Yuri-Read

รายชื่อนักเขียน A- Z => n-ew => รัก...นอกกรอบ => ข้อความที่เริ่มโดย: n-ew ที่ 16 พฤษภาคม 2014 เวลา 13:20:55

หัวข้อ: ตอนที่ ๑
เริ่มหัวข้อโดย: n-ew ที่ 16 พฤษภาคม 2014 เวลา 13:20:55
ตอนที่ ๑

("พี่เพลินตอนนี้อยู่ที่ไหนคะ") รุ้งระวีเอ่ยถามเพลินพิณมาตามสาย

("อยู่บ้านนอกค่ะ คุณรุ้งมีอะไรให้พี่รับใช้คะ") บอกก่อนย้อนถาม ด้วยน้ำเสียงสดใส

("ดูพูดเข้า สาวบ้านนอก รุ้งมีข่าวดีมาบอก ผู้ใหญ่ไฟเขียวให้รุ้งทำเรื่อง’เพลงเพลินเสน่หา' แล้วค่ะ") น้ำเสียงปนหัวเราะ บ่งบอกอาการดีใจเป็นที่สุด

("พี่ดีใจด้วยจริงๆ ค่ะ") บอกอย่างรู้สึกแบบนั้นจริงๆ เพราะเธอรู้ว่ารุ้งระวีตั้งใจที่จะทำเรื่องนี้มาก เธอเองก็เคยช่วยดูบทให้บ้างในตอนแรกๆ

("ดีใจอย่างเดียวไม่ได้คะ ต้องมาช่วยรุ้งกำกับด้วยนะคะ") ส่งเสียงอ้อนมาตามสาย ทำเอาคนฟังยิ้มกริ่ม

("ไม่ต้องอ้อน พี่ก็ต้องช่วยคุณรุ้งอยู่แล้วล่ะค่ะ รับปากแล้วไม่ลืมหรอก") น้ำเสียงกรั้วหัวเราะอย่างเอ็นดู

("อยากให้พี่มาพรุ่งนี้เลยได้ไหม รุ้งจะคัดตัวนักแสดงอยากให้พี่มาช่วยดูช่วยเลือกด้วย")

("ได้สิคะ พี่ก็อยากทำงานจะแย่อยู่แล้ว พรุ่งนี้เจอกันนะคะ") เสียงที่ตอบรับมาทำเอาคนฟังแทบกระโดดตัวลอยด้วยความดีใจ

("พี่เพลินน่ารักที่สุดเลย นี่ถ้าอยู่ใกล้ๆ นะรุ้งจะโดดหอมแก้มเลยค่ะ") บอกอย่างดีใจ ก่อนจะวางสายปิดการสนทนาทางโทรศัพท์ลง ใบหน้ายิ้มกริ่มอย่างสมหวัง

รุ้งระวีเคยเป็นดาราดังมาก่อน เมื่อเธอแต่งงานไปก็หยุดรับงานการแสดง และได้เริ่มบทบาทการเป็นผู้จัดละคร ตั้งแต่เรื่องแรกจนถึงวันนี้ก็หลายเรื่องแล้ว และถือเป็นโชคดีของเธอที่ได้ทีมงานดี และที่สำคัญเธอมีผู้กำกับที่มากฝีมืออย่างเพลินพิณมาช่วย ทำให้ละครของเธอดังทุกเรื่อง และมียอดเรตติ้งดีที่สุดคนหนึ่ง ทำให้ผู้ใหญ่มักจะให้โอกาสเธอทุกครั้ง ที่เธอนำเสนองานขึ้นไป

ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน เธอหยิบเอาละครเรื่อง’เพลงเพลินเสน่หา’ ขึ้นไปนำเสนอ แล้วเธอก็ได้ทำงานชิ้นนี้สมใจเธอ โดยครั้งนี้เธอใช้ทีมงานเดิม รวมถึงคนเขียนบทที่มากฝีมืออย่างอ้อมใจมาช่วยดูแลบทละครให้ และที่จะขาดไม่ได้เลยคือเพลินพิณผู้กำกับคู่บุญของเธอ

