web stats

ข่าว

 


Immortals (Sparkle 4) - บทที่ 21 Need You Now

โพสต์โดย: anhann วันที่: 20 กรกฎาคม 2018 เวลา 21:51:10 อ่าน: 177



บทที่ 21 Need You Now





เขาอยู่ในห้องพักเบรกของบริษัทตามลำพังก่อนที่แอมเบอร์จะเดินเข้ามาพร้อมถาดอาหารและขอนั่งด้วย  เขาไม่ได้มองว่าอาหารในถาดของเธอคืออะไร  สายตาสนใจอยู่กับแท็บเล็ตที่กำลังวาดแบบร่างตัวละครของเกมตัวใหม่อยู่  หากเขาก็ได้กลิ่นมันและพอจะเดาออก  โรงอาหารบริษัทมีอาหารอยู่หลากหลายอย่างให้พนักงานเลือก  แต่เธอก็กินไม่กี่อย่าง  และทุกอย่างนั้นก็ต้องเอาเลือดสดๆ มาโรยเหมือนซอสมะเขือเทศด้วย  เธอกินของน่าสยองไม่ต่างจากเขา

แวมไพร์...

"ไม่กลับไปกินข้าวเที่ยงที่บ้านรึ"  แอมเบอร์ถาม  ชะโงกหน้ามามองแท็บเล็ตที่คริสตัลกำลังทำงานอยู่  เพราะเขาเป็นเจ้านายผู้ไม่ถือตัว  เธอจึงไม่เกรงกลัวที่จะใกล้ชิดเขา  เขาคลุกคลีกับพนักงานมากกว่าพี่สาวอยู่แล้ว

"ไม่ละ  ฉันกำลังเร่งงานอยู่"  เขาตอบ  มือขวาคว้ากล่องนมยูเอชทีมาดูด  มือซ้ายก็ยังคงทำงานต่อไป 

"กินอะไรเหมือนเด็ก"  เธอวิจารณ์  มองแซนด์วิชไส้นูเทลลาของเขา  พลางส่ายหัว  และกินมักกะโรผัดไข่ราดเลือดสดๆ ของตัวเอง  "ฉันมีเลือดอีกสองถุงอยู่ในกระเป๋า  นายจะเอาถุงหนึ่งไหม"

"ขอบใจ  ไม่เป็นไร  ยุนเตรียมไว้ให้ฉันแล้ว"  เขาตอบ  กลั้นใจไม่สลับหน้าจอจากงานไปหาถ้ำน้ำแข็งที่ที่ใครคนนั้นพำนักอยู่ในปัจจุบัน

"เมียนายน่ารักเนอะ  ไม่แปลกที่นายจะแต่งงานเร็ว"

"แล้วเธอไม่มีใครบ้างเหรอ  เธออายุเท่าไหร่นะ"

"มากกว่านายหลายเท่า  เจ้าหนู"  เธอพูดกึ่งหัวเราะ  แอบสะดุ้งเมื่อเขาเหลือบตาข้างที่เป็นสีเหลืองมามอง  เธอผิดเองที่เลือกนั่งด้านขวาของเขา  "นายคิดว่าจะมีใครอยู่กับฉันได้ล่ะ  ฉันไม่เหมือนพวกนาย  ฉันตายไปแล้ว  ฉันตายซ้ำไม่ได้  ถ้าไม่มีใครเอาอะไรแหลมๆ มาปักหัวใจฉัน  หรือโดนหมาป่าอย่างพวกนายกัด  และฉันไม่เซ่อพอที่จะปล่อยให้ตัวเองโดนแบบนั้น  ถึงมันจะอยู่ลำบาก  ชีวิตมันจะแย่แค่ไหน  ฉันก็ยังอยากจะอยู่  อยากสนุกกับมันต่อ  ยังมีอีกหลายอย่างที่ฉันอยากทำ  แต่นั่นก็ต้องแลกมากับที่ฉันต้องเห็นคนที่ฉันรักหรือเพื่อนๆ ฉันต้องตายไปทีละคน"

"แล้วทำไมไม่ทำให้พวกเขาเป็นเหมือนเธอล่ะ"

แอมเบอร์ส่ายหน้า  ทำท่าเหมือนมันเป็นเรื่องเศร้าที่จะพูดถึงเรื่องนี้  แต่แล้วเธอก็พูดออกมา  "ฉันอยากให้พวกเขาได้ตายอย่างมนุษย์มากกว่า"

ตายอย่างมนุษย์... คริสตัลนึกถึงคำที่เม็บพูดขึ้นมาทันที  ตอนที่เขาแนะนำให้เธอเปลี่ยนแม่ของเธอให้เป็นหมาป่าเหมือนกันกับเรา  เธอตอบเขาแบบนี้เช่นกัน  แม่ของเธออยากตายอย่างมนุษย์  มันคงสวยงามที่สุดแล้วในความคิดของพวกเขา

