web stats

ข่าว

 


Immortals (Sparkle 4) - บทที่ 15 Storm

โพสต์โดย: anhann วันที่: 15 มิถุนายน 2018 เวลา 23:01:09 อ่าน: 256


บทที่ 15 Storm




แคลร์นั่งรอผู้ปกครองมารับอยู่ในสนามเด็กเล่น  อ่านหนังสือตามปกติ  ครูซวิ่งเล่นอยู่กับเพื่อนๆ ที่รอพ่อแม่มารับเหมือนๆ กัน  คุณครูคอยมองพวกเราอยู่ใกล้ๆ  ระวังไม่ให้มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเรา  ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะพวกเราทำร้ายตัวเองด้วยความไร้เดียงสา  และรู้เท่าไม่ถึงการณ์  แด๊ดดี้ยุนอาพูดเรื่องนี้ให้เธอฟัง  และบอกว่ามันก็ไม่ได้ผิดอะไรนักหนาหรอก  ถ้าเราจะซนกันบ้าง  มันเป็นธรรมชาติของเด็กๆ  แต่เธอว่าครูซไร้สาระเกินไปนิดหนึ่ง  ตรงที่บางทีเขาก็เล่นจนลืมทำการบ้าน  แล้วมาขอลอกเธอ

"เฮ้  ยังไม่มีใครมารับเหรอ" 

แคลร์เงยหน้าขึ้นจากหนังสือ  มองเจ้าของเสียงทักทาย  รอยยิ้มนี้ทำให้เธอแสบตาทุกที  สงสัยโดโรธีจะฟันขาวเกินไปหน่อย 

"วันนี้ใครมารับ  ปะป๊า  หรือมะม๊า  หรือแด๊ดดี้"  โดโรธีถามร่าเริง  กระโดดขึ้นมานั่งบนท่อปูนซีเมนต์ข้างกันกับเด็กหญิงตัวเล็ก 

แคลร์ปิดหนังสือ  ทำหน้านึก  พลางมองครูซไปช่วยเจย์เดนที่โดนเพื่อนแกล้งเอาทรายมาโรยหัว  และกว่าจะรู้ตัวว่าเธอทำอะไรลงไป  เด็กชายคนที่แกล้งเจย์เดนก็ลงไปนอนกองบนพื้น  ร้องไห้ระงมไปแล้ว  แถมเขายังเรียกเธอว่า  "ยายปีศาจ" ด้วย

"ฉันไม่ใช่ปีศาจ  แกน่ะสิ  ปีศาจ  แกแกล้งน้องชายฉัน!" แคลร์ตวาด  เกือบจะเตะเด็กชายเคราะห์ร้ายซ้ำ  ถ้าโดโรธีไม่เข้ามาห้ามเอาไว้ก่อน

"แคลร์  อย่า!  คุณครูมาแล้ว"  โดโรธีดันแคลร์ไปให้ครูซจับไว้  และเข้าไปช่วยพยุงตัวเด็กชายขี้แกล้งขึ้นมา  ปลอบเขา  เขาเลิกร้องไห้แล้ว  แต่ก็ร้องขึ้นมาใหม่เมื่อคุณครูเข้ามาดู  แถมยังฟ้องครูว่าแคลร์แกล้งเขาอีกด้วย

"ไม่ใช่ค่ะครู  หนูเป็นพยานได้  เขาเอาทรายใส่ศีรษะเจย์เดนก่อน"  โดโรธีพูด  ครูสาวมองหน้าเธอเหมือนจะไม่เชื่อ  อาจคิดว่าเธอสนิทกับแคลร์และบ้านสมิธ  เลยเข้าข้างกัน  "ครูถามคนอื่นก็ได้ค่ะ  ถ้าไม่เชื่อหนู"

"โอเคจ้ะ  ครูเชื่อ"  คุณครูพูด  พลางหันไปหาเด็กชายคนก่อเรื่อง  ตอนนี้หน้าเขาหดเหลือสองนิ้วทั้งที่มีเพื่อนๆ มาคอยเชียร์อยู่ใกล้ๆ  "ขอโทษเจย์เดนค่ะ  บาธ"

"ทำไมต้องขอโทษครับ  พวกนี้เป็นปีศาจจริงๆ นี่นา"

"ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะคะ"

"ก็..."  เด็กชายบาธกำลังจะเอ่ยปากพูด  แต่เขาก็วิ่งแจ้นหนีไปทันที  เพราะหันไปเห็นเขี้ยวแหลมๆ ของแคลร์ที่หายไปก่อนที่คุณครูจะหันไปเจอ

"เอ่อ  เดี๋ยวครูจะไปจัดการเขาให้นะคะ"

"ไม่เป็นไรค่ะ  หนูไม่ถือสาเขาหรอก"  แคลร์บอกด้วยรอยยิ้ม  พลางปัดทรายออกจากศีรษะและเสื้อผ้าให้เจย์เดน  ครูซก็ไปหยิบกระเป๋าของน้องมาทำความสะอาดให้ด้วย

"เดี๋ยวหนูดูพวกเขาให้ค่ะ  คุณครู"  โดโรธีอาสา  ครูสาวลังเล  แต่ด้วยความจำเป็นที่ครูเวรมีน้อย  เธอจึงต้องไปดูแลเด็กๆ คนอื่นด้วย  "งั้นครูฝากด้วยนะคะ"

"ไม่มีปัญหาค่ะ"  โดโรธีบอกเสียงใส  ยิ้มให้ครูสาวใจดีที่จากไปแล้ว  ก่อนจะหันมาหาเด็กสมิธสามคน  เธอจ้องหน้าแคลร์นานกว่าคนอื่น  ยิ้มเลือนหายไปแล้ว  "เธอทำแบบนั้นทำไม  แคลร์  ไม่รู้หรือไงว่ามันอันตราย"

