web stats

ข่าว

 


AGENT K. - บทที่ 6 Nirvana

โพสต์โดย: anhann วันที่: 15 กรกฎาคม 2018 เวลา 22:10:14 อ่าน: 220



บทที่ 6 Nirvana







อพาร์ตเมนต์ของเดน่าส์อยู่ย่านบรุกลิน  ไม่ห่างจากเพนท์เฮาส์ของเธอมากนัก  บางทีอาจมองเห็นแม่น้ำฮัดสันแบบเดียวกันด้วย  เดน่าส์ไม่ได้ชวนเธอขึ้นไปดื่มกาแฟบนห้อง  ไม่คิดจะตอบแทนอาหารค่ำและการมาส่งด้วยวิธีนั้น  เคย์ไม่แน่ใจว่าเธอควรยินดีหรือเปล่า  คุณหมอสาวไม่ใช่ผู้หญิงดาษดื่นแบบที่เธอเคยเจอบ่อยๆ  รวมทั้งซีซี

"เดี๋ยวค่ะ"  เดน่าส์เอ่ยเรียกก่อนที่เคย์จะขับรถออกไป  เอเจนท์สาวลดกระจกลง  เลิกคิ้วให้เป็นคำถาม  คุณหมอยิ้มเหมือนอยากจะพูดอะไร  แต่กลับส่ายหน้า  และจูบลาเคย์ที่แก้มเท่านั้น

"ฝันดีนะคะ  คนเก่ง"

เคย์ยิ้ม  มองตามหลังหญิงสาวไปจนกระทั่งอีกฝ่ายหายลับเข้าไปในอาคารเธอจึงเหยียบคันเร่งพารถมุ่งหน้ากลับบ้านตัวเอง  ระหว่างทางเธอแทบไม่ได้คิดถึงอะไรเลยนอกจากเรื่องของพ่อและการตายปริศนาของอีวา คาวานาห์  เธอรู้สึกว่ามันแปลกตั้งแต่ที่เอฟบีไอลงมาเล่นเรื่องนี้เองแทนที่จะปล่อยให้ตำรวจท้องที่จัดการ  หรือบริษัทเกมแบบนี้จะเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศด้วย  บางทีเธออาจต้องค้นดูให้ลึกกว่านี้

เธอจอดรถในลานจอดของอาคารเพนท์เฮาส์  ล็อกรถอย่างดี  แล้วเดินขึ้นบันไดแทนที่จะขึ้นลิฟต์  เพราะมันเป็นการออกกำลังกาย  เธออยู่ชั้นที่สิบ  มักจะใช้บันไดมากกว่าลิฟต์ถ้าไม่ได้เมามา  แต่ส่วนใหญ่เธอมักจะไม่ปล่อยให้ตัวเองเมาเท่าไหร่  ติดนิสัยมาจากการเป็นสายลับ  เธอต้องระวังตัวทุกฝีก้าว  เพราะหากก้าวพลาดเพียงก้าวเดียว  นั่นอาจหมายถึงชีวิต  ไม่ใช่แค่ชีวิตของเธอ  แต่เป็นของผู้ร่วมงานและประเทศด้วย

เธอจดจำทุกอย่างที่พ่อสอน  แม้เวลาที่เขาสอนเธอจะทำเป็นไม่ฟัง  หรือเถียงแทบทุกคำ  แต่ก็นั่นละ  ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพ่อ

เสียงโทรศัพท์มือถือดังก่อนเธอจะเปิดประตูบ้านแค่สองวินาที  เคย์ล้วงมันออกมาจากกางเกง  เช็กไอดีและกดรับ  ไม่ทันจะได้ทักทาย  อีกฝ่ายก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน

"เคย์  ฉันไปหาคุณได้ไหม"

"คงไม่สะดวกค่ะ  ซีซี  ฉันมีอะไรต้องทำค่อนข้างมาก"  เคย์ตอบโดยไม่ต้องคิด  เพราะเธอไม่ได้โกหก

"รวมถึงไปกินข้าวกับหมอนิติเวชและไปส่งที่เธอบ้านด้วยเหรอคะ"

"เราทำงานร่วมกันค่ะ"  เธอตอบสั้นๆ  ปราศจากการโปรยเสน่ห์เช่นที่เคยทำเป็นประจำ  ไม่เสียเวลาคิดด้วยว่าซีซีรู้ได้ยังไงเรื่องเดน่าส์  หวังแค่ให้ซีซีรู้ว่าเธอไม่ต้องการทำเรื่องแบบนั้นด้วยอีกแล้ว  เธอไม่ปฏิเสธว่าเธอชอบเซ็กซ์  แต่ปฏิเสธการมีเซ็กซ์ซ้ำๆ กับคนเดิมซึ่งเธอไม่คิดจะคบหาลึกซึ้ง

"ถ้าคุณไม่มีอะไร  ฉันต้องขอตัวก่อน --"

"คุณเบื่อฉันแล้วเหรอ  เคย์"

เคย์เกือบไม่ได้ยินประโยคนี้  เธอกำลังวุ่นวายกับการเปิดประตูบ้าน  เธอทึ่งกับความสามารถของหญิงวัยกลางคนอย่างคุณนายฮัดสันที่สามารถเข้าบ้านเธอได้โดยไม่ต้องคอยโทรมาบ่นกับเธอว่ามันเข้ายากเหลือเกิน

"คุณไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเลยใช่ไหม  แคสเปอร์"

"ฉันว่าคุณเมาแล้วนะคะ  ซีซี  หาเพื่อนสักคนพาไปส่งบ้านเถอะค่ะ  หรือจะให้ฉันส่งแท็กซี่ไป  เอาเป็นว่าฉันจะให้แท็กซี่ไปรับคุณพากลับบ้าน..."

