web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 101
Most Online Ever: 440
(28 เมษายน 2024 เวลา 03:05:22 )
Users Online
Members: 0
Guests: 92
Total: 92

ผู้เขียน หัวข้อ: จะร้ายหรือจะรัก ตอนที่ 18  (อ่าน 1448 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ลำเนา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 68
จะร้ายหรือจะรัก ตอนที่ 18
« เมื่อ: 30 ธันวาคม 2013 เวลา 10:51:43 »
ตอนที่ 18

พิธีแต่งงานระหว่างทองทัดและนารินผ่านไปอย่างมีความสุขด้วยทุกๆ รอย ยิ้มของผู้ที่มาร่วมงาน รวมถึงสองสาวที่ดูจะติดกันแจ ก็คือ น้องสาวของทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวซึ่งทำให้ทั้งพี่ชายและพี่สาวรู้สึกแปลกใจ

“งานเลี้ยงที่ร้านคุณรักช่วงเย็น เราไปรถคันเดียวกันก็ได้นะคะ เดี๋ยวทิพย์ขับให้เอง” ทองทิพย์อาสาในระหว่างที่คู่แต่งงานกำลังพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงในตอนเย็น

“น้องสาวน่ารักเหลือเกินนะวันนี้” ทองทัดพูดจบก็เข้าสวมกอดทองทิพย์เป็นการขอบคุณ

“ปกติไม่น่ารักหรืออย่างไรคะ พี่ทัด”

“น้อยมากความน่ารักของแกน่ะ แต่ถึงอย่างไรพี่ก็รักแกนะ ทิพย์” ทองทัดบอกกับน้องสาวแล้วหันไปยิ้มกับนารินที่กำลังเข้าสวมกอดทองทิพย์เช่นกัน

“ขอบคุณนะคะ” นารินพูด ทองทิพย์กระชับอ้อมกอดเล็กน้อย

“มาน้องสาวคนใหม่ ขอกอดหน่อย ขอบคุณสำหรับทุกอย่างครับ น้องนิ่ม” ทองทัดเข้าสวมกอดนิมาที่ยืนอมยิ้มมองสบตากับทองทิพย์
ที่กำลังยิ้มทะเล้นให้

“พี่ทัด นั่นน้องภรรยานะคะ อย่ากอดแน่นนัก” ทองทิพย์ทำเสียงดุใส่พี่ชาย เสียงดังเสียจนทำให้นิมาหัวเราะออกมา

“น้ำเสียงเหมือนหวงเลยนะแก นาเป็นพี่สาวแท้ๆ ยังไม่เห็นว่าอะไรเลย”

“คุณทิพย์คงหวงพี่ชายมากกว่าค่ะ” นารินช่วยแก้ตัวแทน

“พี่นาเรียกชื่อทิพย์เฉยๆ ก็ได้ค่ะ เพราะเราก็เป็นญาติกันแล้วนะคะ”

“ได้ค่ะทิพย์” นารินยิ้มให้ทองทิพย์ด้วยความจริงใจ

“ทิพย์กับนิ่มขอตัวก่อนนะคะ จะพาน้องสาวพี่นาไปดูที่พักที่พี่ทัดเตรียมไว้ให้ค่ะ เดี๋ยวใกล้เวลาแล้วเราสองคนจะมาตามนะคะ พักผ่อนตามสบายค่ะ” ทองทิพย์เดินนำหน้านิมาออกมา ปล่อยให้สามีภรรยาได้พักผ่อนกันตามอัธยาศัย

ทองทิพย์เดินนำนิมามาที่ตึกซ้าย เป็นตึกเล็กที่อยู่ด้านหลังของตึกใหญ่ซึ่งเป็นเรือนหอของพี่ชายของเธอที่กำลังเริ่มสร้างครอบครัวใหม่ ทองทิพย์เปิดประตูหน้าตึกทั้งสองบาน แสงสว่างที่ทอแสงเข้าไปภายในทำให้นิมายิ้มออก

