web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 440
Most Online Ever: 440
(วันนี้ เวลา 03:05:22)
Users Online
Members: 0
Guests: 360
Total: 360

ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่ ๑๕ : สายน้ำแห่งความหลัง  (อ่าน 1078 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ทอถักอักษรา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 73
บทที่ ๑๕ : สายน้ำแห่งความหลัง
« เมื่อ: 08 มกราคม 2014 เวลา 21:29:40 »



Dream ฝันค้างบนทางรัก Yuri
บทที่ ๑๕ : สายน้ำแห่งความหลัง

ยามเช้าที่สดใส นงนภัสและเพื่อนๆนักศึกษาร่วมชั้นปีนั่งประชุมเกี่ยวกับการจับสายรหัสและวางแผนกิจกรรมรับน้องใหญ่ที่ม้านั่งสีขาวข้างๆอาคารเรียนซึ่งอยู่ใต้ต้นโศกต้นใหญ่ที่ทอดเงาปกคลุมทั่วบริเวณข้างๆอาคารเรียนคณะแพทยศาสตร์ การประชุมเสร็จสิ้นลงโดยมติของที่ประชุมตกลงกันว่าจะไปรับน้องที่รีสอร์ทใกล้ๆธารน้ำตกแห่งหนึ่ง
จวบจนเวลาเจ็ดโมงครึ่งอันเป็นเวลานัดหมายที่นักศึกษาชั้นปีที่สอง นัดนักศึกษาปีที่หนึ่ง มารับน้องย่อยที่หน้าอาคารเรียน เมื่อนักศึกษารุ่นน้องปีหนึ่งมานั่งโดยพร้อมเพรียงกันแล้ว รุ่นพี่ก็นัดหมายรุ่นน้องชั้นปีที่หนึ่งเกี่ยวกับวันเวลาและสถานที่ที่จะใช้ในการรับน้องใหญ่ และให้รุ่นน้องทำกิจกรรมอยู่สักครู่จากนั้นจึงแยกย้ายกันไปเรียน
   เช้ามืดของวันรุ่งขึ้นเหล่านักศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ ชั้นปีที่ ๑ – ๓ ก็ได้มาพร้อมกันที่หน้าหอประชุมใหญ่เพื่อเดินทางไปรับน้องที่มีกำหนดจัดขึ้น ที่รีสอร์ทใกล้ๆธารน้ำตกแห่งหนึ่ง
   เงาหมู่ไม้โอบอ้อมล้อมแน่นเป็นขนัด  สุมทุมพุ่มไม้ออกดอกบานสะพรั่ง หลากหลายสี ถัดไปเป็นทิวเขาสูงตระหง่าน ในเวลาตะวันยอแสง ต้องแสงแดดจับเป็นสีระยิบระยับ ประหนึ่งเอาทรายทองไปโปรยปราย  แดดในยามเย็นกำลังอ่อนลงสู่สมัยใกล้วิกาลทอแสงเป็นทางสว่างไสวไปสุดสายตา เบื้องบนมีกลุ่มเมฆคลื่นซ้อนซับสลับกันเป็นทิวแถว
   ร่างบางระหงส์ทอดสายตามองออกไป ภาพทิวทัศน์เบื้องหน้างดงามตระการตายิ่งนัก แต่เสียงเรียกจากเบื้องหลังก็ทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย
   “มาอยู่ที่นี่หรอกเหรอจ๊ะ ตอนนี้คนอื่นๆเขากำลังจะจับสายรหัสกันไปช้าอาจโดนลงทาได้นะคะ” เสียงหวานใสราวระฆังเงินดังขึ้นทำให้ฐิติณัชชาหันกลับไปมองก่อนจะซ่อนใบหน้าสะเทิ้นอายเมื่ออีกฝ่ายส่งรอยยิ้มหวานมาให้
