web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 183
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 180
Total: 180

ผู้เขียน หัวข้อ: Queen's tales Chapter 14 : Pandora’s box open. (กล่องแห่งความลับ)  (อ่าน 1691 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Queen's tales Chapter 14 : Pandora’s box open. (กล่องแห่งความลับ)
« เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 09:20:29 »


นิยายเรื่องนี้เปิดให้จองอยู่นะคะ สนใจดูรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ http://yuriread.thaimeboard.com/index.php/topic,1291.msg7892/topicseen.html#msg7892


Chapter 14 : Pandora’s box open. (กล่องแห่งความลับ)

ไอซิสตื่นเช้าตามปกติ หากสิ่งที่ไม่ปกติคือสองคนที่นอนด้วยเมื่อคืนหายไปไหน ลืมตาขึ้นมาก็เพราะไออุ่นจากกายมนุษย์สองคนนั่นหายไปนะนี่ แต่นั่นคงเพราะพี่สาวสองฝาแฝดต้องไปจัดเตรียมความพร้อมของขบวนคาราวานที่จะพาเธอกลับบ้านวันนี้ เรื่องนี้ทำให้ยิ้มได้แม้จะต้องออกมายืนหนาวหาวนอนมองหาพวกเขานอกกระโจม

ร่างสูงระหงถูกห่อด้วยผ้าคลุมผืนใหญ่และหนา อากาศยามเช้าของป่ายังมีความหนาวเย็นไม่ต่างจากยามกลางคืน อาจเพราะมันยังเช้าอยู่มาก หากเช้าขนาดนี้ เธอยังเห็นบางคนที่ยืนแอบอยู่ในมุมหนึ่งของกระโจมที่พักที่ตั้งเรียงราย ร่างเล็กบางนั่นยืนอยู่ตรงกระโจมหลังท้ายสุด นิ่งเฉยในขณะที่คนอื่นๆกำลังเริ่มงานกันอย่างขะมักเขม้นไม่เว้นแม้แต่นางในคนสนิทขวัญใจของสองฝาแฝด

แล้วขนาดโรซาลีสุดที่รักของคาร่ากับไคล่ายังทำงานแข็งขัน นักโทษอย่างโจรสาวนั่น เหตุใดจึงยังยืนอยู่ได้โดยไม่รู้สึกรู้สา มากเกินไปไหม...

เจ้าหญิงคนสุดท้องไม่เพียงแค่คิด หากยังเดินเข้าไปหาสาวคนที่ว่านั้นด้วย ดวงตาคู่สวยสองสีก็ได้พบกันเมื่อหล่อนหันมามองเหมือนล่วงรู้ถึงการมาของเธอ

ไอซิสกระพริบตาที่เห็นแววตาแปลกๆที่มองตัวเอง “มองเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร” สงสัยจึงต้องถามให้รู้เรื่อง ไม่ชื่นชอบให้ใครแอบคิดอะไรลับหลัง แม้จะรู้ว่าต้องมีคนมากมายที่แอบทำเช่นนั้นอยู่ หากกับบางคนถ้าจะพอพูดคุยกันได้ ก็อยากจะทำ โดยเฉพาะกับเด็กคนนี้...

เด็กคนนี้หรือ.. อ่อนเยาว์กว่าตนหรือไร..

ก็หล่อนตัวเล็ก...

“ว่าอย่างไร ไยอมพะนำอยู่”

ผู้ฟังเม้มปากตัวเองหงุดหงิด รู้สึกว่าคนที่นี่จะมีคำถามมากมายเกินไป สงสัยคนอื่น ทั้งที่พวกตนน่าสงสัยกว่า

ประหลาดกันทั้งบ้าน...

“ข้ากำลังคิดว่า พวกเจ้าเป็นใครกันแน่ พวกเจ้าไม่ใช่แค่พวกขุนนางในวังใช่ไหม..” ดวงตาสีเขียวจ้องมองดูอากัปอาการของเจ้าของดวงตาสีแดง ผู้หญิงที่แค่เห็นดวงตาก็พาให้ขนลุกชัน
ไม่แน่ใจตัวเองเลยว่า ยังยืนคุยกับหล่อนอยู่ได้อย่างไร เกิดอยู่ๆปีกงอกออกมาและทำเรื่องประหลาดตรงนี้ เธอจะไม่วิ่งหนีป่าราบอีกหรือ.?

