web stats

ข่าว

 


Angels & Devils - บทที่ 19 รักของฉัน

โพสต์โดย: anhann วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2017 เวลา 20:30:15 อ่าน: 464


นิยายเรื่องนี้เปิดให้จองแล้ว  สนใจดูรายละเอียดและสั่งจองได้ที่ https://goo.gl/forms/gD3Kvc3zvqhZCcIa2



บทที่ 19 รักของฉัน



เฟทกอดตอบคนที่กอดเธอแน่น  เพราะทนฟังเสียงสะอื้นเฉยๆ ไม่ได้  แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายจะต้องห่วงเธอขนาดนี้  แต่ถ้าจะบอกว่าไม่รู้สึกดีใจเลย  เธอก็คงจะโกหก  แล้วมือเธอก็ลูบศีรษะกับแผ่นหลังของเบย์ลีส์เบาๆ ปลอบสาวเจ้าให้สงบลง 

"นี่  ฉันไม่ได้ตายสักหน่อย  ถึงไม่มีร่างนี้  ฉันก็ไม่ได้ตายนะ"  เธอเอ่ย  เผื่ออีกคนจะลืมไปว่าเธอเป็นใคร  แต่เบย์ลีส์ก็ยังไม่หยุดร้องไห้เสียที  แถมยังขยุ้มเสื้อด้านหลังเธอไปพร้อมกับจิกเนื้อตรงนั้นด้วย  ทำไมจะต้องทำเหมือนเจ็บปวดอะไรขนาดนี้

"เฮ้  เบย์..."

"ฉันขอโทษ  ขอโทษ...  ตอนนั้นมันก็เจ็บแบบนี้เลย  เมื่อห้าปีที่แล้ว  ตอนที่เธอ...  ตอนที่ฉัน..."

"ไม่  ไม่ต้องพูดแล้ว  ตอนนี้เธอไม่ได้เสียฉันไป  ฉันจะไม่ไปไหน  ถ้าเธออยากเจอฉัน  เธอก็เรียกฉันสิ  ฉันอยู่ข้างเธอเสมอ  ต่อให้ฉันไม่ได้มีรูปร่างอย่างนี้  ฉันก็คอยดูเธออยู่  เธอก็น่าจะรู้"  เฟทปลอบ  ไม่ชอบเห็นใครร้องไห้เลย โดยเฉพาะเบย์ลีส์  ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ช่วยผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่แรก  เพราะเธอเห็นมาตลอด  เฝ้ามองมาตั้งนานก่อนเบย์ลีส์จะหนีออกจากบ้านซะอีก

"แสงนั่น  เธอนั่นเองสินะ"  เบย์ลีส์พูด  เสียงยังสั่นเครือ  ดวงตาชุ่มน้ำมองคนตรงหน้าพลางลูบแก้มเบาๆ  "เธอเป็นเทวดาประจำตัวฉันหรือไง"

"เปล่า"  เฟทส่ายหน้า  "จริงๆ  ฉันคือกาเบรียล  รู้จักใช่ไหม"

"รู้สิ  รู้... แต่เพิ่งรู้ตอนที่เธอไม่มาหาฉัน  ไม่มาอีกเลย"

"ฉันยุ่งอยู่"  เทวดาสาวตอบ  พอเห็นสายตาตัดพ้อของอีกคน  เธอก็ยิ้มเจื่อนๆ  "ฉันมองเธออยู่  ก็บอกแล้วไง  แค่ไม่อยากให้เธอลำบากใจ  ถ้าต้องเจอฉัน  แค่เธอไม่เป็นอะไรก็พอแล้วนี่  ใช่ไหม"

"ฉันไม่ได้ต้องการให้เธอหรือใครมาปกป้อง  ฉันแค่อยากได้อ้อมกอด  และคนที่คอยบอกฉันว่า  ทุกอย่างจะโอเค  ถึงมันจะเป็นแค่คำพูดปลอบเฉยๆ"

"ก็เธอมี..."

