web stats

ข่าว

 


Viewfinder - บทที่ 5 Slide Away

โพสต์โดย: anhann วันที่: 05 กันยายน 2019 เวลา 22:36:43 อ่าน: 579






บทที่ 5 Slide Away





เคลลี่ออกจากห้องพักมาหาที่สูบบุหรี่ระหว่างรอแอนน์อาบน้ำ  ที่จริงก็ไม่ได้อยากจะสูบสักเท่าไหร่  วันนี้ไม่ได้สูบสักมวนยังอยู่ได้  แต่ตอนนี้เธออยากให้สมองโล่งสักหน่อย  ล้ำเส้นกับแอนน์ไปหลายอย่าง  ถึงพี่เขาจะไม่ว่าอะไร  เธอก็ควรคิดเองได้  ควรจะมีจิตสำนึก  แอนน์มีแฟนแล้ว  ไม่ควรไปคิดอะไรเกินเลยด้วย  แต่มันช่วยไม่ได้  อย่างกับหัวใจมันเลือกได้ว่าจะรักหรือจะชอบคนไหนดี 

มันไม่ใช่แค่ปลื้มใครสักคนแล้วละ  มันมากกว่านั้น  และมันควรจะหยุดแค่นี้  ก่อนที่เราจะทำอะไรพลาดไป  ทำให้เราเสียใจกันทั้งคู่

"ทำไมถึงชอบสูบกันนักนะ"

เสียงบ่นของใครบางคนดึงสายตาเคลลี่ให้หันไปมอง  เห็นหน้าแล้วจึงแกล้งพ่นควันให้หน้าเสียเลย  ผู้หญิงตัวสูงสะบัดหน้าหนี  แต่ไม่ได้เดินหนี  อดทนเก่งเหมือนกันแฮะ  แหงละ  ขนาดโดนแอนน์ไล่ตรงๆ ยังไม่ยอมไปเลย

"ไม่อยากดมก็ไปที่อื่น  ที่นี่มันเขตสูบบุหรี่"  เคลลี่ว่า  พยักพเยิดไปทางป้ายที่ระบุไว้ชัดเจนว่าเป็น  "เขตสูบบุหรี่" ของโรงแรม 

"เอากุญแจนี่ไป  แล้วเอากุญแจห้องเธอมา"  นารูมิพูดหน้าตาเฉย  ยื่นคีย์การ์ดให้เคลลี่ที่มองมันแล้วมองหน้าเธอด้วยรอยยิ้มเยาะ  เกลียดหน้าไอ้เด็กนี่ชะมัด  สวยแต่กวนประสาทเป็นบ้า!

"ฉันพูดน่ะ  ได้ยินบ้างไหม"

"ได้ยิน  แต่ไม่ให้  มีอะไรไหม  จะเอาปืนมาจ่อหัวฉันเหรอ  มาสิ"

"นี่อย่าท้านะ"

"ก็มาดิ  ฉันก็อยากตายอยู่เหมือนกัน  แต่ฆ่าตัวตายมันบาป  ถ้าเธอจะฆ่าฉันก็จะขอบใจมาก"  เคลลี่พูด  ยิ้มเจ้าเล่ห์  ดูดบุหรี่ไปอีกปื้ดใหญ่  แล้วพ่นใส่หน้านารูมิเต็มๆ  เพราะอีกฝ่ายไม่ได้หลบ  มัวแต่โกรธเธออยู่จนหน้าแดงก่ำ

"ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม  ไปละ  คงไม่เจอกันอีกนะ" 

นารูมิขยับไปดักหน้าเคลลี่ที่บี้บุหรี่กับทรายแล้วจะเดินกลับห้องพัก  สองสายตาประสานกันอย่างท้าทาย  แม้เคลลี่จะเตี้ยกว่า  แต่รูปร่างไม่ได้ด้อยกว่ากัน  นารูมิมองออกว่าเคลลี่น่าจะมีวิชาติดตัวอยู่บ้าง  ดูจากวิธีการหลบเลี่ยงเธอ  การเคลื่อนไหวร่างกายที่บ่งบอกว่าเป็นผู้ได้รับการฝึกฝน  ไม่ใช่คนทั่วๆ ไปที่ไม่เคยเล่นอะไรมาเลย  มิน่า  ถึงไม่กลัวอะไรเลยแบบนี้

"เธอคิดไหมว่า  เจ้านายเธอทุเรศมาก"

"ว่าไงนะ!"

