web stats

ข่าว

 


Cheating On You - บทที่ 12 Invisible

โพสต์โดย: anhann วันที่: 22 พฤศจิกายน 2019 เวลา 22:14:22 อ่าน: 616



บทที่ 12 Invisible





เม็กปิดปากหาวออกมาจากห้องนอน  เดินต่อเข้าครัวจะไปหาน้ำดื่ม  แล้วชะงักกึกเมื่อระลึกได้ถึงสิ่งที่ลืมไป  หัวสีทองกับผิวขาวซีดของคนที่ยืนหันหลังอยู่หน้าเตาช่วยเตือนสติเธอ

เมื่อคืนแองจีค้างที่นี่  นอนห้องเลตัน  เธอไม่รู้ว่าพวกเขาทำอะไรกันหรือเปล่า  แต่ถึงทำก็ไม่เกี่ยวกับเธอ  แค่ตอนนี้เธอพร้อมจะเจอหน้าแองจีแล้วหรือยัง  นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นอีกนั่นแหละ  ยังไงแองจีก็อยู่ที่นี่แล้ว

เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวกับกางเกงขาสั้นสีดำของเลตัน  แองจีใส่ได้พอดีเลย  ก็หุ่นพอๆ กัน  สูงเหมือนกัน  ดูเหมือนแองจีจะสูงกว่าเลตันนิดหน่อยด้วย  แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เม็กห่วง  เธอต้องห่วงหัวใจตัวเองมากกว่า

เม็กเผลอจ้องเข้าไปในคอเสื้อเชิ้ตที่ติดกระดุมไม่ครบเม็ดของแองจีที่หันมายิ้มทักทายเธอระหว่างถือตะหลิวทำอาหารเช้าอยู่  เธอว่าเธอขาวมากแล้วนะ  แต่แองจีขาวกว่า  ขาวซีดเหมือนจะล่องหนได้  และแองจีตอนไม่ได้แต่งหน้าก็ดูเด็กกว่าเดิมมากๆ  โหนกแก้มมีตกกระนิดๆ ตามประสาคนขาวมากขนาดนี้  ริมฝีปากสีชมพูอ่อนตามธรรมชาติ  ดูน่าจูบกว่าเดิมเสียอีก

โอย  เม็ก  เธอวิ่งกลับห้องไปก่อนดีกว่าไหมเนี่ย!

"ฉันทำอาหารไม่เก่งเท่าเลตัน  แต่ไข่ดาวไม่ไหม้นะ"  แองจีออกตัว  เม็กกะพริบตา  เลิกจ้องเนินอกของคนที่ไม่สนใจจะสวมบราออกมาจากห้อง

"เม็กทำแพนเค้กเป็นไหมคะ"

เสียงคำถามด้วยสำเนียงคิวท์ๆ แบบคนมีเชื้อสายไอริชกระตุกเม็กกลับมาจากภวังค์  เธอพยักหน้าหงึก  แต่ไม่ลืมดื่มน้ำก่อนมารื้อตู้หาแป้งแพนเค้กที่เลตันซื้อมาเก็บไว้

"ฉันช่วยผสมแป้งให้ก็ได้นะ  แต่เม็กต้องบอกสัดส่วนมา"  แองจีพูด  เม็กส่ายหน้า  ไล่เธอไปปิ้งขนมปังแทน

"เม็กไม่ได้ชอบกินเฟรนช์โทสมากกว่าเหรอ"

"ถ้าทำแพนเค้กแล้ว  ก็ไม่ต้องทำเฟรนช์โทสแล้วค่ะ  ยกเว้นคุณจะอยากทาน"  เม็กตอบ  ผสมส่วนผสมแพนเค้กที่เคยช่วยเลตันทำครั้งล่าสุดในชามแก้วชามใหญ่  พอมีอะไรทำยุ่งๆ แบบนี้ก็จะสนใจแองจีน้อยลง  และปลอดภัยกับตัวเอง

"เลตันยังไม่ตื่นเหรอคะ"

"เขามีไข้นิดหน่อย  ฉันให้ดื่มนมและกินยาลดไข้ไปแล้ว  และบังคับให้นอนต่อ  แล้วก็เลยต้องมาทำอาหารเช้านี่ไง"  แองจีอธิบาย  "เม็กคงไม่ว่าฉันมาจุ้นจ้านหรอกนะ"

"ทำไมต้องว่าล่ะ  คุณมีสิทธิ์อยู่ที่นี่  คุณเป็นคู่หมั้นเลตัน  แต่ฉันเป็นแค่คนเช่า  เป็นรูมเมทเฉยๆ"

"โอ้  แต่ฉันว่าเม็กไม่ได้เป็นแค่รูมเมทเฉยๆ แน่"

"คุณหมายความว่ายังไง  คุณคิดว่าฉันกับเขา..."