“ขอบคุณนะคะ ที่อุตส่าห์พามา” นิมาบอกขอบคุณทองทิพย์

“ยินดีค่ะ ข้าวของถูกขนมาให้หมดแล้วนะคะ” ทองทิพย์พูดจบก็เดินเข้าไปสวมกอดนิมาหลังจากที่นิมาเข้ามาในตัวตึกเรียบร้อยแล้ว

“เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าค่ะ” นิมาตีเบาๆ ไปที่แขนของคนที่โอบกอดเธออยู่

“เห็นก็ช่างปะไร เหนื่อยจะแย่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะคะ ว่าการช่วยงานแต่ง งานจะเหนื่อยมากขนาดนี้ แถมยังมีงานเลี้ยงตอนเย็นอีก” ทองทิพย์พูดจบก็เอาคางเชยไปที่ไหล่ของนิมา

“เหนื่อยแต่ก็มีความสุขที่ได้เห็นรอยยิ้มของพี่นากับพี่ทัด” นิมาพูดขึ้น

“เพิ่งรู้สึกว่าพี่ทัดยิ้มแล้วหล่อก็วันนี้ พี่ชายของทิพย์ก็หล่อเอาการเหมือนกันนะคะ” ทองทิพย์หัวเราะ

“เหนื่อยก็ไปอาบน้ำแล้วพักผ่อนสักพักก็ได้ค่ะ” นิมาเสนอความคิดเห็น

“อาบที่นี่ก็ได้ พักที่นี่ด้วยก็ได้ หรือเปล่าคะ” ทองทิพย์พูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ

“คิดอะไรอยู่คะ” นิมาอมยิ้ม

“ไปอาบน้ำกัน สัญญาจะถูตัวให้สะอาดทุกซอกทุกมุมเลยนะคะ” ทองทิพย์กระซิบบอกนิมาแล้วจูบเล็กๆ ไปที่ริมฝีปากบางๆ ของนิมาที่ตอนนี้รอยลิปสติกสีเข้มจากริมฝีปากของเธอไปติดอยู่แทน

“มีน้ำใจมากมายเหลือเกินนะคะ แต่นิ่มว่าตึกใครตึกมันน่าจะดีกว่านะคะ” นิมาพูด

“นะคะ นะ แค่อาบน้ำจริงๆ เสร็จแล้วนิ่มก็ต้องให้ทิพย์กอดจนกว่าจะไปงานเลี้ยง แค่นี้เองง่ายจะตายไปค่ะ” ทองทิพย์ยิ้มทะเล้น

“ถ้าอาบน้ำด้วยกัน นิ่มรับปากไม่ได้ว่าจะทำแค่ช่วยถูตัวนะคะ” นิมาอมยิ้มแก้มของเธอเริ่มแดงระเรื่อขึ้น

“ยอมทุกอย่างเลยค่ะ นะ นะ อาบน้ำด้วยกันนะ” ทองทิพย์พูดอ้อนวอนกับคนที่ยืนอมยิ้มอยู่ตรงหน้า

“ก็ได้ค่ะ ไม่ต้องมาทำหน้าตาน่าสงสารขนาดนั้นก็ได้นะคะ” นิมายิ้มให้ทองทิพย์ซึ่งยิ้มแป้นขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน

สามสาวเพื่อนรักของนิมาได้มารวมตัวกันที่ร้าน เพื่อช่วยดูความเรียบร้อยอีกครั้ง ทุกอย่างถูกจัดเตรียมพร้อมตามที่ได้มีการพูดคุยในครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ รักษาตรวจดูทุกๆ อย่างด้วยตัวเองไม่อยากให้ขาดตกบกพร่อง เพราะนารินก็เหมือนพี่สาวคนหนึ่งของเธอด้วยเช่นกัน แป้งร่ำกับพุทธชาดก็ช่วยตรวจเช็คทุกอย่าง ช่วยรักษาอีกแรงจนเสร็จเรียบร้อย จึงมานั่งพักผ่อนพร้อมเครื่องดื่มเย็นๆ ที่รักษาจัดเตรียมไว้ให้