   “ค่ะพี่ฟ้า ที่นี่สวยดีนะคะ” ฐิติณัชชาเบนสายตามองตรงไปข้างหน้าขณะที่อีกฝ่ายขยับมายืนข้างๆ
“จ๊ะ รีบไปกันเถอะ ประเดี่ยวน้องจะถูกทำโทษนะคะ” นงนภัสพูดด้วยน้ำเสียงเนิบช้า ดวงตาสีนิลกลมโตพราวระยิบระยับดุจมีเหล่าดวงดาราอยู่ในนั้นแย้มยิ้มสบตาเธอชั่วครุ่ ก่อนออกเดินนำหน้าไปยังลานกว้างของรีสอร์ท
   สาวรุ่นน้องมองตามหลังรุ่นพี่สาวที่มิได้อยู่ในชุดนักศึกษาอย่างที่เคยเห็นจนชินตา กางเกงขาสั้นสีครีมอวดเรียวขาขาวนวลกับเสื้อยืดสีชมพูอ่อนขับลำแขนกลมกลึงสีงาช้างรับกับเส้นผมสีนิลตรงยาวปล่อยสลายถึงกลางหลังอย่างงดงามเหมาะเจาะ  ตรึงสายตาของเธอให้มองตามอยู่อย่างนั้น โดยมิได้เดินตามออกไป
   “เร็วๆสิจ๊ะ” ใบหน้างามราวเทพอัปสรของนงนภัสหันมาเรียกฐิติณัชชาเมื่ออีกฝ่ายยังคงยืนอยู่ที่เดิม
   “ค่ะๆ ไปแล้วค่ะ” เธอรีบสาวเท้าตามไปทันที
   เมื่อฐิติณัชชามาถึงบริเวณลานโล่งกลางรีสอร์ทแห่งนั้น เธอก็พบว่าเหล่าเพื่อนๆร่วมชั้นปีนั่งลงกันพร้อมหน้า ตรงหน้ารุ่นพี่ชั้นปีที่ ๒ และ ๓ ที่กำลังจัดเตรียมข้าวของกันวุ่นวาย  เธอสอดส่ายสายตามองหาเมธาวี ก่อนจะค่อยๆเดินไปนั่งลงข้างๆเมื่อเห็นว่าเมธาวีนั่งอยู่ที่ใด
   “ไปไหนมา...”  เมธาวีกระซิบถามเมื่อเธอนั่งลงข้างๆหล่อนแล้ว
“ไปดูบรรยากาศข้างๆรีสอร์ทมาจ๊ะ”  ฐิติณัชชาพูดกับยิ้มให้เพื่อนสาว
 “น้องๆคะ วันนี้พี่จะให้น้องๆจับสายรหัสทีละคนนะคะ เลขที่ ๑ น้องดา – วิภาดา มาจับสายรหัสจ้า...” เสียงของพิมพ์ฤดาหัวหน้านักศึกษาชั้นปีที่ ๒ ดังขึ้น ทำให้เมธาวีและฐิติณัชชาหยุดพูดคุยกันเพื่อตั้งใจฟังและประกอบกิจกรรมจับสายรหัสดังกล่าว
   พวกเธอต่างลุ้นระทึกกับการจับสายรหัสในครั้งนี้มาก  พี่รหัสของเธอจะใช่นงนภัสหรือเปล่าหนอ...จวบจนกระทั่งมาถึงลำดับเลขที่ของเธอ  เธอลุกไปข้างหน้าเพื่อจับสายรหัสด้วยหัวใจที่เต้นแรง ก่อนเอามือเข้าไปหยิบม้วนกระดาษชิ้นเล็กๆในขวดโหลส่งใหพิมพ์ฤดา
   “น้องฟาง – ฐิติณัชชา ได้พี่รหัส หมายเลข ๕ สายดอกกุหลาบขาวจ้า พรุ่งนี้ตามหาพี่รหัสให้เจอนะจ๊ะ”
   พี่รหัสหมายเลข ๕ สายดอกกุหลาบขาว ใครกันหนอ  ฐิติณัชชาได้แต่ครุ่นคิดในใจ และจวบจนกิจกรรมการจับสายรหัสของนักศึกษาชั้นปีที่ ๑ ได้เสร็จสิ้นลง ทั้งหมดจึงได้แยกย้ายกันรับประทานอาหารค่ำกันในห้องอาหารของรีสอร์ทแห่งนั้น
         ...........................................................................   

