web stats

ข่าว

 


ดอกเบี้ย ตอนที่5

โพสต์โดย: ขวัญน้อย วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2017 เวลา 19:40:25 อ่าน: 339

รุ่งเช้าวันใหม่ที่สดใส ผิดกับคนหมดสติเมื่อคืน ที่ตอนนี้คิ้วขมวดด้วยความมึนงง ภายในห้องไม่มีใครอยู่เลยนอกจากเธอ พยามฝืนร่างกายให้รีบกลับเข้าสู่โหมดตื่นเต็มตัว อาการปวดหนึบที่ศีรษะทำให้ลุกขึ้นได้ช้ากว่าปกติ

เธอชันตัวนั่งบนเตียงอยู่ครู่ใหญ่จึงเรียกโสตประสาทกลับมาได้ทุกส่วน แล้วก็ต้องแปลกใจว่าชุดที่สวมอยู่เมื่อคืนไม่ได้อยู่บนร่างกาย แต่นอกจากรอยขบ และแผลบนริมฝีปากบางแล้ว ไม่ได้มีอะไรผิดปกติบนตัวเธออีกนอกเหนือจากการที่มีลิปสติกเขียนเปรอะไปทั่วตัว

บางคำที่เธอสามารถอ่านกลับหัวได้เขียนว่า "ยัยบ้า" "สมน้ำหน้า" "สวยตายล่ะ" สารพัดคำที่แปะไปทั่วร่าง รวมไปถึงรูปวาดต่างๆ นาๆ ที่คนเขียนสรรหามาแสดงจิตรกรรมบนเรือนร่าง แขน ขา หน้าท้อง หน้าอก และใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มให้ดูคล้ายตัวร้ายโจ๊กเกอร์ในหนังเรื่องแบทแมน

"...." ไร้ซึ่งคำพูดใดใด เธอถอนหายใจ แม้จะรู้สึกไม่พอใจเพราะพื้นที่บนร่างกายเต็มไปด้วยการละเลงศิลปะระดับเด็กประถม แต่ถ้าเมื่อคืนไม่ได้จิตรกรเอกที่วาดรูปเล่นบนร่างเธอเล่นแล้ว เธอคงเหมือนตกนรกทั้งเป็น ต้องยกความดีข้อนี้ให้หล่อนบ้างล่ะ

ไอรดาตรงไปยังห้องน้ำอย่างเร่งรีบ เพราะเวลานี้ต้องเป็นเวลาที่เธอต้องเข้าทำงานแล้ว ลิปสติกยี่ห้อนี้ดีมากกว่าที่เธอคิดไว้เพราะกว่ามันจะล้างออกได้ เล่นเอาคนถูกเขียนขัดออกจนผิวเกือบถลอก เธอใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่จัดการกับสีสันบนตัวจนเสร็จสิ้น แสบนักอรวี หล่อนจะช่วยเธอหรือจะแกล้งเธอกันแน่ แล้วก็ต้องพบกับปัญหาที่ว่า จิตรกรเอกนั้นขโมยเสื้อผ้าเธอไป ไม่มีอะไรให้นอกจากเสื้อคลุมโรงแรม

"สวัสดีค่ะ"

ไม่ทันที่พนักงานโรงแรมจะกล่าวอะไรต่อ ไอรดาก็ถามถึงบริการเสื้อผ้าของทางโรงแรมอย่างรีบร้อน แล้วอ้างไปว่าเสื้อผ้าเมื่อคืนที่เธอใส่มานั้นเปื้อนอ้วกจนไม่สามารถใช้ได้

"เราไม่มีบริการเสื้อผ้าค่ะ แต่ถ้าคุณผู้หญิงไม่รังเกียจ ทางเรามีเสื้อผ้าที่นักท่องเที่ยวลืมไว้ เมื่อหลายเดือนก่อน และแจ้งไว้ว่าจะไม่มาเอาให้ทางโรงแรมนำไปบริจาค..."