"เปล่าจ้ะ  ฉันแค่จะบอกว่าสำหรับเลตัน  เม็กไม่ใช่แค่รูมเมท  เม็กเป็นคนสำคัญของเขา"

"แต่ไม่เท่าคุณ"  เม็กหลุดปาก  หากกว่าจะรู้ตัว  แองจีก็พูดสวนขึ้นมาก่อนแล้ว

"เรื่องนั้นฉันก็ไม่รู้หรอกนะ  ฉันรู้แค่เขาดูมีความสุขขึ้นกว่าแต่ก่อน"

"เพราะคุณมาอยู่กับเขาบ่อยๆ มั้ง"

"ก็ไม่เป็นไรนะ  ถ้าคุณจะเชื่อแบบนั้น"  แองจีพูด  หยิบขนมปังปิ้งที่เครื่องดีดออกมาใส่จานและจับติ่งหูตัวเอง  บรรเทาความร้อน  เม็กมองเธอแล้วส่ายหัว  เดินมาคว้ามือไปเป่าให้  เธอรู้สึกว่าตัวเองหน้าแดงเพราะการกระทำของผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่น่ารักทั้งตัวและนิสัย

"เม็ก  ถ้าเม็กไม่รู้ตัวนะ  ฉันจะบอกอะไรให้อย่างหนึ่ง"

"อะไรคะ"  เม็กถามกลับหน้าซื่อ  เดินกลับไปเตรียมกระทะจะทำแพนเค้กต่อ  เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกดึงไปกอดจากด้านหลัง  และพบว่าเธอไม่ได้รังเกียจอะไรอ้อมกอดนี้เลย 

แบบนี้เธอจะชังตัวเองได้ไหมนะ

"คุณ  ฉันไม่ถนัด"

"เม็กน่ะเป็นคนน่ารักมากนะ  น่ารักจนฉันเสียดาย"

"เสียดายอะไรคะ"

"ก็เสียดายถ้าฉันจะปล่อยเม็กไปให้คนอื่น"  แองจีตอบ  ก้มลงจูบเม็กที่ไม่คิดจะขัดขืนอะไรกันเลย  ทำให้เธอย่ามใจอยากจะได้เพิ่ม  แต่เม็กยังคงไม่เห็นด้วยตามเคย 

"ฉันคิดว่ามันยังไม่เหมาะ"

"เพราะ?"

"เพราะฉันยังไม่แน่ใจว่า  ฉันพร้อมแล้ว  และตอนนี้ฉันก็กำลังทำอาหารเช้าอยู่ด้วยค่ะ"  เม็กตอบอย่างมีชั้นเชิง  ใช้ศอกดันตัวแองจีออกห่างอย่างสุภาพ  "ไปรอตรงนู้นค่ะ  หรือจะไปปลุกเลตันเลยก็ได้  เดี๋ยวก็เสร็จแล้วละ  ถ้าคุณไม่แกล้งฉัน"

แองจียิ้ม  ชี้หน้าเม็กอย่างชอบใจ  เธอชอบผู้หญิงแบบนี้  ไม่ง่ายไปและไม่ยากจนเกินไป  เม็กรู้จักการปฏิเสธคนอย่างนุ่มนวล  รู้จักพูด

"และขอร้องนะคะ  ใส่อะไรบนตัวให้เยอะกว่านี้หน่อย  อากาศมันเย็น  ถ้าคุณเป็นอะไรไปอีกคน  ฉันจะทำยังไงล่ะ"

"แหม  เม็ก  อย่าน่ารักมากไปกว่านี้เลย  สงสารหัวใจฉันบ้าง" 

เม็กย่นจมูก  เอนหน้าให้แองจีจูบแก้มเธอ  และยิ้มให้คนที่ขอตัวไปแต่งตัวใหม่  กับปลุกเจ้าของบ้านด้วย

เธอหวนกลับมาทำแพนเค้กต่อ  เทแป้งลงในแม่พิมพ์อย่างที่เลตันเคยสอน  รอให้มันฟูขึ้น  ได้ที่แล้วก็กลับด้าน  พอมันเป็นสีน้ำตาลหน่อยๆ แล้วจึงค่อยตักใส่จานและทำมันซ้ำจนกว่าแป้งที่ตีไว้จะหมด  เม็กมีความสุขที่ได้ทำอาหาร  โดยเฉพาะอาหารมื้อนี้  ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน

และเธอก็ไม่พร้อมจะคิดหาคำตอบเสียด้วยสิ

...................................................