   กลางดึกของคืนนั้นขณะที่กำลังพักผ่อนอยู่ในห้องพักของรีสอร์ท ประสาทหูของนงนภัสกลับได้ยินเสียงสายน้ำกระทบก้อนหิน ประสานกับเสียงหัวเราะสดใสของหญิงสาวหลายคนทำให้เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมา  เสียงซ่าๆของสายน้ำยังคงดังลอยมากระทบโสตประสาท     
ทิศของเสียงที่ได้ยินไม่น่าจะห่างจากจุดที่เธอพักอยู่นัก เธอลุกขึ้นจากเตียงสำรวจเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ กางเกงเลขายาวสีน้ำตาลอ่อนกับเสื้อยืดตัวหลวมสีขาวอยู่ในสภาพที่รัดกุมพอสมควร ร่างบางจึงตัดสินใจออกจากห้องพักเพื่อตามหาที่มาของเสียงนั้นโดยไม่ได้สนใจเพื่อนสาวที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงข้างๆเตียงของเธอแต่อย่างใด
ด้านขวาของเรือนพักในรีสอร์ทกลับมีทางลาดลงไปยังด้านล่างตามทางลาด เกลื่อนไปด้วยก้อนหินขนาดใหญ่วางเรียงซ้อนทับกันอย่างลงตัวราวกับ เป็นขั้นบันไดสู่พื้นที่ด้านล่าง นงนภัสตัดสินใจเดินลงไปตามทางหินจนถึงด้านล่าง
ร่างกายเธอสัมผัสรับไอเย็นชุ่มชื้นเมื่อลงมาถึงยังด้านล่างรอบๆมีไอหมอกจางๆ ลอยวนทั่วบริเวณนั้น ขณะที่ใช้สายตาสำรวจพื้นที่รอบๆประสาทหูกลับได้ยินเสียงสาดซ่านของสายน้ำทิศของเสียงที่ได้ยินไม่น่าจะห่างจากจุดที่เธอยืนอยู่นัก
นงนภัสพาตัวเองเดินไปตามเสียงที่ได้ยินแนวพุ่มไม้ใหญ่ตรงหน้าถูกดัดโค้งให้ เป็นซุ้มโดยธรรมชาติมีรากไทรน้อยๆจากพันธุ์ไม้เลื้อยทอดยาวปกคลุมลงมาปิด ซุ้มไว้ดั่งเป็นผ้าม่านบังประตู เธอเอามือค่อยๆแหวกมันออกและลอดทะลุไปยังอีกด้าน
ภาพแรกที่เห็นเมื่อเธอแทรกตัวผ่านพ้นแนวซุ้มที่ว่าไปเหมือนจะสะกดให้เธอหยุดนิ่งราวกับต้องมนต์ดวงตาของคู่สวยเธอมองเห็นเรือนร่างบอบบางของหญิงสาวหลายคนในสภาพไร้ซึ่งอาภรณ์ใดๆปกปิดร่างกายกำลังเริงร่าใต้สายน้ำที่ทิ้งตัวลงมาจากต้นน้ำด้านบนตามแนวหินที่ หลั่นชั้นกันลงมาก่อนจะไหลเทดั่งม่านน้ำผืนใหญ่และไหลรวมตัวกันยังแอ่งน้ำใหญ่ด้านล่าง
แต่ที่สะดุดตาเธอกลับเป็นหญิงสาวที่อยู่กลางวงล้อมของหญิงสาวคนอื่นๆ  หญิงสาวคนนั้นสวย สวยมากเสียด้วย  ผิวของหล่อนเนียนละเอียด ขาวอมชมพูลออตา ขาวยิ่งกว่าผู้หญิงคนใดที่เธอเคยพบเห็นมา ยิ่งต้องแสงจันทร์ยิ่งขาวเปล่งประกาย ผมยาวสลวยสีดำขลับเปียกน้ำลู่ลงแนบแก้มนวลทอดยาวลงมาตามเนินอกที่โผล่พ้นน้ำอวบอิ่ม ขาวสล้าง ดูงดงามเย้ายวนตามธรรมชาติ รวมทั้งปาก คอ คิ้ว คางของหล่อนช่างแลดูจิ้มลิ้มพริ้มเพรายิ่งนัก
ผู้หญิงคนนี้ช่างสวย สวยอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ สวยเหมือน... เหมือนน้องฟาง ใช่จะว่าไปแล้วนางผู้นี้เค้าโครงหน้าเหมือนน้องฟาง – ฐิติณัชชา นักศึกษารุ่นน้องของเธอราวกับถอดออกมาจากพิมพ์เดียวกันไม่มีผิดเพี้ยน หากแต่เหล่าผู้หญิงที่อยู่รอบกายนั้นเล่าเธอหาได้รู้จักไม่                                 
นงนภัสรีบหันหลังให้กับภาพนั้นเมื่อได้สติและคิดว่าเป็นการไม่สมควรที่เธอ จะมาแอบดูใครก็ไม่รู้ในขณะที่อีกฝ่ายอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าเช่นนี้ซ้ำยังไม่รู้ตัวว่ามีคนมองอยู่ เธอไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นพวกถ้ำมองแม้ภาพตรงหน้านั่นจะน่ามองก็ตาม เธอกำลังถอยเท้ากลับไปยังด้านที่เข้ามาแต่แล้ว
   เท้าเจ้ากรรมดันเหยียบ เข้ากับแผ่นไม้แผ่นหนึ่ง เธอหยิบขึ้นมาดู แผ่นไม้นั้นมีขนาดไม่ใหญ่นัก สภาพของมันแลดูเก่าและผุพังราวกับว่ามันได้ผ่านกาลเวลานับร้อยๆปี  แต่ทว่าตัวอักษรที่จารึกบนแผ่นไม้นั้น กลับยังคงแจ่มชัดราวกับถูกเขียนขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ หญิงสาวอ่านข้อความบนแผ่นไม้ขากแสงจันทร์สลัวๆที่ทอดเงาลงมายังบริเวณนั้น...
