web stats

ข่าว

 


ความรักของต้นข้าว 2 : ตอนที่สิบห้า

โพสต์โดย: ลำเนา วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2017 เวลา 14:26:47 อ่าน: 191

   ดารัณหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอยู่หลายรอบ ตั้งใจจะโทรศัพท์ไปหาคนที่ตัวเองคิดถึงมาตลอดหลายวันที่ไม่ได้พบและไม่ได้พูดคุยกัน ด้วยต้องยับยั้งเอาไว้เพราะเกรงว่า ยิ่งนานวันไปความรู้สึกดีๆ นั้นจะทวีมากขึ้น หากได้ใกล้ชิดหรือได้พูดคุยด้วยบ่อยๆ ดารัณยิ้มเมื่อนึกถึงความน่ารักและการดูแลเอาใจใส่ที่นวลณฎาเคยมีให้ยามได้ไปเยือนที่บ้านสวน

   นวลณฎาอมยิ้ม หลังจากหยิบเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาออกมามาเปิดและเริ่มคิดถึงสิ่งที่อยากบอกเล่าออกมาเป็นตัวหนังสือ นึกถึงวันแรกที่ได้พบกับต้นข้าวที่สำนักพิมพ์ ซึ่งรู้สึกไม่ค่อยจะชอบขี้หน้าสักเท่าไหร่ แต่ยิ่งอยู่ใกล้ชิดกลับสัมผัสได้ถึงความน่ารักของต้นข้าวตั้งแต่วันนั้น คืนนั้นและจูบนั้น

   พบเธอ
   ฉันกำลังจะเริ่มต้นเขียนถึงเรื่องราวความรัก ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้ประสบพบมา มันผ่านมานานหลายปีแล้ว แต่ยังจำได้ดี ผู้หญิงคนหนึ่งกับเสื้อเชิ้ตเก่าๆ กางเกงยีนขาดๆ และรถโฟลค์เต่าคันที่เก่ามากมายในสายตาของฉัน

   หากแต่ว่า ดวงตาคู่สวยของเธอคนนั้น ทำให้ฉันไม่กล้าที่จะมองสบตาด้วยมากนักและเลือกที่จะแสดงออกให้เธอเห็นว่า ฉันไม่ค่อยชอบในตัวเธอสักเท่าไร แต่หัวใจกลับเต้นโครมครามอยู่ตลอดเวลาเมื่อได้อยู่ใกล้ชิด หาก ณ ห้วงเวลานั้นคิดแค่เพียงว่า อาจจะเป็นเพราะความน่ารักในความเรียบนิ่งของเธอจึงทำให้ฉันรู้สึกดี ตื่นเต้น และเกิดอาการประหม่าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนไม่ว่าจะกับผู้หญิงคนไหน ไม่ว่าจะแสนดีหรือสวยเพียงใดก็ตาม ฉันต้องพบเจอผู้คนมามากมายในชีวิต แต่เธอนั้นพิเศษ ฉันอยากอยู่ใกล้ ทั้งๆ ที่อีกใจก็บอกกับตัวเองว่า ไม่ชอบขี้หน้าเธอเอาเสียเลย ขณะที่เริ่มพิมพ์อยู่นี่ยังนึกขำตัวเองอยู่ไม่หาย อาจจะด้วยเพราะ เราสองคนต่างเป็นผู้หญิงด้วยกัน และฉันเองก็ไม่เคยตกหลุมรักผู้หญิงคนไหนมาก่อน แต่เคยอกหักมาก่อน เรื่องอกหักคงมีโอกาสมาเล่าเรื่องราวในครั้งต่อไป

   ฉันเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยถูกผู้หญิงด้วยกันจูบมาก่อนและไม่เคยคิดเลยในชีวิตว่า จะจูบผู้หญิงคนไหน เธอคือคนแรกที่ทำให้หัวใจพองโตเกิดความรู้สึกแปลกๆ เกิดคำถามมากมาย เกิดความหึงหวง เกิดอาการน้อยใจและอะไรอีกตั้งมากมาย น่าแปลกนะในความเป็นเธอ นิ่งๆ เงียบๆ ผิวสีแทน รูปร่างดีภายใต้อาภรณ์ที่บดบังความสวยงามเอาไว้ ได้ดึงดูดหัวใจฉันเอาไว้ เกิดขึ้นเมื่อใดฉันก็ไม่รู้ตัว รู้แต่เพียงว่า ยามที่เธอไปสนใจคนอื่นนั้น มันทำให้ฉันหัวเสียมากและเกิดอาการงอน ไม่พอใจขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล

   ยามบอกตัวเองให้อยู่ห่างๆ กลับพาตัวเองให้เข้าใกล้มากขึ้น อยากให้หัวใจนิ่งๆ แต่กลับห่วงใยเป็นทวีคูณ ไม่อยากมองสบตาเธอนัก แต่ก็ชอบแอบมอง ในยามที่เธอจ้องมองมา สายตาเรียบนิ่งของเธอนั้นมันมีเสน่ห์ ไม่รู้ว่าเธอจะรู้ตัวบ้างไหม ณ ตอนนั้นแอบคิดเข้าข้างตัวเองอยู่ตลอดว่า เธอนั้นคงรู้สึกดีกับฉันเหมือนกับที่ฉันรู้สึกดีกับเธอ แต่ถึงอย่างไร ฉันก็คงได้แค่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ เพราะเธอคือ ผู้หญิง และฉันก็เป็นผู้หญิงเช่นกัน
   ณ วันหนึ่ง เรื่องราวบันทึกโดย คุณพี่นวล

   นวลณฎายังคงนั่งยิ้มอยู่ เมื่ออ่านทวนข้อความที่พิมพ์บันทึกเก็บเอา ไว้ ตั้งใจว่าจะลองส่งไปให้ลดาที่เป็นทั้งเพื่อนและอดีตเพื่อนร่วมงานพิจารณาไม่ทันได้สังเกตว่าสาวน้อยมายืนอมยิ้มอยู่ข้างๆ และต้นไม้นำน้ำส้มคั้นมาวางให้จึงได้โอบกอดทั้งสองหนุ่มสาวเอาไว้ พร้อมด้วยประทับรอยจูบไปที่แก้มของ ทั้งสองคน ต้นไม้ดูแลนวลณฎาเป็นอย่างดี คงเพราะบิดาและมารดาได้พูดสอนเอาไว้อยู่บ่อยๆ หนุ่มน้อยไม่ได้มีเพียงหน้าตาที่ละม้ายคล้ายบิดาเท่านั้น นิสัยใจคอแทบจะเลียนแบบกันมาเลยก็ว่าได้

   "ขอบคุณครับ น่ารักมากครับลูก" นวลณฎาบอกกับต้นไม้ที่ยิ้มอย่างมีความสุข

   "พี่ต้นไม้ใจดี แบ่งน้ำส้มให้ดอกพุดด้วยค่ะ" ดอกพุดบอกหันไปยิ้มให้พี่ชายที่ฉีกยิ้มให้อยู่เช่นกัน

   "น่ารักทั้งสองคนเลย มากอดแม่น๊วลนวลแน่นๆ หน่อยเร๊ว" นวลณฎาอมยิ้ม เมื่อเด็กสองคนเข้าสวมกอดเอาไว้แนบแน่น

   "ต้นไม้คิดถึง พี่ดิ๊นดินครับ หายไปเลย" ต้นไม้มองสบตากับนวลณฎาที่ขมวดคิ้วมองสบตากับต้นไม้

   "พี่ดินงานเยอะครับ ว่างคงแวะมาหาต้นไม้กับดอกพุด" นวลณฎาบอกดอกพุดที่อมยิ้ม มองดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีตัวหนังสืออยู่ค่อนข้างมากมาย

