web stats

ข่าว

 


Cheating On You - บทที่ 3 Couple

โพสต์โดย: anhann วันที่: 05 พฤศจิกายน 2019 เวลา 09:11:32 อ่าน: 585



บทที่ 3 Couple






"เธอให้คนอื่นกิน  ฟิลลีชีสสเต็กของฉัน!"  เลตันโวยวายขณะเดินเข้ามาในห้องเรียนโยคะของเม็กที่ตอนนี้ยังไม่มีนักเรียนเข้ามา  เม็กจ้ำตามหลังคนขี้โมโหเข้ามา  ไม่น่าปากสว่างไปพูดเลย  ให้ตายสิ!

เธอก็แค่อยากให้เลตันอิจฉา...

"เธอทำแบบนี้ได้ยังไง  เม็ก" 

เม็กสะดุ้งเฮือกเมื่อเลตันที่เดินนำอยู่หันขวับมากะทันหัน  เธอเบรกเกือบไม่ทัน  แต่เลตันจับบ่าทั้งสองข้างของเธอไว้  ช่วยหยุดไม่ให้เราชนกัน

เหมือนเวลาหยุดหมุนไปทันทีขณะเลตันจ้องตาเธอ  เม็กตัวลอย  สองมือของเลตันเลื่อนขึ้นจากบ่าเธอมาประคองสองแก้มแทน  เธอสงสัยว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ตอนทำแบบนี้  ปลายนิ้วหัวแม่มือเลตันลูบเบาๆ ตรงผิวแก้มเธอทั้งสองข้างระหว่างที่มือทั้งสองแนบบนสันกราม  เม็กรู้สึกว่าเลตันต้องการสื่อสารบางอย่างมากับมัน  แต่เจ้าตัวเหมือนคิดไม่ตกว่าควรจะทำอะไรดีหรือไม่

"ทำไมเธอถึงไร้เดียงสาแบบนี้นะ  เม็ก"  เลตันกระซิบเบาๆ  ยิ้มขำๆ เมื่อเม็กยังคงทำหน้าตาไม่รู้เรื่องได้อย่างน่าตีมาก  เลตันถอนใจ  ไม่รู้จะทำยังไงให้เม็กเข้าใจเธอบ้าง 

"ไว้ฉันทำให้กินใหม่ก็ได้  ไม่เห็นจะต้องโกรธเลย"  เม็กพูดตาใส

เลตันยู่คิ้ว  ไม่รู้จริงๆ ว่าจะทำยังไงกับผู้หญิงคนนี้  เม็กดูเหมือนจะหัวอ่อน  ว่าง่าย  แต่จริงๆ แล้วดื้อไม่ใช่เล่น  เวลาตั้งใจจะทำอะไรแล้วก็ต้องทำให้ได้  ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ  แถมยังต่อรองเก่งอีกต่างหาก 

ดูซิ  ตอนนี้ใครที่ไร้เดียงสามากกว่ากัน

"เธอไม่บอกฉันเองนี่"

"โอเค  ฉันผิด"

"ประชดกันเหรอ"  เม็กย้อน  เอื้อมมือบีบจมูกคนตัวสูงที่หัวเราะคิก  พลางสะบัดหน้าหนีเธอ  เม็กหัวเราะตาม  จากนั้นก็ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น  เธอวิ่งไล่กวดเลตันไปทั่วห้องเรียนอย่างกับเด็กสองสามขวบ

เธอกำลังจะเตะก้นเลตันได้แล้ว  ตอนแองจีเคาะประตูห้องที่เปิดไว้อยู่แล้ว  ผู้จัดการคนสวยมองพวกเธอขำๆ  ด้านหลังมีเด็กๆ ในคลาสของเม็กยืนรออยู่ด้วยท่าทางเกรงอกเกรงใจและหน้าแดงด้วยความพยายามจะไม่หัวเราะออกมา

เม็กกำลังอยู่ในท่ายกขาจะเตะก้นเลตันพอดี  แต่เธอแก้เก้อด้วยการเปลี่ยนมันให้เป็นท่าโยคะแทน  เลตันก็ทำด้วยเหมือนกัน  ด้วยความที่เคยเป็นคู่ซ้อมให้เธออยู่บ่อยๆ  จึงไม่ยากเท่าไหร่

