[Froster's Sister]- Reject Relation Prologue : Everything Had Changed
โพสต์โดย:
ภัทรวีวรกานต์
วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2017 เวลา 13:50:16
อ่าน: 15
|
เสียงจ๊อกแจ้กจอแจดังขึ้นไม่ขาดสายท่ามกลางสนามบินนานาชาติฟูมิชิโน สนามบินที่มีผู้คนเข้าออกมากที่สุดในประเทศอิตาลี คนหลากหลายวัยหลากหลายชาติต่างมาที่แห่งนี้โดยมีจุดประสงค์ที่ต่างกันออกไป บ้างมาเพื่อร่ำลาและจากไกล บ้างมาเพื่อยินดีกับการมาพอบเจอกัน และท่ามกลางผู้คนเหล่านั้น คนกลุ่มหนึ่งก็มาเพื่อการนี้เช่นกัน แต่พวกเขาดูจะเรียกคมสนใจจากผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมาได้มากกว่าคนอื่นๆ เมื่อชายชุดดำใส่สูทผูกไทด์หลายคนกำลังยืนรายล้อมชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มหล่อเหลาเอาการตามฉบับเกินมาตรฐานหนุ่มยุโรปคนหนึ่งอยู่... ภาพนี้มันคงจะน่ากลัวมากหากคนที่อยู่ในวงล้อมไม่กำลังทำหน้าตาอ้อนวอนใครบางคนที่กำลังยืนยิ้มขำกับท่าทีของเขา ซึ่งและหากสาวๆคนใดได้มาพบสบตาคงยอมสยบแทบเท้าเขาไปแล้ว แต่มันคงไม่ใช่กับคนตรงหน้า "ที่รัก คุณเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ" เขาพูดอย่างออดอ้อนแกมขอร้องและเป็นกังวล หากแต่อีกคนกลับยิ้มบางๆและส่ายหน้าเล็กน้อยให้กับท่าทีเหล่านี้ "ไม่ค่ะ... แต่งงานกันมาหลายปี คุณก็รู้ก็ฉันนี่คะว่าฉันเป็นยังไงนี่คะ" คำตอบหนักแน่นพร้อมกับการเตือนความจำให้ชายหนุ่มถูกเปล่งออกมาจากหญิงสาวสวยสง่าราวกับนางฟ้า...นางฟ้าที่เป็นภรรยาของเขา...ช่างเหมาะสมกันจริงๆ ราวกับเจ้าหญิงและเจ้าเช้าผู้เลอโฉม... "แต่คุณพาเบบี้ของเราไปด้วยนะ ผมเป็นห่วง แกยังไม่ทันครบขวบเดียวด้วยซ้ำ" เขาพูดพลางหันไปยังลูกตัวน้อย วัยเกือบ 6 เดือน ในอ้อมแขนของภรรยา โดยที่เจ้าตัวเล็กผมบลอนทองตาฟ้าในอกแม่กำลังส่งเสียงอ้อแอ้ไม่เป็นภาษา... อ่า สีหน้าของคนที่ผ่านไปมาคงเสียดายละสิที่หนุ่มหล่อเหลาคนนี้ไม่ใช่เพียงแต่มีภรรยา แต่มีลูกเสียด้วย ลูกหนึ่ง...ไม่สิ...สองหรือ...ก็ไม่ใช่อีก...