“ขอบคุณนะคะ คุณรัก น่ารักสมชื่อจริงๆ” แป้งร่ำบอกขอบคุณรักษาที่แสนดีกับเธอและเพื่อนๆ ของพุทธชาดทุกคน

“ยินดีค่ะ คุณแป้ง รักคุณพุดก็ต้องรักเพื่อนคุณพุดด้วยสิคะ” รักษาโอบกอดพุทธชาดที่หันมายิ้มสวยๆ ให้

“แหมหวานไม่สร่างซากันเลยนะคะ สาวร้ายของเราจะหวานกับแม่นิ่มนวลเพื่อนของเราบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ” แป้งร่ำรำพึง

“ก็ลองมาทำเพื่อนพุดเสียใจดูสิ พุดจัดการแน่ๆ” พุทธชาดพูดดูจริงจังจน แป้งร่ำกับรักษามองสบตากันพร้อมด้วยรอยยิ้ม

“คุณพุดหวงเพื่อนเกินไปหรือเปล่าคะ” รักษาพูด

“ห่วงมากกว่าค่ะ คุณรัก นิ่มเวลารักใครจะทุ่มเท พุดยังจำได้ตอนที่นิ่มอกหักถึงมันจะนานมาแล้วก็ตาม แต่ก็แทบแย่เกือบจะเสียการเรียน ดีที่ได้พวกเรากับเพื่อนอีกหลายคนช่วยปลอบถึงได้ผ่านมาได้ ถ้าไม่อย่างนั้นละก็มีหวังเรียนไม่จบ”

“ใช่ค่ะ แป้งด่าแม่นิ่มนวลของพวกเราไปเยอะเหมือนกัน กว่าจะกลับมาตั้งหน้าตั้งตาเรียนเหมือนเดิม เล่นเอาพวกเราใจหายใจคว่ำ แต่ตอนนี้โตๆ กันแล้วก็ไม่น่าจะน่าเป็นห่วงเหมือนตอนนั้นไหมคุณพุด” แป้งร่ำถามพุทธชาด

“ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่ถึงอย่างไรพวกเราก็จะเคียงข้างนิ่ม ไม่ว่าจะสุขหรือจะทุกข์ มีความสุขเราก็จะดีใจไปกับเพื่อนด้วย แต่ถ้าทุกข์เราก็จะอยู่ข้างๆ เพื่อนจน กว่าจะกลับมามีความสุขเหมือนเดิม” พุทธชาดพูดออกมาจากความรู้สึกและความห่วงใยที่มีต่อเพื่อนรักของเธอ

“คุณนิ่มได้ยินคงดีใจนะคะ” รักษายิ้ม

“นิ่มรู้อยู่แล้วค่ะ ว่าพวกเรารัก” แป้งร่ำบอกกับรักษา

“แล้วตอนที่อกหักครั้งก่อน จากผู้ชายหรือผู้หญิงคะ” รักษาถาม

“คุณรักไม่น่าถาม ผู้หญิงสิคะ ดาวมหาวิทยาลัยสวยหยาดเยิ้มเลยทีเดียว แต่พอทิ้งเพื่อนเรา คุณพุดของคุณรักไปตามด่าถึงที่คณะของ
สาวเจ้าเลยค่ะ” แป้งร่ำนึกขำกับเรื่องราวในอดีตที่เคยเกิดขึ้น

“จริงหรือคะ คุณพุด” รักษาถามด้วยความแปลกใจ

“จริงค่ะ ถ้าคุณรักเห็นนิ่มตอนนั้นนะคะ เชื่อได้เลยค่ะ ว่าคุณรักจะต้องไปช่วยลุยด้วยความรักเพื่อนเหมือนพุดแน่ๆ แป้งก็ทำเป็นเล่าดีไป ตัวเองก็เป็นหนึ่งในคนที่บุกคณะของสาวคนนั้นด้วยกัน” พุทธชาดยิ้มๆ กับเรื่องราวในสมัยเรียนของเธอ