“คุณนับดาวไปหน่อยเถอะค่า ผู้ใหญ่สั่งมานะคะว่าอยากให้คุณเล่นละครเรื่องนี้ เราก็ไปแคสดูก่อน ยังไม่รู้เลยนี่นาว่าจะได้เล่นหรือเปล่า ถ้าเราไม่ไปพี่ต้องโดนดุแน่ๆ เลยค่ะ” น้ำตาลซึ่งเป็นคนดูแลงานให้นับดาวนักร้องสาวสวย ลงทุนอ้อนวอนให้นับดาวที่ดื้อแพ่ง ไม่ยอมไปแคสติ้งงานละครตามคิว เพราะเธอชอบที่จะเป็นนักร้องมากกว่าการเป็นนักแสดง

“ดาวไม่ชอบนี่นา ดาวไม่อยากไป” เธอยังคงอิดออด แม้เสียงจะเริ่มอ่อนลง

“ตอนนี้งานเพลงของนับดาวปิดอัลบั้มไปแล้วนะคะ ผู้ใหญ่คงเห็นว่ากว่าอัลบั้มใหม่จะออก เกรงว่าแฟนๆ จะลืมนับดาวไปซะก่อน ตอนนี้นักร้องหน้าใหม่ๆ ออกกันเยอะแยะรายวันเชียวนะคะ ท่านเลยอยากให้นับดาวไปเล่นละครก่อน แฟนๆ จะได้ไม่ลืมเราไงค่ะ น๊าเชื่อพี่นะคะ ผู้ใหญ่เค้ามองการณ์ไกลอยู่แล้วค่ะ ป่านนี้ทุกคนคงรอเรากันแล้ว ให้คนอื่นรอนานๆ ไม่ดีนะคะ ไปกันเถอะค่ะ” น้ำตาลต้องยกเอาทั้งเหตุและผลมาอ้าง และทั้งลากทั้งดึง ถึงจะพาตัวนับดาวไปถึงโรงถ่าย ที่นัดแคสติ้งละครกันในวันนี้ได้อย่างยากลำบาก

“ไหนเอามาดูสิ ใครกันที่จะมาแคสเป็นนางเอก นี่ขนาดยังไม่ได้งาน ยังปล่อยให้รอกันขนาดนี้ สวยขนาดไหนกัน” เพลินพิณนั่งรอนานจนทนไม่ได้ ร้องเรียกให้เอารูปของคนที่ถูกระบุว่าจะให้เป็นนางเอกของเรื่องนี้มาดู นฤมลผู้ช่วยของรุ้งระวี รีบเอารูปของนับดาวมายื่นให้ทันที เพลินพิณหยิบมาเพ่งมองผู้หญิงในรูปอย่างพิจารณา รู้สึกคุ้นๆ หน้าคนในรูป

“เค้าเป็นนักร้องไม่ใช่เหรอ แล้วจะเล่นได้เหรอคะ คุณรุ้ง” เมื่อเพ่งมองจนแน่ใจแล้ว หันไปถามรุ้งระวีผู้จัดอย่างค่อนข้างแปลกใจ

“ผู้ใหญ่เค้าอยากให้ลองดูค่ะ รุ้งเห็นเค้าเล่นเอ็มวีก็ใช้ได้นะคะ แล้วเล่นเป็นนักร้องต้องร้องเพลงด้วย ตรงกับชีวิตจริงของเค้า คิดว่าเค้าน่าจะทำได้ดีทีเดียวค่ะ แต่ถ้าเล่นไมได้จริงๆ ก็ต้องเรียนท่านไปตามนั้น แต่เราต้องให้โอกาสเค้าก่อนเป็นคนแรก รุ้งถึงต้องให้พี่เพลินมาช่วยไงคะ” บอกอย่างรู้สึกเกรงใจ แต่ตัวเธอเองก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธผู้ใหญ่ได้เช่นเดียวกัน

“มาแล้วค่ะ คุณนับดาวมาแล้ว” เสียงเด็กทีมงานวิ่งเข้ามาบอก

“เชิญท่านเข้ามาสิ” เสียงเพลินพิณร้องบอก ดังพอที่จะให้คนที่กำลังเดินเข้ามา ชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ รู้สึกว่ากำลังถูกต่อว่ากลายๆ

“ขอโทษด้วยนะคะที่ให้รอ...พอดี...” นับดาวยกมือไหว้รุ้งระวี และทุกคนที่นั่งรออยู่อย่างรู้สึกผิด แต่เธอยังพูดไม่ทันจบ

“รถติด...” เพลินพิณกลับพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน ทำให้นับดาวรู้สึกหน้าชา ไม่พอใจอย่างมากที่ถูกต่อว่า และเธอกำลังหงุดหงิดที่ต้องมาทำอะไรที่เธอไม่ชอบอยู่ด้วย เธอเลยเชิดหน้าว่ากลับไป ซึ่งนิสัยของเธอเป็นคนที่ไม่ยอมใครอยู่แล้ว นักข่าวมักจะเขียนข่าวว่าเธอขี้วีนอยู่บ่อยๆ

