web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 440
Most Online Ever: 440
(วันนี้ เวลา 03:05:22)
Users Online
Members: 0
Guests: 420
Total: 420

ผู้เขียน หัวข้อ: พริกจิ้มเกลือ ตอนที่ 1  (อ่าน 2411 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ บุษบาสีเทา

  • Moderator
  • หน้าใหม่
  • *****
  • กระทู้: 16
พริกจิ้มเกลือ ตอนที่ 1
« เมื่อ: 26 ธันวาคม 2013 เวลา 21:49:22 »
ตอนที่ 1

ภายในโบสถ์ที่เงียบสงบประดับตกแต่งไปด้วยดอกไม้สีขาวและสีชมพูมากมาย ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วบริเวณ แขกผู้มาร่วมงานแต่งกายด้วยชุดสูทและชุดราตรีสวยงามหรูหราเพื่อมาร่วมงานแต่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ของพระเอกชื่อดัง ณเดชดาราหนุ่มผู้สละโสดจนผู้คนในวงการและหลากหลายแฟนคลับต่างพากันเสียดายในความรวย ความหล่อของเขาด้วยกันทั้งนั้น หลายคนต่างคัดค้านว่าที่เจ้าสาวแสนจะเฉิ่มมิหนำซ้ำไม่มีอะไรที่เหมาะสมกันเลยแม้แต่น้อย

แท๊น...แท๊น...แทน...แท๊น...แทน..แท้น... สายตาทุกคู่หันไปทางประตูโบสถ์ เจ้าสาวแสนสวย วันนี้เธอดูแปลกตาไปจากทุกวัน ทั้งสวย สง่า ต่างจากยัยเฉิ่มที่เคยเห็น สีหน้าณเดช เต็มไปด้วยประกายวิบวับ ยิ้มหวานฉ่ำดีใจจนเนื้อเต้นวันนี้เจ้าสาวของเขาสวยมากกว่าทุกๆวัน

“หลวงพ่อขอประกาศให้ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันนับแต่นี้เป็นต้นไป...”

ปู้ดดดดดด!!! เสียงผายลมดังแทรกเข้ามาในระหว่างที่บาทหลวงจะประกาศ อานุภาพกลิ่นทำให้ทุกคนต่างยกมือป้องปากตัวเองเพื่อกลบกลิ่นเหม็นนั้น

ตุ๊บ!!
“หนอย ไอ้ตัวแสบ แกทำลายความฝันดีๆของฉันเสียหมด”เกลือรีบดึงผ้าห่มออกยกเท้าขึ้นถีบจนโจ๊กจนกระเด็นตกเตียง
“โอ๊ยอีเจ๊ มาถีบฉันทำไมเนี๊ยะ คนกำลังนอนอยู่”โจ๊กโอดครวญกระเด้งตัวลุกขึ้นถามเสียงแจ๋น
“ยังจะมาถามอีก แกตดเหม็นมาก ฉันอ้วกจะแตกตายอยู่แล้ว ต่อไปไม่ต้องมานอนห้องฉันแล้วนะ”เกลือต่อว่าเสียงห้วนผู้เป็นน้องชายยืนเท้าสะเอวทำปากแบะ
“จำคำที่พูดไว้ให้ดีๆละอีเจ๊ แล้วอย่ามาง้อแล้วกัน”พอพูดจบก็สะบัดหน้าพรึบจ้ำอ้าวออกไปจากห้องทันที
“ไอ้น้องบ้า เฮ้ย อารมณ์เสีย กำลังเข้าได้เข้าเข็มมาขัดจังหวะซะได้”ปากพร่ำขณะที่เดินไปเปิดม่านต้อนรับอากาศในตอนเช้าแสนสดใสหลังจากผ่านมรสุมเมื่อคืนที่ผ่านมา
“เฮ้อ ฉันจะเปลี่ยนงานไปอีกกี่งานถึงจะเจอเจ้านายดีๆ กับเขาบ้าง”เกลือบ่นอุบอิบขยับกายบิดไล่ความเมื่อยขบและเรียกความสดชื่นให้ตัวเอง นัยน์ตากลมสวยเป็นประกายดุจน้ำทะเลที่ถูกแสงยามเช้าส่องจ้องมองทิวทัศน์เบื้องหน้าได้กลิ่นดอกพิกุลที่ตั้งต้นสูงใกล้หน้าต่างแม้จะไม่ชอบกลิ่นของมันแต่ก็ทำให้หายจากอาการสะลึมสะลือ