"ฉันบอกว่า  เจ้านายเธอทุเรศมาก"  เคลลี่ย้ำ  ล้วงหมากฝรั่งดับกลิ่นบุหรี่มาแกะเคี้ยวและเป่าใส่หน้านารูมิที่จำเป็นต้องขยับถอยไป  เกรงว่าลูกโป่งหมากฝรั่งจะแตกใส่หน้า

มันก็แตกจริงๆ  แล้วเคลลี่ก็เอามาเคี้ยวๆ ใหม่  แต่ครั้งนี้ไม่ได้เป่า  เธอมองหน้านารูมิอย่างสมเพช  แล้วพูดต่อ

"ผู้หญิงเขาไม่อยากไปหา  ยังใช้วิธีสกปรกให้ลูกน้องมาขอกุญแจจากฉันที่เป็นคนละฝ่ายกัน  ไม่คิดว่ามันน่าเกลียดบ้างหรือไง  หือ  หรือคิดว่ายังไง  แอนน์ก็ต้องยอม  งั้นสิ  บังคับคนให้ทำเรื่องแบบนั้นด้วยโดยที่เขาไม่เต็มใจ  ก็ไม่ต่างอะไรกับการข่มขืนหรอกนะ  หรือทำจนชินแล้วล่ะ"

นารูมิเผลอกำหมัดจะชกหน้าเคลลี่ให้หายปากเสีย  แต่อีกฝ่ายหลบได้อย่างสบายๆ  จับแขนเธอไว้ทัน  ทั้งยังคายหมากฝรั่งออกมา  จับมันยัดใส่ฝ่ามือเธอและจัดมือเธอให้กำมันไว้  จากนั้นก็เดินจากไปหน้าตาเฉย  เธอก็มัวแต่งงจึงได้แต่มองตาปริบๆ ตามไป  กว่าจะรู้ตัวหมากฝรั่งก็เยิ้มอยู่ในมือแล้ว  เธอรีบสลัดมันทิ้งถังขยะ  ล้วงเอาทิชชูมาเช็ดมือตัวเอง

"ไอ้เด็กเวร  ฉันเกลียดแก!"  บอดี้การ์ดสาวข่มฟันพูด  แต่ผู้ชายที่เดินมาจะสูบบุหรี่บ้างกลับสะดุ้งและเดินหนีไปด้วย 

สงสัยหน้าตาเธอตอนนี้คงเหมือนนางยักษ์เต็มที่เลย

.................................................

เคลลี่รีบเดินกลับห้องพัก  กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับแอนน์  อีกใจก็กลัวว่ากลับไปแล้วจะไม่เจอแอนน์อยู่ที่ห้อง  ถ้าไม่เจอจริงๆ จะไปทำอะไรได้  แอนน์จะไปไหนมาไหนไม่จำเป็นต้องบอกเธออยู่แล้ว  แค่คนทำงานด้วยกัน  จะไปเอาอะไรมาก

ไม่มีใครอยู่ที่ห้องจริงๆ

เคลลี่เสียบการ์ดปลดล็อกประตูเข้ามา  แสงไฟติดขึ้นเองอัตโนมัติเมื่อมีคนอยู่  แต่มีเพียงเธอที่อยู่ในห้องนี้  กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของแอนน์ยังไม่ได้หายไปไหน  แค่ถูกย้ายไปใกล้ตู้เก็บเสื้อผ้า  แปลว่าแอนน์ไม่ได้ย้ายห้องไป  แค่ไม่อยู่...

นั่นสิเนอะ  ต่อให้จับมือกันแน่นแค่ไหน  มันก็ต้องปล่อย

เคลลี่ถอดรองเท้าวางบนชั้นวาง  ตรงนี้ก็ไม่มีรองเท้าแอนน์อยู่  เธอเริ่มแน่ใจแล้วว่าคืนนี้คงต้องอยู่คนเดียว  แต่แอนน์ก็บอกเธอเป็นนัยๆ แล้วว่าอาจจะไม่อยู่ห้อง  ก็เรื่องปกติ  แฟนมาหาก็ต้องไป

