web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 101
Most Online Ever: 440
(28 เมษายน 2024 เวลา 03:05:22 )
Users Online
Members: 0
Guests: 76
Total: 76

ผู้เขียน หัวข้อ: จะร้ายหรือจะรัก ตอนที่ 24  (อ่าน 1209 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ลำเนา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 68
จะร้ายหรือจะรัก ตอนที่ 24
« เมื่อ: 30 ธันวาคม 2013 เวลา 10:57:36 »
ตอนที่ 24

นิมายังคงทำงานของเธอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากการพูดคุยกับทองทิพย์โดยที่ฝ่ายหลัง แยกตัวออกไปคุยโทรศัพท์ซึ่งคงจะเป็นเรื่องสำคัญ จนกระทั่งเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง อาหารเช้า ขนม และชากลิ่นหอมๆ ก็ถูกจัดเตรียมไว้ให้โดยที่เจ้าของร้านหายไปแล้ว

“นิ่มล่ะคะ” ทองทิพย์เดินไปถามพนักงานของร้าน

“พี่นิ่มขึ้นไปชั้นสองค่ะ อาหารเช้าของคุณทิพย์พร้อมอยู่ที่โต๊ะนะคะ”

“ขอบคุณนะคะ” ทองทิพย์บอกขอบคุณพนักงานของร้านขนมก่อนที่จะกลับ ไปนั่งที่โต๊ะซึ่งอาหารเช้าสำหรับเธอถูกจัดเตรียมไว้ ทองทิพย์ดื่มชาหอมๆ ซึ่งชาที่ร้านของนิมามีกลิ่นหอมทำให้รู้สึกสดชื่นได้ทุกครั้งที่ได้ดื่ม นั่นคงเป็นมนต์เสน่ห์อย่างหนึ่งของร้าน ยิ่งบวกเข้ากับอัธยาศัยที่เสนน่ารักของนิมา ร้านแห่งนี้จึงมีลูกค้าเดินเข้าออกตลอดวัน แต่ภาพของโอบบุญก็แทรกเข้ามาในความคิดของทองทิพย์ ภาพผู้หญิงบนรถเข็นที่ไม่ยอมพูดยอมจากับใบหน้าเรียบนิ่ง สายตาของโอบบุญที่มองตรงไปข้าง หน้าดูไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ ทั้งๆ ที่โอบบุญคนที่เธอรู้จักเป็นผู้หญิงที่สดใสร่าเริงโดย เฉพาะรอยยิ้มที่ได้เห็นในทุกๆ ครั้งนั้นได้สร้างรอยยิ้มให้เธอด้วยเสมอ แต่ครั้งหลังสุดที่เธอมีโอกาสได้พบโอบบุญ ซึ่งเหมือนกำลังจมลึกอยู่กับความโศกเศร้า แววตากับรอยยิ้มอันสดใสไม่มีหลงเหลืออยู่ให้เห็นเลยสักนิด

นิมาลงมารอรับลูกค้าที่โทรมาหาเธอเมื่อสักครู่ ทองทิพย์ยิ้มเมื่อได้เห็นนิมาออกมาอยู่ที่หน้าร้าน แต่เจ้าของร้านที่เพิ่งลงมาจากชั้นบนไม่ได้ให้ความสนใจอะไรในตัวเธอนัก ยังคงพูดคุยเรื่องงานกับพนักงานของร้านและต้อนรับลูกค้าด้วยรอยยิ้มสดใสซึ่งนั่นก็คือเสน่ห์ที่นิมามีและทำให้ทองทิพย์รู้สึกดีด้วยมากๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินเข้ามาในร้านแห่งนี้

“สวัสดีค่ะ คุณพุด” นิมาทักทายคนที่โทรเข้ามาหาเธอ

“โทรไปแล้วนะ แต่ไม่ได้เรื่อง ปลายสายไม่ยอมรับสาย แต่เดี๋ยวอีกสักพัก พุดจะลองใหม่นะ ว่าแต่สาวร้ายเป็นอย่างไรบ้าง” พุทธชาดโทรมารายงานเรื่องเบอร์ลึกลับที่ได้มา

“ขอบคุณค่ะ คุณพุดที่ช่วย สำหรับสาวร้ายก็ยังทานอาหารเช้าอยู่ค่ะ แต่” นิมาไม่ได้พูดต่อ ซึ่งนั่นทำให้พุทธชาดรู้สึกว่าน่าจะมีอะไรเกิดขึ้น

“มีอะไรใช่ไหม เอาสั้นๆ คุยอะไรกันเอาเท่าที่อยากเล่าก็ได้”