เลตันก้มตัวลง  สองมือยันพื้นตรงหน้าไว้  ย่อเข่าลงทั้งสองข้างให้เม็กใช้ตัวเป็นหลักและกระโดดข้ามตัวไปก่อนเหมือนนักยิมนาสติก  เมื่อไปอยู่ด้านหน้าเลตันแล้ว  เม็กก็โน้มตัวลง  ยันสองมือไว้กับพื้น  ยกตัวขึ้นด้วยการทิ้งน้ำหนักไปที่มือทั้งสองจนสามารถแตะปลายเท้าทั้งสองข้างไว้กับสะโพกด้านหลังของเลตันที่อยู่ในท่าโก้งโค้งยืดขาขึ้นตั้งตรงโดยที่มือยังยันพื้นด้านหน้าอยู่จนกระทั่งตัวเลตันเป็นรูปตัววีคว่ำ  ส่วนเม็กเป็นตัวแอล

เราค้างอยู่ท่านั้นประมาณสิบวินาที  เม็กก็ตีลังกากลับหลังขึ้นมายืนตรง  เลตันก็เช่นกัน  แล้วแองจีกับเด็กๆ ในคลาสก็พากันปรบมือดังลั่น

"นั่นเรียกว่าท่าอะไรคะ  ครูเม็ก"  แองจีถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว  แค่อยากให้เม็กแนะนำมันให้นักเรียนด้วย  เป็นการโฆษณาความเก่งกาจของครูฝึกประจำสปอร์ตคลับไปในตัว

"ดับเบิ้ลดาวน์ด็อกค่ะ"  เม็กตอบ  หอบเบาๆ  หันไปมองเลตันที่ยืนโบกมือให้เด็กๆ อยู่ข้างๆ  เลตันเป็นพวกขี้เล่นกับนักเรียนเสมอ 

"ไม่รู้ว่าครูเลตันเล่นเป็นด้วย"  นักเรียนผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นทึ่งๆ

"ครูน่าจะมาสอนกับครูเม็กด้วยนะคะ"  นักเรียนสาวอีกคนว่า 

เลตันมองหน้าเม็กอย่างขอความช่วยเหลือ  หากอีกฝ่ายกลับสนใจแองจีมากกว่า  คงเพราะแองจีเป็นเจ้านาย

"เรามีแพลนจะเปิดคลาส 'แอ็คโคร โยคะ (Acro Yoga)' หรือโยคะคู่อยู่ค่ะ  เร็วๆ นี้  แล้วชวนเพื่อนหรือแฟนมาสมัครกันนะคะ"  แองจีประกาศด้วยรอยยิ้มแบบนักประชาสัมพันธ์  เสียงฮือฮาจากบรรดานักเรียนของเม็กจึงดังกลบเสียงซุบซิบของครูฝึกทั้งสองไปหมด

"แองจีไม่เคยบอกฉันเลยว่าจะเปิดคลาสนั้น"  เม็กกระซิบกับเลตัน

"ฉันก็ไม่เคยบอกว่าฉันจะมาสอนเด็กคู่กับเธอ"  เลตันเห็นพ้อง  แต่เม็กกลับมองเธอตาขุ่นเสียอย่างนั้น  "อ้าว  ก็จริงๆ นี่  เราเคยแต่เล่นกันเฉยๆ  ไม่คิดว่าจะต้องมาสอนใคร"

"ไปบอกแองจีของเธอเถอะ"  เม็กสะบัดเสียง  ผลักเลตันไปห่างๆ  แล้วเดินไปเรียกนักเรียนที่ยังรุมถามเรื่องคอร์สพิเศษกับแองจีอยู่  ให้มาเข้าคลาสได้แล้ว

"ไว้คุยกันนะเม็ก"  แองจีบอกขณะเดินสวนเม็กจะออกจากห้อง 

ผู้จัดการสาวขยิบตาให้เม็กและเดินจากไปพร้อมกับเลตันที่โบกมือให้เม็ก  แต่ครูโยคะสาวแกล้งทำเป็นไม่สนใจ  หันกลับมาเตรียมตัวตั้งใจสอนนักเรียน  เธอให้พวกเขาวอร์มร่างกายกันก่อนตามสเต็ป

ตอนนั้นเองที่เด็กสาวคนหนึ่งพูดขึ้น

"พวกเรานึกว่าพวกครูเป็นแฟนกันเสียอีก  ครูกับครูเลตัน"

เม็กทำหน้าไม่ถูกเลยคราวนี้  แต่หน้าเธอคงแดงไปแล้วแน่ๆ  เพราะเห็นนักเรียนซุบซิบกันและมองเธออย่างสนใจ  กระหายใคร่รู้เลยแหละ

"เราเป็นรูมเมทกันค่ะ"  เม็กบอก  ความสนใจของพวกนักเรียนยังไม่หมดไป  เสียงซุบซิบก็ดังมากขึ้นด้วย