"แล้วถ้าตายแบบพวกเรามันจะเป็นยังไงล่ะ"  เขาเท้าคางถามเธออย่างสนใจ  เธอมองเขาเหมือนเด็กเล็กๆ  พวกที่อายุมากกว่าศตวรรษชอบมองเขาด้วยสายตาแบบนี้เหมือนกันหมด  ทำเหมือนเขาไร้เดียงสา

"นายต้องทำความเข้าใจอย่างหนึ่งว่า  พวกฉันไม่เหมือนพวกนาย  นายไม่สามารถเอาเรามารวมกันได้  นายเป็นหมาป่ามาตั้งแต่เกิด  เคยชินกับความเป็นแบบนี้  แต่ฉัน...พวกฉันเป็นแวมไพร์ที่เคยเป็นมนุษย์มาก่อน  และมันโคตรจะแตกต่างกันเลยละ"  เธอพูดแล้วยักไหล่

ถูกของแอมเบอร์  เขากับเธอต่างกันอย่างมาก  และเขาไม่มีทางจะเข้าใจคำว่า  "ตายอย่างมนุษย์" ได้อย่างแท้จริง  เพราะเขาไม่ใช่มนุษย์  แม้จะมีร่างกายแทบไม่ต่างจากพวกเขา  ถ้าไม่ได้ตรวจเลือด  ดีเอ็นเอ  หรือเราแสดงความแตกต่างออกมาเอง  มองผิวเผินก็ไม่มีใครแยกเราออก

"ถ้าคิดแบบนี้  ทำไมเธอถึงยังอยู่  ทำไมไม่ยอมให้ตัวเองตายจริงๆ"

"เพราะฉันไม่แน่ใจว่าจะได้กลับมาเกิดอีกหรือเปล่าไงล่ะ  ถ้าไม่ได้เกิดอีก  ก็คงไม่สนุกแล้วแหละ  ใช่ไหม  ต่อให้ต้องอยู่คนเดียว  ฉันก็อยากอยู่  ฉันยังสนุกอยู่เลย  ตอนนี้ยิ่งสนุกใหญ่  บริษัทนายยังกับสวนสนุกแน่ะ"  เธอพูดพร้อมตบไหล่เขาดังป้าบ  "ขอบใจที่นายให้ฉันมาทำงานที่นี่  แต่นายเป็นผู้หญิงฉันคงรักนายมากกว่านี้"

เขายิ้ม  ส่ายหน้าขำๆ ไม่บ่อยที่เขาจะทำให้ใครสักคนดีใจจนโอเวอร์แบบนี้โดยไม่เกี่ยวกับเรื่องบนเตียง  นอกจากพี่สาวและลูกๆ ของเขา

"แต่ฉันรู้มาว่า  นายเคยเป็นผู้หญิง  --  เอ่อ  โทษทีนะ  มันอดไม่ได้ที่จะอยากรู้จักนายน่ะ"  เธอพูด  พลางแก้ตัวไปด้วย 

"ก็ไม่เห็นแปลก  เธอขุดประวัติฉันได้ง่ายๆ  แค่พิมพ์ชื่อฉันในกูเกิล  แต่รู้ใช่ไหมว่า  มันจริงไม่ถึงครึ่ง"

"เพราะงั้น  ฉันเลยมาถามนายเองนี่ไง  แล้วจริงใช่ไหม  นายเคย --"

"ฉันมีสองเพศ  แต่พอโตขึ้นมาแล้ว  อีกเพศหนึ่งก็หายไป  กลายเป็นแบบนี้แหละ  หวังว่าฉันคงไม่ต้องแก้ผ้าให้เธอดูนะ"

"ไม่ต้องๆ  เก็บไอ้จ้อนของนายไว้ให้เมียนายดูเถอะ"  แอมเบอร์พูด  พลางหยิบแก้วโค้กมาดูด  "เนี่ยแหละ  ความแตกต่างของเรา  ฉันอยากเป็นหนุ่มเหมือนนายบ้าง  แต่จะมีหมอที่ไหนผ่าตัดแปลงเพศแวมไพร์ได้ล่ะ"

"เอาไว้ฉันจะลองถามยุนให้  รอเขากลับมาก่อนละกัน"

"ระวังเถอะ  นายจะโดนหาว่าบ้า"

