web stats

ข่าว

 


Workaholics (แฟนฟิคชั่น) - บทที่ 19 One Last Chance

โพสต์โดย: anhann วันที่: 17 พฤษภาคม 2019 เวลา 23:43:57 อ่าน: 120



บทที่ 19 One Last Chance







ออดี้สีขาวแล่นมาถึงบ้านตัวเอง  เจสสิก้าดีใจกึ่งประหลาดใจที่เห็นรถพรีอุสสีเงินของคริสตัลจอดอยู่ในโรงรถ  หวังว่าจะไม่ได้มีแค่รถแต่ตัวคนหายไป  ปรากฏว่าคริสตัลอยู่จริงๆ  นั่งทำงานอยู่ในห้องนั่งเล่น  เป็นภาพที่เธอเห็นอยู่เป็นประจำเมื่อก่อน  ก่อนที่จะมีผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในชีวิตเรา

"เฮ้"  เจสสิก้าทัก  คริสตัลก็ยกมือขึ้นทักเธอกลับแต่ไม่ได้งัดสายตาขึ้นจากจอโน้ตบุ๊ก  ท่าทางคงจะงานยุ่งจริงๆ 

งานยุ่งแต่ยังมีเวลาไปหาสาวเนี่ยนะ

"พี่กินไรมาหรือยัง"  คริสตัลถาม  แม้ดวงตาจะยังไม่ละจากจอ  แต่เจสสิก้าก็ยิ้มออกแล้ว  ยังไงน้องเธอก็ยังเป็นน้องของเธอ  ไม่มีอะไรเปลี่ยนมันไปได้  เธอก็แค่ต้องยอมรับความจริงว่าคริสตัลโตแล้ว  มีสิทธิจะใช้ชีวิตของตัวเองแบบเดียวกับเธอ

"ยังอะ  มีอะไรกินหรือเปล่า  เธอกินยัง"

"ยัง  กินอะไรดีล่ะ"

"ในตู้เย็นมีอะไรทำไหม"

"คริส  เอาข้าวผัดกิมจิหรือเปล่า"  เสียงหนึ่งดังมาจากด้านในบ้าน  เจสสิก้ามองหน้าน้องสาวซึ่งเงยหน้าขึ้นสบตาเธอพอดีเหมือนรู้ว่าเธอจะต้องถามว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น

"จะกินไหม  เจ"  คริสตัลถาม  ไม่พยายามจะเสแสร้งเอาใจพี่  "โอเค  ไม่เป็นไร  พี่ไอ  เจขอผ่านค่ะ"

"เฮ้ย  กินๆ  กินดิ"  เจสสิก้ารีบพูดก่อนที่จะอดกินของอร่อย  ไอรีนทำอาหารเก่งเธอจำได้  ก็ไม่ได้ความจำเสื่อมนี่  เพิ่งจะกินไปเมื่อเดือนที่แล้ว

"พี่ไอ  เจเอาด้วย  ฉันต้องเข้าไปช่วยหรือเปล่า"  คริสตัลตะโกนบอก

"ไม่ต้องค่ะ  พี่จัดการเอง"  ไอรีนร้องบอกกลับมาจากในครัว  ถึงจะไม่เห็นตัวนักข่าวสาว  เจสสิก้าก็พอจะจำได้ว่าอีกฝ่ายจะแต่งตัวยังไงเวลาทำอาหาร  ไอรีนจะต้องมัดผมทรงหางม้าและสวมผ้ากันเปื้อนป้องกันเสื้อผ้าที่สวมอยู่เปื้อนด้วย  เป็นแม่ครัวที่สวยที่สุด (นอกจากเธอเอง) ที่เธอเจอมา

"ฉันขึ้นห้องก่อนละ"

"แม่พี่เขายืมรถไปใช้น่ะ  ฉันเลยอาสาไปรับ  เขาก็เลยมาทำอะไรให้กินที่บ้าน"  คริสตัลอธิบาย  แม้ไม่แน่ใจว่าเจสสิก้าจะอยากฟังมัน  แต่พี่สาวก็หันมาพยักหน้ารับรู้  "เขาไม่ค้างหรอก"

"ค้างก็ได้นี่  ไม่เห็นเป็นไร"  เจสสิก้าพูดแล้วเดินขึ้นชั้นสองไป 

คริสตัลพ่นลมหายใจโล่งอก  นึกว่าจะโดนพี่ไล่ตะเพิดออกจากบ้านเสียแล้ว  ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง  เธอก็ไม่รู้จะรับมือยังไงเหมือนกัน

"คริส  ชิมหน่อยสิ"

เสียงไอรีนดังขึ้นมาอีก  คริสตัลจึงลุกขึ้นเดินเข้าครัวไปโดยไม่รู้ว่าพี่สาวชะโงกลงมามองจากชั้นสองของบ้าน 

..............................

