web stats

ข่าว

 


มุก&น้ำ บทที่ ๑๕

โพสต์โดย: หมาน้อยพิทักษ์ดวงดาว วันที่: 16 มีนาคม 2017 เวลา 07:51:28 อ่าน: 300

มุก & น้ำ
บทที่ ๑๕

"เฮ้อออ" มณิภาถอนหายใจยาว ล้มตัวลงบนเตียง อ้าแขนอ้าขาเต็มที่

โอภาวางรีโมทเครื่องปรับอากาศไว้ที่เดิมแล้วหย่อนตัวนั่งข้างๆ สาวสวยที่นอนกอดหมอนข้างอยู่ "รู้สึกดีขึ้นเปล่า?"

"อือ"

"ดีละ เดี๋ยวเราแบ่งไอติมมาให้นะ" โอภาถลาไปที่ถุงพลาสติกบนโต๊ะ ดึงเอากล่องไอศกรีมกล่องใหญ่ออกมา ตักแบ่งใส่ถ้วยสองถ้วย
แล้วเอาที่เหลือไปเก็บในตู้เย็น

มณิภาลุกขึ้นรับถ้วยไอศกรีมมากิน "อร่อยจัง" เธออมยิ้มให้ท่าทางการกินของอีกคน ที่ส่งไอศกรีมเข้าปากต่อเนื่องไม่หยุด แล้วทำท่าขนลุก
อ้าปากพ่นไอเย็น

หลังจากจัดการไอศกรีมไปแล้วคนละสองถ้วย มณิภาก็ทิ้งตัวลงบนที่นอน เธอรู้สึกว่ากำลังจะไม่สบาย คอของเธอแห้งผาก และเจ็บนิดหน่อย
ตัวร้อนเล็กน้อย ตอนนี้เริ่มปวดหัวแล้วด้วย ไม่น่ากินไอศกรีมเลย เธอคิดพลางพลิกตัวไปกอดหมอนข้าง หลับตาลง ฟังเสียงถ้วยกระทบกัน
อยู่ในอ่างล้างจาน อึดใจต่อมา เธอก็รู้สึกว่าเบาะยวบลง มือเย็นๆ วางลงบนหน้าผากของเธอเบาๆ

"มีไข้จนได้" โอภาบอก มีน้ำเสียงห่วงใย

"อือ" มณิภาตอบทั้งที่ยังหลับตา

"มุกนอนก่อนนะ เดี๋ยวเราไปซื้อข้าวกับยามาให้" พูดเสร็จ โอภาก็ก้มลงจูบหน้าผากร้อนๆ ของคนรัก

คนบนเตียงได้ยินเสียงประตูเปิดและปิดก่อนจะผล็อยหลับไป


มณิภารู้สึกตัวอีกทีเมื่อโดนเรียกชื่อ และเขย่าตัวเบาๆ หัวของเธอปวดตุบ

"ลุกขึ้นมาหม่ำข้าวก่อนนะมุก จะได้กินยา" โอภาบอกเสียงใส

แต่คนป่วยไม่รู้สึกอยากขยับเขยื้อนไปไหนเลย

"มุกกกก"

มณิภารู้สึกรำคาญเสียงเรียก และการเขย่าตัวเธอ หัวของเธอปวด ร่างกายไม่มีแรง แล้วยังต้องมาตื่นกะทันหันเพราะยายหมาบ้าอีก

"ลุกมาหม่ำก่อนนะมุก มุกจ๋า" โอภาเขย่าไหล่ของคนป่วยเบาๆ แต่เมื่อเห็นอีกคนไม่ตอบ เธอก็ทอดถอนหายใจยิ้มๆ พลางคิดว่าคงต้อง
ปล่อยให้มณิภานอนไปก่อน เธอเอื้อมมือไปลูบเส้นผมนิ่มอย่างห่วงใย

เพี๊ยะ

มณิภาปัดมือของโอภาออกจากตัวแรงมากจนเหมือนตีมือนั่น โอภาดึงมือกลับแล้วลูบตรงรอยแดง เธอมองคนรักด้วยความมึนงง
แต่อีกฝ่ายจ้องเธอด้วยดวงตาคู่ดุ

คนป่วยปัดผมของตัวเองออกจากใบหน้า แล้วพลิกตัวไปนอนหลับต่อด้วยอาการโมโห

โอภานั่งตัวแข็งอยู่ตรงนั้น ลูบมือที่เพิ่งโดนตี ในสมองสับสน แต่ในที่สุดเธอก็ลุกขึ้นช้าๆ พยายามไม่ให้เตียงสั่นไหวมากที่สุด เธอมองด้านหลัง
ของร่างบาง มีคำถามเกิดขึ้นในใจ...


