ผิด...เพราะรักตอนที่ ๑ “รักเค้าหรือเปล่า”เสียงแพรตะวันเอ่ยถาม
“ไม่”เสียงที่ตอบกลับมา แทบจะทันทีของปลายฝัน
แม้ในใจจะคัดค้านกับคำที่ได้ยิน เพราะแพรตะวันรู้สึกได้ จากการกระทำ ที่ปลายฝันมีต่อเธอ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันมาเธอรู้ว่าปลายฝันรักเธอ ไม่น้อยไปกว่าที่เธอรักปลายฝัน แต่ก็อดรู้สึกเจ็บปวดไม่ได้ทุกครั้งที่ได้ยิน ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา ปลายฝันไม่เคยบอกรักแพรตะวัน แม้แต่ครั้งเดียว และทุกครั้งที่เอ่ยถามมักจะได้ยินแต่คำว่า...ไม่รัก
แรกๆ ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมาย แต่พอนานๆ เข้าความมั่นใจเริ่มลดน้อยลง กลายเป็นความรู้สึกน้อยใจ และความเจ็บปวดในใจทุกครั้ง ที่ได้ยินความรู้สึกนี้มันสะสมมานาน จนกลายเป็นความไม่เข้าใจกัน สองคนเริ่มมีช่องว่างในใจ มากขึ้นทุกที ทุกที
แพรตะวันหญิงสาวผมซอยสั้น ชอบแต่งตัวห้าวๆ เหมือนทอมบอย แต่ใครจะรู้ว่าภายในใจเธอช่างอ่อนไหวมากมายนัก
เธอมีปลายฝันหญิงสาวที่มีอายุมากกว่าเธอแค่ปีเดียว เป็นคนรักที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมาปีนี้ก็เข้าปีที่ 5 แล้ว
ระยะหลังความไม่เข้าใจกัน และความปากแข็ง ใจแข็งของปลายฝัน ทำให้ความรักความเข้าใจกันเริ่มลดน้อยลง และที่แพรตะวันทนไม่ได้คือ ปลายฝันชอบพูดถึงคนรักเก่าของเธอบ่อยๆ ทำให้แพรตะวันยิ่งรู้สึกน้อยใจมากขึ้น ทำให้ทั้งคู่แม้จะอยู่ด้วยกัน แต่เหมือนมีเส้นใยบางๆ เริ่มเข้ามากั้นกลางระหว่างคนทั้งสองมากขึ้น
วันนี้ปลายฝันชวนแพรตะวันมาใช้บริการที่สบายบุรีสปา ที่นี่แพรตะวันได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง หน้าตาเกลี้ยงเกลา ผมยาวตรงดำสวย ดวงตากลมโตขนตายาวงอน โดยไม่ต้องพึ่งขนตาปลอม ที่สาวๆ ปัจจุบันนิยมกัน จมูกโด่งรับกับใบหน้ารูปไข่ ปากบางได้รูปดูดีเมื่ออยู่บนใบหน้านั้น มิรินคือชื่อของเธอ
“พี่หนูชอบผู้หญิงคนนี้จังเลยดูเท่ห์มากๆ”มิรินบอกกับเนตรเจ้านายเธอ เมื่อเห็นแพรตะวันเข้ามาใช้บริการในสปา ที่เธอทำงานอยู่
“น้อยๆ หน่อย อย่าให้มันออกนอกหน้ามากนัก แล้วมองไม่เห็นเหรอว่าเค้ามากับใคร เฮ้อ ! ลูกน้องชั้นแต่ละคน”เนตรบ่นอุบ ก่อนเดินไปต้อนรับแพรตะวันกับปลายฝันที่เข้ามาใช้บริการสปา ซึ่งเนตรกับปลายฝันรู้จักกันเป็นอย่างดี