ไอรีนนั่งอยู่บนเตียงที่ไม่ใช่ของเธอ  พิงศีรษะกับไหล่ของเจ้าของมัน  คริสตัลกำลังทำงานอยู่ในโน้ตบุ๊ก  ส่วนเธอก็เปิดซีรีส์จากเน็ตฟลิกซ์ดูเบาๆ  ไม่ให้รบกวนคนทำงาน 

"สรุปไม่กลับบ้านนะคะ"  คริสตัลถาม  สบตาคนที่ช้อนตาขึ้นมอง

"พี่บอกแม่แล้ว  แต่พรุ่งนี้พี่ต้องไปเร็วหน่อยนะ  ต้องไปส่งท่านขึ้นเครื่องไปเกาหลี  ถ้าไม่ไปโดนบ่นแย่แน่ๆ"  ไอรีนบอก  "พ่อพี่ไปรอที่นู่นแล้ว"

"แล้วทำไมคุณพ่อพี่ไม่มาพร้อมคุณแม่ล่ะคะ"  คริสตัลสงสัย

"ท่านติดธุระค่ะ  ก็เลยให้แม่มาคนเดียว  แล้วก็เลยไปรอที่เกาหลีใต้เลย  ไปบ้านคุณยายพี่น่ะ  นัดพบญาติอะไรแบบนั้น"

"แล้วพี่ไม่ไปด้วยเหรอ"

ไอรีนส่ายหน้า  ทำหน้ายี้  ลุกขึ้นนั่งตรงๆ  ปล่อยให้คริสตัลจับผมเธอเล่น  "พี่ขี้เกียจไปเจอพวกญาติ  ขี้เกียจตอบคำถามเยอะแยะ

"ถามว่าอะไรคะ  เมื่อไหร่จะแต่งงานงั้นเหรอ"  คริสตัลถามเสียงขำ  แต่พอไอรีนทำหน้าไม่ขำ  เธอก็ทำตาโต  "โอ้  พอๆ กับญาติฉันเลยค่ะ  ชอบถามเจเหมือนกัน  เจเลยไม่ชอบกลับเกาหลี"

"แล้วเธอไม่เคยโดนถามบ้างหรือไง"

"ตอนนั้นฉันยังเด็กค่ะ  สิบหกสิบเจ็ดมั้ง  เลยรอด  ถ้าไปตอนนี้ก็คงไม่พ้นแน่ๆ  โชคดีที่คุณพ่อไม่ได้บังคับให้ไปค่ะ"

"ตลกเนอะ  ชีวิตเราแต่พวกเขาชอบยุ่ง"

"ก็อาจจะเป็นห่วง"

"จุ้นมากกว่า"  ไอรีนเบะปาก  พยักพเยิดไปทางโน้ตบุ๊กของคริสตัลโดยไม่ได้ชะโงกมาดู  ไม่รู้ว่าเป็นความลับทางธุรกิจหรือเปล่า  แต่ไม่ขอยุ่งด้วยจะดีกว่า  "ทำงานเสร็จหรือยัง  จะกินน้ำหรือขนมไหม  พี่ไปเอาให้"

"ได้กาแฟสักแก้วก็ดีค่ะ  ยังอีกพักนึงแหละ  ถ้าพี่ง่วงก็นอนได้เลยนะคะ  ไม่ต้องรอ  เดี๋ยวฉันไปชงกาแฟเอง  เอานมร้อนไหม"

"พี่ไปเอง"  ไอรีนบอก  เอนตัวไปจูบคริสตัล  ลูบแก้มอย่างรักใคร่  และยิ้มให้คนอายุน้อยกว่า  "เดี๋ยวมานะ"

"กาแฟดำเลยนะคะ"   คริสตัลร้องตามหลัง  ไอรีนหันมาขยิบตาให้

เธอลงมายังครัวที่คุ้นเคย  ไม่คิดเลยว่าจะได้มีโอกาสมาอีกครั้ง  มันเป็นความรู้สึกคิดถึงที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น  เธออยู่ที่นี่ไม่กี่วันแท้ๆ 

ไอรีนชะงักเมื่อเดินเข้าครัวแล้วเจอใครอีกคนยืนพิงเคาน์เตอร์อยู่  แก้วไวน์แดงในมือเจสสิก้าทำให้เธอไม่ค่อยอยากเข้าไปด้านในนัก

"ฉันกำลังจะออกไปแล้ว"  เจสสิก้าพูด  คว้าขวดไวน์บนเคาน์เตอร์และเตรียมจะออกไป  แต่หยุดฟังเมื่อไอรีนพูดขึ้นมา

"ฉันไม่ได้ใช้คริสเพื่อทำให้คุณเจ็บ  ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณเจ็บเป็น"

"ฉันไม่ได้รู้สึกอะไร  นอกจากขยะแขยงเธอ"

