web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 283
Most Online Ever: 440
(28 เมษายน 2024 เวลา 03:05:22 )
Users Online
Members: 0
Guests: 285
Total: 285

ผู้เขียน หัวข้อ: อยากให้รู้ว่ารัก : ตอนที่ 14  (อ่าน 1789 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ป่านิทรา

  • Moderator
  • หน้าใหม่
  • *****
  • กระทู้: 24
อยากให้รู้ว่ารัก : ตอนที่ 14
« เมื่อ: 06 มกราคม 2014 เวลา 17:03:22 »
ตอนที่ 14

ชลธิดาหน้าเห่อร้อนขึ้นมาทันที แม้จะอยากชื่นชมยลโฉมสะคราญของนางต่อ แต่ก็ไม่อยากให้ใครมาเห็นด้วยเช่นกัน อารมณ์คงคล้ายกับเด็กขี้หวงของ จึงรีบดึงรั้งร่างเล็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรกับเขาเลยให้เข้ามากอดแนบกาย หมายจะใช้ร่างที่ใหญ่กว่าของตัวเองปกปิดบิ๊กเปาน่าอร่อย และยิ่งเห็นว่ามีคนกำลังว่ายมาทางนี้ด้วยแล้ว ชลธิดาก็ยิ่งกอดรัดร่างเล็กแน่นมากยิ่งกว่าเดิม จนดูมๆ ของตัวเองเบียดเสียดกับบิ๊กเปาของสาวหมวย จากนั้นก็รีบพลิกร่างหันหลัง เพื่อใช้กายของตัวเองบดบังคนในอ้อมกอดไว้ ไม่ให้ชายหนุ่มที่กำลังว่ายน้ำผ่านมา มีโอกาสเห็นอะไรได้นอกจากแผ่นหลังขาวของตนเอง และเมื่อชายหนุ่มตัวประกอบว่ายผ่านไป ตัวละครหลักจึงรีบหาทางแก้ไขปัญหาใหญ่และล้นเป็นการด่วน

องค์รักษ์พิทักษ์บิ๊กเปาหันซ้ายหันขวาอย่างเลิ่กลั่ก  เพราะกำลังมองหาอะไรสักอย่าง แล้วในที่สุดก็เจอเป้าหมายที่คิดว่าน่าจะเป็นจุดลับตาคนมากที่สุดจนได้

นุชนารถออกอาการตกใจเล็กน้อย ที่จู่ๆ คนตัวสูงดึงเธอเข้าไปกอดเสียแน่น แม้จะตกใจอยู่บ้าง แต่ร่างกายของเธอก็ตอบรับอ้อมกอดนั้น โดยการกอดคอของอีกฝ่ายไว้เช่นกัน แต่อาการตกใจเหล่านั้นก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะบัดนี้มันได้เปลี่ยนเป็นอาการวูบวาบ หวิวไหว อันเกิดจากการสัมผัสกันของสองร่างกาย ที่กำลังเบียดเสียด แนบแน่น อย่างที่ไม่เคยสัมผัสกันมาก่อน แล้วไหนจะการขยับร่างกายของคนตัวสูง ที่กำลังพาเธอเดินฝ่ากระแสน้ำ ที่ยิ่งเดินไกลมากขึ้นเท่าไหร่ เนื้อผิวส่วนล่างก็ถูกถูไถโดนกันไปมามากขึ้นเท่านั้น อีกทั้งลมหายใจอุ่นๆ ที่คอยเป่ารดอยู่ข้างใบหูนั้น ยิ่งเป็นการกระตุ้นอารมณ์ให้เธอรู้สึกสยิวไปทั่วทั้งกาย

“ดะ เดียร์ จะพาเอมไปไหน”  นุชนารถถามเสียงเบาหวิว ก่อนจะลอบมองเสี้ยวหน้าคนตัวสูง ที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาพาเธอไปไหนสักที่ โดยที่แขนทั้งสองข้างยังโอบล้อมรอบตัวเธอไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