อันที่จริงสี่คนต่างหาก... "มัมๆ นิชชี่ขอไปด้วยได้ไหมคะ" เสียงเล็กๆของเด็กหญิงตัวน้อยผมสีดาร์ก บลอนด์เข้ามาเกาะขาผู้เป็นแม่ ดวงตาสีน้ำตาลใสแจ๋วมองผู้ให้กำเนิดอย่างมีความหวัง คุณมัมยังสวยยิ้มน้อยๆเตรียมจะตอบลูกสาว แต่โอกาสนั้นก็ต้องหมดไป เมื่อเสียงของเจ้าตัวน้อยอีกคนดังขึ้น "นินไม่ยอมนะมัม ถ้ามัมให้นิชไปนินต้องไปด้วยนะมัม" เด็กหญิงตัวเล็กอีกคนที่หน้าตาคล้ายๆกันกับคนเมื่อครู่แต่ต่างกันที่สีผมที่ดูจะเป็นสีน้ำตาลเข้มและมีดวงตาสีฟ้าอ่อนวิ่งเข้ามาร้องโว้ยวายไม่ยอม เมื่อเห็นคนพี่ที่อายุห่างกันเพียงสองนาทีกำลังทำตาใสขอหม่าม้าของตัวเองเดินทางไปต่างประเทศ ณ เมืองเกิดของมารดา... ไม่ยอมหรอกนะถ้าพี่ได้ไป ก็ต้องได้ไปด้วย! "ไม่มีใครไปไหนกับมัมทั้งนั้น อย่าดื้อนะเด็กๆ อยู่นิ่งๆ เห็นไหมว่าแด๊ดคุยกับมัมอยู่ แล้วก็นะ ลูซหนูไม่ควรพูดเรียกชื่อพี่สาวหนูเฉยๆนะคะ ต้องมีพี่นำหน้าด้วยเข้าใจไหมคะ" เด็กน้อยพยักหน้าหงึกหงัก ใบหน้าน้อยๆของแฝดคนละฝาจอมแสบเศร้าลงที่ถูกแด๊ดดี้ดุ "นนท์ ลูกมาดูแลน้องหน่อย พาเซย์เรเน่กับลูเซียเน่ออกไปก่อน แด๊ดจะคุยกับมัมก่อนครับ" เขาหันไปบอกลูกชายคนโตวัย 14 ... ซุปเปอร์แด๊ดที่แสนใจดีเข้าสู้โหมดจริงจัง โดยทุกครั้งที่เด็กๆเริ่มดื้อหรือต้องการสอนลูก เขาจะเรียกชื่อลูกๆเป็นชื่อในภาษาอังกฤษแทนที่จะเรียกเป็นชื่อภาษาไทยอย่างที่ภรรยาเขาชอบ "ครับแด๊ด" เด็กชายที่กำลังเริ่มเข้าสู่วัยหนุ่มรับคำบิดา ก่อนจะเข้ามาจับจูงมือเจ้าตัวป่วนสองฝาแฝดแต่ไข่คนละฝาในวัยห้าขวบครึ่งให้ออกห่างทั้งพ่อและแม่ สายตามัมคนสวยมองตามลูกชายคนโตที่พาตัวน้องสาวตัวน้อยออกไปไม่ให้วุ่นวายกับการสนทนาของบิดาและมารดาด้วยการหลอกล่อเจ้าหญิงตัวเล็กทั้งสองตามแบบที่เจ้าตัวชอบทำเมื่อถูกสั่งให้เลี้ยงน้อง และวิธีของเด็กหนุ่มก็ดูจะได้ผลดีเสียทุกครั้ง "วันนี้ทำไมแด๊ดดี้สุดที่รักของลูกๆถึงดุจังเลยคะ ปกติเห็นห้ามแต่ฉันไม่ให้ดุลูก" หญิงสาวหันกลับมาเอ่ยกับสามีเมื่อละสายตาออกจากลูกๆได้แล้ว "วันนี้ไม่ได้จะดุแต่ลูกนะ แต่จะดุแม่ด้วย แม่ดื้อยิ่งกว่าลูกเสียอีก" คุณแม่คนสวยยิ้มรับ ก่อนจะเอียงตัวเล็กน้อยไปจูบแก้มผู้ใหญ่ตัวโตที่กำลังทำหน้าเครียด จนผู้เป็นสามีต้องยอมแพ้เขารู้แล้วว่าไม่มีทางเปลี่ยนใจภรรยาได้ง่ายๆ จึงถอนหายใจอย่างจำยอม แต่ก็อดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพรำ "เฮ้อ คุณเนี่ยนะ ขออะไรสักอย่างก็ไม่ยอม ให้เอาเครื่องบินส่วนตัวไปก็ไม่ยอม ให้เอาบอร์ดี้การ์ดไปสักคนก็ไม่ยอม ดื้อจริงๆเลยน้า" ผู้เป็นภรรยาได้ฟังคำสามีก็หัวเราะออกมาน้อย "ก็ฉันอยากไปแบบคนธรรมดานี่คะ ไม่ได้ไปแบบเจ้าพ่อมาเฟีย" คุณแม่ยังสาวยิ้มล้อเลียนสามีพลางมองและส่งยิ้มสวยไปรอบๆให้กับเหล่าลูกน้องของสามีที่ยืนคุ้มกัน ก่อนจะหันกลับมาแล้วยกมือขึ้นกุมใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังบูดบึ้งนั่นเอาไว้ "อย่าทำหน้าแบบนั้นสิคะ ที่รัก ฉันไม่ได้ไปนานเป็นปีเสียหน่อย ไปแค่สองสัปดาห์เอง แค่ไปเยี่ยมพี่สาวเองนะคะ ไม่ได้ไปรบ อีกอย่างฉันพาเลอลักษณ์ไปด้วย" เธอบอกพลางหันไปยิ้มให้ผู้ติดตามสาวที่ยืนอยู่ด้านหลัง "แต่..." "สัญญาค่ะ ว่าไปไม่นานและจะกลับมาอย่างปลอดภัย" "เฮ้อ...ก็ได้ครับแล้วจะรอคุณกับลูกนะ" เขาว่าก่อนจะจูบแก้มภรรยา พร้อมดึงตัวร่างบางกับลูกน้อยในอ้อมอกเข้ามากอด เมื่อปล่อยอีกคนออกเขาก็ก้มลงจูบแก้มน้อยอันหอมกรุ่น "เฟร์ญา ลูกรัก แด๊ดดี้จะรอหนูกับมัมกลับมานะคะ" เขาเอ่ยกับลูกที่ยังฟังอะไรไม่รู้เรื่องและมองลูกด้วยความรัก "คุณไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันจะดูแลน้องเนให้ดีที่สุด" "ครับผมเชื่อใจคุณ" "ค่ะ รักคุณนะ เฟอนัล ฟรอสเตอร์" "รักคุณเช่นกันเอมิกา ฟรานเชส ฟรอสเตอร์" เมื่อคำร่ำลาระหว่างสองสามีภรรยาจบลง ก็ถึงเวลาบอกลาลูกรักอีกสามคน กว่าจะครบทุกคนเวลาก็หมดลงทันทีหลังจากเสียงประกาศเรียกผู้โดยสาย... เฟอนัลมองตามหลังของผู้เป็นภรรยาไป โดยที่ใจของเข้ารู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย มันเหมือนกับว่าเขาจะเสียเธอไปตลอดกาล... ?ผมหวังว่า คุณกับลูกจะปลอดภัยกลับมานะ?
ท่ามกลางความมืดยามค่ำคืน ร่างของใครบางคนกำลังหลบอยู่ในมุมที่ไร้แสงไฟบริเวณรั้วบ้านหลังใหญ่ สายตาสอดส่อง จ้องมองไปรอบๆอย่างหวาดระแวงไปพร้อมๆกับที่มองหาใครบางคนโดยไม่ลืมที่จะประครองบางอย่างในอ้อมอกของตัวเองเอาไว้อย่างระมัดระวัง ทำอย่างนั้นอยู่หลายนาทีก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีแรงสะกิดมาจากทางด้านหลัง "นังลักษณ์ แกเป็นยังไงบ้าง ดูสิทำไมอยู่ในสภาพแบบนี้ แล้วนายแกล่ะ" ผู้มาใหม่ถามด้วยสีหน้าร้อนรนใจ สายตาก็สำรวจคนตรงหน้าไปด้วย..สีหน้าของคนอมทุกข์... สภาพไม่ค่อยดีเอาเสียเลย...