ตอนที่ 17 แพรวรุ่งตกใจเล็กน้อยเมื่อจู่ๆก็มีคนเอาผ้ามาคลุมที่ไหล่ของเธอและเมื่อหันไปก็พบเข้ากับคนคุ้นหน้าที่ช่วงนี้มีรอยยิ้มอบอุ่นให้เธออย่างสม่ำเสมอแต่เธอก็ไม่ยักกะชินสักที
“อากาศมันเย็นน่ะ”
อาศิรารีบเอ่ยออกมาเมื่อสานตาของเขาประสานเข้ากับอีกคนโดยบังเอิญ
“เราเข้าไปนั่งข้างในกันเถอะน้ำค้างแรง”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับการล้วงผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมาเช็ดน้ำค้างที่เกาะอยู่แถวๆเส้นผมของคนข้างๆ
แพรวรุ่งรีบขยับออกห่างก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าบ้านไปอย่างเงียบๆ
“คนท้องนี่เอาใจยากจริงๆ”
อาศิราเป่าลมออกจากปากแรงๆก่อนจะเดินตามคนเอาใจยากเข้าไปติดๆ
มาที่โต๊ะหน้าบ้านตอนนี้ทั้งสี่คนอิ่มหน่ำกับมาม่าเป็นที่เรียบร้อยก่อนจะเข้าห้องมาธวีก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้ตัวเองมัวแต่ตามติดอวิกาจนลืมทำเรื่องที่ตั้งใจไปเสียสนิท หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตาชายหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก่อนล้วงของบางอย่างออกมา
“พี่ศิราคะผึ้งให้ค่ะ”
มาธวีหยิบพวงกุญแจรูปหัวใจสีชมพูให้กับชายหนุ่มจากนั้นก็ยิ้มกว้างเหมือนมีความนัยน์อะไรบางอย่าง
อาศิรามองแบบงงๆก่อนจะหันไปมองหน้าน้องสาวที่ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องมาอ่านหนังสือในเวลาแบบนี้
“ไม่ชอบเหรอคะ”
“เอ่อ…ชอบ ชอบครับ”
“เห็นแล้วผึ้งนึกถึงพี่ศิราเลยนะคะ”
มาธวีเอ่ยออกมาพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มเปลี่ยนสีหากแต่คนที่คุยด้วยนี่สิถึงกับเหงื่อตก
“เพชรคงได้หลายแบบเลยสิท่า”
อาศิราพยายามจะโยงเรื่องให้ทุกคนในโต๊ะได้รู้สึกดีแต่คำตอบที่ได้รับกลับทำเอาเขาแทบอยากจะเปลี่ยนคำถาม
“ต้องให้น้ำเพชรด้วยเหรอคะพอผึ้งเห็นแล้วนึกถึงแต่พี่ศิรา”
คนฟังถึงกับปาดเหงื่อไม่รู้ควรจะถามอะไรอีกเพราะกลัวคำตอบของน้องหมีซะเหลือเกิน
“พี่ว่า…”
ยังพูดไม่ทันจบแพรวรุ่งที่ทำท่าเหมือนจะไม่ใส่ใจฟังอะไรก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับขอตัวไปนอนเอาดื้อๆจนอาศิราต้องหันไปมองด้วยความแปลกใจและหากตาไม่ฝาดเขาเหมือนเห็นสายตาตัดพ้อของคนที่เดินจากไปแต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน แพรวรุ่งนี่นะจะน้อยใจเขาถ้าเป็นนายพงศกรนั่งอยู่นี่ก็ว่าไปอย่าง
อวิกาเงยหน้าขึ้นมองหลังไวๆของพี่ชายที่เข้าห้องไปแบบรีบๆก่อนจะหันไปมองคนที่กำลังอมยิ้มอยู่ข้างๆ
“ไปซื้อมาตอนไหนคะ”
“ก็ตอนรอน้ำเพชรมาง้อ”
“เพชรไม่คิดว่าพี่ผึ้งจะทำจริง”
มาธวีหันไปมองหน้าคนพูดก่อนจะคว้ามืออีกคนมาแนบที่แก้ม
“เชื่อพี่สิ เดี่ยวก็ดีเอง”
“ตามใจเกิดอะไรขึ้นรับผิดชอบเองนะคะ เพชรไมเกี่ยว”
“ได้ไง”
“ไม่รู้แหละ รับไปเองเต็มๆ”
คนพูดตั้งท่าจะลุกขึ้นแต่กลับถูกคนข้างๆดึงเอาไว้ “ตอนนี้เราก็เหมือนคนๆเดียวกันน้ำเพชรจะทิ้งพี่เหรอ”
สายตาอ้อนๆทำให้คนฟังเริ่มใจอ่อนก่อนจะนั่งลงที่เดิม
“เกือบใจอ่อนล่ะแต่พี่ผึ้งพูดผิดไปเรื่องหนึ่ง”
“เรื่องอะไรคะ”
อวิกาตีสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะคว้าตัวคนที่กำลังสงสัยเข้ามากอด
“น้ำเพชรเอาอีกแล้วนะ”
“ทำไมคะเพชรแค่อยากทำให้ที่พี่ผึ้งพูดเป็นจริงทุกอย่าง”
“พูดอะไร”
มาธวีกำลังคิดทวนในสิ่งที่ตัวเองพูดแต่ก่อนที่เธอจะพบคำตอบคนที่กอดเธอก็เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้พร้อมกับกระซิบคำตอบที่ข้างหูแถมท้ายด้วยการเป่าลมใส่อย่างแผ่วเบาทำคนฟังถึงกับขนลุกไปหมดทั้งตัวจากนั้นคนช่างแกล้งก็หัวเราะอย่างพอใจในผลงานของตัวเอง
“ไอ้แคระลามก! ”
พูดจบมาธวีก็ลุกขึ้นก่อนจะรีบคว้าเอามาม่าที่เธอกินไม่หมดมาใช้เป็นอาวุธ
“ถ้าเข้ามาได้เป็นงูเก็งกองแน่”
คนพูดทำท่าเหมือนจะสาดมาม่าในมือใส่คนลามกแต่เธอเพียงแต่แค่ขู่เท่านั้นเมื่ออวิกายกมือขึ้นบังเธอก็รีบวิ่งเข้าห้องไปทันที
อวิกานึกขำกับท่าทางของคนที่เพิ่งวิ่งเข้าห้องไปพร้อมกับสูดกลิ่นหอมที่ติดจมูกของตัวเองอย่างอารมณ์ดี เธอว่าตัวเองกำลังติดใจกลิ่นพี่หมีอยู่แน่ๆแล้วคำก็แคะสองคำก็แคะมันผิดมากหรือไงที่ตอนเด็กเธอตัวเล็กกว่าเด็กรุ่นเดียวกันแต่มาตอนนี้เธอตัวสูงกว่าทุกคนซะอีกไม่อยากจะคุย…หญิงสาวยิ้มออกมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองก็เรียกมาธวีว่าพี่หมีจนติดปากเช่นกันทั้งๆที่ตอนนี้พี่หมีของเธอได้เปลี่ยนเป็นเจ้าหญิงเรียบร้อยแล้ว…