"ฉันไม่ได้ต้องการแค่เซ็กซ์  ฉันต้องการไออุ่นจากหัวใจคนที่กอดฉัน"

"อืม  เข้าใจแล้ว"

"งี่เง่าชะมัด"  เบย์ลีส์พลั้งปาก  แล้วยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างขอโทษขอโพย  ก่อนสวมกอดแน่นๆ อีกที  เฟทกอดตอบเธอทันทีเหมือนกัน  มันรู้สึกดีจนแทบไม่อยากปล่อย  ถ้าไม่ได้ยินเสียงกระแอมดังๆ จากคนที่พวกเธอลืมไปแล้วว่ายังอยู่ที่นี่ด้วย

"จะทำอะไรกันก็ขอเป็นที่อื่นได้ไหม  เว้นที่นี่ไว้ที่หนึ่ง"  เอวาพูดขึ้นระหว่างยืนพิงโพเดี่ยมไม้สำหรับเทศน์ของบาทหลวง  ตามองไปรอบๆ ยกเว้นสองร่างที่ยืนกอดกัน  "ฉันจะไปหาเคซีย์นะ  เมเดอลินบอกว่ากลับมาแล้ว"

"งั้นฉันไปด้วย"  เฟทพูด  แล้วหันมามองเบย์ลีส์อย่างนึกขึ้นได้ 

"ไม่เป็นไร  เธอไปเถอะ  ไม่ต้องไปส่งฉันหรอก"  ผู้เก็บกวาดสาวพูด  แต่ดูก็รู้ว่าไม่อยากให้ไปตอนนี้  "ฉันก็มีที่ที่ต้องไปเหมือนกัน"

"เอางั้นก็ได้"  เฟทพูด  หันหลังให้อีกคน  แต่ที่สุดก็ต้องหันกลับไปจับเบย์ลีส์มากอดจนแน่นเกือบลืมไปแล้วว่าสาวมนุษย์อาจจะกระดูกแหลกได้กับเรี่ยวแรงมหาศาลของเธอ

"เฟท?"

"เข้มแข็งเหมือนที่เธอเคยเป็น  เบย์ลีส์  ถ้าเธอต้องการฉัน  ฉันจะมา  เทวดาไม่ผิดสัญญาหรอกนะ"

เบย์ลีส์พยักหน้าทั้งน้ำตาคลอเบ้า  เทวดาสาวจูบศีรษะเธออย่างที่เคยทำมาเมื่อก่อน  เพียงแต่ครั้งนี้เธอแน่ใจแล้วว่า  จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่ได้มองแผ่นหลังของเฟท  หรือได้เห็นตัวตน

รัก...เธอไม่เคยหยุดรักเฟทได้เลย

แต่ก็นั่นแหละ  เธออาจจะเป็นคนพิเศษที่สามารถแบ่งหัวใจไว้รักใครอีกคนได้เรื่อยๆ อยู่ดี  เธอเป็นผู้หญิงไม่ดีไงล่ะ  เธอโหยหาความรักตลอดเวลา

คนจิตใจไม่บริสุทธิ์อย่างเธอ  ไม่ได้พังพิธีของเฟทก็ดีเท่าไหร่แล้วนะ

"ต้องการรถรับ - ส่งไหม" 

เบย์ลีส์เงยหน้าขึ้นจากพื้นที่เดินมองมันมาตลอดทางออกจากโบสถ์  เธอเห็นร่างสูงโปร่งราวกับนางแบบชุดชั้นในยี่ห้อดังยืนพิงสะโพกอยู่กับรถสีดำ  นัยน์ตาสีฟ้ามองมาที่เธออย่างคาดหวัง

"เธอไม่ได้เอารถมา  และแถวนี้ก็คงร้างเกินไปจนแท็กซี่ไม่กล้าเข้ามา"

"ฉันอยากนั่งรถเล่น  ไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่บ้าน"  เธอบอกระหว่างมายืนอยู่ด้านหน้าเจ้าของรถ  คนตัวสูงก็ไม่ว่าอะไร  ขยับตัวมาเปิดประตูรถให้แต่โดยดี  แล้วตามขึ้นมาบนที่นั่งคนขับ

"ตกลงจะไปไหนกันแน่"

"นรกหรือสวรรค์ก็พาไปเถอะ" 

"งั้นไปนรก"  ลิลิธสรุปตามแต่ใจตัวเอง  แต่เบย์ลีสก็ยิ้มมุมปากอย่างยอมรับ     

....................................................

