web stats

ข่าว

 


Immortals 4 (Sparkle 7) - บทที่ 5 Hunter (2)

โพสต์โดย: anhann วันที่: 29 มิถุนายน 2019 เวลา 21:54:08 อ่าน: 104



บทที่ 5 Hunter (2)







แคลร์มาอยู่เป็นเพื่อนแม็กซ์เวลจนน้องหลับจึงเดินกลับห้องตัวเอง  ระหว่างทางในโถงทางเดินมืดสลัว  เธอพบเงาดำบางอย่างแปลกตา  ความอยากรู้เรียกให้เธอเดินตามไปดู  เธอคุ้นกลิ่นนี้  แต่คราวนี้มันให้ความรู้สึกสยดสยองอย่างบอกไม่ถูก  กลิ่นคาว  กลิ่นเหมือนเลือด  เลือดจำนวนมาก

กลิ่นรุนแรงมากเมื่อเธอเดินไปถึงห้องซักรีด

ประตูถูกแง้มไว้  แคลร์ชะโงกมองตรงช่องว่างเล็กๆ นั้น  เห็นเพียงแผ่นหลัง  เธอก็แทบจะเดาออกแล้วว่าเป็นใคร  และเธอรู้ด้วยว่าไม่ควรจะอยากรู้อยากเห็นอีก

แต่มันสายไปแล้ว

"ดึกแล้ว  ทำไมยังไม่นอน  แคลร์"

แคลร์หยุดกึก  เหงื่อซึมตรงขมับ  เธอหันหลังกลับ  เดินมาเปิดประตูเข้ามาในห้อง  พ่อยืนสวมกางเกงวอร์มตัวเดียวอยู่หน้าเครื่องซักผ้า  ตัวเขามีรอยคราบเลือดตามแขนและใบหน้า  มันดูน่ากลัวมากเมื่อตัดกับผิวขาวซีดของเขา  นั่นเพราะเธอรู้ว่ามันไม่ใช่เลือดเขาด้วย

"ป๊าไปอาบน้ำเหอะ  เดี๋ยวแคลร์ทำให้"

"ไม่เป็นไร  ลูกไปนอนเถอะ"  เขาตอบโดยไม่ได้มองหน้าเธอ 

แคลร์รู้ดีว่าเขากลัวว่าเธอจะคิดอะไร  ว่าเธอจะกลัวเขาหรือเปล่า  ในสายตาเธอกับน้องๆ  พ่อเป็นคนใจดีเสมอ  แต่ถ้าถามคนข้างนอก  ไม่มีใครพูดแบบนี้สักคน 

ใครๆ ก็กลัวเขา  ลามมาถึงเธอด้วย  หน้าตาเธอบอกยี่ห้อว่าเป็นลูกเขาออกอย่างนี้  ตอนอยู่อังกฤษเวลามีแขกมาบ้าน  และเธอออกไปต้อนรับ  พวกเขาก็มองหน้ากันด้วยสายตาแปลกๆ  แถมยังนอบน้อมผิดปกติด้วย  พวกคนรับใช้ก็เหมือนกัน 

"ถ้าลูกกลัว  ลูกก็ไม่ต้องมอง"  เขาพูดง่ายๆ เหมือนไม่ได้ใส่ใจ  "ให้เครื่องมันทำงานไป  ลูกกลับห้องไปนอน  ป๊าจะไปอาบน้ำ"

"ป๊าไปทำอะไรมาเหรอ"  แคลร์ตัดสินใจถาม  ถึงจะรู้ว่าพ่อไม่บอกเธอแน่ๆ  แต่อยากให้เขารู้ว่าเธอไม่สบายใจกับความไม่รู้แบบนี้

"ทำงาน"  เขาตอบ  เสียงราบเรียบ  หากฟังดูน่าขนลุก  แคลร์ลังเลที่จะซักไซ้ต่อ  พอดีกับเขาเอ่ยขึ้นใหม่  "พีบีเดินตามหาลูกอยู่ข้างนอก"