ยัยเฉิ่ม ฉายานี้เธอได้มาตั้งแต่ตอนไหนกันนะ เท่าที่จำความได้เธอก็ถูกเรียกแล้ว นี่เธอคงมีสภาพที่แย่มากแย่ขนาดที่ในสังคมเพื่อน สังคมงานต่างพากันเรียกแทนชื่อจริง บ่อยครั้งเข้าก็ทำให้เธอรู้สึกอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างเหมือนกัน แต่นั่นก็ไม่ใช่ตัวของตัวเอง

ปัง ปัง!!
เสียงกระแทกประตูขั้นรุนแรงดังขึ้นทำให้เธอหยุดความคิดลงผ่อนลมหายใจออกเบาๆ รู้ว่าเลยว่าเป็นใคร เจ้าน้องชายของเธอนั่นเอง ถ้าหากวันไหนไม่ได้ตีฝีปากกับโจ๊กวันนั้นคงจะเป็นวันที่แปลกประหลาดที่สุด
“ไอ้โจ๊ก แกจะถล่มประตูฉันหรือไงยะ”เกลือสวมบทนางมารต่อสู้กับวายร้ายโจ๊กทางสายตา
“อย่ามาใช้สายตาแบบนั้นกับฉันนะยะ....มีผู้ชาย มาหาพี่ เสียด๊าย เสียดาย หน้าตาก็หล่อดี ไม่น่าเลย เฮ้อ”โจ๊กเอาประสานมือสองข้ามแนบแก้มตาหวานหยาดเยิ้ม
“หืม ไม่น่าอะไรของแก”คิ้วบางๆขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย
“ก็เป็นเหมือนโจ๊กไงใครกันนะที่ตุ้งติ้งเหมือนน้องชายของเธอ เท่าที่จำได้เธอก็มีเพื่อนผู้ชายแมนร้อยเปอร์เซ็นต์
“เอ้....ฉันว่าฉันมีแกเป็นของแปลกคนเดียวนะ”เกลือบอกขึ้นพลางใช้ความคิดทบทวนไปทบทวนมาอยู่
“อ๊ายตายละ สมัยนี้เขาเรียกฉันว่าปกติยะ ส่วนหล่อนนะ ผิดปกติยะ”โจ๊กทำไม้ทำมือกระตุ้งกระติ้งออกอรรถรสในการพูด
“เออ ฉันผิดปกติยะ ไปบอกนางด้วยละกันว่าฉันขอตัวอาบน้ำแปปนึง”สิ้นประโยคเกลือจัดการปิดประตูใส่หน้าน้องชายเสียงดังสนั่นและตามมาด้วยเสียงหัวเราะชอบใจ
“อ๊าย อีเจ๊ กล้ามากที่ปิดประตูใส่หน้าฉัน นิสัยเสียชะมัดเลย”โจ๊กเดินสะบัดก้นพาตัวเองออกไปจากหน้าประตูของพี่สาว