"ไม่มีใครเชื่อเขาหรอก  คนจะหาว่าเขาเป็นบ้า"  แคลร์เถียงทันที  ครูซก็ยื่นมือมาแตะกับพี่ฝาแฝดอย่างชอบใจ  แต่เขาก็ชิงหนีไปกับเจย์เดนเมื่อโดโรธีหันไปจ้องหน้าเขาด้วยดวงตาสีฟ้าเย็นเยียบ  ทิ้งให้แคลร์อยู่กับบรรยากาศน่าขนหัวลุกคนเดียว

"พี่จะฟ้องแม่ฉันใช่ไหม"  แคลร์ถาม  ความมั่นใจลดลงจากใบหน้าอย่างรวดเร็วเมื่อโดโรธีทำหน้าดุๆ แบบนี้  "เขาแกล้งน้องฉันนี่"

"พี่รู้  แต่เขาเป็นมนุษย์นะ"  โดโรธีกระซิบกระซาบ  มองซ้ายขวากลัวคนอื่นจะมาได้ยิน  "ถ้าเขาไปฟ้องพ่อแม่ขึ้นมาล่ะ  แล้วพ่อแม่เขาเชื่อ  เธอจะทำยังไง"

"ไม่มีใครเชื่อหรอก  พวกเขาไม่รู้ว่าเรามีอยู่จริง"

"ก็ไม่แน่หรอกนะ"

แคลร์หน้าเสียไปทันที  แต่โดโรธีก็ลูบไหล่เธอ  ทำนองปลอบใจ

"ไม่เป็นไร  คราวนี้พี่ยกให้  แต่อย่าทำอีกนะ  เธอต้องควบคุมตัวเอง  เธอแข็งแรงกว่าพวกเขา  เธออาจทำให้พวกเขาตายได้แค่ออกแรงนิดเดียว  เธอคงไม่อยากฆ่าคนหรอกใช่ไหม" 

แคลร์พยักหน้า  โดโรธีพูดมีเหตุผลเหมือนเวลาแด๊ดดี้ยุนอาสอนเธอ

"งั้นไปนั่งตรงนั้นกัน  รถบ้านพี่ก็ยังไม่มารับเหมือนกัน"  โดโรธีบอก  จับแขนแคลร์ดึงเบาๆ ให้กลับไปนั่งบนท่อปูนซีเมนต์ที่เก่า  พลางล้วงกระเป๋ากระโปรงนักเรียน  หยิบของเล่นชิ้นเล็กๆ ออกมาส่งให้แคลร์

"มันคืออะไร"

"ลูกโป่งฟองสบู่  พี่ทำเอง"

"เล่นเหมือนเด็กเลย"  แคลร์พูด  ทำหน้ายู่ให้โดโรธีที่ไม่สนใจเธอ  นั่งเป่าลูกโป่งมาใส่หน้าเธอเฉย  "พี่โด้  มันเลอะนะ  เปื้อนหนังสือฉันด้วย" 

"นิดหน่อยเอง  แคลร์  มาเล่นกัน  เธอยังเป็นเด็กอยู่นะ  จะรีบโตไปทำไม  พี่ยังไม่อยากโตเลย"

"ก็พี่โตอยู่แล้วนี่  พี่ตัวใหญ่กว่าฉันตั้งเยอะ"

"ก็พี่อายุมากกว่าเธอตั้งเยอะนี่นา"  โดโรธีว่า  "อย่าเพิ่งโตเลยแคลร์  ตอนนี้เธอน่ารักดีแล้ว"

"จ...จริงเหรอ"  แคลร์ถามหน้าแดง  ยิ่งแดงไปใหญ่เมื่อโดโรธีหอมแก้มเธอ  แต่ความเขินของเธอก็เปลี่ยนไปเป็นหงุดหงิดเมื่อเห็นร่างสูงโย่งของคุณพ่อมาแต่ไกล

"อ้าว  ปะป๊าเธอมาแล้วนี่"  โดโรธีพูด  พลางโบกมือให้คริสตัลที่เดินพร้อมครูซและเจย์เดน  เธอหันมากระซิบเบาๆ กับแคลร์ก่อนจะลงไปยืนที่พื้นด้านล่าง  "พี่จะไม่บอกพ่อเธอหรอกนะ  แต่แค่ครั้งนี้  ครั้งเดียว"

"โดโด้  ยังไม่มีคนมารับเหรอครับ"  คริสตัลทักทายสาวน้อย  พลางลูบหัวลูกสาวที่ทักทายเขาด้วยหน้าตาบึ้งตึง 

"ป๊ามาช้า"

"รถติดครับลูก  แต่ป๊ามาช้าไปแค่ห้านาทีเองนะ"  เขาบอก  พร้อมชี้ไปที่นาฬิกาข้อมือ  แคลร์ตีมือเขาก่อนจะเกาะบ่าให้เขาพาลงมาจากท่อปูนและเก็บหนังสือลงกระเป๋านักเรียน

"โดโด้  คุณคริสไปส่งที่บ้านไหม"

"ไม่เป็นไร  คริส  ฉันมาแล้ว"  ทิฟฟานี่พูดเมื่อเดินมาถึงพอดี  โดโรธีทำหน้าแหย  แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากโบกมือให้แคลร์กับครูซและเจย์เดน  ก่อนไปหยิบกระเป๋านักเรียนและเดินไปที่รถก่อนตามคำสั่งของผู้ปกครอง

"ดุจังนะฮะ"  คริสตัลทัก  รู้สึกว่าโดโรธีหน้าหงอยไป  คงอยากจะเล่นกับน้องๆ ต่อ  "รีบกลับบ้านหรือฮะ  ไปแวะกินอะไรกันหน่อยไหม"

