web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 366
Most Online Ever: 366
(วันนี้ เวลา 13:22:24)
Users Online
Members: 0
Guests: 357
Total: 357

ผู้เขียน หัวข้อ: ตอนที่ ๔ : พิศวาสแค้นแสนรัก ๑๘ +  (อ่าน 889 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ทอถักอักษรา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 73
ตอนที่ ๔ : พิศวาสแค้นแสนรัก ๑๘ +
« เมื่อ: 11 เมษายน 2014 เวลา 18:17:00 »
ปาฏิหาริย์สายธารแห่งรัก Yuri
ตอนที่ ๔ : พิศวาสแค้นแสนรัก ๑๘ +
   
   นับตั้งแต่กานต์พิชชาออกไปจากห้องในวันนั้น  หัวใจของปภาวรินทร์ก็มีแต่ความเจ็บปวดทรมาน ร่างบางของเธอนั่งนิ่งภายในห้องพักเหมือนคนไร้ชีวิต ดวงตากลมโตก้มมองโทรศัพท์ในมือที่ตัวเองกำลังกดส่งข้อความเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็จำไม่ได้ที่เธอได้เฝ้าเพียรพยายาม ที่รู้เพียงอย่างเดียวก็คือมันไม่เคยสัมฤทธิ์ผล ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าความรู้สึกของคนที่กำลังจะเสียของรักไปเป็นเช่นไร เลขหมายที่เธอโทรหานั้นไม่เคยติดต่อได้และข้อความที่ส่งไปไม่เคยได้รับการตอบกลับมา 
   เมื่อเช้าที่เธอได้พบกานต์พิชชาอีกครั้ง เธอตัดสินใจตามกานต์พิชชาไป อยากเหนี่ยวรั้งคนที่เธอรักเอาไว้ พยายามอย่างสุดชีวิตที่จะอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง อยากสารภาพผิดและอ้อนวอนให้คนรักให้อภัยแต่อีกฝ่ายก็ตัดโอกาสของเธออย่างสิ้นเชิง เขาทำเหมือนเธอเป็นสิ่งที่ไร้ตัวตน ใบหน้าที่ยิ้มระรื่นเมื่อยามเลือกเสื้อผ้ากับศิรภัสสรนั้นต่างจากใบหน้าเปื้อนน้ำตาของเธออย่างสิ้นเชิง
   หญิงสาวกดโทรศัพท์อีกครั้งก่อนยกขึ้นแนบหู หวังเหลือเกินที่จะได้ยินเสียงสัญญาณตอบกลับมาบ้าง หากแต่สิ่งที่ได้ยินก็ยังคงเป็นเช่นเดิม จะเกิดอะไรขึ้นหากเธอไม่สามารถติดต่อกานต์พิชชาได้ตลอดชีวิต มันจะหมายความว่าเธอได้สูญเสียคนที่รักตลอดไปเลยไหม ทั้งที่เป็นแค่ความคิด หญิงสาวก็ไม่อาจกลั้นน้ำตา ร่างบางสะอื้นน้อยๆ ปล่อยให้หยดน้ำตาร่วงรินลงบนมือที่ยังกำโทรศัพท์แน่น    สายตากวาดไปรอบๆห้อง ห้องที่เธอเคยอาศัยอยู่กับกานต์พิชชา รูปคู่แสนหวานบนหัวเตียง เสื้อผ้าที่เจ้าตัวชอบ นาฬิกาสีดำสุดเท่ ฯลฯ ของทุกชิ้นยังวางอยู่ที่เดิมเหมือนรอเจ้าของมาหยิบใช้เหมือนเมื่อก่อนนั้น
เพียงแค่คิดว่าเธอไม่รักฉัน      น้ำตาพลันไหลเอ่อเธอรู้ไหม
เจ็บปวดบาดลึกถึงทรวงใน      ดวงฤทัยครวญคร่ำเกินรำพัน
หากคนดีจากฉันดังนั้นจริง         ทุกทุกสิ่งคงระงับดับความฝัน
ไม่มีเธอเคียงข้างอย่างทุกวัน      ชีวิตฉันคงหมดสิ้นดับวิญญาณ์
………………………………………..…………….