เม็กติดรถแองจีที่มาส่งเธอก่อนจะพาเลตันไปหาหมอที่โรงพยาบาล  ข้อเท้าเลตันดีขึ้นมากแล้ว  แต่ไข้ยังขึ้นๆ ลงๆ  แองจีกลัวว่าจะเป็นปอดบวมหรือไข้หวัดใหญ่  จึงต้องขอร้องแกมบังคับให้เลตันไปหาหมอตรวจดูให้แน่ใจ  ถ้าไม่ต้องแอดมิด  แองจีก็คงจะพาไปส่งบ้านก่อนมาทำงาน  หากก็ยังต้องดูคนป่วยก่อนว่าจะดื้อสักแค่ไหน 

เลตันแทบกินอาหารเช้าที่เธอตั้งใจทำให้ไม่ได้เลย  แม้แต่แพนเค้กนุ่มๆ ก็กลืนลงคอลำบาก  เจ็บคอมากและไอเยอะด้วย  เม็กสันนิษฐานว่าคงเพราะเจ้าตัวไม่ยอมใส่เสื้อหนาๆ ตอนออกไปตามหาเธอเมื่อค่ำวาน  แองจีจึงต้องไปทำข้าวโอ้ตต้มให้กินแทน  และทำน้ำมะนาวอุ่นผสมน้ำผึ้งให้ดื่ม  จากนั้นก็ลากขึ้นรถพาไปหาหมอ 

เม็กรู้สึกไม่ค่อยดีที่ทำอะไรให้เลตันได้นิดเดียว  หากก็ไม่สามารถจะไปแย่งงานแองจีทำได้  ยังไงแองจีก็เป็นคู่หมั้นเลตัน  แถมยังเป็นเพื่อนสนิทที่โตมาด้วยกัน  รู้จักเลตันมากกว่าเธอ  รู้ว่าเลตันต้องกินอะไรตอนไม่สบาย

ที่ผ่านมาเลตันเป็นคนแข็งแรง  ไม่ค่อยป่วยให้เธอเห็น  ไม่เคยให้เธอต้องดูแล  มีแต่คอยดูแลเธอมาตลอด  พอถึงตอนเลตันป่วยบ้าง  เธอจึงไม่รู้จะทำอะไรให้  และเมื่อมีคนที่ดูแลเลตันได้ดีกว่า  เธอจะไปขัดได้อย่างไร  เธอไม่ใช่หมอสักหน่อย

เม็กผงกหัวทักทายเพจที่ยืนอยู่แถวๆ เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ที่ประจำ  แล้วรีบเดินเข้ามาด้านใน  แองจีมาส่งเธอตรงทางเข้าแล้วขับต่อไปโรงพยาบาลเลย  ที่จริงเธอควรจะขอโทษเพจเรื่องที่เหยียบเท้าเมื่อวาน  แต่เพจก็ต้องขอโทษเธอเหมือนกันที่มาขวางทางเธอก่อน  ดังนั้นก็ถือว่าเจ๊ากันไปละกัน

"เดี๋ยว  เม็ก"  เพจเดินเร็วๆ ตามหลังคนตัวเล็กมา  เม็กไม่อยากคุยด้วย  จึงรีบเดินหนี  แต่คนขายาวกว่าก็มาดักหน้าอีกจนได้

"นี่คุณ  ฟังฉันก่อนได้ไหม  ฉันแค่อยากจะขอโทษ"

"ไม่จำเป็น"  เม็กพูด  ไม่ได้ตั้งใจจะทำเสียงไม่พอใจ  แต่มันเป็นไปแล้ว  เธอส่ายหน้าให้เพจ  "ขอร้องเถอะค่ะ  อย่าพูดถึงมันอีกเลย  ถ้าจะคุยกับฉัน  ช่วยหาเรื่องอื่นมาพูด  ถ้าไม่มี  ฉันขอตัว"

เพจเงียบไป  และไม่ได้ตามเธอมาอีก  เม็กจึงเดินตรงไปห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า  เธอเห็นแล้วว่าซาซ่าอยู่ในนั้น  แต่พยายามไม่สนใจ  หากซาซ่าก็มายืนพิงตู้ล็อกเกอร์ข้างๆ เธอ  ทำท่าเหมือนมีอะไรจะพูดด้วย  หากก็ไม่ยอมพูดสักที  เม็กอึดอัดใจ  เธอไม่สามารถเปลี่ยนชุดได้โดยมีคนจ้องอยู่แบบนี้  จึงสะพายกระเป๋ากีฬาที่ใส่เสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนขึ้นบ่าใหม่  จะไปเปลี่ยนในห้องน้ำแทน  ตอนนั้นเองที่ซาซ่าพูดขึ้น