"ถ้าจะทิ้งกันก็ไม่จำเป็นต้องทำเป็นมีน้ำใจก็ได้ --"

"เราไม่ได้เป็นแฟนกันค่ะ  ซีซี  และฉันไม่ได้ข่มขืนคุณ  ถ้าคุณไม่ต้องการน้ำใจอย่างเพื่อน  งั้นก็แค่นี้นะคะ  ฉันมีงานต้องทำ"

"ก็ได้  ฉันยอมแพ้  ส่งแท็กซี่มารับฉันหน่อย  ฉันกลัว"  ซีซีตะโกนออกมาเหมือนเด็ก  เคย์คิดว่าคงเพราะเจ้าหล่อนเมาเหมือนเคย  ปกติซีซีจะค่อนข้างไว้ตัว  ลักษณะเป็นลูกคุณหนูที่ถูกสปอยล์มาจนเคยตัวมากกว่าเป็นเด็กสก๊อยใจแตกแบบสาววัยรุ่นบางคนที่เธอเคยเจอ  "ที่จริง  ฉันจะให้ที่บ้านมารับก็ได้  แต่คุณเข้าใจไหมว่า..."

"พ่อคุณจะบ่น  ฉันเข้าใจค่ะ"  เคย์ตอบ  เธอรู้จักชื่อเสียงพ่อของซีซีพอสมควร  เขาเป็นนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จและมีอำนาจระดับหนึ่งซึ่งที่จริงก็ควรจะกลัวด้วยที่ไปทำกับลูกสาวเขาแบบนั้น  แต่เธอก็แน่ใจว่าต่อให้ซีซีอยากงอแงกับเธอมากเท่าไหร่  ก็ไม่กล้าให้พ่อมายุ่งกับเธอ  เขาคงจะอายมากกว่าจะมาตอแยกับเด็กผู้หญิง (ในสายตาเขา) ให้กับลูกสาว

"คุณอยากได้อะไร  เคย์  ฉันจะให้คุณทุกอย่าง  คุณไม่ต้องทำงานนี้ก็ได้  ฉันจะให้พ่อ --"

"คุณเมามากแล้วค่ะ  ซีซี  วางสายก่อนนะ  ฉันโทรเรียกแท็กซี่ให้คุณ  อยู่ตรงนั้นนะ  อย่าไปไหน"

"คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่ไหน"

"โทรศัพท์คุณเป็นคนบอกฉันค่ะ"  เคย์ตอบ  และตัดสายก่อนที่ซีซีจะทันได้งอแงอ้อนเธออีก  เธอก็ใช่จะใจร้ายใจดำจริงๆ เสียเมื่อไหร่

เธอวางกุญแจรถลงกล่องหลังจากล็อกประตูบ้านเรียบร้อย  ถอดแจ็กเกตออกแขวน  พลางมองรอบบ้านอย่างระวังอย่างเช่นทุกครั้งที่เข้ามา  มันเป็นความเคยชิน  เธอเช็กจีพีเอสจากโทรศัพท์มือถือซีซี  และสั่งให้แท็กซี่ไปรับหล่อนโดยให้ส่งบิลมาเก็บที่เธอ  แท็กซี่นิวยอร์กยุคนี้ทันสมัยดีจริง

เธอตรงเข้าห้องน้ำชำระร่างกายจัดการกับตัวเองหลังเทคแคร์ซีซีเสร็จแล้ว  เธอชงชารสเข้มแบบอังกฤษที่ติดมาตอนอยู่ลอนดอนสองปี  และเดินเข้าห้องทำงานที่ต้องยุ่งกับรหัสสองชั้นให้เสร็จก่อน  เคลียร์เอกสารยุ่งๆ บนโต๊ะออก  วางถ้วยชาและกางสมุดบันทึกคดีของมิสคาวานาห์  แม้ว่าจะยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเป็นคดีฆาตกรรม  แต่เมื่อวาเลนเซียกับเอฟบีไอสนใจ  มันย่อมสำคัญมากพอ