เขาหัวเราะเบาๆ  ก้มหน้าลงทำงานต่อ  แอมเบอร์ก็กินต่อพร้อมกับคอยวิจารณ์งานของเขาไปด้วย  เขาดีใจที่ตัวเองคิดถูกที่ชวนเธอมาทำงานด้วยกัน  เธอช่วยเขาได้มาก  เธอรู้อะไรที่เขาไม่รู้  และยังปลอมตัวเข้าไปคุยกับพวกเซียนคอมใต้ดินได้ด้วย  แถมเธอยังเป็นคนสนุกสนานแบบนี้

"นายยังเป็นเด็กอยู่  รู้ไหม"  เธอพูด  กวาดมักกะโรนีกินเป็นคำสุดท้าย  ก่อนจะหันมาสบสายตาสงสัยของเขา  "ไม่ใช่เด็กในแง่ของความรับผิดชอบ  แต่เป็นเรื่องจินตนาการพวกนี้  นายเข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม"

เขาพยักหน้า  หลุบสายตาลงหาจอแท็บเล็ต 

"นายรู้ไหม  อะไรที่ทำให้เกมของนายเจ๋งกว่าของคนอื่น"  แอมเบอร์พูดขึ้นอีก  พลางดูดน้ำสีแดงอะไรสักอย่างที่เขาแน่ใจว่ามีส่วนผสมของเลือด

เขาเหลือบตาขึ้นจากตัวละครสาวในชุดนักรบโบราณผสมแฟนตาซีที่เขาตั้งชื่อให้ว่า "แคทริน่า"  มาเลิกคิ้วมองแอมเบอร์  เธอทำหน้าตากวนๆ แบบที่ชอบทำก่อนจะเอ่ยตอบ

"เพราะจินตนาการของนายไงล่ะ  มันบ้า"

เขาขมวดคิ้วใส่เธอ  ไม่แน่ใจว่านั่นเป็นคำชม  แล้วเธอก็ตบไหล่เขาราวกับจะปลอบใจอย่างเพื่อนสนิท  บางทีเราอาจจะเคยรู้จักกัน  ชาติที่แล้วเขาอาจเคยเป็นมนุษย์แล้วตายไปก็ได้  ใครจะรู้

"เพราะนายมีความฝันในหัวไม่เหมือนมนุษย์  สัมผัสที่ไวกว่ามนุษย์หลายเท่าด้วย  เวลาสร้างเกมออกมามันก็เลยสมจริงมาก  แต่มันก็มีข้อเสียตรงที่นายต้องให้มนุษย์จริงๆ เอามันไปทดลองก่อนผลิตออกมาขาย  เพราะมันอาจจะหนักไปสำหรับลูกค้ามนุษย์ของนาย  ใช่ไหม"

"นั่นเป็นคำอธิบายเกี่ยวกับเธอด้วยหรือเปล่า  ว่าทำไมเธอถึงเก่งกว่าพนักงานบางคนของฉัน"

"ไม่ใช่แวมไพร์ทุกคนจะรู้เรื่องคอมพิวเตอร์"  แอมเบอร์ยิ้มอวดๆ

"แปลว่าก่อนจะมาเป็นแบบนี้  เธอก็เป็นเซียนคอมมาก่อน"

"ตอนที่ฉันเกิด  คอมพิวเตอร์ยังไม่เป็นแบบนี้เลย  ฉันไม่อยากจะโม้ว่าฉันก็เป็นหนึ่งในทีมที่ช่วยพัฒนามันมาด้วยนะ  น่าเสียดายที่หัวหน้าฉันในตอนนั้นตายไปเสียก่อน"  เธอเล่า  ยิ้มฝืดฝืนให้เขา  "โรคระบาดน่ะ  วัณโรค  มันฆ่าเพื่อนๆ ฉันไปจนเกลี้ยง  แต่ฉันโชคดีที่ถูกตัวประหลาดกัดเข้าเสียก่อน  หรือมันต้องเรียกว่าโชคร้ายกันนะ  เอาเถอะช่างมัน  ยังไงฉันก็อยู่ตรงนี้แล้ว"

"เล่ามากี่รอบแล้ว  เรื่องนี้"

"ไม่เคย  นี่ครั้งแรก"  แอมเบอร์ว่า  และพูดต่อเมื่อเขาทำท่าไม่เชื่อ  "โอเค  ก็ได้  คนที่ฉันเคยเล่าให้ฟัง  ตายไปหมดแล้วไง  นานมากแล้วที่ฉันไม่ได้เล่ามันอีกเลย  นี่ก็เลยเป็นครั้งแรกสำหรับศตวรรษนี้"

"อยู่มานานขนาดนี้  ไม่เบื่อบ้างเหรอ"

