ในที่สุดการเดินทางกลับบ้านก็เป็นอันต้องล้มเลิกเมื่อมีเรื่องใหญ่มากเกิดขึ้นและนั่นก็เป็นเหตุให้คนที่โดนยัดเยียดความผิดต้องมานั่งคอตกอยู่แบบนี้
“มีอะไรจะบอกพ่อมั้ยมัท”
“คือ,,,”
“คืออะไรมัทถ้าหทัยไม่พูดป่านี้พ่อก็คงไม่รู้ว่ามัททำเรื่องใหญ่ขนาดนี้”
“มันไม่ใช่แบบนั้นนะคะ”
“แล้วมันแบบไหนล่ะมัทแบบไหนบอกพ่อซิ!”
ทรงวุฒิเริ่มควบคุมเสียงของตัวเองไม่ได้ ตอนนี้เขาไม่แน่ใจว่ากำลังรู้สึกโกรธบุตรสาวที่ทำตัวเหลวไหลหรือว่าอิจฉาคนที่ได้ครอบครองผู้หญิงที่เขารักกันแน่
“มัทกับคุณหทัยเราไม่เคยมีอะไรเกินเลยกันนะคะ”
“ไม่มีงั้นเหรอแล้วทำไมหทัยเค้ากล้าพูดกล้าทำขนาดนั้น”
“เค้าอาจกำลังจะแก้แค้นเราไงคะ แก้แค้นพ่อที่ทิ้งเค้าไป แก้แค้นมัทที่เป็นต้นเหตุให้เค้าต้องสูญเสีย”
มัทนาพูดสิ่งที่ติดอยู่ในความคิดออกมาแต่เหมือนถ้อยคำของเธอจะไม่ได้รับความสนใจจากคนฟังเลยแม้แต่น้อยเพราะตอนนี้พ่อของเธอเอาแต่ส่ายหน้าไปมาราวกับไม่ยอมรับเหตุผลใดๆ
“พ่อต้องฟังมัทนะคะ”
“เหตุผลมันอาจจะฟังขึ้นถ้าหทัยไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นต่อหน้าคนอื่น”
“ก็เค้าอยากจะแกล้งเราไงคะ คนแบบนั้นทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น”
“แต่หทัยจะไม่ทำแบบนั้นถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริง”
“นี่พ่อเชื่อคนอื่นมากกว่ามัทเหรอคะ”
“’งั้นบอกพ่อสิว่าสิ่งที่พ่อได้ยินและได้เห็นมันไม่ใช่เรื่องจริง”
มัทนาถึงกับพูดไม่ออกก่อนจะหลบสายตาคนถามไปทางอื่น ทุกอย่างคือเรื่องจริงที่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้แต่ในความจริงมันก็ปนความเท็จอยู่แต่ใครจะเชื่อเธอล่ะ
บ้านหลังใหญ่แทบจะพังเมื่อปาลิตาเอะอะโวยวายพร้อมกับทำลายข้าวของไปด้วย เธอสุดจะกลั้นจริงๆกับเรื่องที่ได้ยินและเห็นมากับตาไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องที่กลัวจะเป็นความจริงและดูเหมือนจะเลยเถิดมากกว่าที่เธอคิดซะอีก
“พอใจหรือยังปาลิตา”
“ยัง! ตาจะทำลายให้หมดแต่ถ้าอยากให้ตาหายก็ไล่พวกมันไปสิจะให้อยู่เสนอหน้าอีกทำไม”
“อย่าก้าวร้าวกับพี่”
“ทำไมคะ ทำไมต้องเป็นมันทำไม!”