เคย์ใช้เวลากับการครุ่นคิดและจดความคิดของตัวเองเกี่ยวกับคดีจนกระทั่งนาฬิกาดิจิทัลบนโต๊ะบอกเวลาเที่ยงคืน  เธอเอื้อมหยิบถ้วยชาก่อนจะจำได้ว่ามันหมดไปนานแล้ว  จากนั้นก็บอกตัวเองว่าวันนี้ควรพอแค่นี้  เธอควรนอนให้ครบแปดชั่วโมง  ถ้าไม่อยากสมองทึบจนคิดอะไรไม่ออกในวันรุ่งขึ้น  เธอจะมีระเบียบกับตัวเองแบบนี้  ยกเว้นเวลามีแขก  ปกติแล้วเธอจะไม่ค่อยรับแขกที่บ้าน  นอกจากจะแน่ใจว่าพวกเธอๆ จะไม่ซนจนยุ่งกับความลับของเธอ  ดังนั้น  เธอจึงมักจะใช้โรงแรมหรือห้องพักแขกเป็นที่เล่นสนุกกัน  เวลาจากกันมันง่ายดีด้วย  ในกรณีซีซีจึงนับว่าเป็นความผิดพลาดอย่างรุนแรง  ซึ่งเธอสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทำอีก

เธอล็อกห้องทำงาน  นำถ้วยชาไปล้างเก็บในครัว  เรื่องเล็กๆ แบบนี้เธอจะไม่ทิ้งไว้ให้คุณนายฮัดสันทำ  เธอติดนิสัยรักสะอาด  เจ้าระเบียบจุกจิกเพราะต้องดูแลบ้านแทนพ่อมาตั้งแต่เด็ก  และอยู่คนเดียวเป็นส่วนใหญ่เวลาพ่อออกไปทำงาน  บางครั้งเธออยู่บ้านคนเดียวสองสามเดือน  ทั้งที่เรียนอยู่แค่ชั้นประถม  เธอดูแลตัวเองได้ระดับหนึ่งเพราะสถานการณ์บังคับ  บางทีเพื่อนของพ่อก็จะแวะมาหา  เอาอะไรมาให้กินบ้าง  หากไม่มีใครเคยอยู่เป็นเพื่อนจากความจำเป็นหลายๆ อย่างของพวกเขา 

เธอไม่มีเพื่อนเลย  และไม่คิดว่าจะต้องมีด้วย  ก่อนหน้านั้นเธอต้องย้ายโรงเรียนตามพ่อทุกครั้งที่พ่อย้ายที่ทำงาน  บางครั้งก็เป็นต่างประเทศ  ไม่ใช่แค่ต่างเมืองและถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวประจำ  แต่หลังจากที่หัวหน้าพ่อตักเตือนว่ามันเสี่ยงเกินไปที่จะให้เด็กผู้หญิงไปตะลอนๆ แบบนั้น  พ่อจึงให้เธอมาอยู่บ้าน  เรียนโรงเรียนที่เธอจบมา  ขณะที่เขาออกไปทำงานข้างนอก  และไหว้วานให้เพื่อนๆ มาช่วยดูเธออยู่ห่างๆ 

เธอเคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระของเขา  เคยพูดตัดพ้อกับเขาเวลาเราผิดใจกัน  แต่เขายืนยันกับเธอว่าไม่ใช่  เธอเป็นกำลังใจของเขาต่างหาก  เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขาอยากมีชีวิตอยู่  เธอถามเขาว่าเขาไม่ได้อยู่เพราะงานหรือเพราะประเทศอย่างเดียวหรือ  เขาส่ายหน้าตอบว่าไม่ใช่  เธอต่างหาก  เธอคือของขวัญที่คนที่เขารักที่สุดให้เขามา  และเขารู้สึกผิดมากที่ดูแลเธอได้ไม่ดีเท่าที่เขาอยากทำ  สายลับไม่ควรมีครอบครัว  ไม่ควรมีลูก  แต่เขากลับฝืนความรู้สึกอยากมีสิ่งเหล่านี้เหมือนคนธรรมดาทั่วๆ ไปไม่ได้  เขาจึงขอแม่แต่งงาน  กระนั้นเพราะงานของเขานั่นเองที่ทำให้เขาต้องเสียแม่ไป  เขาโทษตัวเองที่ดูแลแม่ได้ไม่ดี  แม้เขาจะยิ้มง่ายหรือหัวเราะเก่งแค่ไหน  ข้างในใจของเขามันกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น

น้อยคนที่จะรู้จักชื่อจริงของพ่อ  เขาจะใช้ชื่อปลอมเวลาแฝงตัวไปทำงาน  ต้องทำเป็นคนอื่น  แบบเดียวกับที่เธอทำเมื่อก่อนตอนอยู่ลอนดอน  ตอนที่พาเธอย้ายไปอยู่ต่างเมืองด้วยก็เหมือนกัน  เราสองพ่อลูกไม่ได้ใช้ชื่อนี้  ไม่มีใครรู้จักคริสโตเฟอร์กับแคสเปอร์  เคย์แมน  เรามีชื่อเยอะมากจนเธอก็จำไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไรบ้าง  นึกถึงตอนนั้นก็สงสารตัวเองอยู่นิดหน่อย  แต่เวลานั้นมันเป็นเรื่องสนุก  เธอไม่ได้คิดอะไรมาก  แค่ขอได้อยู่กับพ่อก็พอแล้ว 