"ได้ค่ะ ดิฉันไม่มีปัญหาเรื่องนั้น" หลังจากบอกไซต์ที่เธอน่าจะใส่ได้ไปแล้ว เธอนั่งรออยู่ไม่นานก็มีพนักงานนำชุดมาให้เธอ

เธอเปลี่ยนมันอย่างไม่รีรอ จะเป็นชุดของใครก็ช่าง ตอนนี้มันช่วยเธอให้ไม่ต้องออกจากโรงแรมมาพร้อมชุดคลุม เจ้านายของเธอคงไม่คิดว่าโรงแรมเล็กๆ อย่างนี้จะมีเสื้อผ้าหลงเหลือมาให้เธอได้ใส่  ฮึ! ไม่อยากคิดเลยถ้ามันไม่มีจริงๆ เธอจะทำอย่างไร

........................

 ไอรดาเดินบนวิ่งเพื่อขึ้นไปยังที่ทำงานชั้นแปด แล้วก็ต้องถอดใจอีกครั้งเมื่อลิฟต์ถูกติดป้ายว่ากำลังปรับปรุง วันนี้มันวันซวยซ้ำซวยซ้อนอะไรของเธอกัน วุ่นวายจังชีวิตฉัน

"คุณไอ" เลขาอีกคนเรียกชื่อเธออย่างตกใจ

"ขอโทษที่มาสายค่ะ" ไอรดาหายใจเหนื่อยเมื่อเธอพึ่งขึ้นมาถึงยังโต๊ะทำงาน เธอตอกบัตรเลยเวลาเข้างานมาแล้วเกือบสองชั่วโมง ยังดีที่โรงแรมนั้นใกล้คอนโด อย่างน้อยคอนโดก็ใกล้บริษัท แต่ลิฟต์นี่สิดันมาปรับปรุงในเวลาที่เธอกำลังรีบ

"คุณมาทำงาน..." มีนพูดลอยออกมาอย่างตะกุกตะกัก

"ใช่ค่ะ วันนี้บริษัทไม่หยุดนี่คะ" ไอรดามองคนตรงหน้าอย่างสงสัย

"เอ่อ...อืม ค่ะบริษัทไม่หยุด คุณอรวีถามหาคุณเมื่อเช้านี้ค่ะ ว่าคุณทำไมยังไม่เข้างานอีก" มีนรีบเปลี่ยนเรื่องให้คนฟังสงสัยกับอีกประเด็นหนึ่งแทน

"ค่ะแล้ว คุณอรวีมีอะไรให้ไอทำรึเปล่าคะ"

"คุณอร ให้คุณเข้าพบเมื่อมาถึงแล้วค่ะ" เธอบอกกับเพื่อนร่วมงาน และก็อดสังเกตไม่ได้ว่าชุดทำงานที่ไอรดาใส่มาวันนี้เป็นเสื้อแขนยาว ซ้ำยังมีผ้าพันคอผืนบาง ที่ประดับไว้อย่างเก๋ไก๋ แต่ไม่เข้ากับบรรยากาศหน้าร้อนเอาซะเลย จะว่าอากาศห้องแอร์นี้เย็นก็ใช่อยู่ ยังไงใส่ผ้าพันคอมาเต็มยศแบบนี้มันก็ดูแปลก หรือว่าจะปกปิดรอยที่วิทยาวางแผนจัดการหล่อนเมื่อคืน สมน้ำหน้าหล่อนแล้วล่ะไอรดา

มีนยิ้มเยาะเมื่อเพื่อนร่วมงานหันหลังตรงไปเคาะประตูห้องเจ้านาย สมน้ำหน้าหล่อน ไม่รู้วิทยาจะพาหล่อนไปถึงไหนมาบ้าง วันนี้เห็นเขาเดินขรึมเข้ามาในที่ทำงาน อยากถามอยู่หรอกแต่ไม่ยุ่งดีกว่า แค่นี้ก็สมใจเธออย่างที่สุดแล้วล่ะ หึหึ

"คุณอรวีคะ" ไอรดาพูดใส่ประตูห้อง

"เข้ามาสิ"

"คุณอรวีมีอะไรให้ดิฉันทำคะ" ไอรดาถามเป็นปกติ ขณะที่คนตรงหน้ายังคงบุคลิกเดิม ไม่สนใจต่อคำพูดเธอ มองผ่านเหมือนเป็นกระจกใส เห็นแล้วใจหายจริงๆ