“ทิพย์บอกกับนิ่มว่า อยากรักนิ่ม” นิมาบอกกับพุทธชาดที่ไม่ค่อยเข้าใจนักกับสิ่งที่นิมาได้พูดออกมา

“อยากรัก หมายความว่าอย่างไรกัน” พุทธชาดถาม

“นิ่มก็ถามนะคะ อะไรที่มาคั่นกลางระหว่างนิ่มกับทิพย์ แต่เจ้าตัวก็เลี่ยงที่จะไม่ตอบ นิ่มเลยสรุปและพูดออกไปว่า อยากรักแต่ไม่ได้รัก”

“แรงไปนะ แม่นิ่มนวล เจ้าตัวเขาไม่ได้บอกสักหน่อยนะว่าไม่ได้รัก แต่จากที่ฟังดูก็คงเหมือนอย่างที่พวกเราคิดว่ามีอะไรบางอย่าง ว่าแต่ว่าไอ้บางอย่างที่ว่ามันคืออะไรล่ะ” พุทธชาดกลับมาคิดทบทวนอีกครั้ง

“มันซับซ้อนเกินไปนะ บางทีนิ่มก็รู้สึกอย่างนั้น ถ้าความรักมันต้องลำบากขนาดนี้ไม่ต้องมีมันก็ได้หรือเปล่า คุณพุด เพราะความรักไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต นิ่มเคยเสียใจมาครั้งหนึ่งตอนเรียนมหาวิทยาลัย และก็อยู่มาได้จนทุกวันนี้ ถ้าไม่มีนิ่มว่านิ่มก็คงจะอยู่ได้นะ” นิมาพูดเสียงอ่อยๆ พร้อมรอยยิ้มจางๆ ซึ่งทองทิพย์มองเห็นได้ชัดเจน

“แน่ใจหรือ นิ่ม ความรักมาโผล่ในหัวใจนิ่มแล้ว นิ่มก็ยอมรับมันเข้าไปอยู่ข้างในแล้ว มันยากสักหน่อยนะ ที่จะผลักไสออกมา ทุกเรื่องมันแก้ไขได้ขึ้นอยู่กับว่าผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นอย่างไร เชื่อสิสักวันสาวร้ายก็ต้องยอมเล่าไอ้เรื่องที่เราคาใจกันอยู่ให้นิ่มรับรู้จนได้ คุณทิพย์ไม่ได้ใจแข็งเป็นสาวร้ายอย่างที่เราเห็นกันหรอกนะ บางทีบุคลิกภาพก็ถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องความอ่อนแอที่มีอยู่” พุทธชาดพูดจากสิ่งที่
เธอสัมผัสได้จากผู้หญิงที่ชื่อทองทิพย์

“พูดเหมือนอยู่ข้างสาวร้ายเข้าไปทุกวันนะคะ” นิมาต่อว่าเพื่อนรักของเธอ

“จริงหรือ แต่ถ้าสาวร้ายจะมาทำให้เพื่อนรักของพุดมีความสุข พุดก็จะไปยืนอยู่ข้างโน้นนะ” พุทธชาดหัวเราะเล็กๆ เสียงดังลอดผ่านโทรศัพท์เข้ามาทำให้นิมายิ้มได้

“ขอบคุณนะคะ คุณพุทธชาด ถึงแม้จะฟังดูแปลกๆ รู้ไหมตอนนี้สาวร้ายของคุณพุดจ้องนิ่มเขม็งเลย” นิมาเหลือบมองไปทางทองทิพย์ที่กำลังจ้องมองมาที่เธอ

“ถ้าไม่รักจะมานั่งจ้องอยู่ทำไมกันนะ” พุทธชาดพูดแล้วยิ้มกับตัวเอง

“ฝักใฝ่ฝ่ายตรงข้าม จะไว้ใจต่อไปได้ไหมล่ะนี่ คุณพุด” นิมาพูดยิ้มๆ

“สงสัยจะด้วยแรงสงสารมากกว่านะ คนที่อยากรักแต่ก็รักไม่ได้มันทรมาน มากกว่าคนอกหักอีกนะ นิ่มไม่สงสารบ้างหรืออย่างไร” พุทธชาดแอบยิ้มที่ได้หยอกล้อเพื่อนรักของเธอ

“แล้วคิดว่าเพื่อนไม่ทรมานหรืออย่างไรกัน” นิมาบอกกับพุทธชาด

“ก็รักไปเลย จะได้ทรมานน้อยหน่อย ถึงแม้จะต้องอกหัก ดีกว่าไหมล่ะ”

“เป็นฝ่ายตรงข้ามแล้วชัดๆ นะ คุณพุด รักแล้วรู้ว่าจะอกหัก จะให้รักทำไมกันคะ” นิมาถามพุทธชาด