"ฉันห้ามคุณไม่ให้รู้สึกแบบนั้นไม่ได้"  ไอรีนพูดเสียงเบา  ขอบตาร้อนผ่าว  แต่เธอก็ไม่ลืมกาแฟของคริสตัล 

"ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะชอบเจ้าคริสจริงๆ  เธอต้องการอะไร"

"ฉันกำลังให้โอกาสเขา  และตัวฉันเอง"

เจสสิก้ามุ่นคิ้ว  ไม่เข้าใจ  วางขวดไวน์ไว้บนเคาน์เตอร์แต่ห่างจากที่ไอรีนยืนทำกาแฟอยู่ตรงเครื่องชงกาแฟสดอัตโนมัติซึ่งคริสตัลซื้อมาไว้ชงกินที่บ้านตามประสาคนรู้จักใช้เงิน  เธอยืนจ้องไอรีนจนอีกฝ่ายพูดต่อ

"คนทุกคนมีสิทธิเริ่มต้นใหม่  คุณก็เหมือนกัน  ถ้าคุณจะอนุญาตให้ตัวเองได้ลอง"

"เธอก็กล้ามาสอนฉันนะ"

"นี่เป็นข้อเสียของคุณ  ข้อเสียใหญ่  คุณไม่เคยมองเห็นข้อดีของใคร  นอกจากตัวคุณเอง"

"เธอด่าฉันนี่" 

ไอรีนหันมาพร้อมแก้วกาแฟร้อน  เจสสิก้าจึงผงะถอยหลัง  เกรงใจของร้อนในมือของผู้หญิงที่กล้าได้กล้าเสียมากกว่าตัวเธอ

"กาแฟดำไหม  แก้แฮงค์  ถ้าไม่เอา  ฉันจะปิดเครื่อง"

"ไม่เป็นไร  ขอบใจ"  เจสสิก้าตอบ  มองไอรีนหยิบถาดมาใส่แก้วกาแฟ  คุกกี้สี่ชิ้นเรียงใส่จานอย่างดี  เอาน้ำแร่ในตู้เย็นออกมาใส่ถาดด้วย  ทำอะไรเป็นระเบียบเรียบร้อยกว่าเธอหลายเท่า  แต่คล้ายคริสตัล

บางทีพวกเขาอาจจะเหมาะสมกันจริงๆ ก็ได้

"ราตรีสวัสดิ์ค่ะ"  ไอรีนพูด  แล้วเดินออกไปพร้อมถาดของกิน

เจสสิก้ามองตามหลังอดีตคู่ขา  แปลกใจตัวเองว่าทำไมไม่ขัดขวางไอรีนให้มากกว่านี้  หรือลึกๆ ในใจเธอก็รู้ดีว่าไอรีนพูดถูกต้องแล้ว

"ให้โอกาสตัวเองอย่างนั้นเหรอ"  เธอพึมพำ  มองไวน์แดงที่เหลือติดก้นแก้วอยู่นิดหน่อย  กระดกดื่มมันจนหมด  ใช้เวลาตัดสินใจหนึ่งนาทีว่าจะรินเติมหรือเลิกดื่ม  แล้วเธอก็เอาแก้วไปล้างคว่ำ  เก็บขวดไวน์เข้าที่เก่า  เปิดตู้เย็นหยิบน้ำแร่ออกมาขวดหนึ่ง  เดินถือมันกลับห้องนอน

.................................................

เมื่อเช้าเธอตื่นนอนมาทันคริสตัลจะออกไปพร้อมไอรีนพอดีจึงได้เห็นพวกเขาจูบกันต่อหน้า  เห็นแล้วก็เขินแปลกๆ  ก็ไม่เคยเห็นน้องจูบใครมาก่อน  มีแต่จูบแก้มเล่นๆ กันกับเพื่อนสมัยเรียน  ไม่ใช่จูบแบบแฟนอย่างนี้  เธอยืนแอบดูอยู่เงียบๆ บนระเบียงชั้นสอง  ทั้งสองจึงมองไม่เห็นเธอแน่นอน  เลยเห็นชัดเลยว่าน้องเธอมันขี้อ้อนขนาดไหน  และไอรีนก็ใจอ่อนมาก  แต่เจ้าเด็กนั่นก็มีความสามารถแบบนี้อยู่แล้ว  เธอยังต้องยอมบ่อยๆ

เห็นแบบนี้แล้วก็รู้ว่าไอรีนท่าทางมีความสุขจริงๆ  คงจะสุขกว่าตอนอยู่กับเธอ  ไม่เห็นต้องสงสัยเลย  เธอไม่เคยเห็นไอรีนยิ้มแบบนี้เลยสักครั้ง

