web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 149
Most Online Ever: 440
(28 เมษายน 2024 เวลา 03:05:22 )
Users Online
Members: 0
Guests: 148
Total: 148

ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่ ๒ : ฤๅนิมิตนี้ดั่งบ่วงลวงใจ  (อ่าน 1006 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ทอถักอักษรา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 73
บทที่ ๒ : ฤๅนิมิตนี้ดั่งบ่วงลวงใจ
« เมื่อ: 05 มกราคม 2014 เวลา 16:41:29 »
Dream  ฝันค้างบนทางรัก
บทที่  ๒  :  ฤๅนิมิตนี้ดั่งบ่วงลวงใจ

ฐิติณัชชายังนั่งอึ้งอยู่เป็นนาน  เธอยังนึกถึงใบหน้าของรุ่นพี่คนนั้นสลับกับใบหน้าหญิงสาวในฝันที่สวมชุดไทยโบราณ  เพราะหลังจากคืนนั้นแรกที่เธอฝันเห็นหญิงสาวประหลาดคนดังกล่าวแล้ว ทุกคืนหลังจากนั้นหญิงสาวก็มาเข้าฝันเธออยู่ทุกค่ำคืน โดยเป็นฝันที่ต่อเนื่องกัน  คืนต่อมาหลังจากที่คืนแรกได้พบกันแล้วเธอก็ได้ทำความรู้จักกัน  คืนต่อๆมาเธอยังฝันถึงนางวนเวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า  จนกล้าเอ่ยปากฝากรักกับนาง  จนในที่สุดก็ได้ ผูกสมัครรักใคร่กันฉันคนรัก  คืนแล้วคืนเล่าที่เธอฝัน ในฝันนั้นเธอรู้สึกมีความสุขมากที่ได้อยู่กับคนรัก  และได้ร่วมอภิรมย์สมปองกับนางอันเป็นที่รักนั้น

บทอัศจรรย์ ๑
กอดประทับกับกายสายสวาท         อนงค์นาฏถนอมจิตสนิทสนอง
เสน่ห์แนบแอบเอียงเคียงประคอง         ตามทำนองสองสนิทไม่บิดพลิ้ว
อัศจรรย์หวั่นไหวไม่เร่งรัด            เป็นลมพัดเรื่อยเรื่อยเฉื่อยเฉื่อยฉิว
ช่อใบไม้ไหวกระดิกริกริกริ้ว            ระหวยหิวหอบระเหยเลยหลับไป ๒
เรื่อยเรื่อยเหล่าภุมรินต่างบินว่อน                  เกลือกเกสรบัวทองอันผ่องใส
รื่นรื่นรสสุคนธ์ปะปนไป                         ส่องดวงใจจ่อจิตสนิทนอน ๓
อัศจรรย์บันดาลเป็นฝอยฝน            ดวงอุบลชื่นแช่มแย้มขยาย
ที่ห่อหุ้มกลีบกล้ำก็จำคลาย            คลี่ระบายบานแบ่งรับแสงจันทร์
หมู่ภุมรินบินร้องเที่ยวเร่ร่อน            แทรกไซ้เกสรโกสุมสวรรค์
สองสมสอดคล้องทำนองกัน            เกษมสันต์หรรษาในราตรี  ๔