“เจ้าเป็นราชวงศ์ไหน.. ใกล้ชิดกับคาดีทส์มากสินะ ถึงได้...”

“ไยเจ้าไม่รู้จักผู้ปกครองบ้านเมืองตัวเอง ข้าขอถามเจ้าก่อน” ไอซิสมองดวงตาสีนิ่งไปที่คนถูกถาม หล่อนทำคิ้วขมวดราวคิดไม่ตก ส่วนเธอส่ายหน้า “หากเจ้าใส่ใจเรื่องนี้ให้มากอีกสักนิด เรื่องที่เจ้าสงสัยก็จะไม่มี ข้าพูดได้เท่านี้แหละ”

เจ้าของดวงตาสีแดงเดินจากไปง่ายๆ ทิ้งให้คนมองตามหลังยืนอึ้งอย่างนึกไม่ถึงว่าจะโดนย้อนเสียจนพูดไม่ออก

อิสซาเบลล่ากดหัวคิ้วลง บางทีเธอคงจะต้องร้องหาความช่วยเหลือจากบางคนที่อาจจะอยากประกาศเต็มแก่ว่า หล่อนเป็นใคร...

แต่แน่ใจหรือว่า หล่อนจะให้ความร่วมมือ.? ก็ต้องลอง...

...................................................

ไม่มีแล้วเวลาที่จะไถ่ถามใครเรื่องที่สงสัยอยู่ เมื่อกองคาราวานได้เวลาหมุนล้ออีกครั้ง มันไม่ได้เป็นปัญหาหากจะไม่มีเวลาถามตอนนี้ ถ้าเธอยังอยู่ที่นี่ก็สามารถหาเวลาเช่นนั้นได้เสมอ และบางทีเมื่อถึงปลายทางที่คนพวกนี้พาเธอไปถึงก็อาจรู้ได้โดยไม่ต้องถามใครอีก ปัญหาตรงนี้คือเธอจะไปพร้อมขบวนด้วยวิธีใดมากกว่า บนหลังม้าที่มีเจ้าตาสีฟ้านั่นเป็นผู้คุม ไม่มีทางเด็ดขาด ไม่เอาอีกแล้ว..

“เบลล่า..” คาร่าเรียก คนถูกเรียกทำท่าสะดุ้งจนเธอหรี่ตามองไม่เข้าใจ และต้องรู้ให้ได้ว่า หล่อนกำลังกลัวอะไรอยู่ ท่าทางหล่อนดูกลัว ซ้ำมองแปลกๆไปที่ฝาแฝดของตนด้วยสิ
“มานี่สิ” พยักหน้าเรียกสาวน้อยนั้นทั้งรู้ว่ามีอีกสาวน้อยมองตามตาเขม็ง จึงต้องหันไปมองสบดวงตาสีแดงเพื่อสื่อสารกัน พอสุดที่รักยอมพยักหน้าให้ถึงจะดูไม่พอใจก็ถอนหายใจเบาๆโล่งอก สบเวลาเดียวกันกับที่คนที่ถูกเรียกเดินมาหาอย่างไม่เต็มใจ

“เรียกทำไม..”

คำถามออกมาห้วนสั้นตามปกติ หากใครได้ยินย่อมจะคิดว่า เจ้าของคำพูดไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง หากคงจะโทษอะไรหล่อนไม่ได้ อิสซาเบลล่ายังไม่รู้ว่า แท้จริงแล้ว เธอเป็นใคร...

เจ้านายเหนือหัวหล่อนแท้ๆ...

แล้วจะให้หล่อนรู้เมื่อไหร่ดี.. หรือว่ารอให้กลับวังเสียก่อน..

ใช่.. ถึงตอนนั้นคงไม่ต้องพูดอะไรอีก แต่จะโดนโวยวายใส่แทนน่ะสิ..

“ทำไมไม่ไปขึ้นม้ากับไคล่า” พยายามถามแบบอารมณ์ปกติ ไม่ติดใจกับปฏิกิริยาในด้านลบของเด็กที่ไม่รู้เรื่อง หากสายตาเคืองๆที่หล่อนใช้มองแฝดน้องของตนก็ทำให้แปลกใจซ้ำ มันต้องมีบางอย่างแน่ๆ

“ไม่ไป ข้าไปกับคนอื่นได้ไหม.?”