"เลิกสนใจเรื่องครู  และมาเริ่มต้นเรียนกันดีกว่า  อาทิตย์หน้าเราจะสอบกันแล้วนะคะ"

"ขอถามอีกนิดค่ะครู"

"ว่ามาค่ะ"

"สรุปว่าครูยังโสดจริงๆ เหรอคะ"

เม็กทำหน้าไม่ถูก  ก็เข้าใจว่าสอนเด็กวัยรุ่นก็เป็นแบบนี้แหละ  เรื่องรักๆ ใคร่ๆ เป็นเรื่องใหญ่สำหรับพวกเขาเสมอ  สำหรับเธอด้วยกระมัง 

ยกเว้น  เธอยังไม่มีแฟน...

"นี่เธอ  ไปถามอะไรครูแบบนั้นล่ะ"  นักเรียนชายคนหนึ่งเอ่ยห้าม  เม็กยิ้มขอบคุณเขา  เขาหน้าแดงแจ๋  แล้วเด็กสาวอีกคนก็พูดขึ้นบ้าง

"ถึงไม่มีแฟนก็มีความรักได้นะ  จริงไหมคะ  ครู"

เม็กพยักหน้า  ตอบ "ค่ะ" กลับไป  แล้วสั่งเด็กๆ ให้วอร์มอัพกันให้เรียบร้อย  จากนั้นก็สั่งให้ทบทวนท่าที่เธอสอนไปครั้งก่อนทันที  ไม่ให้เวลาพวกเขาได้หาเรื่องมาถามอะไรเธออีก

ชีวิตโสดของเธอ  มันไม่ได้หนักอะไรตรงไหนของใครสักหน่อยนะ

................................

ตอนบ่ายในช่วงพักหนึ่งชั่วโมงระหว่างคาบ  เม็กเดินเข้ามาในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกครั้งเพื่อเอาครีมนวดคลายกล้ามเนื้อ  ท่าดับเบิ้ลดาวน์ด็อกที่ทำกับเลตันทำให้แขนเธอปวดนิดหน่อย  เพราะใช้มันรับน้ำหนักตัวเองมากเกินไป  และไม่มีเวลาวอร์มร่างกายก่อนด้วย  โชคดีที่เธอมีพื้นฐานดีอยู่แล้ว  ไม่อย่างนั้นต้องอายนักเรียนแน่ๆ  ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นท่านั้น

เลตันบอกว่ามันเท่ดี

ระหว่างนั่งนวดแขนตัวเองอยู่บนม้านั่งที่ตั้งอยู่ระหว่างตู้ล็อกเกอร์สองตู้  ซาซ่าเดินเข้ามาในห้องพร้อมตัวเปียกๆ ห่อด้วยผ้าขนหนูสีน้ำเงินเข้ม  คงเพิ่งขึ้นจากสระมา  เม็กมองอีกฝ่ายที่มานั่งลงข้างๆ  ไม่ยอมเข้าไปอาบน้ำ

"นวดให้ไหม"  ซาซ่าพูด  หน้าซีดเพราะไม่ได้แต่งหน้า  แต่คิ้วยังมี

"ไม่เป็นไร  ขอบคุณ"  เม็กตอบ  ไม่ชอบให้คนอื่นมาแตะเนื้อตัว  นอกจากเลตัน  รายนั้นแตะทุกวันจนชินเสียแล้ว  จากที่ไม่เคยชอบนั่นแหละ

"ไปโดนอะไรมา"  ซาซ่าถาม  ยังห่อตัวด้วยผ้าขนหนู  และยังไม่มีทีท่าจะลุกไปเข้าห้องน้ำ 

"เล่นโยคะ"  เม็กตอบตรงๆ  แต่ซาซ่าคงนึกว่าเธอกวนประสาทจึงทำหน้าไม่พอใจนิดๆ  "การบาดเจ็บเล็กน้อยเกิดขึ้นอยู่เสมอ  เวลาเล่นกีฬา  ไม่มีอะไรน่าตกใจ"

"ยกเว้นเธอเป็นตะคริวและกำลังจะจมน้ำตาย"  ซาซ่าพูดเสียงเย็น  เม็กหันขวับไปมองก็เห็นรอยยิ้มเยือกเย็นน่ากลัว  แต่สักพักก็เปลี่ยนเป็นยิ้มแฉ่งเหมือนเด็กน้อยได้อมยิ้ม

"แค่นี้ก็ต้องกลัวด้วยเหรอ  ขวัญอ่อนจริงๆ เลยเม็ก" 

