web stats

ข่าว

 


Sparkle_s3 (แฟนฟิค) - บทที่ 23 Darker Than Black (1)

โพสต์โดย: anhann วันที่: 11 มีนาคม 2018 เวลา 22:38:35 อ่าน: 258



บทที่ 23 Darker Than Black (1)






แทยอนไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้มานั่งอยู่ตรงนี้อีก  ในที่สุดยุนอาก็เห็นคุณค่าของเธอมากกว่าเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก  หรือเมียที่คอยสนองความต้องการของสามี  เธอได้ร่วมสอบสวนคนร้าย  มีส่วนช่วยตัดสินใจ  แม้ว่ามันจะเพราะเธอมีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้เต็มๆ  เขาต้องการฆ่าเธอ  ถ้าคริสตัลไม่เข้ามาขวางไว้  ป่านนี้เธออาจอยู่ในหลุมไปแล้วก็ได้

"ใครสั่งให้แกทำ" 

นัยน์ตาสีส้มแดงเพ่งมองร่างสูงผอมในชุดสูทสีดำเอ่ยถามกับอดีตครูฝึกของนักรบแลนดอนที่ถูกจับแขวนห้อยหัวอยู่ในกรงขัง  เหล็กหนาเท่าท่อนแขนของเธอได้  หรืออาจใหญ่กว่านิดๆ  แทยอนเห็นเขาทำท่าเหมือนจะถุยน้ำลายใส่หน้ายุนอา  แต่คุณที่ปรึกษาสมิธดึงตัวทหารอีกคนมาแทนก่อน  ทหารคนนั้นจึงรับมันไปเต็มๆ  และชกเข้าที่ท้องเขาจนจุกตัวงอ  กระนั้นเขาก็ยังสามารถมองเธอด้วยสายตาเกลียดชังได้  แถมยังด่าเธอได้ด้วย

"นังแพศยา  ทำไมแกถึงมีบุญนักนะ  ทำไมแกถึงไม่ตายๆ สักที"

แทยอนขมวดคิ้ว  อยู่ๆ เธอก็ฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้  สี่ศตวรรษที่เธอมีชีวิตอยู่มาผ่านอะไรมากมาย  ทำอะไรมาก็มาก  มากจนบางเรื่องก็หล่นหายไปจากความทรงจำ  มือสองข้างของเธอฆ่าใครมาบ้าง  เธอก็จำไม่ได้ 

เธอส่งสายตาบอกยุนอาให้ห้ามทหารที่เงื้อมือจะทำร้ายอดีตครูฝึก  คุณที่ปรึกษาก็พยักหน้าและกระซิบคำสั่งเบาๆ กับทหารคนนั้น  เธอไม่อยากให้ใครขัดเขา  อยากให้เขาพูดออกมาให้หมดว่าเธอเคยไปทำอะไรให้  เขาถึงอยากจะฆ่าเธอนักหนา   

"จำไม่ได้ใช่ไหม  นังสารเลว"

"ใช่  ฉันจำไม่ได้"  แทยอนตอบ  สายตาว่างเปล่า  ไร้ความรู้สึกผิด  ไม่ใช่เรื่องแปลก  เธอถูกสอนมาให้เป็นแบบนี้  ไม่มีความเห็นใจกับใครทั้งนั้น  เมื่อใดที่ถูกสั่งให้ทำงาน  เมื่อนั้นเธอจะสลัดหัวใจทิ้งไว้ข้างหลัง  นี่คือความเหมือนกันระหว่างเธอกับยุนอา

"แกฆ่าแม่ฉัน  ต่อหน้าต่อตาฉัน!"

"โอ้  เธอเป็นเด็กคนนั้นหรือ"

"ใช่  คิดไม่ถึงใช่ไหม"

"อืม  ต้องบอกว่า  ผิดคาดจริงๆ  เพราะฉันสั่งฆ่าเธอด้วย"

ชายที่ห้อยหัวอยู่อ้าปากค้าง  หลังจากฟังเธอพูด

"แม่เธอเป็นคนทรยศ  ถ้าจะโทษใคร  ก็ต้องโทษแม่เธอ  ไม่ใช่ฉัน  และอีกอย่างนะ  ฉันไม่ได้ฆ่าแม่เธอ  หล่อนฆ่าตัวตายเอง"

"ไม่จริง!  แกเป็นคนถือปืนจ่อหัวแม่  ฉันเห็น  ฉันซ่อนอยู่ในตู้..."