"พ่อไปมัวหลอกสาวอยู่ที่ไหนหรือเปล่า"  เคย์พึมพำระหว่างมองเพดานสีขาวในห้องมืดสลัว  กอดตุ๊กตาหมีเก่าแก่ที่พ่อซื้อให้ตอนเด็ก  มันติดตัวเธอไปทุกที่แม้แต่ลอนดอน  บางคืนที่เธอนึกกลัวหรือเหงาขึ้นมา  เธอจะเอามันมากอดแบบนี้  พ่อเคยบอกว่ามันจะช่วยปกป้องเธอแทนพ่อ  เธอเคยคิดว่าเขาหลอกเด็กแบบเธอให้เชื่อเท่านั้น  แต่พอโตขึ้นมาเธอก็รู้ความหมายที่เธอจริงของมัน  มันไม่ได้ปกป้องร่างกายของเธอ  หากปกป้องจิตใจ

"ถ้าพ่อยังสบายดี  ส่งข่าวมาบอกเคย์อีกนะ  เคย์จะรอ"  เธอพูดกับความมืด  พลางเอื้อมไปปิดสวิตซ์โคมไฟหัวเตียง  พยายามจะหลับโดยไม่ให้ความฝันใดๆ มากวนใจ

..........................................

ปรากฏว่ามันมีลักษณะการตายที่คล้ายคลึงกันกับที่เกิดขึ้นกับอีวาในเมืองอื่นด้วย  ที่นั่นคือซีแอตเทิล  และผู้ตายเป็นหุ้นส่วนบริษัทเกมเช่นกัน  เคย์อยากจะพูดว่าเป็นเรื่องบังเอิญถ้าเหยื่อ (เมื่อขยับจากการฆ่าตัวตายมาเป็นคดีที่ตำรวจให้ความสนใจ  ผู้ตายมักจะถูกเรียกว่า "เหยื่อ" โดยปริยาย) ทั้งสองไม่ได้รู้จักกัน  และกำลังพูดคุยถึงการจะร่วมทุนด้วยกัน  แต่น่าแปลกที่ไม่มีใครในบริษัท Nirvana (บริษัทเกมที่อีวาเป็นหุ้นส่วนร่วมกับแคทเทอรีนและเพื่อนอีกสามคน) รู้เรื่องนี้เลย  แม้แต่แคทเทอรีน  เฮกส์  ทว่าแคทเทอรีนได้แก้ต่างให้กับ (อดีต) แฟนสาวว่า  อีวาอาจจะแค่กำลังคุยๆ อยู่จึงยังไม่มีการนำมาปรึกษากับหุ้นส่วนคนอื่นหรือเจ้าตัว  และเมื่อถามถึงว่าอีวามีท่าทีที่จะขอแยกบริษัทหรือไม่  แคทเทอรีนก็ตอบว่าไม่มีในชั้นแรก  แต่ต่อมากลับเปลี่ยนใจพูดว่า  "อาจจะคิดอยู่ในใจก็ได้"  ซึ่งทำให้เคย์กับวาเลนเซียมองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมาย 

"ถ้าเป็นแบบนี้  ฉันคงต้องขอความร่วมมือ  ขอเช็กห้องทำงานของมิสคาวานาห์ด้วย  รวมถึงสอบถามกับพนักงานทุกคนของคุณ  ไม่เว้นกระทั่งแม่บ้าน  ประชาสัมพันธ์และรปภ."  วาเลนเซียพูดอย่างเป็นทางการ  ความไม่พอใจประกาศชัดบนใบหน้าแคทเทอรีนแทนความโศกเศร้า

"ในสถานการณ์แบบนี้เหรอคะ  ระหว่างที่พวกเรากำลังทุกข์ระทม"

"ฉันเข้าใจค่ะ  แต่นี่เป็นการทำงานของเรา"  ผู้กองสาวยืนยัน

"แล้วถ้าฉันไม่ยอมล่ะคะ"

"ถ้าคุณต้องการหมายค้น  ฉันจัดการให้ได้นะ"  เคย์พูดแทนหัวหน้า  สีหน้านิ่งขรึม  นัยน์ตาสีน้ำตาลคมกริบด้วยสโมกี้อายบางๆ  และริมฝีปากแดงจัด  ผมบลอนด์ทองที่ย้อมมาสีอ่อนลงอีกเฉด  ทำให้เธอคล้ายนักร้องแนวป๊อปพังก์แบบพิงก์เข้าไปใหญ่  เป็นจุดสนใจทั้งที่สำนักงานตัวเองและบริษัทเกมแห่งนี้ด้วย  โดยเฉพาะลินดา  ประชาสัมพันธ์ของ Nirvana ที่มองตามหลังเธอคอแทบบิด  ซีซีก็ตาค้างมาคนหนึ่งแล้ว  ส่วนวาเลนเซียทำท่าเหมือนอยากจะไล่ให้เธอไปลบมันออก  หากกลับดึงเธอขึ้นรถมาด้วยกัน  ตัดหน้าคุณหมอมาวิสที่กำลังจะเอ่ยทักเธอที่หน้าประตูสำนักงานแค่เสี้ยวนาที  แต่ตอนนี้เธอดูออกเลยว่าแคทเทอรีนไม่ค่อยปลื้มเธอหนักกว่าเดิมเสียอีก