ปาลิตาเดินเข้าไปเขย่าตัวคนที่ทำให้ผิดหวังอย่างแรงจนนรีรัตน์ต้องเดินเข้ามาดึงตัวน้องสาวออกไป
“ตาพอเถอะ”
“ไม่! ยังไงวันนี้ก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง”
“ไประงับสติให้ได้ก่อนแล้วเราค่อยมาคุยกัน”
หทัยภัทรเอ่ยออกมาเสียงเรียบก่อนจะเตรียมเดินขึ้นไปบนห้องแต่แล้วการก้าวเดินก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินคำพูดจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องสาว
“ไหนบอกจะเอามามาทรมานแก้แค้นที่พ่อมันทำไว้กับตัวเองแต่พอเข้าจริงๆกลับเอาตัวไปเสนอให้มัน…”
พูดยังไม่ทันจบใบหน้าของคนพูดก็ต้องหันไปตามแรงฝ่ามือของคนที่ตัวเองว่าให้ปาลิตาถึงกับมีน้ำตาไหลออกมาตอนนี้มีทั้งรู้สึกเสียใจ น้อยใจเจ็บปวดปะปนกันไปหมดเพราะเริ่มรู้แล้วว่าความสำคัญของตัวเองกำลังถูกลดระดับลง
“นรีพาน้องเข้าห้องไปซะ ถ้ามีสติค่อยมาคุยกัน”
พูดจบหทัยภัทรก็เดินขึ้นห้องทันทีเธอรู้สึกเสียใจอยู่ไม่น้อยที่พลั้งมือตบปาลิตาแต่มันก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้วเมื่อเธอตัดสินใจเดินหน้าและตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ปล่อยมัทนาไปง่ายๆเมื่อเงินไม่สามารถรั้งอีกฝ่ายไว้ได้เธอก็คงไม่สามารถใช้อะไรได้อีกแล้วนอกจากตัวของเธอเองแต่เธอก็ไม่ได้พูดเกินจริงอะไรในเมื่อร่างกายทุกส่วนของเธอถูกมัทนาสัมผัสแล้วจริงๆ
เสียงบางอย่างที่ดังมาจากระเบียงหน้าต่างทำให้คนที่กำลังเช็ดผมอดที่หันไปมองไม่ได้และเมื่อแน่ใจว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นหทัยภัทรก็ไม่รีรอที่จะเดินไปดูและพอเปิดม่านก็เจอเข้ากับที่มาของเสียงทันที
“นี่เธอ!”
เจ้าของห้องเอ่ยออกมาอย่างตกใจก่อนจะเปิดประตูแล้วเดินออกไปหาผู้บุกรุก
“มาทำบ้าอะไรบนนี้”
“มาคุยกับคุณ”
“มัทนาเธอจะบ้าไปแล้วเหรอลงไปเลย”
“ไม่ค่ะเรามีเรื่องต้องคุยกัน”
มัทนาเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังก่อนจะดึงมือคนที่ยังไม่หายตกใจกลับเข้าไปในห้องเพราะหากคุยกันที่ระเบียงก็เกรงว่าอาจจะมีคนเห็น
“ใครให้เธอเข้ามาออกไปเลยนะ”
หทัยภัทรโวยวายอีกครั้งก่อนจะดึงมือออกจากการเกาะกุมของคนที่บุกเข้ามา
“ถ้าไม่จำเป็นมัทก็ไม่ขึ้นมาหรอกค่ะ”
“เอาอย่างนี้นะพรุ่งนี้ค่อยคุยกันเธอกลับไปก่อน”
“อย่าบอกนะว่าคุณกลัวมีคนมาเห็น”
มัทนาหรี่ตาจ้องจับผิดคนที่ทำสีหน้ากระวนกระวายจากนั้นก็ส่ายหัวไปมาเพราะไม่อยากจะเชื่อว่าเธอคิดถูก
“ไม่อยากจะเชื่อ”
“เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่เธอแต่ตอนนี้…ออกไป!”