"เธอมาทำงานสาย พนักงานใหม่อย่างเธอมาทำงานยังไม่ครบเดือน อย่าเรียกร้องสิทธิ์ให้มากนัก ชั่วโมงลาบริษัท ใช้ได้กับพนักงานที่ผ่านงานมาสามเดือนขึ้นไป" เรียบนิ่ง เหมือนไม่เห็นใจว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ไอรดาเกือบเอาตัวไม่รอด เจ้านายเองก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วยไม่ใช่เหรอ หล่อนเป็นคนช่วยเธอเองนี่นา

"ดิฉันขอโทษที่มาสายค่ะ คุณคงทราบดีว่า..." ไอรดาหยุดกลางประโยคเมื่อเจ้านายยกมือห้ามอย่างรำคาญ

"ไม่ต้องอธิบาย สายก็คือสาย ฉันให้มีนทำจดหมายตักเตือนแล้ว ครบสามครั้งเมื่อไหร่ เตรียมเก็บของออกไปได้เลย" ฟังดูเฉยเมยแฝงไว้ด้วยความสะใจเล็กๆ ที่เธอสามารถกลั่นแกล้งคนตรงหน้าได้

"ค่ะ" ไอรดามองเห็นถึงความจงใจ เธอรู้ดีว่าแม้จะเถียงต่อก็ไร้ประโยชน์อันใด อรวีไม่ได้ชอบเธอมาตั้งแต่แรก ละคงจะหาทางไล่เธอไปให้พ้นๆ สักวัน เธอมองหน้าเจ้านายที่ขลุกอยู่กับงานอย่างระอา

"มีอะไร" คนจ้องสะดุ้ง เมื่อเจ้านายปราดหางตามาหยุดที่เธอ

"เปล่าค่ะ" ไอรดายังไม่ออกห้องไป เพราะก่อนหน้านั้นเธอเคยโดนว่าเรื่องเดินออกห้องไปก่อนที่เจ้านายจะสั่งงานครบ ทั้งๆ ที่อรวีทิ้งให้เธอยืนถือแฟ้มรอนานกว่าสิบนาที งานที่สั่งมาก็น่าจะหมดแล้ว

"งั้นออกไปได้ละ" ไอรดาเดินตรงไปที่ประตูแล้วหันกลับมาทางเจ้านายอีกครั้ง

"เอ่อ คุณอรวีคะ"

"อะไรอีก" สีหน้ารำคาญส่งมายังเธออีกรอบ

"เคยมีคนบอกรึยังคะ ว่าคุณวาดภาพอย่างกับเด็กประถมเลยค่ะ" ไอรดายิ้มกวนแล้วรีบเดินออกห้องก่อนที่คนฟังจะได้พูดออกมาสักประโยค แรกเริ่มเดิมทีเธอก็คิดจะขอบคุณเจ้านายอยู่หรอก ทว่าการกลั่นแกล้งที่เธอได้รับ มันหมายถึงการเปิดศึกระหว่างเธอกับคนตรงหน้าเป็นที่เรียบร้อย หล่อนจะใช้อาวุธอะไรมาจัดการเธอจัดมาได้เลย เธอพร้อมรับมือ และแม้จะโต้ตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่เธอจะไม่ยอมแพ้แน่นอน ดูซิว่าใครจะยอมยกธงขาวก่อนกัน

........................

เที่ยงวันมาถึงประธานของบริษัทมารับเธอไปกินข้าวกลางวันเช่นเคย เขาพยามเลือกร้านค้าดูดีมีราคา ทว่ามันไม่อร่อยเลยสำหรับเธอ ทำไมคนรวยพวกนี้ชอบกินอะไรที่มันราคาสูงลิบลิ่ว อาหารโซนตะวันออกอย่างนี้ ไม่คล่องคอเลยจริงๆ

"ไอ ไม่ชอบเหรอครับ" เขาถามอย่างเอาใจ พยามตักของกินมาวางในจานให้เธอ

"ก็ดีนะคะ"

"ไว้เย็นนี้เราไปร้านโปรดไอกัน"

