web stats

ข่าว

 


Sparkle (แฟนฟิค) - ตอนที่ 15 Grey

โพสต์โดย: anhann วันที่: 21 มีนาคม 2017 เวลา 21:16:25 อ่าน: 479




ตอนที่ 15 Grey



ทิฟฟานี่สะดุ้งเพราะของเหลวบางอย่างกระเซ็นมาโดนหน้า  พอเปิดดวงตาขึ้นเพราะเสียงโวยวายของคนรอบตัว  และวงแขนที่รวบตัวเธอเข้าไปหาก็พบว่า  คนที่เธอนั่งสอบสวนอยู่แน่นิ่งไปเสียแล้ว

"มันมาจากไหน"  ยุนอาตวาดนักรบหมาป่าคนหนึ่งที่เอาตัวมาบังเธอกับทิฟฟานี่จากกระสุนปืนเอาไว้  "อย่าบอกว่าไม่รู้  ไปเอาตัวมันมาให้ได้"

"ครับ  บอส!"  นักรบหมาป่าอีกคนขานรับ  แล้ววิ่งออกไปตามคำสั่ง 

"คุณไม่เป็นอะไรนะ"  คุณที่ปรึกษาหันกลับมาถามแฟนเจ้านายที่ตนยังจับไหล่ทั้งสองเอาไว้แน่น  ทิฟฟานี่สบตาเธอด้วยท่าทางตื่นๆ  ยุนอาขบฟัน  ดึงผ้าเช็ดหน้าในเสื้อสูทของตัวเองขึ้นมาส่งให้

"หวังว่า  คงไม่ใช่เลือดคุณนะ"

ทิฟฟานี่ส่ายหน้า  รับผ้าเช็ดหน้าสีเทาจากมืออีกคนมามองครู่หนึ่ง  พลางนึกไปถึงคำตอบของยุนอาที่เปรียบตัวเขาเป็นสีเทา  เธอยิ้มขื่นๆ แล้วเช็ดคราบเลือดออกจากใบหน้าตัวเอง  "เขาตายแล้วใช่ไหม"

"คิดว่าใช่ค่ะ"  ยุนอาพยักหน้า  แม้จะไม่อยากยอมรับมัน

"ใช่พวกสเตฟานหรือเปล่า"

"กำลังเช็กอยู่ค่ะ"  ยุนอาตอบ  แตะหูเพื่อรับสายลูกน้องที่ติดต่อเข้ามาทางบลูทูธ  ร่างสูงลุกขึ้นออกจากที่กำบัง  พยักหน้าให้อีกคนตามมาด้วยโดยมีนักรบหมาป่าที่ทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดคอยระวังภัยให้

"ไม่เจองั้นเหรอ  ต้องให้ฉันไปควักลูกกะตาพวกแกไหม"

ทิฟฟานี่ย่นคิ้ว  ละสายตาจากร่างไร้วิญญาณของดงวุคไปหาเจ้าของเสียงดังๆ  ที่เหมือนเสือโคร่งคำรามจนน่ากลัว  ทว่ายุนอาก็ควบคุมตัวเองได้เร็ว  กลับมานิ่งขรึมเหมือนเดิม  แล้วเดินนำเธอเข้าไปสำรวจร่างจิ้งจอกหนุ่ม 

ร่างสูงผอมนั่งยองๆ  ข้างศพผู้ต้องสงสัยของพวกเธอ  ยื่นมือรับผ้าจากบอดี้การ์ดหมาป่าที่ส่งมาให้อย่างรู้งาน  ยุนอาใช้ผ้าผืนนั้นจับหน้าดงวุคให้หันกลับมา  เพื่อมองรอยกระสุนที่เจาะขมับเขาอย่างแม่นยำ 

"สไนเปอร์"  เป็นทิฟฟานี่ที่เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าครุ่นคิด  และกังวล

ยุนอาเงยหน้าขึ้นสบตาจ่าฝูงแลนดอน  ไม่อาจปล่อยผ่านความรู้สึกที่คิดว่าทิฟฟานี่อาจจะรู้ว่าใครเป็นคนทำ  "คุ้นฝีมือ  กับวิธีการหรือคะ"

ทิฟฟานี่กะพริบตา  สั่นศีรษะอย่างไม่แน่ใจ  "ยิงจากแนวราบ  ไม่ใช่จากบนหลังคา  แปลว่าการคุ้มกันที่นี่ไม่แน่นหนาหรือคะ"

"ฉันกำลังสงสัยค่ะ  สงสัยเรื่องเกลือเป็นหนอน"

"คุณสงสัยใคร"  หัวหน้าแลนดอนนึกเป็นห่วงใครบางคนขึ้นมา

"ฉันยังพูดไม่ได้ค่ะ  แต่คิดว่า  ไม่น่าจะนานนัก  แล้วจะบอกคุณนะ"  ยุนอาตอบ  ส่งผ้าคืนให้ลูกน้อง  แล้วลุกขึ้นยืน  ปัดมือไปมา 

ทิฟฟานี่ยังยืนมองศพของดงวุคอยู่ระหว่างที่ยุนอาสั่งงานกับลูกน้อง  อดตกใจตัวเองไม่ได้เมื่อความรู้สึกบางอย่างมันบอกว่า  การสังหารผู้ต้องสงสัยครั้งนี้ไม่ได้เป็นฝีมือของพี่ชายเธอ

การยิงแบบนี้มัน...