"นายชวนฉันเหรอ"

"เปล่าฮะ  อยากชวนโดโด้น่ะ"  เขาพูดตามตรง  โดโรธีที่กำลังเดินอยู่ระหว่างทางหันขวับมามองเขา  ตกใจกึ่งดีใจ  ใบหน้าของสาวน้อยแลดูมีความหวัง  และเขาไม่ชอบเห็นเด็กผิดหวังเลย  "ไปเถอะฮะ  ผมจะพาเด็กๆ ไปอยู่แล้ว  จะต้องพาเจดไปส่งให้คุณแม่เขาน่ะ"

ทิฟฟานี่ลังเล  ใช่ว่าเธอตะขิดตะขวงใจที่จะไปร้านพี่สาวคนละแม่  เธอแค่ไม่อยากให้โดโรธีอยู่ใกล้คริสตัล  เพราะลูกชอบเขา  ชอบแบบผู้หญิงที่แอบปลื้มผู้ชายด้วยสิ  แต่แครีนก็เตือนเธออยู่เรื่อยๆ ว่าให้ปล่อยลูกบ้าง  ไม่อย่างนั้น  ถ้าลูกทนไม่ไหว  ลูกก็จะต่อต้านเธอ  แล้วคราวนี้ก็จะเอาไม่อยู่  ตอนนั้นเธอก็จะปวดหัวมากกว่านี้

"ผมเห็นโดโรธีเป็นน้องสาวเท่านั้นครับ"  คริสตัลพูด  มันดังพอไปเข้าหูโดโรธีที่ความดีใจเลือนหายไปจากใบหน้าทันที  แต่สาวน้อยก็ยิ้มออกได้เมื่อน้องๆ เข้าไปชักชวนให้ไปด้วยกัน

ทิฟฟานี่มองลูกสาวแล้วนึกสงสารขึ้นมา  เธอคงจะคิดมากไปจริงๆ  โดโรธีเป็นเด็กดีเสมอ  เธอสอนลูกมาอย่างดี  โดโรธีไม่มีทางจะไปทำตามอย่างพี่ฝาแฝดของเธอแน่ๆ

"โอเค  ไปก็ไป  เธอขับนำไปก่อนละกัน  แล้วฉันจะขับตาม"

"ได้ฮะ"  คริสตัลขานรับ  ร่าเริง  ดีใจแทนโดโรธี  "เด็กๆ  หน้าเดินเลยครับ  --  ครูซ  อย่าวิ่งไปชนใครเข้านะลูก"

"ฟานี่  หนูนั่งไปกับน้องๆ นะคะ"

"ไม่ --"  ทิฟฟานี่ชะงัก  สีหน้าของลูกสาวทำให้เธอใจเบาหวิว  "เอ่อ  จ้ะ  ก็ได้  เดี๋ยวฟานี่ขับตามละกัน"

"รักฟานี่ที่สุดเลย"  โดโรธีพูดเสียงใส  จุ๊บแก้มทิฟฟานี่  ขอบคุณ

"เธอจะเป็นเด็กวัยรุ่นแล้วนะฮะ"  คริสตัลเอ่ยระหว่างเดินเคียงไปกับทิฟฟานี่ที่หันมามองเขาด้วยสายตาไม่ชอบใจ  "ผมก็มีลูกสาวเหมือนกัน  ผมคงทำใจไม่ได้แน่ๆ  ถ้าแคลร์หรือไอรีนมีแฟน  ผมเข้าใจคุณนะ"

"ของเธอยังอีกนาน  แต่ของฉัน..."  ทิฟฟานี่พูดแล้วถอนหายใจ  "ฉันจะทำยังไง  ถ้าโดโด้มีแฟนจริงๆ  ฉันยังคิดไม่ออกเลย"

"จับหมั้นเลยดีไหมฮะ"

"ว่าอะไรนะ"

"ก็หมั้นไงฮะ  เลือกแฟนให้เธอเองเลย  คลุมถุงชน"  คริสตัลพูด  ยิ้มอย่างไม่น่าไว้ใจ  "แต่ถ้าคุณไม่อยากบังคับลูก  คุณก็ให้เธอเลือกเองสิ"

"แบบนั้นมันยิ่งไปใหญ่เลย  ฉันจับโดโด้ไปขังไว้บนหอคอยดีกว่า"

"ผมก็จะจับไอรีนไปไว้แบบนั้นเหมือนกัน"

"อย่าบ้าน่า  คริส  เธอทำไม่ได้หรอก  ไม่มีเด็กที่ไหนยอม"  ทิฟฟานี่พูดพลางส่ายหัว  หนักใจ  "ฉันคงต้องพยายามทำใจให้ได้เอง"

"ถ้าทำได้ก็บอกผมด้วยนะ  ผมจะได้ทำตาม"  เขาพูดกึ่งขำ  แล้วเดินนำหน้าเธอไปก่อน  ทิฟฟานี่มองตาม  แล้วก็นึกอยากจะเอาอะไรมาปาหัวเขาขึ้นมาตงิดๆ  ที่เขาไปเดินคุยกับโดโรธีด้วยท่าทีโปรยเสน่ห์แบบนั้น  แต่เธอก็ทำได้แค่ภาวนาไม่ให้ลูกสาวตัวเองไปหลงกลหน้าหล่อๆ กับหุ่นเท่ๆ ของเขามากกว่าเดิม

.................................... 

