web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 3
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 12
Total: 12

ผู้เขียน หัวข้อ: กำแพงหัวใจ ตอนที่ 23  (อ่าน 4176 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ meAyou

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 69
กำแพงหัวใจ ตอนที่ 23
« เมื่อ: 12 มีนาคม 2014 เวลา 16:16:57 »
   ในที่สุดการเดินทางกลับบ้านก็เป็นอันต้องล้มเลิกเมื่อมีเรื่องใหญ่มากเกิดขึ้นและนั่นก็เป็นเหตุให้คนที่โดนยัดเยียดความผิดต้องมานั่งคอตกอยู่แบบนี้
   “มีอะไรจะบอกพ่อมั้ยมัท”
   “คือ,,,”
   “คืออะไรมัทถ้าหทัยไม่พูดป่านี้พ่อก็คงไม่รู้ว่ามัททำเรื่องใหญ่ขนาดนี้”
   “มันไม่ใช่แบบนั้นนะคะ”
   “แล้วมันแบบไหนล่ะมัทแบบไหนบอกพ่อซิ!”
   ทรงวุฒิเริ่มควบคุมเสียงของตัวเองไม่ได้ ตอนนี้เขาไม่แน่ใจว่ากำลังรู้สึกโกรธบุตรสาวที่ทำตัวเหลวไหลหรือว่าอิจฉาคนที่ได้ครอบครองผู้หญิงที่เขารักกันแน่
   “มัทกับคุณหทัยเราไม่เคยมีอะไรเกินเลยกันนะคะ”
   “ไม่มีงั้นเหรอแล้วทำไมหทัยเค้ากล้าพูดกล้าทำขนาดนั้น”
   “เค้าอาจกำลังจะแก้แค้นเราไงคะ แก้แค้นพ่อที่ทิ้งเค้าไป แก้แค้นมัทที่เป็นต้นเหตุให้เค้าต้องสูญเสีย”
   มัทนาพูดสิ่งที่ติดอยู่ในความคิดออกมาแต่เหมือนถ้อยคำของเธอจะไม่ได้รับความสนใจจากคนฟังเลยแม้แต่น้อยเพราะตอนนี้พ่อของเธอเอาแต่ส่ายหน้าไปมาราวกับไม่ยอมรับเหตุผลใดๆ
   “พ่อต้องฟังมัทนะคะ”
   “เหตุผลมันอาจจะฟังขึ้นถ้าหทัยไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นต่อหน้าคนอื่น”
   “ก็เค้าอยากจะแกล้งเราไงคะ คนแบบนั้นทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น”
   “แต่หทัยจะไม่ทำแบบนั้นถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริง”
   “นี่พ่อเชื่อคนอื่นมากกว่ามัทเหรอคะ”
   “’งั้นบอกพ่อสิว่าสิ่งที่พ่อได้ยินและได้เห็นมันไม่ใช่เรื่องจริง”
   มัทนาถึงกับพูดไม่ออกก่อนจะหลบสายตาคนถามไปทางอื่น ทุกอย่างคือเรื่องจริงที่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้แต่ในความจริงมันก็ปนความเท็จอยู่แต่ใครจะเชื่อเธอล่ะ

   บ้านหลังใหญ่แทบจะพังเมื่อปาลิตาเอะอะโวยวายพร้อมกับทำลายข้าวของไปด้วย เธอสุดจะกลั้นจริงๆกับเรื่องที่ได้ยินและเห็นมากับตาไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องที่กลัวจะเป็นความจริงและดูเหมือนจะเลยเถิดมากกว่าที่เธอคิดซะอีก
   “พอใจหรือยังปาลิตา”
   “ยัง! ตาจะทำลายให้หมดแต่ถ้าอยากให้ตาหายก็ไล่พวกมันไปสิจะให้อยู่เสนอหน้าอีกทำไม”
   “อย่าก้าวร้าวกับพี่”
   “ทำไมคะ ทำไมต้องเป็นมันทำไม!”