ผีเห็นผีด้วยกันหรือเปล่า

"แต่ฉันไม่ว่างมาดูแลพวกคุณ"  แคทเทอรีนอ้าง  "ฉันต้องไปช่วยพ่อแม่ของอีฟจัดการเรื่องงานศพ"

"ไม่เป็นไรค่ะ  พวกเราดูแลตัวเองกันได้"  วาเลนเซียบอก  และรีบพูดเสริม  "เราจะทำงานร่วมกับตำรวจท้องที่ค่ะ  รับรองว่าจะสร้างความวุ่นวายน้อยที่สุด  แค่เพียงพวกคุณให้ความร่วมมือกับเรา"

"เรื่องนี้จำเป็นต้องให้เอฟบีไอแบบพวกคุณมาดูแลเลยหรือ  มันไม่มากไปหน่อยหรือไง  แค่คนฆ่าตัวตายคนเดียว"

"ทำไมคุณถึงมั่นใจว่า  คุณอีวาฆ่าตัวตายคะ"  เคย์ถาม  แน่นอนว่าแคทเทอรีนไม่อยากพูดกับเธอ  แต่จำเป็นต้องตอบ  ไม่มีใครอยากมีเรื่องกับเอฟบีไอเท่าไร  มันไม่ดีต่อธุรกิจ

"ห้องไม่ได้ถูกงัดแงะ  ไม่มีร่องรอยของผู้บุกรุก  ตำรวจนิวยอร์กบอกกับฉัน  ถ้าไม่ใช่การฆ่าตัวตายจะเป็นอะไรไปได้  และโรคที่เธอเป็นอีกล่ะ"

"ความสัมพันธ์ของคุณกับเธอยังดีกันอยู่ไหมคะ"  เคย์ถามอีกครั้ง

"เกี่ยวอะไรกับเรื่องส่วนตัวของเรา"  แคทเทอรีนย้อนเสียงแข็ง  แทบจะกระโดดกัดคอเคย์  และอาจแสดงท่าทางไม่พอใจมากกว่านี้ถ้าไม่เกรงใจวาเลนเซียที่เอ่ยชี้แจงอย่างน่าฟัง

"มันเป็นขั้นตอนหนึ่งของการสืบสวนค่ะ  ถ้ากระทบกระเทือนจิตใจของคุณ  เราก็ต้องขอโทษด้วย  แต่มันจำเป็นจริงๆ ค่ะ  และฉันเชื่อว่าทางตำรวจท้องที่คงจะสอบถามคุณเช่นกัน  ถ้าพวกเขารู้อย่างที่พวกฉันรู้ว่าคุณกับเธอเป็นอะไรกัน"

ฉลาดจริงๆ เลย  วาเลนเซีย  --  เคย์ชมหัวหน้าสาวในใจ  เสน่ห์เธอใช้กับแคทเทอรีนไม่ได้  คงต้องให้วาเลนเซียออกหน้าแทน  บางทีแคทเทอรีนอาจเกลียดคนแบบเธอเข้าไส้เลยก็ได้  ดูจากท่าทางและสายตาที่มองเธอ 

แล้วเธอต้องแคร์หรือไง

"ฉันไปที่อื่นก่อนก็ได้ค่ะ  ถ้าคุณรู้สึกไม่สะดวก"  เคย์เสนอ  สบตาวาเลนเซียหันมามองหน้า  เธอพยักหน้าน้อยๆ ให้หัวหน้าสาวซึ่งต้องยอมเออออไปกับเธอด้วย 

"ห้องทำงานของมิสคาวานาห์อยู่ที่ไหนคะ  โอ้  ไม่เป็นไรค่ะ  ฉันไปถามเอาข้างหน้าก็ได้  และถ้าคุณอยากได้หมายค้น  ขอกับหัวหน้าฉันนะคะ"

"คุณทำงานกับคนแบบนี้ได้ยังไงกัน  ผู้กอง"  แคทเทอรีนถามงงๆ หลังเคย์ลับตัวไปอย่างรวดเร็ว

"ฉันก็ถามคำถามนี้กับตัวเองอยู่เหมือนกันค่ะ"  วาเลนเซียตอบ  ซ่อนยิ้มไว้ภายใต้ใบหน้านิ่งเฉย  และท่าทางเป็นมืออาชีพ 

"เริ่มกันเลยนะคะ"  เธอพูดอีกครั้งพร้อมกับเอาสมุดบันทึกเล่มเล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท  เชิญตัวเองนั่งบนเก้าอี้ของแขกหน้าโต๊ะทำงานของแคทเทอรีนที่เจ้าของมันยังยืนทื่ออยู่ที่เดิม 