เม็กกำลังจะตอบโต้  แต่ชะงักเพราะปลายนิ้วเย็นๆ มาจิ้มแก้ม  เธอตัวแข็งทื่อ  ได้แต่จ้องหน้าอีกฝ่ายตาโต  ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกขยาดซาซ่าขึ้นมา

"เธออยากรู้ไหม  เรื่องนั้นน่ะ"  ซาซ่าพูดเบาๆ  เสียงฟังแล้วน่าขนลุก

"ร...เรื่องไหน"  เม็กติดอ่าง  อยากบอกให้ซาซ่าเอานิ้วออกไปจากแก้มเธอสักที  แม้ว่าตอนนี้อุณภูมิมันจะเปลี่ยนมาเท่ากับผิวเธอแล้ว

ซาซ่ามุ่นคิ้ว  ทำท่าครุ่นคิด  ยื่นหน้ามาใกล้เม็กมากขึ้น  ซึ่งครูสอนโยคะก็รู้สึกว่าตนผงะถอยหลัง  เพราะนิ้วเย็นๆ ที่จิ้มแก้มอยู่ห่างออกไป

เม็กแน่ใจว่าซาซ่าไม่พอใจเท่าไหร่ที่เธอถอยห่าง  แต่อีกฝ่ายก็แค่ทิ้งมือข้างนั้นลง  ถอนใจหนึ่งเฮือกและลุกขึ้นยืนบิดตัวเหมือนเมื่อยเป็นบ้า

"รูมเมทเธอกับผู้จัดการของเรา"  ซาซ่ากระซิบ  ยิ้มชอบใจเมื่อเห็นแววอยากรู้ในดวงตาเม็ก  "เธอรู้ไหมว่า  สปอร์ตคลับเป็นแหล่งรวมเกย์"

แน่นอน  เรื่องนี้เม็กรู้อยู่แล้ว  เธอจึงมาทำงานที่นี่อย่างไรล่ะ  แม้ว่าแคนาดาจะเหมือนสวรรค์ของพวกเพศที่สาม  หากเธอก็อยากจะอยู่ในที่ที่ให้ความรู้สึกปลอดภัยกับตัวเอง  และมีพรรคพวกเดียวกันอยู่มากหน่อย

"ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย... รวมถึงครูฝึก  หรือเจ้าของด้วย"

เม็กเลื่อนสายตาลงจากใบหน้าสะใจของซาซ่า  กลับมาสนใจทาครีมนวดกล้ามเนื้อให้ตัวเองแทน  เธอไม่ชอบผู้หญิงคนนี้เท่าไหร่  ไม่เกี่ยวกับที่เลตันเตือน  หรืออาจจะเกี่ยวนิดๆ  แต่เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกคุกคามทุกทีเวลาซาซ่าอยู่ใกล้ๆ  โดยเฉพาะเมื่ออยู่ด้วยกันลำพังแบบนี้  บางครั้งเธอยังคิดว่า  ซาซ่านั่นแหละที่เป็นคนแกล้งเธอ 

แต่จะเพื่ออะไรกันล่ะ  สนุก  สะใจ  รู้สึกชนะ  อย่างนั้นเหรอ?

"และเธอรู้ไหมว่า  รูมเมทของเธอก็เป็น"  ซาซ่าพูดต่อ  และหยุดรอดูปฏิกิริยาเม็ก  ท่าทีนิ่งเฉยของครูสอนโยคะทำให้ความสนุกลดน้อยลงจนน่าโมโห  การยั่วคนไม่สำเร็จ  ทำให้เบื่ออาหาร

"โอ้  หรือจริงๆ แล้ว  เธอเป็นคู่ขาของเขา"

"ฉันจำเป็นต้องพูดเรื่องส่วนตัวให้คนอื่นฟังด้วยเหรอ"  เม็กย้อน  ภูมิใจในตัวเองที่สามารถทำให้ซาซ่าผงะไปได้บ้าง  นิดหนึ่งก็ยังดี  เธอไม่น่านั่งทายาอยู่ในนี้เลยจริงๆ  แค่คิดว่ามันน่าจะสงบกว่าที่ไหนๆ ในชั่วโมงนี้

หญิงสาวปิดฝาหลอดยาและลุกขึ้นไปเช็กว่าล็อกเกอร์ล็อกดีหรือยัง

"เธอก็ด้วยเหรอ"  เสียงซาซ่าเหมือนกำลังตัดพ้อ 

เม็กหันมามองผู้หญิงตัวสูงอย่างกังขา  ใจหนึ่งอยากจะรีบไป  แต่อีกใจก็อยากรู้ว่าซาซ่าต้องการอะไรกันแน่  เธอชอบเล่นเกม  หากไม่ใช่เกมแบบนี้  ไม่ใช่เกมที่เกี่ยวกับจิตใจคน