   ปาลิตาเดินเข้าไปเขย่าตัวคนที่ทำให้ผิดหวังอย่างแรงจนนรีรัตน์ต้องเดินเข้ามาดึงตัวน้องสาวออกไป
   “ตาพอเถอะ”
   “ไม่! ยังไงวันนี้ก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง”
   “ไประงับสติให้ได้ก่อนแล้วเราค่อยมาคุยกัน”
   หทัยภัทรเอ่ยออกมาเสียงเรียบก่อนจะเตรียมเดินขึ้นไปบนห้องแต่แล้วการก้าวเดินก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินคำพูดจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องสาว
   “ไหนบอกจะเอามามาทรมานแก้แค้นที่พ่อมันทำไว้กับตัวเองแต่พอเข้าจริงๆกลับเอาตัวไปเสนอให้มัน…”
   พูดยังไม่ทันจบใบหน้าของคนพูดก็ต้องหันไปตามแรงฝ่ามือของคนที่ตัวเองว่าให้ปาลิตาถึงกับมีน้ำตาไหลออกมาตอนนี้มีทั้งรู้สึกเสียใจ น้อยใจเจ็บปวดปะปนกันไปหมดเพราะเริ่มรู้แล้วว่าความสำคัญของตัวเองกำลังถูกลดระดับลง
   “นรีพาน้องเข้าห้องไปซะ ถ้ามีสติค่อยมาคุยกัน”
   พูดจบหทัยภัทรก็เดินขึ้นห้องทันทีเธอรู้สึกเสียใจอยู่ไม่น้อยที่พลั้งมือตบปาลิตาแต่มันก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้วเมื่อเธอตัดสินใจเดินหน้าและตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ปล่อยมัทนาไปง่ายๆเมื่อเงินไม่สามารถรั้งอีกฝ่ายไว้ได้เธอก็คงไม่สามารถใช้อะไรได้อีกแล้วนอกจากตัวของเธอเองแต่เธอก็ไม่ได้พูดเกินจริงอะไรในเมื่อร่างกายทุกส่วนของเธอถูกมัทนาสัมผัสแล้วจริงๆ

   เสียงบางอย่างที่ดังมาจากระเบียงหน้าต่างทำให้คนที่กำลังเช็ดผมอดที่หันไปมองไม่ได้และเมื่อแน่ใจว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นหทัยภัทรก็ไม่รีรอที่จะเดินไปดูและพอเปิดม่านก็เจอเข้ากับที่มาของเสียงทันที
   “นี่เธอ!”
   เจ้าของห้องเอ่ยออกมาอย่างตกใจก่อนจะเปิดประตูแล้วเดินออกไปหาผู้บุกรุก
   “มาทำบ้าอะไรบนนี้”
   “มาคุยกับคุณ”
   “มัทนาเธอจะบ้าไปแล้วเหรอลงไปเลย”
   “ไม่ค่ะเรามีเรื่องต้องคุยกัน”
   มัทนาเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังก่อนจะดึงมือคนที่ยังไม่หายตกใจกลับเข้าไปในห้องเพราะหากคุยกันที่ระเบียงก็เกรงว่าอาจจะมีคนเห็น
   “ใครให้เธอเข้ามาออกไปเลยนะ”
   หทัยภัทรโวยวายอีกครั้งก่อนจะดึงมือออกจากการเกาะกุมของคนที่บุกเข้ามา
   “ถ้าไม่จำเป็นมัทก็ไม่ขึ้นมาหรอกค่ะ”
   “เอาอย่างนี้นะพรุ่งนี้ค่อยคุยกันเธอกลับไปก่อน”
   “อย่าบอกนะว่าคุณกลัวมีคนมาเห็น”
   มัทนาหรี่ตาจ้องจับผิดคนที่ทำสีหน้ากระวนกระวายจากนั้นก็ส่ายหัวไปมาเพราะไม่อยากจะเชื่อว่าเธอคิดถูก
   “ไม่อยากจะเชื่อ”
   “เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่เธอแต่ตอนนี้…ออกไป!”