   “รมณ์นลิน...นี่เป็นแผ่นป้ายบอกชื่อสถานที่นี้หรืออย่างไรนะ... ” นงนภัสอ่านข้อความบนแผ่นไม้ แปลกที่ว่าแม้แผ่นไม้นั้นจะดูเก่าคร่ำคร่าแต่ตัวอักษรที่จารึกกลับเป็นภาษาเดียวกับที่ใช้ปัจจุบันในประเทศนี้
    “ฟ้า....มาอยู่ที่นี่นี่เอง พวกเราตามหาซะทั่ว...พวกเราทางนี้ๆ ฟ้าอยู่ทางนี้” แสงไฟฉายถูกส่องมายังใบหน้าของเธอตามมาด้วนน้ำเสียงร้อนรนของพิมพ์ฤดา เมื่อพบว่านงนภัสได้เข้ามาในพื้นที่นี้ นงนภัสหันหลังกลับไปเผชิญหน้ากับพิมพ์ฤดา และกลุ่มเพื่อนๆซึ่งตามสมทบที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอ
   “ละเมอหรือเปล่าฟ้า....ไอ้ดาว มันตื่นมาเข้าห้องน้ำ เห็นเตียงว่างเปล่าก็นึกว่าฟ้าเข้าห้องน้ำ มันตะโกนเรียกหลายทีก็ไม่มีเสียงตอบ จนมันไปดูก็ไม่เจอ มันหาฟ้าซะทั่วห้องก็ไม่พบ จนต้องปลุกพวกเราออกตามหานี่แหละ...” ชลชาติ เพื่อนนักศึกษาร่วมชั้นปีเอ่ยถามอย่างสงสัย  ที่จู่ๆ นงนภัสก็หายตัวไปจากห้องพัก
   “พอดีเราได้ยินเสียงคนเล่นน้ำตก เดินตามมานี่แหล่ะจ๊ะ นี่ไงเราพบแผ่นไม้นี่ด้วย...” นงนภัสตอบก่อนยกแผ่นไม้ให้ดูแต่ในมือเธอว่างเปล่า แผ่นไม้แผ่นนั้นหายไปแล้ว
   “สงสัยฟ้าจะละเมอจริงๆ และบริเวณนี้ก็ไม่มีใครอยู่เลยจากฟ้า” พิมพ์ฤดาพูดพร้อมกับชี้ไปที่บริเวณน้ำตกที่ไร้เงาผู้คนมีเพียงเงาของพระจันทร์ที่ตกกระทบผืนน้ำเท่านั้น
   “หายไปไหนแล้วล่ะเมื่อกี้ยังเห็นอยู่เลย....” นงนภัสอุทานอยากตกใจเมื่อภาพหญิงสาวสราญหลานนางหายไปแล้ว
   “เราว่ารีบกลับกับเถอะ...มืดๆอย่างนี้งูเงี้ยวเขี้ยวขอเยอะแยะ อันตรายจะตาย ฟ้ากล้ามาได้อย่างไรก็ไม่รู้” เนตรดาวรูมเมทสาวที่พักห้องเดียวกับนงนภัสพูดขึ้นก่อนชวนกันกลับรีสอร์ท
   “จ๊ะ” นงนภัสรับคำ ก่อนเดินตามเพื่อนๆไป เธอหันกลับไปมองอีกครั้ง ภาพของหญิงสาวที่มีใบหน้าคล้ายฐิติณัชชา นักศึกษารุ่นน้องของเธอกับเหล่าผู้หญิงที่เธอไม่รู้จัก ยังเล่นน้ำด้วยความสนุกสนานอยู่เช่นเดิมเสียงหัวเราะลอยมากระทบโสตประสาทแจ่มชัดยิ่งนัก  หากแต่เพื่อนคนอื่นๆกลับเดินต่อไปเรื่อยๆ  ไม่ได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของคนเหล่านั้นเลย