"แน่ละ  ใครๆ ก็ชอบเจ้านั่น  เพราะมันหน้าตาดี  แถมมีเงินเป็นฟ่อน  เธอคงรู้ใช่ไหมว่า  ที่นี่เป็นของมันครึ่งหนึ่ง  พ่อที่ตายไปแล้วของมันทิ้งมรดกไว้ให้  เงิน  หุ้น  บ้านก็ด้วย  มันแทบไม่ต้องหาอะไรเองเลย  เกิดมาก็รวย  ในขณะที่คนอื่นๆ หาเงินกันสายตัวแทบขาด"

"ฉันไม่เห็นว่านั่นเป็นความผิดของเขาเลยนะ"  เม็กพูดตรงๆ  "หรือเธอคิดว่า  เขาควรเอาเงินทั้งหมดที่พ่อทิ้งไว้ให้ไปบริจาคให้การกุศลล่ะ  ถ้าเป็นเธอจะทำไหม  อันนี้ฉันถามจริงๆ นะ  ไม่ได้กวน  อีกอย่าง  เลตันก็ไม่ได้นั่งรับเงินเฉยๆ โดยไม่กระดิกตัวทำงาน  เขาทำงานมากกว่าฉัน  หรือบางคนที่นี่ด้วยซ้ำ"

"อ้อ  นี่มันมาฟ้องเธอสินะ"  ซาซ่ายังไม่เลิกแดกดันคนที่ไม่อยู่ตรงนี้  ซึ่งเม็กไม่ชอบเลย  เพราะเลตันไม่มีโอกาสได้อธิบายตัวเอง  หรือแก้ต่าง 

"งั้นเธอก็รู้ไว้อีกอย่างว่า  มันกับแองจีน่ะ --"

"เลตันกับฉันทำไมเหรอ"  เสียงบุคคลที่สามดังเข้ามาในห้อง  เม็กอุ่นใจแปลกๆ เมื่อเห็นเส้นผมสีบลอนด์ทองกับดวงตาสีฟ้า  แม้มันจะเย็นชาจนปลุกเส้นขนตามตัวให้ลุกเกรียว

"เม็ก  ว่างหรือยัง  เรามีประชุมกันนะ"  แองจีหันมาพูดกับเม็กแทน 

"ประชุม..."

"เรื่องแอ็คโคร  โยคะไง  ฉันเอาจริงนะ  ไม่ได้พูดเล่น"

เม็กยิ้มแหย  นึกถึงการเล่นโยคะคู่แล้วก็สยองขึ้นมา  ถ้าคู่เล่นเธอเป็นเลตันก็ดี  แต่ถ้าเป็นคนอื่นก็คงยากขึ้น  โยคะคู่มันต้องไว้ใจกันและกัน

"มาเถอะ  เดี๋ยวจะมีสอนอีกไม่ใช่เหรอ  เลตันรออยู่ในห้องแล้วละ"  แองจีพูด  เดินมาโอบไหล่เม็กพาออกไปจากห้อง  เพราะคนตัวเล็กมัวแต่ช้าไม่ทันใจ  ผู้จัดการสาวหันกลับมามองคนที่ยังยืนนิ่งห่อตัวกับผ้าขนหนูอยู่

"ซาซ่า  ถ้าเธอป่วย  ฉันไม่ให้ลาแล้วนะ  ไปอาบน้ำ  และแต่งตัวสวยๆ ด้วย  เพจบอกว่าจะมีคนมาติดต่อเช่าสถานที่  เธอต้องไปดู"

"แล้วคุณล่ะ  คุณเป็นผู้จัดการนะ  แองจี"

"แล้วเธอเป็นอะไร"

ซาซ่าหน้างอ  ตอบเสียงอ่อยว่า  "รองผู้จัดการ"

"ทำตามที่บอก  ถ้ายังอยากทำงานนี้อยู่"  แองจีพูด  แล้วพาเม็กเดินต่อไป  ไม่รอฟังเสียงบ่นงึมงำของซาซ่า  หากเม็กยังหันมามองสาวตัวสูงอย่างคาดหวังว่าซาซ่าจะพูดเรื่องที่ทิ้งค้างเอาไว้

แต่ซาซ่ากลับยกมือขึ้นมาทำสัญญาณหมดเวลาพร้อมกับรอยยิ้มไม่เป็นมิตร  แล้วเดินไปห้องอาบน้ำ

......................................