"วันนี้สองผู้พิทักษ์ไม่ได้มาด้วยเหรอ"

"ทำไมถึงมาถามฉันล่ะ  คุณเป็นรองผู้จัดการ  คุณไม่รู้เหรอว่าใครจะมาหรือจะไปไหน  พวกเขาไม่บอกคุณหรือไง"  เม็กย้อนเสียงเย็นชา

"ฉันมีสอน  ขอโทษนะ"  เธอพูดต่อ  แบกกระเป๋าออกไปเข้าห้องน้ำหญิงด้านนอกแทน  ที่จริงเธอก็ไม่อยากจะเรื่องมาก  คนอื่นยังเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องล็อกเกอร์ได้ไม่มีปัญหากันสักคน  เธอก็เคยเปลี่ยนได้  ถ้าจะไม่มีใครมายืนจ้องเธอแบบที่ซาซ่าทำ

เม็กเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็แบกกระเป๋าที่ใส่เสื้อผ้าชุดที่ใส่มาออกจากห้องน้ำ  ไม่แปลกใจที่เห็นซาซ่ายืนรออยู่  เธอได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินเข้ามาในห้องน้ำตามหลังตน  เห็นรองเท้าที่จำได้ว่าเป็นของซาซ่าด้วย

"ทำไมถึงชอบสองคนนั้นนัก"  ซาซ่าถาม  ท่าทางเหมือนอยากจะถามมานานแล้ว  เม็กล้างมือตรงอ่างล้าง  มองหน้าคนถามทางกระจกเงา  แต่ยังไม่ตอบ

"ก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอว่าพวกเขาเป็นอะไรกัน"

"แล้วทำไมคุณจะต้องสนใจ"  เม็กย้อน  จัดเสื้อยืดแขนสั้นบนตัว  แองจีบอกว่าเธอสามารถใส่เสื้อยืดได้  ถ้าไม่สะดวกใจจะใส่เสื้อกีฬารัดๆ ที่ทำให้ขาดความมั่นใจ

"มันเรื่องส่วนตัวของฉัน  ไม่ได้ทำให้งานเสียหาย"

"นั่นสินะ"  ซาซ่าพึมพำ  มองเม็กเช็กลิปสติกบนปากตัวเอง  มันเป็นสีแดงระเรื่อที่ทำให้ดูสุขภาพดีและน่าสัมผัส  เธออดคิดไม่ได้ว่ามีใครสักกี่คนที่ได้สัมผัสมันมาแล้ว  เท่าที่เธอเห็นก็มีผู้จัดการของเธอนี่แหละคนหนึ่ง  และคนที่น่าจะเคยอีกคนก็คือ  เลตัน  ครีด  หากคนหลังก็แค่สันนิษฐานเท่านั้น  เธอไม่เคยเห็นเม็กกับเลตันทำอะไรกันแบบนั้นสักครั้ง

สิ่งที่ไม่เห็น  ใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้น  ซาซ่ายึดหลักการนี้

เม็กเดินออกจากห้องน้ำหลังจากจัดการตัวเองเสร็จ  เอากระเป๋าไปเก็บที่ล็อกเกอร์ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า  เธอเอาโทรศัพท์มือถือคาดต้นแขนไว้เพื่อจะได้ไม่ต้องถือและไม่ต้องกลัวว่ามันจะหายถ้าวางทิ้งไว้  ปกติเธอจะใช้นาฬิกาอัจฉริยะที่สามารถรับสายโทรศัพท์  รับส่งอีเมลและทำเรื่องอื่นๆ ได้ราวกับโทรศัพท์มือถือ  รวมทั้งวัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วย  แต่วันนี้รีบมากจึงลืมเอามา

"ว่างเหรอ  ถึงมาเดินตามฉัน"  หันไปถามซาซ่าที่ยังเดินตามเธอมาจนถึงห้องเรียนโยคะ  คลาสเธอกำลังจะเริ่มแล้ว  เม็กชอบเข้าไปเตรียมตัวก่อนที่นักเรียนจะเข้ามา  ถ้าเธอไม่ได้ไปธุระที่ไหนนะ