   “ไม่ออก”
   “ออกไป”
   “ไม่ออก”
   “งั้นฉันไปเอง”
   เจ้าของห้องเอ่ยพร้อมกับการหันหลังเตรียมเดินไปยังประตูห้องแต่หทัยภัทรเดินไปได้แค่ไม่กี่ก้าวก็ถูกใครอีกคนฉุดกลับมาที่เดิม
   “จะเอายังไงอีกเธออยากอยู่ฉันก็ให้เธออยู่ยังไม่พอใจอีกเหรอ”
   “มัทไม่ได้อยากมาอยู่ห้องนี้ที่มาแค่อยากจะมาคุยเรื่องของเรา”
   คนพูดรู้สึกกระดากปากอยู่ไม่น้อยที่เอ่ยเรียกรวมเธอทั้งคู่ว่า ”เรา” แต่จะใช้คำว่าอะไรได้ล่ะถ้าไม่ใช่คำนี้
   “ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับเธอ”
   “แล้วเรื่องเมื่อกลางวันล่ะคะมันคืออะไร”
   “ไม่รู้ลืมไปแล้ว”
   คนพูดทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้พร้อมกับพยายามดันตัวออกห่างจากคนที่จับตัวเธอเอาไว้แต่ยิ่งดิ้นก็เหมือนกับว่าเธอกำลังถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของคนตรงหน้าเรื่อยๆ
   “มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะคะ มัทรู้ว่าคุณเกลียดพ่อ แม่แล้วก็มัทมากขนาดไหนแต่ไม่เห็นจะต้องลงทุนมากมายขนาดนี้”
   “รู้แล้วก็ออกไปสิแล้วอีกอย่างฉันก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรให้คนอย่างเธอฟัง”
   “มัทรู้ค่ะว่าคนอย่างมัทไม่มีค่าพอให้คุณมาเสียเวลาด้วยแต่วิธีของคุณมันทุเรศจนมัทรับไม่ได้!”
   มัทนาพูดจบก็ถือโอกาสรวบเอวคนตรงหน้าเข้ามากอดไว้เธอไม่อยากปล่อยช่องโหว่งให้อีกฝ่ายมีจังหวะหนีไปไหนได้อีกแล้วยังไงวันนี้ก็ต้องเคลียร์กันให้รู้เรื่อง
   เสียงบางอย่างด้านหลังประตูทำให้สองพี่น้องที่กำลังเดินผ่านมาต้องหยุดฟังอย่างสงสัยและเหมือนจะใจตรงกันเมื่อคนทั้งคู่ต่างเอียงหูฟังอย่างตั้งใจ
   หทัยภัทรหยุดการขัดขืนทันทีที่ได้ยินประโยคต่อว่า หญิงสาวเจ้าของห้องค่อยๆโอบมือที่รอบคอของคนที่ว่าให้ตัวเองก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเป็นต่อ
   “ทะ ทะทำอะไร”
   “ก็ทำเหมือนทุกทีไง”
   “ทำอะไรแล้วจะยิ้มทำไมเรากำลังคุยเรื่องเครียดกันอยู่นะคะ”
   “ก็อยากยิ้ม”
   “อย่ามากวนได้มั้ยเรามาคุยกันดีๆดีกว่านะคะ”
   “แล้วท่าทางฉันดูไม่ดีเหรอ”