"ฉันรู้"  แทยอนตอบใจเย็น  น้ำเสียงราวกับจะปลอบโยนขัดกับคำพูด  "ฉันปล่อยเธอไว้ให้เธอได้เห็นว่าจุดจบของคนทรยศจะเป็นยังไง  แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สำนึกเลยนะ  เดวิน"

"แกมันเลือดเย็น"

"ฉันเป็นจิ้งจอกอาร์กติก"  เธอพูด  เสียงราบเรียบ  หันไปพยักหน้าให้ยุนอา  บอกว่าเสร็จธุระของเธอแล้วให้ทางนั้นจัดการต่อได้เลย  แต่แทนที่ยุนอาจะสั่งเชือดคอเขาทันทีหรือทรมานเพิ่ม  กลับบอกให้ขังเขาเอาไว้ก่อน  รอการไต่สวนครั้งต่อไป

"คุณคิดว่า  มันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้นหรือ"  แทยอนถาม  วางมือบนท่อนแขนของยุนอาที่ส่งมาให้ช่วยพยุงตัว  แม้ว่าจะสวมเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่  ท้องของเธอก็เริ่มจะมองเห็นชัดขึ้น  เพราะย่างเข้าสู่เดือนที่ห้าแล้ว

"เขาจะทำงานนี้คนเดียวได้งั้นหรือ"  ยุนอาย้อน  มองหน้าแทยอนอย่างหยั่งเชิง  "อย่าใจอ่อนสิ  แทยอนที่รัก"

จิ้งจอกสาวขมวดคิ้ว  ไม่เข้าใจว่าเธอใจอ่อนตรงไหน  เธอคิดว่าตัวเองใจร้ายมากไปด้วยซ้ำ  "ฉันเนี่ยนะ  ใจอ่อน"

ยุนอาพยักหน้า  "ถ้าเธอฆ่าเขา  เขาก็แค่ตาย  เขาก็สบาย  แต่เราจะไม่ได้รู้อะไรอีกเลย"

"ถ้างั้นทำไมคุณปล่อยให้คริสฆ่าพวกที่ตึกร้างหมดล่ะ  ไม่เหลือไว้สักคนเดียว"

"เพราะเราได้ข้อมูลมากพอแล้วไงล่ะ"  ยุนอาตอบ  "แล้วก็ไม่แน่ว่า  นายเดวินคนนี้อาจทำให้เราสาวไปถึงคนที่ฆ่าอดีตสามีเธอก็ได้  ไม่อยากรู้หรอกหรือ"

"ทำไมฉันจะต้องอยากรู้"

"นั่นสินะ  ทำไมจะต้องอยากด้วย  เพราะเธอรู้อยู่แล้ว"

แทยอนจ้องตาสีฟ้านิ่ง  ยุนอายิ้มเยือกเย็น

"เธอไม่จำเป็นต้องลงมือทำเองทุกอย่างหรอก  แทยอน  เธอสั่งได้"

ริมฝีปากนางจิ้งจอกกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นยะเยือก  ยุนอายกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นมองมันอย่างสนใจ 

"จะไม่แก้ตัวหน่อยหรือ  ต้องการทนายไหม"

"มันทำให้ฉันสูญสิ้นทุกอย่าง  แค่เห็นหน้า  ฉันก็จะอ้วกแล้ว"

"นั่นสินะ"  ยุนอาฮัมรับอย่างไม่ใส่ใจ  "แต่เธอเก่งนะ  เนียนจริงๆ"

"คุณเก่งกว่า  คุณรู้ทันฉันตลอด"  แทยอนพูด  แต่ดูเหมือนยุนอาจะไม่ใส่ใจคำชมของเธอ

"มีอะไรที่ฉันควรรู้อีกไหม"

ตาสีฟ้าจ้องตาเธอนิ่ง  แทยอนยิ้มให้มัน  "ฉันไม่มีวันทำร้ายคุณ"

"ฉันจะเชื่อใจจิ้งจอกได้หรือ"