คาร่าถอนหายใจ ส่ายหน้าอย่างไม่รู้จะว่าอย่างไรดี และเพราะรู้ดีถึงความดื้อรั้นหัวแข็งของเด็กสาวชาวป่า เธอจำต้องตัดสินใจ “ไอซิส.. ไปกับไคล่า ส่วนเบลล่า ตามข้ามา” คำสั่งเด็ดขาดไม่มีใครเอ่ยค้านอะไรได้นอกจากอ้าปากค้าง หากร่างสูงหันหลังกลับอย่างไม่สนใจ

ใครว่าไม่สนใจล่ะ..

ไอซิส.. เข้าใจพี่หน่อยนะจ๊ะ มันจำเป็น..

อิสซาเบลล่ามองตามหลังร่างสูงผมสีเงินที่เดินนำ ใจจริงไม่อยากทำตามคำสั่ง หากเมื่อเหลียวมองกลับมา ดวงตาสีฟ้าที่มองเธอจากคนหน้าเหมือนคาร่าแต่ไม่ใช่ก็ทำให้เธอรีบเดินตามคนเรียกไปทันที อีกอย่างก็ไม่อยากถูกดวงตาสีแดงของอีกคนมองตัวเองจนหลอมละลายด้วย คนสวยน่ากลัว...

“รอข้าด้วยสิ” สาวน้อยร้องเรียกคนเดินนำ ตกใจที่เขาหันขวับกลับมาจนชะงักกึก ขาก้าวไม่ออก หากสมองคิดไปไกลถึงช่วงเวลานั้นที่เธอแอบดูเขาเล่นจ้ำจี้กับน้องสาว

แม้จะเห็นแค่ด้านหลังที่ร่างสูงถูกปิดบังด้วยเส้นผมยาวสีเงินนี้ ก็ยังสามารถจินตนาการได้ว่า เสื้อผ้าที่เขาสวมอยู่กำลังปิดบังส่วนสัดที่งดงามเพียงใด ผิวพรรณขาวสะอาดเนียนนวลไปทั้งตัว เหมือนหิมะต้นฤดู แปลกใจที่เธอรู้สึกหน้าร้อนผ่าวทันทีแค่นึกถึงมัน

หรือข้าจะอยู่กับพวกเจ้ามากเกินไป สมองกลับไปเสียแล้ว..

“เมื่อคืนนอนไม่ได้ห่มผ้าหรือไร เป็นไข้เสียแล้วมั้งนี่..” บ่นงึมงำตามประสาคนมีน้องเล็กที่อดจะห่วงไม่ได้ เห็นคนอายุไล่เลี่ยกับน้องก็เลยห่วงไปด้วย คล้ายติดเป็นนิสัย มาได้เห็นสีหน้าของอีกคนเปลี่ยนไปเป็นแดงเถือกทั้งหน้า ไม่ได้สนใจว่า จะมาจากเรื่องอื่น คิดว่าเป็นไข้ท่าเดียวจึงยื่นมือไปอังหน้าผาก เจ้าของหน้าผากสะดุ้งตกใจ ทำท่าจะถอยหนีแต่คิดหรือว่าจะพ้น มืออีกข้างคว้าบ่าหล่อนเอาไว้ได้ทัน

“อยู่นิ่งๆ ข้าไม่ต้องการคนป่วยในขบวน”

“ข้าไม่ได้ป่วยสักหน่อย” สาวน้อยเถียงแต่เสียงตัวเองกลับไม่ดังเท่าที่อยากจะทำ แปลกใจมากที่เธอรู้สึกแปลกๆกับคาร่าเช่นเดียวกับที่เป็นกับไคล่า หรือเพราะหน้าตาที่เหมือนกันแบบนี้

ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย..