“ไปใต้สะพาน”  ชลธิดาหมายถึงใต้สะพานที่ทางสวนน้ำสร้างขึ้น เพื่อให้คนเดินข้ามผ่านไปมาระหว่างเกาะด้านในกับริมสระด้านนอก

“ไปทำไม”  นุชนารถไม่เข้าใจว่าคนตัวสูงจะพาเธอไปตรงนั้นทำไมกัน

“ตรงนั้นมันลับตาคนดี ฉันไม่อยากให้ใครมาเห็นว่าเราทำอะไรกัน กลัวแกจะอาย”  ชลธิดาตอบพร้อมกับใบหน้าที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ เพราะดันไปนึกถึงอกอวบๆ ที่กำลังบดเบียดอยู่กับทรวงอกของตัวเองในตอนนี้อยู่นะสิ

‘ทำไมถึงต้องลับตา แล้วทำไมต้องอายด้วยล่ะ แล้วเราจะทำอะไรกันงั้นเหรอ? เห๊ะ!! อย่าบอกนะว่า.....ในสระน้ำเนี่ยนะ ในสระจริงๆ เนี่ยนะ อ๊ายยตายแล้วคนบ้า จะรอให้ขึ้นจากน้ำก่อนก็ไม่ได้’ พอเห็นอีกคนหน้าแดงเป็นลูกตำลึงตอนสุก แถมยังพูดจาชวนให้คิดลึกอีกต่างหาก ทำให้นุชนารถที่หลงจิ้นตามไปคนละทางถึงกับอายม้วน สติ สตางค์ที่เคยมีก็พลันแตกกระจาย จิตใจฟุ้งซ่านจินตนาการไปถึงไหนต่อไหน

และในที่สุดชลธิดาก็พานุชนารถมาถึงจุดหมายจนได้ คนตัวสูงคลายวงแขนลงเพื่อใช้มือขวาจับขอบสระไว้ ไม่ให้ร่างของตนเองและอีกหนึ่งสาวไหลไปตามกระแสน้ำ ก่อนจะดันร่างเล็กออกเบาแค่พอให้หลังชิดกับขอบสระ และแม้จะคลายอ้อมแขนให้หน้าอกหน้าใจหายใจกันได้สะดวกแล้ว แต่ชลธิดาก็ยังคงใช้ร่างกายของตัวเอง เป็นปราการบดบังอกขาวๆ ของนุชนารถเอาไว้อย่างห่วงแหน

“เดี๋ยวพอปลอดคนแล้ว แกรีบใส่เลยนะ” ถึงแม้ระยะทางจะดูไม่ไกล แต่เป็นเพราะต้องเดินทวนกระแสน้ำ แถมยังมีอีกร่างที่ต้องแบกน้ำหนักไว้ด้วย จึงทำให้ชลธิดาบอกกับคนตัวเล็กด้วยจังหวะการพูดที่ออกจะเหนื่อยอยู่สักหน่อยและน้ำเสียงก็พร่าอย่างเห็นได้ชัด บวกกับหยดน้ำเกาะพราวอยู่ตามใบหน้าที่บัดนี้มีสีแดงจัด ทำให้คนที่กำลังหันซ้ายหันขวาเพื่อดูต้นทางให้ดูเซ็กซี่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

“นี่ได้ยินที่ฉันพูดมั้ย” เมื่อเห็นอีกคนไม่ตอบอะไร เอาแต่ทำตาเยิ้มใส่เธออยู่นั่นแหละ เลยพูดเสียงดังขึ้นอีกนิด เพื่อหยุดสายตาชวนหวั่นไหวนั้นเสียที แค่นี้เธอก็จะแย่อยู่แล้วนะ

“หะ หา ว่าไงนะ” แล้วมันก็สำเร็จซะด้วย

“ฉันบอกว่าพอปลอดคนแล้วให้แกรีบใส่เลย”

“อ๋อ ให้ฉันเป็นคนใส่  ห๊า! หะ ให้ฉันเป็นคนใส่เหรอ”  นุชนารถที่ตีความไปไกลจนกู่ไม่กลับทำสีหน้าตกใจ ก็แหม เธอเคยทำเรื่องอย่างว่าซะที่ไหนกันเล่า!