“ไม่ใช่คะ ขับรถมาแค่20นาทีก็ถึง แต่ที่มาช้าเป็นเพราะไม่อยากมามากกว่า" จ้องตอบคนที่ต่อว่าเธออย่างเอาเรื่อง

“ถ้าคุณไม่อยากมา แล้วจะปล่อยให้คนอื่นเค้ารอทำไม ก็บอกมาสิว่าไม่มา มีคนอื่นเค้าอยากได้งานนี้เยอะแยะ” เพลินพิณโมโหจนระงับอารมณ์ไม่อยู่เอาเหมือนกัน เมื่อถูกหญิงสาวซึ่งเด็กกว่ามาก มาว่าให้อย่างไม่ไว้หน้า และไม่ได้เกรงกลัวศักดิ์ศรี การเป็นผู้กำกับการแสดงของเธอแม้แต่น้อยแบบนี้

“บอกแล้วค่ะ แต่ผู้ใหญ่ไม่ยอม คุณช่วยไปบอกให้ทีสิคะ” ลอยหน้าบอกอย่างไม่สะทกสะท้าน ก่อนจะเดินเลยไปนั่งเก้าอี้มุมห้อง อย่างไม่สนใจใครอีก เพลินพิณมองตามอย่างไม่ชอบใจ แต่ด้วยความที่เป็นผู้ใหญ่กว่า เธอต้องระงับอารมณ์อย่างถึงที่สุด รุ้งระวีรีบเข้ามาขอโทษอย่างรู้สึกไม่ดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“พี่เพลินค่ะ รุ้งขอโทษนะคะ ที่ทำให้พี่ไม่สบายใจ นับดาวเค้าเป็นคนตรง และก็แรงแบบนี้แหล่ะค่ะ เมื่อกี้คุยกับผู้จัดการเค้าแล้ว ที่นับดาวเค้าพูดมาเป็นเรื่องจริง ตัวน้องเองไม่อยากเล่น แต่โดนผู้ใหญ่สั่งมาก็เลยมีการต่อต้าน พี่อย่าถือสาน้องเค้าเลยนะคะ แต่รุ้งยืนยันได้ เท่าที่เคยรู้จักน้องเค้ามาเค้าเป็นเด็กน่ารักใช้ได้ทีเดียว อาจเป็นเพราะเจอกดดัน ให้โอกาสน้องเค้าหน่อยนะคะ"

“คุณรุ้งอยากได้คนนี้มาเล่นจริงๆ ไช่ไหม ถ้าตัดเรื่องผู้ใหญ่ออกไป" ถามอย่างจริงจัง

"ถ้าได้เค้ามาเล่น น่าจะทำให้ละครของเราเป็นที่สนใจมากขึ้นนะคะ ตัวนับดาวเองเป็นนักร้องที่ค่อนข้างดัง มีแฟนเพลงเยอะอยู่แล้ว ถ้าเค้าเล่นได้รุ้งก็อยากให้เค้าเล่นค่ะ" รุ้งระวีบอกตรงๆ เช่นกัน

"พี่เข้าใจ ไม่ต้องห่วงนะคะ พี่จะทำให้ดีที่สุด" เพลินพิณบอกอย่างเข้าใจ เธอเป็นผู้กำกับการแสดงมานาน เห็นคนในวงการมาก็เยอะ เจอคนมาหลายรูปแบบ พอจะเข้าใจได้ง่ายๆ ถึงแม้จะรู้สึกไม่ชอบใจกับความอวดดีของนับดาวตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ แต่ก็คงต้องทำใจเพราะคงเลี่ยงไม่ได้ รุ้งระวีก็มีบุญคุณกับเธอที่ยอมให้โอกาสเธอกำกับละครให้ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเธอยังใหม่กับงานกำกับด้วยซ้ำ

“จะว่าไปบุคลิก เหวี่ยงๆ ของนับดาวก็ตรงกับตัวละครในเรื่องมากเลยนะคะ ทั้งการที่เค้าจะต้องเล่นเป็นนักร้องด้วย” รุ้งระวีกระซิบบอกเพลินพิณ ซึ่งเธอก็พยักหน้าเห็นด้วย อย่างไม่อาจจะปฏิเสธได้ จากบทที่เธอได้อ่านคร่าวๆ เมื่อคืน กับนับดาวคนที่เธอเพิ่งเจอ เหมือนว่าคนเขียนบท เขียนออกมาจากตัวตนของนับดาวจริงๆ เลยก็ว่าได้