"มีอะไรจะพูดหรือเปล่าคะ  จ่าฝูงแลนดอน" 

เจ้าของตำแหน่งนั้นกะพริบตา  เธอยิ้มให้ยุนอาตามมารยาท  พลางสั่นศีรษะ  "ฉันขอตามคุณไปสมิธด้วยได้ไหม  มีเรื่องต้องการคุยกับแทยอน"

ยุนอานิ่งคิดเล็กน้อยแล้วพยักหน้า  "ค่ะ  ไม่มีปัญหา  จะขับรถตามไป  หรือจะนั่งไปกับฉันคะ  แต่ฉันคิดว่า  คุณควรไปกับฉันนะ  กันไว้ดีกว่าแก้"

ทิฟฟานี่ไม่มีปัญหากับการตัดสินใจครั้งนี้  เธอรอจนยุนอาสั่งงานเรียบร้อยแล้วจึงตามกันไปขึ้นรถจากัวร์สีเงินซึ่งคงเป็นรถประจำตำแหน่งของคุณที่ปรึกษา  แต่ตอนนี้เขาไม่มีคนขับรถขับมาให้เหมือนตอนกลางวัน

"เราไม่ต้องกลัวคนตามหรือ"  เธอถามอย่างสงสัย  แต่เพิ่งรู้ตัวว่าพลาด  ก็ตอนที่ยุนอาหันมายิ้มแฝงความนัยแบบนี้  เหมือนวันนั้นไม่มีผิด

"นี่คุณ  ฉันยังมีลูกกับฝูงที่ต้องดูแลนะ"  ทิฟฟานี่พูด  จับสายเข็มขัดนิรภัยแน่น  และหาที่ยึดเกาะให้ตัวเองเมื่ออีกฝ่ายเร่งความเร็วขึ้นอีก

"ฉันมีภรรยาต้องดูแลอีกสองคนค่ะ  เจ้านายด้วย  ฉันชนะ"

จ่าฝูงแลนดอนเหนี่ยวคิ้ว  ไม่ค่อยเข้าใจความขี้เล่นของอีกฝ่ายนัก  แต่ก็ยอมรับว่า  มันทำให้ความกังวลของเธอจางลงไปบ้าง  หวังว่าสมิธคงไม่เลวร้ายอย่างที่ซูยองพยายามทำให้เธอเชื่อ

"ฉันรู้นะ  ว่าคุณคิดว่าพวกเราก้าวก่ายมากเกินไป  แต่เจ้านายของฉันก็แค่หวังดี  ถึงเธอจะดูปากร้ายแบบนั้น"

"แก้ตัวให้กันขนาดนี้  ฉันควรจะว่ายังไงดีล่ะ"  ทิฟฟานี่พูด  ลืมกลัวความเร็วของรถที่นั่งอยู่ไปแล้ว  "ฉันรู้นะ  เรื่องที่พวกคุณเคย --"

"คุณควรสนใจเรื่องข้างหน้ามากกว่าเรื่องที่ผ่านมาแล้วนะคะ  เพราะผ่านไปแล้ว  คือแก้ไขอะไรไม่ได้  แต่เรื่องข้างหน้า  คุณสร้างมันได้ค่ะ"  ยุนอาพูดโดยละสายตาจากถนนมองคนฟังเพียงพริบตาเดียว  แต่เพียงพริบตาเดียวทิฟฟานี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงจังในสายตานั้น

"แปลว่า  ฉันควรสบายใจเรื่องแทยอนแล้วใช่ไหม"

"ฉันกับคริสตัลถนอมเธอแบบที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อนเลยค่ะ จ่าฝูง"

จ่าฝูงที่ว่ากลอกตานิดหน่อย  ยังไม่ชินกับการหยอกเย้าแบบนี้นัก  แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้รำคาญมากเท่าครั้งก่อนๆ แล้ว 

"แทยอนเป็นเหมือนพี่สาวแท้ๆ ของฉัน  คุณคงเข้าใจนะ  ยุนอา"

"ฉันทราบดีค่ะ"  ยุนอาตอบขึงขังทั้งที่ดวงตายังมองไปข้างหน้าและรอบตัวอย่างระวัง  "และฉันก็อยากให้คุณรู้เหมือนกันค่ะ  ว่าแทยอนสำคัญกับฉันและคริสตัลจริงๆ  เธอไม่ใช่แค่ตุ๊กตายางสำหรับพวกฉันนะคะ"