เม็บสลัดทรายออกจากสูทนักเรียนของลูกชาย  พลางมองเขาที่นั่งอยู่บนตักเจสสิก้าซึ่งกำลังสอนเขาทำการบ้านอยู่  ข้างๆ เธอ  คริสตัลยืนพิงกรอบประตู  โบกมือให้ลูกฝาแฝดที่กำลังปีนๆ ไต่ๆ เครื่องเล่นอยู่ในสนามเด็กเล่นเล็กๆ ภายในร้านของเธอ  โดโรธีกับทิฟฟานี่ก็นั่งอยู่เจสสิก้าด้วย

"เลอะมาทุกวัน"  เธอบ่น  พาดสูทของลูกไว้กับแขน  คริสตัลเหลือบมองเธอเหมือนมีอะไรจะพูด  เธอจึงพยักหน้าให้เขา

"ครูซบอกว่ามีคนแกล้งเขาฮะ  แต่เจดไม่สู้  แคลร์ก็เลยจัดการ"

"ว่าแล้วเชียว"  เม็บส่ายหน้า  จินตนาการท่าทางลูกชายออกทันที  "ฉันเป็นคนบอกเขาเองค่ะ  ว่าไม่ให้สู้  ฉันกลัวเขาจะทำร้ายคนอื่นน่ะ"

คริสตัลทำหน้าเข้าใจ  พลางโบกมือให้เด็กๆ ที่ร้องเรียกเขามาจากอุโมงค์เหล็กที่พากันขึ้นไปยืน  นี่ถ้าแทยอนมาเห็นคงจะบ่นเขาแย่แน่ๆ  "คุณทำถูกแล้วฮะ  เม็บ  แต่ควรบอกให้เขารู้จักป้องกันตัวเองด้วย  ไม่ใช่ไปยืนให้คนอื่นรังแกแบบนั้น"

"ปกติเขาจะเดินหนีค่ะ  แต่คราวนี้คงเห็นพี่ๆ อยู่ด้วย  ก็เลย..."

"แคลร์เป็นพวกชอบปกป้องฮะ"  เขาพูดด้วยรอยยิ้มไม่คิดมาก 

เม็บจำใจต้องเห็นด้วยไปกับเขา  แล้วเลียบๆ เคียงๆ พูดเรื่องที่เขาควรรู้  เรื่องที่เธอไปสืบมาให้  "เอ่อ  คริสคะ  เรื่องนั้น..."

"ผมถูกผู้หญิงหลอก"  เขาพูดแทรกก่อนเธอจะพูดจบ  ท่าทีเขาไม่ได้คิดอะไรมากอย่างที่เธอนึกห่วง  "เอิ่ม  ใช่ฮะ  ผมถูกผู้หญิงหลอกว่าท้อง  แต่มันก็ดีแล้วล่ะฮะ  ผมไม่ได้อยากมีลูกกับเธอสักหน่อย  ดีแล้วที่เธอไม่มี"

"แต่มันจะดีกว่านะคะ  ถ้าคุณรู้จักป้องกัน"

"ผมป้องกัน  แต่เธอน่ะ  เอ่อ..."  เขาเถียง  แต่กลับกระแอมในลำคอแทนเมื่อคิดได้ว่าเขาไม่ควรพูดลับหลังผู้หญิงแบบนั้น  "เอาเป็นว่า  ผมจะระวังก็แล้วกันฮะ"

"ไม่ทำแบบนั้นไม่ได้หรือคะ  คริส"  เม็บถาม  จะตำหนิเขาตรงๆ ก็ไม่กล้า  แม้ตามหลักแล้วเธอจะเป็นพี่สะใภ้ของเขา  "มันจำเป็นมากหรือคะ"

เขาพยักหน้า  ท่าทางหนักใจที่จะตอบ  "ผมต้องกินเลือดมนุษย์ฮะ"

"ก็พอเข้าใจค่ะ  แต่ว่า..."

"มันเป็นการลดความตึงเครียดของผม  ทำให้ผมลดความเสี่ยงที่จะทำร้ายภรรยาตัวเองครับ"  เขาสารภาพ  และยิ้มแห้งๆ ให้พี่สะใภ้  "ผมเป็นปีศาจ  ผมเป็นซาตานครับ  เม็บ  ผมไม่ใช่เจ"

เม็บมองเขาด้วยสายตาเห็นใจ  พลางเอื้อมมือไปแตะไหล่  ตั้งใจจะปลอบโยน  แต่เธอก็รีบดึงมือกลับเมื่อเจสสิก้าหันมามองก่อนจะหันกลับไปคุยกับลูกชายและทิฟฟานี่ต่อ

"ผมจะพยายามหางานให้คุณทำน้อยลงฮะ  คุณจะได้มีเวลาอยู่กับเจเยอะๆ  และเผื่อจะมีน้องให้เจย์เดนสักคน"

"ไม่มีหรอกค่ะ"  เม็บพูดกึ่งหัวเราะ  ตีไหล่เขาที่ยิ้มล้อเลียนเธอ  "ฉันไม่อยากแบ่งความรักของฉันให้คนอื่นอีกแล้ว  ฉันอยากให้เขาแค่คนเดียว  และเจเองก็เห็นด้วยค่ะ"

"เข้าใจฮะ  เจก็บอกผมแบบนั้น"  คริสตัลตอบ  ชำเลืองมองพี่สาวที่กำลังสอนการบ้านลูกชายอยู่  ท่าทางพี่มีความสุขมากที่ได้อยู่กับลูก  "จริงๆ ผมก็เห็นด้วยกับเจนะฮะ  นอกจากจะต้องแบ่งความรักแล้ว  ยังต้องแบ่งความสนใจให้พวกเขาด้วย  แต่คุณแทเธออยากมีลูกเยอะๆ  ผมก็ทำได้แค่ตามใจเธอ  บ้านผม  ภรรยาเป็นใหญ่ฮะ"