“ไม่ออก”
“ออกไป”
“ไม่ออก”
“งั้นฉันไปเอง”
เจ้าของห้องเอ่ยพร้อมกับการหันหลังเตรียมเดินไปยังประตูห้องแต่หทัยภัทรเดินไปได้แค่ไม่กี่ก้าวก็ถูกใครอีกคนฉุดกลับมาที่เดิม
“จะเอายังไงอีกเธออยากอยู่ฉันก็ให้เธออยู่ยังไม่พอใจอีกเหรอ”
“มัทไม่ได้อยากมาอยู่ห้องนี้ที่มาแค่อยากจะมาคุยเรื่องของเรา”
คนพูดรู้สึกกระดากปากอยู่ไม่น้อยที่เอ่ยเรียกรวมเธอทั้งคู่ว่า ”เรา” แต่จะใช้คำว่าอะไรได้ล่ะถ้าไม่ใช่คำนี้
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับเธอ”
“แล้วเรื่องเมื่อกลางวันล่ะคะมันคืออะไร”
“ไม่รู้ลืมไปแล้ว”
คนพูดทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้พร้อมกับพยายามดันตัวออกห่างจากคนที่จับตัวเธอเอาไว้แต่ยิ่งดิ้นก็เหมือนกับว่าเธอกำลังถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของคนตรงหน้าเรื่อยๆ
“มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะคะ มัทรู้ว่าคุณเกลียดพ่อ แม่แล้วก็มัทมากขนาดไหนแต่ไม่เห็นจะต้องลงทุนมากมายขนาดนี้”
“รู้แล้วก็ออกไปสิแล้วอีกอย่างฉันก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรให้คนอย่างเธอฟัง”
“มัทรู้ค่ะว่าคนอย่างมัทไม่มีค่าพอให้คุณมาเสียเวลาด้วยแต่วิธีของคุณมันทุเรศจนมัทรับไม่ได้!”
มัทนาพูดจบก็ถือโอกาสรวบเอวคนตรงหน้าเข้ามากอดไว้เธอไม่อยากปล่อยช่องโหว่งให้อีกฝ่ายมีจังหวะหนีไปไหนได้อีกแล้วยังไงวันนี้ก็ต้องเคลียร์กันให้รู้เรื่อง
เสียงบางอย่างด้านหลังประตูทำให้สองพี่น้องที่กำลังเดินผ่านมาต้องหยุดฟังอย่างสงสัยและเหมือนจะใจตรงกันเมื่อคนทั้งคู่ต่างเอียงหูฟังอย่างตั้งใจ
หทัยภัทรหยุดการขัดขืนทันทีที่ได้ยินประโยคต่อว่า หญิงสาวเจ้าของห้องค่อยๆโอบมือที่รอบคอของคนที่ว่าให้ตัวเองก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเป็นต่อ
“ทะ ทะทำอะไร”
“ก็ทำเหมือนทุกทีไง”
“ทำอะไรแล้วจะยิ้มทำไมเรากำลังคุยเรื่องเครียดกันอยู่นะคะ”
“ก็อยากยิ้ม”
“อย่ามากวนได้มั้ยเรามาคุยกันดีๆดีกว่านะคะ”
“แล้วท่าทางฉันดูไม่ดีเหรอ”