“ก็ใช่นะสิ มีกันอยู่แค่สองคน ถ้าไม่ใช่แกก็ต้องฉันล่ะที่เป็นคนใส่” ชลธิดาบอก ออกอาการเก้อเขินเล็กๆ เมื่อนึกว่าถ้าตัวเองเป็นคนใส่ให้ เธอก็ต้องได้เห็นบิ๊กเปาคู่นั้นอีกนะสิ แล้วถ้าเกิดอดใจไม่ไหวเผลองับใส่ปากขึ้นมาล่ะก็....(หน้าแดงแปร๊ดยิ่งกว่าเดิม)

“ตะ แต่ฉันใส่ไม่เป็นนะ มันไม่เคยอ่ะ ละ..แล้วอย่างนี้ฉันจะใส่ได้เหรอ” สาวหมวยบอกตะกุกตะกักรู้สึกไม่แน่ใจเลยหากตัวเองต้องเป็นฝ่ายลงมือทำ

“ไม่เป็นไรหรอกน่า ใส่ๆ ไปเหอะให้เสร็จๆ แล้วถ้ามันไม่ได้เรื่องยังไง เดี๋ยวฉันไปสอนแกใส่ต่อในห้องน้ำอีกที” ด้วยความที่ตีความไปผิดๆ ผสมกับบทสนทนาที่สื่อกันไปคนละความหมาย ทำให้นุชนารถอายหน้าแดงหนักขึ้นไปอีก

“แต่ตอนนี้แกช่วยรีบๆ หน่อยแล้วกัน ประเดี๋ยวคนมาก็อดใส่กันพอดี เอาล่ะปลอดคนแล้ว ใส่เลยๆ”  คนตัวสูงรีบเร่งให้นุชนารถจัดการกับบราเจ้าปัญหา เมื่อเห็นว่าทางสะดวกแล้ว

นุชนารถหน้าแดงไปทั้งหน้าและยังลามไปถึงหู มือไม้ก็สั่น แทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลยว่า อีกคนจะบอกให้เธอเป็นฝ่ายเริ่มก่อน สาวหมวยสูดลมหายเข้าใจอย่างหนัก เพื่อเป็นการเรียกแรงใจให้ฮึกเหิม จากนั้นก็ปล่อยมือข้างที่ถนัดออกจากคอคนตัวสูง ก่อนจะนำมือน้อยๆ จุ่มหายลับลงไปในสายน้ำ แล้วค่อยๆ เคลื่อนที่ไปยังจุดสำคัญใจกลางลำตัวของสาวร่างสูง แต่ดูเหมือนว่าจะช้าเกินไป ไม่ทันใจคนตัวสูงเอาซะเลย ด้วยเกรงว่าหากขืนชักช้ามากไปกว่านี้ คนเขียนอาจจะส่งตัวประกอบชายว่ายน้ำผ่านมาทางนี้อีกเป็นแน่

“ช้าจริงวุ้ย! มานี่ฉันใส่เอง” มือเล็กของนุชนารถเป็นอันต้องชะงักไปอย่างกะทันหัน ก่อนจะร้องว๊ายเสียงแหลมออกมาแทน พร้อมๆ กับนำมือขึ้นมาคล้องคออีกคนไว้ตามเดิม