“เต้”เสียงเรียกชื่อดังขึ้นอย่างกึ่งไม่แน่ใจเมื่อผู้ชายที่ยืนหันหลังให้แต่งตัวด้วยสีสันสะดุดตาพ่วงด้วยผ้าพันคอสีชมพูหวานแหวน ซึ่งต่างกับรูปร่างกำยำหน้าตาหล่อเหลา โอ๊ย ตายละ อกอีแป้นจะแตก วิทวัส ที่เธอรู้จักกลายมาเป็นเก้งเป็นกวางตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือหญิงแท้ ชายแท้ กลายเป็นคนประหลาดเหมือนอย่างคำน้องชายเธอว่า
“อิงดาว ไม่เจอกันตั้งนาน คิดถึงมว๊ากมาก มากอดทีม๊ะ…ฉันเปลี่ยนชื่อใหม่แล้วนะยะ ต่อไปนี้ให้เรียกฉันว่า แจ๊ส โอเค๊”ไม่แม้แต่ท่าทางและการแต่งตัวคำพูดออกจะดัดไปทางน้อยชายเธอ หรือเธอฝันไปกันแน่ เกลือยกมือขึ้นหยิกแก้มตัวเองจนรู้สึกเจ็บ เธอไม่ได้ฝันไป เป็นความจริง เพื่อนชายของเธอกลายเป็นตุ๊ดไปแล้ว
“เอ่อ เกิดอะไรขึ้นทำไม..แบบว่า”เกลือทำตาปริบๆมองเต้ตั้งแต่หัวจรดเท้า
“โอ๊ย เล่าให้ฟังวันหนึ่งก็ไม่หมด ไว้โอกาสเหมาะๆ ค่อยเล่าละกัน จะว่าไปแกไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ เป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น”
“ใครจะเหมือนหล่อนละยะ”เกลือแอบเกาหัวตัวเอง นี่เธอสับสนหรือเพื่อนชายสับสนกันแน่
“ฉันรู้มาว่าเธอตกงาน วันนี้ฉันเลยรีบมาเสนองานให้แก บริษัทเพื่อนฉันกำลังขาดผู้ช่วย เห็นแกทำงานด้านออกแบบเลยอยากชวนแกไปทำ”
“เฮ้อ...ฉันเบื่อจังเลย เต้ เอ้ย แจ๊ส ทำงานที่ไหนก็ไม่ได้สักที่หนึ่ง ทั้งๆ ที่ฉันไม่เคยทำงานอะไรบกพร่องเลย”
“นี่ หล่อน จะให้พูดกันจริงๆละก็ บุคลิก การแต่งตัวของหล่อน มันแย่สุดๆ แบบนี้ใครที่ไหนเขาอยากให้แกร่วมงาน แล้วดูซิ แว่นหนาเตอะขนาดนี้ หล่อนใส่เข้าไปได้ยังไง แล้วแต่งตัวอะไรของหล่อนยะ ดูซิ เชยสะบัด”สบโอกาสแจ๊สถือโอกาสวิจารณ์เพื่อนสาวอย่างไม่ลดละ เกลือแอบหัวเราะเพราะการแต่งตัวของชายหนุ่มก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเธอตอนนี้เลย
“นี่ ฉันบอกหล่อนอยู่นะยะ หล่อนจะหัวเราะทำไม”มือไม้กวัดแกว่งไปมาเพื่อให้การพูดมีรสชาติ มองดูแล้วจูงใจให้หัวเราะจริงๆ เจ้าโจ๊กคงจะได้มีคู่ขาก็งานนี้ละ นิสัยไม่ต่างอะไรกับน้องชายเธอเลย จะว่าไป กาลเวลาเปลี่ยนคนได้จริงๆ
“เอาละๆ ไม่หัวเราะก็ได้ ว่าแต่เริ่มงานได้เมื่อไหร่ละ”ใบหน้าสวยสวยมีรอยยิ้มปนตลกบ่ายเบี่ยงไปพูดเรื่องงานแทน
“จริงๆ อยากให้เริ่มวันนี้แหละ แต่ฉันอยากให้แกเตรียมใจสักวันสองวัน”
“ให้มันปรับตัวได้จริงๆ เถอะ บอกตรงๆ ฉันเข็ดกับพวกเจ้านายปากร้าย”
“เอาเหอะนะ ดีกว่าตกงานก็แล้วกัน นี่หล่อน ใจคอหล่อนจะไม่ชวนฉันเข้าในบ้านหาน้ำหาท่าให้ทานสักแก้วเหรอยะ เนี๊ยะ ฉันนะพูดจนคอแห้งหมดแล้ว”เกลือหัวเราะเบิกบานกับคำค้อนของเพื่อนหนุ่ม
“เออ มัวแต่คุยเพลิน ลืมชวนเข้าบ้าน เชิญเลย เชิญตามสบาย เดี๋ยวจะเรียกเจ้าน้องชายตัวแสบให้มาคุยเป็นเพื่อน”
“ป่านนี้คงโตเป็นหนุ่มแล้วละซิ”แจ๊สนึกภาพเด็กชายตัวน้อยๆที่ตนเคยอุ้มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ในความน่ารักน่าเอ็นดู