จนในที่สุดความรักก็แทรกซึมเข้าสู่หัวใจของเธออยู่ทุกอณูจากแต่ก่อนเธอรู้สึกรักนางในฝันคนนั้นแค่เพียงยามที่เธอหลับฝันเท่านั้น  พอตื่นขึ้นมามันก็เป็นเพียงฝันที่สร้างความประหลาดสุขอย่างให้เธอเท่านั้นเมื่อตื่นขึ้นมาเธอยังใช้ชีวิตปรกติต่อไป   แต่หลังจากที่ฝันติดต่อกันทุกคืนเธอก็หลงใหลในตัวนางนั้นทั้งยามหลับและตื่น แต่เธอสามารถพบกันได้แค่เพียงในความฝันของเธอเท่านั้น เธอจึงพยามยามเร่งวันเร่งคืนให้ฟ้ามืดเร็วๆ เพื่อจะได้เข้าสู่ความฝันอันแสนหวานนั้นได้รักกันกับนางนั้น
    สวรรค์กำลังเล่นตลกกับเธอใช่ไหมถึงให้เธอมีความรักแบบนี้  เธอเคยรู้สึกรับไม่ได้กับสิ่งที่มารดาและอาสาวของเธอเป็น  เพราะเธอไม่ยอมรับว่ามันคือความรักอีกรูปแบบหนึ่ง  แต่ในวันนี้เธอกลับต้องมาพบเจอและยอมรับโดยดุษณีว่ามันคือความรัก  หรือมันเป็นเวรกรรมจากการเธอตะโกนใส่หน้ามารดาและอาสาวในวันนั้น  บาปที่ทำให้มารดาบังเกิดเกล้าต้องเสียน้ำตา  วันนี้เธอเข้าใจแล้วว่าความรักแบบนี้มันทุกทรมานแค่ไหนเธอเข้ามารดาและอาสาวของเธอแล้ว  มารดาของเธอคงต้องทุกข์ทรมานที่ต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักนับสิบปี  มารดากับและอาอันณิภาต้องแกล้งทำเป็นไม่คิดอะไรและไม่สามารถทักทายกันเกินกว่า พี่สะใภ้และน้องสะใภ้ได้  ทั้งๆที่คนรักอยู่ต่อหน้า  วันนี้เธอรู้สึกทรมานมากกว่ามารดาเป็นร้อยเท่าเสียอีกเพราะคนรักของเธอนั้นไม่ได้ตัวตนอยู่บนโลกไปนี้  คนรักของเธอไม่มีตัวตนให้เธอได้พบหน้าและจับต้องเช่นนั้น  คนรักของเธอเป็นเพียงจินตนาการในภาพนิมิตฝันของเธอเท่านั้นเอง
เธอนิ่งคิดถึงใบหน้าของรุ่นพี่คนนั้นสลับกับใบหน้าของหญิงสาวคนรักของเธออยู่เป็นนาน เธอไม่ได้ฝันไปเหมือนทุกครั้งใช่ไหม  วันนี้คนรักที่เธอเคยคิดว่าเธอเป็นเพียงจินตนาการในภาพนิมิตฝันของเธอได้มาปรากฏตัวให้เห็นต่อหน้าของเธอแล้ว ถึงแม้ว่าจะมาในนามของนักศึกษารุ่นพี่ก็ตามแต่เธอก็คิดว่ามันคงต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกันแน่นอน  แค่เพียงเห็นหน้าเท่านี้ในความรู้สึกของเธอเหมือนกับว่านางในฝันของเธอนั้นกับรุ่นพี่เป็นคนเดียวกันเพราะแววตาที่เธอจ้องมองเข้าไปมันบอกเธออย่างนั้น
.....................................................................