คนพูดก้มดูตัวเองก่อนจะเงยขึ้นสบตาคนที่ทำหน้าเหลอหลาที่ตอนนี้ปล่อยมือออกจากเอวของเธอแล้วเปลี่ยนมาเป็นพยายามดึงมือของเธอออกแทนเห็นแล้วก็อดที่จะแกล้งกระชับวงแขนให้แน่นขึ้นไม่ได้
“ดึกแล้วมัทว่าไว้คุยกันต่อพรุ่งนี้ดีกว่า”
เด็กหนอเด็กหทัยภัทรยกยิ้มที่มุมปากนึกว่าจะแน่ที่กล้าปีนขึ้นมาถึงบนห้องเธอแต่ดันมาตกม้าตายแค่เจอเรื่องแบบนี้ดีเธอจะทำให้เข็ดจะได้ไม่กล้ามาอวดเก่งกับเธออีก
“ทำไมล่ะตะกี้เธอบอกว่าอยากเคลียร์…เรื่องของเรา”
น้ำเสียงหวานๆบวกกับท่าทางยั่วยวนของคนพูดทำให้คนฟังถึงกับแอบกลืนน้ำลายก่อนจะเบนหน้าไปทางอื่นเพราะรู้สึกราวกับตัวเองกำลังจะเสียศูนย์
“ว่าไงล่ะคะคุยอะไรกันดีเอ…หรือว่าเราจะไปคุยบนเตียงดีคะยืนนานพี่ชักจะปวดขาแล้วล่ะสิ”
คนฟังถึงกับเข่าอ่อนก่อนจะพยายามดันตัวให้ออกห่างจากคนพูดแต่นอกจากจะไม่สำเร็จแล้วเธอยังรู้สึกเหมือนกับโดนลากเข้าไปใกล้เคียงนอนช้าๆแต่ก่อนที่ร่างกายของคนทั้งคู่จะสัมผัสกับเตียงนอนประตูห้องก็ถูกเปิดออกพร้อมกับการเดินเข้ามาเพื่อแยกคนทั้งคู่ออกจากกัน
“ไอ้สารเลว”
ปาลิตาตะโกนออกมาพร้อมกับการกระแทกกำปั้นใส่หน้ามัทนาทันทีก่อนจะหันไปคว้าแจกันที่อยู่ใกล้มือเตรียมฟาดซ้ำลงไปแต่ยังไม่ได้ทำอย่างใจร่างของปาลิตาก็ถูกผลักล้มลงพร้อมกับสายตาไม่พอใจของเจ้าของห้อง
มัทนาตกใจไม่น้อยที่จู่ๆก็ถูกต่อยล้มลงก่อนจะพยุงตัวลุกขึ้นโดยมีหทัยภัทรเข้ามาช่วยประคอง
“พี่หทัยไม่ควรเอามันขึ้นมาบนนี้นะคะถ้าคนอื่นรู้เข้ามันจะไม่ดี”
“ไม่ใช่เรื่องของตา”
“พี่หทัยพูดแบบนี้เหมือนจะเข้าข้างมัน”
“พี่ไม่ได้เข้าข้างใครไม่มีอะไรก็ออกไปได้แล้ว”
“ถ้ามันไม่ออกตาก็ไม่ออก!”
ปาลิตาเอ่ยออกมาเสียงแข็งครั้งนี้เธอจะไม่ยอมอีกแล้วเป็นไงเป็นกัน
“ตาพี่ว่า…”
“พี่นรีเงียบไปเลยเห็นมั้ยล่ะคนดีของพี่มันทำอะไรอยู่กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา”
มัทนาสะบัดมือคนที่ช่วยประคองออกก่อนจะเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับคนที่อัดเธอจนล้มด้วยความรู้สึกโมโหอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ทำไมจะทำอะไร!”
