขึ้นด้วยมือเธอและมือของเจ้าของซึ่งก็ต้องการมันเหมือนๆ กัน  มันอาจจะดูเหมือนเราหมกมุ่นกับเรื่องนี้มากไปนิด  หากนี่คือการแสดงออกถึงความรักของเธอที่มีมากมายจนพูดมันออกมาไม่ไหว  เธออยากถ่ายทอดมันให้มินอาได้รับรู้  และยอมรับมัน

"เดนท์  เข้าไปเลยได้ไหม  พี่รู้สึก...  พี่กำลังจะ --"

"โอเคค่ะ  ที่รัก" 

มินอาสะดุ้งนิดหน่อย  ตอนแฟนเด็กยอมทำตามใจเธอ  เอเดนรู้ดีว่าเธอชอบหรือไม่ชอบอะไร  เราอยู่ด้วยกันมานานพอสมควร  เรามีอะไรกันมานานมากจนเข้าใจกันไปเสียหมด  ถ้าเอเดนเป็นผู้ชาย  เราอาจจะพลาดจนเธอท้องแล้วก็ได้  บางครั้งเธอก็นึกเสียดายที่มันไม่เป็นแบบนั้น  ถ้าเอเดนเป็นผู้ชาย  บางทีเราอาจได้แต่งงานกันนานแล้ว 

ตอนเอเดนอายุเกือบสิบแปด  ตอนนั้นเธอก็ยี่สิบสามเต็มพอดีและยังคบผู้ชายอยู่  ไม่ต้องถามว่าเคยมีอะไรกับเขาไหม  เธอไม่ใช่สาวใสไร้เดียงสา  หากก็มีแฟนทีละคน  ตอนเธอจับได้ว่าเขานอกใจและกำลังเฮิร์ทอยู่  เธอก็รู้จักกับเอเดนแล้ว  แต่ยังเห็นน้องเป็นแค่น้อง  ไม่ได้รู้สึกอะไรมากกว่านั้น  เธอไม่ได้ชอบผู้หญิง  และไม่ได้คิดด้วยว่าน้องจะชอบเธอแบบนั้น  ตอนน้องมาบอกว่าชอบเธอ  เธอยังหาว่าน้องล้อเล่นอยู่เลย  แล้วน้องก็ซึมไป  ไม่ค่อยพูดหรือทักทายเธอแบบก่อนเวลาเจอกันพร้อมกับบาร์บาร่าพี่สาวของเขา  ถึงอย่างนั้น  เอเดนก็ยังคอยมองเธออยู่ห่างๆ  คอยช่วยเหลือเวลาเธอเดือดร้อนไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม  เวลาเธอไปเมาตามผับตามบาร์ที่ไหนก็ได้เขานี่แหละ  คอยตามไปรับกลับ  ยอมขัดใจพ่อแม่มายุ่งกับเธอซึ่งตอนนั้นทำตัวไม่ค่อยดีเท่าไหร่  แล้วในที่สุดเธอก็เริ่มมองเขาในแบบอื่นที่ไม่ใช่แค่น้องอีกต่อไป 

และแล้วเช้าวันหนึ่งเธอก็สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของเอเดน  ในสภาพไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้นติดตัว  ยังดีที่ไม่ได้กรี๊ดออกมาให้คนแถวบ้านแตกตื่น  ได้แต่นั่งอึ้งและระลึกว่าตัวเองทำอะไรลงไปตอนเมาบ้าง  และเฝ้ารอว่าเอเดนจะพูดอะไรตอนตื่น  ปรากฏว่าน้องทำให้เธอช็อกจนพูดอะไรไม่ออก  เมื่อเขาขอเธอแต่งงานทั้งที่ตัวเองอายุยังไม่ถึงสิบแปดดีเลยด้วยซ้ำ  อารามตกใจเธอก็ดันตอบตกลงไปด้วยสิ  แล้วเราก็มาเป็นแบบนี้กันนี่แหละ  ทุกวันนี้เอเดนก็แค่รอวันเรียนจบ  เพื่อที่เธอจะได้ทำตามสัญญาที่ให้กันไว้จริงๆ เสียที  สัญญาที่เธอต่อรองไว้เมื่อวันนั้น  เอเดนแทบไม่ได้สนใจพ่อแม่เขาเลยตอนมาขอเธอแต่งงาน  อ้างว่าเขามีเงินเก็บเยอะในบัญชี  เลี้ยงเธอได้แน่นอน  ไม่ให้ลำบากแน่ๆ  เธอไม่รู้จริงๆ ว่าเด็กขนาดนี้มีความคิดแบบนี้ได้ยังไง  ขนาดผู้ชายคนนั้นยังไม่มีเลย  ดีแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้พลาดท่าป่องกับเขาไปตอนคบกัน  ไม่เหมือนตอนนี้ที่เธออยากจะท้องใจแทบขาด