“ไม่ได้ป่วยหรือ.?” คาร่าย้อน มองเด็กสาวจอมดื้ออย่างไม่เชื่อ ถึงอย่างนั้นก็รู้ดีว่าไม่ใช่เวลาจะมัวมาต่อล้อต่อเถียงกัน “ไม่ป่วยก็ไปกันสักที คนอื่นจะรอนาน”

อิสซาเบลล่าพยักหน้ารับหากแอบเบ้ปากทันทีที่อีกคนหันหลังให้ สะดุ้งตกใจเมื่อร่างสูงหันมาอีกครั้ง หรี่ตามองเธอเหมือนสงสัยบางอย่าง

“อะไร..” ถามห้วนๆสั้นๆแต่น้ำเสียงไม่ได้หยาบคาย คนถูกถามนิ่งสักพักก่อนส่ายหน้า แล้วหันกลับไปเตรียมม้าที่มีคนมาส่งให้นานแล้ว

ร่างบางถอนหายใจโล่งอกที่ไม่ถูกถามอะไรอีก หากเธอก็เผลอกรี๊ดอย่างหลุดอาการเมื่อถูกจับยกขึ้นจากพื้นด้วยแขนยาวที่เอื้อมมาเกี่ยวเอวขึ้นไป ไปนั่งบนหลังม้าด้านหน้าคนที่เป็นเจ้าของท่อนแขน แปลกจริง ทำไมแรงเยอะแบบนี้ ผู้หญิงอะไร..

“คาร่า!”

“ไม่ต้องเรียกบ่อย ข้ารู้แล้วว่า ข้าชื่ออะไร.!”

คนตกใจตาโตอีกรอบเพราะเสียงตอบโต้ คิดจะแย้งกลับว่าไม่ได้หมายความแบบนั้นก็ทำไม่ได้ สาวตัวใหญ่กระแทกเท้าลงกับตัวม้า และเจ้าหน้าขนตัวขาวก็พุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่สนใจเสียงร้องตกใจของเธอสักนิดเลย

เออ..คนบ้านนี้.. ให้มันได้แบบนี้สิ!

....................................................

อาชาสีดำทมิฬวิ่งตรงไปข้างหน้าด้วยความเร็วคงที่เพื่อทำหน้าที่นำหน้าขบวนให้กับอาชาต่างสีอีกหลายตัวที่ร่วมเดินทางมาด้วยกัน เสียงฝีเท้าสัตว์สี่ขาดังก้องไปทั่วป่าแห่งนี้ ป่าที่มีเส้นทางขนาดเล็กซึ่งจึงจำเป็นจะต้องใช้พาหนะบางชนิดสำหรับวิ่งผ่านมันไป และก็คงจะหนีไม่พ้นว่าต้องเป็นม้าหรือรถม้าเท้านั้น ความรกชัฏของป่าไม่ได้มีมากกว่าที่เดินผ่านมามากนัก ต้นไม้ไม่ได้ขึ้นลำต้นติดกันหนาแน่นตามริมทางหรืออย่างไร แต่ความเงียบของมันต่างหากที่ดูน่าหวั่นเกรง

ใช่..เพราะตั้งแต่เริ่มเดินทาง สรรพเสียงของสัตว์ต่างๆน้อยใหญ่ก็ดูจะหายเงียบไปจนหมด จนเป็นที่น่าระแวงสงสัยเหลือเกิน

“ไคล่า.. พี่ว่ามัน.. เงียบไปไหม..” เสียงในโทนนุ่มละมุนเอ่ยถามแทรกความเงียบที่มีเพียงเสียงฝีเท้าม้าวิ่ง ม้าหลายตัวทั้งที่เทียมรถและวิ่งเดี่ยวกับเจ้าของ ถึงกระนั้น มันก็ยังเงียบ เพราะเสียงสัตว์อื่นไม่มี แม้แต่นกร้อง หรือหนอนส่งเสียงถอนหายใจ เวลาต้องหนีตายจากการถูกม้าเหยียบจนแบน

อา..หนอนที่ไหนถอนหายใจได้มั่งเนี่ย..

ที่นี่แหละ!

ไอซิสขมวดคิ้วเรียวสีน้ำผึ้งอย่างครุ่นคิดพิจารณา รู้สึกไม่ไว้ใจกับหนทางในการเดินทางครั้งนี้เลย หากก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น เมื่อจุดหมายปลายทางนั้นมีเส้นทางนี้เพียงทางเดียวที่สามารถจะพาเธอและพวกพ้องไปถึงได้ แต่ทางไปบ้านเราแท้ๆ ทำไมถึงมีเรื่องแปลกๆขึ้นมาได้นะ.?