เธอเดินเข้าห้องน้ำ  ล้างปาก  กินน้ำจากก็อก  หยิบแล็ปท็อปออกมาจากกระเป๋า  ตั้งใจจะทำงานต่อ  คลิปที่ถ่ายมาเมื่อเช้าในร้านเบอร์เกอร์เชคแชคจะต้องพร้อมเอาลงพรุ่งนี้ตามตารางงาน  แต่ทำไปได้นิดเดียว  เธอก็เริ่มเบื่อ  จึงไปเปิดตู้เย็นหยิบเบียร์กระป๋องมาเปิดดื่มให้หายเซ็ง  ถ้าแอนน์ไม่อยู่ดูเวลาตัดต่อ  ก็ยังอัปขึ้นช่องไม่ได้  ทำไปก็เท่านั้นเอง  เธอจึงเซฟงานและคิดว่าจะนอนพักให้สมองโล่งสักหน่อยค่อยลุกขึ้นมาทำต่อ  หากเบียร์ครึ่งกระป๋องคงช่วยให้ผ่อนคลายขึ้น  เธอจึงผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว 

จนไม่ทันเห็นว่ามีใครเข้ามาในห้อง  และยืนมองเธอด้วยรอยยิ้มอยู่ข้างเตียง  ก่อนจะเลี่ยงไปหยิบแล็ปท็อปของเธอไปดู  นั่งดูอยู่บนเตียงที่เธอนอนหลับไม่รู้เรื่องนี่แหละ

"แอนน์..."  เคลลี่เผลอเรียกชื่อหญิงสาวที่เธอฝันถึงทุกคืน  ไม่นึกว่าจะได้ยินเสียงตอบกลับ

"หืมม์  อะไร"

คิ้วเธอกระตุก  เคลลี่ลืมตาขึ้น  เห็นร่างหนึ่งนั่งเท้าคาง  ขัดสมาธิอยู่บนเตียง  หันหน้ามาทางเธอ  แสงสีฟ้าจากคอมพิวเตอร์พกพาส่องใบหน้าขาวให้ยิ่งขาวสว่าง  ขับกับคิ้วเข้มสีดำ  ถ้าเธอเป็นคนกลัวผีก็อาจจะกลัวก็ได้  เพราะหญิงสาวที่เธอเห็นอยู่นี้สวยงามจนไม่เหมือนมนุษย์

"ลุกขึ้นมาทำงานเลย  นอนมองอยู่ได้"  แอนน์พูด  เอื้อมมือมาบีบจมูกคนที่ยังนอนมองจ้องเธอเหมือนเห็นเป็นตัวประหลาด  เคลลี่เบี่ยงหน้าหลบและหัวเราะ  มันเป็นเสียงหัวเราะที่เธอชอบฟัง  มันน่ารัก

"ไม่อยู่แป๊บเดียว  อู้งานเหรอ"

"ก็นึกว่าจะไม่กลับ"  เคลลี่ตอบ  ลุกขึ้นนั่ง  บิดขี้เกียจ  ปิดปากหาว  ลอบมองใบหน้าหญิงสาวที่ทำหน้ามุ่ยกลับมา  "ฉันไม่ว่าหรอก  บอกแล้วไง  ถ้าไม่กลับก็ไว้ค่อยมาดูพรุ่งนี้ก็ได้"

"อยากให้ไปมากนักเหรอ"  แอนน์ย้อน  มองหน้าเคลลี่นิ่งๆ  เธอแค่ออกไปคุยโทรศัพท์กับวิคโตเรียให้รู้เรื่องเท่านั้น  พยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว

"ถ้าอยากก็จะได้ไป"

"ไม่อยาก"  เคลลี่ตอบ  เอื้อมมาลากแล็ปท็อปของตัวเองคืน  แต่แอนน์ก็ดึงมันไว้  ทำหน้าขู่ (แต่ไม่น่ากลัว) ให้เธอยอมปล่อยมือ  เคลลี่ยิ้มขำกับความชอบเอาชนะของคนตัวเล็ก  จากนั้นก็ยอมตามใจ  ขยับตัวมานั่งข้างๆ เอง  เห็นแอนน์ยิ้มสะใจแล้วก็อยากจะหยิกแก้มสักที 

ทำได้แค่คิดนั่นแหละ  กล้าไปแตะตัวก่อนเสียที่ไหนล่ะ

"โอ๊ย  ช็อตนี้เอาออกเลย  ฉันอ้าปากกว้างมากอะ  น่าเกลียด" 

"อะไร  น่ารักดีแล้ว" 

"ไม่เอา  เอาออก  ไม่สวย"  แอนน์งอแง  ตีแขนเคลลี่ที่ยิ้มเหมือนตลกเธอมากอยู่ได้  "ฉันไม่ได้สวยทุกมุมเหมือนเธอนะ  ไอ้คนสวย"