แคลร์ไม่จำเป็นต้องถามว่าพ่อรู้ได้ยังไง  ขนาดเธอไม่เก่งเท่าเขา  ยังรู้สึกเลยว่าพีบีอยู่ใกล้ๆ นี้เอง  ตอนเด็กๆ ป้าเจเคยเล่าว่าพ่อเธอฝึกมาหนัก  เขาเป็นนักรบตัวจริง  ถึงจะหน้าตาหน่อมแน้ม  ดูสำอางแบบนี้ก็เถอะ

"เราจำเป็นต้องฆ่าคนด้วยเหรอ  ป๊า"  เธอถาม  แม้จะฟังดูโง่ๆ เมื่อออกมาจากปากเธอ  สัตว์ร้ายที่มีเขี้ยวเล็บแหลมคม 

"เราล่าผู้ที่ล่าเรา" 

แคลร์หันไปมองเจ้าของคำตอบที่ไม่ใช่คนที่ยืนอยู่ในนี้  ยุนอารุนหลังพีบีเข้ามาในห้อง  คงเจอกันข้างนอก  สีหน้าคู่หมั้นเธอดูหวาดๆ พอกัน

"อันที่จริง  เราตัดสินใจจะบอกลูกอยู่แล้ว  แต่ลูกยังเด็กมากไป"

"ตอนนี้ก็ยังเด็กอยู่"  คริสตัลเตือน  เกรงว่าภรรยาจะลืมไปว่าลูกอายุเท่าไหร่  "กลับห้องไปทั้งคู่เลย  พีบี  พาแคลร์ไปหน่อยค่ะ"

"ป๊า  แคลร์โตแล้ว"

"ยังโตไม่พอ"

แคลร์กัดกระพุ้งแก้ม  มองพ่ออย่างไม่ชอบใจ  พ่อรักเธอ  เธอรู้  แต่เขาชอบปกป้องเธอเกินเหตุ  เขาแทบจะทำทุกอย่างหมด  ไม่เหลืออะไรไว้ให้เธอทำเลย  เธอทั้งรักและเบื่อเขา

"แคลร์"

"ป๊าอะ --"

"แคลร์  ไปกันเถอะ"  พีบีพูด  จับข้อมือแคลร์ดึงออกจากห้อง  ค้อมศีรษะเล็กน้อยให้ผู้ใหญ่สองคน  เธอต้องใช้แรงไม่น้อยกว่าจะดึงแคลร์ออกจากห้องซักรีดได้

"ทำไมเธอต้องเข้าข้างเขาด้วย  พีปส์"  แคลร์พูดเสียงขุ่น  ขมวดคิ้วใส่พีบีที่มองเธอด้วยสายตาเหมือนเธอเป็นเด็กพูดไม่รู้เรื่อง  "เขาฆ่าคนมา  อย่าบอกนะว่าเธอไม่รู้  เธอได้กลิ่นเลือดไหม"

"ฉันรู้มากกว่านั้นอีก"  พีบีตอบหน้าตาเฉย  นัยน์ตาสีฟ้าเยือกเย็นจนน่าขนหัวลุก  "สมิธเป็นผู้พิทักษ์  มันเป็นงานของเขา"

"แต่เขาเป็นพ่อฉัน"

"แล้วเธอจะให้เขาทำยังไง"

แคลร์ชะงัก  พยายามนึกคำตอบให้กับคำถามของพีบี  แล้วสั่นหัว

พีบียิ้ม  ดันหน้าผากแคลร์ด้วยปลายนิ้วจนหน้าหงาย  "อย่าคิดมากเลยน่า  ถ้าเขาอยากให้เธอช่วยอะไร  เขาก็คงบอกเองแหละ"