เม็กนั่งดูทีวีในห้องนั่งเล่น  พยายามไม่สนใจซาซ่ากับคำพูดไร้สาระพวกนั้น  กระนั้นมันก็เหมือนเมฆหมอกมารบกวนจิตใจเธอให้หงุดหงิด  และแปลว่าการป่วนประสาทของซาซ่าได้ผล  เธอไม่เข้าใจว่าซาซ่าทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร  แค่ต้องการให้ชีวิตเธอไม่สงบอย่างนั้นหรือ

เธอนั่งขัดสมาธิกอดหมอนอิงบนตัก  กัดข้อนิ้วตัวเองอย่างลืมตัว  เลตันซักผ้าอยู่ในห้องซักล้าง  แน่นอนว่าไม่รู้เรื่องว่าเธออารมณ์ขุ่นมัวด้วยเหตุใด  ได้แต่บ่นว่าเธอหน้างอ  ประจำเดือนจะมาหรือเปล่า

คนอย่างเลตันจะรู้อะไรบ้างล่ะ

การประชุมเรื่องแอ็คโคร  โยคะ  สรุปออกมาว่า  เราจะเปิดสอนเป็นพิเศษและลดราคาให้กับคู่รักหรือคู่เพื่อนที่มาสมัครเรียนคอร์สแรกกับเรา  โดยมีเธอกับเลตันเป็นผู้สอน  และมีเจเน็ต  ครูโยคะเก่าแก่ของสปอร์ตคลับเป็นคนคอยดูแลแนะนำอีกคน  เม็กโล่งใจที่ครูเจเน็ตมาสอนด้วย  เธอเองก็เรียนมากับครูคนนี้  และยังสำนึกบุญคุณอยู่ทุกวันนี้

เม็กสงสัยว่าเลตันมีอะไรปิดบังเธออยู่หรือเปล่า  แต่ถ้ามันเป็นเรื่องส่วนตัว  จะเรียกว่าปิดบังได้หรือ  ไม่จำเป็นนี่ว่าเพื่อนจะต้องรู้เรื่องทุกอย่างของเพื่อน  เราไม่ใช่ญาติกัน  ไม่ใช่พี่น้อง  ขนาดญาติพี่น้องหรือพ่อแม่ยังไม่ได้รู้ทุกเรื่องของเราเลย  ต่อให้เป็นแฟนกันก็เถอะ  ก็ต้องมีพื้นที่ส่วนตัว...

ฟุ้งซ่านไปก็เท่านั้น  หญิงสาวคิด  สะบัดหัวไปซ้ายทีขวาทีราวกับจะขับไล่ความคิดเหล่านั้นออกไป  แต่มันยังไม่ดีพอ  เม็กจึงดันหมอนอิงออกจากตัก  ลุกขึ้นสะบัดแขนสะบัดขา  วอร์มร่างกายแบบที่เคยสอนเด็กๆ  แล้วก็เริ่มต้นตั้งแต่ท่าภูเขา (Mountain Pose)  ท่าสุนัขยืด (Downward Dog) ท่านักรบ (Warrior) และท่าต้นไม้ (Tree Pose)  เธอค้างอยู่ท่านี้นานจนกระทั่ง เลตันโผล่หน้าเข้ามาในห้องนั่งเล่น 

ได้ยินเสียงเปลี่ยนช่องทีวี  เม็กจึงเปิดตาข้างหนึ่งที่ปิดไว้ระหว่างทำท่าต้นไม้ขึ้นมองคนที่วางกล่องอะไรสักอย่างลงบนโต๊ะกาแฟ  เลตันนั่งลงบนพื้นข้างโต๊ะ  เคลียร์โต๊ะจนหมดและแกะกล่อง  เม็กมองรูมเมทอยู่เงียบๆ ระหว่างสลับขาอีกข้างในท่าต้นไม้นั่นแหละ

"ทำนั่นเสร็จแล้วก็มาออกกำลังกายสมองกัน"  เลตันพูดอย่างรื่นเริง  รื้อของออกจากกล่องด้วยสีหน้าเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่  ก็ของเล่นใหม่จริงๆ นั่นแหละ  เพราะเม็กไม่เคยเห็นมันมาก่อน

"ซื้อมาตั้งแต่เมื่อไหร่"  เม็กถามทั้งที่ไม่ได้อยากรู้นัก  เลตันซื้อของพวกนี้เสมอ  ถ้าเอามันมากองรวมกันแล้วบวกราคาก็คงซื้อเรือยอร์ตลำงามๆ ได้สักลำหรือมากกว่านั้น

"วันนี้  ตอนออกไปข้างนอกกับแองจี"  เลตันตอบ  ยิ้มใสเหมือนเด็ก

เม็กรู้สึกว่าคิ้วเธอขมวด  สะกิดใจกับวิธีการเรียกชื่อแองจีของเลตัน  มันดูสนิทสนม  เวลาออกเสียงชื่อก็นุ่มนวลเหมือนอะไรสักอย่าง...