"เดนท์  พี่ไม่เจ็บหรอก  ลึกอีกก็ได้"  เธอกระซิบบอกเมื่อเห็นท่าทางเกร็งๆ ของเอเดนขณะที่น้องสอดของลับที่เธอส่งให้ใช้เข้าไปในตัวเธอ  ใช่ว่าเธอขาดเรื่องพวกนี้ไม่ได้  เธอแค่อยากให้เราสองคนเชื่อมโยงถึงกันจริงๆ  อยากให้เอเดนมีความสุขไปพร้อมกับเธอด้วย

"เดนท์  พี่รักเธอจริงๆ  อย่าทิ้งพี่ไปนะคะ"

"พี่มิน  อย่าพูดแบบนี้สิคะ  ไม่งั้นฉันจะทำโทษนะ"

"ก็ทำเลยสิ  เด็กน้อย  อย่ามัวแต่พูด"  มินอาท้า  ก่อนส่งเสียงร้องวี้ดเพราะถูกช้อนตัวขึ้นอุ้มเข้าห้องไป  เธอแทบขาดใจตอนเอเดนกดเธอบนที่นอนและขย่มร่างบนตัวเธอ  เผลอข่วนหลัง  ข่วนแขน  ต้นคอกับทึ้งผมของน้องไปตั้งหลายที  หากเหมือนยิ่งทำให้อีโก้ของผู้กระทำใหญ่ขึ้นจึงไม่ค่อยยั้งแรงกับเธอสักเท่าไหร่  เล่นเอาช้ำไปเกือบทั้งตัว  โดยเฉพาะตรงนั้น...

"เดนท์  อา... เดนท์..."

"อีกนิดนะคะพี่  ทนฉันอีกหน่อยนะ"  เอเดนกระซิบ  ร้องซี้ดด้วยความเจ็บแสบเมื่อเล็บคมกรีดแผ่นหลังของเธอ  ขณะที่เธอกระแทกตัวลึกเข้าไปอีก

"เดนท์  พี่..."

"Cum for me, babe."

มินอาอ้าขาให้กว้างขึ้น  เปิดทางให้อีกฝ่ายกระแทกกระทั้นลงมาหาตัวเธอได้เต็มที่  ถึงนี่จะเป็นครั้งแรกของเราที่ดุเดือดกันขนาดนี้  เธอก็ชอบมัน  เธอเคยยอมให้ผู้ชายคนนั้นมาแล้ว  ทำไมเธอจะยอมให้เอเดนไม่ได้กันล่ะ

"มินอา  โอ้ พระเจ้า!  พระเจ้า!"  เอเดนอุทานเสียงสั่น  ก่อนกระตุกตัวเหนือร่างแฟนสาวอยู่เกือบนาที  และทรุดตัวลงนอนทับกันอย่างหมดแรง

"แค้นพี่เหรอ  เดนท์"  เธอยังอุตส่าห์มีแรงหยอกน้อง  พลางลูบศีรษะเอเดนที่อยู่บนตัวเธอทั้งตัว  แต่แกะอุปกรณ์เสริมความสุขนั่นออกไปแล้ว  เธอแอบมองคราบความหฤหรรษ์ของเราที่ฉาบบนมันด้วยความปลาบปลื้มกึ่งอาย  ไม่อยากจะคิดเลยว่าเราจะหมดถุงยางไปกี่กล่องในครั้งนี้  ถ้าเอเดนเป็นผู้ชาย  หรือบางทีเธออาจไม่ให้เขาใส่ 

"ฉันรู้ว่าพี่กลัว  ฉันห้ามพี่ไม่ให้กลัวไม่ได้  แต่ฉันอยากจะยืนยันว่าความรักของฉันไม่ใช่เรื่องสนุก  และถ้ามันยากนัก  ฉันจะย้ายไปเรียนที่ปารีสซะเลย  จะบังคับให้พี่ยอมรับฉันเป็นสามีหรือภรรยาก็ได้  แล้วแต่พี่  โอเคไหม"

"เดนท์  อย่าดุสิ  พี่กลัวเราแล้วนะ"  มินอาพูด  เธอกลัวใจเอเดนจริงๆ  น้องเหมือนจะทำได้ทุกอย่างอย่างที่พูดมา  "เดนท์  พี่น่ะ  มีบางเรื่องที่ยังไม่ได้บอกเราเลย  ว่าพี่น่ะอยากจะ --"

"พี่จะไปขอรับบริจาคสเปิร์มจากธนาคารแล้วตั้งท้องเองหรือรับเด็กมาเลี้ยงก็ได้ค่ะ  จะไม่แต่งงาน  จะอยู่ด้วยกันเฉยๆ ก็ได้  ฉันยอมทุกอย่าง  แค่อย่าเปรียบเทียบฉันกับเจ้างั่งที่ทิ้งพี่ไป  ได้ไหมคะ  ได้ไหม  พี่มิน"