แย่มากๆ "ฉันก็เป็นแบบที่เห็นนี่แหล่ะจ่ะป้าน้อม แต่คุณนายเธอ..." เลอลักษณ์ตอบกับผู้ที่มีสักเป็นป้าแท้ๆของเธอด้วยเสียแผ่วเบาเพราะกลัวว่าใครจะมาได้ยินและเศร้าสลดเมื่อนึกถึงเจ้านายที่น่าสงสารของตน "โถ่... แล้วคุณหนูของแกล่ะ" ผู้เป็นป้าครางออกมาอย่างสังเวทใจ โดยไม่ลืมถามถึงจุดประสงค์ของการออกมาพบเลอลักษณ์ในเวลาดึกดื่นเช่นนี้ หลังจากที่อีกคนโทรมาหาด้วยตู้โทรศัพท์สาธารณะ ให้ออกมาพบด้วยเสียงร้อนรนใจ เลอลักษณ์ไม่ตอบแต่กลับใช้ปลายนิ้วค่อยๆเปิดผ้าที่ห่อหุ้มสิ่งที่เธอกำลังโอบประคองเอาไว้ ใบหน้าเล็กๆสีขาวอมชมพูปรากฏให้เห็น เด็กน้อยในอ้อมแขนของเลอลักษณ์กำลังหลับตาพริ้มโดยที่ไม่รับรู้ถึงโชคชะตาของตัวเองเลยแม้แต่น้อย "ป้าฉันฝากคุณหนูด้วยนะ" เธอบอกแบบนั้นก่อนจะส่งเด็กตัวน้อยให้กับคนตรงหน้า แล้วยื่นกระเป๋ใบเล็กที่ใส่ซองสีหน้าตาลไว้ตามไป "นี่เอกสารทั้งหมดของคุณหนู ป้าช่วยปิดเป็นความลับให้ด้วยนะ อย่าให้ใครรู้ว่าคุณหนูเป็นใคร แม้แต่ชื่อก็อย่าให้รู้ชื่อเต็ม เมื่อคุณหนูโตขึ้น ก็บอกแค่ชื่อก็พอ ฉันขอร้องนะป้า คุณหนูไม่ปลอดภัยจริงๆ ขอให้ดูแลคุณหนูให้ดีที่สุดแทนฉันที แต่ฉันเชื่อว่าสักวันนายท่านจะต้องตามหาตัวคุณหนูพบ" หญิงสูงวัยรับตัวเด็กน้อยมาไว้ในอ้อมอกของตน มองร่างน้อยๆด้วยความสงสารและเวทนา "น่าเกลียดน่าชังจริงๆ คุณหนูน้อย...คนบนฟ้าไม่น่าทำร้ายกันแบบนี้เลยจริงๆ" นางน้อมโยกตัวกล่อมหนูน้อยสักพักเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวเล็กเริ่มขยับตัว เมื่อเห็นว่าร่างนั้นนิ่งไปอีกครั้งจึงเงยหน้าขึ้นถามหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง "แล้วแกล่ะนังลักษณ์ จะไปไหนจะไปอยู่ที่ไหน" "ฉันไม่รู้เหมือนกันป้า" น้ำเสียสิ้นหวังถูกเปล่งออกมาพร้อมแววตาเศร้าสลดอย่างคนยอมแพ้กับสิ่งที่ฟ้าลิขิต "ฉันคงอยู่ได้ไม่นาน หมดเวรหมดกรรมแค่นี้แล้ว ฝากคุณหนูด้วยนะป้า" "โถ่เอ้ยนังลักษณ์..." นางน้อมสงสารหลานสาวจับใจ ที่ชีวิตกำลังไปได้ดีแท้ๆ กลับต้องมาเจออะไรแบบนี้ พลางนึกไปถึงหญิงสาวรูปงามที่เป็นเจ้านายของเลอลักษณ์ก็ยิ่งเศร้าใจ ไม่น่าเลยน้าคนเรา... เลอลักษณ์พยายามฝืนยิ้มเจือนๆ "ฉันต้องไปแล้วนะป้า ไม่เจอกันชาตินี้แล้ว ก็ของให้พบกันชาติหน้าอีกนะป้า ดูแลคุณหนูด้วยนะป้า..." "ข้าขอให้เอ็งโชคดีก็แล้วกันนะ" นางน้อมอวยพรให้หลานของตนโชคดี เลอลักษณ์ยิ้มรับก่อนจะหนีหายไปในความมืดมิดอีกครา... และนั่นคือครั้งสุดท้ายที่นางน้อมได้เห็นหน้าหลานของตนพร้อมกับคนที่ เลอลักษณ์ทิ้งไว้บนโลกใบนี้...