ทิฟฟานี่เม้มปาก  พยักหน้าอย่างพยายามเข้าใจ  ถึงแม้จะไม่ค่อยอยากเชื่อนักว่า  ความรักสำหรับสามคนมันจะมีอยู่ในโลกนี้ได้ยังไง

"แทยอนบอบช้ำมาเยอะ  ทางด้านจิตใจ  ยังไงก็ดูแลเธอให้ดีด้วย"

ยุนอาพยักหน้ารับคำ  ทิฟฟานี่มองเห็นดวงตาสีฟ้าเข้มของเขาวูบไหว  แม้เพียงเล็กน้อย  ก็ยังถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับแทยอนแล้วละ

.................................................. 

ทิฟฟานี่เลิกคิ้วแปลกใจเมื่อมาถึงบ้านสมิธแล้วเห็นแทยอนเดินมาหาพร้อมกับมีอีกคนห้อยท้ายมาด้วย  คริสตัลในเสื้อเชิ้ตนอนกับกางเกงนอนเดินสะลึมสะลือถูกมือเล็กๆ ของเพื่อนเธอจูงมาออกมายังห้องโถง  พอเพื่อนเธอหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ  เด็กสาวตัวสูงนั่นก็เอาคางมาพาดบ่าเล็กขณะยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง  ตายังไม่ยอมลืม  ส่วนเพื่อนเธอก็อยู่ในชุดนอนเหมือนเด็กไม่มีผิด  เด็กสาวไฮสกูลน่ะ  --  น่ารักดี...ถึงจะดูแปลกไปสักหน่อย

"คุณ"  แทยอนพูด  ทิฟฟานี่รู้ว่าเพื่อนไม่ได้พูดกับเธอ  เพราะตามองยุนอาที่มัวแต่ยุ่งคุยอะไรอยู่กับใครในโทรศัพท์มือถือ  พอที่ปรึกษาตัวสูงหันมา  แทยอนก็พเยิดหน้าไปทางคริสตัล  ยุนอาจึงเลิกคุยโทรศัพท์เดินมารับตัวเด็กงอแงไปดูแลเอง 

ทิฟฟานี่มองตามหลังทั้งคู่ที่เดินกอดคอกันไปอย่างสนใจ

"มีอะไรหรือเปล่า  มาเอาป่านนี้  แล้วนี่นอนบ้างหรือยัง"  แทยอนถาม  ดึงเพื่อนสนิทที่รักเหมือนน้องสาวแท้ๆ มานั่งลงบนโซฟาด้วยกัน

"ฟานี่  เกิดอะไรขึ้น"

ทิฟฟานี่ตกใจหน่อยๆ  เมื่อแทยอนลูบแก้มเธอแล้วยกนิ้วขึ้น  มันเปื้อนด้วยสีแดง  เธอสั่นศีรษะ  ไม่อยากพูดเรื่องนี้เลย  กระสุนนัดนั้นอาจจะเจาะหัวเธอเองก็ได้  ถ้าคนยิงตั้งใจ

"ฉันรู้นะ  ว่ามันต้องมีเรื่อง  ตอนยุนอาโทรมาบอกว่าเธอจะมาหาน่ะ"  แทยอนซัก  นิ้วที่เปื้อนยังโชว์อยู่ตรงหน้า  "บอกมา  ฟานี่"

"โทษทีแท  ฉันน่าจะรู้ว่า  เธอไม่ทำแบบนั้น"

"ฉัน?  ฉันทำอะไร" 

ทิฟฟานี่กัดกระพุ้งแก้มอย่างลำบากใจ  "คือ...ดงวุคตายแล้วน่ะ  โดนลอบฆ่า...ด้วยสไนเปอร์  กับกระสุนสั่งทำพิเศษ"

แทยอนนิ่งไปหน่อย  ก่อนยิ้มขื่นๆ  แล้วหันไปคว้ากล่องกระดาษทิชชู่มาเช็ดนิ้วตัวเอง  และเช็ดหน้าให้อีกฝ่ายไปด้วย  "ถ้าฉันออกไปจากที่นี่ได้  เธอก็อาจจะคิดไม่ผิดก็ได้นะ  น่าเสียดายที่คริสตัลไม่ได้หลับจริงๆ"

"เธออยากฆ่าเขาขนาดนั้นเลยเหรอ  แท  ทำไมล่ะ  แค้นหรือว่า..."