เธอยิ้มอย่างพอใจให้เขาเห็น ตามสบายเลยค่ะคุณท่าน ไปร้านไหนๆ อิฉันก็ไม่ได้ต้องจ่ายอยู่แล้ว ถ้าอร่อยเธอก็สั่งกลับได้ด้วย รวยนักก็จ่ายไปสิ เธอก็อยู่ของเธอดีดี อยากเสนอหน้ามาเลี้ยงข้าวแล้วเลือกร้านผู้ดีมีตังค์ จะมาอ้างไม่ได้นะคะว่าเธอเรียกร้อง

แต่คิดแล้วก็หนักหัว น่าเบื่อชะมัด แล้วเธอจะหาวิธีชิ่งแบบแนบเนียนได้ยังไงกัน เงินที่ได้มาก็ค้ำคอ ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ามันทำให้ชีวิตเธอสบายขึ้นก็จริง แต่สิ่งตอบแทนนี่สิคิดไม่ตก

........................

สองนาทีครึ่งเป๊ะๆ เกือบโดนด่าฟรีๆ ว่าเข้างานสาย ดีนะที่คุณมนตรียังไม่ไปไหน ไม่งั้นลูกสาวท่านคงออกห้องมาพร้อมกับปากที่พ่นไฟใส่หน้าเธอได้ หล่อนด่าเธอแทบจะทุกโอกาส บางเรื่องไม่ผิดด้วยซ้ำยังจะหาคำว่ามาเล่นงานกันได้อีก

เฮ้อ...อดทนไปก่อน ชีวิตเธอคงไม่ต้องมาติดอยู่กับสองพ่อลูกตลอดไปหรอก ไอรดาปลอบใจตัวเอง แล้วก็ต้องมาเลือดขึ้นหน้าอย่างโมโหกับท่าทางคุกคามทางอ้อมของเพื่อนร่วมงานที่วางยาเธอ เขาไม่ได้เข้าใกล้เธอจนต้องหลีกหนี

แต่อาการยักคิ้วหลิ่วตา เห็นแล้วมันกวนเท้าน้อยๆ ของเธอจริงๆ นี่ถ้าเธอมีแรงมากกว่าเขาหน่อยล่ะก็ คงเกิดการฆาตกรรมกลางบริษัทแห่งนี้ แล้วนักข่าวก็คงเอาข่าวไปลงแบบไม่รู้ความจริง หาว่าเธอเป็นบ้านขึ้นมาอย่างกะทันหันเป็นแน่

"สาวโหด ทำร้ายหนุ่มเพื่อนร่วมงานดับสยองคาที่"

ยิ่งคิดก็ยิ่งสะใจ หากทำได้แต่คิดเท่านั้นแหละ เรื่องจริงนะเหรอ ชีวิตเธอคงทำได้แต่อดทนใช่มั๊ย อ้าวแล้วนั้นแฟ้มงานที่เธอเป็นคนทำนี่นา ยัยมีนรับหน้าไปซะงั้น ยิ้มเริงร่าเลยนะคะ ด้านจริงหล่อน

ไม่รู้ว่าใช้ครีมอะไรทาหน้าถึงได้หนาขนาดนี้ ช่างเถอะ พูดไปเจ้านายคงไม่เชื่อ เข้าข้างกันอย่างกับอะไรดี เธอก็คล้ายกับเบี้ยล่างยัยมีนนั่นแหละ รองรับอารมณ์เจ้านายบ้าไม่พอ ต้องมาทนกับเลขาคนสนิทของหล่อนด้วย

แล้วนี่ก็ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานไอรดาก็สังเกตเห็นอรวีเดินออกห้องมาอย่างเร่งรีบ ไม่วายส่งสายตาให้รู้ว่าเธอเป็นเสมือนความเลวร้าย เป็นสิ่งที่ไม่ควรมาอยู่หน้าห้องของหล่อน ราวกับว่าสงครามเย็นเปิดฉากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไอรดาก็ไม่รู้จะเปลี่ยนความคิดหล่อนยังไงได้อีก คนเค้ามีอคติไปแล้ว เปลี่ยนให้ตายยังไงก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นมา จำใจทนต่อไป

