web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 168
Most Online Ever: 440
(28 เมษายน 2024 เวลา 03:05:22 )
Users Online
Members: 0
Guests: 143
Total: 143

ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่ ๑๒ : คำสัญญาของสองเรา  (อ่าน 930 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ทอถักอักษรา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 73
บทที่ ๑๒ : คำสัญญาของสองเรา
« เมื่อ: 07 มกราคม 2014 เวลา 20:48:58 »


Dream ฝันค้างบนทางรัก Yuri
บทที่ ๑๒ : คำสัญญาของสองเรา

   พยับแดดสาดส่องเข้ามาเหนือพระแท่นบรรจถรณ์  พระธิดามณีจันทร์ตื่นบรรทมขึ้นมาด้วยพระอาการทุเลาลงจนแทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง ทรงลุกขึ้นประทับนั่งและเห็นพระวรกายบอบบางของพระเชษฐภคินีซุกกายหลับใหลอยู่บนพระแท่นบรรจถรณ์เดียวกัน ไม่ห่างออกไปมีทั้งพระโอสถขนานเอกและพานทองที่มีพวงมาลัยที่พระนางทรงกรองพระราชทานมาให้รวมทั้งพระราชสาส์นและผ้าสไบที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นไปทั่วห้องบรรทม  พระนางทรงทอดพระเนตรอยู่ชั่วครูก่อนละพระเนตรกลับมาที่ดวงพักตร์งามล้ำของเจ้าหญิงนลินยุพาก่อนที่จะโน้มพระองค์ลงพินิจดูอย่างใกล้ชิด เกลี่ยพระเกศาบางๆที่ปรกพระพักตร์ออกเผยให้เห็นพระปรางเรื่อผุดผ่องต้องตาต้องใจยิ่งนักจึงทรงก้มลงจุมพิตพระโอษฐ์ประทับประปรางค์หอมกรุ่นของพระนางอย่างหลงใหลอยู่มิวาย
   “ตื่นแล้วฤๅน้องหญิง อาการประชวรของน้องทุเลาลงแล้วใช่ฤๅไม่” เจ้าหญิงนลินยุพาทรงลืมพระเนตรขึ้นมาตรัสถามกึ่งงัวเงีย
   “เพคะ หม่อมฉันหายดีแล้วเพคะ” เจ้าหญิงมณีจันทร์ตรัสตอบด้วยความขวยเขิน
   “ขอบใจน้องหญิงมากนะ” เจ้าหญิงนลินยุพาตรัสพร้อมกับจ้องมองพระพักตร์งามด้วยแววพระเนตรหวานหยดจนเจ้าหญิงมณีจันทร์ทรงก้มหน้างุดด้วยความสะเทิ้นอาย
   “ทรงขอบพระทัยหม่อมฉันด้วยเหตุอันใดเพคะ”
   “ขอบใจที่น้องรักพี่และมอบสิ่งสำคัญที่สุดให้พี่” ตรัสพร้อมกับโอบกอดพระวรกายอ้อนแอ้นของเจ้าหญิงมณีจันทร์แนบพระอุระด้วยความรู้สึกเต็มตื้นในพระทัย ทางฝ่ายพระขนิษฐาเองก็ทรงกอดตอบพระเชษฐภคินีด้วยความรู้สึกมิต่างกัน
   “หม่อมฉันขอคำสัญญาสองประการได้ฤๅไม่เพคะ” เจ้าหญิงมณีจันทร์เงยพระพักตร์ขึ้นสบพระเนตรเจ้าหญิงนลินยุพา
   “ได้สิจ๊ะ จะสักกี่ร้อยประการพี่ก็ยอมทั้งนั้น”
   “ประการแรก พระองค์ทรงสัญญาได้ฤๅไม่เพคะว่าจะรักหม่อมฉันคนเดียว”
   “พี่สัญญาว่าจะรักน้องหญิงคนเดียวทุกภพทุกชาติไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน”
   เจ้าหญิงนลินยุพาทรงรับคำทันทีด้วยพระสุรเสียงหนักแน่น เจ้าหญิงมณีจันทร์แย้มสรวลด้วยความปิติก่อนตรัสต่อไป
   “ประการที่สอง พระองค์ต้องเก็บรักษาสร้อยเส้นนี้ด้วยพระองค์เองห้ามมอบต่อไปให้ผู้ใดทั้งสิ้น” เจ้าหญิงมณีจันทร์ทรงเปิดผอบทองคำลงยาซึ่งบรรจุสร้อยพระศอทองคำมีจี้ทับทิมรูปพระจันทร์เสี้ยวสลักคำว่า ‘ปทุมจันทรา’อันหมายถึงทั้งสองพระองค์เอาไว้หลังจี้นั้นมาสวมให้พระนาง
   “ได้จ๊ะ พี่สัญญาว่าจะรักษาสร้อยเส้นนี้ด้วยชีวิตของพี่ พี่สัญญากับน้องทุกข้อแล้ว ถ้าพี่จะขอคำสัญญาจากน้องอย่างที่น้องให้พี่สัญญาจักได้ฤๅไม่” ทรงตรัสพร้อมกับถอดพระธำมรงค์ซึ่งสลักลายดอกบัวตูมงดงามวิจิตรออกมาจากพระองคุลีและสวมไปที่พระอนามิกาข้างขวาของเจ้าหญิงมณีจันทร์อย่างเบามือด้วยความรักใคร่ทะนุถนอม
   “หม่อมฉันสัญญาเพคะว่าจะรักพระองค์คนเดียวทุกภพทุกชาติและจะเก็บรักษาแหวนวงนี้ด้วยชีวิตของหม่อมฉันจะไม่มีทางที่แหวนวงนี้จะออกจากนิ้วหม่อมฉันได้เลยเพคะ”
   “ขอบใจน้องมากน้องหญิง ตอนที่น้องป่วยพี่ตกใจเสียแทบแย่หากโลกนี้ไม่มีน้องอยู่ พี่ก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม”
   “มิได้เพคะ หม่อมฉันเสียอีกที่ต้องขอบพระทัยพระองค์ที่ทรงรักหม่อนฉันอย่างที่หม่อมฉันรักพระองค์ มิเช่นนั้นหม่อมฉันคงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้หากปราศจากความรักจากพระองค์” เจ้าหญิงมณีจันทร์ตรัสพร้อมกับกอดรัดร่างบางของเจ้าหญิงนลินยุพาเสียแน่นราวกับกลัวร่างนั้นจะหายไป
   “เอียงอกเทออกอ้าง      อวดองค์ อรเอย
เมรุชุบสมุทรดินลง         เลขแต้ม
อากาศจักจารผจง         จารึก พอฤๅ
โฉมแม่หยาดฟ้าแย้ม      อยู่ร้อนฤๅเห็น
   ตราบขุนเขาคีรีข้น      ขาดสลายแลแม่
รักบ่หายตราบหาย         หกฟ้า
สุริยจันทรขจาย         จากโลก ไปฤๅ
ไฟแล่นล้างสี่หล้า         ห่อนล้างอาลัย” ๑