มิรินได้แต่แอบมองแพรตะวันด้วยความชื่นชอบ ส่วนแพรตะวันได้แต่ยิ้มให้ ทั้งๆ ที่รู้สึกชอบเด็กคนนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ และบ่อยครั้งที่แพรตะวันแอบมองมิริน ทั้งคู่มักสบตากันบ่อยๆ เป็นมิรินที่ต้องหลบสายตาที่จ้องมองมิรินไม่วางตา เพราะสายตาของแพรตะวันมันหวานซะจนใจมิรินหวั่นไหว
ทั้งๆ ที่แพรตะวันไม่ค่อยชอบเข้าสปามากนัก แต่ระยะหลังๆ พอปลายฝันเอ่ยชวนแพรตะวันกลับกระตือรือร้นอยากไปมากขึ้น จนปลายฝันรู้สึกแปลกใจแต่แพรตะวันก็แก้ตัวว่าอยากสวย เพราะอายุเริ่มเยอะแล้วต่างหาก แต่ความจริงในใจแล้วแพรตะวันอยากไปสปา เพราะอยากเจอมิรินมากกว่า
แม้จะยังไม่ได้พูดคุยแต่แค่ได้มอง ก็รู้สึกดีอย่างประหลาด เวลาได้อยู่ใกล้ๆ แพรตะวันรู้สึกได้ว่าหัวใจเต้นแรงทุกครั้ง แพรตะวันอดรู้สึกแปลกใจตัวเองไม่ได้เหมือนกัน ว่าทำไม รู้สึกหัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่เข้าใกล้เด็กคนนี้
เคยได้ยินใครบางคนบอกไว้ว่า ถ้าเรารู้สึกเป็นพิเศษกับใคร เวลาได้อยู่ใกล้ ๆ หัวใจจะเต้นแรงผิดปกติ และแพรตะวันก็รู้สึกแบบนั้นเวลาอยู่ใกล้มิริน
วันนี้แพรตะวันเข้ามาใช้บริการที่สปาเพียงคนเดียว เพราะปลายฝันติดงาน แต่ได้โทรจองคิวไว้แล้วเลยต้องให้แพรตะวันมาคนเดียว เพราะเกรงใจพี่เนตรเจ้าของที่รู้จักกันดี
“ดื่มน้ำก่อนนะคะ”มิรินรีบเอาน้ำมาให้แพรตะวันทันที ที่เห็นแพรตะวันเดินเข้ามานั่ง รู้สึกดีอย่างประหลาดที่เห็นแพรตะวันมาเพียงลำพัง
“ขอบใจนะคะ”แพรสบตามิรินยิ้มๆ
“หนูชอบพี่ค่ะ”มิรินบอกแพรโดยไม่หลบสายตา
“อะไรนะคะ”แพรตกใจเกือบสำลักน้ำ ที่โดนจู่โจมแบบไม่ได้ตั้งตัว
“หนูชอบพี่จริงๆ นะแล้วพี่ชื่อเล่นชื่ออะไรคะ พี่รู้ชื่อหนูแล้วแต่หนูยังไม่รู้ เอาเปรียบกันนะคะ”
“แพรจ๊ะ”แพรบอกโดยไม่คิดจะปิดบังอะไร รู้สึกหัวใจเต้นแรงอย่างประหลาด
“หนูรู้นะ ว่าพี่ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาทั่วๆ ไป หนูชอบพี่ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น”มิรินเปิดเผยความในใจ
“แต่พี่ไม่ใช่ทอมนะคะ”แพรตะวันรีบบอก เพราะส่วนใหญ่คนจะมองบุคลิกเธอเป็นแบบนั้น ถึงแม้ว่าจริงๆ แล้ว เธอจะเป็นผู้หญิงที่รักผู้หญิงเหมือนกันก็ตาม แต่เธอไม่อยากให้มิรินเข้าใจผิด เพราะเธอรู้ว่าผู้หญิงบางคนจะชอบผู้หญิงที่เป็นทอมจริงๆ มากกว่าแบบที่เธอเป็น
“หนูก็ไม่ได้ชอบทอมนี่ค่ะ แต่หนูชอบพี่แพร”มิรินตอบพลางยิ้มๆ
“ขอเบอร์โทรพี่ได้ไหม”มิรินเอ่ยถามขณะที่พาแพรตะวันเดินเข้าไปยังห้องนวด
“ในประวัติที่ให้กรอกวันนั้นก็มีนี่ค่ะ”
“แต่หนูอยากได้จากพี่นี่นา จะได้รู้ว่าพี่เต็มใจให้หรือเปล่า”
“หนูโทรไปคุยด้วยได้ใช่ไหม แต่หนูคงชวนพี่ไปไหนต่อไหนด้วยคงไม่ได้หรอกมั๊ง แฟนพี่ตามแจขนาดนั้น”มิรินพูดยิ้มๆ เมื่อได้นามบัตรที่แพรตะวันยื่นให้
“ไม่มีอะไรหรอก บางทีสิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่อย่างที่คิดก็ได้นะคะ ลองชวนดูซิ”แพรตะวันบอกยิ้มๆ อย่างชอบใจที่ได้พูดคุยกับมิริน
“เดี๋ยว6โมงหนูเลิกงาน คงพอดีกับที่พี่นวดตัวเสร็จ ไปทานข้าวกันไหม ใกล้ๆ แถวนี้ก็ได้หนูอยากคุยกับพี่ต่อ”
แพรตะวันถึงกับอึ้ง เมื่อเจอมิรินรุกเร้าขนาดนี้ ก่อนจะตอบออกไปสั้นๆ เมื่อชั่งใจครู่หนึ่ง
“ได้จ๊ะ”
มิรินยิ้มอย่างดีใจก่อนจะเดินไปทำงาน ไม่ลืมส่งยิ้มให้แพรตะวันที่ยังมองตามมิรินตาไม่กระพริบ
มิรินเป็นพนักงานต้อนรับของสบายบุรีสปา ซึ่งหน้าตาสะสวยหุ่นดี พูดจาฉะฉานดูมีเสน่ห์แก่ผู้คนที่ได้พูดคุยด้วย ซึ่งแพรตะวันก็หนีไม่พ้นเสน่ห์ที่ดึงดูดนั้นเช่นกัน
ร้านอาหารใกล้ๆ ที่สองสาวเลือกเป็นที่ทานอาหาร และนั่งคุยกันเงียบๆ อย่างถูกคอ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นมิรินมากกว่าที่ถามนุ่นนี่และชวนคุย แพรตะวันจะเป็นฝ่ายฟังซะส่วนใหญ่เพราะมิรินเป็นคนช่างพูดช่างคุย ทำให้แพรตะวันรู้ว่ามิรินอายุน้อยกว่าแพรตะวันตั้ง 8ปี
“มิรินชื่อแปลกนะคะ”แพรตะวันเอ่ยปากถาม
“ค่ะ แม่เค้าติดนิยายเรื่องหนึ่งคะ นางเอกชื่อมิริน แม่ชอบมากพอมีหนูก็เลยตั้งชื่อมิริน พี่แพรเรียกรินเฉยๆ ก็ได้คะ”มิรินอธิบายให้แพรตะวันรู้ถึงที่มาของชื่อเธอ
“พี่แพรเป็นแฟนกับพี่ปลายฝันใช่ไหมคะ”มิรินเอ่ยถามสิ่งที่เธอสงสัย
“ใช่”แพรตะวันบอกออกไปโดยไม่คิดจะปิดบัง
“ดูพี่เค้ารักพี่แพรมากนะคะ แล้วพี่อยู่ด้วยกันใช่ไหม”มิรินรู้สึกวูบในใจ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วแต่ยังถามต่อไม่หยุด
“เรื่องบางเรื่องถ้าไม่รู้จะดีกว่านะคะ”แพรตอบกลับไปแบบยิ้มๆ ตามบุคลิกของตัวเอง
“หนูเคยมีแฟนที่เป็นทอมจริงๆ แบบเค้าจะรัดหน้าอกไม่ให้เห็นเลยค่ะ เค้ารักหนูมากนะคะ แต่หนูนิสัยไม่ดี หนูทำไม่ดีกับเค้าไว้เยอะ หนูไม่ค่อยแคร์ความรู้สึกเค้า อย่างเวลาหนูไปเที่ยว หนูก็ไปของหนูคนเดียวเที่ยวกับเพื่อน พอหนูเมาก็โทรบอกให้เค้าไปรับ เค้าก็ตามใจหนูทุกอย่างเลยนะ แต่ในที่สุดเค้าก็ทนหนูไม่ได้ ไม่มีใครทนหนูได้หรอกค่ะ ถามว่าเสียใจไหมหนูเสียใจนะ”เสียงมิรินเริ่มเศร้าๆ ก่อนจะเงียบไปสักพัก แพรตะวันได้แต่นั่งมองใบหน้าสวยที่มีแววเศร้าอย่างเงียบๆ แต่ก็ฟังเรื่องราวที่ออกจากปากสวยนั้นอย่างตั้งใจ