“เอาเลยละกัน จะได้ไม่เสียเวลาไปมากกว่านี้” เพลินพิณบอก หลังจากระงับสติอารมณ์ให้เป็นปกติได้แล้ว

“น้ำตาลไปบอกนับดาวให้เตรียมตัวได้แล้วไป” รุ้งระวีบอกน้ำตาล ที่รีบเดินไปหานับดาวทันทีเช่นกัน

“นับดาวพร้อมนะคะ”

“ไม่พร้อมค่ะ” เสียงที่ตอบกลับมา ทำเอาน้ำตาลแทบล้มทั้งยืน รีบถลาเข้าไปอ้อนวอน

“นับดาวขา อย่าทำแบบนี้สิคะ พี่ตกงานแน่ๆ”

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร” ถามพร้อมกับจ้องไปทางเพลินพิณ ที่นั่งคุยอยู่กับรุ้งระวีอย่างไม่ชอบใจ ที่กล้าว่าเธออย่างที่คนอื่นๆ ไม่เคยกล้า

“คุณเพลินพิณเป็นผู้กำกับค่ะ เค้าเก่งมากเลยนะคะ กำกับเรื่องไหนดังทุกเรื่อง" น้ำตาลบอกอย่างชื่นชม


“หา...นี่แสดงว่าดาวต้องทำงานกับคนๆ นี้เหรอ ไม่เอาหรอกดาวขอบายล่ะกัน” น้ำตาลรีบคว้าข้อมือนับดาวไว้แน่น ก่อนที่เธอจะลุกเดินออกไป

“นับดาวฟังพี่ก่อน”

“ไม่ค่ะ...” พอดีมีเสียงโทรศัพท์ของนับดาว ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน เธอเลยนั่งลงพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก่อนจะรีบกดรับสาย

("นับดาวค่ะ") เป็นธีรยุทธ์เจ้านายใหญ่ของเธอนั่นเอง ที่โทรมากำชับให้ทำอย่างเต็มที่ เพราะเขาหวังที่จะให้เธอได้เล่นละครเรื่องนี้ เพื่อชื่อเสียงของบริษัทและตัวเธอเอง

("ค่ะท่าน ดาวจะทำให้ดีที่สุด") นับดาวจำต้องรับปาก เมื่อเจ้านายใหญ่โทรมาเองเช่นนี้ น้ำตาลพลอยถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก

“ดาวพร้อมแล้วค่ะ” เธอตัดสินใจก้าวออกไปบอกกับรุ้งระวี โดยไม่มองไปทางที่เพลินพิณนั่งอยู่

“งั้นก็เริ่มกันเลยค่ะพี่เพลิน อ้อ...ก่อนอื่นพี่ขอแนะนำแบบเป็นทางการก่อนนะคะ นี่พี่เพลินพิณจะมาเป็นผู้กำกับละครเรื่องนี้ค่ะ นี่น้องนับดาวค่ะพี่เพลิน” รุ้งระวีถือโอกาสแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกันแบบเป็นทางการ หวังสร้างบรรยากาศให้ดีขึ้น

“สวัสดีค่ะ” นับดาวยกมือไหว้อย่างเสียไม่ได้

“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ คุณนับดาวนักร้องดัง” ส่งเสียงทักยิ้มๆ แต่นับดาวชักสีหน้าไม่พอใจที่ได้ยิน เธอรู้สึกว่าเพลินพิณกำลังก่อกวนเธอ นับดาวจำต้องกล้ำกลืนความโกรธเอาไว้ แล้วหันหน้าหนีไปทางอื่นแทน

“โอเค...งั้นเรามาเริ่มกันเลย คุณอ่านบทมาบ้างแล้วใช่ไหม” เพลินพิณเริ่มงานอย่างมืออาชีพทันที

“ไม่ได้อ่านค่ะ เพราะไม่ได้คิดว่าจะเล่น” เสียงที่ตอบกลับมา ทำเอาเพลินพิณอึ้งไปเหมือนกัน แต่เธอก็พยายามระงับอารมณ์ก่อนบอกอย่างใจเย็นอีกครั้ง