"คริสน่ารักก็ตรงนี้แหละค่ะ"  เม็บพูดยิ้มๆ  "แต่ถ้าไม่ต้องไปทำเรื่องแบบนั้น  ก็คงจะดีกว่านี้เยอะเลย"

"ผมกำลังพยายามให้มันน้อยลง  ผมก็เหนื่อยจะทะเลาะกับคุณแทเหมือนกัน  ผมไม่อยากเผลอทำร้ายเธอ"  เขาพูดพลางเสยผม  ระบายความหงุดหงิด  จนถึงวันนี้เขายังไม่ได้คุยกับแทยอนเลย  เธอแทบไม่มองหน้าเขาด้วยซ้ำ  "ผมไม่ค่อยเข้าใจผู้หญิงแบบเธอเท่าไหร่หรอกฮะ  บอกตามตรง"

"เธอแค่รักคุณค่ะคริส  รักมากไปหน่อย"

"ถ้าเป็นแบบนั้น  ผมอยากให้เธอรักผมให้น้อยลง  และเข้าใจผมให้มากๆ แทนนะฮะ  แบบยุน"

"ถ้ามันทำกันได้ง่ายๆ ก็ดีน่ะสิคะ  ใครๆ ก็คงจะเจ็บปวดน้อยลง"

เขาสั่นศีรษะให้เธอ  ท่าทางเหมือนปลงเสียแล้ว  เขาคล้ายเจสสิก้าบางอย่าง  แต่ถ้าเป็นเจสสิก้าคงไม่ยอมให้แทยอนมากขนาดนี้  เจสสิก้าคงจะไล่จี้แทยอนจนกว่าจะคุยกันรู้เรื่อง  หรือไม่ก็ไล่ออกจากบ้านเหมือนที่เธอเคยโดนมาก่อน  แต่ละคนก็มีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป

"โอเคฮะ  ผมต้องพาเด็กๆ กลับบ้านแล้ว  แม่พวกเขามาแล้วละ"

เม็บพยักหน้าให้คริสตัลที่หันมาบอกเธอขณะถือโทรศัพท์มือถือไว้ในมือ  เขาคงจะสั่งใครที่บ้านไว้ให้บอกเขาเมื่อแทยอนกลับมาจากทำงาน

"เอ่อ  คริสคะ  แล้วเรื่องเธอคนนั้น..."

"ยุนบอกจะจัดการเองฮะ"  เขาหันมาตอบเธอ  ยิ้มเห็นฟันเขี้ยว  ท่าทางไม่ทุกข์ร้อนอะไร  เขาเข้าไปลาเจสสิก้ากับเจย์เดน  ทิฟฟานี่กับโดโรธีพร้อมฝาแฝด  เด็กแฝดหันมาโบกมือลาเธอ  แล้วพวกเขาก็พากันกลับบ้านไปด้วยท่าทางร่าเริง

"คริสน่ะ  มันอยู่เป็น" 

เม็บเลิกคิ้วเมื่อได้ยินเสียงเจสสิก้าข้างๆ หู  เธอเห็นไปมอง  รายนั้นก็ยิ้มกวนๆ ให้เธอ  แล้วเดินกลับไปชวนเจย์เดนไปเล่นกันในสนาม  ปล่อยเธอไว้กับน้องสาวและหลานที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกันนัก  แต่กำลังพยายามอยู่

.....................................

สองอาทิตย์แล้วที่เธอไม่คุยกับเขา  กับอีกเดือนครึ่งที่เราไม่ได้นอนใกล้กัน  คริสตัลจะอยู่ห้องข้างล่างแค่ตอนเด็กๆ ยังไม่หลับ  แล้วเขาก็ขึ้นไปทำงานบนห้องนอนเก่าของเขาข้างบน  ห้องที่เธอมักจะใช้เป็นที่หลบหน้าหลบตาเขา  เขานอนที่นั่นทุกคืน  สองสัปดาห์มาแล้ว  ปล่อยให้เธอกับยุนอาอยู่ด้วยกันสองคน  หลายครั้งที่เธอเกือบจะสงสารเขาและคิดว่าตัวเองทำเกินไป  แต่เธอไม่เห็นเขาจะทุกข์ร้อนอะไรเลย  เขายังคงออกไปไนต์คลับกับคนสนิทของเขา  กลับมาดึกดื่นอยู่บ่อยๆ  และหลายๆ ครั้งนั้นยุนอาก็ไม่ได้ไปด้วย  ยุนอาจะใช้เวลาอยู่ในห้องแล็บลับกับแม็กซ์เวลเป็นส่วนใหญ่  คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่เป็นแบบนั้น  บางทีเขาอาจเบื่อเธอแล้วจริงๆ

เขากลับมาบ้านพร้อมกับกลิ่นของผู้หญิงคนอื่น  เธอยืนมองเขาเปลื้องเสื้อผ้าอยู่ในเงามืดภายในห้องนอนเก่าของเขา  ดูเหมือนเขาจะไม่รู้ว่าเธออยู่ที่นี่  หรืออาจไม่สนใจ  หรืออาจอยากแก้ผ้าโชว์เธอให้อยากพุ่งเข้าไปหาเขาเองแบบหลายๆ ครั้งที่เธออดใจไม่ได้

ยาที่ยุนอาให้เธอกินมีผลข้างเคียงถึงอารมณ์ของเธอ  ที่แปรปรวนได้ง่ายขึ้นราวกับตั้งท้อง  แต่เธอไม่ได้ท้องแน่ๆ  ยุนอาตรวจเธอแล้วก่อนจะให้ยาเร่งน้ำนมกับฝังยาคุมกำเนิดเพิ่ม  แล้วมันก็ผ่านไปหนึ่งเดือนกับอีกสองอาทิตย์แล้วที่เธอกับเขาไม่ได้มีอะไรกัน  ยุนอาก็ไม่ค่อยอะไรกับเธอเท่าไหร่  ยุนอาสนใจแต่แม็กซ์เวลกับเด็กๆ  อีกอย่างกับยุนอา  เธอก็ไม่มีทางท้องด้วย