"เดี๋ยวค่ะคุณอร รบกวนเซ็นอนุมัติงานด้วยค่ะ" เลขาสาวอีกคนเรียกให้เจ้านายหันกลับ

"ไว้พรุ่งนี้ได้มั๊ย พี่พิชรออยู่" ประโยคที่เอ่ยขึ้นเป็นที่แปลกใจของเลขาคนใหม่ไม่น้อย ว่าเจ้านายที่แทบจะเรียกได้ว่าขยันสุดสุด บอกให้หยุดงานไว้ก่อน แต่สำหรับบุคคลที่ทำงานกับอรวีมานานพอสมควรก็จะทราบทันทีว่าไม่ควรรั้งเจ้านายไว้ในตอนนี้

"อ่าค่ะ พรุ่งนี้มีนจะวางไว้ที่โต๊ะให้ค่ะ" เลขากล่าวอย่างรู้ทัน

"อรครับ ยังไม่เลิกงานเลย พี่รอได้" เสียงหนึ่งดังมาจากข้างหลังอรวี เขาเป็นใครกัน มาตั้งแต่เมื่อไหร่หนอ

"พี่พิช ไหนว่าอยู่สนามบินไง" อรวียิ้มดีใจเมื่อเห็นคนตรงหน้า ดีใจจนออกนอกหน้า เพราะในรัศมีการมองเห็นตอนนี้มีเพียงไกรพิชเท่านั้น

"พอดีเครื่องลงก่อนเวลาหน่อย พี่เลยมาหาอรเร็วขึ้นไง"

"ทำไมไม่โทรบอกล่ะ จะได้ออกไปรับ" คนพูดยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างอดดีใจไม่ได้ อืม ยิ้มแล้วก็ดูดีเหมือนกันนะเจ้านายเรา

"อยากเจออรเร็วๆ ครับ มากอดหน่อยเร็ว" สายตาอบอุ่นนั้นแผ่ออกไปยังเจ้านายจนคนรอบข้างเป็นเสมือนส่วนเกิน อรวีเดินโผกอดคนตรงหน้าอย่างว่าง่าย

"คิดถึงจังเลย" อรวีพึมพำขณะกอดคนตรงหน้าไว้แน่นๆ กลัวจะหายไปไหนไกลๆ อีก

"ไหนดูหน่อยสิ หนักขึ้นรึเปล่า" เขาพูดพลางโอบอีกคนให้ลอยขึ้น ไอรดาสังเกตเห็นแวบนึงว่ามีหอมแก้มกันเล็กๆ ด้วยสิ

"เอ้ย อย่ายกสิ" อรวีหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีสุดๆ

"สวัสดีค่ะ" มีนไหว้ไกรพิช เพราะบรรยากาศเริ่มปรากฏว่าอรวีไม่ได้อยู่กับไกรพิชสองคน ยังมีส่วนเกินอีกสองที่ยืนทำหน้าเหลอหลาอยู่

"สวัสดีครับ ไหนครับแฟ้มที่จะให้อร เดี๋ยวผมจัดการให้ อรนี่ตลอดหนีงานๆ" ไกรพิชเอ่ยแซวอรวี เขาหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นและก็ต้องหันไปมองอีกคนที่อยู่ข้างๆ

"สวัสดีค่ะ" ไอรดายกมือไหว้บ้าง ใครก็ไม่รู้หรอกแต่ต้องสวัสดีไปตามมารยาทเสียก่อน

"สวัสดีครับ อ้าวมีนมีผู้ช่วยเพิ่มอีกคนแล้วเหรอ" เขาหันไปถามเลขาคนเก่า

"ค่ะ นี่ไอรดา เป็นเลขาอีกคนของคุณอรค่ะ" มีนแนะนำไอรดา ทำให้เจ้านายหยุดหันกลับมามองก่อนที่จะเดินเข้าห้องทำงาน

"ผมไกรพิชครับ เป็นคู่หมั้นอร" เขาแนะนำตัวอย่างเป็นทางการให้กับไอรดา ที่ยิ้มรับอย่างพอจะทราบถึงความสนิทสนมที่สองคนนั้นแสดงออก

"เด็กคุณพ่อค่ะ ฝากมาให้ทำงานกับอร พี่เอาแฟ้มมาสิ อรจะรีบจัดการงาน เดี๋ยวเราไปไม่ทันจองร้านอาหารหรอก" อรวีเปลี่ยนเรื่อง เพราะทั้งวันนี้อะไรที่วกไปเกี่ยวข้องกับไอรดาส่งผลต่อต่อมความหงุดหงิดของเธอไม่น้อย แล้วคู่หมั้นเธอยังจะไปพูดกับหล่อนอีก อย่าช้าต้องรีบกำจัดหล่อนเดี๋ยวนี้เลยอรวี...