ออเดรย์มองปีกของเคซีย์ที่สะบัดออกมาจากแผ่นหลังในจังหวะที่เทวดาสาวถึงสวรรค์บนดิน  เคซีย์หอบอยู่กับบ่าเธอ  ยังโยกตัวเบาๆ บนตักราวกับจะบอกว่านั่นมันยังไม่เพียงพอ  แต่เธอก็ไม่ว่าอะไรหรอก  เธอชอบ  และลืมไปแล้วว่าหิวข้าวขนาดไหนก่อนกลับมาถึงบ้าน 

หรือเธออยากกินนมมากกว่ากันนะ

"เธอยังไม่บอกฉันเลย  ว่าทำไมเสื้อเธอเปื้อนเลือด  เลือดใคร"

"เลือด  เลือดฉัน"  เคซีย์บอก  หลับตาร้องออกมาเบาๆ  การเสียดสีด้านในกายทำให้ร้อนระอุและอยากจะปลดปล่อยอีกครั้ง  เธออาจจะไม่ใช่ลิลิธหรือซัคคิวบัสที่ต้องการเซ็กซ์ในการรักษาตัว  แต่เธอต้องการให้ออเดรย์ล้างร่างกายเธอให้สะอาดอีกครั้ง  มีเพียงออเดรย์เท่านั้นที่ทำให้เธอรู้สึกสะอาดมากพอสำหรับการเป็นเทวดารับใช้พระบิดา  ทำให้ปีกของเธอยังคงเป็นสีขาว

"เธอมีเลือดได้ยังไง  เธอไม่เคยเป็นแผล"  ออเดรย์ถาม  แล้วใช้ทั้งปากและมือดูแลก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นที่เจ้าของมันเสนอมาให้อย่างเต็มใจ

"มัน  มันมีอาวุธพิเศษ"  เคซีย์ตอบ  มองออเดรย์ดูดหน้าอกตัวเองราวกับทารก  แล้วปรือตาลงเมื่อปลายลิ้นซนม้วนตวัดยอดถัน  บั้นเอวเธอก็โยกแรงขึ้นตาม  และหลังจากที่จังหวะโยกย้ายของเธอแรงขึ้นเร็วขึ้นไม่นานนัก  เล็บเธอก็จิกแผ่นหลังเนียนของเจ้าของตักจนร้องซี้ด  กระนั้นออเดรย์ก็ยังลูบไล้ปีกของเธออย่างอ่อนโยน

"ฉันเป็นห่วงเธอมากนะ  รู้ไหม"

"ห่วงตัวเองเถอะ"  เธอว่า  ผลักสาวมนุษย์ให้นอนลง  แล้วร่นตัวลงมาทางใต้  มองสบตากับเจ้าของขายาวๆ ที่เธอจับแยกออกจากกันเป็นการขออนุญาต  พอออเดรย์พยักหน้าให้  เธอก็เริ่มกระบวนการคืนความสุขให้แฟน

ออเดรย์หอมหวานน่ากินไปทั้งตัวแบบนี้  เธอไม่มีทางจะยินดีแบ่งปันให้ใครอยู่แล้ว  ขอเพียงแค่ออเดรย์ระวังตัว  ไม่ยกความบริสุทธิ์ทั้งร่างกายและจิตใจนี้ให้ใครนอกจากเธอ...เห็นแก่ตัวหรือ  ก็นิดหน่อยละ

"โดนตรงไหนมา  แล้วทำไมถึงหายแล้ว" 

เคซีย์ครางหงุดหงิดเล็กน้อยเพราะเสียงคำถาม  ไม่ได้โกรธคนถาม  แค่ไม่อยากนึกถึงมัน  แต่คนที่ปล่อยให้เธอนอนเกยก่ายอยู่โดยไม่บ่นว่าหนัก  หรืออึดอัดก็ควรจะได้รับรางวัลบ้างใช่ไหม

"ต้นแขนซ้าย  แต่ลูกน้องลูซิเฟอร์ช่วยน่ะ"

"อซาเซลน่ะเหรอ"

"อืม" 

"แล้วขอบคุณเขาบ้างหรือเปล่า"  ออเดรย์ถามตามประสาคนจิตใจดีที่เวลามีคนช่วยก็ต้องขอบคุณ  แต่ถึงจะรู้  เคซีย์ก็อดขุ่นใจไม่ได้

"ทำแล้วน่า  เธอคิดว่าฉันเป็นยังไงเหรอ"