รูมเมทเธอเป็นเกย์  ไม่เคยรู้อะไรเลยหรือไง  เสียงซาซ่าก้องขึ้นมาในหัว  เม็กรู้สึกมึนหัวกะทันทัน  เธอเซ  เสียการทรงตัวในท่ายืนขาเดียวและเกือบจะล้ม  แต่มีคนที่ว่องไวมาก  เข้ามารับตัวไว้ก่อนจะถึงพื้นและเจ็บตัว

"เป็นอะไรน่ะ  มานั่งก่อน  ดื่มน้ำหน่อยดีกว่า"  เลตันพูดอย่างวิตก  พยุงเม็กมานั่งลงกับพื้น  ให้เอนหลังพิงโซฟา  แล้วลุกขึ้นเข้าครัวไปเอาน้ำแร่ในตู้เย็นออกมาให้พร้อมแก้วเปล่าหนึ่งใบ  รินน้ำแร่ใส่แก้วและจับมือเม็กมารับมันไป  ช่วยประคองแก้วไว้ระหว่างที่อีกฝ่ายดื่มน้ำ 

"นั่งพักก่อนละกัน  เหงื่อแตกเยอะเชียว  บอกแล้วว่าอย่าหักโหม"

"เธอเป็นอะไรกับแองจี"  เม็กถาม  ในที่สุดมันก็หลุดปากไปจนได้  ที่จริงเธออยากรู้มานานแล้ว  คำพูดของซาซ่าก็แค่ตัวเร่งปฏิกิริยาให้เร็วขึ้น

เลตันลงมือต่อเลโก้  ท่าทางไม่ตื่นเต้นกับคำถาม  กลายเป็นเม็กที่กลัวคำตอบเสียเอง  ไม่รู้ทำไมจะต้องกลัวด้วย  ในเมื่อเธอไม่ได้คิดอะไรกับเลตัน  หรือเพราะ...แองจี

"เธอมีคำตอบอยู่ในหัวแล้วไม่ใช่เหรอ"

"ไม่มี"  เม็กโกหก  เธอคิดไปไกลมากแล้ว  และเธออยากให้เลตันเป็นคนช่วยหยุดมันให้ที  ก่อนที่เธอจะเป็นบ้า 

ทำไมถึงเป็นอย่างนี้อีกแล้วนะ

"หุ้นส่วน"  เลตันตอบ  ประกอบเลโก้ส่วนปราสาทเจ้าหญิงเกือบจะเสร็จแล้ว  เม็กมองทึ่งในความไว  แต่ยังไม่มีอารมณ์อยากจะชม

"รู้จักกันตั้งแต่เด็ก  พ่อแม่รู้จักกัน  เล่นด้วยกัน  อาบน้ำด้วยกัน  นอนด้วยกัน  แองจีเป็นเจ้าหญิงคนแรกของฉัน"  เสียงเล่าสบายๆ คล้ายเป็นเรื่องปกติและพูดมันมาบ่อยแล้ว  "มีอะไรสงสัยอีกไหม"

เม็กพูดไม่ออก  เธอรู้สึกงี่เง่าและไร้สาระ  ไม่น่าไปฟังซาซ่ามากเลย  ถึงเลตันจะดูไม่ได้ถือสาอะไร  แต่ก็คงจะหงุดหงิดบ้างแหละ

"อยากดูเน็ตฟลิกซ์ก็เปิดเอานะ  ฉันไม่กวนหรอก" 

"ไม่ละ  อยากต่อเลโก้"  เม็กตอบ  ขยับเข้ามาใกล้เลตันที่หันมายิ้มและส่งชิ้นเลโก้ให้หนึ่งชิ้น  พลางบุ้ยใบ้ไปทางแบบแปลนที่เธอคงจะต้องดูมันเอาเอง  เป็นการออกกำลังกายสมองแบบที่เลตันว่า

"พ่อฉันชอบซื้อให้ต่อ  เขาบอกว่ามันช่วยฝึกสมอง  ชิ้นแรกที่ฉันต่อเป็นรูปหมา  แต่มันหายไปแล้วตอนย้ายบ้านมาอยู่ที่นี่"  เลตันเล่า  สีหน้าปกติดี  เม็กเหลือบมองแล้วโล่งใจ  แปลว่ามันคงไม่ใช่เรื่องสะเทือนใจอะไรมากมาย  หรือเลตันอาจชินแล้ว