"ฉันไม่ได้สวยสักหน่อย"  เคลลี่แย้ง  ส่ายหัวไปมา  "เนี่ย  น่ารักดี  ถ้าเอาใส่ไปด้วยนะ  ยอดไลค์ต้องเยอะแน่ๆ"

แอนน์ทำปากตุ่ย  ค้อนเคลลี่ที่ไม่ยอมทำตามใจเธอ  จริงๆ ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรมาก  แค่เธออาย  มันดูเหมือนเด็กน้อยไปหน่อย  เธอไม่ใช่เด็กแล้ว  ยี่สิบห้าจะยี่สิบหกอยู่แล้ว

"เอาน่า  เวลาพี่ไลฟ์สด  มันก็มีอยู่แล้ว  คนเขาก็เห็นกันหมดละ"

"งั้นไม่ไลฟ์ละ"

"ทำเป็นตลก"  เคลลี่พูด  เอามือกุมหัวเพราะโดนมือเล็กๆ มาเคาะ  แอนน์ถลึงตาให้เธอ  แต่ไม่บ่นอะไรแล้ว  ตอนนี้ก็นั่งมองเธอทำงาน  เท้าคางไปๆ มาๆ  ก็เอนหัวมาพิงไหล่เธอเหมือนคนไม่มีกระดูก 

เธอชอบเวลาแบบนี้ที่สุด  เวลาเราตัดต่องานด้วยกัน  แอนน์จะต้องมานั่งดูเธอทำงานด้วย  วิจารณ์นู่นนี่ด้วยสีหน้าจริงจังเป็นการเป็นงาน  แต่บางครั้งก็ร้องงอแงออกมา  บ่นว่าตัวเองไม่สวยในจอ  หากสุดท้ายก็ยอมให้เธอตัดสินใจ  อ้างว่าเพราะเธอมองจากสายตาคนดู  ฉะนั้นจะเชื่อก็ได้

"ง่วงก็ไปนอน  เสร็จแล้วเนี่ย  เดี๋ยวจะอัปให้"

"ทำให้เสร็จๆ เหอะ" 

"มันนาน  นอนไปก่อน"

"ถ้าเธอไม่มัวหอนอยู่  ก็เสร็จไปนานแล้ว"  แอนน์พูด  กัดปากกลั้นขำเมื่อเคลลี่หันขวับมาทำตาโตใส่เธอ  "ก็จริงอะ  ชอบบ่นงึมงำๆ เป็นฮัสกีเลย  บ่นเก่ง"

"ยังกับตัวเองไม่น่าบ่นงั้นละ"  เคลลี่ว่า  หากในใจยิ้ม  เธออัปโหลดวิดีโอเสร็จแล้วก็พยักพเยิดให้แอนน์ทดลองเปิดดู  แต่คุณผู้หญิงก็สั่งให้เธอเปิดให้ดู  ดูไปดูมาก็ปิดปากหาว  สุดท้ายก็มานอนหนุนตักเธอเสียอย่างนั้น

เคลลี่ก้มมองคนบนตัก  แอนน์ไม่ได้หลับ  แต่นอนดูคลิปด้วยสีหน้าอ่านได้ยาก  เธออยากจะถามว่าคุณพี่เขาคิดอะไรอยู่  เมื่อกี้ไปไหนมา  หากก็หยุดปากเอาไว้  ไม่ใช่เรื่องของเธอสักหน่อย  แค่ตอนนี้แอนน์อยู่ตรงนี้ก็พอ

"สบายเนอะ  คนเรา"

"พรุ่งนี้เราไปกินบุฟเฟ่ต์กันที่ Bacchanal Buffet ตอนสายๆ แล้วไปถนนฟรีมอนต์กัน  เช่ารถไป"  แอนน์พูดเป็นฉากๆ  ไม่สนใจจะโต้แย้งคำเหน็บแนมของเคลลี่  ตาไม่ได้มองเพราะกลัวจะเสียสมาธิจนคิดงานไม่ออก  แค่มีนิ้วของอีกฝ่ายเกี่ยวเส้นผมเธอไปเล่นแบบนี้  สติเธอก็แทบจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอยู่แล้ว  ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอนอนหนุนตักน้อง  และเคลลี่เล่นผมเธอ  เราสนิทกันจนการถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้มันไม่แปลก  แต่ถ้าวิคโตเรียมาเห็นคงไม่ตลกกับเราแน่นอน