"หยิ่งสะบัด"  ออเดรย์ตอบเร็วอย่างไม่หยุดคิด  เลยโดนตีแขนไปสักที  แรงไม่ใช่น้อยด้วย  "อะไรล่ะ  ก็ยอมรับบ้างสิ  เธอหยิ่งจะตาย"

"งั้นก็แลกกันเลยไหม  มาเป็นเทวดาแทนฉันเลยสิ  จิตใจดีเหลือเกิน"

"พาลอย่างนี้  หิวแล้วใช่ป่ะ"

"ไม่หิว  ฉันไม่มีความหิว"

"แต่ฉันหิวนะคะ"

เคซีย์กลอกตา  แต่ก็ยอมพลิกตัวลงมานอนบนที่นอนแทนตัวคน  ดึงผ้าห่มมาทดแทนความอบอุ่นที่หายไปเพราะผู้หญิงตัวสูงลุกขึ้นไปเดินเก็บเสื้อผ้าที่เราสลัดทิ้งเกลื่อนไปทั่วห้อง  ปากก็บ่นอุบอิบอะไรที่เธอไม่ได้สนใจฟัง  เธอแค่อยากมองเรือนร่างเปลือยเปล่าราวกับถูกศิลปินเอกของโลกบรรจงสร้างขึ้นมา  เดินไปเดินมาอยู่ในห้องนอนห้องนี้

เธอไม่อยากคิดเลยนะ  ว่าพระเจ้าลำเอียงมากที่สร้างออเดรย์มาได้สวยขนาดนี้  บริสุทธิ์ยิ่งกว่าทองคำ  บางครั้งผิวขาวอมชมพูนั่นก็เรืองแสงขึ้นมาสว่างกว่าตัวเธอเสียอีก  ขาดไปแค่ปีกเท่านั้นก็เหมือนนางสวรรค์แล้ว

"มีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นตอนที่เธอเกิดหรือเปล่า  ออเดรย์" 

อยู่ๆ เธอก็ถามขึ้นมา  พาให้คนที่กำลังสวมเสื้อผ้าหันมามองด้วยสายตาประหลาด  หากออเดรย์ก็กลับตอบโต้กับเธอคล้ายไม่คิดว่ามันแปลก

"แบบคนตาทิพย์   ที่ตอนเกิดจะมีรกคลุมหน้าออกมาน่ะเหรอ"

"อือ"  เคซีย์พยักหน้า  พยายามไม่มองต่ำกว่าใบหน้าของอีกคน

"ไม่รู้เหมือนกันสิ  เอาไว้ค่อยถามแม่ให้ก็แล้วกันนะ"  ออเดรย์ว่า  สวมเสื้อผ้าต่อโดยไม่สนใจสายตาที่เหมือนอยากจะเปลื้องผ้าเธอออกอีกครั้ง  เธอชอบให้เคซีย์ต้องการเธอ  ชอบให้หวงเธอ  ชอบให้มองแต่เธอคนเดียว

"นอนต่อไปก่อนก็ได้  ฉันจะไปทำอะไรง่ายๆ กิน  เสร็จแล้วจะมาเรียก  กินด้วยกันนะ  ไม่หิวก็กินได้ไม่ใช่เหรอ"

"ออด์  มานี่ก่อน"   

"อะไรเหรอ" 

ออเดรย์ย้อนกลับมาค้อมตัวถาม  เคซีย์ก็คว้าคอคนตัวใหญ่กว่ามากอดจนแน่น  แล้วคนถูกกอดก็ลูบศีรษะเธอเบาๆ  ราวกับรู้ดีว่าเธอเป็นอะไร

"ฉันกลัวนะ  กลัวมากเลยตอนนั้น  แต่ฉันก็พยายามเชื่อว่า  เธอจะไม่เป็นอะไร  เธอจะต้องกลับมาหาฉัน"

"แล้วถ้าฉันไม่กลับล่ะ  ถ้าฉันมาไม่ได้"

"ฉันจะลงไปตามเธอเอง"  ออเดรย์พูด  จริงจังจนคนฟังเริ่มกลัวใจ

"เธอลงไปไม่ได้  มนุษย์ลงไปในที่แบบนั้นไม่ได้  ถ้าไม่ตาย"

"งั้นฉันก็จะตาย  แล้วไปเจอเธอที่นั่น"

"ไม่มีทาง  ถึงตายเธอก็ไม่เจอฉันหรอก"

