web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 99
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 123
Total: 123

ผู้เขียน หัวข้อ: Book and Movie Review: Kimi No Na Wa | Your name | เธอคือ | หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ  (อ่าน 3060 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ nuffy

  • นักเขียน
  • ขาจร
  • ****
  • กระทู้: 93


Book and Movie Review

ชื่อ: 君の名は。(Kimi No Na Wa | Your name | เธอคือ | หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ)
เขียน/ ผู้กำกับ: ชินไค มาโกโตะ
แปล: ปาวัน
สำนักพิมพ์ : Phoenix (Kadokawa&Amarin)

เรื่องย่อ:
ตอนเช้า มีบางครั้งบางคราวที่ฉันตื่นมาแล้วร้องไห้โดยไม่รู้สาเหตุและมักจะนึกถึงภาพความฝันไม่ออกเสมอ

ฉันกำลังตามหาใครคนหนึ่ง แค่เพียงคนเดียวตลอดมา

ปาฏิหาริย์สลับร่างเกิดขึ้นใต้เงาแห่งดาวหางเทียแมทซึ่งโคจรมาเยือนโลกอีกครั้งในรอบพันปี... หากมันไม่ใช่ความฝัน แล้วตัวตนของฉัน... เธอน่ะคือใคร?

Review (ความเห็นส่วนตัว):

เนื่องจาก Nuffy ทั้งดูหนังและอ่านหนังสือ เลยขอรีวิวให้ครบทั้งสองแบบเลยก็แล้วกัน และแน่นอนมีสปอย

ทั้งหนังและหนังสือเล่าเรื่องราวปาฏิหาริย์สลับร่างระหว่างเด็กหนุ่มและเด็กสาวสองคน มิยามิสุ มิตสึฮะ เด็กสาวผู้อาศัยอยู่ในเมืองอิโตโมริ แถบชนบท เธอมีความฝันที่อยากไปใช้ชีวิตในเมืองกรุง และทาจิบานะ ทาคิ เด็กหนุ่มในโตเกียวผู้ทำงานพิเศษที่ร้านอาหารอิตาเลียน และสนใจในงานด้านศิลปะ วันหนึ่งมิตสึฮะได้ฝันว่าตัวเองกลายเป็นเด็กหนุ่ม ขณะที่ทาคิฝันว่าตัวเองกลายเป็นเด็กสาวในชนบททั้งๆ ที่เขาไม่เคยไปมาก่อน หลังจากนั้นเรื่องราวการสลับร่างของทั้งคู่ก็ไม่ใช่แค่ความฝันเพราะมันเป็นเรื่องจริง ด้วยความผูกพัน ทาคิจึงตัดสินใจออกตามหามิตสึฮะ


ทั้งหนังและหนังสือแบ่งเป็น 3 ช่วงใหญ่ๆ คือ
- ช่วงสลับร่าง
- ช่วงทาคิออกตามหามิตสึฮะ
- ช่วงสรุป

ช่วงแรกในหนังและหนังสือจะไม่ต่างกันคือตลก และขำกับการสลับร่างของสองคนพร้อมๆ กับค่อยๆ เติมรายละเอียดในเรื่องของชีวิตความเป็นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศในเมืองอิโตโมริ ความซับซ้อนในการขึ้นรถไฟในโตเกียว การเรียนเรื่อง ‘คาวาทาเระ โดคิ’ หรือยามสนธยา โดยอาจารย์ยูคิจัง (Easter Egg จากหนังเรื่อง The Garden of Words ยามสายฝนโปรยปราย) และการเขียนไดอารี่ทิ้งไว้ในสมาร์ทโฟนเพื่อบันทึกความเป็นไปในการสลับร่างเกิดขึ้น เนื่องจากการสลับร่างเกิดขึ้นไม่สม่ำเสมอ อาทิตย์ละสองครั้ง สามครั้ง แตกต่างกันไป การนอนหลับเป็นการจุดชนวน โดยไม่มีใครรู้สาเหตุแน่ชัด ทั้งคู่จำเป็นต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกันเพื่อรักษารูปแบบการดำเนินชีวิตของตัวเองเอาไว้เลยตั้งกฎเหล็กที่ทั้งสองต้องทำตามหากสลับร่างกัน ซึ่งในส่วนที่ทาคิเขียนกฎบอกมิตสึฮะนั้นมีถึง 5 เวอร์ชั่น