“คุณนิ่มน่ารักจะตายไป ไม่น่าจะต้องเสียใจเพราะเรื่องแบบนี้เลยนะคะ” รักษาพูดขึ้น

“อาจจะดีเกินไปค่ะ คุณรัก” แป้งร่ำพูดโพล่งออกมา

“ก็ต้องภาวนาขออย่าให้เสียใจอีกครั้งก็แล้วกันค่ะ พุดนึกไม่ออกว่านิ่มจะเป็นอย่างไร ถ้าต้องเสียใจเรื่องความรักอีกครั้ง แต่คิดไปคิดมาบางทีเราก็อาจจะห่วงนิ่มมากเกินไป สาวร้ายของนิ่มอาจจะรักและดูแลเพื่อนเราได้ดีกว่าที่เราคิดก็ได้นะคะ” พุทธชาดอยากให้เรื่องเป็นอย่างที่เธอพูดไปเมื่อสักครู่

นิมายิ้มอายๆ กับดวงตาคู่สวยที่กำลังจ้องมองเธอ น้ำอุ่นจากฝักบัวที่ไหล่กระทบบนเรือนร่างเปลือยเปล่าของเธอและทองทิพย์ได้ฝากหยอดน้ำให้เกาะกุมอยู่ที่ตัว น้ำเย็นๆ ช่วยให้เธอรู้สึกสบายขึ้น แต่สายตาวาววับของทองทิพย์กำลังทำให้ภาย
ในร่างกายของเธอรู้สึกร้อนระอุ

“จะจ้องอีกนานไหมคะ นิ่มก็อายเป็นนะ” นิมาพูดขึ้น

“เวลายิ้มอายๆ น่ารักจะตายไปค่ะ” ทองทิพย์พูดยิ้มๆ ขยับเข้าใกล้และเริ่มสัมผัสไปที่ไหล่ไล่เรื่อยไปที่บริเวณเนินอกด้วยสัมผัสอันแผ่วเบา แต่คนที่กำลังถูกแตะเนื้อต้องตัวอยู่กลับรู้สึกกว่าน้ำเย็นๆ ที่ไหลรดผ่านตัวเธอไม่ได้ช่วยให้เธอรู้สึกเย็นขึ้นเลย มือของทองทิพย์ค่อยๆ ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่าง สบู่เหลวกำลังช่วยให้ทุกสัมผัสจากมือทองทิพย์ไหลลื่นขึ้น นิมารู้สึกว่าภายในร่างกายของเธอในตอนนี้เหมือนมีกองไฟสุมอยู่ภายใน นิมาขยับตัวเข้าใกล้ทองทิพย์ที่ยังคงใช้มือลูบไล้อยู่บนเรือนร่างของเธอ ฟองสบู่เริ่มกระจายตัวมากขึ้น นิมาเริ่มเบียดตัวให้แนบชิดกับคนที่กำลังโอบกอดตัวเธอและกำลังใช้เรือนร่างเปลือยเปล่านั้นค่อยๆ สัมผัสไปบนเรือนร่างเธอแทนมือทั้งสองซึ่งกำลังกอดกระชับเธอไว้ ริมฝีปากของนิมาเริ่มทาบทับไปที่ริมฝีปากได้รูปของทองทิพย์ซึ่งตอบรับความรู้สึกดีดีที่ได้รับในทันที สองร่างกายเบียดแนบชิดกับมากขึ้นตามแรงปรารถนาที่เกิดขึ้นภายใน ทองทิพย์ใช้เรือนร่างเปลือยเปล่าของเธอลูบไล้ไปที่เรือนร่างของนิมาแทน หน้าอกของเธอทั้งสองเหมือนกำลังแลกสัมผัสอันนุ่มนวลและอ่อนโยนให้กันและกัน จูบที่แผ่วเบากำลังลังเริ่มร้อนแรงขึ้น น้ำเย็นๆ กำลังกลายเป็นน้ำอุ่นที่ค่อนข้างร้อน โดยที่ไม่ได้ถูกปรับอุณหภูมิจากเครื่องทำน้ำอุ่นแต่อย่างใด แต่ความร้อนของเรือนร่างเปลือยเปล่าของทั้งสองสาวกำลังทำให้อุณหภูมิในร่างกายของเธอทั้งสองเพิ่มมากขึ้น ทองทิพย์ใช้หน้าอกของเธอรึงเร้าไปกับหน้าอกอันนุ่มนวลและได้รูปของนิมา ความรู้สึกของทั้งสองสาวเหมือนกำลังหลุดลอยออกจากการควบคุม ร่างกายกำลังปฏิบัติตามความปรารถนาของหัวใจ นิมารู้สึกเกร็งเมื่อร่างกายกำลังถูกสัมผัสอันอ่อนโยนของทองทิพย์รุกล้ำเข้าไปภายในเรือนร่างของเธอ นิมาก็กำลังมอบสัมผัสอันอ่อนโยน สลับกับร้อนแรงเข้าไปลุกล้ำภายในร่างกายของทองทิพย์ที่ยังคงสัมผัสด้วยการจุมพิตอันร้อนแรง และเพิ่มความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถูกล่วงล้ำเข้าไปสู่ภายในมากขึ้น จุมพิตจากทองทิพย์เริ่มอ่อนโยนและอ้อยอิ่งหลังจากสองร่าง กายเปลือยเปล่าผ่านช่วงเวลาแห่งความสุข นิมากับทองทิพย์ยังคงอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันจากที่แนบแน่นจนแทบจะหายใจไม่ออกก็ค่อยๆ ผ่อนแรงลงเรื่อยๆ แต่จุมพิตอันอ้อยอิ่งก็ยังอบอุ่นเหมือนเป็นการบอกเล่าความรู้สึกและความสุขที่เกิดขึ้นภายในหัวใจของกันและกันให้ได้รับรู้