"ไปถ่ายเขาเล่นซิปไลน์กัน  และไปพิพิธภัณฑ์นีออน"

"ซิปไลน์  สลอตซิลลา  ซิปไลน์น่ะเหรอ"

"อือ  ที่วิ่งขนานไปกับหลังคาแอลซีดี  และได้ลุ้นรางวัลแบบสลอตน่ะ"

"ฉันไปลองร่อนดูบ้างดีไหม  เผื่อจะรวยกับเขาบ้าง"

"อยากรวยกับอยากตายใกล้กันนิดเดียว" 

เคลลี่มุ่นคิ้วมองคนบนตัก  แอนน์ช้อนตาขึ้นมองเธอ  สายตาแบบนี้ชวนให้คิดไม่ซื่อยิ่งนัก  แอนน์จะรู้ตัวบ้างไหมว่าทำให้เธอทุกข์ทรมานมากขนาดไหน  เธอหลับตาลง  เผื่อว่ามันจะช่วยบรรเทาอารมณ์โหยหาที่เกิดขึ้นได้บ้าง  ลืมตาขึ้นอีกครั้งก็หันไปเก็บงานในแล็ปท็อปอีกนิด  แล้วปิดมัน

"ลุกหน่อยสิ  ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ  จะนอนแล้ว  ง่วง"

แอนน์ยอมลุกแต่โดยดี  หากศีรษะตนก็เฉียดปลายจมูกของอีกคนจนรู้สึกได้ถึงอาการเกร็ง  เคลลี่มองเธอด้วยสายตาเหมือนหมาป่าจ้องเหยื่อ  แต่ปรานีพอที่จะไม่ตะครุบกันตอนนี้  ถึงอย่างนั้นเธอก็เสียวสะท้านและรู้สึกได้ว่าประจำเดือนเธอไหลทะลัก

นั่นละ  สิ่งที่ช่วยให้เธอไม่ต้องไปอยู่วิคโตเรียคืนนี้  เธอเป็นเมนส์!

เคลลี่ลุกจากเตียงจะไปหยิบเสื้อผ้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำด้วย  เธอเห็นถุงยาบนโต๊ะพอดี  จึงหันมามองแอนน์อย่างอดไม่ได้  อีกฝ่ายยักไหล่

"ปวดท้องเมนส์  เลยลงไปซื้อยา  ซื้อผ้าอนามัยด้วย"  แอนน์เล่าอย่างไม่จำเป็น 

เคลลี่ได้ยินแบบนี้แล้วก็โล่งใจ  นึกขอบคุณแอนน์ที่บอก  อย่างน้อยคืนนี้แอนน์ก็ไม่ได้ออกไปให้ใครทำอะไรแบบนั้นมา  ถึงจะรู้ว่าคืนก่อนๆ  แอนน์ก็เคยร้องไม่เป็นภาษาอยู่ใต้ร่างใครคนอื่น  เคยมีคนเห็นแอนน์ในแบบที่เธอไม่เคยเห็น  และคงไม่มีวันได้เห็น 

พอเถอะ  เคลลี่  อย่าทรมานตัวเองไปมากกว่านี้เลย  เขามีผัวแล้ว!  แล้วจะทำไมล่ะ  เธอไม่ได้อยากได้ผัวเขานี่นา  เธออยากได้แอนน์...

แล้วเคลลี่ก็ไม่ได้แค่เปลี่ยนเสื้อผ้า  เธอแช่น้ำในอ่าง  เปิดน้ำให้แรงๆ  ให้เสียงมันดังพอจะกลบเสียงตัวเองคราง  การช่วยตัวเองไม่ได้ผิด  นักวิจัยชื่ออะไรไม่รู้บอกว่ามันช่วยผ่อนคลายสมองได้  และช่วยไม่ให้เราไปวุ่นวายกับคนอื่น  ถึงอย่างนั้นมันก็ช่วยได้แค่ร่างกาย  หัวใจเธอยังคงร่ำร้องหาคนที่ไม่มีทางได้มาไว้ในอ้อมแขนอยู่ทุกวัน

เธอเสียเวลาในห้องน้ำไปเป็นชั่วโมง  ออกมาก็เจอแอนน์นอนบนเตียงฝั่งตัวเอง  หันหลังให้  ไฟโคมด้านนั้นปิดแล้วเหลือแค่ไฟของเธอ  เคลลี่เดินไปหยิบสกินแคร์ในกระเป๋ามาทาตัวกับใบหน้า  ถึงจะไม่ชอบแต่งหน้าก็ยังชอบดูแลผิวอยู่  ระหว่างนั้นเธอได้ยินเสียงพึมพำดังขึ้นในความเงียบ

"อาบน้ำนานมาก  นึกว่าตาย"

"แช่งกันไปเถอะ  ถ้าตายจริงๆ อย่ามาเสียใจละ"

"ห้ามตาย!"