แคลร์ยังหน้างออยู่  แต่ยอมเดินกลับห้องดีๆ  อยู่ๆ พีบีก็พูดขึ้นมา

"ผู้พิทักษ์ก็เหมือนตำรวจ  คนเกลียดขี้หน้าเยอะ  ต้องทำใจ"

"หรือเขาอาจจะมีศัตรูส่วนตัว"

"ก็เป็นไปได้"  พีบีตอบ  "ฝูงอื่นๆ น้อยมากที่อยากจะยุ่งกับสมิธ  แต่ก็ไม่ใช่ไม่มี  ไหนจะพวกนักล่าอีกล่ะ"

"พวกมนุษย์ที่เป็นฮันเตอร์น่ะเหรอ"  แคลร์ถาม  พีบีพยักหน้า  "ฉันนึกว่าพวกแบบนั้นหมดไปแล้วซะอีก"

"เธอจำผู้หญิงคนนั้นได้ไหม"

"แฟนพ่อเธอไง  คนที่สูงๆ"

"พีปส์"

พีบียิ้มแห้งๆ  นึกขึ้นได้ว่าแคลร์ไม่ชอบฟังเรื่องนี้  "โอเค  มันไม่ใช่ประเด็นนั้น  ที่ฉันจะพูดคือ...พ่อของผู้หญิงคนนั้นเป็นฮันเตอร์  ไม่ใช่สิ  เป็นทั้งตระกูลนั่นแหละ"

"รอสส์?"

"ใช่"

แคลร์กะพริบตา  เสียงคลิกดังขึ้นในสมองเธอ  ทุกอย่างมันลงล็อกพอดีเป๊ะ  ความสงสัยว่าทำไมพ่อต้องคบกับผู้หญิงคนนั้นทั้งที่มีครอบครัวแล้ว  และทำไมเธอจึงได้กลิ่นหมาป่าจากหล่อน

"เธอรู้ไหม  พีปส์  ใครที่เปลี่ยนมนุษย์เป็นแวร์วูล์ฟได้"

"แลนดอน"  พีบีตอบ  "ฉันชอบฟังพวกผู้ใหญ่คุยกันน่ะ  เรื่องที่เล่าต่อๆ กันมา  ตำนาน  ส่วนใหญ่แม่ฉันจะเล่าให้ฟัง  เหมือนนิทานก่อนนอน  อะไรทำนองนั้น"

"แลนดอนทุกคนเลยหรือเปล่า"

"ไม่  เท่าที่ฉันรู้  แค่ชนชั้นปกครอง  คนที่เป็นสายเลือดของจ่าฝูง  อย่างเช่น  ฝาแฝดแลนดอน"

"แฝดแลนดอน"  แคลร์พึมพำ  แล้วอุทานอย่างนึกขึ้นได้  "สเตฟ!"

"สเตฟ?  สเตฟทำอะไรเหรอ"  พีบีถามงงๆ  ก่อนจะทำตาโตและส่ายหน้าให้แคลร์  "โอ้  ไม่  แคลร์  เธอจะบอกว่า  สเตฟกัดลูกสาวตระกูลรอสส์  เปลี่ยนหล่อนให้เป็นแวร์วูล์ฟเพื่อที่จะอยู่ข้างเราใช่ไหม  นั่นมันบ้ามากเลยนะ"

"ใช่  มันบ้ามาก  แต่มันเป็นไปแล้ว  และฉันคิดว่าฉันรู้ด้วยว่าใครเป็นคนต้นคิดเรื่องนี้  เรื่องอำมหิตแบบนี้"

"ไม่  ฉลาดหลักแหลมต่างหาก"

"ฉลาดเหรอ  เปลี่ยนชีวิตคนทั้งคนเลยนะ"  แคลร์แย้ง  ไม่เห็นด้วย  เธอส่ายหน้าให้พีบี  บิดข้อมือให้หลุดจากมือพีบี  แล้วเดินหนีอย่างรับไม่ได้  ถึงจะเกิดมาในตระกูลที่ขึ้นชื่อว่าดุร้ายที่สุดในเผ่าพันธุ์เดียวกัน  เธอก็ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเลือดเย็นเหมือนใครๆ  บางทีเธออาจจะคิดผิดก็ได้