   หลังจากออกจากโรงพยาบาลในคราวนั้น  กานต์พิชชาก็ยังคงตกอยู่ในเจ็บปวดทรมานสาวหล่อหน้าหวานเลือกที่จะผ่านพ้นแต่ละค่ำคืนไปด้วยการดื่มและเที่ยว ปลดปล่อยความเหงาและโดดเดี่ยวที่ไม่ว่าจะถูกห้อมล้อมผู้คนนับร้อย แต่ก็ไม่มีใครให้ความอบอุ่นใจได้เท่ากับปภาวรินทร์
   เฮ้อ...เธอจะมานึกถึงผู้หญิงแบบนั้นทำไม ป่านนี้ปภาวรินทร์คงกำลังมีความสุขอยู่กับเต็งหนึ่ง สองคนนั้นคงอยู่ด้วยกันกอดประคอง คลอเคลียกันในแบบที่เธอเคยทำ มือยาวเรียวของกานต์พิชชาจึงบีบแน่นจนซีดเผือด หยดน้ำใสๆคลอขึ้นมาในดวงตา ความรัก ความหึงหวง  ความริษยาแล่นเข้ามาเล่นงานจนแทบจะครองสติไม่อยู่    เธอจะทำอย่างไรดี จะผ่านค่ำคืนนี้ไปได้อย่างไร....
   และในค่ำคืนนี้ก็เป็นอีกค่ำคืนหนึ่งที่กานต์พิชชาออกมาท่องราตรีกับเพื่อนที่เหลือ คือ ศิรภัสสรและอาทิตยา หลังจากที่เต็งหนึ่งพัดพาความอบอุ่นในหัวใจที่เคยมีปภาวรินทร์ให้ดับสลายไปสิ้น
   ร่างสูงของกานต์พิชชาในกางเกงยีนส์สีเข้มเสื้อคอโปโลก้าวเข้ามาในบาร์ที่คับคั่งไปด้วยนักเที่ยวเป็นคนแรก   ตามด้วยอาทิตยาในชุดกางเกงยีนส์สีซีดเสื้อยืดสีดำและศิรภัสสรในชุดเดรสสีหวาน เมื่อเข้าไปในนั้น กานต์พิชชาก็โยกย้ายตามจังหวะดนตรีที่ดังกระหึ่ม สุราแก้วแล้วแก้วเล่าที่ดื่มทำให้หญิงสาวฉุดตัวเองให้ล่องลอยไปในโลกแห่งความฝันที่แม้จะดูสับสนวุ่นวายหากแต่เพียงพอแล้วที่จะช่วยเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำ อาทิตยาและศิรภัสสรที่คอยอยู่เคียงข้างก็เช่นกัน ทั้งสองเต็มใจพากานต์พิชชามาที่นี่แทบทุกคืน มีแค่เพียงช่วงเวลานี้เท่านั้นที่กานต์พิชชาจะยิ้มออกมาได้
   วิสกี้ผสมโค้กแก้วใหม่ส่งมาถึงมือกานต์พิชชา สาวหล่อคว้าแก้วเหล้าขึ้นดื่มและส่งแก้วเปล่าที่เหลือแต่น้ำแข็งให้อาทิตยา
   “เอามาอีกแก้ว !” เขาตะโกนบอกเพื่อนเสียงดัง
   “พอได้แล้วมั้งผึ้ง เดี่ยวพรุ่งนี้ก็ไปเรียนไม่ไหวหรอก”
   “พรุ่งนี้วันเสาร์ แกอย่ามามั่วไอ้เอ ! เอามาอีกแก้ว”  ตอบเสียงห้วนพร้อมกับหรี่ตามองเพื่อนสาวหล่ออย่างไม่พอใจ
   “ตามใจมันเถอะเอ นี่จ๊ะผึ้ง” ศิรภัสสร เพื่อนสาวเลสเบี้ยนคนเดียวในกลุ่มพูดขึ้นก่อนยื่นแก้ววิสกี้แก้วใหม่ไปให้กานต์พิชชา   
   กานต์พิชชารับมาดื่มก่อนแสดงสีหน้าเหยเกออกมา สุราแก้วล่าสุดมันทำให้ภาพบาดตาบาดใจระหว่างปภาวรินทร์กับเต็งหนึ่งผุดขึ้นมา ก่อนที่เขาจะผลุนผลันออกจากร้าน ทิ้งให้อาทิตยาและศิรภัสสรตามออกมาแทบไม่ทัน
    กานต์พิชชาขับรถออกไปจากบาร์แห่งนั้น เขาขับรถไปจนถึงหอพักแห่งหนึ่ง และนำรถจักรยานยนตร์ข้างๆหอพัก ก่อนจะเดินดุ่มๆเข้าไปหอพัก เสียงยามหน้าประตูหอทักทายอย่างคุ้นเคยแต่กานต์พิชชาเพียงแต่พยักหน้าในเชิงรับรู้ก่อนจะเดินเลยผ่านไป เพราะจุดมุ่งหมายของเขาอยู่ห้องห้องหนึ่งเท่านั้น เมื่อไปถึงก็รัวเคาะประตูติดๆกันหลายครั้งอย่างไร้ซึ่งความเกรงใจ
………………………………………..…………….

เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้ปภาวรินทร์ที่กำลังจมอยู่ในทะเลน้ำตา ต้องขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ ใครกันนะมาเคาะประตูในยามวิกาลเช่นนี้ เธอคิดในใจก่อนรีบปาดน้ำตาทิ้งไปและจะลุกขึ้นไปเปิดประตู เมื่อคนข้างนอกยังคงกระหน่ำเคาะประตูไม่หยุด
   “ผึ้ง ! ผึ้งกลับมาอยู่กับหนิงแล้วใช่ไหม หนิงดีใจที่สุดเลย” ปภาวรินทร์อุทานออกมาอย่างดีใจ เมื่อพบว่าคนที่เคาะประตู คือ กานต์พิชชา คนรักที่เธอโหยหาอยู่ทุกวินาที เธอเดินไปโอบกอดร่างสูงของเขาอย่างดีใจ
   “ปล่อยนะหนิง ผู้หญิงอย่างเธอไม่สมควรมาแตะต้องตัวฉัน !” กานต์พิชชาแกะมือของปภาวรินทร์ออกก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้อง
   “ไอ้ต้นมันอยู่ไหน บอกมาสิ ชู้ของเธอมันอยู่ไหน !” กานต์พิชชาถามด้วยน้ำเสียงกร้าว แววตาลุกวาวสำรวจไปทั่วห้องเพื่อมองหาเต็งหนึ่ง
   “ต้นไม่ได้อยู่ที่นี่ ! ผึ้งฟังหนิงก่อนได้ไหม เรื่องวันนั้นมันไม่ใช่อย่างที่ผึ้งคิดเลยนะ”
   “หนิงจะให้ผึ้งฟังหนิงใช่ไหม ได้ !” กานต์พิชชาพูดพร้อมกับจับตัวปภาวรินทร์เขย่าอย่างรุนแรง
   “พูดมาหนิงพูดมา เธอจะให้ฉันฟังอะไร เธอพูดมาสิ !” กานต์พิชชาตะคอกใส่ด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดก่อนที่จะผลักร่างบางของปภาวรินทร์ไปที่เตียงกว้าง ตามติดด้วยร่างสูงของตัวเองที่ทาบทับมาบนร่างบางนั้น
   “ฉันอยากรู้นักคำที่เธอบอกออกมาว่าไม่มีเคยอะไรกับไอ้ต้นมันจะจริงอยากที่เธอว่าไหม”
   หากแต่ริมฝีปากอิ่มที่เผลอน้อยๆ ด้วยความตกใจนั้นน่าลิ้มลองจนมิอาจห้ามใจจากที่เคยคิดว่าแค่เพียงแกล้งให้อีกฝ่ายตกใจเล่นเท่านั้นกลายเป็นว่าหล่อนบดเรียวปากดูดเม้นด้วยความกระหาย ปภาวรินทร์ดิ้นรนด้วยความตื่นตระหนก นี่เป็นครั้งแรกที่ร่างสูงกระทำการรุนแรงกับเธอเช่นนี้ ริมฝีปากของเธอถูกบดขยี้เสียจนเจ็บไปหมด หญิงสาวร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อถูกซุกไซ้และดุดเม้มอย่างรุนแรงลงบนซอกคอขาวจนเกิดรอยแดงไปทั่วเพื่อประกาศความเป็นเจ้าของ
แม้ว่าร่างบางจะดิ้นรนสักเท่าไหร่หากอีกฝ่ายก็เต็มไปด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลตรึงร่างเธอเอาไว้และฉีกทึ้งชุดนอนบางเบาของเธอจนขาดวิ่นราวกับสัตว์ป่าดุร้ายที่กำลังขย้ำเหยื่อ เมื่อริมฝีปากร้อนของร่างสูงสัมผัสลงต่ำเรื่อยๆลงถึงปทุมคู่งามอวบอิ่ม มือขาวเรียวลูบไล้เค้นคลึงก่อนที่จะตามด้วยริมฝีปากร้อนที่ดูดดึงลามเลียยอดอกอวบอิ่มของร่างบางอย่างหนักหน่วงและร้อนแรงจนร่างบางผวาเฮือกตามแรงดูดนั้นอย่างลืมตัว ก่อนที่จะส่งเสียงครางอย่างพอใจในรสสัมผัสนั้น ร่างสูงดุดเม้มดอกบัวงามทั้งสองข้างอย่างไม่ให้น้อยหน้ากันแม้แต่น้อย