อาจารย์ยูคิจัง + คนพากย์เสียง

ในช่วงนี้ความสัมพันธ์ขณะที่สลับร่างจะค่อยๆ ฉายภาพถึงความสัมพันธ์กับตัวละครอื่นๆ ทั้งในฝั่งของมิตสึฮะ – ยาย ยตสึฮะ (น้องสาว) ซายะจิน (เพื่อนสาว) เทซซี่ (เพื่อนชาย) นายกเทศมนตรี (พ่อ) และฝั่งของทาคิ – รุ่นพี่โอคุเดระ (คนที่เขาแอบชอบ) สึคาสะ (เพื่อน) ทาคางิ (เพื่อน) รวมทั้งการใช้ชีวิตของทั้งคู่ ไปโรงเรียน เป็นมิโกะ ถักเชือก ทำงานพิเศษ การต่อปากต่อคำของทาคิและมึตสึฮะในไดอารี่จะได้มาจากปฏิกิริยาและฟีดแบ็กของคนรอบข้างนี่เอง

ข้อแตกต่างจากในหนังช่วงนี้: มิตสึฮะใช้สมุดไดอารี่ธรรมดา ส่วนทาคิใช้ไอโฟน มิตสึฮะจะแต่งตัวรัดกุมในช่วงเวลานอนมากขึ้น เพราะไม่รู้ว่าจะสลับร่างกับทาคิในวันไหน (ในหนังไม่มี) แต่ก็ถูกทาคิในร่างตัวเองจับหน้าอกหลังตื่นนอนทุกที


ฉากนี้ฮามาก ยตซึฮะรีบเดินออกจากห้องแล้วพูดว่า ยาไบ๊ ยาไบ๊ ยาไบ๊ (พี่สาวเราบ้าไปแล้ว บ้าไปแล้ว บ้าไปแล้ว)

ช่วงที่สองจะเริ่มเข้าโหมดดราม่าเมื่ออยู่ๆ ทั้งคู่ไม่ได้สลับร่างกันอีกแล้ว หลังจากที่มิตสึฮะในร่างทาคินัดเดทกับรุ่นพี่โอคุเดระให้ ส่วนทาคิก็ได้ไป ‘โกะชินไต’ (สถานที่บูชาเทพเจ้าในศาสนาชินโต) เพื่อนำเหล้าคุจิคามิไปถวายเพื่อเชื่อมโยงเทพเจ้ากับมนุษย์ เหล้าคุจิคามิคือเหล้าเก่าแก่ที่สุดสำหรับถวายเทพเจ้า ที่ทำมาจากการเคี้ยวข้าวและคายทิ้งโดยมิโกะ (ซึ่งก็คือมิตสึฮะและยตสึฮะ) ประเด็นหลักของช่วงนี้คือการเล่าเรื่อง ‘มุซุบิ’ โดยคุณยาย มุซุบิคือเทพเจ้าที่อุปถัมภ์ผืนดิน การต่อด้าย การเชื่อมโยงกับผู้คน กาลเวลาที่เลื่อนไหลผ่าน การรับรู้สิ่งต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย

หลังจากถวายเหล้าเสร็จก็ถึงเวลายามสนธยาพอดี ทาคิในร่างมิตสึฮะก็ได้เห็นดาวหาง และเขาก็ตื่นขึ้นมาพร้อมน้ำตาในวันที่เขาต้องไปเดทกับรุ่นพี่โอคุเดระตามที่มิตสึฮะนัดให้ หลังจากเดทที่ค่อยข้างกร่อยทาคิพยายามติดต่อกับมิตสึฮะ แต่ติดต่อไม่ได้ และหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้สลับร่างกับอีกต่อไป ทาคิเริ่มกระวนกระวายและเริ่มออกตามหามิตสึฮะจากภาพวาดเมืองอิโตโมริ (ในตอนนั้นเขาไม่รู้ชื่อเมือง รู้แค่ว่าอยู่ในเขตฮิดะ) ที่เขาวาดจากความทรงจำเมื่อครั้งที่เขาเคยอยู่ในร่างของมิตสึฮะ แล้วก็พบกับความจริงอันน่าตกใจ (ชิ้งงงง มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก มันต้องมีดราม่า - อ. ชินไคไม่ได้กล่าว Nuffy พูดเอง)

-สปอยหนักๆ-
หลังจากที่ใช้เวลาแทบจะทั้งวันออกตามหามิตสึฮะ ทาคิก็ได้รับรู้ว่าเมืองอิโตโมริถูกทำลายลงจากการแตกตัวของดาวหางเทียแมทซึ่งตกลงมาตรงบริเวณเมืองในช่วงเทศกาลพอดี ส่งผลให้คน 500 คนเสียชีวิต ซึ่งรายชื่อผู้เสียชีวิตนั้นก็มีมิตสึฮะ ยตสึฮะ คุณยาย และเพื่อนๆ รวมอยู่ด้วย ไดอารี่ในไอโฟนที่มิตสึฮะเคยเขียนเอาไว้ก็หายไปหมด และยังมีฉาก flash back ว่าเขาได้รับเชือกถักที่อยู่ตรงข้อมือมาได้อย่างไร มีคนๆ หนึ่งเคยให้เชือกถักเส้นนี้กับเขา แต่เขาจำไม่ได้ว่าใคร