"เฮ้  เจ  ไปทำงานก่อนนะ  แซนด์วิชอยู่ในตู้เย็น"  คริสตัลร้องบอกขึ้นมาบนชั้นสอง  ยิ้มให้พี่สาวแล้วตามไอรีนออกไปจากบ้าน

เจสสิก้าโบกมือค้างแม้จะไม่เห็นตัวน้องแล้ว  ต่อมาเธอก็เดินกลับเข้าห้องตัวเอง  แต่งตัวและออกจากบ้านพร้อมแซนด์วิชที่น้องทำไว้ให้

ช่วงเช้าของการทำงานในบริษัทก็วุ่นวายเหมือนเดิมทุกวัน  แต่เธอไม่เบื่อจนกระทั่งแดเนียลโทรมาชวนให้ไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน  เธอไม่อยากไปกับเขา  หากจะปฏิเสธเฉยๆ ก็ต้องโดนตามตื๊ออีก  อยู่ๆ เธอก็นึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นมาได้

"โทษทีค่ะแดน  ฉันลืมไปว่าฉันมีนัดแล้ว"

"แต่เจ  ตั้งแต่กลับมา  เรายังไม่ได้เจอกันเลยนะ"

"เรื่องงานค่ะ  คุณคงไม่อยากให้ฉันเสียงานหรอกนะ  แดเนียล"

"ใครครับ  ผมรู้จักไหม  เผื่อว่า..."

"คุณคงรู้จักแหละ  แต่อย่าไปด้วยดีกว่าค่ะ  เธอค่อนข้างจะคุยยากนิดหน่อย  โดยเฉพาะเวลามีผู้ชายไปด้วย"

"เจ  แน่ใจหรือว่างาน"

"คุณไรท์ค่ะ  ยุนอา  ไรท์  รู้จักใช่ไหม  แดน" 

พอเอ่ยชื่อนี้ออกไป  แดเนียลก็เลิกตอแย  แถมยังอวยพรให้เธอคุยงานกับยุนอาสำเร็จอีกด้วย  นี่แหละนะ  อานุภาพของเงินและชื่อเสียง  แล้วจะไม่ให้เธออยากมีเงินเยอะๆ กับเป็นที่รู้จักมากๆ ได้ยังไง

"คุณมีนัดกับคุณไรท์เหรอคะ"

เจสสิก้าเงยหน้าจากเอกสารมองเลขาส่วนตัวที่มองเธออย่างกังขา  คงสงสัยว่าการนัดนอกตารางนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร

"ไม่มีหรอก  ฉันโกหกเขา"

"ฉันรู้ค่ะ"  ลิซซี่บอกหน้าตายพอกับเจ้านายที่นั่งเซ็นงานต่ออย่างไม่ทุกข์ร้อน  "แต่คุณควรจะทำให้เป็นจริงนะคะ"

"ทำไม"

"เพราะคุณแดเนียลอาจจะรู้ว่าคุณโกหกก็ได้"

"หมายความว่า  มีใครตามฉันอยู่สินะ"  เจสสิก้าหยั่งเชิง

ลิซซี่พยักหน้าแทนการเอ่ยตอบ  เจ้านายสาวกลอกตา  "อย่าหาว่าฉันสอดเลยนะคะ  บอส  แต่ฉันคิดว่าคุณน่าจะทำอะไรให้เด็ดขาดไปเลย"

"เธอเคยบอกให้ฉันรักษาชื่อเสียงบริษัทไง"

"ฉันเปลี่ยนใจแล้วค่ะ  ตอนนี้คุณสำคัญที่สุด"

เจสสิก้ายิ้มชอบใจ  รีบเซ็นงานแฟ้มสุดท้ายให้เสร็จแล้วยื่นให้เลขา  "ช่วยต่อสายให้ฉันหน่อยสิ"

"ไม่มีปัญหาค่ะ"  ลิซซี่ตอบด้วยรอยยิ้มดีใจ  และหลังจากเลขาสาวออกไปจากห้องได้ไม่ถึงห้านาที  โทรศัพท์บนโต๊ะเจสสิก้าก็ดังขึ้น  เธอยกหูขึ้นรับทันที

"ว่างไหมคะ  ฉันพร้อมจะไถ่โทษแล้วค่ะ"

"คุณเลือกร้านสิ"

เจสสิก้ายิ้มถูกใจ  "แล้วฉันจะส่งโลเคชั่นไปให้ในมือถือคุณ"

"โอเคค่ะ"  ยุนอาตอบ  สุ้มเสียงเหมือนกำลังสนุกกับอะไรสักอย่าง  ซึ่งเจสสิก้าพอจะเดาได้  และพอใจกับมันด้วย

เธอวางสายเสร็จแล้วก็หยิบตลับแป้งพับขึ้นมา  ส่องดูหน้าตัวเอง  ตรวจคิ้วว่ายังดีอยู่ไหม  ทาปากใหม่  และทดลองส่งยิ้มให้มัน  เจสสิก้าหัวเราะขำ  สั่นหัวไปมาพลางคิดว่าไม่ได้ทำอะไรแบบนี้มานานแล้วนะ

................................