บนยอดตึกสูงตระหง่านในซีกโลกตะวันตก ดวงตาคมเข้มกำลังเหม่อมองออกไปยังท้องฟ้าขมุกขมัวเหนือกรุงโรมด้วยแววตาเศร้าสร้อย เป็นอีกครั้งที่เขาต้องเดินทางมาทำธุระสำคัญและทุกครั้งที่มาที่นี่เขาจะต้องนึกถึงใครบางคน ใครบางคนที่พบหน้ากันครั้งสุดท้ายที่เมืองนี่... และจากเขาไปโดยไม่กลับมา... ขณะที่เขากำลังนั่งเอนหลังอยู่กับเก้าอี้นวมตัวใหญ่ ปล่อยให้สติหลุดลอยไปกับความทุกข์ที่พยายามเก็บซ่อนเอาไว้และปล่อยให้มันหลั่งไหลออก ตอนนั้นเองบางสิ่งบางอย่างทำให้เขากลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง... มือน้อยๆสองคู่ของเด็กหญิงเกาะอยู่ที่ต้นขาของเขา ดวงตากลมมองมาที่เขา จนต้องโค้งตัวก้มหน้าลงไปสบตาด้วย มือหนาถูกส่งออกไปลูบผมนุ่มลื่นบนหัวทุยๆทั้งสอง สีหน้าที่มีแววหม่นหมองก่อนหน้านี้ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ "ว่าไงคะเจ้าหญิงของแด๊ดดี้" "แด๊ดดี้เฟอนัลคะ เมื่อไรมัมจะกลับมาคะ นินคิดถึงมัม..." เด็กน้อยผมน้ำตาลเข้มหนึ่งในสองคนเอ่ยถามเขาด้วยแววตาใสซื่อ คำถามของลูกกระตุกวูบเข้าให้ที่หัวใจของคนเป็นพ่อ "นิชชี่ก็คิดถึงมัมค่ะแด๊ดดี้ คิดถึงเนเน่ด้วยค่ะ" เด็กหญิงคนพี่เอ่ยสัมทับคนน้อง ความไร้เดียงสาที่ถามเขาซึ่งกำลังไร้คำตอบให้กำลังลูกๆช่างบีบคั้นหัวใจเสียเหลือเกิน สงสารลูกจับใจ... เฟอนัลมองลูกทั้งสองก่อนจะตัดสินใจอุ้มลูกน้อยขึ้นมานั่งบนขาทั้งสองข้าง "แด๊ดดี้ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่ามัมกับเนเน่จะกลับมาเมื่อไร ทั้งสองไปพักผ่อนอยู่ไกลแสนไกลเลยค่ะ แต่อีกไม่นานหรอกนะคะ พอนิชชี่กับนินโตขึ้นแด๊ดดี้เชื่อว่าหนูจะได้เจอเนเน่แน่นอนค่ะ" เฟอนัลพยายามปลอบลูกน้อย พร้อมๆกับที่อ้อมแขนแข็งแรงกอดร่างเล็กไว้แน่น... และแล้วเวลาของสองพ่อลูกก็หมดลง เมื่อประตูห้องถูกเปิดกว้างโดยชายร่างยักษ์ เขาโค้งตัวอย่างนอบน้อมก่อนจะเอ่ยบอกคนในห้องถึงสิ่งที่เขาได้รับคำสั่งมาให้ปฏิบัติตาม "มิสเตอร์เฟอนัลครับ ใกล้ได้เวลาประชุมบอร์ดบริหารแล้วครับ นายท่านอัลเบิร์ต ให้มาตามครับ" "อืม เดี๋ยวฉันไปเดี๋ยวนี้แหละ" เฟนัลพยักหน้ารับน้อยๆ ด้วยใบหน้าเรียบนิ่งและน่าเกรงขาม ก่อนจะหันมาอุ้มลูกๆลงจากตักของเข้า ยืดตัวขึ้นและพูดกับพวกเด็กๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแตกต่างจากที่พูดกับลูกน้องโดยสิ้นเชิง "เซย์กับลูซ รอแด๊ดอยู่ที่นี่ก่อนนะคะ เดี๋ยวแด๊ดไปทำงานก่อน คุณปู่เรียกแด๊ดแล้ว เล่นกันอยู่ในห้องนี้นะคะ อย่าออกไปไหน แล้วก็อย่าดื้ออย่าซนกับพี่ๆเขานะคะ" เฟอนัลยกมือขึ้นลูบหัวน้อยๆนั่น "ค่ะแด๊ดดี้" เด็กหญิงรับคำอย่างไม่อิดออด เฟอนัลก้มลงจูบหน้าผากเล็กๆของลูกทั้งสอง ก่อนจะยืนตัวตรง เพื่อไปทำตามหน้าที่ที่เขาควรจะทำในตอนนี้ โดยไม่ลืมหันไปสั่งลูกน้องคนสนิท "จอจิโอ้ ฝากลูกของฉันด้วย" "ครับนาย" สิ้นคำของลูกน้อง ชายหนุ่มก็เดินจากไป แต่ก่อนจะก้าวพ้นตัวห้องเขาไม่วายที่จะหันไปมองหน้าลูกๆอีกครั้ง และเพียงพูดกับตัวเองแค่ว่า ...แด๊ดดี้ขอโทษนะลูกรัก ขอโทษที่ดูแลมัมกับเนเน่ไม่ดี แต่แด๊ดสัญญาว่าสักวันเนเน่จะต้องกลับมาอยู่กับเราเหมือนเดิม...
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|
ความคิดเห็น
|