“อนาคตเป็นเรื่องไม่แน่นอน ถ้าไม่รักจะบอกหรือว่า อยากรัก ลองทบทวนคำว่าอยากรักกับความรู้สึกดีดีที่มีให้กัน ถ้าไม่รักแล้วจะมาเสียใจทีหลังไม่รู้ด้วยนะ” พุทธชาดนึกขำ เพราะสิ่งที่เธอพูดเหมือนจะผลักดันให้เพื่อนเดินเข้าไปหาทองทิพย์อย่างเต็มตัว เธอเองก็ไม่รู้ว่าตกลงตอนนี้อยู่ข้างไหนกันแน่ แม่นิ่มนวลหรือสาวร้าย

“ชักไม่น่าไว้ใจแล้วนะ คุณพุด แค่นี้ก่อนนะคะ ลูกค้าเข้าร้านเยอะแล้ว ไว้ค่อยคุยกัน ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ว่าแต่ว่าเรายังเป็นพวกเดียวกันอยู่ใช่ไหม” นิมาถามยิ้มๆ และมั่นใจว่าเพื่อนรักของเธอก็คงยิ้มอยู่แน่ๆ

“แน่นอน แม่นิ่มนวล แต่ถ้าได้เป็นพวกเดียวกันกับทั้งสองคน จะดีมากเลย”

“ไปดีกว่า เข้าข้างออกนอกหน้าขนาดนี้ เดี๋ยวใจอ่อน” นิมาพูดพร้อมรอยยิ้มก่อนที่จะวางสายไปจากพุทธชาด แต่รอยยิ้มที่ยังคงมีอยู่บนใบหน้านั้นได้หันไปทางทองทิพย์ที่คงเห็นรอยยิ้มของเธอจึงได้ยิ้มตอบกลับมา นิมารีบหันกลับไปทำงานของตัวเองในทันที

“น้องค่ะ คิดเงินค่าอาหารกับชาด้วยค่ะ” ทองทิพย์เดินมาบอกกับพนักงานเก็บเงินของร้านซึ่งนิมาก็ยืนอยู่ไม่ไกลนัก

“ถ้าเก็บเงินคุณทิพย์ มีหวังคงโดนไล่ออกแน่เลยค่ะ” พนักงานเก็บเงินยิ้มเจื่อนๆ หันไปมองเจ้าของร้านแล้วหันมายิ้มแหยๆ ให้ทองทิพย์

“ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องขอบคุณเจ้าของร้านนะคะ ถ้าจะกรุณาขอคุยด้วยสักหน่อยก่อนไปก็จะขอบคุณมากค่ะ” ทองทิพย์มองสบตากับนิมาที่กำลังคิดว่าตัวเองควรจะทำอย่างไรกับสิ่งที่ทองทิพย์พูด แต่พนักงานของร้านพอจะเข้าใจกับอาการนิ่งๆ ของเจ้านายของเธอ

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวหน้าร้าน หนูดูให้เองค่ะ” พนักงานของร้านบอกกันนิมา

“ขอบใจจ๊ะ” นิมาบอกกับพนักงานของร้านแล้วจึงเดินเข้าไปห้องทำงานทาง ด้านหลัง ทองทิพย์ยิ้มพร้อมกับบอกขอบคุณพนักงานเก็บเงินที่ได้ช่วยเหลือเธอ

ทองทิพย์เคาะประตูหน้าห้องตามมารยาทและรอจนกว่าเจ้าของห้องบอกอนุญาตให้เธอเข้าไปด้านใน

“เชิญค่ะ”

“นิ่ม”

“ค่ะ”

“ทิพย์จะไปดูงานที่สถานออกกำลังกายก่อน เดี๋ยวเที่ยงจะแวะมาทานข้าวกลางวันด้วยได้หรือเปล่าคะ” ทองทิพย์พูดเรื่องที่ไม่รู้จะพูดทำไมในเวลาแบบนี้

“นิ่มจะให้พนักงานเตรียมอาหารไว้ให้ค่ะ แค่นี้หรือเปล่าที่อยากคุยกัน”

“ไม่ได้อยากคุย แต่อยากอยู่ใกล้ๆ” ทองทิพย์บอกความรู้สึกของเธอ

“มีคนอื่นที่สำคัญอยู่จนเต็มหัวใจ อย่าพานิ่มเข้าไปอีกคนเลยค่ะ”

“ทิพย์รู้ว่าทิพย์ไม่ดีพอ ขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆ บ้าง บางครั้งได้ไหมนิ่ม” ทองทิพย์พูดเสียงอ่อยๆ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็พยายามที่จะไม่พูดหรือร้องขออะไร แต่ดูเหมือนหัวใจมันกำลังควบคุมและบัญชาให้เธอเผยความรู้สึกข้างในออกมา