   คนพูดก้มดูตัวเองก่อนจะเงยขึ้นสบตาคนที่ทำหน้าเหลอหลาที่ตอนนี้ปล่อยมือออกจากเอวของเธอแล้วเปลี่ยนมาเป็นพยายามดึงมือของเธอออกแทนเห็นแล้วก็อดที่จะแกล้งกระชับวงแขนให้แน่นขึ้นไม่ได้
   “ดึกแล้วมัทว่าไว้คุยกันต่อพรุ่งนี้ดีกว่า”
   เด็กหนอเด็กหทัยภัทรยกยิ้มที่มุมปากนึกว่าจะแน่ที่กล้าปีนขึ้นมาถึงบนห้องเธอแต่ดันมาตกม้าตายแค่เจอเรื่องแบบนี้ดีเธอจะทำให้เข็ดจะได้ไม่กล้ามาอวดเก่งกับเธออีก
   “ทำไมล่ะตะกี้เธอบอกว่าอยากเคลียร์…เรื่องของเรา”
   น้ำเสียงหวานๆบวกกับท่าทางยั่วยวนของคนพูดทำให้คนฟังถึงกับแอบกลืนน้ำลายก่อนจะเบนหน้าไปทางอื่นเพราะรู้สึกราวกับตัวเองกำลังจะเสียศูนย์
   “ว่าไงล่ะคะคุยอะไรกันดีเอ…หรือว่าเราจะไปคุยบนเตียงดีคะยืนนานพี่ชักจะปวดขาแล้วล่ะสิ”
   คนฟังถึงกับเข่าอ่อนก่อนจะพยายามดันตัวให้ออกห่างจากคนพูดแต่นอกจากจะไม่สำเร็จแล้วเธอยังรู้สึกเหมือนกับโดนลากเข้าไปใกล้เคียงนอนช้าๆแต่ก่อนที่ร่างกายของคนทั้งคู่จะสัมผัสกับเตียงนอนประตูห้องก็ถูกเปิดออกพร้อมกับการเดินเข้ามาเพื่อแยกคนทั้งคู่ออกจากกัน
   “ไอ้สารเลว”
   ปาลิตาตะโกนออกมาพร้อมกับการกระแทกกำปั้นใส่หน้ามัทนาทันทีก่อนจะหันไปคว้าแจกันที่อยู่ใกล้มือเตรียมฟาดซ้ำลงไปแต่ยังไม่ได้ทำอย่างใจร่างของปาลิตาก็ถูกผลักล้มลงพร้อมกับสายตาไม่พอใจของเจ้าของห้อง
   มัทนาตกใจไม่น้อยที่จู่ๆก็ถูกต่อยล้มลงก่อนจะพยุงตัวลุกขึ้นโดยมีหทัยภัทรเข้ามาช่วยประคอง
   “พี่หทัยไม่ควรเอามันขึ้นมาบนนี้นะคะถ้าคนอื่นรู้เข้ามันจะไม่ดี”
   “ไม่ใช่เรื่องของตา”
   “พี่หทัยพูดแบบนี้เหมือนจะเข้าข้างมัน”
   “พี่ไม่ได้เข้าข้างใครไม่มีอะไรก็ออกไปได้แล้ว”
   “ถ้ามันไม่ออกตาก็ไม่ออก!”
   ปาลิตาเอ่ยออกมาเสียงแข็งครั้งนี้เธอจะไม่ยอมอีกแล้วเป็นไงเป็นกัน
   “ตาพี่ว่า…”
   “พี่นรีเงียบไปเลยเห็นมั้ยล่ะคนดีของพี่มันทำอะไรอยู่กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา”
   มัทนาสะบัดมือคนที่ช่วยประคองออกก่อนจะเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับคนที่อัดเธอจนล้มด้วยความรู้สึกโมโหอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
   “ทำไมจะทำอะไร!”