มณิภาพลิกตัวคลายความเมื่อยที่กดทับตรงไหล่ซ้าย เธอยกมือมาขยี้หัว แล้วปาดเหงื่อที่ผุดพรายออกมาตามไรผม ความร้อนมาจากผ้าห่มนวมบนร่างกาย
เธอจึงผลักมันออกไป ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศช่วยให้เธอสบายตัวขึ้น ก่อนจะเหลือบไปเห็นใครบางคนที่ฟุ่บหน้าหลับอยู่ริมเตียง

โอภาแทบจะรู้สึกตัวในทันทีที่มณิภาลุกขึ้นนั่ง เธอยิ้มกว้างต้อนรับคนรัก

"เป็นไงบ้าง ดีขึ้นรึยัง?"

"อือ" มณิภาตอบเครียดๆ ในหัวยังรู้สึกหมุนติ้ว คอแหบและร้อนไปหมด "ร้อนจะตาย ห่มผ้าให้ฉันทำไม"

โอภาสะดุ้งเพราะโดนดุ "ก็มุกบ่นว่าหนาวนี่น่า"

"หนาวบ้าอะไร ดูสิเหงื่อเต็มตัว"

"ทำร่างกายให้อุ่น ให้เหงื่อออก ไข้จะได้ลดลงเร็วๆ ไง" โอภาลุกขึ้น รอยยิ้มบนใบหน้าฝืนและหวาดเกรงเพราะอีกฝ่ายหน้านิ่วคิ้วขมวด ดูไม่พอใจมาก

"ไม่รู้ล่ะ ฉันร้อน" มณิภาโยนผ้าห่มให้พ้นทาง

"ดื่มน้ำหน่อยมั้ยอะ?"

"เอามาสิ" คนพูดไม่ได้ตั้งใจให้เสียงของตัวเองกระชากขนาดนั้น แต่เธอรู้สึกหงุดหงิดจริงๆ

โอภาเทน้ำจากเหยือกใส่แก้ว แล้วนั่งตรงขอบเตียง ส่งแก้วให้มณิภา

"ทำไมไม่เอาน้ำเย็นในตู้มาให้ฉัน"

"ก็...ก็มุกคอแห้ง ดื่มน้ำเย็นมันยิ่งทำให้เจ็บคอนะ"

มณิภามองคนตัวสูงกว่าที่สั่นงันงกเป็นเจ้าเข้าอย่างนึกรำคาญ โอ๊ย ให้ตายสิ เธอรู้สึกหงุดหงิดชะมัด

เธอดื่มน้ำจากแก้วจนหมด แล้วยัดแก้วคืนในมือของโอภา ก่อนจะหันหลัง ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง

"มะ มุก อย่าเพิ่งนอนสิ มากินข้าวกินยาก่อน" โอภาชะเง้อมอง ไม่กล้าขยับออกจากจุดที่ยืนอยู่ "มุก..."

"โอ๊ย อะไรนักหนา ฉันจะนอน เธอไปไกลๆ เลยนะ รำคาญ"

คนฟังชะงัก มองดูมณิภาขยับตัวไปกอดหมอนข้างแล้วหลับต่อ

โอภาก้มมองแก้วในมือของตัวเองเงียบๆ ความน้อยเนื้อต่ำใจบุกโจมตี


มณิภาตื่นขึ้นท่ามกลางความมืดสลัว เธอพลิกตัว ขยี้ตา แล้วเช็ดเหงื่อบนใบหน้า ผ้าห่มกลับมาอยู่บนร่างกายของเธออีกครั้ง เธอรู้สึกหงุดหงิด
แต่พอลุกขึ้นนั่งแล้วดึงผ้าห่มออกจากตัวและได้ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศแล้ว เธอจึงรู้ว่าร่างกายของเธอปลอดโปร่งขึ้น
อาการปวดหัวหายไปเป็นปลิดทิ้ง

เธอคิดสงสัยว่าคนรักของเธอไปอยู่ที่ไหน ทำไมไม่มาอยู่ข้างๆ เธอในเวลาที่เธอป่วยเช่นนี้

จ๊อก...