   เจ้าหญิงนลินยุพาเอ่ยถ้อยคำฝากรักด้วยพระสุรเสียงหนักแน่นแต่เปี่ยมด้วยความอ่อนหวาน ซึ่งเปรียบเหมือนพระนางเอียงอกเทความรู้สึกทั้งหมดให้นางรับรู้ แม้จะใช้เขาพระสุเมรุเป็นปากกาจุ่มน้ำในมหาสมุทรเอาแผ่นดินละลายแทนน้ำหมึกและใช้อากาศแทนกระดาษก็ยังมิอาจพรรณนาความรักความอาลัยที่มีต่อนางได้หมด ซึ่งแม้ภูเขาจะทลายลง สวรรค์ทั้งหกชั้น ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ สูญสลายไปจากโลกนี้ ไฟไหม้ทวีบทั้งสี่จนหมดสิ้น แต่ความรักความอาลัยของพี่ที่มีต่อน้องไม่มีวันหมดไป 
เจ้าหญิงมณีจันทร์ได้ฟังถ้อยคำสารภาพรักดังกล่าวก็สะเทิ้นอายยิ่งนัก  จากนั้นทั้งสองพระองค์โอบกอดพระวรกายของกันและกันไว้ด้วยอ้อมกอดแห่งความรัก ความภักดีทั้งหมดทั้งมวลในพระทัย 
พระอาการประชวรของเจ้าหญิงมณีจันทร์จึงทุเลาลงจนดีขึ้นทันตาเพราะความรักจากเจ้าหญิงนลินยุพาดั่งคำที่ว่า ‘ไข้ใจต้องใช้หัวใจรักษาเท่านั้น’
   เมื่ออาการประชวรของเจ้าหญิงมณีจันทร์ทุเลาลงเจ้าหญิงนลินยุพาก็เสด็จกลับพระตำหนักด้วยความรู้สึกอิ่มเอมในพระทัยอย่างยิ่งยวด
...........................................................................
   เจ้าชายธราเทพทรงเสด็จมาเยี่ยมพระอาการประชวรของเจ้าหญิงมณีจันทร์ ผู้มีศักดิ์เป็นพระพระขนิษฐาที่พระองค์ทรงพึงใจทันทีที่ได้ทอดพระเนตรดวงพักตร์งามพิสุทธิ์ยากจะหาเทพธิดาใดมาเทียบนั้น ด้วยความร้อนรนพระทัย โอสถหลายขนานมิอาจทำให้อาการทุเลาลง พระองค์จึงออกสืบเสาะหาโอสถขนานเอกที่ทรงคิดว่าจะสามารถรักษาพระอาการประชวรให้ทุเลาลงได้  เมื่อทรงหามาให้ก็ทรงมอบให้หมอหลวงปรุงเป็นพระโอสถมาพระราชทานแด่พระนาง พระองค์ทรงถือถ้วยพระโอสถด้วยพระองค์เอง
   “พระธิดาเพคะ เจ้าชายธราเทพมาขอเข้าเฝ้าเพคะ” พระพี่เลี้ยงเกสรนำความมากราบทูล
   “รีบเชิญเสด็จเข้ามาเถิด” เจ้าหญิงมณีจันทร์ทรงสรงน้ำและแต่งองค์เรียบร้อยประทับยังพระอาสน์ใกล้ๆพระแท่นบรรทม
   เมื่อเจ้าชายธราเทพเสด็จเข้ามาในห้องพระบรรทมแล้ว เจ้าหญิงมณีจันทร์ทรงลุกขึ้นรับเสด็จด้วยพระอาการที่ดีขึ้น เจ้าชายทรงเสด็จดุอาการด้วยความห่วงใย
