อุบายรักจับใจ yuri ตอนที่ 5
โพสต์โดย:
meAyou
วันที่: 25 มิถุนายน 2019 เวลา 16:04:23
อ่าน: 48
|
อาทิตย์หนึ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วและดูเหมือนว่าคนเริ่มต้นเรียนรู้งานจะปรับตัวได้กันบ้างแล้วจะมีก็แต่บางคนที่ดูจะไม่มีพัฒนาการอะไรเพิ่มขึ้นกับเขาเลย เอ?แต่จะพูดแบบนั้นก็ไม่น่าจะถูกไปเสียหมด งานน่ะไม่คืบหน้าเลยก็จริงแต่ศัตรูคู่อาฆาตนี่สิสร้างเพิ่มได้ทุกวี่ทุกวัน ธนิกานึกย้อนถึงการตัดสินใจเดินหน้าต่อของตัวเองที่เริ่มไม่แน่ใจแล้วล่ะว่ามันคือการตัดสินใจที่ถูกแล้วจริงๆ ในช่วงวินาทีนี้สิ่งที่กดดันไม่ได้อยู่ที่ความจริงใจของคนเป็นพ่อแต่มันอยู่ที่ตัวเธอ ตัวเธอเองนี่แหละ ตัวเธอเองจริงๆ ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น!!! ทะเลาะกับลูกเจี๊ยบยังไงก็ทะเลาะอยู่อย่างนั้นแถมยังเพิ่มเติมคู่อริหน้าใหม่ที่ดูยังไง๊ ยังไงก็ไม่น่าจะชอบหน้าเธอเลยสักนิด
และวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เธอต้องมาทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายโดยไม่มีความเต็มใจเลยสักนิดและก็ใช่ว่าจะเป็นเธอฝ่ายเดียวที่ไม่อยากอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เธอว่าคู่สนทนาที่ยืนอยู่เบื้องหน้าก็คงจะรู้สึกไม่ต่างกัน "ฉันไม่ได้อยากมาหรอกนะ" ธณิกาเปิดฉากทันทีเมื่อเดินเข้าไปใกล้คู่อริลำดับที่สองดูสายตาคู่ที่มองจ้องมานั่นสิทำอย่างกับว่าเธอไปแย่งหญ้ามันกินอย่างงั้นแหละ ใช่ แย่งหญ้า หญ้าที่เป็นอาหารของพวกสัตว์ใหญ่สี่ขาและตรงหน้าเธอก็คือม้าตัวใหญ่ สีขาวขนเงางามมันวับที่เชื่องให้กับทุกคนยกเว้นเธอหากไม่คิดว่าเจ้าสี่ขานี่เป็นม้าตัวโปรดของเจ้าของไร่คนสวยแล้วละก็เธอจะแอบเอาหญ้าในถังนี้ไปเททิ้งให้หมด หากจะมองกันแรงขนาดนี้ก็ไม่ต้องกงต้องกินมันแล้ว "นี่! ฉันไม่ได้มาแย่งแต่เอามาให้แกกินนะช่วยทำหน้าตาเป็นมิตรหน่อยได้มั้ย" พูดไปก็ยัดหญ้าใส่ถาดอาหารไปแต่แล้วก็ให้นึกโมโหเมื่อในตอนนี้ธนิการู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังถูกเมิน ม้าเมิน! ขนาดม้ายังเมินอะ คิดดู!!! "ถ้าแกกินเหลือฉันจะถูกเจ้านายแกตำหนิได้นะ" "......." "นี่! อย่าเรื่องมากได้มั้ย" คนพูดเอ่ยด้วยนํ้าเสียงหงุดหงิดก่อนจะเพ่งตามองจ้องไปยังคู่อริหมายเลขสองพร้อมกับความคิดบางอย่างที่แล่นเข้ามาในหัว "นี่อย่าบอกนะว่า..." "........" "แกถูกเจ้านายเป่าหูมา" "........" "นั่น! ต้องใช่แน่ๆ เจ้านายแกกรอกหูมาให้เกลียดฉันใช่มั้ย" "........" "หลบตาแบบนี้แสดงว่าต้องใช่แน่ๆ" ธณิกาวิเคราะห์ท่าทางความห่างเหินของม้าที่แสดงออกมาเป็นตุเป็นตะหวงตัวทั้งเจ้านาย ทั้งลูกน้อง สมแล้วที่เลี้ยงดูกันมาแต่แล้วอาการประหลาดของม้าที่แสดงออกมานี่สิที่ทำให้เจ้าตัวรู้สึกว่าเดามาถูกทางเพราะมันมองจ้องมาทางเธอราวกับคนที่ถูกจับได้ในความคิด นั่นแน่...ลุกเดินมาทางเธอแบบนี้แสดงว่ายอมรับแล้วสินะว่าเธอคิดถูก มีหรือม้าจะฉลาดไปกว่าคน ไม่มีทาง! "ถ้ายอมรับว่าตัวเองผิดฉันก็จะยกโทษให้ก็ใด้" "......." "ฉันใจดีนะ ใจดีมากๆ ด้วย" พูดจบก็ยืดอกรับหากแต่ท่าทางประหลาดของคู่อริหมายเลขสองก็ทำให้อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าในตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่และคำเฉลยก็โผล่ออกมาทำเอาคนพูดกับม้าตกใจเกือบหงายหลังเข้าไปในคอกม้ายังดีที่คว้าจับหาที่ยึดได้ทัน "นี่คุณ! จะเข้ามาก็ส่งเสียงให้รู้ตัวหน่อยได้มั้ย" "ฉันไม่อยากรบกวนเวลาคุณธนิกานิคะ" "อะไร?" "ก็เห็นคุณคุยกับเจ้าเพลิงอยู่ฉันก็เลยไม่อยากเข้ามาขัดจังหวะ" เป็นคำตอบที่ทำเอาคนฟังถึงกับหน้าขึ้นสีเมื่อพบว่ามีคนได้ยินเรื่องราวที่ตัวเองยืนคุยกับม้า อันที่จริงหลายวันมานี้เธอก็ลด ละ เลิกเรื่องขายขี้หน้าไปเยอะมากแล้วนะแต่วันนี้มัน?สุดจะทนจริงๆ อับอายยิ่งกว่าเรื่องทั้งหมดรวมกันเสียอีกในตอนนี้คิดว่าแค่มุดดินคงจะไม่พอเสียแล้ว "แต่ก็อยากจะขอแก้หน่อยนะคะว่าฉันไม่เคยเป่าหูเจ้าเพลิงเลยสักเรื่อง" "เอ่อ..." สิ่งที่ได้ยินทำเอาธณิกาต้องรีบเปิดยิ้มแห้งเพราะเพลงพิณไม่เพียงแต่เห็นว่าเธอคุยกับม้าแต่เจ้าหล่อนยังหูดีได้ยินบทสนทนาเข้าให้อีก ตายๆ คะแนนของพ่อเธอลดลงเหลือเท่าไหร่แล้วนะหรือว่าบางทีอาจจะติดลบแบบกู่ไม่กลับเลยก็เป็นได้ "พอดีฉันคุยภาษาม้าไม่เป็นน่ะค่ะ" "......." "ฉันมาตามไปทานข้าวค่ะแต่ถ้าคุณยังคุยไม่เสร็จก็ตามสบายนะคะค่อยตามมาแล้วกัน" "......" "แล้วตามมานะคะ" เจ้าของไร่คนสวยพูดจบก็เดินออกไปจากโรงม้าทันทีทำหยั่งกับว่าเปิดโอกาสให้คนและม้าได้คุยกระชับความสัมพันธ์กันอย่างนั้นแหละ ธณิกามองหญ้าในมือตาปริบๆ ก่อนจะยัดมันลงไปในถาดใส่อาหารของเจ้าตัวใหญ่สี่ขาที่เอาแต่มองมา