"ทำไมล่ะ  ฉันเป็นวิญญาณจะไปไหนก็ได้ไม่ใช่เหรอ"

"เพราะเธอไม่มีทางตกนรกได้ยังไงล่ะ"  เคซีย์พูดในที่สุด  เธอมั่นใจแบบนั้น  แต่ออเดรย์ก็กลับส่ายหน้า  ยิ้มให้ด้วยสายตารักใคร่ที่เธอสัมผัสได้

"เชื่อสิ  เคซีย์  ฉันจะไปให้ได้  ทุกที่ที่เธออยู่  ไม่ว่านรกหรือสวรรค์"

"อวดดี"  คิวปิดพึมพำเสียงขุ่น  หากดวงตายิ้ม  เธอสวมกอดคนรัก  อยากให้ออเดรย์รับรู้ถึงความรักอันมากมายของเธอเช่นกัน 

ออเดรย์จะรู้ไหมว่า  นาทีเธอเห็นเลือดตัวเองไหลนั่นน่ะ  เธอกลัวมากแค่ไหน  แต่เธอไม่ได้กลัวตายหรอกนะ  เธอแค่กลัวจะไม่ได้เจอหน้ากันอีก

"ไปได้แล้ว  ทำเยอะๆ ด้วยนะ  แล้วฉันจะลงไปกิน"

"ไหนบอกไม่หิวไง"

"ไม่หิวก็จะกิน  มีอะไรป่ะล่ะ  มีปัญหาเหรอ"

"เทวดาอะไรเนี่ย  เอาแต่ใจชะมัด"

"แล้วไม่รักหรือไง"

"รักค่ะ  รักที่สุดเลย"

เคซีย์ยิ้มกว้าง  พอใจในคำตอบ  ออเดรย์จูบหน้าผากเธอแล้วจึงลุกออกไปจากเตียง  เธอก็มองตามแผ่นหลังกับร่างสูงเพรียวนั่นไปจนลับตา  แล้วก็มานอนมองเพดานด้วยสายตาว่างเปล่าอยู่สองนาทีก่อนผุดขึ้นนั่ง  เหลือบมองต้นแขนซ้ายที่ไม่มีแผลแล้ว  ไม่มีแม้แต่ริ้วรอยว่ามันเคยเป็น  จากนั้นก็ยื่นมือออกมาด้านหน้า  มองจ้องฝ่ามือตัวเองครู่หนึ่งแล้วคลี่ยิ้มอย่างโล่งใจ

ธนูกับลูกศรของเธอยังอยู่ดี

"ขอบใจนะ  ออเดรย์"  คิวปิดเอ่ยเบาๆ  ความรักช่วยเธอไว้ได้อีกครั้ง

....................................................

เมเดอลินรูดกางเกงชั้นในขึ้นเมื่อมันจบแล้ว  เธอยังไม่ถึงสวรรค์หรอก  แต่พอใจแล้วแค่ได้กินไอชีวิตจากผู้ชายที่น็อกไปก่อนจะได้มีความสุขกับเธอ  มันก็เป็นแบบนี้ประจำ  เธอแทบไม่มีความรู้สึกอะไรกับคนที่นอนด้วยเลย  มันเหมือนแค่เป็นการกินอาหารจริงๆ  แต่บางทีพวกคู่ขาชั่วคราวแบบนี้อาจจะไม่รู้จุดที่จะทำให้เธอพอใจก็ได้  หรือหัวใจเธอปฏิเสธพวกเขา

อาจใช่...มีแค่เอวาคนเดียวที่ทำให้เธอมีความสุขกับเซ็กซ์

คาไลยป์เหมือนยังไม่เสร็จธุระ  รถที่องครักษ์สาวใช้แทนห้องนอนยังโยกไปมาอยู่ตรงหน้าเธอ  เธอจินตนาการออกเลยว่าเกิดอะไรขึ้นในนั้นบ้าง  ไม่ต้องรอให้ปีกสีดำที่เหมือนปีกค้างคาวไม่ใช่ปีกนกกระแทกกระจกรถจนร้าวมาช่วยยืนยันความคิดให้หรอก