"แค้น  หรือเธอคิดว่า  ฉันจะฆ่าปิดปากเขาล่ะ"

ทิฟฟานี่สั่นศีรษะ  แล้วพิงหน้าผากกับไหล่เล็กเพราะรู้สึกเหนื่อยเต็มที  คืนนี้ทั้งคืนเธอแทบไม่ได้นอนเลย  มีเวลาแค่ส่งลูกสาวนอน  ไม่ได้อ่านนิทานให้ลูกฟังด้วย  เพราะต้องออกมาประชุมกับยูริกับซอฮยอน  แล้วก็หนีออกมาเล่นบทสายลับนักซิ่งคนเดียว  แต่ก็มาเจอเรื่องแบบนี้อีก

"เหนื่อยล่ะสิ  ไปเถอะ  ฉันจะหาที่ให้เธออาบน้ำแล้วนอน"

"ฉันกลับบ้านดีกว่ามั้ง  รบกวนเปล่าๆ"

"ฉันจัดการเองค่ะ  มิสไวด์" 

เสียงของบุคคลที่สาม  ดึงสายตาทิฟฟานี่และแทยอนให้เหลือบขึ้นดู  แล้วก็พบกับเจ้าของบ้านสมิธในชุดนอนกระโปรงที่มีเสื้อคลุมสวมทับอีกที  และแน่นอนว่า  เจสสิก้าไม่ได้มาคนเดียว  ซันนี่  โกลด์แบล็ต  ยืนอยู่ด้านหลังด้วย

คนบ้านนี้ไม่หลับไม่นอนกันเลยหรือไงนะ

"ลุกสิ  ฟานี่  คุณแทยอนจะได้กลับไปหาสามีของเธอ"  เจสสิก้าเร่ง  นัยน์ตาเย็นชาสีขี้เถ้าเริ่มมีแววหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย  แทยอนจึงต้องช่วยดันตัวเพื่อนรักให้ลุกขึ้น

"แล้วคุยกันตอนเช้า  ฟานี่"

ทิฟฟานี่พยักหน้า  ปล่อยมือเล็กของแทยอนอย่างจำใจ  แทยอนยกนิ้วโป้งเชียร์เธอตอนเหลียวไปมอง  เธอยิ้มให้ท่าทางนั้น  แล้วเดินตามเจสสิก้าโดยมีซันนี่เดินตามหลังอยู่เงียบๆ อย่างระวังภัย

"ใส่ชุดของคริสตัลได้ไหม  แต่มันมีแต่สีทึมๆ นะ  คริสเกลียดสีชมพู"

"เป็นผู้หญิงอะไร  เกลียดสีชมพู"

"ฉันไม่ได้เกลียด  แต่ก็ไม่ได้ชอบ  ฉันชอบสีขาว"

คนฟังเลิกคิ้ว  แปลกใจที่ได้ยินเรื่องแบบนี้จากปากผู้หญิงเย็นชา

"เธอใช้ห้องน้ำนี้ได้  แล้วนี่ก็เสื้อผ้า"  เจสสิก้าบอกขณะที่ซันนี่ยื่นเสื้อผ้าซึ่งรับมาจากสาวใช้ให้กับทิฟฟานี่  "ซันนี่จะรอเธออยู่ที่นี่เพื่อพาเธอไปห้องนอน  ไม่ต้องรีบ  และไม่ต้องเกรงใจ"

"แล้วเธอจะไปไหนล่ะ"

"กลับห้องของฉันสิ  พรุ่งนี้ฉันมีประชุมที่บริษัทแต่เช้า  ถ้าเธออยากเจอฉัน  ก็ตื่นให้ทันมื้อเช้า  ราตรีสวัสดิ์  ทิฟฟานี่"

ทิฟฟานี่พยักหน้าอย่างจำใจ  มองแผ่นหลังบอบบางของเจ้าของบ้านไปด้วยความรู้สึกประหลาดในอก  ไม่ยุติธรรมเลยที่เธอไม่เคยรู้ว่าเจสสิก้าคิดอะไรอยู่  ภายใต้ท่าทีเฉยเมย  ดวงตาไร้อารมณ์นั่นซุกซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้  แบบที่เธอไม่สามารถเข้าถึงมันได้  หล่อนเหมือนไม่สนใจเธอ  แต่ก็สนใจ...

"เธอเป็นเจ้าหญิงที่ถูกขังอยู่ในหอคอยค่ะ  ต้องใจเย็นหน่อยนะคะ"

เสียงรื่นเริงของซันนี่ดึงรอยยิ้มบางๆ ขึ้นมาบนใบหน้าของผู้ฟังได้อย่างไม่ยาก  ทิฟฟานี่ก้มมองเสื้อผ้าในอ้อมแขนตัวเองแล้วย่นคิ้ว  มีแต่สีเทากับดำทั้งนั้นเลย  "ฉันต้องทำความคุ้นเคยกับสีพวกนี้ให้ได้ใช่ไหมคะ"

"ค่ะ  เพราะมันคือสีประจำของเรา  ช่างตีเหล็ก"  ซันนี่ตอบด้วยยิ้มสุภาพ  "เชิญค่ะ  ฉันจะรออยู่ตรงนี้  ไม่ปล่อยให้หมาที่ไหนมากัดคุณแน่ๆ"

"ที่นี่หมาดุเหรอคะ"

"มากค่ะ  หวงเจ้าของมากด้วย" 

ทิฟฟานี่ฟังคำตอบนั้นด้วยใบหน้าเหยเกก่อนหมุนตัวเข้าห้องน้ำไป

.............................