เคลลี่ตกใจเมื่ออยู่ๆ แอนน์ก็เสียงดังขึ้นมา  นัยน์ตาสีช็อกโกแลตที่หันมาจ้องเธอมีวาวน้ำคลออยู่ข้างใน  สักพักใบหน้าขาวใสก็มีรอยแดงขึ้นตรงผิวแก้ม  และน้ำหยดหนึ่งก็ร่วงลงจากดวงตา  พาให้เธอใจหายวาบ

"ร้องไห้ทำไม  แอนน์!"  เธอถาม  ตกอกตกใจ  รีบถลามากอดปลอบคนที่อยู่ๆ ก็ร้องไห้ขึ้นมาเฉยๆ  แต่ยิ่งปลอบแอนน์ก็ยิ่งร้องดังขึ้น  จนเธอต้องลูบหลัง  ลูบหัวปลอบขวัญอย่างกับปลอบเด็กเล็กๆ 

"เฮ้  ฉันยังไม่ตายสักหน่อย"

"แล้วจะพูดทำไม"  แอนน์งอแง  กำเสื้อเคลลี่แน่น  น้ำตาเธอเปียกเสื้อยืดสีขาวของอีกฝ่ายหมดแล้ว  มันเปื้อนลิปกลอสของเธอด้วย  แต่เธอก็ยังตีเคลลี่เหมือนเคืองกันเสียมากมาย  น้องมันคงงง  หากไม่ได้ว่าอะไร  แค่กอดเธอไว้จนเธอสงบลงเอง 

"อย่าพูดอีกนะ"

"โอเค"  เคลลี่ตอบ  ประคองคนตัวเล็กลงนอน  "นอนนะ  พรุ่งนี้จะได้ตื่นเช้าๆ  มาดูคอมเมนต์"

แอนน์พยักหน้า  ขยี้หูขยี้ตาน่าเอ็นดู  อยากจะจับมาจูบปลอบนัก

เคลลี่ยิ้มบางๆ  ดึงผ้าห่มมาห่มให้แอนน์และกำลังจะกลับเตียง  แต่เสียงงอแงกับแรงดึงตรงเสื้อก็เรียกให้หันไปมอง

"นอนนี่สิ"  แอนน์ขอ  ดึงเสื้อเคลลี่ให้กลับลงมานั่งบนเตียงตัวเอง

"เป็นอะไร  งอแงเป็นเด็ก"  เคลลี่บ่นไปอย่างนั้น  เธอกลับลงนั่งมองแอนน์อยู่พักหนึ่งก็ถอนใจ  หันไปเอื้อมหยิบหมอนจากอีกเตียงมาและล้มตัวลงนอนข้างแอนน์  แต่หันหลังให้  อยู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีแขนเล็กๆ มากอดตัวเธอจากด้านหลัง 

"เหงาอะ  ขอกอดหน่อย"  แอนน์กระซิบกับแผ่นหลังคนตัวโตกว่าที่เอาหน้าซุกอยู่  ตัวเคลลี่อุ่นมากๆ  หอมสบู่  สบู่กลิ่นเดียวกันแต่พออยู่บนตัวเคลลี่กลับหอมอีกอย่าง  หรือกลิ่นโลชั่น

"แต๊ะอั๋งเหรอ"  เคลลี่แกล้งแซว  เสียววาบเมื่ออยู่ๆ แอนน์ก็แทรกมือเข้ามาในเสื้อเธอ  หยิกเนื้อตรงหน้าท้องให้เจ็บจี๊ดก่อนจะลูบมันเบาๆ

"มันเขี้ยว"  แอนน์พูด  สุ้มเสียงบ่งบอกว่ามันเขี้ยวกันจริงๆ  เคลลี่งงกับพฤติกรรมของอีกฝ่าย  หากก็ปล่อยให้ตัวเองโดนแกล้ง  จนแอนน์เงียบไป  เธอเหลียวมามองก็พบว่าคนตัวยุ่งแต่น่ารักชะมัดหลับไปแล้วเรียบร้อย