"ไม่ได้ค่ะ  แต่คุณเชื่อฉันได้  สิ่งสุดท้ายที่ฉันจะทำ  คือทำลายเรา  ครอบครัวของเรา"

"เพราะเธอรักคริส"

"เพราะฉันรักพวกคุณ  คุณทั้งสองคน"

ยุนอาเลิกคิ้ว  บอกเลยว่าไม่เชื่อ  "งั้นขอมือปืนคนนั้นให้ฉันได้ไหม"

"ไม่ได้ค่ะ  ขอโทษด้วย"  แทยอนปฏิเสธ  "ถึงฉันจะเป็นนังแพศยา  หรือสารเลว  ฉันก็มีคำสัตย์ที่ฉันต้องยึดถือเหมือนกัน  ขอให้คุณเข้าใจ"

"โอเค"  ยุนอาพึมพำเบาๆ  ไม่เต็มใจเท่าไหร่  "ถ้างั้นเรื่องแจ็คล่ะ"

"ฉันไม่ได้ฆ่าแจ็ค  ฉันจะฆ่าเขาทำไม" 

"ฉันก็ถามไปอย่างนั้นแหละ"

"สเตฟานี่สร้างเรื่องไว้ไม่น้อย..."

"เขาผูกมิตรกับยมทูต"

"ใช่  แล้วคนอื่นก็เดือดร้อนเพราะเขา" 

"เขาควรจะอยู่เฉยๆ  เดินร่อนอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์เหมือนลูกคนโตของเธอสินะ"  ยุนอาประชด  "เธอรู้ไหมว่า  ถ้าไม่ได้สเตฟานี่  งานเราคงไม่เดินขนาดนี้  พูดง่ายๆ  คือเขามีประโยชน์ต่อเรา"

"ต่อคุณ"  แทยอนแก้คำ  แต่ยุนอาไม่สนใจเธอ  "คุณจะจงรักภักดีกับคนที่คิดจะฆ่าคุณไหม  ยุนอา"

"ถึงฉันไม่ทำ  ก็มีคนทำแทนฉัน"  ยุนอาพูด  เสียงราบเรียบ  แค่นี้ก็ทำให้คนฟังขนลุกได้แล้ว  "สภาสูงนับวันก็ยิ่งเสื่อมและสกปรก  คงถึงเวลาที่เราต้องช่วยกันปรับปรุง  ทำความสะอาด"

แทยอนจ้องหน้ายุนอาอย่างไม่อยากเชื่อ  หากเธอแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้หูเฝื่อน  แววตาเสือยืนยันกับเธอแบบนั้น

"เธอต้องดูแลตัวเองกับลูกๆ ให้ดีนะ  สัญญากับฉัน"

"คุณอย่าพูดแบบนี้สิ"

ยุนอายิ้ม  อยู่ดีๆ ก็นึกอยากกอดคนตัวเล็กขึ้นมา  แล้วเธอก็ทำมันตรงโถงทางเดินนี่แหละ  แทยอนตกใจนิดหน่อย  แต่ก็กอดตอบกลับมา

"ถ้านึกอยากยิงหัวฉันเมื่อไหร่  ก็บอกก่อนด้วยล่ะ"

"ยิงทำไมให้เปลืองกระสุน  คุณไม่ตายสักหน่อย"

"ถ้างั้นก็เลิกร้องไห้ได้แล้ว  เดี๋ยวคริสตกใจ  นึกว่าฉันแกล้งเธออีก"

"ฉันไม่ได้ร้อง..."

"โอเคๆ  ไม่ได้ร้อง  แค่ฝุ่นเข้าตา"

แทยอนพยักหน้าหงึกๆ อยู่กับอกคนตัวสูง  ยกมือข้างหนึ่งมาขยี้ตาเหมือนเด็ก  มือผอมๆ ก็ลูบศีรษะเธอเบาๆ โดยไม่ได้พูดอะไร 

"ไปพักเถอะ  ฉันจะไปทำงานต่อ"

"เอาคริสไปด้วย"

"ทำไมล่ะ  ไม่อยากอยู่กับเขาแล้วเหรอ"

"ตอนนี้คุณต้องการเขามากกว่าฉัน"