"ฉันก็อยากจะลองเป็นองครักษ์เธอบ้างมั้ง"  ซาซ่าตอบเสียงกวน

"แล้วถ้าฉันบอกว่า  คลาสฉันไม่ต้อนรับคนนอกล่ะ"  เม็กหยั่งเชิง

"ฉันเคยเห็นเลตันเข้าไปดูได้"

"เพราะเลตันเป็นผู้ช่วยฉัน  เขาสอนแอ็คโครโยคะด้วย  ถ้าคุณจะจำได้นะ  ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่ใครจะมาก่อกวนได้"

"นี่เธอว่าฉันก่อกวนเหรอ"

"ก็เท่าที่เห็น"

ซาซ่าขบฟัน  มองเม็กยืนขวางประตูห้อง  ไม่ยอมให้เข้าไป  ซึ่งเธอรู้ดีว่าถ้าทำอะไรรุนแรงลงไป  แองจีจะต้องไม่พอใจแน่  ห้องเรียนโยคะถือเป็นอาณาจักรหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเม็ก  แบบเดียวกับสระว่ายน้ำของเธอ

"ขอบคุณ"  เม็กพูด  หันหลังจะผลักประตูเข้าห้อง  แต่พอรู้สึกว่ามีมือมาจับเอว  เธอก็สะบัดตัวหลบและมองจ้องเจ้าของมือนั้นอย่างเอาเรื่อง

ซาซ่ายกสองมือขึ้นในท่ายอมแพ้  หน้าเสียไปเลย  เพราะเม็กทำท่าไม่ชอบใจอย่างแรง  จะคิดคำมาแก้ตัวก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี  มันดูโง่ไปหมด

"ฉันแค่จะทดสอบปฏิกิริยาเธอเท่านั้น  ดูเหมือนจะไวมากเลย"

"ฉันไม่ชอบให้ใครมาแตะตัว  ถ้าไม่ใช่คนสนิท  และดูเหมือนเราจะไม่ใช่คนสนิทกันนะ"  เม็กพูดเสียงเย็นชา  "ถ้าไม่มีอะไรแล้ว  ฉันขอตัว"

"ก็ดูหวงตัวดีนี่นา"  ซาซ่าพูด  เม็กหันขวับมาจ้องหน้าตาวาววับ

"ต้องการจะพูดอะไรกันแน่  เท่าที่จำได้  ฉันไม่เคยทำอะไรให้คุณเลยนะ  ทำไมจะต้องตามเกลียดชังกันด้วย  หรือฉันไปแย่งอะไรของคุณมา  ถ้ามีละก็ช่วยบอกด้วย  เพราะฉันไม่รู้จริงๆ"

"เกลียดเหรอ  ตรงกันข้ามเลย"  ซาซ่าพูด  แล้วหันหลังเดินจากไป

เม็กขมวดคิ้วงง  หากนาฬิกาที่ตั้งไว้เตือนว่าได้เวลาสอนแล้วก็ดังขึ้นให้ต้องเลิกสนใจเรื่องนี้ไป  เม็กผลักประตูกระจกเข้าสู่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองไป

........................................

เลตันโดนฉีดยามาเข็มหนึ่ง  โชคดีที่เป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาจึงกลับบ้านได้  แต่ก็ไม่กลับอยู่ดี  ยังคงตามแองจีมาที่ทำงาน  นอนในห้องทำงานของคุณผู้จัดการ  ไม่มีพนักงานคนไหนแปลกใจหรือสงสัย  เพราะผู้จัดการฝ่ายสั่งซื้อก็ทำงานในห้องผู้จัดการสปอร์ตคลับเป็นประจำอยู่แล้ว 

เม็กสอนเสร็จแล้ว  มีเวลาพักอยู่หนึ่งชั่วโมงจึงว่าจะแวะมาดูเลตันสักหน่อย  แองจีส่งข้อความมาบอกเธอว่าถ้าว่างก็ให้มา  เพราะเจ้าตัวต้องประชุมกับลูกค้าพร้อมกับเพจ  น่าจะมีคนมาขอเช่าสถานที่อีก

แต่ก่อนจะเดินมาถึงห้องแองจี  เม็กก็เห็นจีนาที่เพจเคยแนะนำว่าเป็นเลขาของเลตันเดินออกมาเสียก่อน  ไม่สบายยังจะทำงานอีกหรือไงน่ะ

"อ้อ  คุณเม็ก  คุณเลตันรออยู่พอดีเลย"  จีนาพูดทันทีที่เห็นเม็ก

"เอ่อ  เลตันเรียกฉันเหรอคะ"  เม็กถามอย่างไม่แน่ใจ

"ค่ะ  คุณเลตันบอกว่าถ้าเจอคุณข้างนอกให้บอกว่าเข้าไปหาด้วย  แต่ไม่ได้บอกว่าทำไม"  จีนาตอบ  ยิ้มแบบนักประชาสัมพันธ์ทั้งที่ไม่ได้เป็น

"ฉันขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะคะ"

เม็กพยักหน้ารับ  มองจีนาเดินจากไปแล้วจึงหันมาจ้องประตูห้อง  ไม่รู้จะทำหน้ายังไงดีถ้าเจอเลตันตามลำพัง  ช่วงนี้มีแต่แองจีอยู่ด้วยตลอด

เธอเคาะประตูก่อนเป็นอันดับแรก  พอได้ยินเสียงข้างในบอกว่าให้เข้ามาได้  เธอจึงเปิดเข้าไป  เห็นเลตันนอนอยู่บนโซฟาเบดตรงมุมพักผ่อนตัวเดียวกับที่เธอเคยนอนตอนไม่สบาย  แต่ตอนนี้เลตันไม่ได้นอนเฉยๆ หรือหลับพัก  ในมือมีไอแพดที่คงจะทำงานอยู่  ไม่ใช่เล่นเกมแบบตอนอยู่บ้าน  แถมมีหน้ากากอนามัยปิดปากกับจมูกอยู่ด้วย  คงกลัวจะแพร่เชื้อให้คนอื่น 

"เรียกฉันเหรอ"  เม็กถาม  รู้สึกว่าตนสุภาพมากเกินกว่าปกติ  เลตันคงรู้สึกเหมือนกันจึงทำหน้าตาเหมือนขำเธอ 

"อะไรล่ะ  ก็อยู่ที่นี่  เธอเป็นเจ้านาย"

"กลัวติดหวัดหรือเปล่า"  เลตันถาม  ไม่ได้สนใจที่เม็กพูดเลย  "ถ้าไม่กลัวก็เข้ามาใกล้ๆ หน่อยได้ไหม"

เม็กส่ายหน้า  เดินเข้าไปใกล้เลตัน  หากอีกฝ่ายพยักหน้าให้ใกล้เข้าไปอีก  เท่าไหร่ก็เหมือนจะไม่พอ  เธอจึงต้องไปนั่งบนโซฟาด้วยเลย

"พอใจหรือยัง"

"ยัง  จนกว่าเธอจะกอดฉัน"  เลตันพูดง่ายๆ  เม็กคงรู้สึกว่าอีกฝ่ายเห็นแก่ตัวและน่ารังเกียจ  หากเธอไม่เคยทำมันมาก่อน 

"ฉันคิดถึงเธอ  เม็ก"

พอได้ยินแบบนี้  เม็กก็โน้มตัวลงไปหาคนนอน  ให้เลตันกอดเธอเป็นตุ๊กตามีชีวิต  ถ้าเลตันเป็นผู้ชาย  เธอคงดูเป็นผู้หญิงใจง่ายมาก  แต่ถึงเป็นผู้หญิงเหมือนกัน  มันก็ดูไม่ดีอีกนั่นแหละ  เพราะเธอรู้อยู่แก่ใจว่าเลตันมีแฟนเป็นผู้หญิง  ชอบผู้หญิง  และคงไม่ได้คิดกับเธอแค่เป็นเพื่อนสาวกัน

ที่สำคัญเลตันมีคู่หมั้นแล้ว...

แล้วเธอก็ดันมีซัมติงกับคู่หมั้นของเลตันด้วย  ถึงจะแค่จูบกันเฉยๆ  มันก็ไม่สมควรใช่ไหมล่ะ  แล้วทำไมเธอถึงไม่หยุด  เธอก็ตอบตัวเองไม่ได้

"กอดแล้ว  นอนได้หรือยัง"  เม็กถาม  มองคนที่เดี๋ยวนี้อ้อนเก่งมาก

"นานกว่านี้อีกหน่อย"  เลตันตอบ  ลูบหลังเม็กจนเคลิ้มง่วงไปกับคนป่วยด้วยแล้ว  "เมื่อก่อนตอนพ่อยังอยู่  ถ้าฉันไม่สบาย  เขาก็จะต้มโจ๊กข้าวโอ้ตใส่ไก่สับให้  และน้ำมะนาวอุ่นใส่น้ำผึ้ง  ที่จริงมันเป็นสูตรของแม่น่ะ  เขาทำไม่อร่อยเท่าแม่หรอก  แต่ฉันก็ดีใจ"