หิวชะมัด มณิภานึกขึ้นได้หลังจากดูนาฬิกาจากโทรศัพท์ เธอไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เที่ยง ตอนนี้ก็ปาเข้าไปสองทุ่มแล้ว

เธอลุกขึ้นไปเปิดไฟ เมื่อหันกลับมาก็เห็นข้าวกล่องตั้งอยู่บนโต๊ะ พร้อมถุงยาและกระดาษโน้ต เธอหยิบมาอ่าน

?อย่าลืมกินข้าว กินยาด้วยนะมุก แล้วก็ถึงมันจะร้อนแต่ห่มผ้านะ ให้เหงื่อออกจะได้หายเร็วๆ เราต้มน้ำอุ่นไว้ให้แล้ว กินด้วยนะ"

มณิภานั่งลงแล้วมองกล่องข้าวยิ้มๆ ก่อนจะนึกออกว่าเธอได้ทำอะไรลงไปบ้างตอนที่มีไข้

โอ๊ย ให้ตายเหอะ ทำไงดีล่ะเนี่ย!

เธอรีบลุกไปคว้าโทรศัพท์จากเตียง กดหมายเลขของโอภา แต่ปลายสายปิดเครื่อง เธอลองดูอีกครั้ง แต่ทางนู้นก็ยังปิดเครื่อง

เอาน่า น้ำต้องเข้าใจฉันแน่ ก็ตอนนั้นฉันไม่สบาย อารมณ์ไม่ดี ที่พูดไปแบบนั้นฉันไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย...

มณิภาปลอบใจตัวเอง แล้วกินข้าว กินยาตามที่โอภาฝากโน้ตไว้ หมายมั่นในใจว่าพรุ่งนี้จะต้องไปขอโทษน้ำแต่เช้า


แจ๊สซี่เห็นเพื่อนสาวเดินหน้าหงิกมาแต่ไกลก็รับรู้ได้เลยว่างานเข้าแน่ๆ เขาเก็บหนังสือที่อ่านอยู่ และหยิบขนมขบเคี้ยวขึ้นมาเพื่อเตรียมพร้อมฟัง
ยายดาวมหาวิทยาลัยบ่น

มณิภาทิ้งตัวนั่งบนม้าหินอ่อนแรง ท่าทางหงุดหงิดและเกรี้ยวกราดมาก จนแจ๊สซี่แปลกใจ

"เล่ามา" เพื่อนหนุ่มหน้าหวานหยิบขนมมากิน

สาวสวยทำเสียงฟึดฟัด ถอนหายใจแล้วหน้าหงิกมากขึ้น "เมื่อวานที่ฉันไปเอามือถือกับน้ำ..."

"ที่แท้ก็เรื่องยายน้อยหน่าเจ้าเดิม" แจ๊สซี่บอกขำๆ

"เปล่าย่ะ"

"อ้าว?"

มณิภาถอนหายใจ "ฉันทำร้ายจิตใจน้ำ"

"ยังไงยะ เล่าเร็วๆ เลย"

"เมื่อวานฉันเป็นไข้ เพราะไปเดินกลางแดดน่ะสิ แกก็รู้ใช่มั้ยเวลาฉันหงุดหงิด ฉันจะพาลไปหมด"

"อ่าฮะ...แล้วไงต่อ"

"แล้วฉันก็ดันไปพาลใส่น้ำเข้า ฉันนี่บ้าจริง น้ำคงกลัวแล้วก็เกลียดฉันแน่เลย ทั้งที่น้ำห่วงแล้วก็คอยดูแลฉันขนาดนั้น เมื่อคืนพอฉันนึกได้
ฉันรีบโทรฯ ไปหาน้ำนะ แต่ยายหมาบ้านั่นปิดเครื่อง แล้วเมื่อเช้าฉันก็รีบไปหาน้ำที่บ้านเช่า แต่น้ำไม่อยู่ บีมบอกว่ายายนั่นไปนอนค้างที่คณะ
เมื่อกี้ฉันก็เลยไปที่คณะ แล้วไงรู้มั้ย ตึกปิด ไม่มีใครอยู่น่ะสิ สรุปยายหมาบ้าไปอยู่ที่ไหนเนี่ย โทรฯ หาก็ไม่ได้ เครื่องปิดตลอด ให้ตายสิ ฉันจะเป็นบ้าอยู่แล้ว"

แจ๊สซี่เท้าคางมองสาวสวยที่วันนี้ดูกระเซอะกระเซิง คงไม่มีกระจิตกระใจจะเสริมสวยสินะ ยายดาวมหาวิทยาลัยเอ้ย

"แล้วแกจะทำไงต่อ"

มณิภาสะบัดหน้า "ฉันไม่สนใจแล้ว ช่างสิ ฉันสวยเลือกได้นะยะ จะให้ฉันมาคอยตามตื้อยายบ้านั่นเหรอไม่มีทาง"

แจ๊สซี่ยิ้มขำ ไม่เชื่อสักคำที่เพื่อนเขาพูด

"อ้าว นั่นไงน้ำ"

มณิภาหันขวับไปตามสายตาของเพื่อน แล้วหัวใจที่เต้นโลดอยู่เมื่อครู่ก็เหี่ยวแฟบลงทันที

"อีแจ้!"