ความดุร้าย  ก้าวร้าว  รุนแรง  มันฝังลึกอยู่ในดีเอ็นเอ  สืบทอดกันมาจากต้นตระกูล  เธอไม่มีทางหนีมันพ้น  สักวันเธอก็ต้องเป็นเหมือนพ่อ

"บอกได้ไหม  ทำไมฉันถึงเจอเธอ  ดึกป่านนี้" 

แคลร์ชะงัก  เงยหน้ามองเดนนิสก่อนจะมองไปรอบๆ ตัว  ตกใจเมื่อพบว่าเธออยู่กลางสวน  ในชุดนอนกับเท้าเปล่า  ส่วนเดนนิสแต่งตัวเต็มยศ  เชิ้ตและกางเกงสีดำ  ดูจากทิศทางแล้วเหมือนเพิ่งจะเดินมาจากห้องแล็บ

"เป็นอะไร  แคลร์  มีอะไรให้ช่วยไหม"  เดนนิสถามซ้ำ  เอื้อมมือมาแตะใบหน้าแคลร์ที่เหงื่อชุ่ม  คนเด็กกว่าเบนหน้าหลบตามสัญชาตญาณ 

"ฉันขอโทษ  แต่ฉันไม่เป็นไร  แค่เดินละเมอน่ะ"  แคลร์โกหก  ถึงจะรู้ว่าไม่เนียนเลย  แต่เธอขี้เกียจอธิบายว่าทำไมต้องออกจากบ้านมาตอนนี้  แปลกใจด้วยว่าทำไมพีบีไม่ตามเธอมา  เบื่อจะพูดด้วย  หรืออาจแค่ไม่อยากทะเลาะกัน  ช่างเถอะ  เอาไว้เธอค่อยไปขอโทษทีหลัง

"เอ่อ  แล้วเดนท์ไปไหนมา  ทำไมเพิ่งกลับ" 

"มีงานค้างที่ต้องทำอยู่นิดหน่อยน่ะ  เลยทำให้เสร็จๆ ไปเลย  รู้ตัวอีกทีก็ดึกป่านนี้แล้ว  กำลังจะไปนอนแล้วละ  ไปด้วยกันสิ"  เดนนิสบอกและชวนให้แคลร์ตามตนเองเข้าบ้าน  เมื่อเห็นว่าน่าจะปลอดภัยจึงโอบไหล่พาเดินไปด้วยกัน  โดยไม่ได้พูดหรือชวนคุย  ปล่อยให้แคลร์อยู่เงียบๆ จนกว่าจะอยากพูดออกมาเอง

"เดนท์เคยฆ่าใครบ้างไหม" 

ในที่สุดแคลร์ก็ทำลายความเงียบลง  แต่คงเป็นคำถามที่ดูแปลกไปสักหน่อยสำหรับคนฟัง  เพราะแม้เจ้าตัวก็ยังตกใจว่าถามออกไปได้ยังไง  หากเดนนิสกลับยิ้มและตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงขี้เล่น (ซึ่งไม่ได้มีบ่อยๆ)

"เคยสิ  ตัวฉันไง" 

แคลร์ทำหน้าช็อกไปหลายนาที  ลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย

"เอ่อ  ขอโทษ  ฉันไม่ได้ตั้งใจจะถามเรื่องนั้น  ฉันหมายถึง..."