ทาคิช็อคกับเรื่องนี้มาก แต่แล้วเขาก็นึกถึงอะไรบางอย่างได้ นั่นก็คือโกะชินไตซึ่งตั้งอยู่ในกลางรอยยุบตัวคล้ายปล่องภูเขาไฟในเขตนอกเมืองอิโตโมริ เขาจึงเดินทางไปที่นั่น และพบว่าการสลับร่างระหว่างเขากับมิตสึฮะนั้นคาดเคลื่อนกัน 3 ปี  และการสลับร่างนั้นหยุดลงเพราะดาวหาง ทาคิดื่มเหล้าคุจิคามิและได้สลับร่างไปอยู่ในร่างของมิตสึฮะอีกครั้ง และครั้งนี้เขามีแผนเพื่อที่จะช่วยเหลือคนในเมืองนี้ให้รอดพ้นจากดาวหาง

ช่วงระหว่างปฏิบัติการช่วยเหลือชาวเมืองนั้น ทาคิในร่างมิตสึฮะก็รับรู้ว่าก่อนหน้านี้ 1 วัน มิตสึฮะเดินทางไปโตเกียวเพื่อที่จะพบกับเขา แต่ในขณะนั้นตัวเขาเองที่อยู่ในชั้น ม.ต้น กลับงงเพราะมีผู้หญิงที่ไม่รู้จักมาทักแต่ก่อนที่มิตสึฮะจะจากไป เธอก็ได้ให้เชือกถักไว้กับเขาพร้อมกับบอกชื่อ เมื่อนึกขึ้นได้แบบนั้นเขา (ในร่างมิตสึฮะ) รีบขี่จักรยานขึ้นไปบนเขาเพื่อไปที่ชินไตทันที

ในระหว่างนั้นเองมิตสึฮะตื่นขึ้นมาในร่างของทาคิในโกะชินไตก็คิดว่าตัวเองตายไปแล้วแต่ก็รีบวิ่งขึ้นมาบนเขา เธอตะโกนหาทาคิ และได้ยินเสียงของทาคิเช่นเดียวกัน เมื่อถึงยามสนธยาทั้งคู่ก็ได้พบกันในร่างที่แท้จริงของตัวเอง ทั้งคู่บอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง รวมถึงแผนที่จะช่วยเหลือชาวเมืองด้วย ลงท้ายด้วยการเขียนชื่อของกันและกันบนฝ่ามือ แต่ก่อนที่มิตสึฮะจะเขียนชื่อของตัวเองลงไป ยามสนธยาก็จบลงทิ้งทาคิไว้ตามลำพังบนเขาพร้อมกับความทรงจำที่เริ่มจะเลือนรางว่าเขามาที่นี่ทำไม และเริ่มที่จะลืมชื่อของมิตสึฮะ




มิตสึฮะรีบทำตามแผนช่วยชาวเมือง ระหว่างนั้นเธอก็พยายามที่จะไม่ลืมชื่อของทาคิแต่ก็เพียงไม่นาน เมื่อเธอเริ่มจะลืมชื่อของเขาเธอก็มองที่ฝ่ามือที่ทาคิเขียนอะไรบางอย่างให้กับเธอ แต่แทนที่จะเป็นชื่อกลับกลายเป็นคำว่า ‘ชอบเธอนะ’ แทน


ข้อแตกต่างจากในหนังช่วงนี้: ในหนังสือทั้งทาคิและมิตสึฮะพยายามโทรหรือส่งอีเมล์หากันตั้งแต่เริ่มสลับตัวแล้ว แต่ในหนังทาคิเริ่มโทรศัพท์หามิตสึฮะหลังที่เดทกับรุ่นพี่เสร็จแล้ว

ช่วงสุดท้ายเป็นบทสรุปหลังจากที่ทาคิกลับมาจากเมืองอิโตโมริที่ถูกทำลายและความทรงจำเกี่ยวกับมิตสึฮะก็เลือนหายไป แปดปีต่อมาเขารู้เพียงแค่ว่ารู้สึกผูกพันกับเมืองนั้น และรู้สึกว่ากำลังมองหาผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาไม่รู้จักตลอดเวลา แต่แล้วในวันหนึ่งขณะที่กำลังเดินทางไปสัมภาษณ์งานเขาก็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เขารู้สึกคุ้นเคย ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็เช่นกัน ทั้งคู่รีบลงจากรถไฟและวิ่งมาพบกัน จบลงที่ถามชื่อกันและกัน