แม้มีเวลานอนเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากผ่านเหตุการณ์ระทึกขวัญนั้น  ทิฟฟานี่ก็ยังรู้สึกสดชื่นกับการตื่นขึ้นมาในตอนเช้าภายในบ้านสมิธ  ที่นี่อาจจะค่อนข้างเงียบไปสักหน่อย  หากบรรยากาศก็อบอุ่น  ไม่ได้ขาดชีวิตชีวาอย่างที่เธอเคยจินตนาการไว้ 

ซันนี่มาเคาะประตูห้องสองครั้งอย่างมีมารยาท  ทำให้เธอต้องละสายตามาจากทิวทัศน์สวยงามของสวนหย่อมที่มองเห็นได้จากหน้าต่างห้อง  พอเปิดประตู  เธอก็ได้รับชุดสำหรับใส่ในวันนี้มาจากคุณแม่บ้านของสมิธ

"ชุดของคริสตัลอีกหรือเปล่า"

"ค่ะ  เป็นไซส์ที่ใกล้เคียงคุณที่สุดแล้ว  แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ  ชุดใหม่เหมือนชุดเมื่อคืนนี้แหละ"

"โอ้  นายน้อยของคุณมีชุดที่ไม่ได้ใช้เยอะเลยนะคะ"

"พี่สาวซื้อให้ค่ะ  ไปช้อปทีไรก็ซื้อมาฝากน้องตลอด  มันเลยเยอะมากจนคริสตัลใส่ไม่ทัน  ถือเป็นโชคดีของฉันด้วย  เพราะไม่ต้องไปเอาจากห้องนั้นด้วยตัวเอง"

"ทำไมคะ  ห้องนั้น  มันเป็นยังไงเหรอ"  ทิฟฟานี่ถาม  การคุยกับซันนี่ให้ความรู้สึกปลอดภัยกว่าทุกคนในบ้านหลังนี้  แม้อีกฝ่ายจะเป็นจากัวร์

"ก็ไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะ  แค่ฉันไม่อยากเป็นตากุ้งยิงน่ะ  ถึงอัลฟาในห้องนั้นจะน่ามองมากแค่ไหนก็ตาม"  ซันนี่ตอบ  ทำหน้าสยองหน่อยๆ  "คุณแต่งตัวเถอะค่ะ  มื้อเช้าของเราเริ่มตอน 8 โมงครึ่ง  นี่ก็ใกล้แล้วด้วย"

"งั้นฉันก็ควรรีบแล้วสิ"

"ค่ะ  ถ้าคุณอยากเจอหน้าเจ้าหญิงนะ"

ทิฟฟานี่พยักหน้า  แล้วซันนี่ก็ปิดประตูห้องให้  คราวนี้เธอใช้ห้องน้ำภายในห้องนอนของแขกเพื่อจัดการกับตัวเอง  และห้องน้ำห้องนี้ก็ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่โรงแรมห้าดาว  มันมีทุกอย่างครบจริงๆ 

"รวยมหาศาลเลยสินะ  สมิธ"  เธอพึมพำระหว่างมองก็อกน้ำสีทองตรงอ่างล่างหน้ากับบรรดาสุขภัณฑ์อื่นๆ ภายในห้อง  แล้วไล่สายตามาเจอกับของที่ซันนี่อาจจะแอบมาเตรียมเอาไว้ให้  ผ้าขนหนูสีขาว  ยาสีฟัน  แปรงสีฟัน  สบู่  ยาสระผม  กระทั่งน้ำหอม  โลชั่น  ทุกอย่างล้วนเป็นของใหม่

"ช่วยบอกหน่อยสิ  ว่าฉันไม่ได้มาเที่ยวพักร้อน"  ทิฟฟานี่มองตัวเองในกระจก  แล้วยิ้มบ้าบออยู่คนเดียวก่อนเริ่มจัดการตัวเองอย่างเร่งด่วน  เพราะเธอก็อยากเจอหน้าเจ้าหญิงของบ้านอยู่เหมือนกัน

...................................................   