“ไคล่า.. ว่ายังไงเพคะ.?” ดวงตาสีแดงมองใบหน้าพี่สาว ไคล่าดูครุ่นคิด ดวงตาสีฟ้าส่ายไปมาจนรอบ

“พี่ก็ว่ามันแปลกเหมือนกันล่ะ แต่พี่ก็รู้สึกว่า มันแปลกแบบนี้มาตั้งแต่เราผ่านเขตป่าแห่งเวทย์มนตร์ของเฟฟานี่มาแล้วนะ” เห็นพ้องกับน้องสาวพลางโอบเอวน้องอย่างปกป้อง ไม่ว่าอย่างไร ไอซิสจะมีความสามารถแค่ไหน ก็ยังอยู่ในความดูแลของพี่อย่างเธอ หน้าที่นี้ไม่มีทางหายไปได้

ใช่..ไม่ว่าเจ้าจะเป็นของใคร หรือเป็นอะไร เจ้ายังคงเป็นที่รักของพี่เสมอ..

หากเพียงไม่นานสิ่งที่สองพี่น้องบนหลังม้าตัวเดียวกันกำลังสงสัย ก็ได้รับการพิสูจน์ว่ามันคือความจริง บางสิ่งที่สายตาเห็นพาให้คนควบคุมสายบังเหียนม้าต้องออกแรงกระชากสายนั้นอย่างกะทันหัน สองขาหน้าของอาชาสีดำทมิฬถูกยกขึ้นสูงจากพื้นดิน มาลอยอยู่ในอากาศแทน เจ้าม้าตกใจในคำสั่งที่เร็วรวดเกินกว่าจะตั้งตัวได้ของเจ้านาย หากมันยังสามารถควบคุมตัวของมันได้ไม่ให้วิ่งเตลิดหนีหายไป สมกับที่เป็นม้าของผู้มีบุญญาธิการ

“ไคล่า.!” ไอซิสร้องเสียงหลงแทบจะพร้อมกันกับเสียงร้องด้วยความตกใจของม้า แต่คำถามก็ใช่ว่าจะต้องตอบมันได้เสมอสำหรับเวลานี้ เพราะตัวของพี่สาวเธอเองก็สีหน้าเหมือนว่ายังไม่แน่ใจว่าจะตอบอะไรเธอได้เหมือนกัน

ไคล่าหน้าซีดเผือดกับสัตว์ประหลาดที่ขวางทางเธอกับน้องอยู่ จะว่ามันเป็นงูยักษ์ ที่มีชื่อเรียกว่า “อนาคอนด้า” ก็คงไม่ใช่เสียทีเดียว ถ้าจะใช่ มันก็คงเป็นอนาคอนด้าขนาดยักษ์ที่นำหัวมากมายมาจับมัดรวมกันไว้ในลำตัวเดียวกัน

“ไฮดร้า..!”

เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังของพวกเธอ ดวงตาสีแดงและสีฟ้าหันมองหาที่มาของเสียงในเวลาเดียวกัน แปลกใจที่รู้ว่า คนพูดคือสาวตัวเล็กที่อยู่บนหลังม้าตัวเดียวกับพี่สาวคนโต น่าสงสัยว่าอิสเบลล่ารู้จักเจ้าสัตว์ตัวนี้ได้อย่างไร แต่สาวชาวป่าที่อาศัยอยู่ในป่ามาตั้งแต่เกิดจะเคยเจอของแปลกๆแบบนี้บ้าง คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ มากกว่านั้น พวกเธอทั้งคู่ก็ไม่มีเวลาเหลือมากพอที่จะถามอะไรใครเมื่อเจ้างูยักษ์หลายหัวเริ่มเคลื่อนไหวตัว

สองพี่น้องบนอาชาสีดำต้องพยายามหลีกหนีและถอยให้ห่างจากรัศมีของการโจมตีของสิ่งมีชีวิตประหลาดนั่นให้ได้ให้ทันเวลา ถ้ายังต้องการมีชีวิตอยู่ต่อไป

“คาร่า.. ข้าจัดการเอง!” ไคล่าตะโดนพร้อมบังคับม้าสีดำทมิฬตัวใหญ่ให้วิ่งไปอีกทาง เป็นคนละด้านกับขบวนกองคาราวานที่มีม้าสีขาวนำอยู่ พยายามหลอกล่อสัตว์ประหลาดให้ห่างจากขบวนและองค์ราชินีที่ตนต้องปกป้องไว้ด้วยชีวิต

เลมมี่บนหลังม้าสีน้ำตาลและทหารในคราบหนุ่มชาวบ้านสี่นายต่างเข้ามาเทียบข้างๆม้าสีขาวของคาร่า พวกเขายอมพลีกายถวายชีวิตดูแลองค์เหนือหัว แม้เจ้าตัวของพระองค์เองจะไม่ยินดีนักที่ต้องอยู่ด้านหลังทั้งที่สองขนิษฐากำลังอยู่ในอันตราย หากก็ทำได้แค่มองดูเหตุการณ์อย่างเป็นห่วงเท่านั้น

หวังว่าพวกเจ้าคงปลอดภัย.. ไคล่า.. ไอซิส..