“ไม่เป็นไร งั้นคุณเปิดไปหน้าที่5 เลย แล้วกรุณาอ่านทำความเข้าใจบทภายใน5 นาที แล้วเล่นเลย เป็นมืออาชีพหน่อยค่ะ ทุกคนเสียเวลามามากแล้ว” บอกเสียงแข็งขึ้น ท่าทางเอาจริงเอาจังเหมือนกัน

นับดาวเดินไปนั่ง พร้อมกับรีบเปิดบทไปหน้าที่เพลินพิณบอก ก่อนจะตั้งใจอ่านบท ซึ่งเป็นการทะเลาะกันของเพียงอรนางเอกในเรื่องซึ่งเป็นนักร้อง กับผู้จัดการส่วนตัวที่พยายามบังคับให้เธอใส่ชุดที่สั้นมาก แถมยังรัดติ้วโชว์เนื้อหนังล่อใจเสือป่า ซึ่งเพียงอรไม่ชอบและต่อต้านอย่างรุนแรง

“พร้อมหรือยัง บทสั้นนิดเดียวเอง” เสียงเพลินพิณร้องถาม ซึ่งคนฟังรู้สึกว่ามีการเยาะเย้ยในตอนท้าย

“พร้อมก็ได้” นับดาวตอบแบบขุ่นมัวไม่แพ้กัน มองหน้าเพลินพิณอย่างไม่เป็นมิตรเท่าไหร่นัก

“งั้นก็เริ่ม 5 4 3 2…”

"ไม่ใส่ ยังไงเพียงก็ไม่ใส่ เพียงมาเป็นนักร้องขายเสียงนะคะ ไม่ใช่มาขายตัว ไม่ใส่...ได้ยินไหมว่าไม่ใส่" นับดาวเล่นแบบเกร็งๆ พูดเหมือนท่องเอา

“พอๆๆ ไม่มีอารมณ์เลยคุณ คุณต้องทำให้คนดูเค้ารู้สึกด้วยสิ ว่าคุณไม่ต้องการใส่ชุดนั้นจริงๆ มันต้องมีทั้งอารมณ์โกรธ เกลียด และหวาดกลัวจริงๆ อ้อ...ง่ายๆ เล่นเป็นตัวคุณ แบบที่คุณเป็นแหล่ะง่ายจะตาย” ประโยคท้ายทำเอานับดาวชักสีหน้า สูดหายใจเข้าอย่างแรง จ้องหน้าเพลินพิณเขม็ง ก่อนจะตะเบ็งเสียงใส่ พูดตามบทที่เธอเพิ่งพูดไป แต่คนละอารมณ์กัน เสียงดังฟังชัด ประหนึ่งว่าเธอกำลังต่อว่าเพลินพิณอยู่ ทำเอาทุกคนในห้องเงียบกริบอย่างตกใจ

“โอเค... แค่นี้แหล่ะ เล่นได้ดีนี่ ไม่ยากเลยใช่ไหม แต่ตาแข็งไปหน่อยนะ ดูไม่ค่อยได้อารมณ์เท่าไหร่คงต้องฝึกอีกนิดหน่อย" เพลินพิณบอกก่อนจะหันไปทางรุ้งระวี โดยไม่สนใจสายตาของนับดาวที่ยังมองเธอแข็งกร้าว

“เรียบร้อยค่ะคุณรุ้ง ผ่านนะ ให้ครูชื่นเคี่ยวอีกหน่อยก็ใช้ได้ล่ะ” รุ้งระวียิ้มอย่างดีใจที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ก่อนจะเข้าไปจับมือนับดาวที่กำลังงุนงงกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะเธอไม่คิดว่าคนที่ว่าเหน็บเธอตลอดเวลา จะยินยอมให้เธอร่วมงานด้วยอย่างง่ายๆ

“ดีใจด้วยนะคะคุณนับดาว และยินดีที่ได้ร่วมงานกันค่ะ” รุ้งระวีบอกอย่างดีใจจริงๆ

“ค่ะพี่รุ้ง ขอบคุณค่ะ” นับดาวบอกเบาๆ ยังรู้สึกงงๆ

“น้ำตาลไปนัดเรื่องคิวกับนฤมลได้เลยนะ”

“ค่ะคุณรุ้ง” น้ำตาลแทบจะกระโดดตัวลอยที่งานนี้สำเร็จลงได้ด้วยดี เพราะมันหมายถึงอนาคตการงานของเธอด้วย...

 :29: :29: :29: