web stats

ข่าว

 


Ghost Writer - บทที่ 14 Back To Life

โพสต์โดย: anhann วันที่: 16 มกราคม 2019 เวลา 23:13:47 อ่าน: 177





"Ghost Writer (เลิกเป็นผี มาเป็นแฟนกันดีไหม) " มี 360 หน้า โดยประมาณ

เปิดให้จองและชำระเงินได้ตั้งแต่ วันนี้ - 10 กุมภาพันธ์ 2562 กำหนดส่งหนังสือประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2562

ในราคา เล่มละ 350 บาท ส่งฟรีพัสดุธรรมดา (เฉพาะช่วงจอง) ส่งลงทะเบียน 400 บาท และ 420 บาท EMS

สนใจติดต่อ anhann5@gmail.com , Inbox หรือ ไลน์ anhann

หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ --->>> http://bit.ly/2RmpYRR




บทที่ 14 Back To Life






ดิ๊พซี่เงยหน้ามองเจ้าของมือที่วางบัตรเครดิตทับบัตรของเธอ  ใบหน้าคมคายนิ่งเฉยแลดูน่ากลัว  แต่มีเสน่ห์น่ามองเสมอสำหรับเธอ  แค่เพียงจูนจะรู้ว่าเธอรักเขามากแค่ไหน  รักจนยอมถอยออกมาแบบนี้

"ฉันได้เงินปันผลบริษัทมา  ตาแก่เจมส์เพิ่งให้"  จูนบอก  พยักหน้ากับพนักงานขายของสายการบินเครื่องบินเช่าเหมาลำ  ย้ำว่าเธอจะจ่ายค่าบริการของพวกเขาเอง

"พ่อเธอก็ดีเนอะ  ไม่ทำงานยังแบ่งเงินให้ด้วย"  ดิ๊พซี่แขวะทั้งที่รู้ว่า  จูนมีสิทธิ์ในเงินนี้เต็มที่  เพราะมันเป็นเงินจากหุ้นที่แม่จูนให้กับลูกทั้งสอง  และแน่นอนว่าเธอรู้เรื่องเงินทำงานแทนคนได้  เธอก็ใช้วิธีนั้นเหมือนกัน

จูนไม่ตอบโต้  ทำเพียงแค่ยืนรอให้พนักงานทำงานและเซ็นเอกสาร 

"คราวนี้จะเล่นแง่อะไรอีกไหม"  ดิ๊พซี่พูด  จูนเหลือบมองคนตัวเล็ก  จึงเห็นว่าดิ๊พซี่จ้องฮารุนะที่ยืนเก้กังอยู่ข้างฟลิคพร้อมกระเป๋าเดินทางใบโต  มีเจ้าแบร์กั้นอยู่ตรงกลาง

"ไม่แล้วมั้ง  ฉันขู่ไปเยอะ"  จูนตอบ  พลางส่งเอกสารที่เซ็นเสร็จแล้วคืนให้พนักงานที่ยิ้มเจื่อนๆ เหมือนกลัวจะโดนเธอกัดคอ  หากเธอไม่ได้ใส่ใจ 

"ถนัดอยู่แล้วนี่  ขู่ชาวบ้านน่ะ"

"อยากโกหกฉันก่อน  ฉันอุตส่าห์ดีด้วยแล้ว"

"พวกหัวหมอ  นึกว่าตัวเองฉลาดละมั้ง"  ดิ๊พซี่วิจารณ์  ชำเลืองมองหน้าจูนที่เลิกคิ้วให้  "เธอต้องระวังหน่อยนะ  ฉันไม่ค่อยไว้ใจคนบ้านนี้"

"ฉันจะกลัวทำไม  ฉันมีเธออยู่ทั้งคน"  จูนพูด  ไม่รู้ตัวว่าทำให้คนฟังใจพองโตแค่ไหน  "ฉันดีใจนะที่เธอมาด้วย"

"ไม่ได้คิดว่าฉันเกะกะหรือน่ารำคาญเหรอ"

"ก็ไม่นะ  เธอมาด้วยก็สนุกดี"

"เธอนี่เพี้ยน"  ดิ๊พซี่ว่า  เกลื่อนอาการใจเต้นแรงที่ไม่ควรเกิดขึ้นแล้ว  แต่ก็ต้องยอมรับว่าจูนยังมีอิทธิพลกับเธอเสมอ  "เธอจะให้เด็กนั่นพักที่ไหน"