"ก็มีบ้าง  เบื่อก็หาอะไรทำไปเรื่อยๆ  บางทีก็แกล้งให้ตำรวจจับ  ไปนอนเล่นในคุกบ้าง  หาประสบการณ์ใหม่ๆ  เดินทางรอบโลกอะไรทำนองนั้น  นี่ฉันก็ทำงานเก็บเงินอยู่นะ  จะไปเกาะมอลตา  แต่ไม่แน่ใจว่าที่นั่นจะมีเลือดให้กินหรือเปล่าน่ะสิ  ถ้าไปเที่ยวจับใครมาแทะสุ่มสี่สุ่มห้าคงไม่ได้กลับมา"

"ฟังดูเจ๋งดีเหมือนกันนะ"

"ก็ไม่เชิง  บางทีมันก็เหงา"  เธอพูดด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ  เอนศีรษะพิงไหล่เขาอย่างลืมตัว  "นายมีครอบครัวแบบนี้แหละ  ดีแล้ว  ได้อยู่กับคนที่รักเราน่ะ  มันดีจะตาย  น่าเสียดายที่ฉันเลือกไม่ได้"

คริสตัลมองศีรษะสีทองของแอมเบอร์ที่พิงอยู่กับไหล่อย่างไม่รู้จะทำยังไงดี  เขาจะโอบไหล่กอดเธอมันก็ยังไงๆ อยู่  เขาไม่รู้ว่าจะโดนต่อยไหม  แล้วถ้าเธอปล่อยโฮขึ้นมา  เขาจะปลอบเธอยังไงได้  ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิง

"โอ๊ย  นายจะชวนฉันดราม่าทำไมกันเนี่ย  ไม่คุยด้วยแล้ว  บ้าบอ  ไปทำงานดีกว่า"  เธอโวยวายขึ้นมาแล้วผลักไหล่เขา  เขาก็ยังนั่งทื่ออยู่

เธอรวบข้าวของ  พลางมองเขาอย่างหงุดหงิด  คงเพราะเขายังนั่งเป็นเสาหลักอยู่แบบนี้  "ให้ตายสิ  ผู้หญิงชอบนายได้ยังไงกันนะ"

"เอาไว้ฉันจะถามให้"  เขาตอบ  ก้มหน้าลงทำงานต่อ  รอจนได้ยินเสียงปิดประตูห้องพักเบรก  และไม่ได้กลิ่นของเธอแล้วจึงเงยหน้าขึ้นพร้อมกับถอนหายใจ  เหลือบมองดูนาฬิกาข้อมือก่อนจะสลับหน้าจอแท็บเล็ตให้เป็นภาพของถ้ำน้ำแข็งที่หัวใจเขาแล่นไปอยู่ที่นั่นนานแล้ว

...................................

เขาต้องจัดเวลาชีวิตของตัวเองใหม่หมดตั้งแต่ยุนอาไม่อยู่  ตั้งแต่ไปรับ - ส่งลูกๆ ไปโรงเรียนทุกเช้าและทุกเย็น  เพราะแทยอนห่างจากแม็กซ์เวลไม่ได้เลย  แถมยังต้องดูไอรีนอีกคนด้วย  แต่บางวันเจสสิก้าก็ช่วยไปรับเด็กๆ แทนให้  ยังไงพี่ก็ต้องไปรับเจย์เดนอยู่แล้ว  เม็บยังไม่กลับมาจากขั้วโลกใต้  คงอยู่เป็นเดือน  เพิ่มจากสองสัปดาห์ตามที่วางแผนไว้  สลับกับซันนี่ที่ต้องกลับมาดูแลคฤหาสน์กับทำงานบางส่วนแทนยุนอา  เรียกได้ว่าเราทุกคนมีงานเพิ่มกันหมด  แต่เราก็เคยเป็นแบบนี้กันมาแล้วครั้งหนึ่งตอนยุนอาหลับยาวครั้งแรก  เราเรียนรู้มาจากเหตุการณ์นั้น  และทำใจว่ามันก็แค่นานขึ้นกว่าเดิมอีกนิดหน่อย

"คริส  เอาไอรีนอาบน้ำด้วย" 

เขาลืมตาขึ้นขณะพยายามผ่อนคลายสมองด้วยการแช่น้ำในอ่างน้ำวนขนาดเท่ากับอ่างออนเซนขนาดเล็กในห้องพักโรงแรมห้าดาวของญี่ปุ่น  เขาขอเจสสิก้าทำห้องนี้ขึ้นมาเพื่อพักผ่อน  แบบเดียวกับห้องฟิตเนสที่อยู่ติดกันนี้  เจสสิก้าไม่ว่าอะไร  เพราะพี่ก็ใช้มันอยู่บ้างเหมือนกัน  แต่จะใช้ส่วนของสปามากกว่า  และปกติแล้วเขาจะไม่พาเด็กๆ เข้ามาอาบน้ำที่นี่  เกรงว่ามันจะเละเทะด้วยความซนและไม่รู้ประสาของพวกเขา