“กลับบ้านเราเถอะนะ ยัยพริก”เสียงปลายสายนุ่มนวลบอกด้วยความเป็นห่วง
“พริกอยู่ที่นี่ก็สบายใจดีอยู่แล้วนะคะ คุณแม่”แม้อ้อนวอนสักกี่ครั้งแต่พริกก็คงจุดยืนของตัวเอง
“อยู่ที่คอนโดคนเดียว เกิดป่วยขึ้นมาใครจะดูแลละ”
“โธ่ คุณแม่ค่ะ พริกโตแล้วนะ พริกดูแลตัวเองได้ ถ้าคุณแม่คิดถึงพริก พริกจะไปเยี่ยมถึงที่เลย”ปัทมายิ่งหนักใจเพียงแค่เรื่องของขวัญชนกและเพลิงพิณทำให้พริกต้องออกจากบ้านหลังนี้ไป
“ลูกยังทำใจไม่ได้ใช่ไหม”พริกนิ่งเงียบคล้ายนึกคำพูดไม่ได้
“คุณแม่อย่าพูดถึงมันอีกเลยค่ะ อะไรที่ผ่านมาก็ให้มันผ่านไป ตอนนี้พริกมีความสุขดี สบายใจด้วย”
“แม่เคารพในการตัดสินใจของลูก เอาไว้วันไหนแม่ว่าง แม่จะไปเยี่ยม แม่ไม่รบกวนลูกแล้ว ดูแลตัวเองด้วย แม่เป็นห่วง”ปัทมาวางสายหันมามองหน้าสามีสีหน้าสลด
“อย่ากังวลมากนักเลยคุณ ลูกคงจะสบายใจกว่าที่จะอยู่ที่นี่”อเนกพูดปลอบใจและให้กำลังใจ


ยามเช้าของวันทำงานวันแรก แสงแดดสาดส่องเข้ามาภายในห้องใหญ่หญิงสาวในชุดกระโปรงลายดอกยาวถึงตาตุ่มและผมหยักศกสีดำสนิทมัดรวบแนบศีรษะ และใส่แว่นตาที่ใหญ่เกือบครึ่งหน้า ใบหน้าจืดสนิทไร้การแต่งแต้มใดๆ สาเหตุนี้ทำให้เธอเป็นตัวตลกของคนรอบข้าง
“อีเจ๊ นี่ยังไม่เลิกแต่งตัวแบบนี้อีกเหรอยะ ฉันละเพลียกับพี่จริงๆ เลย เพราะแต่งตัวแบบนี้ไง ถึงหาไม่ได้สักที”โจ๊กเปิดประตูเข้ามาเจอพี่สาวสุดเฉิ่มยืนหมุนตัวอยู่หน้ากระจก เหมือนว่าวันนี้พี่สาวของตนตั้งใจจะแต่งตัวเป็นพิเศษแต่ก็ไม่ทำให้หล่อนดูดีขึ้นเลย
“ปากไม่เป็นมงคล ปากปีจอ ไอ้น้องบ้า”โจ๊กทำหน้ามุ่ยส่ายหัวไปมา
“คนเค้าอุตส่าห์หวังดียังจะมาด่าอีก”ว่าแล้วก็เดิมดุ่มๆ ออกไปทันที
“ขอบคุณ แต่เก็บความหวังดีของแกไว้เถอะยะ”เกลือหมุนตัวมองกระจกอีกครั้งแล้วหยิบกระเป๋าสะพายเดินออกจากห้อง