"บ้านฉัน" 

"ไม่ได้"

จูนงง  "ทำไมล่ะ  บ้านหลังเล็กไง  ไม่งั้นจะให้นอนข้างถนนเหรอ"

"ก็เช่าโรงแรมถูกๆ ให้อยู่สิ"  ดิ๊พซี่พูดเสียงแข็ง  ขมวดคิ้วเมื่อจูนยิ้มแปลกๆ  แล้วเธอก็หน้าแดงเองเพราะเข้าใจมัน  "ไม่ได้หึงเธอหรอกย่ะ"

"ฉันไม่สนเด็กแบบนั้นหรอก  เธอก็รู้นี่นา"

"ทำไมล่ะ  ขนาดวิญญาณเธอยังสนเลย"

จูนส่ายหน้า  ดันหน้าผากดิ๊พซี่ด้วยปลายนิ้ว  คนตัวเล็กมือไวก็ตีหลังเธอดังเพียะ  แล้วไล่ตามกันไปหาฟลิคกับแบร์  และฮารุนะด้วย

"เกิดมาฉันไม่เคยขึ้นเครื่องบินส่วนตัวเลย"  เด็กสาวเอ่ยกับจูน  แต่คนที่พูดด้วยกลับไม่ใช่คนตัวสูงหน้าคม

"เธอต้องขอบใจเจ้าหมีนั่น  เพราะเจ้านายมันรักมาก  มากกว่าคนซะอีก"  ดิ๊พซี่เหน็บ  เบ้ปากให้จูนที่ยังเอามือมาผลักหัวเธออยู่  ยังคงเล่นกับเธอเหมือนตอนเรายังเป็นแฟนกัน  ไม่เคยระวังตัวซะบ้างเลย  ไว้ใจเธอเหรอ

"โชคดีจังเลยเนอะ  แบร์"  ฮารุนะก้มลงยีหัวเจ้าสุนัขแสนรู้

"รวยจนไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร"  ดิ๊พซี่ยังไม่วายเหน็บต่อ

"ว่าตัวเองก็เป็น"  จูนว่ากลับ  ขอสายจูงแบร์จากฟลิคมา  และช่วยฮารุนะลากกระเป๋าเดินทางไปขึ้นเครื่องให้เมื่อเจ้าหน้าที่มาบอกว่าเครื่องบินพร้อมแล้ว  กระเป๋าของเธอกับคนอื่นๆ เจ้าหน้าที่สายการบินจัดการเอาขึ้นไปให้ก่อนหน้านี้แล้ว

"เธอน่าจะแปลกใจสักหน่อยนะ  จูน  คนพวกนี้ปล่อยให้แฟนเธอนอนเป็นผักอยู่โรงพยาบาลคนเดียว  นานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้"  ดิ๊พซี่พูดให้คิด 

จูนขมวดคิ้ว  เธอก็สงสัยแบบเดียวกันกับดิ๊พซี่  แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว  ยังไงก็ต้องลองเชื่อฮารุนะดูสักตั้ง  แอลลี่ก็ไม่ยอมโผล่มาเลยด้วยตั้งแต่โดนเธอโวยใส่ไป  เธอทำให้เทวดาประจำตัวโกรธเสียแล้ว

"เธอเป็นแฟนคุณใช่ไหม"  ฮารุนะเอ่ยเบาๆ  ระวังไม่ให้ดิ๊พซี่ที่เดินตามมาด้านหลังกับฟลิคได้ยิน  "ฉันเห็นในกูเกิล"

"เคยเป็น  อัปเดตซะใหม่"  จูนแก้  ยิ้มให้ฮารุนะที่ทำหน้างงๆ  "เราเป็นเพื่อนกันน่ะ  เราจบกันด้วยดี  ฉันคิดว่าฉันทำดีที่สุดแล้ว  ในแง่ของฉัน"

"คุณชอบพี่จริงๆ เหรอ  ทั้งที่ไม่แน่ใจว่าพี่จะฟื้นหรือเปล่าเหรอคะ"

"ค่ะ  ฉันมาไกลเกินกว่าจะหันหลังกลับแล้วละ"

"น่าอิจฉาจัง  ขนาดหลับมาตั้งปีกว่าแล้วยังมีคนมาหลงรักได้ด้วย  ฉันเสียอีก  แข็งแรงดีแท้ๆ  ไม่เคยมีใครสนจริงจังแบบนี้เลย"  ฮารุนะยิ้มซึมๆ

"อย่าคิดอยากเป็นอย่างฉันเชียว  มันไม่สนุกเลยสักนิด"

"คุณพูดอะไรคะ"

จูนส่ายหน้า  "ไม่ใช่ฉัน"

"ถ้างั้น..."  ฮารุนะตาโต  "พี่พูดกับฉันเหรอ"

"ฉันก็พูดกับเธอตลอด  เธอไม่ได้ยินเอง"  คาเร็นบ่นพึม  ค้อนจูนที่อมยิ้มขำเธออยู่นั่นแหละ  "คุณได้ยินก็ไม่พูดให้หน่อยหรอกนะ"

"ขี้บ่นจังเลย  อายุเท่าไหร่เนี่ย" 

"เป็นแม่คุณมั้ง"

จูนร้องอู้หู  แทบพูดไม่ออก  "นี่ถ้าเป็นคนอื่น  ฉันโกรธแล้วนะคะ"

"ขอโทษค่ะ"  คาเร็นพูดอย่างไม่รีรอ  เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าแม่จูนเสียชีวิตตั้งแต่เด็ก  "ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ  จริงๆ"

"ยกโทษให้ค่ะ"  จูนเกือบจะจูบคาเร็นแล้วถ้าไม่เห็นฮารุนะมองอยู่

"คุณคุยกับพี่แบบนี้ตลอดเลยเหรอคะ"  ฮารุนะถามทึ่งๆ

"ค่ะ  ถ้าเธออยู่ข้างๆ ฉันนะ"  จูนตอบ  ยิ้มให้เด็กสาวช่างถาม  และคาเร็นที่ส่งยิ้มให้กันอยู่  "ฉันรู้ว่ามันดูบ้าๆ  แต่ฉันรักพี่สาวเธอ"

"รักทั้งที่เธอเป็นแบบนั้นน่ะเหรอคะ  ทำไมถึงเป็นไปได้"

"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน  มันคงฟังดูเหลือเชื่อ  แต่แค่ฉันเหยียบเข้าไปในบ้านหลังนั้นฉันก็รู้สึกถึงเธอแล้วละ  ทุกๆ ที่ในบ้านมีแต่คาเร็นเต็มไปหมด  ฉันรู้สึกแบบนั้นก่อนหน้าที่ฉันจะเห็นเธอเสียอีก"  จูนเล่า  สบตาคาเร็น  "ฉันใช้เวลาหกเดือนกว่าจะเห็นเธอ  แบร์เห็นคาเร็นก่อน  มันเล่นกับเธอประจำ  ฉันเห็นเธอ  เพราะแบร์นี่แหละ"

"โอ้โห  แบร์นี่สุดยอดเลย"

"ใช่  มันเป็นหมาประหลาด"

"เหมือนเจ้าของนั่นแหละ"  คาเร็นแขวะ  จูนยิ้มร่าเริง  ส่งกระเป๋าฮารุนะให้พนักงานเครื่องบินเอาไปเก็บให้  แล้วพาไปหาที่นั่ง

"ถ้ามีปัญหาอะไร  บอกได้นะ  ไม่ต้องเกรงใจ  ฉันจะไปนั่งตรงนั้น"

"ตามสบายเถอะค่ะ  ขอบคุณค่ะ"  ฮารุนะเอ่ยอย่างนอบน้อม 

จูนพยักหน้าแล้วปล่อยให้เด็กสาวมีเวลาส่วนตัว  ส่วนเธอก็พาแบร์ไปนั่งประจำที่  มันนั่งเก้าอี้ข้างเธอเหมือนเคย  เธอคาดเข็มขัดนิรภัยให้มันเมื่อกัปตันสั่งเพราะจะเอาเครื่องขึ้นแล้ว  เหลือแค่คาเร็นที่ยังยืนเก้กังอยู่

"นั่งตักก็ได้นะคะ"

"ไม่เอาหรอก  คุณจะเมื่อย"  คาเร็นปฏิเสธ  แล้วร้องกรี๊ดเพราะโดนดึงลงไปนั่งตุบบนตักจูนที่ฉีกยิ้มให้เธออย่างเอาใจ  "คุณนี่ดื้อนักนะ"

"ดูวิวข้างนอกสิคะ"  จูนชวน  คาเร็นมองตามไปอย่างทำอะไรไม่ได้  เธอน่ะชอบอยู่แล้ว  ได้อยู่กับจูนแบบนี้  แค่เกรงใจเท่านั้นแหละ

"มืดออก  ไม่เห็นจะมีอะไรเลย"

"ก็มีดาวอยู่นิดๆ นะคะ"

คาเร็นกลั้นยิ้ม  ชำเลืองมองหน้าคมคายที่ยิ้มเหมือนเด็กๆ ของจูนแล้วก็อยากจะบอกว่า  เธอไม่อยากจะมองอะไรอย่างอื่นเลย  แค่ดวงตาแสนจริงใจและแววตาที่บอกว่ารักเธอเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

"แบร์หลับแล้ว  คุณหลับบ้างก็ได้  จูน  พักผ่อนบ้างนะ"  เธอพูดขึ้น  เห็นจูนดูล้าๆ ขอบตาคล้ำนิดๆ แล้ว  คางแหลมวางบนบ่าเธอ  นัยน์ตาปรือจะหลับแหล่มิแหล่  "ฉันจะอยู่ข้างๆ คุณ  ตอนคุณตื่นเหมือนทุกวัน"

"ฉันคิดถึงแม่  คุณทำให้ฉันนึกถึงท่าน"

"เพราะฉันขี้บ่นเหรอ"

"เปล่าค่ะ  เพราะคุณทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น  ตรงหัวใจ"  จูนตอบยิ้มๆ  หลับตาลงอย่างผ่อนคลาย  "อย่าเพิ่งไปไหนนะคะ  คาเร็น  อยู่กับฉันก่อน"

"ค่ะ"  คาเร็นพยักหน้า  ดันจูนให้เอนหลังลงกับเบาะ  จูนหลับง่ายเหมือนโดนยาสั่ง  คงเหนื่อยอยู่แล้ว  จูนไปรับฮารุนะมาด้วย 

เธอมองแบร์อย่างรู้กัน  เจ้าหมาแสนรู้เอาตัวเองจากเข็มขัดนิรภัยที่จูนลืมปลดให้ก่อนหลับ  มันใช้อุ้งเท้าหน้ากดปุ่มปรับเบาะจูนให้เอนลงเป็นเตียง  ปากคาบผ้าห่ม (ที่สายการบินมีให้) มาห่มให้จูน  คาเร็นไม่แปลกใจที่แบร์ทำแบบนี้ได้คล่องแคล่ว  เพราะเห็นมันทำให้จูนประจำเวลาอยู่บ้านและจูนลืมห่มผ้า  มันรักจูนมากพอกับที่จูนรักมัน  และเธอจำได้รางๆ ว่าจูนเคยบอกว่าแบร์มันไปฝึกมาที่โรงเรียนช่วงหนึ่งตอนเล็กๆ  จูนก็ฝึกมันเองด้วย

"เก่งมากเลย  แบร์  เธอต้องดูแลจูนให้ดีนะ  ดูแลเผื่อฉันด้วย" 

แบร์ครางหงิงเหมือนมันจะเถียงเธอ  คาเร็นส่ายหน้า  ยื่นมือไปลูบหัวมันขณะนั่งข้างจูนบนเก้าอี้ที่กลายร่างเป็นเตียงไปแล้ว

"ฉันไม่ได้จะไปไหน  แค่เผื่อไว้เฉยๆ  พอกันกับจูนเลยนะ"  คาเร็นบ่น  บีบแก้มเจ้าแบร์อย่างมันเขี้ยว  "ฉันแค่กลัวน่ะ  ขอโทษนะ"

แบร์มองหน้าเธอเหมือนมันจะเข้าใจ  มันยกเท้าหน้าที่มาวางบนเข่าเธอคล้ายจะปลอบใจ

"ขอบใจ  แบร์  รู้ไหม  เธอก็เหมือนกามเทพของฉันกับจูนเลยนะ"

"นั่นสิ  น่าหมั่นไส้จริงๆ เลยนะ"