เมเดอลินถอยมายืนรออยู่ห่างๆ รถ  เผื่อกระจกจะแตกเพิ่มแล้วเศษมันกระเด็นออกมาจะได้ไม่โดนเธอให้เจ็บตัว  เธอขี้เกียจไปหาเหยื่อใหม่มารักษาตัวเองถ้าเลือดออก  ผ่านไปพักหนึ่งประมาณสิบนาทีเห็นจะได้  ผู้ชายคนที่ถูกคาไลยป์ลากเข้าไปในรถก็ถูกถีบกลิ้งลงมาจากประตูด้านหลัง  เขาดูไม่เหมือนตอนที่เข้าไปตอนแรกเลยสักนิด

"ตายหรือเปล่าน่ะ"

"ไม่ตายหรอก  แค่คางเหลืองเท่านั้นแหละ"  คาไลยป์บอก  สะบัดผมออกจากไหล่  ปราศจากท่าทางเหน็ดเหนื่อยอะไรให้เห็น  เมเดอลินมองแล้วก็อดทึ่งไม่ได้  แต่ก็คล้ายตัวเธอนั่นแหละ  คู่ขาของเธอก็สลบเหมือดก่อนทุกที

"บางทีเราน่าจะลองกันบ้างนะ"  องครักษ์สาวพูดทีเล่นทีจริง  แล้วหัวเราะคิกเมื่อเมเดอลินเบะปากให้  "ล้อเล่นน่ะ  ใครจะไปกล้ายุ่งกับลูกสาวสุดที่รักของเจ้านาย  ที่พาเธอมาด้วยก็เพราะไม่อยากให้เธอมาคนเดียว"

"ฟังดูดีนะ  อ้างงานซะงั้น"  เมเดอลินแขวะอย่างหมั่นไส้ 

"แล้วไง  จะกลับได้หรือยัง"  คาไลยป์เปลี่ยนเรื่อง  ไม่อยากปล่อยให้อีกฝ่ายอยู่คนเดียว  เพราะยังไม่แน่ใจว่าลูซิเฟอร์ทำงานไปถึงไหนแล้ว  เขาทำตามที่ให้สัญญากับเจ้านายเธอเอาไว้หรือเปล่า  ลิลิธอาจจะไว้ใจเขาแต่เธอไม่  เพราะเธอถูกสั่งสอนมาให้ระแวงทุกคนอยู่แล้ว

"เธอรีบเหรอ"

"ก็ไม่รู้จะอยู่ทำไม"

"นั่นสินะ"  เมเดอลินพึมพำ  มองผู้ชายสองคนที่สลบเหมือดจนไม่มีทางลุกขึ้นมาเล่นสนุกกับเธอและคาไลยป์ได้อีกแล้ว  แล้วก็ถอนหายใจหน่าย 

"กลับไปก็ไม่มีอะไรทำ  ไม่มีใครอยู่ไม่ใช่เหรอ"

คาไลยป์ส่ายหน้า  เดาได้โดยไม่ต้องมีใครบอกว่าตอนนี้เจ้านายของเธออยู่กับภรรยาแน่ๆ  แค่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนเท่านั้น 

"ฉันไปหาเอวาดีกว่า  เธอไม่ต้องตามมาหรอก  อยากไปไหนก็ไป"

"แล้วแน่ใจเหรอว่า  ไม่ต้องไปส่ง"

เมเดอลินทำท่าคิดครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า  คาไลยป์จึงเขี่ยร่างชายที่ยังนอนนิ่งอยู่บนพื้นถนนให้ออกไปห่างรถ  แล้วเปิดประตูให้เธอเข้าไป  กลิ่นเซ็กซ์ภายในรถยังตลบอบอวลปะทะจมูกเธออยู่  ดีแล้วที่เธอเลือกนั่งตรงเบาะหน้า  ไม่ใช่ด้านหลังที่เพิ่งถูกใช้ไปเพื่อการนั้น

คาไลยป์จอดรถหน้ามหาวิทยาลัยตามคำบอกของเธอ  เมเดอลินเอ่ยขอบคุณองครักษ์สาวแล้วก้าวลงจากรถ  เธอเดินจากมาทันทีไม่ได้รอให้รถเคลื่อนตัวออกไปก่อน  เพราะรีบร้อนอยากไปเจอเอวาเร็วๆ  หากพอเดินมาได้สักพักก็รู้สึกว่ามีคนเดินตามจึงหันไปมอง  แม้จะไม่เห็นอะไร  เธอก็เร่งฝีเท้า  เร่งตัวเองให้ออกไปจากตรงนี้ไวไว  บรรยากาศในมหาวิทยาลัยตอนกลางคืนไม่เคยน่าไว้ใจเลย  มันไม่มีอะไรคุ้มครองเลยสักอย่าง  แล้วทางจะไปบ้านของเอวาก็ดันต้องผ่านสวนต้องห้ามอีก  ที่นั่นมีอะไรซ่อนอยู่บ้างก็ไม่รู้  อาจจะเป็นพวกปีศาจที่ออกหากินได้เฉพาะเวลากลางคืน