   "คุณแม่น๊วลนวลทำงานหรือคะ" ดอกพุดถาม และขยับขึ้นไปนั่งตักของนวลณฎาโดยต้นไม้นั่นขึ้นนั่งเก้าอี้อีกตัวด้านข้าง

   "ใช่ค่ะ เดี๋ยวว่าจะส่งให้ป้าดา เผื่อมีสตางค์มาซื้อขนมให้พี่ต้นไม้กับดอกพุดไงคะ" นวลณฎาหัวเราะเล็กที่เห็นดอกพุดทำตาโต

   "แต่คุณแม่น๊วลนวลจะเหนื่อยสิครับ งานในสวนอีก" ต้นไม้พูดขึ้น

   "ไม่เหนื่อยหรอกครับ มีต้นไม้คอยช่วย แม่นวลก็หายเหนื่อยแล้ว"

   "ได้เลยครับ ต้นไม้จะช่วยคุณแม่น๊วลนวลทุกวัน ถ้าวันไหนไม่ต้องไปเรียนหนังสือ" ต้นไม้ยิ้มมองสบตากับนวลณฎา

   "เก่งมากครับ เมื่อคืนแม่ต้นข้าวโทรศัพท์มา ฝากกอด ฝากหอมแก้ม ฝากบอกว่าคิดถึง ต้นไม้กับดอกพุดมากๆ เลย"

   "คิดถึง คุณแม่ต้นข้าวมากๆ เลยค่ะ" ดอกพุดยิ้มและหันมาโอบกอดคนที่เธอนั่งตักเอาไว้แน่น

   "น่ารักที่สุดในโลกเลย ลูกสาวและลูกชายของแม่" นวลณฎาจูบแก้มดอกพุดและต้นไม้ที่ยิ้มอายๆ แต่เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ซึ่งดังขึ้นได้ดึงช่วงเวลาของการสนทนา นวลณฎายิ้มๆ เมื่อเห็นชื่อที่โชว์อยู่หน้าจอ จึงยื่นโทรศัพท์ให้ กับต้นไม้

   "สวัสดีครับ พี่ดิ๊นดิน คิดถึงมากๆ เลยครับ" ต้นไม้ยิ้มอายๆ มองสบตากับดอกพุดและนวลณฎาที่อมยิ้มกับความน่ารักของหนุ่มน้อย

   "พี่ดินก็คิดถึงมากๆ ครับ ต้นไม้สบายดีนะครับ" ดารัณอมยิ้ม นึกถึงความน่ารักของต้นไม้และดอกพุด ซึ่งถึงจะซนแต่ก็น่ารักมากและไม่ดื้อ

   "ดอกพุดก็คิดถึงค่ะ" เสียงดอกพุดดังแว่วมา

   "บอกดอกพุดด้วยนะครับ ว่าพี่ดินก็คิดถึงดอกพุดด้วย" ดารัณยิ้มนึกอยากบอกไปยังคนที่ตัวเองคิดถึงมากที่สุด

   "สวัสดีค่ะ ต้นไม้บ่นคิดถึงปุ๊บ ดินก็โทรฯ มาปั๊บเลย" นวลณฎายิ้ม

   "แค่ต้นไม้กับดอกพุด" ดารัณยิ้มจางๆ รู้ว่าไม่ควรพูดออกไปอย่างนั้น

   "พี่โดนต่อว่า อยู่หรือเปล่าคะ"

   "เปล่าค่ะ สองหนุ่มสาวคิดถึงก็ดีใจแล้วค่ะ" ดารัณยิ้มจางลงกว่าเดิม

   "พี่ก็คิดถึงดินนะ แต่เห็นคราวก่อนบอกว่างานยุ่ง"

   "ขอบคุณค่ะ ก็ยุ่งนิดหน่อยค่ะ"

   "เหนื่อยหรือ พูดน้อยนะ เราวันนี้" นวลณฎารู้สึกอย่างที่บอก

   "คิดถึงมาก เลยพูดน้อยมั้งคะ"