"หรือจะเอาแฝดด้วย"  แทยอนถามเสียงเย็นขณะจูงไอรีนมาหาเขา

"กางเกงอาบน้ำล่ะ  คุณแท"  เขาท้วงเมื่อเธอส่งแค่เป็ดยางสีเหลืองของไอรีนมาให้เท่านั้น  แล้วเธอก็กลอกตาก่อนจะดึงกางเกงอาบน้ำของเขาออกมาจากกระเป๋ากางเกงด้านหลัง

"ขอบใจที่ยังรู้ว่าต้องใส่"  เธอประชด  ท่าทางหงุดหงิดตามปกติ  แต่เขาก็แค่ยิ้มให้ขณะรับกางเกงไปสวมใต้น้ำ  เขาไม่อยากโป๊ต่อหน้าลูกสาว  มันดูไม่ดีเท่าไหร่  พักนี้ไอรีนยิ่งมีคำถามแปลกๆ มาถามเขาอยู่บ่อยๆ ด้วย

"โอเค  เรียบร้อย  น้องไอลงมาได้แล้วค่ะ"

"เดี๋ยว  น้ำร้อนเกินไปหรือเปล่า"  แทยอนถาม  หย่อนมือลงมาวัดอุณหภูมิน้ำ  รู้ว่าเขาชอบแช่น้ำร้อน  และไอรีนแพ้มัน  สมกับเป็นลูกสาวจิ้งจอกอาร์กติกชะมัด

เธอเปิดน้ำเย็นมาผสม  ใช้มือวัดอุณหภูมิอีกทีแล้วค่อยอุ้มไอรีนที่นั่งยองๆ เข็นรถตักดินเล่นอยู่บนพื้นหินแกรนิตมาหย่อนใส่อ่างให้อยู่กับเขา

"อาบน้ำกับป๊านะคะ  น้องไอ  แม่ไปดูแม็กซ์กับแฝดก่อน"  เธอพูดกับลูกด้วยท่าทางเหนื่อยๆ  แต่ก็ยังอุตส่าห์ก้มลงมาจูบเขา  จับมือเขาไปลูบคลำหน้าอกเธอที่แทบไม่เคยสวมบราเลยช่วงนี้  เธอชอบให้เขานวดให้เพราะมันช่วยให้คลายความคัดตึงไปได้บ้าง

"พอแล้ว"  เธอบอก  ขอบคุณเขาและจูบหน้าผาก  พลางมองไอรีนที่ไม่สนใจเราเลย  "ไว้ลูกหลับก่อนนะ"

เขาพยักหน้า  เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร  ต่อให้เหนื่อยแค่ไหน  เธอก็อยากนอนกับเขา  และเขาก็ต้องการเธอด้วย  เหมือนเราช่วยดูแลจิตใจให้กันและกัน  เขารู้ว่าเธอคอยสังเกตเขาอยู่  ยุนอาคงสั่งไว้ก่อนไป  เขาไม่โทษเธอที่คอยเป็นห่วงเขาเหมือนเป็นลูกชายคนโตยังไม่หย่านมแม่  และจริงๆ เขาก็ชอบกินนมแม่คนนี้อยู่แล้วด้วย

"ป๊า  หนูเข้าไปในห้องนั้นอีกได้ไหม"  ไอรีนถามขณะเขาสระผมให้

"ห้องไหนคะ  น้องไอ"

"ห้องที่จะคุยกับแด๊ดดี้ได้  ที่แคลร์ชอบเข้าไป"

เขาชะงักมือ  จ้องมองฟองแชมพูบนศีรษะลูกสาวอย่างเหม่อลอย  เขาไม่ได้ล้อเล่นตอนบอกว่าจะทำภาพฮอโลแกรมยุนอาขึ้นมาให้ลูกๆ ได้คุยด้วยเวลาคิดถึง  เขาติดตั้งเครื่องเล่นภาพนั้นไว้ในห้องอีกห้องใกล้กับห้องทำงานของเขา  และบ่อยครั้งเขาก็เข้าไปคุยกับเธอในนั้นเอง...คนเดียว

ยุนอาอัดเทปเสียงเอาไว้  เขามีภาพถ่ายของเธอเยอะมาก  เขาเอามันมาผสมผสานกันและสร้างมันขึ้นมา  โปรแกรมสามารถตอบคำถามยากๆ แบบที่ยุนอาตัวจริงทำได้  สอนการบ้านแคลร์ได้  ทำได้เกือบทุกอย่างเหมือนยุนอา  ยกเว้นโอบกอดให้ความอบอุ่น  เทคโนโลยีที่ใช้คล้ายคลึงกับที่ซุปเปอร์แมนกับซุปเปอร์เกิร์ลไปคุยกับพ่อแม่ที่ตายไปแล้วนั่นแหละ