แล้วเธอจะปล่อยให้แอนน์กอดอยู่แบบนี้หรือ  มือจะล้วงกางเกงเธออยู่แล้ว  ถ้าต่ำลงไปอีกนิดก็เสร็จกัน  ทำไมเธอจะต้องโดนกระทำชำเราอยู่ฝ่ายเดียวด้วยนะ 

เคลลี่นอนไม่หลับ  จะหลับลงได้ยังไงล่ะ  แต่ถ้าขยับแอนน์ก็จะตื่น  เธออยากให้แอนน์นอนให้สบาย

"ก็ได้วะ  นอนแบบนี้ก็ได้  ผู้หญิงอะไรไม่รู้วุ่นวายชะมัด"  เธอบ่นพึม  จับมือเล็กๆ บนท้องตัวเองไว้  กลัวแอนน์จะเผลอคิดว่าเธอเป็นแฟน  และทำอะไรที่เพื่อนหรือพี่น้องเขาไม่ทำกัน

...................................................

วิคโตเรียนั่งตรวจงานจนดึก  เพราะถึงนอนก็คงนอนไม่หลับ  แทนที่จะนั่งจิบไวน์อย่างเดียว  เอางานมาทำด้วยดีกว่า  เธอนั่งอยู่บนโซฟานั่งเล่นในห้องพักกว้างขวางหรูหรา  มีระเบียงและวิวสวยงาม  หากมีแค่แล็ปท็อปกับหนังสือสองสามเล่มเป็นเพื่อนร่วมห้อง  เธอไล่ให้นารูมิไปนอนแล้ว  ห้องของบอดี้การ์ดสาวอยู่ติดกับห้องเธอ  มีประตูเปิดถึงกันได้  นารูมิได้พักห้องดีกว่าลูกน้องคนอื่นๆ  ด้วยเหตุผลที่เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่ม  และผู้หญิงสวยๆ ขนาดนี้จะให้ไปนอนรวมกับผู้ชายสี่ห้าคนได้ยังไงกันล่ะ  ถ้าเจ้าพวกนั้นอยากจะได้รับสิทธิพิเศษอย่างนี้ก็กลับไปเกิดเป็นผู้หญิงละกัน

เสียงโทรศัพท์มือถือข้างแล็ปท็อปดังขึ้น  วิคโตเรียเหลือบตาขึ้นมองมันสั่น  แอนน์คงไม่โทรมาตอนนี้หรอก  คงหลับซุกอกเจ้าเด็กเคลลี่ไปแล้วละดึกป่านนี้  ถ้าอย่างนั้นก็เหลือแค่คนเดียว

"ฉันว่าแล้วว่าคุณยังไม่นอน" 

"มีอะไร  จอร์แดน"

"พูดกับคู่หมั้นตัวเองแบบนี้เหรอคะ  วิคโตเรีย" 

วิคโตเรียขบฟันกรอด  เกลียดผู้หญิงในสายมากแต่ทำอะไรไม่ได้  มันมีหลายเรื่องที่เธอต้องพึ่งพาหล่อน  รวมถึงเรื่องแอนน์  จอร์แดน  มิลเลอร์  ถึงได้ทำตัวถือไพ่เหนือกว่าเธอแบบนี้เรื่อยมา 

"พูดกับฉันดีๆ  แล้วสักวันฉันจะถอนหมั้นให้  เราตกลงกันไว้แบบนี้ไม่ใช่หรือคะ  ที่รัก  หรือจะให้ฉันไปบอกแม่นกน้อยของคุณดีล่ะ  ว่า --"

"ฉันจะกลับนิวยอร์กพรุ่งนี้  มารับด้วย"  วิคโตเรียพูดสวน  แต่ไม่ได้ทำให้ปลายสายหงุดหงิดใจ  จอร์แดนตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงร่าเริงน่าโมโห

"ตกลงค่ะ  แล้วฉันจะไปรับคุณด้วยตัวเองเลย  ที่รัก" 

"อย่าเรียกฉันว่า  ที่รัก"

"ได้ค่ะ  ที่รัก"  จอร์แดนตอบ  หัวเราะคิก  "ฝันดีค่ะ  วิค"