ซอฮยอนออกจากห้องทำงานยุนอาอย่างผิดหวัง  พี่สาวไม่อยู่ห้องอีกแล้ว  แต่เธอน่าจะเดาออกตั้งแต่ไม่เห็นโจเซฟหน้าห้องแล้วนะ

หญิงสาวเดินเซ็งๆ แล้วเบนเข็มไปทางห้องแผนกครีเอทีฟ  เผื่อจะเจอใครที่ทำให้หายเซ็งได้  แต่คริสตัลก็ทำท่าเหมือนจะไปที่อื่นเหมือนกันอีก

"อ้าว  คุณซอ  ไม่ไปพักเที่ยงเหรอคะ"  คริสตัลถาม  แปลกใจ

"เห็นพี่ยุนไหมคะ  คริส"  ซอฮยอนถามกลับ

"โอ้  เห็นบอกว่ามีนัดค่ะ  เธอไม่ได้บอกคุณเหรอ" 

"ไม่ค่ะ  แล้วไม่ได้ไปกับคริสเหรอ  ปกติเห็นไปด้วยกัน"

"เปล่าค่ะ  ฉันมีนัดแล้ว"  คริสตัลตอบ  หน้าแดงส่อพิรุธ 

ซอฮยอนยิ้มดีใจด้วยแต่ข้างในหดหู่  ใครๆ ก็มีคู่กันไปหมดแล้ว  เหลือแค่เธอที่ต้องกินข้าวคนเดียวทุกวัน

"งั้นก็ตามสบายเลยจ้ะ  ฉันไปละ"

"ไว้คราวหน้าเราชวนคุณยุนไปด้วยกันนะคะ"  คริสตัลเอ่ย  รู้สึกผิดทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด  คงเพราะหลายครั้งแล้วที่ยุนอาชวนเธอไปกินกลางวันและทิ้งซอฮยอนที่เป็นน้องสาวเอาไว้คนเดียว 

"ค่ะ  เอาไว้คราวหน้า"  ซอฮยอนเออออ  ถึงจะแน่ใจว่า "คราวหน้า" นั้นอาจจะไม่มีจริง 

"งั้นฉันไปก่อนนะคะ"

"ตามสบายค่ะ" 

คริสตัลเดินหายไปแล้ว  ห้องแผนกครีเอทีฟจึงร้างผู้คน  เพราะปกติคริสตัลจะเป็นคนเดียวที่อยู่ห้องเวลาพักเที่ยงเสมอ 

ซอฮยอนถอนหายใจเฮ้อ  ขึ้นลิฟต์กลับไปห้องทำงานตัวเอง  คิดว่าจะสั่งอะไรมากินในนั้น  แต่ระหว่างที่คิดเพลินๆ พร้อมเดินไปด้วย  เธอก็ชนใครคนหนึ่งเข้าอย่างจังเหมือนในนิยายรัก  ติดอยู่นิดเดียวที่ไม่ใช่ผู้ชาย

ผู้หญิง  แถมเตี้ยอีกต่างหาก

"โอ้  ขอโทษค่ะ  ฉันรีบ --"

"พี่ยุนไม่อยู่  เธอจะรีบไปไหน"  ซอฮยอนเสียงขุ่น  กล้าหงุดหงิดใส่เพื่อนสนิทที่เป็นลูกน้องของเธอด้วย 

"ฉันก็จะไปหาอะไรกินบ้างสิคะ  บอส  กินข้าวน่ะกินคนเดียวก็ได้"

"งั้นไปกินด้วยกันเลยสิ"

แทยอนยิ้มขำ  ทำให้ซอฮยอนหน้าแดงอย่างอับอาย  เธอไม่เคยชวนเพื่อนคนนี้ไปกินมื้อกลางวันด้วยกันมาก่อน

"ตกลงจะไปด้วยหรือเปล่า  อย่าลีลา"

"นี่เธอชวนฉันหรือจะลักพาตัวกันแน่  ซอฮยอน"

"แล้วจะไปไหม" 

"ไป  ไปสิไป  กำลังอยากได้เจ้ามือเลี้ยงข้าวพอดี"

"ฉันให้เงินเดือนเธอน้อยไปหรือไง"  ซอฮยอนถาม  เป็นกังวล  แต่อีกคนกลับหัวเราะเหมือนขำเธอมาก  "นี่เธอเล่นกัญชามาหรือเปล่า  แท"

แทยอนส่ายหน้าไปมา  ยังหัวเราะอยู่  พลางจูงมือซอฮยอนให้ออกเดินก่อนที่เพื่อนควบตำแหน่งเจ้านายจะเปลี่ยนใจ

"ไม่เอาเบอร์เกอร์นะ"  ซอฮยอนกระซิบ 

แทยอนยิ้ม  พยักหน้าตอบ  แต่ไม่วายหัวเราะ  ช่วงนี้มีเรื่องแปลกๆ ให้เธอเห็นบ่อยเหลือเกิน

................................................ 