คาเร็นหันไปมองที่มาของเสียง  เห็นเด็กหญิงผมทองตาสีฟ้าที่จูนเคยพูดถึง  ต้องใช่แน่ๆ  ไม่มีเด็กแบบนี้ขึ้นเครื่องบินลำนี้มาด้วยนี่นา

"แอลลี่  ใช่ไหมคะ"

"ทำไมจูนถึงชอบเธอนักนะ  ฉันไม่เข้าใจเลย"  แอลลี่พูดเสียงขุ่น  กอดอกมองคาเร็นขึ้นๆ ลงๆ  "ฉันอุตส่าห์โกหกเขาว่าเธออยู่โตเกียว  ก็ยังจะมีคนมาบอกที่อยู่จริงให้อีก  เธอนี่มันมีบุญจริงๆ หรือไง"

"ทำไมจะต้องทำแบบนั้นด้วย  ฉันไปทำอะไรให้เธอ"

"ไม่ได้ทำ  แค่หมั่นไส้เท่านั้นแหละ"

"อ้าว"  คาเร็นเป็นงง  พลางจุปากไม่ให้แบร์เห่าแอลลี่

"เจ้าหมาโง่นี่ก็เหมือนกัน  ชอบเธอจริงๆ"

"แบร์เป็นเด็กดีนะคะ"

"รู้แล้วล่ะ  ฉันก็ชอบมัน"  แอลลี่ว่า  มองแบร์ด้วยสายตาอ่อนโยน  เจ้าหมาสีขาวจึงเข้ามาหาตนบ้าง  นางฟ้าตัวน้อยยิ้มร่าขึ้นมาทันที  คาเร็นจึงรู้สึกว่าอีกฝ่ายคล้ายเด็กเล็กๆ มากกว่าสิ่งเหนือธรรมชาติอย่างที่เป็นอยู่

"ระวังแอชเชอร์ไว้หน่อยนะ"  นางฟ้าองค์น้อยเอ่ย  "เขาเจ้าเล่ห์"

"ฉันรู้ค่ะ  แต่ฉันไม่มีทางเลือกอื่น"  คาเร็นบอก  ยิ้มแห้งๆ  ชำเลืองมองจูนหลับ  ยื่นมือไปแตะศีรษะและลูบมันเบาๆ  "ฉันแค่อยากจะอยู่กับเขาให้นานที่สุดเท่าที่ฉันยังมีเวลาบนโลกนี้"

"รักเขามากขนาดนี้เลยเหรอ"

"ไม่เคยรักใครเท่านี้เลยค่ะ" 

แอลลี่ทำหน้าเหลือเชื่อ  เธอเองไม่รู้จักความรักจึงไม่ค่อยเข้าใจนัก  แค่คิดว่ามันคงจะสวยงามดี  ไม่อย่างนั้นมนุษย์หรือแม้กระทั่งวิญญาณคงไม่ต้องการมันมากแบบนี้

"ความรักทำให้ฉันอยากมีชีวิตอยู่"  คาเร็นพูดต่อ  "เมื่อก่อนฉันไม่รู้เลยว่าจะอยู่ต่อไปเพื่ออะไร  ฉันไม่มีใครแล้ว  พ่อแม่ก็ตายหมด  เหลือแค่ญาติคนเดียวที่ฉันรัก  แต่ฮารุนะก็มีชีวิตของเขาเอง  ฉันจะไปฝากความหวังไว้กับน้องก็ไม่ถูก  ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังดิ้นรนที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ  รอว่าสักวันฉันจะได้เจอคนที่ฉันรัก  และเขาก็รักฉันเหมือนกัน  แต่วันไหนที่ฉันเจ็บป่วยมากๆ  ฉันก็อยากจะไปให้พ้นๆ จากร่างกายอ่อนแอนั้น  รู้สึกอยากยอมแพ้แล้ว  วันนี้ฉันเจอเขาแล้ว  คนที่ทำให้ฉันอยากอยู่ต่อ  อยากจะสู้อีกครั้ง  แต่มันก็เหมือนจะสายเกินไปแล้วค่ะ"

"ถ้าเธอได้โอกาสครั้งที่สองล่ะ"

"ฉันจะใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังขึ้น  ดูแลตัวเองดีๆ  ดูแลคนที่ฉันรัก  ทำทุกเวลาของเราให้มีค่า  ช่วยเหลือคนอื่นตามกำลังของฉัน  เขียนงานดีๆ ออกมาให้คนอ่านที่รอฉันอยู่  มีเรื่องมากมายเลยค่ะที่ฉันอยากจะทำ  แค่ขอโอกาสอีกครั้งก็พอ  ฉันจะไม่ปล่อยให้มันเสียเปล่าเลย"