“เวลาร้อนแรงก็ร้ายไม่เบาเหมือนกันนะ” ทองทิพย์กระซิบบอกนิมาก่อนที่จะจูบเบาๆ ไปที่แก้ม

“ก็บอกแล้วว่าถ้าอาบด้วยกัน มันจะไม่ได้ทำแค่ถูตัว คนอะไรไม่รู้ถึงจะร้ายแต่ก็น่ารักเป็นบ้า” นิมาหัวเราะเล็กๆ เมื่อพูดจบ แต่จูบอันอ้อยอิ่งของทองทิพย์ก็ยังคงคลอเคลียอยู่ไม่ห่าง

“หนาวแล้วใช่ไหม” ทองทิพย์เห็นริมฝีปากซีดเซียวของนิมา

“ค่ะ รู้สึกเย็นๆ จนชักเริ่มหนาวแล้ว”

“เช็ดตัวให้แห้ง แล้วไปนอนให้ทิพย์กอดอยู่ใต้ผ้าห่มรับรองได้ว่าอุ่นใจและมีความสุขแน่นอนค่ะ” ทองทิพย์ยิ้มทะเล้น

“หลับไปล่ะก็ ไปรับคู่แต่งงานไปงานไม่ทันแน่ๆ” นิมาพูดขึ้น

“หรือจะทำอย่างอื่นต่อล่ะ จะได้ไม่หลับ” ทองทิพย์หัวเราะคิกคัก

“ทะลึ่งแล้วนะคะ แค่นี้ก็หัวใจก็แทบจะหยุดเต้นแล้ว รู้ไหม”

“รับรองไม่ปล่อยให้หยุดหายใจแน่ๆ ผายปอดอยู่ตลอดจะหยุดหายใจไปได้อย่างไรกันจริงไหมคะ คุณแม่ค้าขนมหวาน” ทองทิพย์อมยิ้มเมื่อเห็นนิมาทำหน้างอ

“ไม่รักแล้ว ชอบแกล้งนิ่ม” นิมาพูดกระเง้ากระงอด

“เดี๋ยวก่อนค่ะ ที่ว่าไม่รักน่ะ ไม่อยากรู้ แต่ที่อยากรู้น่ะ รักตอนไหน” ทองทิพย์จ้องมองดวงตาคู่สวยของนิมา ซึ่งรีบฉวยผ้าเช็ดตัวเดินหนีออกไปโดยไม่ยอมพูดอะไร ทองทิพย์มองตามนิมาพร้อมรอยยิ้ม




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.