แม้ว่าจะเจอคนมานักต่อนักแล้ว  แต่เจสสิก้าก็ยอมรับว่าเธอทำตัวไม่ค่อยถูกนักเวลาอยู่กับยุนอาสองคน  คราวนั้นที่ไปตามคริสตัลที่ออฟฟิศ  เธอมีอารมณ์โกรธ  น้อยใจ  หงุดหงิดสารพัด  เลยกล้าไปเสนอหน้านั่งในห้องท่านประธานบริษัทสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่ได้อย่างหน้าตาเฉย  หากตอนนี้ไม่มีอารมณ์แบบนั้นเป็นตัวกระตุ้น  มันจึงรู้สึกแปลกๆ อย่างไรไม่รู้ 

ก็ใช่ว่าไม่เคยคุยกันเมื่อไหร่ล่ะ  กลัวทำไม  ยุนอาออกจะสวย

"คุณช่วยฉันสั่งด้วยสิ"

เจสสิก้ากะพริบตา  เหลือบตาขึ้นจากเมนู  สบดวงตาคู่ตรงหน้าของคู่เดตในวันนี้ของเธอ  อันที่จริงถ้าเปลี่ยนจากกินมื้อเที่ยงเป็นมื้อเย็นคงดีกว่า 

"เอาอาหารแนะนำของร้านละกันค่ะ"  เธอบอกกับบริกรที่ยืนรออยู่

"งั้นฉันเอานี่ค่ะ  แล้วก็ไวน์..."  ยุนอาพูด  แล้วหยุดนิดหนึ่งหันมาถามความเห็นเจสสิก้า  "คุณชอบไวน์แบบไหน  เจสซี่"

"ตามใจคุณสิ  วันนี้ฉันยกให้คุณ"

"แหม  ใจดีจัง"

เจสสิก้ายิ้มแห้งๆ  ชักใจคอไม่ดีแล้วที่ยุนอาพูดแบบนี้  เธอแอบส่องดูไวน์ที่ยุนอาสั่ง  นึกขอบคุณที่สาวไฮโซผู้ร่ำรวยไม่ได้สั่งไวน์ราคาสูงชนิดที่เธอต้องเทกระเป๋าจ่าย

"อันที่จริงคุณไม่ต้องเลี้ยงฉันก็ได้นะ"  ยุนอาพูดขึ้นหลังจากบริกรจากไปแล้ว  เจสสิก้ามองเธอกลับมาด้วยสายตาประหลาดใจ  "ก็จริงๆ คุณก็ไม่ได้ทำตัวน่ารำคาญ  หรือเกะกะระรานใครนอกจากน้องสาวของคุณ"

"ก็ฉันทำคุณไม่ชอบใจ"

"คริสตัลขอโทษแทนแล้วค่ะ"

เจสสิก้าย่นคิ้ว  สะกิดใจกับทีท่าที่เปลี่ยนไปของยุนอาเวลาพูดถึงน้องสาวของเธอ  "รู้ไหม  ท่าทางคุณทำให้ฉันคิดว่า  ควรต้องอบรมคริสตัลให้มากกว่านี้สักหน่อย"

"ทำไมคะ  คริสตัลดีอยู่แล้วนะ"

"ก็ดูเหมือนเขาจะอ่อยใครไปทั่วเลยน่ะสิ  แถมยังซื่อบื้อไม่รู้ตัวเองอีกต่างหาก"

ยุนอาอึ้งไปนิดก่อนหัวเราะออกมา  หน้าแดงแต่อารมณ์ดี  "คุณนี่มีอารมณ์ขันที่แปลกดีนะคะ  เจสซี่"

"หลายคนก็บอกอย่างนั้นค่ะ"  เจสสิก้าตอบ  จะพูดอะไรต่อแต่หยุดไว้ก่อนเมื่อบริกรไวน์เข็นรถมาเสิร์ฟให้  เธอมองเขาโชว์การเสิร์ฟไวน์เพลินจนไม่ทันสังเกตว่าตกเป็นเป้าสายตาของคนอีกฟากโต๊ะจนกระทั่งยุนอาพูดขึ้น

"มีละครเวทีเรื่องหนึ่งน่าสนใจ  ฉันหาบัตรได้นะ" 

เจสสิก้าเลิกคิ้ว  แปลกใจ  "คุณรู้ได้ไงว่าฉันชอบดูละครเวที"