เขารวบผมยาวถึงกลางหลังขึ้นเป็นมวยแล้วเสียบมันด้วยดินสอไม้  เดินล่อนจ้อนเข้าห้องน้ำไป  ครึ่งชั่วโมงผ่านไปเขาก็ออกมา  พันผ้าขนหนูครึ่งท่อนล่างพร้อมกับกลิ่นใหม่ที่หอมสดชื่นจนเธอเกือบลืมตัวเดินออกไปหา  เขาทาครีมสำหรับผู้ชายที่ยุนอาซื้อให้  หน้ากับตัวคนละชนิดกัน  ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะสำอางขนาดนี้  ปกติเธอไม่มีเวลายืนมองเขาทำอะไรแบบนี้เลยสักครั้งเดียว  เธอวุ่นวายอยู่กับลูกๆ ตลอด  แต่เวลาอยู่ใกล้เขา  ตอนที่เรายังดีๆ กัน  เธอก็ได้กลิ่นมันอยู่  ยุนอาซื้อของพวกนี้ให้เขา  ครีมโกนหนวด  อาฟเตอร์เชฟ  ของใช้จิปาถะส่วนตัว  เสื้อผ้าเขาทั้งอยู่บ้านและชุดทำงาน  ขณะที่เธอไม่เคยดูแลเขาเลย  เธอมักจะใช้ข้ออ้างว่าต้องดูแลลูกๆ  และเขาก็โตแล้ว  ควรรับผิดชอบอะไรแบบนี้ด้วยตัวเอง  แต่เธอก็ลืมไปว่ามันก็เป็นสิ่งที่ภรรยาควรทำให้สามีเหมือนกัน  และจริงๆ ก็ใช่ว่าเขาจะไม่ได้ดูแลลูกๆ เรา  เขาจะไปส่งและไปรับลูกๆ เองเสมอ  ถ้าไม่ได้ติดธุระสำคัญ  สอนการบ้านเด็กๆ  เล่นกับลูก  ดูแลเรื่องอาหารการกิน  อาบน้ำ  ส่งเข้านอน  เขาเป็นพ่อที่ดีของลูกๆ  เป็นสามีที่ดีของเธอ  ยกเว้นเวลาที่เขาหายไปไนต์คลับคนเดียว

และไอ้ที่ "ยกเว้น" นั่นแหละ  เธอเกลียดเขาเหลือเกิน! 

ทำไมเธอจะต้องมีข้อเสียที่ฉันเกลียดด้วยนะ  คริส... แทยอนพึมพำในใจขณะมองเขานอนหลับตาอยู่บนเตียง  ห่มผ้าแค่ครึ่งหน้าอก  รอยสักรูปหมาป่าบนอกซ้ายพาดมาถึงบ่าขวา  เขาไม่ใส่เสื้อผ้านอนเหมือนเดิม  ไม่ว่าจะตอนเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ชอบโชว์ตลอด  ถือว่าตัวเองรูปร่างดีงั้นสิ

"ถ้าฉันเลิกรักเธอได้ก็คงดี  เธอทำให้ฉันเกลียดตัวเอง  รู้ไหม"  เธอกระซิบแผ่วเบา  ขณะเผลอเอาหน้ามาใกล้หน้าเขา  นึกอยากจูบปากสวยๆ ของเขาขึ้นมาอีกแล้ว  ก็เขาขี้ยั่วขนาดนี้นี่นา  แค่เดินไปเดินมาไม่ใส่เสื้อผ้า  เธอก็ใจสั่นแล้วนะ  แล้วมานอนนิ่งๆ ทำหน้าตาน่ากินแบบนี้อีก

"ผลข้างเคียงของยา  มันจะทำให้เธอฮีทนานกว่าเดิม"  เสียงยุนอาคือคำตอบสำหรับความรู้สึกในอกของเธอตอนนี้  กางเกงชั้นในของเธอชื้น  รู้สึกไม่สบายตัวมาตั้งแต่เห็นเขาถอดเสื้อคอเต่าออกแล้ว  แผงหน้าอกแน่น  กล้ามหน้าท้องเป็นลอน  ขอบกางเกงในคาลวินไคลน์สีขาว  และอะไรๆ ที่ต่ำลงไปกว่านั้น  อะไรๆ ที่เวลาเขาสวมกางเกงบอลมันจะเด่นชัดมากเกินไป  จนทำให้เธออยากจะควักลูกตาตัวเองออก  เพราะชอบไปจ้องมันเหลือเกิน

"นึกว่าแค่มี 'ไอ้นั่น' แล้ว  จะทำให้เธอเหนือกว่าฉันหรือไง  ไอ้บ้า"

"ไม่ใช่ค่ะ  'ไอ้นั่น' ของฉัน  มีไว้เพื่อให้  'น้องหนู' ของคุณพอใจต่างหากค่ะ"

แทยอนสะดุ้งเฮือก  ตกใจทั้งที่เดาได้อยู่แล้วว่าเขาไม่ได้หลับ  และเธอก็ตั้งใจพูดให้เขาได้ยินด้วย  แต่ตอนนี้เธอจุกมาก  เพราะเขากระชากเธอลงมากดไว้กับที่นอน  เร็วจนตัวเธอกระแทกมันแรงเกินไป

"ปล่อยฉัน"  เธอสั่ง  เขายิ้มแบบพวกตัวร้าย  พร้อมส่ายหน้าให้เธอ  เธอเบี่ยงหน้าหลบเมื่อเขาทำท่าจะก้มลงจูบ  "ฉันบอกไม่ให้เธอยุ่งกับฉันไง  จำไม่ได้เหรอ  ปล่อยฉัน  เดี๋ยวนี้  คริสตัล!"