“ตอนนี้หนูคิดว่า ถ้าหนูมีใครเข้ามาในชีวิตอีก หนูจะไม่ทำตัวแย่ๆ แบบนั้นอีก”มิรินเอ่ยเสียงแผ่วเบา แต่สายตาจ้องตาแพรตะวันอย่างมีความหมาย ก่อนเปิดเผยความรู้สึกของตัวเองอีกครั้ง
“รินชอบพี่จริงๆ นะคะ”มิรินยังบอกแพรตะวันด้วยคำเดิม
“พี่ก็ชอบรินเหมือนกันค่ะ”แพรตะวันบอกความรู้สึกของตัวเองให้มิรินรู้จนได้ เมื่อเห็นสายตาที่ออดอ้อนกับรอยยิ้มใสๆ ของเธอ
“ดีใจจังที่เราใจตรงกัน”มิรินยิ้มอย่างชอบใจ
แพรตะวันแค่ยิ้มโดยไม่พูดอะไร
“วันนี้หนูมีความสุขมากนะคะ ที่ได้ทานข้าวกับคนที่ชอบและถูกใจ”มิรินบอกแพรตะวันก่อนจากกัน
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็มักจะโทรคุยกันเกือบทุกวัน มีเรื่องราวมากมายที่ทั้งคู่ต่างเล่าสู่กันฟัง ถามไถ่กัน เพื่อที่จะได้เรียนรู้กันและกันให้ดีที่สุด
“เที่ยงแล้วอย่าลืมทานข้าวนะคะคนดี”
มิรินยิ้มกับข้อความที่แพรตะวันส่งมาให้ แพรตะวันชอบเขียนมากกว่าพูด เลยมักส่งข้อความให้มิรินบ่อยๆ เกือบทุกวัน ซึ่งมิรินก็ชอบและรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้อ่าน
วันนี้แพรตะวันเข้ามาสปา พร้อมกับปลายฝัน แพรตะวันรู้สึกอึดอัดมองหน้ามิรินอย่างไม่สบายใจเท่าไหร่ เพราะเธอรู้สึกแคร์ความรู้สึกของมิริน กลัวว่ามิรินจะรู้สึกไม่ดีที่เห็นว่าเธอมากับปลายฝัน ซึ่งมิรินก็รู้สึกว่าแพรตะวันดูเครียด เมื่อมีโอกาสจึงไม่รอช้ารีบเข้าไปคุยกับแพรตะวันทันที
“พี่แพรเป็นอะไรจ๊ะไม่สบายหรือเปล่า รินเห็นพี่หน้าตาไม่ค่อยดี”มิรินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“พี่ขอโทษนะคะ ถ้าทำให้รินไม่สบายใจ”
“เรื่องอะไรคะ”
“ก็ที่พี่มากับฝัน พี่กลัวรินคิดมาก”
“อะไรกันรินไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย พี่ไม่ได้หลอกรินนี่คะรินรู้ตั้งแต่แรกแล้ว แล้วรินก็ยอมรับมันเอง อย่าคิดมากซิคะ รินอยากมีพี่คอยห่วงใย แล้วรินก็รู้สึกดีที่มีพี่อยู่อย่างนี้ ไม่คิดมากนะคะ”มิรินกลับเป็นคนที่ปลอบโยนแพรตะวันให้คลายความกังวลซะเอง ทำให้แพรตะวันยิ่งรู้สึกดีและรักมิรินอย่างเต็มหัวใจ แม้เธอจะรู้ว่ามันเร็วเกินไปแต่เธอก็ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาให้หัวใจตัวเองได้เลย