“นี่ไม่คิดจะตามน้องไปหรือ.?” เสียงคำถามพาให้คนกำลังคิดมากก้มหน้าลงมองคนถาม ดวงตาสีคล้ายกันกำลังมองเธอเหมือนจะตำหนิ

“ไม่เป็นห่วงหรือไง ไหนว่ารักนักหนา” อิสซาเบลล่าย้ำ คนฟังคิ้วขมวดอย่างชัดเจน แต่คาร่าก็ยังไม่ปริปากพูดสักคำ ความสงสัยในความนิ่งของผู้หญิงคนนี้ในเวลาที่ไม่น่าจะเกิดในเวลาแบบนี้ทำให้เธออยากจะถามอีกคำ อีกอย่างมันก็แปลกด้วยว่าทำไมคนหลายคนต้องคอยเข้ามาทำท่าเหมือนเป็นอัศวินปกป้องหล่อนอยู่คนเดียว เพราะคาร่ามีอำนาจมากที่สุดใช่ไหม.?

หากคำถามทั้งหลายทั้งหมดที่เธอสงสัยและพยายามจะทำทุกทางให้ได้คำตอบมา ก็ดูคล้ายจะกระจ่างทันทีที่หนึ่งเสียงตะโกนออกมาจากที่ใกล้ๆนี้

“ปกป้ององค์ราชินีด้วยชีวิตของพวกเจ้าเหล่าทหารกล้า อย่าให้ข้าผิดหวัง!”

เด็กสาวหันไปมองคนพูด เขาเป็นหนุ่มใหญ่ร่างใหญ่มีเครา หน้าตาคมดุน่าเกรงขาม ควบคุมม้าสีน้ำตาลพาดขาวอยู่ด้านหน้าสุดของขบวนผู้ปกป้องคาร่า และหากเธอไม่ได้จำผิดไป เธอเคยได้ยินบางคนพูดถึงทหารขององค์ราชินี พูดถึงแม่ทัพขององค์ราชินีที่น่ากลัวและเก่งกาจ
หรือนี่จะคือเขา...

ถึงอย่างนั้น.. คาร่าก็คือ.....

เงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่มองลงมาหากันพอดี เธอเห็นคาร่ายิ้มเจื่อน สายตาเหมือนจะกำลังหาเรื่องอะไรมาแก้ตัวอยู่อย่างนั้น เหมือนตอนที่เธอบังเอิญไปเห็นหล่อนกับน้องสาวทำอะไรกันนั่นเลย

“องค์ราชินี.?” อิสซาเบลล่าพึมพำคำถามอย่างไม่เต็มเสียงราวไม่กล้าพูด หากเธอคงไม่มีเวลาจะพูดอะไรต่อหรือจะรอฟังใครตอบคำถามนี้ให้ เมื่อได้เสียงจากที่ไกลๆตะโกนแทรกเข้ามา

“คาร่าไปซะ! ข้ากับไอซิสจะจัดการตรงนี้เอง ไปเดี๋ยวนี้!”

และจากนั้นทุกอย่างก็เกิดขึ้นเร็วมาก คนที่หน้าตาเหมือนแม่ทัพขององค์ราชินีก็ควบม้าวิ่งนำหน้าไปอีกทาง และม้าขาวที่เธอนั่งอยู่ก็เคลื่อนไหวตามไป พวกเธอถูกขนาบข้างและต้อนหลังด้วยม้าอีกหลายตัว

สิ่งที่เห็นที่เกิดขึ้นอยู่ตรงนี้เป็นคำตอบได้อย่างดีแล้วใช่ไหมว่า เธอกำลังนั่งอยู่บนหลังม้ากับใคร..

องค์ราชินี...

 :33: :33: :33: :33:



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.