    “ไหนฟ้าบอกเรามาสิ ว่าทำไมว่าไปอยู่ที่นั้นได้” พิมพ์ฤดาเอ่ยถามออกมาเบาๆเมื่อทุกคนมานั่งอยู่ที่โต๊ะไม้ขนาดใหญ่บริเวณลานโล่งกลางรีสอร์ทแล้ว
   “เราสะดุ้งตื่นเพราะได้ยิน เสียงน้ำไหนและหัวเราะของผู้หญิงที่กำลังเล่นน้ำตกอยู่ เราเลยตามไปก็พบว่า มีผู้หญิงหลายคนกำลังเล่นน้ำตกอยู่จริงๆ” นงนภัสอธิบายพร้อมกับนึกถีงผู้หญิงคนนั้น ร่างงดงามเปล่าเปลือยของหล่อนตราตึงแน่นในความรู้สึกของเธอ
   “แต่...ตอนที่พวกเราไปเจอฟ้า ที่นั่นไม่มีใครอยู่เลยนะ”   ชลชาติกล่าวแย้งขึ้นมา
   “แต่เราเห็นจริงๆนะต้นน้ำ มิ้นท์เราเห็นจริงๆ” นงนภัสพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ สิ่งทีเธอเห็นมันคืออะไรกันแน่ ทำไมเพื่อนๆคนอื่นๆจึงไม่มีใครเห็นอย่างที่เธอเห็น
   “เราเชื่อจ๊ะฟ้า ว่าฟ้าเห็นจริงๆ” พิมพ์ฤดาพูดพร้อมกับบีบมือปลอบใจ
   “ถ้างั้นทำไมหายไปเร็วนักล่ะ นอกเสียจากว่าจะไม่ใช่...” เนตรดาวพูดขึ้นมาพร้อมกับทำท่าขนพองสยองเกล้า
   “พอๆเลยดาว จะพูดทำไมกลางป่ากลางเขาแบบนี้ แยกย้ายกันไปนอนเถอะพรุ่งนี้ต้องเตรียมทำกิจกรรมแต่เช้า” พิมพ์ฤดาโบกมือห้ามในสิ่งที่เนตรดาวกำลังจะพูดต่อ ในใจนึกหวาดกลัวอยู่นิดๆ ดีนะที่พวกพี่ๆปีสามและรุ่นน้องปีหนึ่งไม่มีใครตื่นขึ้นมาไม่งั้นคงแตกตื่นกันทั้งคณะ
   “เราไม่นอนกับฟ้าแล้วนะ เดี๋ยวเห็นหรือได้ยินอะไรขึ้นมาอีก....” เนตรดาวพุดขณะที่ทุกคนกำลังเดินกลับเข้าห้อง
   “เออๆ งั้นเรานอนกับฟ้าเอง ดาวไปนอนกับสาแล้วกัน” พิมพ์ฤดาพูดก่อนเดินตามนงนภัสเข้าห้องไป
หลังจากนั้นก็ปิดไฟนอนกัน เพื่อเตรียมกิจกรรมรับน้องในวันรุ่งขึ้น ต่างกับนงนภัสที่นอนพลิกตัวครั้งแล้วครั้งเล่า ภาพของเรือนร่างงดงามเปล่าเปลือยของของหญิงสาวที่ใบหน้าคล้ายกับฐิติณัชชาตราตึงแน่นในความรู้สึกของเธอ ทำเธอจึงรุ้สึกเหมือนคุ้นเตยเหมือนเคยเห็นหญิงสาวคนนั้นเปลือยกายมาแล้วแต่นึกไม่ออกว่าที่ใด...ยิ่งนึกก็ยิ่งสับสนทั้งคืน ก่อนผล็อยหลับไปในเวลาค่อนรุ่งนั่นเอง
...............................................................




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.