   "โทรฯ มาเพราะคิดถึงหรือมีเรื่องอื่นด้วยคะ" นวลณฎาถามเผื่อดารัณมีเรื่องจะมีเรื่องงานซ่อมแซมบ้านริมทะเลมาบอก

   "งานบ้านริมทะเลเรียบร้อยดีค่ะ ว่างๆ แวะมาดูได้นะคะ"

   "รับทราบค่ะ ขอบคุณมากนะดินที่ช่วยดูแลเป็นอย่างดี" นวลณฎายิ้มเมื่อนึกถึงความน่ารักและอัธยาศัยดีของดารัณ

   "ยังไม่ได้มาดูเลย รู้ได้อย่างไรคะ ว่าดินดูแลเป็นอย่างดี"

   "ตกลงไม่น่าไว้ใจหรือเปล่าคะ" นวลณฎาหัวเราะเล็กๆ ผ่านมาทางโทรศัพท์ทำให้ดารัณยิ้มกว้างมากขึ้นอีกเล็กน้อย

   "อาจจะนะคะ" ดารัณบอก

   "ต่อปากต่อคำได้ ค่อยยังชั่วหน่อย"

   "ถ้าเกิดดินหายไป หมายถึง งานเสร็จแล้ว พี่นวลจะคิดถึงดินไหม" ดารัณสูดลมหายใจเข้าลึกๆ รู้สึกอึดอัดกับคำถามของตัวเอง

   "น่ารักแบบดินใครจะลืมได้ ว่างก็แวะมาสิ จะได้เตรียมผลไม้ไว้ให้ทานจะได้ฝากไปให้คุณแม่อีก" นวลณฎาบอก รู้สึกแปลกๆ กับสิ่งที่ได้ยินอยู่เหมือนกัน แต่อาจจะไม่มีอะไรหรือปลายสายอาจจะแค่พูดแหย่เล่น

   "อยู่ห่างๆ ดีกว่าค่ะ"

   "อ้าวไหงเป็นงั้นล่ะ"

   "พี่นวลน่ารักเกินไป อยู่ใกล้ๆ บ่อยๆ ไม่ดีแน่" ดารัณพูดด้วยน้ำเสียงงึมงำอยู่ในลำคอ นวลณฎาแอบถอนใจเบาๆ

   "พี่อาจจะไม่ได้น่ารักก็ได้นะ ดินเพิ่งรู้จักพี่แป๊บเดียวเอง อาจจะยังไม่เห็นความร้ายกาจก็ได้ นานไปจะมาบ่นว่า รู้แบบนี้ไม่มารู้จักดีกว่าก็ได้นะ"

   "โห ถ้าพี่นวลไม่น่ารัก ต้นข้าวคง" ดารัณแอบถอนใจ

   "ถอนใจดังไป แวะมาไหมล่ะ เด็กๆ รอคนซนเป็นเพื่อนอยู่นะคะ"

   "ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ เอาไว้ค่อยไปตอนต้นข้าวอยู่ด้วยดีกว่า" ดารัณคิดอย่างที่พูด เพราะการไปเจอทั้งสองคนน่าจะดีกว่า

   "อยากเจอต้นข้าวมากกว่าหรือเปล่าเนี่ย" นวลณฎาพูดแหย่

   "อยากเจอพี่นวลมากกว่า คิดถึงมากค่ะ ไปล่ะ ขอบคุณนะคะ"

   "เอ๊า ดูวางสายไปดื้อๆ เลย" นวลณฎารำพึงออกมาเบาๆ ยิ้มๆ เมื่อนึกถึงดารัณ แต่ก็ภาวนาว่า ขออย่าให้เป็นอย่างที่ตัวเองรู้สึกเลยว่า ดารัณอาจจะรู้สึกกับตัวเธอเองนั้นมากกว่าแค่คนรู้จัก

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น