"เพราะฉันช่างสังเกต"  ยุนอาตอบง่ายดาย  จิบไวน์ที่บริกรเสิร์ฟให้หลังจากโชว์เสร็จแล้ว  เธออมมันไว้ในปากครู่หนึ่งแล้วกลืนลงคอ  เจสสิก้าก็ทำเช่นเดียวกัน  มันน่ามองแปลกๆ  แทยอนไม่เคยทำแบบนี้  ดื่มไม่ค่อยได้  แถมยังไม่รู้จักศิลปะในการดื่มไวน์เสียด้วย

"สรุปว่าถูกไหมคะ"

เจสสิก้าอมยิ้ม  แววตาพอใจ  ไวน์ชั้นยอดทำให้อารมณ์เธอดีขึ้น

"เอาไว้หลังจบมื้อนี้แล้วฉันจะตอบค่ะ  ตอนนี้หิวมาก  รับประทานก่อนจะได้ไหมคะ  บอส"

"ฉันไม่ใช่บอสคุณนะ"

"ฉันชอบเรียกคุณแบบนี้  มันดูดีแปลกๆ"

"โอ้  คุณทำฉันกลัวแล้ว  เจสซี่"  ยุนอาพูดแบบนั้น  แต่ดวงตาเธอกลับยิ้มอารมณ์ดี  เจสสิก้าทำให้เธอสนุกพอๆ กับเวลามากับคริสตัล  หากก็มีข้อแตกต่างอยู่มาก  โดยเฉพาะคริสตัลไม่ดื่มไวน์  หรือแค่ไม่ดื่มต่อหน้าเธอ

"คุณคิดถูกแล้วที่กลัว  เพราะฉันไม่ใช่คริสตัล"  เจสสิก้าตอบ  ยิ้มในแบบที่ยุนอาชอบและกลัวมันในคราวเดียวกัน

.................................................

คริสตัลไม่ได้ไปรับไอรีนที่ทำงานวันนี้  นักข่าวสาวได้รถของตัวเองกลับคืนมาแล้ว  คุณนายเบเดินทางไปเกาหลีใต้เมื่อเช้า  เธอก็ไปส่งมาด้วย  คุณแม่ของไอรีนฝากฝังไอรีนกับเธอ  แอบกระซิบไม่ให้ไอรีนได้ยิน  กระนั้นคนเป็นแม่ลูกกันก็ดูกันออกอยู่ดี  คุณนายเบโดนไอรีนบ่น  แต่ไม่แคร์  แถมยังชวนให้เธอไปฝรั่งเศสด้วย  ถ้าไอรีนกลับบ้าน  เธอรับปากไปแล้วว่าจะไป  ไม่ว่าไอรีนจะชวนหรือเปล่า  เธอนี่บ้าดีเดือดจริงๆ  ถ้าหน้าแตกจะว่าไง!

"ยิ้มอะไรน่ะ"  ไอรีนถาม  คิ้วขมวด  มือถือรีโมตที่เปลี่ยนช่องค้างไว้

"มีความสุขก็ยิ้มสิคะ"  คริสตัลตอบ  หอมแก้มแฟนสาวไปหนึ่งฟอด  ถึงไอรีนจะยังไม่ยอมรับว่าเป็นแฟนเธอ  แต่การกระทำหลายๆ อย่างก็ช่วยให้เธอมั่นใจได้ว่าไม่ได้คิดเพ้อไปเองคนเดียว  อย่างวันนี้ไอรีนก็ขับรถมาหาเธอที่บ้านเอง  ทำอาหาร  กินมื้อเย็นกับเธอและเจสสิก้า  ไม่ได้เขม่นอะไรกับพี่สาวเธอ  แม้จะยังไม่ได้คุยกันสนิทสนม  ตอนนี้ก็ดูทีวีอยู่ในห้องเธอ  และอาจจะค้างกับเธอเหมือนเมื่อวาน

"ทำงานไปเลย  งานเยอะไม่ใช่เหรอ"  ไอรีนว่า  ดันคางคริสตัลให้หันไปทางอื่น  โดนมองจ้องแบบนี้ก็อายเป็นเหมือนกันนะ  สายตาเจ้าชู้ไปติดจากใครมาไม่รู้  มันคงอยู่ในดีเอ็นเอ

"งั้นรีบทำให้เสร็จๆ ดีกว่า  จะได้..."  คริสตัลไม่พูดให้จบ  แต่ไอรีนก็รู้แล้วว่ามันคืออะไร  แค่มองตากันก็พอ  ไม่ต้องพูดเยอะ

"เธอนี่ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ"  ไอรีนพูดหน้าแดง  หยิบหมอนมาดันหน้าคริสตัลไม่ให้เข้าใกล้  แต่คนตัวใหญ่กว่าก็ชอบแกล้งเธอซะจริง  "คริส  ไม่เอาสิ  ไม่แกล้ง  เดี๋ยวพี่ดิ้น  ขาไปปัดโน้ตบุ๊กเธอตก  แล้วอย่ามาร้องนะ"