เมเดอลินสะดุ้งโหยงเพราะแสงไฟที่อยู่ๆ ก็สาดมาใส่หน้า  เธอหรี่ตามองด้วยความอยากรู้ว่าใครมาส่องไฟใส่หน้าเธออย่างนี้  เผื่อบางทีอาจจะเป็นใครสักคนที่ต้องการความช่วยเหลือ  หรือรปภ.มหาวิทยาลัยที่มาไล่นักศึกษากลับบ้าน  บางครั้งเธอก็เจอพวกนักศึกษาที่นัดกันมาทำอะไรในมหาวิทยาลัยในยามวิกาลอย่างนี้เหมือนกันนะ  พวกวัยรุ่นชอบเรื่องโลดโผนกันอยู่แล้วนี่  ไม่ได้ชวนกันมาทำเรื่องแบบนั้นก็มาลองดีผีสาง 

พวกมนุษย์น่ะ  อยากรู้อยากเห็นไปทุกเรื่องนั่นแหละ  ออเดรย์นั่นไง  ตัวอย่างที่หนึ่ง  โชคดีหน่อยที่รายนี้มีดีอยู่ในตัว  ไม่อย่างนั้นก็อาจจะเหมือนบางคนที่เอวาเจอว่าโดนฆ่าตาย  รวมถึงผู้ชายคนนั้นที่เธอฆ่าเองกับมือด้วย

"ตามฉันมาทำไม  ก็บอกแล้วไง  ว่าไปต่อเองได้"  เมเดอลินถามอย่างสงสัยกึ่งหงุดหงิดเมื่อพบต้นเหตุของแสงไฟแสบตา  แต่คาไลยป์ก็ไม่ได้ตอบคำถามเธอ  กลับปล่อยกระสุนพุ่งออกมาเฉียดใบหูเธอไปนิดเดียว  เธอตกใจจนไม่ทันจะร้องกรี๊ด  หากก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นมาจากด้านหลังแทน

"อะไรกันน่ะ"

"แวมไพร์น่ะสิ"  คาไลยป์ตอบ  เดินลิ่วไปหักกิ่งไม้จากต้นไม้ใกล้ๆ มาด้วยเรี่ยวแรงเกินมนุษย์  แล้วเสียบเข้าอกแวมไพร์เกรดต่ำที่นอนชักดิ้นชักงอเพราะกระสุนไม้ที่เธอยิงใส่  "เธอไม่ได้ยินเสียงมันเดินตามเหรอ"

"ฉันไม่ทันระวัง"  เมเดอลินตอบอย่างรู้สึกผิด  เธอคงรีบร้อนเกินไป

"แปลกนะ  จริงๆ เจ้าพวกนี้มันไม่ควรเล่นงานเธอ"  องครักษ์สาวเอ่ยอย่างครุ่นคิด  เมเดอลินก็ยืนรอฟังต่อด้วยความอยากรู้  "ก็เธอไม่ใช่มนุษย์ไง  แวมไพร์มันกินเลือดปีศาจที่ไหนกัน  โดยเฉพาะเลือดซัคคิวบัส"

"ทำไมจะกินไม่ได้  เลือดฉันมันต่างจากมนุษย์ตรงไหนเหรอ"

"มันกลัวเป็นเอดส์มั้ง"  คาไลยป์เล่นมุก  แต่คนฟังคงไม่สนุกไปด้วยถึงได้เดินหนีกันไปทันที  "นิสัยเหมือนกันกว่าที่คิดแฮะ  แม่กับลูกคู่นี้  หรือว่าพ่อหว่า"  เธอยักไหล่พลางบ่นพึมพำ  คิดจะเดินกลับไปที่รถ  หากก็เปลี่ยนใจ  ย่องตามหลังเมเดอลินไปเงียบๆ  หากอีกคนคงระวังตัวมากขึ้นจึงหันมาทำหน้าถมึงทึงใส่เธอ