ร่างสูงจัดการคว้าขาของสาวหมวยขึ้นมา แล้วนำมากวัดเกี่ยวไว้ที่เอวของตัวเอง ก่อนจะหลับตาปี๋ แล้วรีบควานหาสายบราเจ้าปัญหา ที่ยังคงลอยน้ำติดอยู่กับลำตัวของสาวหมวยอย่างเร่งด่วน แต่ด้วยความที่มองไม่เห็น ก็เลยทำให้มือไม้มันคลำสะเปะสะปะทั่วไปหมด

นุชนารถรีบก้มลงมองตามมือที่กำลังคลำยุกยิก เมื่อเห็นว่าเนินอกคัพซีของตัวเองตอนนี้ไร้ซึ่งอาภรณ์ปกปิดก็ถึงกับเบิกตากว้าง และด้วยความตกใจ จึงรีบเบียดกายเข้ากอดอีกคนเสียแน่น แต่หารู้ไม่ว่าการกระทำดังกล่าวของตัวเอง มันกลับทำให้อีกคนที่กำลังทำการช่วยเหลืออยู่ ลมแทบจับ เพราะตอนนี้ก้อนเนื้อหยุ่นๆ นุ่มนิ่มทั้งสองข้างนั้น มันดันทาบทับบดเบียดเข้ากับฝ่ามือของคนตัวสูงซะนี่  แถมปลายนิ้วมันยังสัมผัสโดนเข้ากับตุ่มไตบนยอดอกแบบพอดิบพอดีเสียด้วย อาร๊ายยยย~~ ช่างเต็มไม้เต็มมือดีจริงวุ้ย!

“ไอ้บ้าเดียร์เห็นแล้วทำไมไม่บอกห๊า! นี่แนะๆ” นุชนารถใช้มือเล็กทุบหลังอีกคนดังอั๊กๆ เพื่อระบายความโกรธผสมความอับอาย และถึงแม้จะอยากอาละวาดใส่หน้าคนตัวสูงมากแค่ไหน แต่ก็ทำได้เพียงโว้ยวายเบาๆ ไม่กล้าเสียงดังมากหนัก เพราะกลัวว่าจะตกเป็นเป้าสายตาคนอื่น

“อะ..เอมใจเย็นๆ สิ ตะ..ตอนนี้แกปล่อยมือฉันก่อนนะ ฉะ..ฉันจะได้ช่วยใส่บราให้แกไง” เสียงสั่นๆ ของชลธิดาเอ่ยปลอบคนตัวเล็กไปพร้อมๆ กับการพ่นลมหายใจออกหนักๆ เพื่อข่มอารมณ์ตัวเองให้เย็นลง เพราะรู้สึกว่าตอนนี้เลือดในกายมันกำลังพุ่งพล่านไปทั่วแล้ว โอ้ย แม่จ๋าลูกตะบะจะแตก

“ฉันจับมือแกอยู่ที่ไหนกันเล่า อย่ามามั่ว รีบๆ หาทางใส่บราให้ฉันเลยนะ” นุชนารถที่กอดคอคนตัวสูงเสียแน่นบอกอย่างหัวเสีย  เวลาแบบนี้ยังจะมาล้อเล่นอะไรกันอีกนะ

“กะ..แกไม่ได้ใช้มือจับ แต่แกใช้อย่างอื่นจับนี่”  ชลธิดาเถียงหน้าแดงแต่เสียงเบ๊าเบา

“อะไร! ถ้าไม่ใช้มือจับแล้วใช้อะไร” นุชนารถถามเสียงสะบัด เธอรู้สึกโกรธขึ้นมาจริงๆ แล้วนะตอนนี้

“ใช้ เอ่อ...ใช้ไอ้นี่อ่ะ แฮะๆ”  ชลธิดาบอกเสียงอ่อย พลางออกแรงบีบก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นที่ใหญ่จนล้นมือสองสามที เพื่อเป็นสัญญาณบอกให้นุชนารถรู้ว่ามือเธออยู่ตรงไหน

“เดียร์”

“จ๋า”

“หลับตา”

“จ๊ะ”

เพี๊ยะ!!