เข็มนาฬิกาหยุดอยู่ที่เวลายี่สิบนาฬิกาสามสิบนาทีเมื่อรถเต่าสีหวานแล่นผ่านประตูสแตนเลสเข้ามาจอดหน้าบริษัทพร้อมกับก้าวลงมายืนหยิบคว้ากระเป๋าและสัมภาระที่เธอสรรหา ดวงตาคู่หวานของสาวเฉิ่มจับจ้องไปยังป้ายชื่อบริษัท home-life ด้วยความประหม่า แม้การเริ่มงานใหม่จะเป็นเรื่องปกติก็ตามแต่ก็ทำให้เธอตื่นเต้นอยู่ดี เกลือก้าวขึ้นบันไดกระเบื้องแค่เพียงสองขั้นเธอต้องชะงักฝีเท้า เมื่อได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งยืนกอดอกมองดูเธออยู่ ท่าทางยโสนัก หล่อนแต่งตัวด้วยชุดสูทสีครีม เข้าคู่กับกระโปรงสีเดียวกันที่ยาวเหนือเข่าอวดเรียวขาสวยรับกับรองเท้าส้นสูงสีน้ำตาลคู่อ่อน ทั้งเซ็กซี่ทั้งเพอร์เฟค แทบหาจุดติติงไม่ได้เลย แล้วหล่อนคนนี้เป็นใครกัน ทำไมต้องจ้องมองเธอแบบไม่คลาดสายตาขนาดนี้
เกลือสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ พยายามหักห้ามขาไม่ให้สั่น แต่กลับสั่นมากขึ้นเรื่อยและยิ่งสั่นเมื่อหล่อนกำลังก้าวเข้ามาใกล้
“สวยจัง!!”เกลือกล่าวกับตัวเองในใจและสังเกตทุกระเบียดนิ้ว ผมซอยสั้นจัดทรงทันสมัย ผิวขาวอมชมพู ตาโต จมูกโด่งรั้น ใบหน้ารูปไข่ คิ้วเข้มตัดกับในตาโตดำสนิท ผมยาวสีน้ำตาลอ่อน บุคลิกมั่นใจ เข้าข่ายสวยเริดเชิดหยิ่ง
“อย่าบอกนะว่าเธอจะมาทำงานที่นี่”พริกไม่พอใจกับสายตาที่กำลังมองมาอย่างมาก
“ใช่ค่ะ มีปัญหาอะไรอย่างนั้นเหรอ หรือว่าคุณก็มาสมัครงานที่นี่เหมือนกัน”เกลือตอบเสียงดังฟังชัดและมั่นใจ
“ก็อาจจะใช่ แต่ฉันว่าหน้าตาแบบเธอเขาคงจะรับหรอกนะ”พริกเปรยขึ้นมองด้วยสายตาเย้ยหยัน
“อย่ามองคนกันที่หน้าตาซิคุณเห็นฉันเป็นแบบนี้ฉันอาจจะมีทีเด็ดก็ได้นะ”
“ปากกล้าดีจริงๆ”พริกสอดส่ายสายตามองสำรวจผู้ช่วยคนใหม่อย่างพิจารณาจนเกลือออกอาการประหม่ายิ่งกว่าเดิม
“ไร้มารยาท”เกลือกระแทกไหล่พริกจนเสียหลักและเดินหนีเข้าไปด้านใน
“ไปชงกาแฟให้ฉันสักแก้วซิ”พริกก้าวเข้ามาใกล้หญิงสาวที่กำลังนั่งหน้าแดงกร่ำเพราะความโกรธยืนกอดอกออกคำสั่ง
“ไปชงเองซิ คุณไม่ใช่เจ้านายฉันสักหน่อย”พริกอมยิ้มมองดูไม่คลาดสายตา อยากรู้นักถ้าหากรู้ว่าเธอเป็นใครจะทำหน้ายังไง
“ก็ฉันนี่ไง เจ้านายคนใหม่ของเธอ”
“เหอะ พูดเป็นเล่น หน้าอย่างคุณเนี่ยนะ ถ้าบอกว่าเป็นพวกเชียร์สินค้าค่อยน่าเชื่อหน่อย”พริกยิ้มย่องก้มหน้าลงไปหา ยกคิ้วให้
“อะไรทำให้เธอคิดแบบนั้นสาวน้อย”ร่างเล็กขยับตัวถอยเมื่อพริกหยิบเส้นผมของเธอเล่น
“ไปให้ห่างฉันเลย”เกลือปัดมือพริกออก
“ฉันว่าถ้าเธอปล่อยผมสักหน่อย ใส่เสื้อผ้าแนบเนื้อสักนิด…”พริกถลาตัวเข้าไปนั่งใกล้ๆดึงแว่นตาออกและปล่อยผมที่มวยไว้อย่างเป็นระเบียบให้หลุดลงมา สำรวจหน้าเนียนใสอย่างละเมียดละไม หลังมือข้างหนึ่งลูบไล้แก้มเนียนใสเหมือนแก้มเด็กไร้การตกแต่งใดๆ สายตาจับจ้องดวงตากลมโตด้วยความพอใจ
“เธอชื่ออะไร”พริกถามเสียงแหบพร่าสายตาอ้อยอิ่งอยู่พวงแก้มสวยก่อนจะเลื่อนสายตามองเส้นผมสีดำขลับที่ดูนุ่มหน้าซบ
“ทำไมฉันต้องบอกคุณด้วย แล้วก็ช่วยเอามือสกปรกของคุณออกไปจากผมฉัน”เกลือตอบเสียงสั่นหัวใจรู้สึกเหมือนจะกระเด็นออกมาจนกลัวคนใกล้ๆได้ยิน มือสองข้างที่กำเข้าหากันแน่นเริ่มสั่นจนเธอต้องกดมันแนบกับต้นขา
“จองหอง”เกลือกัดฟันกรอดๆ อารมณ์กรุ่นๆ ลุกขึ้นอย่างเร็วหยิบกระเป๋าตั้งท่าจะเดินออกไป
“นั่นจะไปไหน”พริกคว้าแขนเรียวเล็กเอาไว้
“ไปไหนก็ได้ที่ไม่ต้องเจอคุณ”เกลือหลุบตาต่ำพูดเสียงลอดไรฟันสะบัดแขนจนหลุด
“ไม่มีที่แบบนั้นหรอก เพราะไม่ว่าเธอจะอยู่ไหนฉันจะติดตามเธอเหมือนเงา”พริกยักคิ้วพูดเยาะเย้ยพร้อมกับหัวเราะเสียงดังอย่างผู้ชนะ
“ฉันเกลียดคุณ เกลียด เกลียด”เกลือมองหน้าพริกอย่างขยะแขยงหน้าเธอเริ่มแดงเพราะความโกรธ
“ผู้หญิงเกลียดแปลว่าผู้หญิงรัก”
“ไม่รู้ว่าเอาคำไหนมาด่าคุณดี คุณมัน มัน”
“มันอะไร บอกมาซิ รอฟังอยู่”ความรู้สึกของเธอในตอนนี้มีความสุขอย่างประหลาดทั้งๆ ที่รู้ว่าคนตรงหน้ากำลังโกรธแต่ก็ยังคงอยากจะแหย่
“ไม่อยากคุยด้วยแล้ว คนบ้า”เกลือเอ่ยทิ้งท้ายก่อนจะเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกไปด้านนอก