เจสสิก้านั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในห้องอาหารแล้วตอนเธอเข้าไปถึง  จ่าฝูงสมิธหรือท่านรองประธานบริษัท Big Black Wolf  อยู่ในชุดที่พร้อมจะไปทำงานแล้ว  ยุนอานั่งอยู่ในเก้าอี้ทางขวามือในชุดสูทเคร่งขรึมสีเทาดำ  แต่วันนี้ผูกเนคไทสีน้ำเงินเข้มมีลายสีทองพาดด้วย  เดาว่าเพราะต้องเข้าประชุมพร้อมกับท่านรองที่วันนี้ก็ดูสวยสง่าสมกับตำแหน่งเหลือเกิน  ไม่มีการปล่อยให้กระดุมสองเม็ดบนว่างไว้อีกต่อไปแล้ว  ทำให้เธอนึกเสียดายหน่อยๆ ที่ไม่ได้เห็นบราเซียสีดำสุดเซ็กซี่เช่นวันนั้นอีก  แต่แน่นอนว่าเสื้อเชิ้ตนั้นเป็นสีขาว

ทิฟฟานี่ก้มดูตัวเองเล็กน้อย  ชุดของคริสตัลก็เป็นแบบของเจ้าของนั่นเอง  เสื้อเชิ้ตสีขาวมีลายตาเล็กๆ เป็นเส้นสีแดง  สูทสีเทามีลวดลายสีดำ  กางเกงผ้าสีดำพอดีตัวที่คับช่วงสะโพกนิดหน่อย  ซึ่งหมายความว่า  สะโพกเธอใหญ่กว่าเจ้าเด็กตัวเพรียวนั่นสินะ  แต่ช่วงอกนี่หลวมโพรกเลยเชียว  ดีหน่อยที่ซันนี่เอาชุดชั้นในของเธอที่ใส่เมื่อคืนไปซักให้จนแห้งทันเอามาใช้ได้ในวันนี้  ไม่อย่างนั้น  เธอคงต้องอายกับการใส่บราของคริสตัลไม่ได้ด้วย

ควรสงสารตัวเองดีไหมนะ

"คุณนั่งตรงนั้นได้ค่ะ  จ่าฝูงแลนดอน"  ยุนอาใช้สายตาชี้ไปทางเก้าอี้ที่ยังว่างอยู่ตรงฝั่งซ้ายของเจสสิก้าซึ่งนั่งอยู่หัวโต๊ะ  แล้วชี้แจงต่อเพราะเห็นว่าทิฟฟานี่ยังดูเกรงใจ  "คริสตัลนั่งข้างฉันค่ะ  ไม่มีปัญหา"

"แล้วแท --"

"ฟานี่  หนูมาทันจริงๆ ด้วย!"

"โดโด้"  ทิฟฟานี่เรียกชื่อลูกสาวอย่างตกใจ  แล้วรีบเดินไปรับตัวลูกที่วิ่งมาหาอย่างร่าเริง  เงยหน้าขึ้นก็เจอคริสตัลกับแทยอนเดินตามหลังลูกมา

"คริสกับฉันไปรับมาน่ะ  ซอโทรบอกว่างอแงแต่เช้าเลย  พอตื่นมาไม่เจอเธอ"  แทยอนเล่า  ทิฟฟานี่พยักหน้าขอบคุณเพื่อนรัก  ชำเลืองมองคริสตัล  รายนั้นย่นคิ้วหน่อยๆ  ตาสองสีจ้องคนหน้าหวานราวกับสงสัยอะไรสักอย่าง

"คุณใส่ชุดของฉันนี่"

"พี่ให้เขายืม  เพราะเธอไม่ยอมเอาไปใส่สักที"  เจสสิก้าตอบให้

"มานั่งลงคริส  เธอต้องไปประชุมกับพี่วันนี้"

"ต้องด้วยเหรอ"

"ใช่  ถ้าเธอไม่อยากให้ฉันฟ้องพ่อ"

"โอเคค่า  ท่านรอง  อยากได้อะไรอีกสั่งมาเลย"  คริสตัลประชด  ขัดกับการเข้าไปกอดพี่สาวจากด้านหลัง  แล้วหอมแก้มเจสสิก้าที่หอมตอบน้องอย่างอ่อนโยนไม่ต่างกัน  ภาพแบบนี้ทำให้ทิฟฟานี่ยิ้มได้ทุกที  แต่ก็สะดุ้งทุกทีเหมือนกันเมื่อโดนตาสองสีเหลือบมามอง

"ไปนั่งไป  ปล่อยมือจากหน้าอกฉันด้วย"  เจสสิก้าว่า  ตีมือน้องสาวดังเพี้ยะ  แต่เจ้าเด็กตัวสูงก็ยังยิ้มระรื่น  แกล้งส่งเสียงคำรามแฮ่ใส่ทิฟฟานี่ให้ตกใจเล่นก่อนเดินไปนั่งเก้าอี้ใกล้ยุนอาพร้อมกับลากแทยอนไปนั่งใกล้ตัวเอง

"โดโด้  นั่งเก้าอี้เด็กนะคะ  แบบที่เคยนั่งไง" 