ผู้กองสาวได้ยินเสียงถอนใจหนักๆ จากฝั่งตรงกันข้าม  ท่าทีแข็งกร้าวของแคทเทอรีนจางลงแล้วเมื่อเคย์เดินออกไปจากห้อง  ทำให้เธอรู้ว่านั่นเป็นแค่การป้องกันตัวเท่านั้น

แคทเทอรีนรู้สึกถูกคุกคาม  เคย์มักจะทำให้คนอื่นรู้สึกแบบนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ  หรืออาจจะตั้งใจ  ไม่อย่างนั้นคงไม่แต่งตัวบ้าๆ แบบนี้มา

"พวกคุณคบกันมานานหรือยัง  แล้วมีคนอื่นรู้ไหม"

วาเลนเซียหยุดปากกาที่กำลังเขียน  เหลือบตาขึ้นมองแคทเทอรีน  ประหลาดใจ  อยู่ดีๆ เธอกลับเป็นฝ่ายถูกสอบถามแทน

"คุณเข้าใจความรู้สึกของคนที่ต้องแอบคบกันไหม --"

"เดี๋ยวค่ะ  ฉันกับเจ้าหน้าที่แคสเปอร์ไม่ได้เป็นอะไรกันนะคะ"  เธอเอ่ยขัดแคทเทอรีนก่อนที่เรื่องมันจะไปกันใหญ่  "เราแค่ทำงานด้วยกันค่ะ"

"งั้นหรือคะ  งั้นฉันก็คงมองผิดสินะ"  แคทเทอรีนพูด  ยักไหล่  "แต่ฉันไม่คิดว่าจะมองผิดนะ  สายตาพวกคุณน่ะโดยเฉพาะเขา  เขาชื่นชมคุณ  หลงรักคุณ  และคุณก็เป็นห่วงเขามากด้วย  ดูผิวเผินเหมือนการเป็นห่วงของพี่สาวกับน้อง  แต่มันไม่ใช่..."

"ฉันว่าคุณเข้าใจผิดแล้วค่ะ  เขาเป็นลูกน้องฉัน  เราทำงานด้วยกันมานาน  และจริงๆ ฉันก็ไม่ได้มีหน้าที่มาอธิบายเรื่องนี้กับคุณ  คุณต่างหากที่ต้องอธิบาย  คุณเฮกส์"

"เพราะแบบนี้เอง  เขาถึงชอบคุณ"

วาเลนเซียอ้าปากจะคัดค้าน  แต่แคทเทอรีนพูดขึ้นมาก่อน

"นั่นเป็นวันสุดท้ายที่เราเป็นแฟนกันค่ะ" 

"หมายความว่า..."

"ใช่ค่ะ  ฉันขอเลิกกับเธอ  เพราะฉันทนการหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ได้แล้ว"

"เพราะแบบนั้น  คุณถึงคิดว่าเธอฆ่าตัวตายสินะคะ"

แคทเทอรีนพยักหน้า  "เพราะอีฟไม่มีศัตรูที่ไหนเลย  ฉันถึงไม่คิดว่าจะมีใครฆ่าเธอ  และปกติแล้วอีฟเป็นคนน่ารัก  ใครๆ ก็รักเธอ  คุณก็เห็นแล้ว  ทั้งบริษัทโศกเศร้ากันแค่ไหน  ฉันเสียอีกที่มีแต่คนไม่ชอบ"

วาเลนเซียไม่ออกความเห็นเรื่องนี้  เพราะเธอยังไม่ได้สอบถามใครในบริษัท  ยกเว้นประชาสัมพันธ์ที่เคย์คุยด้วยเมื่อวานและนำมาเล่าให้ฟัง 

"คุณช่วยเล่าเรื่องของคุณอีวาทั้งงานและส่วนตัว  ครอบครัวเท่าที่คุณรู้ให้ฉันฟังหน่อยนะคะ  ถือซะว่าเป็นสิ่งสุดท้ายที่คุณจะทำให้เธอ"  เธอลองเสี่ยงดวงกับหญิงสาวผู้หัวใจแตกสลาย  พยายามแสดงความจริงใจไปกับแววตาของตัวเอง  ลุ้นระทึกอยู่ในใจจนกระทั่งแคทเทอรีนพยักหน้า 

ถ้าเคย์อยู่ใกล้ๆ  เธอคงจะหันไปยิ้มด้วยอย่างลืมตัวไปแล้ว  ดีแล้วที่ไม่อยู่  เธอไม่อยากจะ...

"ถ้าคุณรักเขาเหมือนกัน  ก็อย่ารอให้มันสายไปนะคะ  ผู้กอง"

วาเลนเซียทำเป็นไม่ได้ยินคำแนะนำนั้น  และเอ่ยถามคำถามต่อไปกับแคทเทอรีน  เฮกส์

............................................