(ว่าไงคะ)แพรตะวันรับโทรศัพท์มิริน
(ไม่ว่าไงหรอกค่า คิดถึงพี่แพรจังเลย ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน)
(พี่ก็คิดถึงรินค่ะ ทำงานเหนื่อยไหม)
(ก็ไม่เหนื่อยหรอกคะ มันต้องทำอยู่แล้ว ว่าแต่วันนี้พี่ว่างไหม ไปกินข้าวเย็นกับรินได้ไหม)เสียงมิรินออดอ้อนมาตามสาย
(ได้ค่ะ พี่ไปหาตอนเลิกงานนะคะ)แพรตะวันบอกหลังจากนิ่งคิดนิดหนึ่ง
(ค่ะรินจะรอนะคะ)มิรินบอกด้วยน้ำเสียงดีใจ
แพรตะวันบอกปลายฝัน แค่ว่าจะไปกินข้าวกับเพื่อน ก่อนจะรีบไปหามิรินตามนัด มิรินเลือกร้านบรรยากาศดี ติดแม่น้ำเจ้าพระยา มิรินชวนแพนเพื่อนสนิทมาด้วย แพรตะวันนั่งข้างๆ มิรินซึ่งคอยเอาใจตักนุ่นตักนี่ให้แพรตะวันตลอดเวลา ทำให้แพรตะวัน รู้สึกดีที่มีมิรินคอยเอาใจใส่ มิรินเอนตัวแนบชิดแพรตะวัน มือจับมือแพรตะวันแนบแน่น
“ไม่อายแพนเหรอ”แพรตะวันกระซิบเบาๆ
“อายทำไมแพนมันรู้ ใช่ไหม”ประโยคหลังหันไปถามแพน
“ใช่พี่ไม่ต้องอายหนูหรอก หนูเข้าใจตามสบายพี่”แพนบอกยิ้มๆ
แพรตะวันรู้สึกอายหน้าแดง ไม่เคยมีใครเปิดเผยกับเธอมากขนาดนี้เลย ยิ่งถ้าเป็นปลายฝัน ไม่มีทางจะได้นั่งใกล้กันในที่สาธารณะแบบนี้ ปลายฝันมักจะระวังตัวเสมอ แม้แต่จับมือยังไม่เคย
มิรินสอดมือมาโอบรอบเอวแพรตะวัน พร้อมกับเอนหัวมาซบกับไหล่แพรตะวัน แพรตะวันรู้สึกดีที่มิรินแสดงออกกับเธอแบบไม่กลัวสายตาใคร มิรินเป็นคนที่ค่อนข้างเปิดเผยมาก มันทำให้แพรตะวันรู้สึกผ่อนคลายเวลาอยู่ใกล้ๆ และหัวใจเต้นแรงจนกลัวว่าทั้งมิรินและแพนจะได้ยิน
สามคนนั่งดื่มกิน ฟังเพลงกันท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบาย เพลงเพราะๆ มิรินหน้าแดงเริ่มมึนเพราะดื่มไปหลายแก้ว หันมายิ้มๆ กับแพรตะวัน
“พี่นี่น่ารักนะ”มิรินหยอกแพรตะวัน
“น่ารักแล้วรักไหมล่ะ”แพรตะวันหยอกกลับยิ้มๆ
มิรินเงียบไปนิดหนึ่งก่อนจะตอบ
“รักไหมเหรอ ก็รักนะ คืนนี้น่าจะได้อยู่ด้วยกันนะคะ”น้ำเสียงออดอ้อนอ่อนหวาน
แพรตะวันรู้สึกหัวใจพองโต เมื่อได้ยินคำว่ารักจากมิริน แม้จะรู้สึกว่ามันเร็วไป แต่มันดีเหลือเกิน เพราะเธอก็รู้สึกดีกับมิรินไม่น้อย
“รินจะไปห้องน้ำ พี่แพรไปด้วยกันไหมคะ”มิรินเอ่ยถามแพรตะวันก่อนจะขยับตัว
“ไปสิ”แพรตะวันรีบเดินตาม เพราะรู้สึกเป็นห่วงไม่อยากให้มิรินไปคนเดียว
หน้าห้องน้ำไม่มีใครเลย ขณะที่มิรินเข้าห้องน้ำ และกำลังจะปิดประตู แพรตะวันแทรกตัวเข้าไปด้วยและปิดประตูทันที