"แน่ใจนะคะ"  เขาถาม  เงาร่างใหญ่โตครอบคลุมเธอหมดทั้งตัว  ทั้งน่ากลัวและน่าพุ่งเข้าใส่ 

แต่เขาเพิ่งจะทำแบบนั้นกับคนอื่นมานะ  แทยอน

"ปล่อย  คริส  เธอไม่มีสิทธิ์บังคับฉัน  ถึงฉันจะเป็นเมียเธอ  ถ้าฉันไม่ยอม  เธอก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้องฉัน  ไม่งั้นฉันจะฟ้องหย่าจริงๆ  ฉันจะเอาลูกไปให้หมดด้วย  ฉันจะไม่ให้เธอเจอพวกเขาเลย  และฉันไม่ได้ขู่นะ"

เขาปล่อยมือจากเธอแทบจะทันที  และลุกขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้นั่งเล่น  กางเกงไม่คิดจะใส่  แขนสองข้างวางอยู่บนเท้าแขน  ใบหน้าหล่อเหลาเบนไปทางประตูกระจกตรงระเบียงที่ที่แสงจันทร์สาดเข้ามา  เงาของเขาใหญ่โตและไม่ใช่มนุษย์

เธอลุกขึ้นนั่ง  นวดข้อมือที่เจ็บชาเพราะถูกเขาบีบ  เธอเหลือบมองเขาอย่างกังขา  สงสัยว่าเขาคิดอะไรอยู่  พยายามเมินความเสียววูบวาบที่ร่างกายรู้สึกจนขาหนีบเข้าหากันอัตโนมัติ  แต่เธอคิดว่าเขาได้กลิ่นมันแน่ๆ  และเขาคงกำลังกดความอยากของตัวเองเอาไว้  ดูจากสันกรามเขาที่ขบกันแน่นจนปูดออกมา  ทรมานเขากับทรมานตัวเองก็สนุกดีเหมือนกัน

"ฉันกลับห้องละ"

"คุณไม่ต้องรักฉันก็ได้นะ  ถ้ามันจะทำให้คุณเจ็บน้อยลง"

แทยอนหยุดก้าวขา  เธอหันขวับมามองเขาด้วยความตกใจ  เพราะได้กลิ่นเลือด  แล้วเธอก็เห็นว่าต้นขาของเขามีดินสอปักอยู่  เลือดกำลังไหลจากบาดแผลลงบนพื้นพรม  กลิ่นมันหอมหวานยั่วใจเธอมาก  แต่เธอกลับรู้สึกคล้ายจะอาเจียนแทน  มันเหมือนเธอกำลังแพ้ท้องจริงๆ 

กลิ่นเขา  กลิ่นเลือดเขา  เสียง  หรือใบหน้าเขา  ทำให้เธอคลื่นไส้จนต้องวิ่งไปอาเจียนที่ห้องน้ำจนได้  หน้าอกเธอก็เจ็บระบมไปหมด  ทั้งที่ไม่มีใครแตะต้องมัน  มีแต่ลูกๆ ที่นั่งเบียดมันอย่างไม่ได้ตั้งใจเท่านั้น

"เธอทำแบบนั้นทำไม  คริส  เป็นบ้าหรือไง"  เธอถามเขา  เมื่อเงยหน้าขึ้นมาจากชักโครก  หลังจากอาเจียนไปจนไม่มีอะไรจะออก  เขาเข้ามาดูเธอในห้องน้ำ  เปลือยเปล่าดุจทารกเหมือนเดิม  เลือดที่ต้นขาหยุดไหลแล้ว  แผลสักนิดก็ไม่มี  แต่คราบเลือดและกลิ่นยังอยู่

"คุณเป็นอะไร  คุณแท  ไหวไหม"  เขาถาม  เข้ามาช่วยพยุงเธอยืน  และเธอพิงตัวเขาอย่างลืมตัว  ก่อนจะสะบัดมือเขาออกอย่างรังเกียจ  สีหน้าของเขาเจื่อนไปถนัด  นัยน์ตาสองสีซีดลงอย่างชัดเจนเหมือนทุกครั้งที่เขาเหนื่อยใจกับอะไรสักอย่าง

"เธอทำร้ายตัวเองทำไม  อยากให้ฉันสนใจเหรอ"

"ฉันทำ  เพราะฉันไม่อยากทำร้ายคุณ  หรือคุณอยากถูกข่มขืน"

แทยอนใจสั่น  รู้ว่าเขาพูดจริง  และรู้ด้วยว่าเธอไม่มีทางสู้เขาได้แน่  ถ้าเขาจะฉีกเสื้อผ้าเธอออก  และทำให้เธอทำหน้าที่เมียให้เขา  จริงๆ เขาก็ไม่ควรเรียกมันว่าข่มขืนหรอก  เพราะแค่จูบเธอเบาๆ  ตอนนี้เธอก็ยอมแล้ว  ความอดทนของเธอมันถึงขีดสุดแล้วเหมือนกัน

"เธอละอายใจบ้างไหม  คริส  เวลาเธอนอกใจฉัน"  เธอถามในที่สุด  เก็บมันไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว  เขาส่งสายตาเศร้าๆ ให้เธอแล้วเดินออกไป  เธอเดินตามออกมา  ก็พบว่าเขาสวมบ็อกเซอร์แล้วและกำลังสวมเสื้อกล้ามอยู่

"มาเถอะค่ะ  ฉันไปส่งข้างล่าง"  เขาพูดเสียงอ่อนหวาน  แล้วเดินนำเธอไปที่ประตูห้อง  เธอเดินตามมาแต่ดึงชายเสื้อเขาไว้ก่อน  เขาหันมามองหน้าเธอ  ประหลาดใจ

"ทำไมเธอไม่ตอบคำถามฉัน  ทำไมเธอไม่พูด  เธอจะให้ฉันอกแตกตายหรือไง  ทำไมให้ฉันพูดอยู่คนเดียว  เธอมันนิสัยแย่  ไม่เคยเปลี่ยนเลย  สารเลว  ทำไมเธอจะต้องทำให้ฉันเสียใจอยู่ตลอดด้วย  ทำไมเธอไม่รักฉัน!"