จากนั้นร่างสูงใช้ขาทั้งสองข้างอ้าขาคู่นั้นของร่างบางให้แยกออกจากกันแล้วลากลิ้นลงมาที่หน้าท้องเนียนเรียบไร้ไขมันส่วนเกินแต่มือทั้งสองข้างยังไม่ยอมละจากปทุมมาคู่นั้น เมื่อปลายลิ้นลากมาจนถึงจุดที่ไวต่อความรู้สึก ปลายลิ้นร้อนสัมผัสบริเวณยอดหญ้าที่มีน้ำขังอยู่ทั่วบริเวณทำให้เจ้าของยอดหญ้าถึงกับสะดุ้งและกรีดเสียงครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว ร่างสูงไม่รอช้าแทรกนิ้วเรียวยาวประดุจลำเทียนไปกลางลำตัวและขยับเข้าออกเป็นจังหวะช้าๆทำให้ร่างบางสะดุ้งตัวตามจังหวะนั้นและร้องครางเป็นจังหวะอย่างไม่รู้ตัว ร่างสูงใช้ปลายลิ้นสัมผัสลงบนโขดหินที่กั้นระหว่างทางไปถึงลำธาร ร่างสูงทั้งขบกัดดูดเม้มอย่างรุนแรงและหนักหน่วงในขณะที่นิ้วเรียวก็ยังไม่หยุด ซ้ำยังเร่งความเร็วของจังหวะมากขึ้นจนร่างบางร้องครางออกมาเสียงดัง ร่างสูงฟังเสียงร้องครางนั้นด้วยความพึงพอใจก่อนที่จะเร่งจังหวะและการดูดดุดเม้มให้เร็วขึ้น ในที่สุดร่างบางก็กรีดร้องออกมาพร้อมๆกับที่น้ำในลำธารทะลักออกมาจนเปียกนิ้วเรียวนั้น ร่างสูงใช้ปลายลิ้นสัมผัสและดุดดื่มน้ำใสในลำธารอย่างหิวกระหาย ร่างสูงดื่มน้ำในลำธารจนแห้งก่อนที่จะเผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน
หลังจากบทรักอันเร่าร้อนได้จบลงไป ปภาวรินทร์ได้พลิกร่างสูงให้นอนลงบนหมอนหนานุ่ม ก่อนใช้มือบางเช็ดใบหน้าที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อจนใสเกลี้ยง แม้จะตกใจไปบ้างในช่วงแรกแต่ความหฤหรรษ์ที่ตามมาทำให้ร่างกายตอบสนองอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ร่างบางก้มลงหอมแก้มป่องๆของร่างสูง กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนกึกลอยมาปะทะจมูก เธอลุกขึ้นออกจากเตียงใช้ผ้าขนหนูพันร่างกายเอาไว้ ก่อนที่จะนำผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำอุ่นเช็ดไปที่ใบหน้าและเนื้อตัวของเขาเพื่อให้ร่างสูงหลับสบายขึ้น ก่อนที่จะเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำอีกรอบและกลับเข้ามาบนเตียงอีกครั้งด้วยชุดนอนสีหวาน มือบางโอบกอดร่างสูงของคนข้างๆเอาไว้ด้วยความรักและหวงแหนสุดหัวใจ และรู้สึกยินดียิ่งนักเมื่อคนที่หลับไปแล้วพลิกตัวมาโอบกอดเธอเสียแน่นแต่เธอไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลยสักนิด กลับรู้สึกอบอุ่นอยากบอกไม่ถูก จากนั้นร่างบางของปภาวรินทร์จึงเข้าสู่นิทรารมย์อย่างมีความสุขในอ้อมกอดของคนรัก
………………………………………..…………….










 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.