"หวังว่าเธอคงไม่พูดไปอย่างนั้นเองหรอกนะ"  แอลลี่เชิดหน้าถาม  คาเร็นพยักหน้า  สีหน้าจริงจัง  "เอาไว้ฉันจะคอยดู  ตามติดเลยละ"

คาเร็นไม่เข้าใจ  เธออยากจะถาม  แต่แอลลี่ไม่อยู่ให้ถามแล้ว

"คุยกับใครคะ  มานอนกันเถอะ" 

เสียงจูนเรียก  ดึงความสนใจของคาเร็นไปจากความว่างเปล่าที่เคยมีร่างของนางฟ้าองค์น้อยนั่งอยู่  เธอยีหัวเจ้าแบร์  ปลอบให้มันนอน  แล้วจึงลงนอนข้างๆ จูน  นอนมองจูนหลับด้วยรอยยิ้มอิ่มใจ

..................................................

จูนจะไปรีบโรงพยาบาลทันทีที่เหยียบแผ่นดินลอนดอน  แต่ฟลิคยั้งเธอเอาไว้ให้กลับบ้านไปพักผ่อนก่อน  เธอจึงพาฮารุนะกลับบ้าน  หากไม่ได้เอาไปแนะนำกับพ่อ  เธอพาเด็กสาวมาอยู่บ้านเล็กของตัวเอง  จนกระทั่งเด็กรับใช้จากบ้านใหญ่มาตาม  แจ้งกับเธอว่าพ่อต้องการเจอตัวด่วน

"หายหัวไปไหนมา"  เจมส์ถามทันทีที่เห็นหน้าลูกสาวคนเล็ก  จูนทำหน้าตาไม่พอใจใส่เขาเหมือนเคย  "แล้วเอาใครมาด้วย  เมียใหม่รึ"

"พ่อมีเรื่องอะไรกับจูนคะ"  จูนถาม  เมินคำถามพ่อ  และไม่แม้จะชายตามองผู้หญิงที่นั่งอยู่กับพ่อ  "ถ้าไม่มี  จูนขอตัวก่อน  --  อ้อ  ขอบคุณสำหรับเงินปันผลด้วยค่ะ"

"ถ้าแกกลับมาทำงานกับฉัน  แกจะได้มากกว่านั้น"

ขายาวชะงัก  จูนหันมายิ้มกวนๆ ให้พ่อ  และเหลือบสายตาเหยียดๆ ไปให้ผู้หญิงข้างพ่อ  "ทำไมจูนจะต้องทำงานด้วยคะ  ในเมื่อคนบางคนนั่งเฉยๆ ยังได้เงิน  จูนเป็นลูกพ่อ  จูนก็ต้องได้เหมือนกัน  อีกอย่าง  นั่นก็เป็นเงินส่วนของแม่ด้วยค่ะ  ไม่ใช่เงินพ่อ  ไปก่อนนะคะ  แด๊ดดี้"

"แกนี่มัน"

จูนฉีกยิ้มกว้าง  ชอบใจที่กวนนางเล็กๆ ของพ่อสำเร็จ  แถมพ่อก็ยังไม่ว่าอะไรเธอด้วย  เธอเห็นแวบๆ ว่าเขาแอบยิ้มด้วยละ

"อารมณ์ดีจังนะ"  คาเร็นทัก  จูนหันมาเห็นเธอก็ยิ้มกว้างขึ้น

"คุณมาที่นี่ได้ด้วยเหรอ  ดีจัง"

"ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงมาได้  อาจเพราะรูปที่คุณพกมาด้วย" 

จูนทำหน้านึกขึ้นได้  ล้วงกระเป๋าเงินออกมาจากกระเป๋ากางเกงและดึงภาพคาเร็นออกมาดู  คาเร็นก็ดูมันด้วย

"ใครถ่ายให้คุณคะ"

"ทำไม  ตลกเหรอ"  คาเร็นถาม  ตั้งท่าจะงอนจูนเต็มที่  "พวกพี่ๆ ที่สำนักพิมพ์น่ะ  นานแล้ว  บอกมาก่อนสิ  ตลกหรือเปล่า"

"ไม่ตลกค่ะ  น่ารัก"

"พูดเอาใจอีกแล้ว"

"ไม่ได้เอาใจค่ะ  พูดจริง  คุณน่ารักสำหรับฉันเสมอแหละ"  จูนพูด  ลืมดูไปเลยว่าใครๆ ก็มองเธอด้วยสายตาแปลกๆ  จนกระทั่งเจอแม่นม

"คุณจูนพูดกับใครคะ"  จอร์จิน่ามองคุณหนูของตนอย่างเป็นห่วง 

"พูดกับอากาศค่ะนม"  จูนตอบ  กลั้นยิ้มเมื่อคาเร็นค้อนเธอขวับ  "นมเป็นยังไงบ้างคะ  จูนซื้อของฝากมาจากญี่ปุ่นด้วย  แต่อยู่บ้านเล็ก  เดี๋ยวจูนไปเอามาให้นะ"

"ไม่เป็นไรค่ะ  นมไปด้วย  ได้ข่าวว่าคุณพาใครมา  ไม่ใช่คุณดิ๊พซี่นี่"

"เลิกกันแล้วค่ะ"

แม่นมมองจูนเหมือนไม่เชื่อ  แต่แล้วก็ส่ายหน้ากึ่งยิ้ม  เพราะจูนทำหน้าตาจริงจัง  และพยักหน้าย้ำ  "นมคิดแล้วว่าต้องมีวันนี้  พวกคุณคนละสไตล์กันเลย  แล้วคนที่มาด้วย  นี่เป็น..."

"ไม่ใช่ค่ะ  เธอเป็นญาติของแฟนใหม่จูน"  จูนพูดตรงๆ  แม้คาเร็นจะทำหน้าคัดค้าน  "นมจะยังไม่เจอเธอหรอกค่ะ  แต่จูนสัญญาว่าจะพาเธอมาหานมแน่ๆ  ขอเวลาจูนอีกสักนิด  นะคะ"

แม่นมจอร์จิน่าพยักหน้ารับ  ไม่ถามซักไซ้จูนด้วยรู้นิสัยเด็กที่ตนเลี้ยงดูแลมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยดี  ถ้าเป็นเรื่องแบบนี้จูนจะไม่โกหกนาง

"จูนรักนมเหมือนแม่ของจูน  เพราะฉะนั้น  จูนจะพาเธอมาหานมแน่ๆ ค่ะ  รอหน่อยนะคะ"

"ค่า  ไม่เป็นไรหรอกค่ะ  นมรอได้  นมยังแข็งแรงดี  คุณจูนไปพักเถอะค่ะ  ผอมไปเยอะเลยนะเนี่ย  ไม่เจอแป๊บเดียวเอง  ไปค่ะ  นมไปส่ง  อย่าห้ามไม่ให้นมทำนะคะ  ขอร้องละ"

จูนยิ้มให้แม่นม  ไม่อยากขัดใจคนแก่ที่รักเหมือนแม่ตน 

มาด้วยกันค่ะ  ที่รัก 

คาเร็นอ่านปากจูนที่ขยับพูดไม่มีเสียงขณะหันมาหาเธอ  เธอจึงเดินตามจูนไป  หากหยุดชะงักเมื่อจะก้าวเข้าประตู  เธอยืนอยู่อย่างนั้นจนจูนย้อนกลับมาหา  และมาคว้าข้อมือเธอพาเดินเข้าบ้านฉิว  ไม่ติดขัดอะไรเลย

"ฉันจะไม่ปล่อยคุณไว้คนเดียว  คุณจำไว้เลยนะ  คาเร็น"  จูนเอ่ยเสียงขรึม  หากรอยยิ้มละมุนจนผู้ได้รับมันรู้สึกหัวใจพองโตขึ้นมาทั้งที่ไม่มีร่างกายแบบนี้แหละ 




..........................



หยอดกระปุกไว้จับจองกันด้วยนะคะ   :02: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

17 มกราคม 2019 เวลา 11:11:28
เจ้าแบร์นี่นางวาสนาดีจริงๆ ได้นั่งเครื่องส่วนตัว คนธรรมดาอย่างเราคงไม่มีวาสนา นี่เราอิจฉาหมารึนี่!!!??
แสดงความคิดเห็น