นัยน์ตาคมเริ่มมีรอยแดงจางๆ  มินอาลูบแก้มขาวแดงระเรื่อ  ชื้นไปด้วยเหงื่อของเอเดนแผ่วเบา  และผงกศีรษะขึ้นจากหมอน  จูบริมฝีปากแดงฉ่ำอย่างรักใคร่  พลางกระซิบให้เอเดนบอกรักเธออีกครั้งด้วยวิธีของเรา

"พี่หิวข้าวแล้ว  เดนท์  แต่ปวดสะโพกมาก  ลุกไม่ไหว  เราเล่นแรงมากเลยนะคราวนี้  ตัวพี่เขียวไปหมดแล้วมั้ง  ดูซิ  เขียวหรือเปล่า"

"ไม่เขียวหรอก  แต่ฉันสิ  แสบทั้งหลังทั้งต้นคอ  อาบน้ำไม่ได้แหงเลย"

"สมควรแล้ว  เด็กทะลึ่ง  ไม่รู้อดอยากมาจากไหน"

"สะสมไว้ก่อนไง  จะได้ไม่เฉาเวลาเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน"

"ย่ะ  มีข้ออ้างตลอด"

"พี่ก็บอกสิคะว่าไม่ชอบ  จะได้ไม่ทำ"

"ไม่บอก  ถอยไปเลย  พี่จะนอน  เธอไปทำกับข้าว  เสร็จแล้วมาเรียกด้วยนะ  หิวมาก  อยากกินเยอะๆ เลย"  มินอาพูด  พลางตอบรับจูบของเอเดน

"เดี๋ยวมานะคะ  หลับไปก่อนก็ได้  แล้วจะมาปลุก"

ดวงหน้าเล็กๆ พยักขึ้นลงรับคำคนตัวโตที่ลุกขึ้นสวมเสื้อเชิ้ตกับกางเกงขาสั้นลวกๆ  เดินผมเผ้ายุ่งเหยิงออกไปจากห้อง  เธอมองจนเอเดนลับสายตาไป  แล้วควานหาโทรศัพท์มือถือมากดโทรออก  ปลายสายรับสายเธอแทบจะทันทีที่เสียงสัญญาณดัง  "มีอะไร  เตี้ย  จะใช้อะไรฉันอีกล่ะ"

"ยายบาร์บ  นั่นปากเธอเหรอ"  มินอาว่า  คิ้วขมวดแต่มีรอยยิ้ม  พี่กับน้อง  ไม่ได้เหมือนกันเลยสักนิดเดียว

"มีอะไรก็ว่ามา  ฉันนัดคนไว้  จะรีบไป"

"ผู้หญิงคนใหม่เหรอ  อย่าไปทำเขาป่องล่ะ  สงสารเด็ก"

"นี่หุบปากไปก็ได้นะ  ฉันทำแบบนั้นได้ที่ไหนกัน  แล้วมีอะไรก็ว่ามา  เธอทำอะไรน้องฉันอีก  เสกมนตร์อะไรใส่มันอีกล่ะ  สงสารมันบ้างนะ"

"บาร์บ  ฉันรักน้องเธอว่ะ  รักจริงๆ เลยคราวนี้"

"อ้าว  แล้วที่ผ่านมาไม่จริงเหรอ  ยายบ้านี่  เธอหลอกน้องฉันหรือไง"

"เปล่า!  ไม่ใช่  ฉันหมายถึง  รักแบบอยากแต่งงานด้วย  ฉันว่าฉัน --"

"โอ้  อยากมีผัวแล้วนี่เอง"

"เอ๊ะ  ยายบ้านี่!"

"โอเคๆ  เดี๋ยวเคลียร์ให้  แล้วห้ามหนีล่ะ  ไม่งั้นฉันเอาเธอตายแน่"

"ไม่หนีหรอกน่า  หนีให้โง่สิ  ยิ่งมีคนจ้องอยากจะได้ของของฉันอยู่"

"รู้ก็ดีแล้ว"  บาร์บาร่าพูดแค่นั้นแล้ววางสายฉับ  ไม่สนใจคนทางนี้ที่ยังอ้าปากพะงาบๆ ค้างอยู่  หากมินอาก็ยิ้มอารมณ์ดี  คว้าตุ๊กตาหมีบราวน์ของเอเดนมากอดจนแน่น


.....................

โอเค.... น้องเดนท์เค้าไม่ได้ใสนะคะ  อิอิ    :61: :01: :27: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

15 ธันวาคม 2017 เวลา 21:23:24
อยากมีผัวแล้วนี่เอง
แสดงความคิดเห็น