“มันไม่ใช่ว่าทิพย์ดีหรือไม่ดี แต่ทิพย์มีปัญหาและไม่ยอมบอกนิ่ม แล้วกำลังเอาปัญหาที่อยู่ในใจมาเป็นกำแพงขวางกั้นเราสองคนเอา
ไว้ รู้ไหมกำแพงมันก็จะสูง ขึ้นเรื่อยๆ หนาขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละวัน” นิมามองสบตาทองทิพย์ที่สายตาดูเศร้าลงไปถนัดตาหลังจากได้ยินสิ่งที่นิมาเพิ่งพูดบอกกับเธอ ซึ่งเหมือนนิมาก็พอจะรู้ว่าในหัวใจของเธอนั้นมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ภายใน

“กำแพงมันก่อตัวขึ้นเอง ทิพย์ไม่สามารถควบคุมมันได้ ทั้งๆ ที่ไม่อยากให้มันมีเลยระหว่างเราสองคน” ทองทิพย์พูดเสียงอ่อยๆ เริ่มสับสนกับสิ่งที่เธอคิดไว้ก่อนหน้านี้ ด้วยความรักและความเอาใจใส่ที่นิมามีให้กับเธอ

“ถ้าอย่างนั้นบอกหน่อยได้ไหมคะ ว่านิ่มต้องทำอย่างไร ถึงจะช่วยควบคุมมันไว้ได้ นิ่มอยากช่วยนะ” นิมาจ้องมองทองทิพย์ด้วยสายตาอ้อนวอน

“อยากให้อยู่ข้างๆ ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไร มันอาจจะฟังดูเห็นแก่ตัว แต่ทิพย์ตัวคนเดียว รู้สึกอย่างนั้นมาตลอดตั้งแต่พ่อกับแม่เสีย ตอนนี้พี่ทัดก็มีครอบครัวแล้ว ทิพย์คิดและตัดสินใจหลายๆ เรื่องด้วยตัวเองมาตลอด บางอย่างมันฝังอยู่ในจิตใจทิพย์เสียจนมันยากเกินที่จะเอาออกไปได้ง่ายๆ” ทองทิพย์รู้สึกว่าเธอเปิดเผยสิ่งที่อยู่ในใจให้กับนิมาได้รับรู้มากเกินไปเสียแล้ว แต่คำพูดที่ออกมานั้นก็บอกไม่ถูกเหมือน กันว่าทำไมถึงเปิดเผยออกมาทั้งๆ ที่เธอก็ไม่ได้ตั้งใจ แต่ทั้งหมดคงเพียงจต้องการอยากจะเหนี่ยวรั้งคนๆ เดียวที่เธอมีอยู่และรู้สึกดีดีด้วยเอาไว้

“นิ่มก็ไม่ได้แข็งแรงขนาดนั้นนะ ทิพย์ แต่ก็อยากช่วยให้ทิพย์ผ่านมันไปได้ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ถึงแม้จะรู้ตัวล่วงหน้าว่าตัวเองจะต้องเจ็บปวดไปด้วยก็ตาม” นิมามองสบตาทองทิพย์ที่กำลังโผเข้ากอดเธอเอาไว้แนบแน่น

“ขอบคุณ ขอบคุณมากค่ะ” ทองทิพย์บอกกับนิมาที่กอดกระชับเธอไว้แนบแน่นขึ้นอีก เพราะอาการตัวสั่นเทาที่ทองทิพย์มีทำให้นิมารู้สึกเป็นห่วง

“ไปทำงานเถอะค่ะ หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบรออยู่นะ กลับมาเป็นทองทิพย์ที่ดูสง่างามเหมือนเมื่อวันแรกที่นิ่มเห็นได้แล้วนะคะ” นิมาพูดให้กำลังใจทองทิพย์

“เรื่องงานไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ แต่เรื่องใจนิ่มจะดูแลใช่ไหม” ทองทิพย์พูดอ้อน พร้อมรอยยิ้มจางๆ

“เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย เอาใจไม่ถูกจริงๆ” นิมายิ้มสวยๆ ให้ทองทิพย์ที่ดูท่าทางสบายใจขึ้นบ้าง

“ไม่น่ารักเลยใช่ไหมแบบนี้” ทองทิพย์ถามนิมา แต่ก็ได้เห็นเพียงแค่รอยยิ้มจางๆ ของคนที่กำลังดันหลังเธอให้ออกมาจากห้อง

“ไม่น่าไปหลงรักเข้ามากกว่า” นิมาถอนใจหลังจากรำพึงกับตัวเอง




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.