   “น้องหญิงพี่นำยามาให้ แต่ดูท่าทางคงไม่ต้องใช้แล้วกระมัง เพราะน้องหญิงไม่เป็นไรแล้ว”
   “ยาที่หมอหลวงปรุงถวายเมื่อวันก่อนช่วยให้อาการน้องดีขึ้นมากเพคะ แต่ยังไม่เป็นปรกตินัก”
   “ถ้าเยี่ยงนั้นเสวยยานี่เสียหน่อยจักได้หายขาด” เจ้าชายธราเทพตรัสพร้อมกับยื่นถ้วยพระโอสถไปให้เจ้าหญิงมณีจันทร์
   “ขอบพระทัยเพคะที่พระองค์ทรงพระกรุณาต่อหม่อมฉัน” เจ้าหญิงทรงรับถ้วยพระโอสถมาเสวยด้วยใบหน้าเหยเก โอสถรสเฝื่อนขมจนพระนางสำลัก
   “ดื่มน้ำหน่อยนะ” ทรงรับถ้วยพระสุธารสที่พระพี่เลี้ยงเกสรรินถวายมาส่งให้ พระนางส่งถ้วยพระโอสถคืนให้เจ้าชายธราเทพก่อนรับถ้วยพระสุธารสมาเสวย
   “ขอบพระทัยเพคะ” พระนางทรงลุกขึ้นถวายบังคมอย่างชดช้อยงดงาม
   “ไม่เป็นไรหรอกน้องหญิง น้องหายป่วยแบบนี้พี่จักได้เบาใจ” ทรงแย้มสรวลด้วยความยินดีที่เห็นเจ้าหญิงมณีจันทร์หายจากพระอาการประชวร 
   เจ้าชายธราเทพทรงเยี่ยมพระอาการของเจ้าหญิงนลินยุพาไม่นานนักก็ทรงเสด็จกลับพระตำหนักเมื่อทรงทอดพระเนตรเห็นว่าพระนางทรงหายเป็นปรกติดีแล้ว เพื่อจักได้เสด็จไปแจ้งข่าวแก่พระเจ้าชัยวรรธนะ เจ้าชายอติรัณณ์ พระเจ้าชัยวรเมธ พระนางสวรินทร์เทวี และเจ้าหญิงนลินยุพาได้รับทราบถึงการหายจากพระอาการประชวรของเจ้าหญิงมณีจันทร์ กษัตริย์ทุกพระองค์และเหล่าพสกนิกรต่างชื่นชมโสมนัสกันถ้วนหน้า พระเจ้าชัยวรรธนะจัดงานเฉลิมฉลองให้พระธิดา นครบุปผาลัยจึงกลับคืนสู่ปรกติสุขอีกครา
หลังจากเสร็จงานเฉลิมฉลองเสร็จสิ้น คณะพระราชอาคันตุกะจากนครพินทุปุระก็เสด็จกลับพระนคร เจ้าหญิงนลินยุพากับจ้าชายธราเทพเสด็จกลับพระนครด้วยความรู้สึกอาลัยยิ่งนักที่ต้องจากนางอันเป็นที่รักกลับบ้านเมืองของตน การเสด็จเยือนบ้านพี่เมืองน้องครานี้สำเร็จได้ด้วยดี ไมตรีของสองนครแน่นแฟ้นยิ่งนัก
เสียดายเพียงแต่ว่ามันมิอาจมั่นคงเป็นปึกแผ่นไปตลอดกาลเท่านั้น....
...........................................................................

๑ จากนิราศนรินทร์คำโคลง บทประพันธ์ของ นายนรินทร์ธิเบศร์ (อิน)




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.