"ไหนบอกไม่สนแล้วไง" หนุ่มหน้าหวานหัวเราะคิก แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความ "บีมบอกว่าวันนี้มีเรียนบ่ายที่คณะ แกจะไปรอเจอน้ำมั้ยล่ะ"

สาวสวยปัดผม คอเชิดไหล่ตั้ง ทำทีเป็นไม่สนใจ

"แกเป็นฝ่ายผิดนะยะ" เพื่อนหนุ่มเตือนสติ

"แล้วไง ก็ฉันไม่ได้ตั้งใจ ยายนั่นต่างหากที่ไม่รู้เรื่อง"

"เหรอยะ" แจ๊สซี่ยิ่งหัวเราะชอบใจ "แต่ฉันมีนัดกับบีมนะ แกจะไปกับฉันมั้นล่ะ ถ้าแกไม่ไป แกกลับไปก่อนได้เลย" เขายิ้มกริ่มเมื่อเห็นเพื่อนสาว
ออกอาการร้อนรน

"ก็ได้ นี่ฉันไม่ได้จะตามง้ออะไรหรอกนะ แค่จะไปเป็นเพื่อนแก ถ้าเกิดเจอยายบ้านั่น ฉันจะได้ขอโทษให้มันจบๆ ไป"

"ย่ะ แม่คนสวย แม่ดาวมหาลัย แม่นางพญา" แจ๊สซี่กินขนมชิ้นสุดท้ายทั้งรอยยิ้มขำ "เอ้า นั่งยิ้มอยู่นั่นล่ะ ไป ไปเรียนได้แล้ว"

มณิภาแลบลิ้นใส่เพื่อนรักอย่างหมั่นไส้... คอยดูเถอะยายหมาบ้ากวนประสาท บ่ายนี้เธอเสร็จฉันแน่


ประตูห้องเรียนรวมเปิดออก หนุ่มคนแรกที่เดินออกมาชะงักด้วยความแปลกใจที่เห็นดาวมหาวิทยาลัยมายืนหน้าหงิกอยู่หน้าห้อง
เช่นเดียวกันกับชาวคณะศิลปกรรมคนอื่นๆ สายตาสนอกสนใจนั้นมองมาอย่างไม่ปิดบัง แจ๊สซี่ได้ยินเสียงซุบซิบว่าทำไมทั้งสองคน
ถึงมายืนอยู่ ณ ที่ตรงนี้ได้ และใครกันที่เป็นเป้าหมายของทั้งคู่

"อ้าว?" นุชิตมองคนทั้งสองอย่างสงสัย

"น้ำล่ะ?" มณิภาถามเสียงแข็ง

ชายหนุ่มหันกลับไปมองในห้อง แล้วตะโกนถามเพื่อนอีกคน ก่อนจะหันกลับมา "ไอ้น้ำมันออกไปห้องน้ำตั้งแต่กลางคาบ ยังไม่กลับมาเลยครับ"

มณิภาเดินพุ่งไปที่ประตูแล้วกวาดสายตาไปทั่วห้อง สร้างเสียงฮือฮาแปลกใจให้คนที่เหลือในห้อง เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีเป้าหมายที่ต้องการอยู่
เธอก็ชักรู้สึกไม่สบอารมณ์

แจ๊สซี่ยิ้มแหยให้ชายหนุ่มแล้วรีบเดินตามเพื่อนรักที่กระแทกเท้าตึงตังล่วงหน้าไปก่อนแล้ว

นุชิตเกาหัวงงๆ แล้วเขาก็หันกลับไปในห้องอีกครั้ง "ทะเลาะกันรึไง?"

หญิงสาวร่างสูงเดินออกมาจากมุมเสาที่เธอเข้าไปหลบจากสายตาของมณิภา เธอพยักหน้า "มุกเกลียดเราแล้วล่ะ"

"แต่เขามาหามึงเลยนะ ไม่เกลียดหรอกมั้ง?"