ปาลิตาผลักคนที่เดินมาจ้องหน้าตัวเองอย่างท้าทายออกไปแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมาเมื่อคนที่ยอมมาตลอดกำลังจะแข็งข้อโดยการผลักกลับจนปาลิตาถึงกับล้มลงเพราะไม่ได้ตั้งตัว
“นี่แกกล้าผลักฉันเหรอ”
“กล้าทำมากกว่านี้อีกถ้าขืนคุณยังไม่เลิกยุ่งกับมัทอีก”
“วอนนักใช่มั้ย”
ปาลิตาลุกขึ้นพร้อมกับการเดินเข้าไปจัดการคนที่ท้าทายตัวเองแต่เหมือนขาทั้งสองข้างแทบจะไม่มีแรงก้าวต่อไปเมื่อมีร่างของใครบางคนเดินเข้ามาขวางหน้าเธอเอาไว้
“ถ้าจะใช้กำลังในห้องนี้ก็ออกไป”
“พี่หทัย”
“ถ้ายังเรียกฉันว่าพี่ก็เชื่อฟังกันบ้าง”
“แล้วมันล่ะทำไมไม่ให้มันออกไปบ้างพี่ก็เห็นว่ามันผลักตาจนล้ม”
“ออกไปสงบสติอารมณ์ก่อนเถอะตา”
“พี่เข้าข้างมัน พี่หทัยเข้าข้างมัน”
“พี่ไม่ได้เข้าข้างใครออกไปก่อนดึกแล้วพี่อยากพักผ่อน”
“งั้นก็ให้ยัยนั่นออกมาด้วยสิคะจะให้มันอยู่ทำไม”
มัทนามองการสนทนาของคนทั้งคู่อยู่นานก่อนจะฉีกยิ้มออกมาเมื่อมีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาในหัว
“มัทคงออกไปไม่ได้หรอกค่ะ”
คนพูดยิ้มกว้างออกมาพร้อมกับเดินเข้าไปโอบรอบเอวของเจ้าของห้องเอาไว้แม้จะโดยเจ้าของเอวเล็กทั้งหยิกทั้งตีเธอก็ไม่คิดจะปล่อย
“อยู่ห้องนี้มันอุ่นทั้งหอมจนมัทติดใจไม่อยากไปไหนเลย”
มัทนาฝังจมูกที่ซอกคอขาวของคนข้างๆก่อนจะทำหน้าตาพออกพอใจเป็นที่สุด
“นี่เธอ!”
หทัยภัทรตะคอกออกมาเสียงดังแต่คนก่อเรื่องกลับเอาแต่หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
“ปล่อยพี่สาวฉัน”
ไม่มีเสียงตอบรับแต่อย่างใดยิ่งทำให้ปาลิตารู้สึกโกรธมากยิ่งขึ้นไปอีก
“ปล่อย พี่ ฉัน เดี๋ยวนี้!”
มัทนามองหน้าคนพูดที่ดูจะโกรธจัดมากกว่าทุกครั้งจากนั้นก็ปล่อยมือออกจากเอวของคนข้างๆช้าๆ
“คุณท่าทางจะหวงพี่สาวมากนะแต่ทำใจไว้บางเถอะเพราะคุณหทัย…เป็นของมัท”
พูดจบมัทนาก็ประทับริมฝีปากลงที่แก้มขาวของเจ้าของห้องพร้อมกับส่งยิ้มไปให้จากนั้นก็จ้องหน้าคนที่ดูเหมือนอึ้งๆกับการกระทำของเธอ
“วันนี้มัทไม่นอนนี่ก็ได้ทนคิดถึงหน่อยนะคะคนดี”
พูดจบมัทนาก็เดินออกห้องไปอย่างอารมณ์ดีก่อนจะชะงักเมื่อเห็นสายตาผิดหวังของนรีรัตน์ที่มองมายังตัวเองแต่เวลานี้เธอยังไม่อยากอธิบายอะไรเพราะความรู้สึกอยากเอาคืนคนนิสัยไม่ดีมันมีมากกว่าส่วนเรื่องระหว่างเธอกับเจ้าของห้องค่อยมาเคลียร์กันอีกทีพรุ่งนี้ก็แล้วกัน…
นิยายเรื่องอื่นๆ
คุณหนูที่รัก yuri
http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=975576 ลิขิตรักยัยตัวร้าย yuri
http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=552259 เกมรัก สะดุดใจ yuri
http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=847672 ปีกรัก yuri
http://writer.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1003521 สัญญาวิวาห์กำมะลอ yuri
http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1044762 สามารถสั่งซื้อได้แล้วจ้า
แบบe-book ก็มีนะค่ะเข้าไปดูได้ที่
http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookSearchResults&type=author&search=meAyou ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