วิคโตเรียไม่ตอบ  แต่ปาโทรศัพท์มือถือตัวเองไปใส่ที่นอน  แล้วเดินไปเคาะประตูห้องนารูมิ  อีกฝ่ายสะดุ้งตื่น  เกือบลืมใส่เสื้อคลุมตอนมาเปิดประตูต้อนรับเธอ

"มีอะไรเหรอคะ  ท่าน  เอ่อ... คุณวิค"  นารูมิถาม  พลางลูบหัวยุ่งๆ ของตัวเองให้เป็นทรง  เธองงเมื่อเห็นวิคโตเรียอมยิ้มเหมือนขำอะไรสักอย่างทั้งที่เมื่อกี้ทำเหมือนจะมาฆ่าใคร

"โทษทีที่ต้องปลุกกลางดึก"  วิคโตเรียพูดหลังจากกระแอมไปหนึ่งที  "พรุ่งนี้ฉันต้องกลับนิวยอร์ก..."

"จะให้ฉันเก็บเสื้อผ้าเลยใช่ไหมคะ"

"ไม่ใช่  เธออยู่ที่นี่"

"ให้ฉันอยู่"  นารูมิถามงงๆ  "อยู่กับใครล่ะคะ  แล้วอยู่ทำไม"

"เธออยู่คนเดียวได้ไหมล่ะ  หรือจะให้พวกผู้ชายอยู่ด้วยสักคนก็ได้  เลือกเอาคนหนึ่ง"  วิคโตเรียถาม  อารมณ์เย็นขึ้นอย่างน่าประหลาด  เธอเองยังแปลกใจที่หลายๆ ครั้งนารูมิทำให้เธอยิ้มได้ทั้งที่หงุดหงิด

เพราะสวยและเอ๋อดีละมัง

"ฉันอยู่คนเดียวดีกว่าค่ะ"  นารูมิตอบหลังจากนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง  ถึงเธอจะไม่เคยมาลาสเวกัสมาก่อน  แต่เธอคงไม่หลงทางหรอก  เมืองแค่นี้  ถามคนอื่นเอาก็ได้  ดีกว่าให้อยู่กับผู้ชายที่ไหนไม่รู้  โดยเฉพาะนายทอมมี่

"แน่ใจนะ"

"ค่ะ"

"งั้นก็ตามใจ"

"เดี๋ยวค่ะ"

วิคโตเรียเหลียวกลับมา  มองมือที่รั้งไหล่เธอไว้  นารูมิรีบปล่อยมืออย่างนึกขึ้นได้  เธอหันมากอดอกมองบอดี้การ์ดสาวขึ้นๆ ลงๆ

"ก็คุณยังไม่บอกเลยว่าจะให้ฉันอยู่ทำไม"  นารูมิตอบ  ทำหน้าตาเหมือนจะประท้วงเจ้านายที่สั่งอะไรไม่เคลียร์  วิคโตเรียจึงนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้สั่งงานให้รู้เรื่อง

แต่มันดูงี่เง่ายังไงไม่รู้แฮะ

"แค่ตามดูเจ้าเด็กเคลลี่"

"เคลลี่..."

"ก็คนนั้นไง"

"อ๋อค่ะ"  นารูมิพยักหน้าหงึกๆ  "แล้วตามอย่างเดียวเหรอคะ  หรือจะให้ทำอะไรอีก  หรือว่า..."

"ตามอย่างเดียวพอ  หรือถ้าเธออยากจะทำอย่างอื่นก็ตามใจ  แค่อย่ายุ่งกับผู้หญิงที่อยู่กับมัน  เข้าใจนะ"  วิคโตเรียสั่งเร็วๆ  เสร็จแล้วก็ดึงประตูที่เชื่อมต่อกันปิด  หากกลับเปิดกลับมาใหม่เมื่อนึกได้ว่ายังสั่งไม่จบ  แต่แล้วก็ต้องปิดมันอีกครั้ง  ล็อกกลอนอย่างแน่นหนา  ไม่กล้าไว้ใจตัวเอง

ใครจะไปคิดว่าจะมีผู้หญิงกล้าแก้ผ้านอนในโรงแรมแบบนี้ด้วยล่ะ



........................................


แขกรับเชิญ (?)

จอร์แดน  มิลเลอร์



Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

06 กันยายน 2019 เวลา 12:57:19
มีมาเพิ่มอีกหนึ่งท่าน ท่าทางจะป่วนซะด้วย
แสดงความคิดเห็น