เคย์แยกกับวาเลนเซียทันทีที่ถึงสำนักงาน  ต่างคนต่างเข้าห้องเงียบ  เพราะเราคุยกันหมดแล้วเรื่องคดี  ตอนขับรถกลับมาจาก Nirvana (คนที่ตั้งชื่อนี้คงจะเป็นแฟนคลับของวงนี้หรือ เคิร์ท โคเบน  หรือเป็นนับถือพุทธ)

ดูเหมือนวาเลนเซียจะไม่ค่อยอยากคุยกับเธอนัก  ถ้าไม่ได้ทำงานด้วยกันก็คงจะไม่ได้เจอกันด้วย  เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว  ผู้หญิงถ้าไม่ชอบเธอก็เกลียดเธอไปเลย  แคทเทอรีนคงเป็นหนึ่งในประเภทที่สอง  ส่วนวาเลนเซีย  เธอไม่รู้จริงๆ  บางครั้งตาสีฟ้านั่นก็บอกว่าแคร์เธอมาก  แต่บางทีมันก็บอกถึงความชิงชังเธออย่างร้ายแรง  เธอเคยคิดเล่นๆ ว่าวาเลนเซียแกล้งชอบเธอ  เพราะจะใช้งาน  เพราะเธอยังมีประโยชน์อยู่  เมื่อใดที่หมดประโยชน์ก็คง...

ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย  ถ้าเธอจะต้องอกหักซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะคนคนเดิม  เธอพอใจที่จะเป็นแบบนี้เอง 

เคย์นั่งเขียนงานอยู่เงียบๆ ก่อนที่ใครบางคนจะเปิดประตูเข้ามาอย่างถือวิสาสะและกดล็อกลูกบิด  มองเธอด้วยแววตากล่าวโทษปนยั่วยวนระหว่างหมุนมู่ลี่ปิดจนไม่เห็นใครภายนอก  และคงไม่มีใครเห็นเรา

"ซีซี"

"เราต้องคุยกันนะ  เคย์  ต้องคุยจริงๆ"

"อะไรคะ  คุณท้องเหรอ  เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ  คุณก็รู้ว่าฉัน --"

"คุณอย่าพูดเล่นได้ไหม  แคสเปอร์"

"ค่ะ  งั้นว่ามาค่ะ  ฉันให้เวลาคุณ..."  เคย์เหลือบมองนาฬิกาข้อมือ  ยังไม่ทันได้พูดก็ต้องเบี่ยงหน้าหลบจูบของอีกฝ่าย  "ซีซี  คุณเริ่มจะล้ำเส้นแล้วนะคะ  อย่าให้ฉัน --"

"ฉันไม่ได้ขอคุณเป็นแฟนนะ  แคส  ฉันแค่อยากได้คุณเฉยๆ"

"โอ้  ตรงดีจัง"  เคย์พึมพำ  ซีซียักไหล่  ท่าทางไม่แคร์แบบผู้หญิงถูกตามใจจนเคยชิน  "แต่ฉันก็ยังไม่เห็นด้วยอยู่ดีค่ะ  ฉันไม่ใช่ของเล่นของคุณ"

"ใครบอกว่าคุณเป็นของเล่นของฉันล่ะ  เคย์  ฉันจะเป็นของเล่นให้คุณต่างหาก"  ซีซีแย้ง  แววตาออดอ้อนมาพร้อมกับมือที่ลูบต้นขาเคย์  "ฉันอยากจะขอบคุณคุณด้วย  สำหรับแท็กซี่เมื่อคืน"

"ฉันทำในฐานะเพื่อนนะคะ  เพราะคุณเคยดูแลฉันมาก่อนตอนที่ฉันอยู่ลอนดอน  คุณช่วยเหลือฉัน"

"นั่นมันเป็นงานค่ะ  แต่นี่ไม่ใช่  ระหว่างเรามันไม่ใช่แค่นั้น  คุณก็รู้"

เคย์ส่ายหน้า  แม้ใจจะไขว้เขวไปเพราะมือที่ลูบขึ้นลูบลงจนขนลุกซู่  และคอเสื้อคว้านต่ำของอีกฝ่ายซึ่งจงใจจะก้มลงให้เธอเห็นเนินเนื้อสองก้อน  นมหนองโพแสนอร่อยที่เธอปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ชอบกินมัน

"ฉันต้องทำงานค่ะ  ซีซี  มีคดีที่ต้อง --"

"แค่สิบนาทีเท่านั้นเอง"  ซีซีแทรกพร้อมเบียดหน้าอกตัวเองใส่หน้าเคย์เต็มเปา  เอเจนท์สาวพยายามเบี่ยงหนีแต่คนที่ได้รับการฝึกมาพอสมควรก็รู้ทันเธอและนั่งทับเธอทันที  จับมือเธอไปบีบเต้าเต่งตึง  ครางกระเส่าข้างหูจนสติเธอกระเจิดกระเจิง  ซีซีเป็นผู้หญิงใจง่ายที่จับทางเธอถูก  กว่าจะรู้ตัวมือเธอก็สอดเข้าไปในกระโปรงสั้นกุดของเจ้าหล่อน  ลอดผ่านกางเกงชั้นในเข้าไปในความลึกลับฉ่ำร้อนเสียแล้ว