ยุนอานิ่งไปเล็กน้อย  ก่อนจะยิ้มรับและพยักหน้า  กดปลายจมูกลงบนหน้าผากนางจิ้งจอกแผ่วเบา  พลางลูบท้องนูนเต่งไปด้วย  "ยายหนูจะร้ายกาจเหมือนแม่ไหมนะ  มาช่วยป๊ากับแด๊ดปราบแฝดหน่อยเถอะ"

แทยอนยิ้มทั้งน้ำตา  ยอมรับกับตัวเองว่าพักหลังๆ นี้เธอทั้งอ่อนไหว  อ่อนแอ  ใจอ่อน  และแทบจะไม่เหมือนคนเดิม  ไม่เหมือนคนที่สามารถโทรไปสั่งฆ่าใครก็ได้โดยไม่รู้สึกรู้สา  ความเย็นชาในหัวใจเธอมันถูกความอบอุ่นของคริสตัลกับยุนอากลืนกินไปจนเกือบหมดแล้ว

"อะ แฮ่ม  รู้สึกเหมือนถูกลืมอีกแล้วสิ"

เสียงขี้เล่นของคริสตัลทำให้ยิ้มของแทยอนกว้างขึ้น  แต่ก็แสร้งทำเป็นไม่สนใจเขา  แล้วเจ้าตัวโตก็ไม่เคยยอมแพ้หรอก  เขามารวบทั้งเธอและยุนอาไปกอดพร้อมกัน  เราสามคนกอดกันเฉยๆ  ไม่มีใครพูดอะไรกันราวกับจะให้สัมผัสของพวกเราสื่อสารกันเอง  คริสตัลจูบเธอที่ริมฝีปากก่อนจะเดินไปพร้อมกับยุนอา  คุณที่ปรึกษาเหลียวมาหาเธอ  โบกมือให้พร้อมรอยยิ้ม  เธอยิ้มและโบกตอบเร็วๆ เหมือนเด็ก  ยกมือขึ้นปาดน้ำตาเมื่อพวกเขาลับตาไปแล้ว  ใจเธอหายเสียเฉยๆ อย่างนั้น  การตั้งท้องทำให้เธออ่อนไหว  มันคือความสุขที่มีความหวาดกลัวแฝงมาด้วย

"คุณรู้ไหม  พวกเขาเป็นคนที่ฉันรักที่สุด"

แทยอนชำเลืองมองด้านข้าง  ไม่แปลกใจเมื่อเจอใครคนนี้ตรงนี้  เจสสิก้าจะโผล่มาเสมอทุกครั้งที่เธอต้องอยู่ตามลำพัง  ราวกับเป็นเสาสำรองให้เธอได้ยึดเกาะระหว่างที่เสาหลักทั้งสองไม่อยู่

"คุณต้องเชื่อมั่นในตัวคนที่คุณรัก  รู้ไหมคะ"

"กล้ามาสอนฉันด้วยเหรอคะ  เจสซี่"  เธอย้อน  พอเห็นอีกฝ่ายทำหน้าเหวอ  เธอก็หัวเราะ  อารมณ์ดีขึ้น  "ขอบคุณค่ะ  คุณน่ารักจัง"

"ไม่ต้องชมค่ะ  รู้ตัว"  เจสสิก้าตอบ  ลอบถอนหายใจโล่ง  กลัวใจนางจิ้งจอกไม่น้อย  "ที่จริงฉันจะมาบอกว่าแฝดอยู่กับเจดที่สนามเด็กเล่น"

"อย่าบอกนะว่า  เล่นทรายด้วย"  แทยอนถามทั้งที่เดาได้ล่วงหน้า

เจสสิก้ายิ้ม  ทำใจดีสู้จิ้งจอกขี้โมโห  "คุณรู้ไหม  ตอนคริสเด็กๆ ซนกว่าแฝดเยอะเลยนะคะ  ทำต้นไม้ฉันตายเป็นเบือเลย  คุณต้องไม่เชื่อแน่"

"เชื่อค่ะ" 

"เดี๋ยวค่ะ  จะรีบไปไหนคะ  แทยอน!"