"เมื่อเช้าแองจีทำให้เธอกินแล้วไง"  เม็กพูด  เผลอซุกตัวเข้าหาเลตันจนมานอนทับตัวกันแล้ว  มันเหมือนเป็นความเคยชินกับการทำแบบนี้  ทั้งที่เธอไม่เคยใกล้ชิดกับใครมากขนาดนี้ 

เธอไม่ชอบการสกินชิพ  ไม่ชอบใกล้คนแปลกหน้า  ขนาดจับมือทักทายยังตะขิดตะขวงใจ  บางครั้งเธอก็ใช้การโค้งตัวให้แบบคนเกาหลีแทน  ยังไงหน้าตาเธอก็เป็นเอเชียอยู่แล้ว  ทำเนียนเป็นไม่จับก็ยังได้  แต่พอมาทำงานแบบนี้ก็ต้องยอมจับบ้าง  ไม่อย่างนั้นคนจะหาว่าสปอร์ตคลับไม่มีความเป็นสากล

มันไม่เหมือนกับตอนจูบกับแองจี  นั่นมันเป็นความรู้สึกคล้ายกับมีบางอย่างกระตุ้นให้อยากทำ  ตื่นเต้นและบางครั้งก็ร้อนรน  หากการนอนซบอิงแอบกับเลตันแบบนี้  มันสบายเสียจนแทบจะเป็นความเคยชิน  ที่ไม่รู้สึกคิดถึงหรืออยากได้มันจนกระทั่งได้มาอยู่แบบนี้ด้วยกัน

"อืม  ก็อยากบอกให้รู้เฉยๆ  แค่นั้นแหละ"  เลตันพึมพำ  ทำหน้าเขินเมื่อเม็กขยับขึ้นสบตาเหมือนจะล้อเลียน

"อะไร  ก็แค่อยากบอก..."

"เผื่อจะได้ทำให้น่ะสิ  อยากจะใช้ฉันทำให้ใช่ไหมล่ะ"

"ก็ถ้าเธอจะใจดี"

"นี่ว่าฉันใจร้ายใช่ไหม"  เม็กหยิกแก้มคนชอบกวนผ่านผ้าปิดปาก  เลตันหัวเราะคิก  เบี่ยงหน้าหลบเธอ  และไอออกมาแรงๆ หลายทีจนเธอต้องลูบหลังให้  "กินน้ำดีกว่า  น้ำอยู่ไหน"

เลตันชี้มือไปทางขวดน้ำที่อยู่ใกล้ๆ  เม็กจึงเอื้อมมือไปหยิบมาได้โดยไม่ต้องลุกขึ้นจากโซฟา  เธอเปิดขวดและส่งให้เลตันดื่ม  ช่วยประคองให้ลุกขึ้นนั่ง  พอเลตันเปิดผ้าปิดปากออกดื่มน้ำจึงเห็นได้ว่าปากแดงแจ๋  คงเพราะพิษไข้  มิน่าถึงตัวอุ่นมากจนร้อนเลย

เม็กเอาหลังมือทาบหน้าผากเลตัน  เช็กอุณหภูมิ  ไม่รู้สึกว่ามันร้อนเท่าไหร่  แต่พอหันไปเห็นปรอทวัดไข้แบบดิจิทัลบนโต๊ะที่เพิ่งไปหยิบขวดน้ำมาเมื่อกี้  จึงเอามาใช้วัดไข้เลตันเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ไข้ขึ้นจริงๆ

"อ้าปาก  หรือจะวัดทางรักแร้"

"แองจีวัดตรงนี้"  เลตันชี้ให้ดูว่าแองจีใช้ปรอทวัดไข้วัดไข้ตนตรงไหน  เม็กมุ่นคิ้ว  เพราะอีกฝ่ายใส่สเวตเตอร์แขนยาว  ถ้าจะวัดตรงรักแร้แบบให้ได้ผลที่แน่ชัดก็ต้องให้โดนเนื้อเปลือยๆ ไม่ใช่ผ่านเนื้อผ้า

"เอามานี่มา  ฉันวัดเอง" 

เม็กส่งปรอทวัดไข้ให้เลตันไปจัดการเอง  แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเล่นถอดเสื้อออกและสอดปรอทวัดไข้ไปใต้รักแร้แบบนี้  แถมยังไม่ใส่บราอีกด้วย  เม็กหันหนีหน้าแทบไม่ทัน  เลตันกับแองจีเป็นพวกไม่รู้จักอายเนื้อหนังมังสาตัวเองทั้งคู่  ไม่รู้ตอนอยู่ด้วยกันสองคนใส่เสื้อผ้าบ้างหรือเปล่า