“เข้ามาทำไมรินจะฉี่...”มิรินพูดยังไม่ทันจบ แพรตะวันดึงตัวมิริน เข้ามาประกบปากจูบอย่างรวดเร็ว ลิ้นแพรตะวันแทรกเข้าไปในปากอุ่นๆ ควานหาความหอมหวาน และดูดกลืนกินอย่างหิวกระหาย มิรินจูบตอบด้วยความรู้สึกไม่ต่างกัน อ่อนหวาน เนิ่นนานกว่าที่แพรตะวัน จะถอนปากออกจากปากมิรินได้ จ้องมองหน้ามิรินที่แดงก่ำด้วยสายตาหวานฉ่ำ
“บ้า...ออกไปได้แล้วรินปวดฉี่”มิรินกลบเกลื่อนความวาบหวิว ด้วยการแกล้งไล่แพรตะวัน พร้อมกับดันตัวแพรตะวันให้ออกจากห้องน้ำ แพรตะวันยอมออกจากห้องน้ำด้วยใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้ม รู้สึกเป็นสุขเหลือเกินเหมือนเธอกลับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง
มิรินออกจากห้องน้ำด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมสุขไม่แพ้กัน ระหว่างเดินกลับโต๊ะ มิรินกอดแขนแพรตะวันแนบแน่น และยื่นหน้ามาหอมแก้มแพรตะวัน ทำให้แพรตะวันยิ้มกว้างกว่าเดิม
สองคนนั่งชิดอิงแอบกัน บางครั้งก็หันมาหอมแก้มกัน แพนนั่งมองทั้งคู่หวานใส่กัน อดอมยิ้มอย่างรู้สึกเป็นสุขกับเพื่อนไปด้วย
“พี่แพรว่าไหมพวกผู้ชายโต๊ะนั้น เค้ามองมาคงรู้สึกเสียดายเราสองคนนะคะ”มิรินกระซิบบอกแพรตะวันเบาๆ
แพรตะวันหันไปมองตามที่มิรินบอกก่อนจะยิ้มๆ อย่างเห็นด้วย เมื่อมองเห็นสายตาของพวกผู้ชายโต๊ะใกล้ๆ ที่มองมาที่เธอสองคน
แพรตะวันยืนมองตามรถแท็กซี่ ที่มิรินกับแพนนั่งจากไปอย่างรู้สึกเสียดาย อยากมีเวลาอยู่ด้วยกันให้นานกว่านี้แต่ไม่อาจทำได้
แพรตะวันกำลังเดินขึ้นไปที่ห้องบนคอนโด พอดีมีเสียงโทรศัพท์ดังเป็นมิรินที่โทรมา
(ว่าไงคะ ถึงบ้านหรือยัง)แพรตะวันกรอกเสียงหวานกลับไป
(ถึงแล้วจ้า พี่แพรถึงหรือยังคะ)
(ถึงคอนโดแล้ว กำลังเดินไปที่ห้องค่ะ)
(วันนี้รินมีความสุขมากนะคะ ที่ได้อยู่กับพี่)เสียงมิรินออดอ้อน
(เหมือนกันค่ะ พี่ก็มีความสุขมาก)แพรตะวันตอบกลับไปหวานไม่แพ้กัน
(เราน่าจะได้อยู่ด้วยกันนะคะ คืนนี้)เสียงมิรินฟังดูเศร้าๆ
(เรายังมีเวลาอีกเยอะนะคะ ที่จะได้อยู่ด้วยกัน) แพรตะวันปลอบใจเบาๆ
(รินจะรอวันนั้น คืนนี้หลับฝันดีนะคะที่รัก)
(ค่ะ เหมือนกัน ฝันดีนะคะ)แพรแอบจุ๊บโทรศัพท์เบาๆ ก่อนจะวางสาย
หลังจากวางสายจากมิริน แพรตะวันก็เดินยิ้มเข้าห้องมาเจอปลายฝันพอดี
"แหม...ไปกินข้าวข้างนอก ยิ้มระรื่นมาเชียวนะ"ปลายฝันแซวแบบไม่ได้คิดอะไร
“อ่ะ..แน่นอนซิจ๊ะ มันเป็นเรื่องธรรมดา ที่ได้ออกไปนอกบ้าน”แพรตอบยิ้มๆ อย่างอารมณ์ดี