"ถ้าฉันไม่รักคุณ  คุณไม่ได้ยืนพูดอยู่แบบนี้หรอกค่ะ  คุณตายไปเหมือนผู้หญิงพวกนั้นนานแล้ว"  เขาพูด  ใจเย็นอย่างเหลือเชื่อ  เขาทำท่าเหมือนจะโอบตัวเธอ  แต่ไม่ได้โดนตัว  แค่ไล่ต้อนให้เธอเดินตามเขามาที่ประตูเท่านั้น  เธอมองหน้าเขา  ไม่เข้าใจอะไรสักนิดเลย

เขาเดินมาเงียบๆ พร้อมเธอจนถึงห้องชุดของยุนอาที่เราใช้เป็นบ้านของครอบครัวเรา  แล้วก็เปิดประตูให้  พเยิดหน้าให้เธอเข้าไป  แต่ไม่ยอมเข้าตามมาด้วย

"ทำไมเธอถึงไม่อยู่ที่นี่"

"ฉันสกปรกเกินไปสำหรับคุณ  ยุนจะดูแลคุณเอง  ฝันดีนะคะ"

เขาปิดประตูหลังจากพูดจบ  แต่เธอยังยืนอยู่ตรงนั้น  รอฟังเสียงฝีเท้าเขาเดินกลับขึ้นไปข้างบน  พอได้ยินมันจริงๆ ขาเธอกลับไม่มีแรงเดินต่อไปเสียอย่างนั้น

"ทำไมเขาถึงไป"  เธอกระซิบเสียงเบากับคนตัวสูงที่มายืนอยู่ข้างๆ  พลางมองตาสีฟ้าที่เรืองแสงสีอ่อนในความมืดมิด  "ทำไม  ยุนอา..."

"เพราะเขาไม่อยากทำร้ายเธอ  ไม่อยากฉีกเธอเป็นชิ้นๆ  เวลาเธอด่าเขา  หรือท้าเขาหย่าอีกไงล่ะ"  ยุนอาตอบ  พลางถอนหายใจ  "สงบสติอารมณ์หน่อยเถอะ  แทยอน  เธอก็รู้อยู่แล้วว่าทำไมเขาต้องทำแบบนั้น"

"เขาจะไม่มีทางหายเลยหรือไง"

"ไม่มี  เขาแค่ทำมันน้อยลงกว่าเดิม  และตอนนี้เขาก็ดีขึ้นแล้ว  แต่เธอคงไม่เชื่อหรอก  ใช่ไหม  --  มาเถอะ  ไปนอนกัน  เธอควรจะพักผ่อน"

"คุณไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือไง  ยุนอา  ฉันถามจริงๆ เถอะ"  แทยอนเดินไปดักหน้าคนตัวสูงกว่าที่มองเธอมาด้วยสายตาหน่ายๆ เล็กน้อย

"รู้สึกสิ  ฉันทะเลาะกับเขามาก่อนหน้าเธอจะมาอยู่กับเราอีก"

"แล้วเขาก็ยังเป็นอยู่เหมือนเดิมเนี่ยนะ"

"ไม่  เขาดีขึ้น  ซึ่งต้องขอบใจเธอด้วย"  ยุนอาตอบ  จับแขนแทยอนที่ทำท่าจะสะบัดหนีเอาไว้แน่น  "รักเขาให้น้อยๆ  เข้าใจเขาให้มากๆ  แล้วเธอจะสบายใจขึ้น  เชื่อฉัน"

"พูดง่ายจังนะ  ทำได้หรือเปล่า"  แทยอนย้อน  มองหน้าคนข้างตัว  แล้วส่ายหัวไปมา  เธอคิดว่าเธออ่านสายตายุนอาตอนนี้ออกทะลุปรุโปร่งเหมือนที่อีกฝ่ายอ่านเธอออกนั่นแหละ

"ครีมทาหน้ากับตัวเขา  เสื้อผ้าเขา  ไม่สิ  แค่ที่โกนหนวดเขาก็แพงกว่าลิปสติกของฉันอีกมั้ง  ที่คุณซื้อให้เขาน่ะ  ยุนอา"

"ก็เงินเขา"

"งั้นเหรอ...  งั้นทีหลังก็ซื้อยาทาเล็บให้ฉันสักขวดสิ  ไม่กี่บั๊ก (Buck = 1 ดอลลาร์สหรัฐ) หรอกมั้ง"  เธอว่ากึ่งล้อเลียน  ยุนอากลอกตา  และแกล้งผลักหลังเธอแรงๆ ก่อนจะเดินนำไป  ไม่สนใจเธออีกเลย   


..............


บ้านนี้นี่น่าปวดหัวจริงๆ เลยเนอะ  อิอิ    :21: :61: :27: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

16 มิถุนายน 2018 เวลา 06:57:54
ครอบครัวไหนมันก็มีเรื่องกวนใจกับปัญหามาให้แก้กันทั้งนั้น คนธรรมดาอย่างเรายังมีเลย
แสดงความคิดเห็น