ทิฟฟานี่เลิกคิ้วเมื่อได้ยินจ่าฝูงผู้เย็นชาพูดเสียงอ่อนหวานกับลูกสาวของเธอ  โดโรธีหันมามองเธอด้วยสายตาถามความเห็น  เธอจึงพยักหน้าให้  แล้วลูกก็ยอมขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ของเด็กโดยมีเธออุ้มขึ้น  ตอนนี้โดโรธีจึงนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างเธอกับเจสสิก้า  ซันนี่นั่งอยู่อีกด้านของเธอ

ช่างเป็นการกินมื้อเช้าที่อบอุ่นเสียจริง

มื้อเช้าในบ้านสมิธผ่านไปด้วยความเรียบร้อยท่ามกลางเสียงพูดคุยเล็กน้อยของพี่น้องสมิธกับหนูน้อยโดโรธีที่ต้องจำใจกินผักเพื่อสุขภาพจากจานอาหารที่เจสสิก้าสั่งให้แม่ครัวทำให้เป็นพิเศษสำหรับเด็กเช่นทุกครั้ง

"เดี๋ยวให้คุณแม่กับคุณแทไปส่งหนูที่โรงเรียนนะคะ  โดโด้  เจสซี่ต้องไปทำงานแต่เช้าค่ะ  ไว้เจอกันตอนเย็นนะ"  เจสสิก้าพูดขึ้นระหว่างเดินจูงมือพาโดโรธีออกมาจากบ้านด้วยกัน  ทิฟฟานี่สบตาเธออย่างสงสัย 

"เธอจะได้คุยกับแทยอนไง  มีเรื่องต้องคุยกันเยอะไม่ใช่เหรอ"  เธอตอบคำถามในดวงตาสีน้ำตาลแดงให้  "แล้วถ้าเธอว่าง  และอยากคุยกับฉัน  ฉันอยู่ที่ทำงานตลอดเวลา"

ทิฟฟานี่พยักหน้าโดยไม่พูดอะไร  เธอมองเจสสิก้าก้าวขึ้นเลกซัส NX   ที่คนขับเปิดประตูผู้โดยสารด้านหลังให้  ตามด้วยคริสตัลที่เพิ่งผละจากแทยอนไปอย่างเสียดาย  แล้วก็ยุนอา  แล้วรถก็เคลื่อนออกไปอย่างนิ่มนวล

"คันนี้ฟานี่  บ้านนี้รถเยอะมาก  รวยเว่อร์มาก"  แทยอนร้องเรียกมาจากเมอร์เซเดสเบนซ์  เอสแอล 500 สีเทา  ซึ่งทำให้ทิฟฟานี่เหนี่ยวคิ้วทันที

"ฉันไม่อยากรู้เลย  ว่านี่รถใคร"  เธอพูดขณะที่แทยอนควงกุญแจรถเล่นอย่างสบายอารมณ์  แน่ละ  ยายบ้านี่คลั่งเบนซ์สปอร์ตจะตายไป

"รถคริสตัล  แต่วันนี้เป็นรถฉัน"

ทิฟฟานี่กลอกตา  จำใจต้องเข้าไปนั่งในรถคนเห็นแก่ตัวที่มีที่นั่งแค่สองที่โดยให้โดโรธีนั่งตักเธอ  และแทยอนเป็นคนขับ  "แน่ใจนะ  ว่าขับเป็น"

"เป็นสิ  คริสให้ฉันลองแล้ว  แต่น่าเสียดายที่เบาะสวยๆ นี่มันไม่อุ่นเหมือนตักเขา"

"เป็นมากนะ  แทยอน  รักเขาไปแล้วหรือไง"

"เขาเป็นความอบอุ่นที่ฉันต้องการ  ทั้งสองคน  ฟานี่"  แทยอนตอบ  หมุนพวงมาลัยพาเจ้ารถถังในคราบรถสปอร์ตสุดเท่ออกจากบ้านสมิธด้วยรอยยิ้มที่ทิฟฟานี่พยายามจะเข้าใจความหมายของมัน

.......................................

"เธอคิดว่า  ใครเป็นคนทำ"  แทยอนถามขึ้นเมื่อทิฟฟานี่กลับมาจากไปส่งลูกสาวเข้าโรงเรียน  และสั่งนักรบหมาป่าที่แฝงตัวอยู่ในโรงเรียนให้ดูแลโดโรธีอย่างเข้มงวด  เพราะคนของสมิธถอนออกไปจากที่นี่หมดแล้วหลังจากวันที่จ่าฝูงแลนดอนขอพื้นที่ของตัวเองคืน

"ฉันต้องถามเธอสิ  เพราะเธอรู้จักกับคนพวกนั้นมากกว่าฉัน"  จ่าฝูงย้อนท่านรอง  แทยอนเคาะพวงมาลัยรถอย่างครุ่นคิด  ท่าทีไม่ต่างอะไรเลยจากแทยอนคนก่อนราวกับการไปเป็นภรรยาของอัลฟาสองคนไม่ได้ทำให้สาวตัวเล็กเปลี่ยนไปเลย  นอกจากได้แผลเป็นที่เป็นรอยเขี้ยวตรงหัวไหล่ขวา