........................

ยอมรับว่าวันนี้เธอตกตะลึงเหมือนกับได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับที่แปดของโลก เจ้านายที่วางมาดมาตลอด ซ้ำยังไม่เคยมีรอยยิ้มปรากฏอยู่เลย กลับดูสดชื่น ร่าเริงอย่างกับเด็ก ใบหน้าที่บึ้งตึงที่ไอรดามักจะเป็นคนได้เห็นบ่อยครั้ง ตอนนี้มันน่ารักอย่างบอกไม่ถูก....อรวีเป็นผู้หญิงที่จัดได้ว่าน่ารักมากอีกคนหนึ่งในความคิดของเธอ หล่อนดูอ่อนกว่าอายุพอสมควรสำหรับวัยเบญจเพส และแม้ว่าไอรดาจะแก่เดือนกว่า แต่เธอก็ไม่ได้ดูเด็กอย่างกับอรวี การวางท่าว่าขยันขันแข็งนั้นช่วยเสริมบุคลิกให้เกิดความน่าเชื่อถือได้ดีทีเดียว

........................

"นั่นคู่หมั้นคุณอร ไม่ต้องแปลกใจหรอกว่าทำไมถึงปล่อยงานไว้ก่อน" มีนบอกกับไอรดาที่มีสีหน้างงค้างเหมือนเห็นหิมะตก

"ค่ะ ดูรักกันดี" ไอรดาบอกตามที่เห็น

"คู่นี้รักกันยืด คุณไกรพิชเป็นคนที่มั่นคงมาก คุณอรถึงรัก ไม่เหมือนกับผู้ชายทั่วไปเจ้าชู้เป็นนิสัย จริงมั๊ยคะคุณไอ" สำเนียงที่เอ่ยเหมือนชวนคุยทั่วไป หากย้อนฟังดีๆ แล้วจะรู้ว่ามันจิกกัดคนฟัง

"อืมค่ะ ผู้ชายก็เกือบจะเหมือนๆ กันหมด เห็นผู้หญิงสวยๆ ไม่ได้ เจ้าชู้ออกลาย แต่ผู้หญิงไม่สวยก็ดีไปอย่าง ไม่ต้องทนรำคาญเวลามีคนตามจีบ" ไอรดาพูดอย่างแสดงความเห็น เธอรอบสังเกตหน้าเลขาอีกคนที่กระตุกน้อยๆ ถึงไปผ่ามาเท่าไหร่หล่อนก็ไม่มีวันสวยเท่าเธอหรอกย่ะ

"จะว่าโชคดีก็ใช่นะคะ เพราะผู้หญิงไม่สวยดูไม่ร่านผู้ชายดี เหมาะแก่การเป็นแม่ของลูกมากกว่า นางบำเรอชั่วคราว" เอ่ยพลางทำงานไปตามปกติ หนอยยังไม่หยุดนะยัยมีน

ไอรดาเคาะแป้นพิมพ์สนใจกับงานเหมือนประโยคที่ได้ยินนั้นเป็นเพียงการสนทนาธรรมดา เธอกำลังจะกล่าวตอบ ก็ต้องหยุดลงอย่างน่าเสียดายที่ไม่ได้สะท้อนการโจมตีทางคำพูดกลับคืนไปบ้าง ประตูห้องเจ้านายก็เปิดออก พร้อมเสียงหัวเราะลอดออกมาก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกมาซะอีก

"มีนคะ วันนี้ฉันให้ออกงานก่อนได้นะ ไปพักบ้าง" อรวียื่นแฟ้มให้เลขาคนสนิท แล้วเดินควงไกรพิชออกไปอย่างอารมณ์ดี

........................
ลงไว้อีกที่ค่ะ
kwanoi.blogspot.com
........................

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น