"ฆ่าคนอื่นน่ะเหรอ"  เดนนิสถาม  แคลร์พยักหน้า  ตาสีทองอมเทามีความคาดหวังที่เธอไม่อยากทำลายลง  แต่ก็ไม่อาจจะโกหกได้  แคลร์จะรู้ทันที  มันเป็นผลพวงจากความสัมพันธ์พิเศษระหว่างเรา

"เคย"

แคลร์นิ่งอึ้ง  พูดไม่ออก  พยายามหาร่องรอยการโกหกจากอีกฝ่าย  และมันไม่มี  เธอรู้สึกเหมือนตัวเองงี่เง่ามากที่ถามแบบนี้ออกไป

"เราล่าผู้ที่ล่าเรา"  เดนนิสพูดต่อ  แคลร์จ้องหน้าเธอเขม็ง 

"คุณพูดเหมือนแด๊ด"  แคลร์บอก  "เขาเพิ่งบอกฉันมาเมื่อกี้นี้เอง  ตอนที่..."

"มันเป็นโค้ดของพวกฮันเตอร์น่ะ  นักล่าสิ่งเหนือธรรมชาติในสมัยของฉัน  และนายท่านเห็นว่าเป็นหลักการที่ดี  จึงเอามาใช้เป็นแนวทางของตัวเอง  ฉันท่องมันมาตั้งแต่ตอนอยู่คอร์นวอลล์"  เดนนิสอธิบาย

"ดูเหมือนเขาจะเอามาใช้ที่นี่ด้วย"  แคลร์พูด  น้ำเสียงบอกถึงความไม่พอใจจนคนฟังจับได้  แต่เธอเปลี่ยนเรื่องก่อนที่จะถูกเดนนิสถาม  "ที่จริงมันก็ไม่สำคัญอะไรหรอก  มันไม่ใช่เรื่องของฉัน  เพราะฉันยังเป็นเด็ก"

คำพูดประชดประชันอย่างไม่รู้ตัวของแคลร์ทำให้เดนนิสยิ้มเอ็นดู  เธอเกือบจะเผลอพูดอะไรบางอย่าง  หากแสงสีฟ้าที่เรืองขึ้นในความมืดก็ดึงมันออกไปจากใจ  พอดีกับเสียงพีบีที่ดังขึ้นตรงหน้าประตูบ้าน

"แคลร์  ไปไหนมา  รองเท้าก็ไม่ใส่  --  โอ้  เดนท์  ขอบคุณนะคะที่พาเขากลับมา  มาเถอะแคลร์  เข้าบ้าน  ตัวเย็นหมดแล้ว"  พีบีพูดเร็วๆ  ถอดเสื้อคลุมตัวเองมาคลุมตัวแคลร์  ยิ้มขอบคุณเดนนิสและพาแคลร์เข้าบ้าน

เดนนิสมองตามทั้งสอง  เห็นแคลร์เหลียวกลับมามองเธอด้วยสีหน้าคล้ายยังมีอะไรค้างคาใจ  แต่ก็หันกลับไปเดินต่อโดยไม่ได้ถามอะไรเธออีก

"แคลร์เป็นคนช่างสังเกตและฉลาด  เราปิดอะไรจากเขาไว้ไม่ได้นานนักหรอก"  ยุนอาพูด  สบตาเดนนิสที่หันมามองกัน  "ฉันหวังว่าจะได้พูดกับเขาก่อนที่เขาจะรู้เอง  เวลาแคลร์โกรธ  มันไม่ดีเลย"

"งั้นคงต้องรีบหน่อยแล้วค่ะ"  เดนนิสบอก  ยุนอาฮัมรับ  หรี่ตาจ้องแสงเรืองสีส้มแดงที่ปรากฏขึ้นมาวูบหนึ่งในดวงตาคนตรงหน้าอย่างกังขา

น่าสนใจขึ้นทุกทีแล้วสิ 



.....................


ต่อจากครึ่งก่อนจ้า...  :21: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

30 มิถุนายน 2019 เวลา 10:03:35
จะเป็นตัวอะไรก็เป็นซักอย่างเถอะเดนท์เนี่ย ตายก็ไม่ตาย เอามาทดลองทำเป็นไฮบริดบ้างดีกว่า
แสดงความคิดเห็น