สายตาแบบนี้คงกำลังเยาะเย้ยเธออยู่ล่ะสินะแต่ก็ช่างเถอะเพราะในเวลานี้ธนิกาคิดว่าตัวเองและเจ้าสี่ขาตัวโตนี่คงจะต้องหยุดพูดคุยกันสักระยะ ห่างกันสักพักนะก่อนที่เธอจะดูเป็นคนบ้าไปมากกว่านี้ ธณิกาเดินคอตกไปทางประตูคิดไว้อยู่แล้วว่าที่ไร่เพลงพิณนี้ไม่ใช่ที่ของตัวเองดูสิทำอะไรใครก็เข้ามาเห็นหมดโดยเฉพาะเป้าหมายหลักที่เห็นแทบทุกการกระทำของเธอ แล้วต่อไปจะเอาความหน้าเชื่อถือมาจากไหนกันนะไม่มีอีกแล้ว ไม่มีแล้วจริงจริ๊งงงงงงงง
วันนี้เธอจะไม่พลาด! ธณิกาตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่แตะอาหารที่ต้องสงสัยและสิ่งที่อยู่ในถ้วยนั่นคือเป้าหมายของเธอในวันนี้ที่ดูก็รู้ว่าเป็นเนื้อไก่แต่ทำไมมันถึงได้ดูชิ้นเล็กจังนะ? หรือว่าจะเป็นคู่อริหมายเลขหนึ่ง "ไอ้จิ๋วเหลือง" ไม่นะ! ตัวมันแค่นั้นยังจะใจดำอัมหิตฆ่าได้ลงคออีกอย่างนั้นหรือ ไม่นะไม่ ไม่!!! "อย่ากังวลเลยค่ะไม่ใช่ตัวที่จิกหน้าคุณเมื่อเช้าแน่ๆ" "คะ?" "ฉันแค่จะบอกว่าไม่ใช่ลูกเจี๊ยบตัวนั้น" ราวกับไปนั่งในใจเมื่อเจ้าของไร่คนสวยพูดในสิ่งที่ตรงกับความคิดและคำตอบที่ได้รับก็ทำให้คนนํ้าตาคลอรู้สึกดีขึ้นแม้จะเป็นศัตรูคู่อาฆาตเธอก็ไม่ใจร้ายมากพอจะจับกินได้หรอกนะ เมื่อรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นแล้ว ธณิกาก็เริ่มลงมือตัดแกงในถ้วยที่หายสงสัยเข้าปากรอยยิ้มกว้างเปิดขึ้นเมื่อรสชาติของน้ำแกงถูกปากแถมเนื้อไก่ก็ทั้งนุ่มทั้งหวาน แบบนี้คงต้องแวะมาฝากท้องบ่อยๆ เสียแล้วสิ "รสชาติดีนะคะ" "เนื้อนุ่มด้วยครับดูท่าจะตุ่นนาน" "ถ้าเป็นแกงนี้ผมคงมาทานได้บ่อยๆ นะครับ" หยอดอีกแล้ว แข่งกันจีบ แข่งกันป้อจริงๆ นี้หากบิดาไม่ติดงานสำคัญคงมาร่วมขบวนหยอดสาวนี้ไปแล้วแต่เพราะติดนี่แหละถึงต้องส่งตัวแทนเป็นเธอมาแทนอยู่แบบนี้ "ทานได้ตลอดเลยค่ะ ช่วงนี้ปลูกข้าวกันด้วยเนื้อกบเลยหาได้ง่ายถ้านอกฤดูหน่อยก็หาซื้อได้ที่ตลาดไม่ยาก" คนนำเสนอเอ่ยด้วยรอยยิ้มน้อยๆ แตกต่างจากคนฟังที่เริ่มมีปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไป จะอธิบายทำไมยาวกันแม่คู๊ณณณณณณ กว่าจะจบ กว่าจะรู้ว่ามันไม่ได้อยู่ในสายพันธุ์ไอ้เหลืองก็ซดกินนํ้าเกือบก้นถ้วยแล้ว อ๊บๆ แตกสลาบกลายเป็นโกโก้ครั้นวิ่งไปอ้วกคนละทิศละทางและเช่นเคยคนนิ่งที่สุดนี่แหละที่อาการหนักมากกว่าใครเพื่อน "คุณธณิกาไหวมั้ยคะ" เพลงพิณเอ่ยถามคนข้างกายที่เอาแต่นิ่งท่าทางของเขาในตอนนี้ดูน่าขันหากแต่เจ้าบ้านอย่างเธอก็ต้องกลั้นเอาไว้ ตอนนี้เธอคิดว่าหากมีเรื่องให้ต้องเครียดเธอคงไม่ต้องกังวลอีกแล้วเพราะเหมือนกับว่าเวลานี้เธอค้นพบบางอย่างที่ทำให้อยากจะเปิดยิ้มทันทีเพียงแค่หันไปมอง เป็นคนประเภทไหนกันนะทำไมถึงได้ดูติงต๊องไม่เต็มบาทขนาดนี้
เป็นอีกหนึ่งวันที่ธณิกากลับช้ากว่าใครคนอื่นอาจเพราะท่าทางนิ่ง แข็งเป็นหินของเจ้าตัวจึงทำให้เจ้าบ้านไม่กล้าที่จะเอ่ยปากไล่หรือขับไสจนต้องปล่อยให้อยู่ในบ้านเลยเถิดนานกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ห้าทุ่ม?นานเอาการทีเดียวกว่าคนที่นิ่งจะเริ่มขยับตัวเป็นปกติและดูท่าจะรู้ตัวด้วยว่าเจ้าของบ้านอย่างเธอกำลังคิดอะไรอยู่ถึงได้ส่งยิ้มแห้งมาให้แบบนี้ ?เวลาผ่านไปเร็วจังไม่ทันไรก็ดึกแล้วนะคะ? เจ้าของรอยยิ้มแห้งเอ่ยเสียงแผ่วเพราะรู้ตัวดีว่าตัวเองมารบกวนใครอีกคนมากเกินความพอดีหากแต่กว่าวิญญาณจะเข้าร่างได้ครบทุกอณูมันต้องใช้เวลานานนี่นาแล้วยิ่งคิดว่าเตรียมตัวมาดีแล้วแท้ๆ แต่กลับทำพลาดมันก็ยิ่งทำให้เกิดการกระชากวิญญาณที่แรงมากกว่าเดิมหลายเท่า คราวที่แล้วเป็นงู ครั้งนี้เป็นกบ ครั้งหน้ามันจะเป็นตัวอะไรอีกกันนะคิดแล้วก็ให้รู้สึกขนลุกขนพองไปหมด ?คนอื่นกลับหมดแล้วเหรอคะ? ยังจะกล้าถาม? ธณิกาเปิดยิ้มแห้งเมื่อพูดประโยคไม่ทันคิดออกมาเวลาขนาดนี้ใครจะยังหน้าด้านหน้าทนอยู่ที่นี่ได้กัน คิดได้แบบนั้นก็กลับมามองย้อนดูตัวเองให้ได้นึกอายเมื่อทุกคำต่อว่ามันคือตัวเธอเองชัดๆ และดูเหมือนความอับอายจะไม่หยุดแค่นี้เมื่ออยู่ๆ ท้องไม่รักดีก็ส่งเสียงโครมครามราวกับเรียกร้องความสนใจที่ดูเหมือนจะได้ผลเมื่อมันสามารถทำให้เจ้าของบ้านหันมาจ้องมองได้สำเร็จ ?เอ่อ?? ?ตามมาสิคะ? ?คะ?? ?ไม่ต้องทำหน้าแบบนี้หรอกค่ะฉันว่าคุณรู้ว่าฉันจะพาไปไหน? คนรู้ทันพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยพร้อมกับเดินนำไปยังโต๊ะประจำที่เจ้าตัวมักใช้ในการรับประทานอาหารซึ่งแม้ธณิกาจะไม่คุ้นเคยแต่ก็ใช่ว่าจะไม่เคยมานั่ง ธนิกาถอดถอนใจออกมายาวๆ รู้สึกผิดหวังกับความตั้งใจที่ไม่แม้จะได้เศษเสี้ยวของความสำเร็จ แล้วแบบนี้แผนการมันจะคืบหน้าได้ยังไงกันนะ นึกภาพไม่ออกเลยจริงๆ
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|
ความคิดเห็น
|