<

<

“ไอ้เดียร์  หน้ามึงทำไมเป็นอย่างนั้นว่ะ” มิ่งขวัญนั่งจ้องแก้มที่มีรอยแดงเห่อขึ้นเป็นรูปห้านิ้วด้วยความสงสัย ว่าไอ้เพื่อนตัวดีไปทำอะไรใครเขามา สภาพหน้ามันถึงได้เป็นเยี่ยงนี้

“ยุ่งน่า ไม่รู้สักเรื่องได้ไหมเนี่ย แล้วไอ้ลูกชิ้นเนี่ยไม่กินแล้วจะสั่งมาทำซากอะไร”  ชลธิดาออกอาการหน้าบึงตึง ยังนึกเคืองเจ้าของฝ่ามือไม่หาย คนเขาตั้งใจจะช่วยแท้ๆ แทนที่จะขอบคุณ กลับโดนตบรางวัลฉาดใหญ่แทนซะงั้น ซวยจริง!

“อะไรว้า ถามแค่นี้ก็ต้องหงุดหงิดใส่ด้วย ไปกินรังแตนใต้น้ำมารึไง” มิ่งขวัญทำหน้ามุ่ยบ่นอุบอิบอยู่คนเดียว ก่อนจะหันไปสนใจกับอาหารกลางวันตรงหน้าต่อ

“อ้าวเฮ้ย! ลูกชิ้นกู ไอ้เดียร์เอาคืนมาเดี๋ยวนี้เลยนะมึง” มิ่งขวัญร้องลั่น เมื่อลูกชิ้นหมูของชอบที่ตั้งใจจะเก็บไว้กินเป็นอย่างสุดท้ายในชาม ถูกโจรมือไวใช้ส้อมจิ้มฉกลูกชิ้นไปอย่างหน้าตาเฉย

“ก็เห็นมึงไม่กินซะที เอาแต่พูดอยู่ได้ กูเลยช่วยสงเคราะห์ให้ไง กินทิ้งกินขว้างไม่ดีนะโว้ย”  ชลธิดาบอก พลางยืดแขนหลบหลีกหนีมือมิ่งขวัญที่กำลังไล่คว้าลูกชิ้นคืน

“ไม่ต้องมาหวังดีเลยมึง ลูกชิ้นกูๆ กินเองได้ เอาคืนมาเลย”  มิ่งขวัญบอก พยายามเอื้อมมือยื้อแย่งส้อมที่มีลูกชิ้นหมูเสียบคาอยู่จากมือร่างสูงอย่างเอาเป็นเอาตาย

“ม่ายยยยหั้ยยยยย”  ส่วนอีกคนก็ไม่ยอม ใช้มืออีกข้างยันหน้าผากมิ่งขวัญเอาไว้สุดฤทธิ์ ไม่ยอมให้เอื้อมมาถึงมือที่ถือส้อมเอาไว้ง่ายๆ

อีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะอาหารเดียวกัน

“แกเนี่ยน้า~ มันน่าเขกกะโหลกจริงๆ เล้ย อุตสาห์จับแยกให้ไปอยู่กันสองต่อสอง แทนที่จะไปทำให้บรรยากาศหวานๆ ดันไปบู้ล้างผลาญกันซะได้” ชโลธรหันมาบ่นนุชนารถ ที่ดันทำเสียแผนไปซะหมด

“ก็คนมันตกใจนี่ อยู่ดีๆ ก็มา.....(บีบหน่มน๊มเค้า)”  นุชนารถนั่งบิดกายหน้าร้อนผ่าว เมื่อนึกถึงตอนที่ตัวเองถูกคนตัวสูงจับหน้าอก แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ แต่คนมันอายนี่นา เลยเผลอทำรุนแรงไปหน่อย (เหรออออ...)