“หน้าบูดเชียว ไปกินรังแตนที่ไหนมายะ”เพื่อนชายกระตุ้งกระติ้งร้องทักมาแต่ไกล
“รังแตนรังโตด้านในโน่น คนอะไรไม่รู้ ประสาท โรคจิต”เกลือตอบเสียงห้วน แจ๊สเอียงหน้านิดหน่อยมองเข้าไปด้านในเห็นเพียงเกลือยืนกอดอกยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“แกคงไม่ได้หมายถึง…” ทันทีที่ได้เห็นหน้าเพื่อนสาวใบหน้าเจ้าของเสียงหน้าตื่นๆ เบิกตาโตราวกับไข่ห่านและอุทานออกมาเสียงดังลั่น เกลือหันไปมองผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านในและพยักหน้ารับ
“แกนะแก หาเรื่องตกงานแล้วไง”แจ๊สบอกเสียงร้อนรน
“หมายความว่า….ยัยนั่น”เกลือร้องเสียงหลงอย่างตกใจลมแทบจับเอี้ยวหน้ากลับไปมองเจ้านายคนใหม่ดวงตาโตแทบจะถลึงออกมาเมื่อรู้ว่าผู้หญิงคนที่เธอทะเลาะด้วยเมื่อสักครู่นี้คือคนที่เธอจะต้องทำงานด้วย
“คราวนี้เชื่อหรือยังว่าฉันเป็นเจ้านายของเธอ”สายตาคู่สวยตวัดมองแล้วเชิดไปทางอื่น
“เหอะ เจ้านาย เจ้านายโรคจิตแบบนี้ ฉันไม่อยากทำงานด้วยหรอก ฉันขอลาออก”เกลือประกาศเสียงลั่นสะบัดหน้าเดินไป
“ฉันยังไม่ได้รับเธอเข้าทำงานไม่ใช่เหรอ”พริกอมยิ้มนิดๆเดินตามหญิงสาวไปที่รถรีบเอาตัวเข้าไปขวางประตูเอาไว้
“คุณมาขวางฉันทำไม ถอยไปเดี๋ยวนี้เลยนะ”เกลือตะคอกด้วยอาการหงุดหงิด
“ฉันจะทำทุกวิธีทางให้เธอวิ่งแจ้นกลับมาขอทำงานกับฉัน”แก้มนุ่มนิ่มข้างขวาเฉียดใบหน้าของหญิงสาวไปนิดเดียวในขณะที่ริมฝีปากก็พูดหยอกล้อข้างใบหู
“ไม่มีวัน!!”ทำเสียงในลำคอแล้วเชิดปากขึ้นนิดๆ
“ก็ให้มันรู้ไป”พริกกล่าวพลางจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ
“โอ๊ย พอๆ พอทั้งคู่เลย ตกลงวันนี้จะไม่ทำงานกันใช่ไหม”แจ๊สที่ยืนฟังอยู่นานชักรำคาญกับอาการของคนทั้งคู่เลยพูดแทรกเข้ามา
“คราวหน้าถ้าแกจะหางานให้ฉันทำก็ช่วยหาเจ้านายที่มันดีกว่านี้หน่อยนะ”เกลือเหลือบมองทำหน้าเมินเบี่ยงตัวหลบทิ้งตัวลงนั่ง ดวงตาคมกริบนิ่งสนิทแต่กลับแฝงไปด้วยความเย้ยหยันไม่ได้ทำให้พริกมีท่าทีหวาดหวั่นแต่กลับยิ่งชอบใจ