"ตอนที่พ่อแม่ฉันยังอยู่  เราไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้หรอก  แต่บ้านเดี่ยวมันใหญ่ไปสำหรับฉัน  ฉันเลยทิ้งมันไว้และย้ายมาอยู่ที่นี่  พ่อซื้อเอาไว้นานแล้วน่ะ  เป็นของขวัญให้ฉันตอนอายุครบสิบแปด  ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ห้าปีแล้ว"

"ไม่ต้องเล่าก็ได้นะ  ถ้าไม่อยากนึกถึง"  เม็กบอก  เลตันหันมายิ้มขอบคุณเธอ  "เธอยังไม่ลืมท่าโยคะที่เราเคยเล่นกัน"

เลตันหัวเราะเขินๆ  "แอบดูเธอเล่นบ่อยๆ ไง"

"ไม่จริงอะ  ฉันไม่เคยเล่นโยคะคู่ให้ใครดู  หรือสอนพวกเด็กๆ เลย"

"งั้นเหรอ"

เม็กหรี่ตามองรูมเมทและคู่หูอย่างไม่ไว้ใจ  แต่ไม่ใช่ในแง่ไม่ดี  เธอยิ้มกว้างเมื่อนึกอะไรขึ้นได้  แล้วเอาศอกกระแซะคนข้างๆ ไปอย่างหยอกเอิน  เลตันหันมาขมวดคิ้วให้  แกล้งทำเป็นรำคาญ

"แอบดูวิดีโอที่เราฝึกกันไว้ล่ะสิ  ใช่ไหมล่ะ  แอบดูคนเดียวด้วย"

"พูดอะไรของเธอ  ฉันมีเวลาที่ไหน"

"ไม่มีเหรอ  งั้นเหรอ  แย่จังนะ"  เม็กทำหน้าเศร้า  เลตันถอนใจ

"ก็ได้ๆ  ฉันดู  ฉันชอบดู  มีอะไรเหรอ" 

เม็กกลั้นยิ้มจนปวดแก้ม  เลตันย่นจมูกให้แล้วหันไปต่อเลโก้เงียบๆ  ไม่เล่นกับเธออีก  เม็กเลยแกล้งเอนตัวไปพิง  หยิบเลโก้มาช่วยต่อ  จากนั้นก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมากดลงบนหัว  ช้อนตาขึ้นมองก็เห็นเลตันกำลังยิ้มเขินๆ  หน้าแดงแจ๋

ไม่รู้ทำไมถึงดูน่ารัก  เพราะเลตันดูเหมือนเด็กหรือเปล่า 

เรื่องนั้นเธอไม่แน่ใจหรอก  ที่รู้คือเลตันเอาจมูกโด่งๆ มาหอมหัวเธออีกแล้ว  ชอบทำแบบนี้ซะเรื่อย  แล้วจะให้เธอคิดยังไงดี

"แองจีน่ะ  มีคู่หมั้นแล้วแหละ"  อยู่ดีๆ เลตันก็พูดขึ้นมา  เม็กเลิกคิ้ว  ถามย้ำเหมือนไม่ได้ยิน 

"ผู้หญิง  เหยียบไว้ล่ะ  ถ้าเรื่องแดงออกไป  แองจีฆ่าฉันแน่"  เลตันพูดต่อด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลนแบบคนทำความผิด  เห็นเม็กยังอึ้งอยู่ก็ยิ้มล้อๆ  ถือเลโก้ด้วยมือข้างเดียว  ใช้อีกข้างกอดคอคนตัวเล็กดึงเข้ามาใกล้ตัวเอง

"คนอื่นไม่โสดแล้ว  แต่พี่คนนี้ยังโสดนะ"

เม็กกะพริบตาได้สติ  รอยยิ้มเลตันคราวนี้มันทำให้เธออาย  มือไม้เลยตีเข้าให้ที่ไหล่คนทะเล้นแล้วลุกพรวดเดินหนีมาเข้าห้องตัวเอง  ปิดประตูและพิงมัน  ได้ยินเสียงเลตันพูดอะไรไม่รู้อยู่ข้างนอก 

แต่ไม่ออกไปฟังหรอก                     



.........................................


ท่าดับเบิ้ลดาวน์ด็อกที่เม็กกับเลตันเล่นกัน


Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

05 พฤศจิกายน 2019 เวลา 13:19:53
เลตันพูดกันท่าคนอื่นหมดเลย พี่คนนี้ก็โสดบ้างไม่โสดบ้างรึเปล่า
แสดงความคิดเห็น