"ป๊าให้หนูเข้าไปนะ  หนูสัญญาว่าจะไม่ซน"

คริสตัลกะพริบตา  และเห็นว่าลูกสาวมองอยู่อย่างต้องการคำตอบ  เขาจึงพยักหน้ารับ  แล้วตอบรับจุ๊บบนริมฝีปากจากไอรีนที่ยิ้มแย้มทันทีที่เขาอนุญาต  ลูกๆ คิดถึงยุนอาทุกคนแม้แต่แม็กซ์เวลที่ไม่น่าจะรู้เรื่อง  เขาอยากให้เธอได้รู้  และรีบตื่นขึ้นมา  กลับมาหาพวกเรา  ครอบครัวของเรา

"หนูดีใจ  ที่ป๊ายังรักหนูอยู่"  ไอรีนพูดเบาๆ  พอเขามองหน้า  ลูกก็หน้าแดงเหมือนจะเขินเขา  มือเล็กๆ ดันหน้าเขาให้หันไปทางอื่นอีกด้วย

"อะไรคะ  น้องไอ  มองก็ไม่ได้เหรอ"  เขาถามลูกสาวเสียงขำ  ไม่คิดว่าลูกจะเขินเป็นแล้ว  แต่จะว่าไปก็ใกล้จะถึงวันเกิดไอรีนแล้ว  ไอรีนกำลังจะห้าขวบ  เขาคิดภาพงานเลี้ยงวันเกิดลูกสาวเอาไว้ก่อนที่จะรู้ว่ายุนอาจะต้องไปทำธุระสำคัญแบบนี้  แล้ววันเกิดของลูกปีนี้ก็ไม่มีแด๊ดดี้ยุนอยู่ด้วยจนได้

"หนูอยากให้ป๊าหัวเราะ  และยิ้มแบบนี้มากกว่าทำหน้าเศร้าๆ"

คริสตัลตกใจ  ไม่รู้เลยว่าลูกสนใจสังเกตเขาด้วย

"หนูอยากไปโรงเรียนเหมือนแฝด  เหมือนเจด"  ไอรีนเปลี่ยนเรื่องเสียแล้ว  เขาเลิกคิ้วมองลูกสาวอย่างแปลกใจ  "แม็กซ์ร้องไห้บ่อย  แม่ต้องอุ้มเขา  ให้กินนมเกือบทั้งวัน  ไม่ได้เล่นกับหนูเลย  หนูอยากไปกับป๊าด้วย  แต่ป๊าก็ต้องทำงาน  ใช่ไหมคะ"

"แม็กซ์ยังเล็กค่ะ  ตอนหนูยังเล็กเท่าน้อง  หนูก็เป็นแบบนี้แหละ"

"หนูกินเก่งแบบนี้เลยเหรอ"  ไอรีนถาม  ตากลมๆ เบิกโตอย่างตกใจ  ไร้เดียงสาและน่ารัก  "ป๊าอย่าหลอกหนู"

"เปล่าเลยค่ะ  ป๊าจะหลอกหนูทำไมล่ะ"  คริสตัลพูด  พลางหัวเราะ  "โอเค  หลับตาก่อนค่ะ  เดี๋ยวฟองเข้าตาหนูนะ"

"หนูยังอยากเล่นน้ำต่ออีกหน่อยได้ไหม"  ลูกสาวต่อรอง  หันมามองเขาจนเกือบฟองแชมพูเข้าตา  เขาต้องรีบปาดมันออกให้  ถ้าไอรีนเป็นอะไรขึ้นมาแล้วร้องไห้ละก็  เรื่องใหญ่มากแน่ๆ  ไอรีนมีเสียงเป็นอาวุธอย่างกับแบนชีแน่ะ

"ป๊าให้ได้แต่ห้านาที  นานกว่านั้นเราจะโดนแม่บ่นทั้งสองคน" 

"ป๊ากลัวแม่เหรอ"

"ไม่ได้กลัวครับ  แต่เกรงใจ"  เขาตอบ  ขยิบตาให้ลูกสาวที่ยิ้มแซวๆ  ลูกสาวเขายังไม่ทันห้าขวบก็ล้อเลียนเขาเป็นแล้ว  โตไวเกินไปหรือเปล่านะ

"มาเถอะ  น้องไอ  ไปล้างตัวกัน  ป๊าว่าหนูหิวข้าวแล้วแหละ" 

"หนูยังไม่หิว  ใครบอก  ป๊า" 