"คุณอาจหนีฉันพ้น  แต่คุณหนีตัวเองไม่ได้หรอก  รู้ไหม  เคย์"  ซีซีพูดปนหอบ  และหวีดร้องในปากเคย์ที่เข้ามาประกบอย่างรู้เวลา  ไม่อยากให้คนข้างนอกได้ยินเสียงเรา  แม้ใครหลายคนจะเดาได้ถ้าเธอหายเข้ามานานขนาดนี้

"คราวนี้ก็ตาคุณบ้าง" 

เคย์ตั้งท่าจะปฏิเสธ  หากซีซีก็เร็วเหลือเชื่อ  ทำให้เธอเคลิ้มกับปากช่ำชองที่ขบเม้มติ่งหู  และปลายนิ้วที่ลูบไล้เธอนอกร่มผ้า  ก่อนจะบริการเธออย่างถึงใจด้วยปลายลิ้น  เธอต้องกัดนิ้วตัวเองพร้อมกับกำเรือนผมของซีซีระบัดระบายความทรมานจากกิจกรรมหรรษาแบบนี้ 

จริงอย่างซีซีว่า  เธอหนีความเป็นตัวเองไม่ได้  เธอเสพติดเซ็กซ์...

"คุณอร่อยจริงๆ เลย  เคย์"  ซีซีพูดอย่างไม่ละอายใจ  ขณะที่เคย์พูดไม่ออกไปชั่วคราว  เธออยากได้อีกครั้ง  และเหมือนซีซีจะอ่านอาการเธอได้  เจ้าหล่อนจึงสนองความต้องการให้แบบไม่ต้องขอ

"แคสเปอร์  คุณล็อกประตูทำไม"

ฉิบหาย  แม่มา!

"แคสเปอร์" เสียงเรียกครั้งที่สองดึงสติเคย์กลับมาทั้งหมด  เธอผลักศีรษะซีซีออกไปจากหว่างขาตัวเอง  และดึงกางเกงขึ้นทันที 

"อยู่เงียบๆ  อยู่ตรงนั้น"  เคย์สั่งซีซีตาวาว  ดึงทิชชูมาเช็ดปากที่ลิปสติกตัวเองกับซีซีเบียดกันจนเละเทะ  และโยนมันทิ้งถังขยะใต้โต๊ะที่ซีซีแอบอยู่  เธอเดินไปเปิดประตู  พลางภาวนาไม่ให้วาเลนเซียได้กลิ่นอะไร  แม้จะรู้สึกไม่สบายตัวเอาเสียเลย  กางเกงในเธอมันเปียก...ทั้งน้ำลายและน้ำรัก

"ว่าไงคะ  ที่รัก"  เธอโผล่แค่หน้าไปถาม  ไม่ยอมเปิดประตูจนหมด  วาเลนเซียขมวดคิ้ว  ความระแวงสงสัยฉาบเต็มใบหน้าและแววตา  "ถ้าจะออกไปสืบอะไรอีก  ฉันขอตัวสักครู่นะคะ  พอดีเผลองีบไป  ต้องไปล้างหน้าล้างตา"

"งั้นฉันไปรอข้างนอก  สิบนาทีพอไหม"

"ห้านาทีก็ได้ค่ะ  ฉันจะรีบไปนะ" เคย์บอก  ฉีกยิ้มให้หัวหน้าสุดที่รัก  วาเลนเซียหันหลังจะเดินจากไปแล้ว  แต่กลับหันกลับมาใหม่  พุ่งมือมาดันประตูห้องทำงานเธอเปิดจนกว้าง  เคย์ดีใจที่ซีซีไม่ชะล่าใจคลานออกมาก่อน  หัวหน้าจึงไม่เจออะไร  แต่ว่า...

"คุณจะทำอะไร  มันก็เรื่องส่วนตัวของคุณ  และนี่ห้องคุณ  แต่ถ้าจะออกไปข้างนอก  ก็อย่าลืมรูดซิปกางเกงด้วยนะ  รู้จักอายบ้างเถอะ"

ประตูห้องปิดดังปัง  เคย์ยืนสะดุ้งเฮือก  เหลือบตาไปมองซีซีที่โผล่ออกมาจากใต้โต๊ะ  ส่งยิ้มแห้งๆ อย่างรู้สึกผิดมาให้  แต่ไม่นานหรอก  เดี๋ยวก็ลืมหมดแล้ว  และก็จะทำอีกแน่ๆ

"อีกห้านาทีค่ะ  เคย์"  ซีซีพูดพร้อมกับฉีกยิ้มไร้เดียงสา

เคย์กลอกตามองเพดาน  เธอไม่น่าหาเรื่องเลยจริงๆ   



...................


โอย  งานก็จะทำ  สาวก็อยากจะได้  เคย์เอ๋ย...  55555555     :27:  :61:  :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

16 กรกฎาคม 2018 เวลา 07:09:16
เอาแล้วมันพันคอ ขว้างไม่พ้นคอแล้วทีนี่ สมน้ำหน้า  :27:
แสดงความคิดเห็น