“แกนะแก อุตส่าห์หาผู้ช่วยมือดีให้แล้ว ไม่รู้จักเก็บรักษา”พริกไม่ได้สนใจในประโยคที่เพื่อนชายกำลังพูด เพราะมัวแต่สนใจในตัวคนที่เพิ่งจากไปเมื่อไม่นาน
“นี่แก แก เฮ้ย พริก ยืนเหม่ออะไรอยู่ห๊ะ”แจ๊สใช้มือโบกไปมาซ้ายขวาเพื่อเรียกแต่เจ้าตัวกลับยืนนิ่งจึงเขย่าไหล่แรงๆ
“มีอะไร อยู่ใกล้แค่นี้เรียกซะเสียงดัง”พริกพูดพลางอมยิ้มหมุนตัวกลับเข้าออฟฟิศ
“ทำหน้าอย่างนี้ อย่าบอกนะว่าแกสนใจเกลือ จะบอกให้เอาบุญนะ เพื่อนฉันคนนี้เป็นผู้หญิงแท้ๆ อย่างแกอย่าหวังได้แอ้มเขาเลย”
“ฉันเนี่ยนะ สนใจยัยนั่น โคตรเฉิ่ม ไม่สวย แล้วก็ไม่ฉลาด”ดวงตาดูลึกลับจนแจ๊สเองต้องถอนหายใจจากคำพูดกับสายตามันต่างกันไกล
“ฉันเป็นเพื่อนแก รู้จักแกมานาน มีเหรอแกคิดอะไรฉันจะดูไม่ออก”
“อย่ามาทำเป็นรู้ดีหน่อยเลย”รอยยิ้มผุดปรากฏที่มุมปากทันที