สรุป

พล็อตหลักคือการสลับร่าง แต่แก่นของเรื่องคือ ‘เวลา’ มันคือเรื่องแบบ Time travel มันใบ้หมดในหนังเรื่องนี้ ตั้งแต่โทรศัพท์ โรงเรียน ดาวหาง สภาพแวดล้อมทั้งในโตเกียวและหมู่บ้าน โดยเฉพาะคำว่าคาวาทาเระ โดคิ หรือยามสนธยา ที่มีความเชื่อกันว่าเป็นช่วงที่มีความเชื่อของการคาบเกี่ยวระหว่างกลางวันและกลางคืน มีผลต่อทั้งวิญญาณ กาลเวลา และปาฏิหาริย์ลี้ลับ และคำพูดของคุณยายกับความเชื่อ ‘มุซุบิ’ ซึ่งเป็นตัวแทนของการเกี่ยวพันกัน หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นพรหมลิขิต

ทำไมถึงลืมชื่อและลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด?
อาจจะเป็นไปได้ว่า (อันนี้เดา) สิ่งที่ทาคิทำคือการแก้อดีต อนาคตก็เลยเปลี่ยน จึงทำให้จำไม่ได้ อันนี้เห็นได้จากหนังไซไฟหลายเรื่อง เป็นการสร้าง Timeline ใหม่ทับ Timeline เดิมให้เนื้อเรื่องมันเดินต่อไปได้

ข้อสังเกต:
- ทำไมจดไดอารี่แล้วไม่สังเกตถึงปีที่จดกันเลย ถึงไม่รู้ว่าเวลามันเหลื่อมกันถึง 3 ปี? ส่วนไอโฟนพอเข้าใจเพราะถึงแม้จะใช้คนละรุ่นแต่หน้าตามันไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเท่าไหร่
- เหล้าคุจิคามิ เหมือนไอเทมเชื่อมวิญญาณ กินเข้าไปแล้วสลับร่างได้เพื่อสร้าง Timeline ใหม่ (นี่มันนิยายวิทยาศาสตร์ + เรื่องลี้ลับทางวัฒนธรรมชัดๆ!)
- ทั้งในหนังและหนังสือต่างบอกว่าทั้งคุณยายและคุณแม่ของมิตสึฮะเคยสลับร่างกับคนอื่นมาก่อน แสดงว่าการสลับร่างสืบทอดกันมาตามสายเลือดของตระกูลมิยามิสุ แถมยังมีนิยายภาคเสริม Kimi no nawa Another side : earthbound ที่รวมเรื่องสั้นของตัวละครในเรื่อง รวมทั้ง ยตสึฮะน้องสาวของมิตสึฮะที่ย้อนเวลาไปในช่วง 1,200 ปีก่อนอีกด้วย
- เรื่องนี้สอดแทรกวัฒนธรรม ความเชื่อแบบญี่ปุ่นภายใต้กลิ่นไอของความเป็นวิทยาศาสตร์



Kimi no nawa Another side : earthbound

ดูหนังหรืออ่านหนังสือดีกว่า?
- หนังไม่สามารถถ่ายทอดตัวหนังสือออกมาได้หมด แต่หนังก็สื่อภาพออกมาได้ค่อนข้างครบถ้วน งานภาพ เสียง เพลงประกอบ ขึ้นชื่อ อ.ชินไค การันตีว่าเทพแน่นอน ภาพสวยมากกกก บางฉากนึกว่ารูปถ่าย หรือ 3D เพลงก็เลือกได้เหมาะสุดๆ แค่ไปดูภาพก็คุ้มแล้ว เสียงพากย์นารักมาก โดยเฉพาะเสียงพายก์นางเอกอย่างมิตสึฮะ Nuffy ดูหนังก่อนที่จะอ่านหนังสือ แต่บอกตรงๆ ว่าดูไปสักพักก็เริ่มเดาเนื้อเรื่องได้ถึงแม้จะหลบสปอยแล้วก็ตาม บรรยากาศโดยรวมคือ Feel good

- หนังเรื่องนี้เข้าชิง Oscar สาขาภาพยนต์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยมด้วยนะ

แปะ OP เพลง (คิดว่าเป็นเพลงที่สปอยทุกอย่างในเรื่องหมดแล้ว) เพลง Yumetourou โดย RADWIMPS


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 ธันวาคม 2016 เวลา 13:37:45 nuffy »




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.