"จะตามมาทำไมอีก  ฉันจะไปบ้านแฟนฉัน"

"ทำหน้าที่ที่โดนสั่งมาน่ะสิ  ถามได้"  องครักษ์สาวตอบ  ไม่แคร์ความหงุดหงิดบนใบหน้าอีกฝ่ายสักนิด  ก็เธอมีหน้าที่แค่ทำตามคำสั่ง  ไม่ได้เอาใจ

"ก็ฆ่ามันไปแล้วไม่ใช่เหรอ"

"แล้วจะรู้ได้ยังไงว่า  มันมีตัวเดียว"

"มันไม่ได้มีตัวเดียว"  เสียงคุ้นหูเรียกเมเดอลินให้หันไปมอง  แล้วก็เจอเอวาที่เตะศีรษะตัวอะไรสักอย่างที่คล้ายมนุษย์มาจนจนโดนเท้าของเธอให้ต้องกระโดดหนีไปเกาะแขนคาไลยป์อย่างช่วยไม่ได้

"ทำอะไรของเธอน่ะ"

"จัดการผู้บุกรุกน่ะสิ"  เอวาตอบง่ายดาย  ไม่ใส่ใจท่าทางจะอ้วกของเมเดอลินที่มองหัวแวมไพร์ชั้นต่ำแล้วหันหนีไปอย่างทนดูไม่ได้  เทวดาสาวหันไปมององครักษ์ปีศาจแล้วพูดขึ้น  "กลับไปก่อนก็ได้  จะดูแลต่อให้"

คาไลยป์แตะเมเดอลินเบาๆ ให้รู้สึกตัว  แล้วเฝ้ามองลูกสาวเจ้านายเดินไปหาคนรัก  รอจนกว่าจะแน่ใจว่า  ไม่ใช่ปีศาจตนอื่นปลอมตัวมาหลอกแล้วจึงหันหลังให้ทั้งคู่เพราะไม่รู้จะอยู่เป็นก้างใครทำไม

องครักษ์สาวเดินเซ็งๆ  ย้อนกลับไปทางเก่าเพื่อไปหารถที่จอดทิ้งไว้  จริงอย่างเมเดอลินว่า  กลับบ้านไปก็ไม่มีอะไรจะทำ  เจ้านายก็ไม่อยู่  คนที่รออยู่ที่นั่นก็ไม่มี  เธอจะรีบกลับไปทำไม

"ล่าพวกเจ้าเล่นดีกว่า"  คาไลยป์ยิ้มให้กับความคิดอันปราดเปรื่องของตัวเองขณะใช้เท้าเหยียบศีรษะแวมไพร์ชั้นต่ำเล่นราวกับเป็นลูกฟุตบอล

บางทีนี่อาจเป็นการดึงตัวอะไรออกมาหาเธอเองก็ได้   ไม่จำเป็นต้องใช้ลูกสาวเจ้านายเป็นเหยื่อล่อ




.............................................................


มาอีกแล้ววันนี้  และพรุ่งนี้ด้วยค่ะ  อัปให้ถึงตอนที่ 20 ไง  แต่ไม่ได้จบแค่ 20 ตอนนะคะ  มีเยอะกว่านั้น 

ขอบคุณสำหรับผู้ที่สั่งจองหนังสือมานะคะ  วันนี้เป็นวันจองวันสุดท้ายแล้ว  แต่ถ้าใครยังไม่พร้อมจ่ายเงินภายในวันนี้  ก็จ่ายได้ถึงวันที่ 20 นี้ค่ะ  แต่ต้องติดต่อมาบอกกันก่อนนะคะ  จะได้เตรียมนับจำนวนเอาไว้ให้  พิมพ์ตามจำนวนจองค่ะ  รอบแรกจะมีเกินไม่มาก  แล้วค่อยพิมพ์ซ้ำอีกที  ถ้ามีคนเรียกร้องมานะ  อิอิ

ส่วนคนที่รออีบุ๊ก  ก็คงไม่เกินสิ้นเดือนนี้หรอกค่ะ  อดใจรอกันหน่อยเนอะ

ขอบคุณค่ะ  แล้วพรุ่งนี้เจอกันอีกตอน   :21: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น