"ล่าลูกหมาป่าค่ะ"  แทยอนตอบ  เบี่ยงตัวหลบและชนไหล่คนที่มายืนขวางเกะกะทางจนเซ  เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน 

เจสสิก้าอึ้งไปหน่อยคล้ายสมองทำงานไม่ทัน  ก่อนกลับหลังหัน  รีบจ้ำตามหลังคุณแม่แทไปอย่างรวดเร็ว

ไม่มีใครอยากให้แทยอนโกรธหรอก  เธอก็เหมือนกัน

.................................................

สเตฟานี่แตะเบรกหยุดรถทันทีที่เห็นสุนัขสีดำตัวมหึมาวิ่งตัดหน้ารถไป  และหายลับไปในป่าข้างทาง  เธอเฝ้ารอมันพร้อมกับเสียงหัวใจเต้นกระหน่ำในอก  แม้จะแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด  อย่างน้อยก็ตอนนี้

หลายนาทีกับการรอด้วยใจไม่เป็นสุข  เธอนึกโกรธเมฆดำๆ ที่อยู่ๆ ก็ลอยมาบังแสงอาทิตย์  ตรงนี้ต้นไม้เยอะก็พอแล้ว  ฝนจะมาตกด้วยหรือไง  บางทีเธอก็เกลียดอากาศที่ซีแอตเทิลนะ  ฝนฟ้าจะมาจะไปไม่เคยบอกกัน

ก็เหมือนใครบางคนแถวนี้นั่นแหละ

"ฉันคิดว่า  เรามีเรื่องต้องตกลงกันใหม่"

ความหวั่นใจค่อยๆ จางลงเมื่อได้ยินเสียงนี้  นัยน์ตาสีเขียวสบสีฟ้าจากกระจกส่องหลัง  เธอไม่จำเป็นต้องถามว่า  ยุนอาเข้ามานั่งในรถได้ยังไง  มีเรื่องอื่นที่เธออยากรู้มากกว่านั้น

"ทำไมคุณไม่ติดต่อฉันดีๆ  แบบที่ฉันทำบ้างล่ะ  ยุนอา"

"เธอเปลี่ยนไปหรือเปล่า  สเตฟานี่  งานนี้ต้องการคนใจกล้านะ"

"คุณสั่งงานฉันเหมือนฉันไปติดหนี้คุณ  คุณต่างหากไม่ใช่หรือ"

"เราจะร่วมมือกันไม่ใช่หรือไง"

สเตฟานี่กัดกระพุ้งแก้ม  ชักไม่แน่ใจว่าอยากจะเห็นด้วยกับสมิธ

"เธอรู้ไหม  มีบางคนฆ่าคนของฉัน  หลังจากเธอกลับไป"

"ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร  ฉันไม่เห็นรถของสมิธด้วยซ้ำ"

"เขาขับรถให้เม็บเมื่อคืนนี้  แต่เขาตายฟุบพวงมาลัยรถอยู่  กล้องในรถจับภาพได้แค่คนสวมไอ้โม่งแต่งตัวมิดชิดยื่นมือใส่ถุงมือมาบิดคอเขาจากด้านหลังตอนเขาสูบบุหรี่อยู่หลังรถ"

"ผู้หญิงหรือผู้ชายคุณดูไม่ออกหรือ  ทำไมถึงคิดว่าฉันจะรู้  ตอนนั้นฉันลากใครสักคนเข้าโรงแรมไปแล้ว"

"เขาสูงเท่าแจ็ค  น่าจะเป็นผู้ชาย"

"งั้นจะเป็นใครสักคนก็ได้  สมิธมีศัตรูไม่น้อยกว่าแลนดอนหรอกนะ  เผลอๆ จะมากกว่าด้วย  หรือไม่จริง"

"ใช่  จะเป็นใครก็ได้"  ยุนอาเห็นด้วย  "แต่ฉันไม่คิดว่าจะมีใครกล้ายุ่งกับเรา"

"เรา?  คุณรวมฉันไปด้วยหรือเปล่า"

"เราทำงานด้วยกัน  สเตฟานี่  เธอคิดว่าไม่มีใครรู้หรือ"

สเตฟานี่ขนลุกแปลกๆ กับประโยคนี้  หรือจากประกายในตายุนอา

"พวกเธอสามคนหน้าตาคล้ายกันจนแยกแทบไม่ออก  อาจจะมีใครสับสน  จำคนผิดก็ได้  จริงไหม"