“อ้าว ทำไมกลับมาเร็วนักละ อย่าบอกนะว่าเขาไม่รับเข้าทำงานอีก”เมื่อก้าวเข้ามาในบ้านผู้เป็นแม่เอ่ยปากทักลูกสาวสุดที่รักพร้อมกับโผล่หน้าออกมาจากประตูครัวและเดินเข้ามาหา
“ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย เกลือไม่อยากทำต่างหากเล่า”เกลือบอกเสียงอ่อย
“ไม่ใช่แบบนั้นแล้วแบบไหนละ”ปวีณานั่งลงใกล้ๆยกมือลูบหัวลูกสาวแล้วส่งยิ้มเป็นกำลังใจให้
“เจอเจ้านายโรคจิตนะซิค่ะ คนอะไรไม่รู้ หน้าตาก็ดีหรอกแต่นิสัยห่วยสุดๆ”
“ผู้หญิงหรือผู้ชายละ”
“ผู้หญิงค่ะ”
“แต่แม่ว่า ลูกน่าจะลองดูนะ เขาอาจจะไม่ได้เป็นแบบที่เราคิดก็ได้ ไม่มีอะไรที่ลูกของแม่ทำไม่ได้ไม่ใช่เหรอ”
“ค่ะ คุณแม่สุดที่รัก”เกลือโอบกอดแม่อย่างเด็กขี้อ้อน
“โตแล้วนะ มาทำเป็นอ้อนแม่เป็นเด็กๆ ไปได้”ผู้เป็นแม่กอดตอบและก้มลงหอมแก้มลูกสาวด้วยความรัก
“ไม่อ้อนคุณแม่แล้วจะให้เกลืออ้อนใครที่ไหนละค่ะ”เกลือจัดการทิ้งตัวลงนอนตักมารดาอย่างเคย ปวีณาหัวเราะและส่ายหัวด้วยความเอ็นดูลูกสาว
“วันหนึ่งมีครอบครัวจะมานอนหนุนตักแม่อย่างนี้ไม่ได้แล้วนะ”
“ไม่เห็นอยากจะมีเลย อยากอยู่ดูแลคุณแม่ตลอดไป”เกลือดึงมือมารดามาแนบแก้ม




Taeny

  • บุคคลทั่วไป
Re: พริกจิ้มเกลือ ตอนที่ 1
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2013 เวลา 19:01:49 »
ดูท่าแล้วน่าจะมันน่ะค่ะ สู้สู้ จะรอนะค่ะ  :d16c4689:

Taeny

  • บุคคลทั่วไป
Re: พริกจิ้มเกลือ ตอนที่ 1
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 04 มกราคม 2014 เวลา 13:58:45 »
แวะมาทวงตอนที่2 ค่ะ  :23:

ดอกไม้โบราณ

  • บุคคลทั่วไป
Re: พริกจิ้มเกลือ ตอนที่ 1
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 04 มกราคม 2014 เวลา 17:45:31 »
 :62:ถูกใจพริกอย่างแรงล่ะซิ
เกลือจะต้านไหวไหมน้อ :33:

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.