“เออๆ ช่างเหอะ แกก็รีบไปขอโทษมันล่ะกัน”  ชโลธรเห็นอีกฝ่ายหน้าแดงแถมยังบิดกายซะตัวเกือบขาด ก็เลยไม่อยากต่อว่าอะไรมาก อีกอย่างเรื่องมันก็แล้วไปแล้วไม่เป็นไรเพราะวันนี้ยังมีโอกาสอีกเย๊อะ เดี๋ยวเธอจัดงามๆ ให้ใหม่เอง ฮี่ๆ

“อืมม” นุชนารถรับคำ พลางมองไปทางคนตัวสูงที่กำลังงับลูกชิ้นเข้าปาก แต่พอเห็นเขาชำเลืองมามองก็เบนหน้าร้อนๆ ของตัวเองหลบทันที

หลังจากที่ทานอาหารกลางวันกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชลธิดาและมิ่งขวัญก็ตรงดิ่งไปที่ super spiral ทันที โดยมีชโลธรและนุชนารถตามมาด้วย ส่วนทัศนีย์และหนึ่งฤทัยขอตัวไปนั่งพัก เพื่อย่อยอาหารกลางวันที่เพิ่งทานเข้าไปเสียก่อน จึงปฏิเสธที่จะไปร่วมด้วย

เมื่อขึ้นบันไดมาถึงด้านบนของ super spiral แล้ว ชลธิดาและมิ่งขวัญก็รีบแยกกันลงนั่งไปในรางน้ำคนละข้าง เพื่อแข่งกันว่าใครจะไถลตัวลงไปถึงข้างล่างก่อนกัน โดยมีชโลธรรับหน้าที่เป็นคนส่งสัญญาณนับหนึ่งถึงสาม แล้วทั้งคู่ออกตัวไปพร้อมกัน super spiral เป็นสไลด์เดอร์ขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นรางน้ำที่คดเคี้ยวไปมา บนความสูงเท่ากับตึกสามชั้น ให้ลื่นไถลตัวจากที่สูงลงมาสู่สระน้ำด้านล่างเป็นที่สนุกสนานอย่างมาก

สี่สาวเล่นเจ้า super spiral กันซะหลายรอบ ทีแรกก็ขึ้นไปถึงชั้นบน แต่พอหลายรอบเข้าชักไม่ไหว แข้งขาเริ่มอ่อนแรงเพราะต้องขึ้นบันไดหลายขั้น เลยเปลี่ยนจากชั้นบนเป็นชั้นล่างแทน จนกระทั้งหมดแรงอาหารกลางวันกันแล้วนั่นแหละ จึงเปลี่ยนมานั่งพักแกว่งขาเตะน้ำเล่นกันที่ขอบสระด้านล่างแทน ระหว่างที่นั่งพักกันชโลธรก็ลากมิ่งขวัญมานั่งคุยด้วย เพื่อที่จะเปิดโอกาสให้เพื่อนตัวเล็กได้ขอโทษเพื่อนตัวสูง และเมื่อได้โอกาสนั้นมาถึงนุชนารถก็ใช้มันทันที

“เดียร์” นุชนารถเรียกพลางสะกิดที่ไหล่คนข้างตัวเบาๆ ให้หันหน้ามาคุยกัน

“หืม มีอะไรเหรอ” อีกคนก็หันมาตามเสียงเรียกทันที ไม่ได้มีท่าทีอิดออดหรือแง่งอนแต่อย่างใด

“ขอโทษนะ เรื่อง...”  นุชนารถทำหน้าสำนึกผิดบอกขอโทษอีกคนเสียงอ่อย

“อ๋อ เรื่องนั้นนะเหรอ ไม่เป็นไรหรอก”  ชลธิดาส่งยิ้มเขินๆ ให้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอีกคนขอโทษเรื่องอะไร อีกอย่างตัวเองก็ไม่ได้โกรธอะไรแล้วด้วย ก็พอเข้าใจอารมณ์นางอยู่ จู่ๆ มาโดนจับหน้าอกแบบนั้นเป็นใครก็ต้องมีปฏิกิริยาตอบโต้กันบ้างแหละ