"ก็ตรงนี้ไง  บอก"  คริสตัลใช้นิ้วชี้จิ้มพุงขาวๆ ของลูกสาว  เธอดิ้นหนีและหัวเราะคิกคัก  เขาอุ้มเธอขึ้นจากอ่างน้ำพาไปล้างตัวที่ฝักบัวด้วยกัน  แต่เขาต้องขอปิดม่านกั้นลูกออกไปสักสองนาทีเพื่อถอดกางเกงอาบน้ำออกและจัดการกับตรงส่วนลับๆ นั้น  พันเอวตัวเองด้วยผ้าขนหนูแล้วจึงค่อยอุ้มลูกสาวที่ห่อตัวด้วยผ้าขนหนูสีขาวแบบเดียวกันออกมาจัดแจงแต่งตัวให้

การอาบน้ำกับลูกๆ เป็นเรื่องปกติของเขา  เขาทำมันมาตั้งแต่ยังมีแค่ฝาแฝดตัวแสบ  จนตอนนี้พวกเขาอาบน้ำกันเองได้แล้ว  แต่ยังต้องมีเสียงคุณแม่คอยกำกับไม่ให้เล่นน้ำกันเพลินจนตัวเปื่อย

"ป๊า  เราจะไปกันหรือยัง"  เสียงใสๆ ของแคลร์มาพร้อมกับมือที่มาดึงชายเสื้อยืดสีเทาของคริสตัล  เขาก้มลงมองลูกสาวที่เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยท่าทางน่าสงสาร  เพราะเขาตัวสูงเกินไป  ดังนั้นเขาจึงย่อตัวลง

"ไปไหนครับ  เราจะกินข้าวเย็นกันแล้ว  แคลร์"

"หนูรู้  แต่หนูอยากไปคุยกับแด๊ดดี้ก่อน  ไม่งั้นหนูจะกินข้าวไม่ลง"  แคลร์ตอบด้วยเสียงเล็กๆ แต่จริงจังมาก  เขาเหลือบตาขึ้นมองแทยอนที่อุ้มแม็กซ์เวลอยู่  เธอไม่ได้มีท่าทีโกรธเคืองหรือไม่พอใจ  แต่สงสารลูกมากกว่า

"ผมไปด้วยนะฮะ  ป๊า"  ครูซพูดขึ้นบ้าง  เดินมาพร้อมไอรีนที่เขาเกาะหลังน้องอยู่  พวกเขากำลังเล่นรถไฟกัน  ให้ไอรีนเป็นหัวรถไฟ

"หนูไปด้วย"  ไอรีนยกมือขึ้นพูด  แคลร์จึงยื่นมือไปแตะกับน้องสาว  แท็กทีมกัน  แทยอนพยักหน้าให้คริสตัล  พลางเขย่าตัวแม็กซ์เวลที่เพิ่งกินนมเสร็จไปอีกรอบ  เขาสังเกตได้ว่าเธอผอมลงน่าจะประมาณหนึ่งหรือสองกิโลหลังจากยุนอาไม่อยู่  เพราะแม็กซ์เลี้ยงยากนิดหน่อย  ตรงที่ลูกหิวบ่อยมาก  และต้องกินนมจากเต้าเท่านั้น  แม็กซ์เมินขวดนมไปแล้วตั้งแต่ได้ดื่มนมจากอกแม่แทครั้งแรก  --  ร้ายกาจนักนะ  เจ้าตัวเล็ก!

"รีบๆ ไปกัน  เดี๋ยวจะได้กลับมากินข้าว  แล้วแฝด  อย่าลืมการบ้านนะคะ  เราสัญญากันแล้ว"

"คับผม"  แคลร์กับครูซตอบเป็นเสียงเดียวกัน  ขณะที่ไอรีนหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ 

คริสตัลเดินไปขอตัวแม็กซ์เวลมาอุ้มแทนเพื่อให้แทยอนได้พักบ้าง  แต่เธอก็คงจะไปตรวจดูอาหารเย็นที่แม่ครัวทำมาให้เราอีกนั่นแหละ  เดี๋ยวนี้เธอไม่มีเวลาทำอาหารเองแล้ว  เขาก็ทำบ้างบางครั้ง  เจสสิก้าจึงตัดปัญหาด้วยการให้แม่ครัวจากครัวกลางทำอาหารมาเผื่อให้บ้านเขาด้วย  เพราะต้องทำให้พี่อยู่แล้ว  เจสสิก้าไม่ทำอาหารเอง  อุ่นกินยังไม่ค่อยจะทำ  ยิ่งเม็บไม่อยู่แบบนี้ด้วย  พี่กับเจย์เดนก็กินแต่อาหารฝีมือแม่ครัวทั้งนั้น  เจสสิก้าอ้างว่าทำเองไม่อร่อย  ทำไปเสียของ  ให้คนที่เขาชำนาญทำให้จะดีกว่า