   ปาลิตาผลักคนที่เดินมาจ้องหน้าตัวเองอย่างท้าทายออกไปแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมาเมื่อคนที่ยอมมาตลอดกำลังจะแข็งข้อโดยการผลักกลับจนปาลิตาถึงกับล้มลงเพราะไม่ได้ตั้งตัว
   “นี่แกกล้าผลักฉันเหรอ”
   “กล้าทำมากกว่านี้อีกถ้าขืนคุณยังไม่เลิกยุ่งกับมัทอีก”
   “วอนนักใช่มั้ย”
   ปาลิตาลุกขึ้นพร้อมกับการเดินเข้าไปจัดการคนที่ท้าทายตัวเองแต่เหมือนขาทั้งสองข้างแทบจะไม่มีแรงก้าวต่อไปเมื่อมีร่างของใครบางคนเดินเข้ามาขวางหน้าเธอเอาไว้
   “ถ้าจะใช้กำลังในห้องนี้ก็ออกไป”
   “พี่หทัย”
   “ถ้ายังเรียกฉันว่าพี่ก็เชื่อฟังกันบ้าง”
   “แล้วมันล่ะทำไมไม่ให้มันออกไปบ้างพี่ก็เห็นว่ามันผลักตาจนล้ม”
   “ออกไปสงบสติอารมณ์ก่อนเถอะตา”
   “พี่เข้าข้างมัน พี่หทัยเข้าข้างมัน”
   “พี่ไม่ได้เข้าข้างใครออกไปก่อนดึกแล้วพี่อยากพักผ่อน”
   “งั้นก็ให้ยัยนั่นออกมาด้วยสิคะจะให้มันอยู่ทำไม”
   มัทนามองการสนทนาของคนทั้งคู่อยู่นานก่อนจะฉีกยิ้มออกมาเมื่อมีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาในหัว
   “มัทคงออกไปไม่ได้หรอกค่ะ”
   คนพูดยิ้มกว้างออกมาพร้อมกับเดินเข้าไปโอบรอบเอวของเจ้าของห้องเอาไว้แม้จะโดยเจ้าของเอวเล็กทั้งหยิกทั้งตีเธอก็ไม่คิดจะปล่อย
   “อยู่ห้องนี้มันอุ่นทั้งหอมจนมัทติดใจไม่อยากไปไหนเลย”
   มัทนาฝังจมูกที่ซอกคอขาวของคนข้างๆก่อนจะทำหน้าตาพออกพอใจเป็นที่สุด
   “นี่เธอ!”
   หทัยภัทรตะคอกออกมาเสียงดังแต่คนก่อเรื่องกลับเอาแต่หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
   “ปล่อยพี่สาวฉัน”
   ไม่มีเสียงตอบรับแต่อย่างใดยิ่งทำให้ปาลิตารู้สึกโกรธมากยิ่งขึ้นไปอีก
   “ปล่อย พี่ ฉัน เดี๋ยวนี้!”
   มัทนามองหน้าคนพูดที่ดูจะโกรธจัดมากกว่าทุกครั้งจากนั้นก็ปล่อยมือออกจากเอวของคนข้างๆช้าๆ
   “คุณท่าทางจะหวงพี่สาวมากนะแต่ทำใจไว้บางเถอะเพราะคุณหทัย…เป็นของมัท”
   พูดจบมัทนาก็ประทับริมฝีปากลงที่แก้มขาวของเจ้าของห้องพร้อมกับส่งยิ้มไปให้จากนั้นก็จ้องหน้าคนที่ดูเหมือนอึ้งๆกับการกระทำของเธอ
   “วันนี้มัทไม่นอนนี่ก็ได้ทนคิดถึงหน่อยนะคะคนดี”
   พูดจบมัทนาก็เดินออกห้องไปอย่างอารมณ์ดีก่อนจะชะงักเมื่อเห็นสายตาผิดหวังของนรีรัตน์ที่มองมายังตัวเองแต่เวลานี้เธอยังไม่อยากอธิบายอะไรเพราะความรู้สึกอยากเอาคืนคนนิสัยไม่ดีมันมีมากกว่าส่วนเรื่องระหว่างเธอกับเจ้าของห้องค่อยมาเคลียร์กันอีกทีพรุ่งนี้ก็แล้วกัน…

นิยายเรื่องอื่นๆ
   คุณหนูที่รัก yuri  http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=975576
   ลิขิตรักยัยตัวร้าย yuri  http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=552259
   เกมรัก สะดุดใจ yuri http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=847672
   ปีกรัก yuri  http://writer.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1003521
   สัญญาวิวาห์กำมะลอ yuri  http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1044762
   สามารถสั่งซื้อได้แล้วจ้า
   แบบe-book ก็มีนะค่ะเข้าไปดูได้ที่ http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookSearchResults&type=author&search=meAyou

   ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ   




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.