“แล้ว...ยังเจ็บอยู่รึเปล่า” นุชนารถยิ้มตอบ ก่อนจะทำท่าชี้ไปที่แก้มของตัวเอง เพื่อถามถึงอาการเจ็บของอีกคน

“ยังเจ็บอยู่นิดๆ แต่ก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ”  บอกพร้อมกับลูบเบาๆ ที่แก้มของตัวเอง

“ขอดูหน่อยสิ”  ไม่ต้องรอให้อนุญาต นุชนารถจับเข้าที่ปลายคางคนตัวสูงเพื่อให้เอียงหน้าหันแก้มมาให้ดู แล้วก็ได้เห็นว่าบนแก้มนั้นยังมีรอยแดงจางๆ ติดอยู่

“มันยังแดงอยู่เลยอ่ะ”  คนตัวเล็กบอกเสียงอ่อยๆ

“ไม่เป็นไรหรอก แดงแป๊ปเดียวเดี๋ยวก็หายแล้ว”  คนตัวสูงบอกเพื่อให้อีกคนสบายใจ แต่...

“จุ๊บ! หายเร็วๆ นะ”  นุชนารถจูบไปตรงแก้มที่มีรอยแดงอย่างเร็ว ก่อนจะเบี่ยงหน้าที่แดงซ่านของตนหนีเพราะความเขินอาย

“อะ เอม.....” คนถูกขโมยจูบแก้มเรียกชื่อสาวหมวยเสียงแผ่ว ช่างสวนทางกับหัวใจที่กำลังเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ

มือเรียวยาวของคนถูกลักจูบถูกยกขึ้นมา แล้ววางแนบไปกับรอยสัมผัสนั้นเอาไว้ ยังคงรู้สึกได้ถึงความนุ่มชุ่มชื้นของริมฝีปากเย็นๆ แล้วหัวสมองก็หวนคิดถึงรูปถ่ายในโทรศัพท์นั้นขึ้นมา ยัยตัวเล็กทำแบบนี้กับเธออีกแล้ว และครั้งนี้เธอก็ไม่ได้หลับหรือซ้อมเดทอะไรเสียด้วย แล้วเพราะอะไรกันล่ะ? คำถามที่เธอเองก็ไม่แน่ใจที่จะตอบ ทั้งสองต่างนั่งกันนิ่งๆ แต่ก็คอยแอบลอบมองกันอยู่ตลอด จนกระทั้ง....

“เอ่อ/เอ่อ” ต่างคนต่างทำท่าเหมือนจะพูดอะไรออกมา เลยทำให้ต่างฝ่ายต่างเงียบกันไปอีก แต่พอไม่มีใครพูดอะไร ทั้งสองฝ่ายก็ส่งเสียงขึ้นมาพร้อมกันอีกครั้ง เป็นอย่างนี้อยู่สองสามครั้ง ในที่สุดชลธิดาก็หลุดหัวเราะออกมาจนได้

“ขำอะไรเหรอเดียร์”  นุชนารถเอียงคอน้อยๆ ถามอย่างใคร่รู้

“ก็...ขำที่เราใจตรงกันไง”  ชลธิดาบอกยิ้มๆ พร้อมกับมองสบตาคนฟังด้วยแววหยอกล้อ ทำเอาคนตัวเล็กสะเทิ้นไปทั้งใจจนต้องเบนหน้าหนีเพราะความอาย คนตัวสูงเห็นอย่างนั้นก็ยิ่งชอบใจ จึงเอนตัวพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปพูดด้วยใกล้ๆ

“เมื่อกี้จะพูดอะไรกับฉันรึเปล่า ถ้ามีก็พูดได้เลยนะ ฉันยินดีรับฟังเสมอ” 