"โอ้  โทษที  พอดีแองจีเช็ดตัวให้เลยให้ถอดออกน่ะ"  เลตันชี้แจงเมื่อเห็นว่าเม็กอายแทนตน  "แป๊บเดียว  รอให้เครื่องมันร้องบอกก่อนนะ"

"อือ  เสร็จแล้วก็บอกละกัน"  เม็กพูด  หันหลังให้คนหน้าไม่อายที่ทำให้เธอต้องอายแทน 

"โอเค  เสร็จแล้ว"  เลตันบอก  เม็กได้ยินเสียงปิ๊บพอดีเหมือนกัน 

"ใส่เสื้อซะด้วย  เร็วเข้า  อากาศมันเย็นนะ"

"รู้แล้ว  แต่เธอจะอายทำไม  ทำเหมือนไม่เคยเห็นไปได้"  เลตันพูดกึ่งหัวเราะ  "ถ้าเธอกลัวเสียเปรียบ  จะถอดให้ฉันดูบ้างก็ได้นะ"

"บ้าสิ"  เม็กดุ  หันกลับมาแบมือขอปรอทวัดไข้จากเลตันที่ใส่เสื้อแล้วเรียบร้อยไปดู

"สามสิบแปด  มีไข้นิดหน่อย"

"ก็ไม่เยอะหรอก  แต่มันคันคอและก็ไอ"  เลตันบอก  เอาหน้ากากมาใส่ปิดปากเหมือนเดิม  ไอสองทีแล้วเอนตัวลงนอน  เม็กมองแล้วก็เอื้อมมือไปลูบหัวเหมือนจะปลอบขวัญ  เลตันยกมือขึ้นจับมือเธอ

"อยู่อีกแป๊บนะ  ฉันจะหลับแล้วละ"

เม็กพยักหน้า  ทรุดตัวลงนอนด้วยแต่ไม่ได้ทับตัวเลตันแบบเมื่อกี้  แค่เกยนิดหน่อย  เพราะอีกฝ่ายดึงเธอไปกอดเหมือนหมอนข้าง

"อึดอัดหรือเปล่า"  เลตันถาม  เริ่มสะลึมสะลือแล้ว

"ไม่  นอนเถอะ"  เม็กตอบ  "ฉันหลับด้วยดีกว่า  เดี๋ยวตั้งเวลาปลุกเอาไว้  ฉันมีสอนอีกคาบ"

"โอเค"  เลตันตอบ  หลับตาลงอย่างผ่อนคลายเมื่อรู้ว่าเม็กจะนอนอยู่ด้วย  "ไม่ต้องกลัวฉันนะเม็ก  ฉันมีความสุขแล้ว  แค่ได้อยู่ใกล้ๆ เธอ"

เม็กนิ่งอึ้ง  นึกไม่ถึงว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้  เธอขยับใบหน้าขึ้นมอง เลตัน  อีกฝ่ายดูเหมือนจะหลับไปแล้วด้วยพิษไข้ที่ทำให้ร่างกายต้องการการพักผ่อนมากกว่าปกติ

เธอยิ้มขณะทอดมองเลตันด้วยสายตาเอ็นดูเหมือนพี่สาวมองน้อง  ถึงเลตันจะตัวโตกว่าเธอเยอะ  แต่บางครั้งก็เหมือนเด็ก  ยังไงเลตันก็เด็กกว่าเธอเกือบสามปี  แล้วก็ชอบทำตัวเหมือนเป็นผู้ใหญ่กว่าเธอมาก

"ทำเป็นปากหวาน"  เม็กกระซิบ  แตะปลายนิ้วลงบนหน้าผากเลตันอย่างหยอกเย้า  หัวเราะเบาๆ เมื่ออีกฝ่ายย่นคิ้วรำคาญ  เธอเช็กนาฬิกาปลุกอีกที  แล้วเอนตัวลงนอนตามเดิม  ซบอกเลตัน  ฟังเสียงหัวใจอีกฝ่ายเต้น     


................................


 Cheating On You เปิดจองวันนี้ - 10 ธันวาคม 2562

*ราคาเล่มละ 350 บาท ส่งฟรีพัสดุธรรมดา (เฉพาะช่วงจอง) ลงทะเบียน 30 บาท EMS เพิ่ม 60 บาท Kerry 70 บาท

** สนใจหนังสือ >>> http://bit.ly/2OANRB1

หรือ ติดต่อ anhann5@gmail.com , Inbox หรือ ไลน์ anhann นะคะ

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

25 พฤศจิกายน 2019 เวลา 10:04:20
ตกลงใครมันมักมากกว่าใครกันแน่
แสดงความคิดเห็น