"คุณจะบอกว่า  เจ้าพวกนั้นตั้งใจจะมาฆ่าฉัน  แต่เห็นเม็บเป็นฉัน  แล้วก็เก็บคนขับรถของฉันก่อนงั้นสิ"

"แบบเดียวกันกับที่เคนขับรถชนรถฉันตอนทิฟฟานี่อยู่ด้วยไงล่ะ"

"บ้า  มันจะแยกไม่ออกขนาดนั้นเลยหรือไง"  สเตฟานี่แย้ง  แปลกที่เธอก็เริ่มจะไขว้เขวไปกับข้อสันนิษฐานนี้แล้ว 

"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน  ฉันแค่เดา"  ยุนอาบอก  "แต่ที่บอกได้แน่นอน  ก็คือ...เธอเป็นเป้าหมายของสภาสูงคนต่อไป  พวกเขาจะต้องเก็บเธอ"

สเตฟานี่หัวเราะลั่น  หันไปมองยุนอาตรงเบาะหลัง  "ฉันรู้ตั้งนานแล้วมั้ง  เรื่องนี้  พวกเขาเกลียดฉัน  สาปแช่งให้ฉันตายทุกวัน  หารู้ไม่ว่าฉันเป็นมิตรกับยมทูต  จริงไหมคะ  คุณที่ปรึกษา"

ยุนอายิ้มเยือกเย็น  อากาศในรถก็เย็นขึ้นจนสเตฟานี่อยากยื่นมือไปปิดแอร์  แต่ตอนนี้แค่จะหายใจให้สบายก็ยังลำบาก

"ฉันตกลงนะ  ข้อเสนอของเธอตอนนั้น"

"ข้อเสนออะไร"  สเตฟานี่ถาม  ลืมไปแล้ว  เธอมีข้อแลกเปลี่ยนกับยุนอาหลายข้อจนจำแทบไม่หมด  ตอนนี้เหมือนเธอจะเป็นหนี้มากกว่าเป็นเจ้าหนี้ของยุนอา...ของสมิธ

"กบฏ"  ยุนอากระซิบเสียงเบากว่าเสียงลมหายใจของเธอเสียอีก  แต่สเตฟานี่ก็ยังได้ยินมันชัดเต็มสองหู  และมุมปากของเธอก็โค้งขึ้น  นัยน์ตาสีเขียวจัดวาววับจนเป็นสีเดียวกับมรกต

"งั้นควรเซ็นสัญญากันนะ  ว่าไหม"  สเตฟานี่พูด  ขี้เล่น  หากหัวใจก็หล่นวูบอีกครั้ง  เพราะอยู่ดีๆ รถก็โคลงไปมาเหมือนโดนใครจับโยกหรือแผ่นดินไหว  หันไปมองก็เจอหมาป่ายักษ์ใช้เท้าหน้าดันข้างรถของเธอเล่นเหมือนเห็นเป็นรถของเล่น  --  คริสตัล  ไอ้เด็กเวร!

"ยุนอา  คุณควบคุมเขาบ้างสิ --"  เสียงของเธอขาดหายเมื่อหันมาไม่เจอคุณที่ปรึกษาสมิธอยู่ในรถแล้ว  หันกลับไปมองนอกรถ  เจ้ายักษ์ทมิฬก็ไม่อยู่แล้วเหมือนกัน 

"น่ากลัวฉิบหาย!"  สเตฟานี่สบถ  รีบออกรถเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้  ไม่เหลียวกลับไปมองด้านหลัง  ไม่มองกระจกส่องหลังด้วย

............................................................... 

มันดาร์กๆ  เครียดๆ  เอาไปครึ่งนึงก่อนละกันเนอะ   :21: :42: :44:


*จองหนังสือได้ที่นี่จ้า...https://goo.gl/forms/70LWpfyjXcx1grD42

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

12 มีนาคม 2018 เวลา 11:15:37
หมายักษ์มันเล่นให้เสียวตลอดๆ คนมีคดีเยอะก็งี้แหละแฝดนรกผู้พี่เนี่ย
แสดงความคิดเห็น