“ไม่เป็นไร เดียร์พูดก่อนก็ได้ เพราะเมื่อกี้เดียร์เองก็ทำท่าจะพูดอะไรกับเอมเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”  นุชนารถที่ยังคงเอาแต่เบนหน้าหลบบอกปฏิเสธ เพราะจริงๆ แล้วเธอไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน เพียงแต่ตอนนั้นไม่อยากให้บรรยากาศระหว่างสองคนเงียบเกินไปเท่านั้นเอง

“ของฉันไว้ทีหลังก็ได้ ให้แกพูดก่อนเลยเลดี้เฟิร์สไง”  ใจจริงก็อยากจะถามเรื่องที่สงสัยกับคนตรงหน้าออกไปตรงๆ แต่ก็นึกเปลี่ยนใจขึ้นมาเสียเฉยๆ เพราะคิดว่าบางทีอาจจะเป็นตัวเองที่คิดมากเกินไปก็ได้

“เดียร์พูดกะ...”  นุชนารถเอ่ยได้เพียงแค่นั้นก็ต้องชะงักคำพูดไป เพราะเมื่อเธอหันหน้ากลับมา ก็เจอะเข้ากับใบหน้าของอีกคนซึ่งไม่ได้อยู่ห่างจากหน้าของเธอมากนัก ทุกอย่างหยุดนิ่งราวกับมีมนต์สะกด เปิดโอกาสให้นัยน์ตาสองคู่สบประสานกันอย่างเนิ่นนาน จนกระทั้งเป็นนัยน์ตาสีอ่อนเองที่ออกอาการไหววูบเมื่อได้เห็นประกายบางอย่างจากดวงตากลมโตคู่นั้น อะไรบางอย่างที่ทำให้ใจเธอเต้นแรง อะไรบางอย่างที่กำลังดึงดูดเธอให้เข้าไปสัมผัสและตอบรับความรู้สึกทั้งหลายเหล่านั้น ในขณะที่ปราศจากคำพูดใดๆ หากแต่ชลธิดากลับเคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้อีกคนเรื่อยๆ

ฝ่ายนุชนารถเองก็ใจเต้นระรัวเมื่อได้เห็นนัยน์ตาสีอ่อนออกอาการวูบไหว และฉายชัดถึงความปรารถนาที่จะสัมผัสตัวตนของเธออย่างเปิดเผยเป็นครั้งแรก เธอจ้องมองใบหน้าอีกคนที่กำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ ก่อนจะหลับตาลงรอรับสัมผัสนั้นด้วยความเต็มใจ จนกระทั้งรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่กำลังรินรดใบหน้าของเธอ










ออฟไลน์ wind5493

  • หน้าใหม่
  • *
  • กระทู้: 4
Re: อยากให้รู้ว่ารัก : ตอนที่ 14
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 06 มกราคม 2014 เวลา 19:02:18 »
เอร้ยยยยยยย
ค้างงงงงงงงงง
ไรเตอร์!!!!!!!!!
กลับมาก่อนนนนน :02:

pb

  • บุคคลทั่วไป
Re: อยากให้รู้ว่ารัก : ตอนที่ 14
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 11 มกราคม 2014 เวลา 19:21:36 »
 ไรท์จ๋ามาต่อได้แล้ว:14:
ค้างไว้นานๆ ไม่ดีนะจ๊ะ

คนชอบอ่าน

  • บุคคลทั่วไป
Re: อยากให้รู้ว่ารัก : ตอนที่ 14
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 12 มกราคม 2014 เวลา 10:58:17 »
โอมมมมาต่อด่วน :66:

ออฟไลน์ drunk_ladii

  • นักเขียน
  • หน้าใหม่
  • ****
  • กระทู้: 10
Re: อยากให้รู้ว่ารัก : ตอนที่ 14
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 15 มกราคม 2014 เวลา 03:29:03 »
รออ่านอยู่นะไรท์ที่(น่า)รัก!... :63:

Take care ค่ะ  :30:

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.