"คนที่ใช้สไนเปอร์ได้แม่นยำขนาดนั้น  ไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวในกลุ่มชนชั้นผู้พึ่งพาหรือกลุ่มผู้อพยพของฝูงแลนดอนที่โดนพ่อของเธอจับไปฝึกให้เป็นนักรบ  ยังมีอีกคนที่ได้คะแนนสูสีกับฉันมาตลอด"

"แล้วมันใครล่ะ  ฉันเกิดหรือยัง  ตอนเธอกับยูลฝึก  ยังใช่ไหม"

"ฮโยยอน"  แทยอนตอบ  แล้วยักไหล่ให้กับสีหน้าตกใจกึ่งไม่เชื่อของคนฟัง  "ฉันรู้ว่า  เธอจะบอกว่าหล่อนหายไปนานแล้ว  เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้  แต่เธอสามารถถามคริสตัลได้นะ  ว่าฉันออกไปไหนหรือเปล่า  นอกจากโดนเขากดจมที่นอนเกือบทั้งคืน  แต่ถ้าเธอจะคิดว่าเขาอาจจะโกหกอีก  ก็ไม่เป็นไร"

"แท  อย่าประชดฉันน่า  แค่นี้ฉันก็ปวดหัวพอแล้ว"  ทิฟฟานี่พูด  แล้วเอนศีรษะลงกับเบาะหนังอย่างดีของรถคนเห็นแก่ตัว  นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงมองว่างเปล่าไปนอกตัวรถขณะที่เมอร์เซเดสเคลื่อนตัวออกไปด้วยความเร็วที่ไม่น่าหวาดเสียวแบบจากัวร์คันเมื่อคืน  "ถ้าเป็นสเตฟาน  ทำไมเขาไม่ยิงหัวฉันแทนดงวุคล่ะ  เขาฆ่าฉันได้ง่ายนิดเดียวเอง  ตอนนั้น"

"นั่นทำให้เธอคิดว่า  เป็นฉันสินะ"  แทยอนพึมพำ  ตามองถนนอย่างมีสมาธิโดยไม่ลืมมองกระจกข้างกับหลังด้วย  มุมปากของเธอยกขึ้นเล็กน้อย  เพราะเห็นรถติดตามของสมิธที่ยุนอาส่งมาตามที่แจ้งกับเธอไว้ล่วงหน้า

นี่เป็นวิธีการง้อเธอของเจ้าเสือนั่นหรือไงนะ

"ก็เธออยากทำให้ฉันคิดเองนี่  แท"  ทิฟฟานี่บ่น  ยกมือขึ้นบีบขมับตัวเอง  "แล้วถ้าเธอบอกว่า  ฮโยยอนทำ  ก็แปลว่าหล่อนไปอยู่กับพี่ชายฉันสิ  ถ้างั้นทำไมหล่อนไม่ยิงฉันล่ะ"

"มันง่ายไปมั้ง"  แทยอนพูด  "พวกนักล่าอย่างเขาน่ะ  ชอบไล่เหยื่อให้จนมุม  แล้วค่อยตามมาขย้ำทีหลัง  ถามฉันสิ  ฉันอยู่กับพวกแบบนั้นทุกวัน"

"แล้วเราควรทำยังไงกับพวกเขาดีล่ะ"

"หลอกให้เขาตายใจ  ให้เขาคิดว่าเราอ่อนแอ  แล้วค่อยจัดการ"

ทิฟฟานี่ชำเลืองมองแทยอนที่เบนสายตาจากถนนมาสบกับเธอพอดี  สาวตัวเล็กยักคิ้วให้เธอแบบที่เรารู้กัน  แล้วเธอก็ยิ้มกว้างกับตัวเอง 




..........................................


ไงล่ะ  แลนดอนไม่ได้กากนะคะ  แล้วแทแทก็ไม่ได้หลงสามีอย่างเดียวด้วย  5555

เรื่องนี้มันวุ่นวายค่ะ  เรืองเยอะมาก  ใจเย็นหน่อยนะคะ  แม่ยกเจทิ  อิอิ   :61:

Rating: ***** โดย 1 สมาชิก
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

22 มีนาคม 2017 เวลา 00:27:36
ตั้งแต่อ่านมามีความรู้สึกว่าพี่หมาหมีขาวกากมากอ่ะเมื่อเทียบกัยท่านรอง แต่ท้ายตอนรู้สึกว่าจะไม่กากเหมือนที่ผ่านมาชะนะเนี้ยะ ต้องรอติดตามฝีมือของแลนดอนแล้ววววว

21 มีนาคม 2017 เวลา 23:00:23
ชอบอ่ไรท์สนุกดี

21 มีนาคม 2017 เวลา 21:47:44
แล้วเรื่องเร้าใจก็มารอนะคะรอตอนต่อไป
แสดงความคิดเห็น