จนกระทั่งพิธีการการปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่เสร็จสิ้นลง  ทางมหาวิทยาลัยได้ให้นักศึกษาใหม่แยกกันนั่งตามคณะต่างๆเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ  ฐิติณัชชาจึงย้ายที่นั่งไปนั่งยังส่วนของคณะของเพื่อพบปะกับคณาจารย์และรุ่นพี่นักศึกษาคณะเดียวกัน และได้ทำความรู้จักกับเพื่อนนักศึกษาร่วมชั้นปี  ฐิติณัชชานั่งมองเพื่อนนักศึกษาหลายคนพุดคุยกันอย่างสนุกสนาน   พวกเขาอาจจะรู้จักกันก่อนหน้านี้แล้ว แต่เธอเพิ่งมาจากญี่ปุ่นจึงไม่รู้จักใคร ได้แต่นั่งนั่งเงียบๆ คนเดียว  ในขณะที่ฐิติณัชชากำลังนั่งเหงาอยู่คนเดียวก็ได้มีคนมาทักทายเธอ
   “สวัสดีค่ะ ชื่ออะไรเหรอคะ เราเมย์ – เมธาวี บริรักษ์พงศ์ค่ะ” เมธาวีกล่าวทักทายฐิติณัชชาพร้อมกับส่งยิ้มมาให้
   “เราฟาง – ฐิติณัชชา ประพันธ์กุล ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ นั่งด้วยกันสิคะ” ฐิติณัชชารู้สึกดีใจที่เมธาวีมาทักทายเธอ จึงแนะนำตัวไปบ้างและเชื้อเชิญให้นั่งข้างๆ
   “ขอบคุณค่ะ เราก็ยินดีที่ได้รู้จักฟางเช่นกัน แล้วนี่ฟางไม่มีเพื่อนเหรอคะ”
   “ไม่มีหรอกค่ะพอดี คุณพ่อเพิ่งพาเรามาจากที่อื่นนะคะ....” หลังจากนั้นฐิติณัชชาจึงเล่าเรื่องราวของเธอให้เมธาวีฟัง
   “งั้นก็เหมือนเราเลย  เราก็ไม่มีเพื่อนเหมือนกันเพราะเรา....” เมธาวีหลังจากฟังเรื่องราวของตัวเองให้ฐิติณัชชาเพื่อแลกเปลี่ยนกัน
 “ถ้าเราต่างคนต่างไม่มีเพื่อนแบบนี้  เรามาเป็นเพื่อนกันนะคะ” ฐิติณัชชาเอ่ยปากขอเป็นเพื่อนกับเมธาวีซึ่งเมธาวีตอบรับด้วยความดีใจ
   “ค่ะด้วยความยินดี”
เมธาวีเล่าให้ฐิติณัชชาฟังว่าตัวเธอมาเรียนคณะนี้คนเดียวและไม่มีเพื่อนมาเรียนด้วยเช่นเดียวกับฐิติณัชชา เมธาวีเป็นที่มีพื้นเพในจังหวัดนี้แต่อยู่ต่างอำเภอ เพื่อนๆที่สนิทกันที่โรงเรียนเดิมต่างแยกย้ายไปเรียนที่มหาลัยอื่นๆ เมธาวีสังเกตเห็นฐิติณัชชานั่งอยู่คนเดียวไม่มีเพื่อน  จึงคิดว่าอาจจะมาเรียนที่นี่คนเดียวเหมือนกันกับเธอ  เธอจึงลุกจากเก้าอี้เพื่อไปทักทายและทำความรู้จัก  เมธาวีเช่าหอพักอยู่คนเดียวซึ่งไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้เท่าใดนัก
ในระหว่างการปฐมนิเทศที่ต้องพักในมหาวิทยาลัยสามวัน  ฐิติณัชชาได้พักในห้องเดียวกันกับเมธาวี  ทั้งคู่จึงสนิทสนมกันมากกว่าเพื่อนนักศึกษาในคณะแพทย์ศาสตร์คนอื่นๆ มีการแลกเบอร์โทรศัพท์กัน เพื่อใช้ติดต่อกันภายหลังจากปฐมนิเทศเสร็จ
   หลังการปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ที่จัดขึ้น ๓ วันได้เสร็จสิ้นลงและได้มีการนัดหมายกันระหว่างนักศึกษารุ่นพี่กับนักศึกษาใหม่เรียบร้อยแล้ว  นักศึกษาเหล่านั้นก็ได้เดินทางกลับบ้านเพื่อเตรียมตัวสำหรับการศึกษาเล่าเรียนที่จะเปิดภาคเรียนในอีกไม่กี่วันต่อจากนี้
เมื่อกลับบ้านฐิติณัชชาก็โทรศัพท์คุยกันกับณัฏฐรินีย์  น้องสาวฝาแฝดของเธอ  สอบถามสารทุกข์สุขดิบกันพอสมควรแล้วจึงขอตัวนอนหลับพักผ่อนหลังจากที่ต้องเหน็ดเหนื่อยกับกิจกรรมที่ต้องปฏิบัติในระหว่างการปฐมนิเทศ
............................................................

๑   บทอัศจรรย์   คือ  บทที่พระนางมีเพศสัมพันธ์กัน โดยใช้ภาษาและธรรมชาติเป็นสัญลักษณ์แทนการแสดงพรรณนาฉากรักฉากพิศวาสของตัวละคร  โดยการใช้ลักษณะของลมพายุ  คลื่น  ทะเล  ผีเสื้อกับดอกไม้ ฯลฯ ถือว่าเป็นการนำเสนอศิลปะอย่างหนึ่งของผู้ประพันธ์  เพราะผู้ประพันธ์จะไม่นำเสนอแบบตรงไปตรงมา ในการแปลความหมายจะไม่แปลตามตัวอักษรผู้อ่านต้องใช้อาศัยจินตนาการจึงจะซาบซึ้งถึงความไพเราะของบทประพันธ์นั้นๆ ซึ่งในนิยายเรื่องนี้ทอถักอักษราต้องการใช้บทอัศจรรย์แสดงบทที่ตัวละครมีเพศสัมพันธ์กันเพื่อให้เป็นงานศิลปะและไม่ใช่อนาจาร
๒   จากเรื่อง  พระอภัยมณี  บทประพันธ์ ของสุนทรภู่
๓    จากเรื่อง  พญาราชวังสัน  พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖
๔    จากเรื่อง  อิเหนา  พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.