"ก็เอาออกไปสิคะ"  คริสตัลพูดง่ายๆ  งานเธอเหลืออีกไม่มากแล้ว  และตอนนี้เธอก็อยากพักผ่อนบ้าง  งานน่ะควรทำที่ทำงานไม่ใช่ที่บ้าน  แต่เมื่อก่อนเธอไม่ได้คิดแบบนี้นะ  --  ก็ตอนนี้กับตอนนั้นมันไม่เหมือนกัน

"คริส  อย่าสิ"

"นิดนึงค่ะ"

แต่มันไม่ใช่แค่นิดเดียวอย่างที่คริสตัลว่า  ไอรีนรู้ล่วงหน้าแล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้  เธอจิกศีรษะที่อยู่ตรงหว่างขาตัวเอง  เกร็งสะโพกยกขึ้นลงอย่างควบคุมมันไม่ได้  เสียวสะท้านลึกเข้าไปข้างใน  โหยหาการเติมเต็ม  ซึ่งคริสตัลทำให้เธออย่างรู้ใจ  ไม่ว่าจะเป็นลิ้นหรือนิ้ว  ดูคล่องจนน่าสงสัย  หากถ้าจะถามไปจะโดนโกรธหรือเปล่านะ

"คริส  อย่าดิ้นหนีสิ"

"ก็มันจั๊กจี้นี่คะ" 

ไอรีนยิ้มขำ  ล็อกขาคนตัวใหญ่กว่าเอาไว้ไม่ให้หนีเธอไปได้  และทำตาขู่จนคริสตัลหน้าเหยเก  ใบหน้ากับคอแดงไปหมดแล้ว  น่ารักชะมัด

"อย่าหนีนะ  พี่จะทำให้เธอมีความสุข"

"ฉันก็มีอยู่แล้ว  อา..."  คริสตัลหลุดปากร้อง  ลิ้นของไอรีนกำลังสอนให้เธอรู้จักความลึกล้ำของการมีเซ็กซ์  เธอเริ่มควบคุมตัวได้ยากขึ้นทุกที  แต่ก่อนที่เธอจะหวีดร้อง  ไอรีนก็ขึ้นมาจูบปิดปาก  กลืนเสียงกรี๊ดของเธอลงคอไปขณะที่นิ้วเล็กๆ เคลื่อนไหวเอาใจเธอไม่หยุดหย่อนจนเธอถึงรอบสอง

"โอเค  ฉันยอมแล้ว  หมดแรง"  เธอบอกปนหอบ  ไอรีนหัวเราะคิก  จูบปากเธอและทิ้งตัวลงกอดกัน  เธอลูบแผ่นหลังบางอย่างถนอม  เหงื่อชื้นบนเรือนร่างไอรีนมันปนกับเหงื่อเธอจนไม่รู้กลิ่นใครเป็นกลิ่นใคร

"รักนะคะ"  คริสตัลกระซิบ  จูบหน้าผากไอรีนที่หลับตาพริ้มกับอกของเธอ  เสียงทีวียังดังอยู่  แต่ไม่มีใครฟังมัน  เธอไม่ได้รอคำตอบไอรีนหรอก  รู้ดีว่าพี่เขายังไม่พร้อม  หากเสียงกระซิบเบาๆ กับนัยน์ตาสีช็อกโกแลตที่มองจ้องมาก็ทำให้เธอยิ้มกว้างอย่างดีใจ

"พี่มีความสุขมากเลย  คริส"  กระนั้นสายตาไอรีนก็ยังมีแววลังเล

"แต่เธอเข้าใจใช่ไหม  ว่าเรื่องความรักกับพี่มันยัง --"

"ฉันรอได้ค่ะ  ไม่มีปัญหา"

ไอรีนยิ้ม  รู้สึกดีที่คริสตัลเข้าใจ  "พี่สัญญาว่าจะไม่ให้เธอรอนาน"

"ค่ะ  ถ้างั้นขอมัดจำไว้ก่อน"  คริสตัลพูดเสียงทะเล้น  แกล้งทำท่าจะปล้ำไอรีนจนอีกฝ่ายดิ้นหนีและหัวเราะร่วน  เสียงดังลั่นออกไปนอกห้อง  เจสสิก้าจึงต้องหอบหมอนจากชั้นสองไปนอนชั้นล่างตามเดิม     




.............


ใกล้จะเปิดพรีออเดอร์แล้วนะคะ   :21: :01: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

18 พฤษภาคม 2019 เวลา 07:04:04
เอาเปลี่ยนกันไปหมด เอาเป็นว่า" งง "ตามระเบียบ แต่ก็เอาเถอะตามที่ทุกคนสบายใจ
แสดงความคิดเห็น