เขากับเด็กๆ เข้ามาในห้องฮอโลแกรมนั้นด้วยกัน  แคลร์ตรงเข้าไปเปิดเครื่องอย่างรู้งาน  จริงๆ มันเปิดได้ง่ายๆ ด้วยการกดปุ่มสีแดงตรงผนังอย่างเดียว  ปุ่มอยู่ในตำแหน่งที่แคลร์กับครูซสามารถกดถึง  เขาตั้งใจทำไว้ให้ลูกๆ ได้ใช้อยู่แล้ว  แม้จะแค่ชั่วคราวและทำด้วยความรีบเร่ง  แต่มันก็ถูกทำขึ้นอย่างดีที่สุด

จริงๆ แล้วเขาไม่ชอบห้องนี้เลยแต่ก็เข้ามาประจำ  มันช่วยให้คลายความคิดถึงยุนอาลงไปได้บ้าง  บางครั้งเจสสิก้าก็เข้ามา  ส่วนใหญ่พี่จะมาแค่คนเดียว  มาเงียบๆ แล้วออกไป  ไม่เหมือนเด็กๆ ที่ชวนยุนอาฮอโลแกรมคุยราวกับเป็นยุนอาตัวจริง  บางครั้งแคลร์หายไป  แทยอนก็ให้เขามาตามลูกที่ห้องนี้  และพบว่าแคลร์นอนหลับคาสมุดการบ้านอยู่ที่นี่  โชคดีที่เขายังไม่เห็นเด็กๆ ร้องไห้กัน  หรือแคลร์จะแอบร้องคนเดียว  เขาก็ไม่แน่ใจ  แคลร์ติดยุนอามาก  ครูซก็เหมือนกันแต่น้อยกว่า  และครูซก็มีนิสัยไม่คิดมากกับอะไรอยู่แล้ว  ถึงอย่างนั้นเขาก็เผลอพูดถึงยุนอาบ่อยๆ

"โอเคครับ  วันนี้พอแค่นี้  ไปหาคุณแม่กันดีกว่า  แคลร์นำหน้าไปเลยครับ"  คริสตัลเอ่ยขึ้นเมื่อครบเวลายี่สิบนาทีที่เขาอนุญาตให้เด็กๆ อยู่กันในห้องนี้  เขามองแคลร์เดินนำน้องๆ ออกไปจนลูกๆ ลับตาไปแล้วจึงเตรียมจะปิดเครื่องฉาย  แต่ก็พบตัวเองยืนจ้องยุนอาบนแท่นนั้นอยู่นานหลายนาที  ก่อนจะกะพริบตาเพราะเสียงเรียกฟังไม่ได้ศัพท์ของแม็กซ์เวลที่เขาอุ้มอยู่  เจ้าหนูน้อยมองหน้าเขาด้วยสายตาที่เราเข้าใจกันดี

"ไม่เป็นไร  แม็กซ์  เดี๋ยวแม่ก็กลับมา  อดทนหน่อยนะ"  เขาบอกกับลูกชาย  แต่ก็เหมือนบอกตัวเองด้วย  เขาปิดเครื่องฉาย  ยุนอาฮอโลแกรมจึงหายวับไปทันที  แม็กซ์เวลก็ร้องขึ้นมาหน้าตาตื่นคล้ายตกใจที่คุณแม่หายไปต่อหน้าต่อตา  เขาจึงต้องล้วงโทรศัพท์มือถือขึ้นมา  และเปิดคลิปที่ยุนอาอัดเอาไว้ให้ลูกดู  คลิปที่เรียกชื่อแม็กซ์และพูดคุยกับเขา  ไม่นานเจ้าเด็กทารกตัวไม่น้อยในอ้อมแขนเขาก็สงบลงได้  ซุกบ่าเขาตาปรือ

"เห็นไหม  ยุน  ลูกเรามีแต่แสบๆ ทั้งนั้น"  คริสตัลบ่นกับวิดีโอของยุนอาในโทรศัพท์มือถือตัวเองที่ต้องตัดใจปิดลงและเก็บใส่กระเป๋าก่อนจะมาปิดห้องให้เรียบร้อย  เขาลูบศีรษะลูกชายไปพลางพาเดินกลับห้อง  แล้วหลังจากกินมื้อเย็นเสร็จแล้ว  เขาจึงจะเปิดภาพปัจจุบันของยุนอาดูคนเดียว                   



.....................

คงไม่เศร้าเท่าไหร่หรอกเนอะ   :21: :42: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

22 กรกฎาคม 2018 เวลา 06:58:24
ลูกหมาแต่ละตัวโตอีกหน่อยจะแสบกันยกฝูง
แสดงความคิดเห็น