"อาจจะมาเพื่อฆ่าเราก็ได้"

นุชิตเลิกคิ้วสูง "ไม่ม้าง" เขาไม่เชื่อ แต่อีกใจก็กลัวว่าจะเป็นความจริง ก็สีหน้าของดาวมหาวิทยาลัยบอกโต้งๆ ว่ามาหาเรื่องแน่นอนนี่น่า
เขาเห็นเพื่อนทำหน้าหงอยๆ จึงเลิกซักไซ้ "ไปทำงานต่อมั้ย?"

"ไม่อะ วันนี้รู้สึกเหนื่อยๆ ปวดหัวด้วย กลับบ้านก่อนนะ"

"กูไปส่งมั้ย" นุชิตจับหัวของเพื่อน "มึงเป็นไข้นะเนี่ย"

โอภาวัดอุณหภูมิตัวเอง "เออ สงสัยติดหวัดจากมุก" เธอดึงเป้ขึ้นไหล่ "ไปละ ตอนเย็นช่วยซื้อข้าวเข้าไปให้เราด้วยนะ"

"โอเคๆ เดินดีๆ นะมึง ถึงห้องแล้วมึงอย่าลืมกินยาด้วย"

นุชิตดูจนเพื่อนเดินพ้นสายตาไป แล้วดึงโทรศัพท์ออกมาพิมพ์ข้อความ

?สองคนนั่นมีปัญหาอะไรกันครับ??

?นังมุกไปทำร้ายจิตใจน้ำเข้าน่ะ เห็นบอกว่าเผลอไปบอกว่าน้ำน่ารำคาญ?

นุชิตพยักหงึกๆ กับตัวเอง

?นั่นสิ ไอ้น้ำมันถึงหงอยๆ?

?แล้วบีมรู้มั้ยว่าน้ำอยู่ไหน?

ชายหนุ่มหยุดนิ้ว ชั่งใจว่าจะเอาอย่างไรดี ที่จริงนี่เป็นโอกาสดีในการที่เขาจะเข้าแทรกกลาง และคว้าหัวใจของมณิภาได้ง่ายๆ
แต่อย่างว่า...เขาเองก็รักเพื่อนมาก

เขาเขกหัวตัวเองที่คิดร้าย แล้วรัวนิ้วลงบนหน้าจอ

?ที่จริงเมื่อกี้น้ำอยู่ในห้องครับ มันแอบอยู่?

อีกฝ่ายส่งสติ๊กเกอร์รูปตกใจมาให้ นุชิตจึงพิมพ์ต่อ

?มันบอกว่า มุกเกลียดมัน มันคงกลัวว่าถ้ามุกเห็นหน้ามัน คงจะไม่พอใจน่ะครับ"

?โธ่ๆ หนูน้ำ?

แจ๊สซี่เหลือบมองเพื่อนสาวที่เอาแต่ทำหน้าเครียดใส่อาจารย์ จนอาจารย์หนุ่มสอนไประแวงไป นี่ถ้าบอกความจริงให้นังดาวมหาวิทยาลัยรู้
น้ำคงเยินแน่ เอาไงดีล่ะ?

?เอางี้นะบีม ฉันจะบอกมุกว่าน้ำไม่สบายนอนอยู่ที่ห้องละกัน เธอช่วยจัดฉากให้สองคนนี้เจอกันทีนะ?

?ไม่ต้องจัดฉากหรอกครับ ไอ้น้ำมันเป็นไข้ เพิ่งกลับไปเมื่อกี้นี่เอง อีกสักสิบนาทีคงถึงบ้าน?

หนุ่มหน้าหวานยิ้มพรายกับข่าวใหม่นี้ เขาส่งสติ๊กเกอร์บอกลานุชิตแล้วหันมาเขียนข้อความลงในกระดาษ ก่อนจะเลื่อนไปให้เพื่อนสาวอ่าน

มณิภาตาถลน เธอเก็บข้าวของอย่างว่องไว "อาจารย์คะ" เสียงของเธอดังเกินไปหน่อย อาจารย์ถึงกับสะดุ้ง

"คะ ครับ?"

"หนูรู้สึกไม่สบาย ขออนุญาตออกก่อนเวลานะคะ" เธอแทบไม่รอคำอนุญาต พริบตาเดียวร่างบางก็หายไปจากสายตาแจ๊สซี่

"ต้องให้แม่ลงมือตลอด" แจ๊สซี่เก็บกระดาษแล้วส่งยิ้มให้อาจารย์ที่ได้แต่งงแล้วงงอีก

...


Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น