web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 104
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 96
Total: 96

ผู้เขียน หัวข้อ: Vampire Hunter the beginning Chapter 2 : คุณแม่มดกับของขวัญของหล่อน  (อ่าน 1928 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Admin

  • แอดมิน
  • เริ่มติด
  • *****
  • กระทู้: 251
  • I'm sociopath. I don't have feelings.

Chapter 2 :   คุณแม่มดกับของขวัญของหล่อน

อัลร์หรี่ตามองลอดช่องว่างของผ้าม่านที่เธอแหวกมันดูพระอาทิตย์  แล้วก็ต้องรีบปิดมันลงทันที  แสงแดดยังไม่เป็นมิตรกับเธอเท่าใดนัก  เธอยังคงต้องอยู่โดยไม่โดนมัน  การเป็นแวมไพร์มันมีข้อเสียแบบนี้นี่แหละ  ถึงจะเก่งจะสามารถแค่ไหน  ก็ยังแพ้แสง..

เสียงที่นอนยวบยาบดังขึ้นในความเงียบ  เธอกระพริบตา  นึกขึ้นได้ว่ามีบางคนยังนอนอยู่ตรงนั้น  อัลร์หันมายิ้ม ฟลอเรนดูไร้เดียงสาน่ารักเหลือเกินยามหลับ แต่อกขาวที่เผลอแย้มออกมาทักทายคนมองยามที่กระดุมเสื้อเชิ้ตหลุดออกอย่างไม่ตั้งใจเวลาที่หล่อนพลิกตัวก็ทำให้ต้องรีบหันหนี  มันก็ดีนะที่ได้อยู่ใกล้หล่อนแบบนี้  แต่มันก็ดูเสี่ยงมากเกินไป   หัวใจอยากสั่งให้ตัวเองหันไปถอดเสื้อตัวนั้นออกและชื่นชมสิ่งที่มันปกปิดเอาไว้ให้หนำใจ  หากแต่สมองยังยั้งให้เธอหลับตาข่มใจ  อย่าเพิ่งทำให้ไก่ตื่นอัลร์... 

อัลร์หันไปคว้าขวดแก้วใสที่ด้านในมีของเหลวสีอำพันพร้อมด้วยแก้วหนึ่งใบ  รินน้ำในนั้นใส่และดื่มมันเพียวๆรวดเดียวหมด

“ขอฉันสักแก้วได้หรือเปล่าคะ” 

แวมไพร์รู้สึกหัวใจเต้นรัวเมื่อหูได้ยินเสียงหวานกระซิบขี้เล่น  พักนี้ฟลอเรนเป็นอะไรไปนะ  รู้สึกว่าหล่อนจะออดอ้อนเธอผิดปกติ  หรือมันเป็นอารมณ์แปลกๆของผู้หญิงที่กำลังจะเป็นสาวเต็มตัวในอีกไม่นาน  เรื่องนี้เธอก็ลืมมันไปนานแล้วว่ามันรู้สึกอย่างไรเวลาที่เปลี่ยนวัยจากเด็กเป็นวัยรุ่น  ว่ากันตามตรงเธอลืมมันไปตั้งแต่วันครบรอบวันเกิดปีที่สี่สิบ  จนตอนนี้จะหกสิบปีแล้วใช่ไหม..อายุฉัน..  แก่ยิ่งกว่าแม่เธออีก...

“ไม่ได้ค่ะ  อายุยังไม่ถึงเกณฑ์”  เธอพูดหยอกบ้าง  หล่อนหัวเราะเสียงใสแล้วค่อยๆยันตัวเองขึ้นจากที่นอน  เด็กสาวยังดูอ่อนล้าอยู่  งานหนักเมื่อคืน  และนี่ก็ยังไม่สองชั่วโมงดีเลยที่หล่อนได้พัก  ถ้าเป็นคนธรรมดาท่าทางคงจะป่วยไปแล้วนะเนี่ย

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ”  ฟลอเรนพึมพำทั้งยังงัวเงีย  เธอยังเพลียอยู่ยังไม่อยากตื่น  รู้สึกรักที่นอนมากๆ  หากแต่เธอมีนัดกับครูฝึกในทุกเช้า  ไหนจะต้องไปดูว่าพวกชาวบ้านที่ช่วยเหลือมาเมื่อคืนเข้ามารายงานตัวครบเรียบร้อยแล้วหรือไม่อีกล่ะ  หน้าที่ยังเธอยังไม่จบ  “แอลไปไหนคะ  หรือยังไม่ตื่นเหมือนกัน”  ถามขึ้นขณะขยับดึงเสื้อผ้าขึ้นมาดม  จำได้ว่าเมื่อคืนลืมเปลี่ยนเสื้อนอน  ง่วงมากจนเผลอหลับไป  แถมเจ้าของเตียงก็ไม่รู้จักเปลี่ยนให้อีก   ใจร้ายจัง   ถ้าเป็นที่บ้าน  แม่นมคงจัดการให้เธอเรียบร้อย  กางเกงก็ด้วย  จะรัดไปไหนเนี่ย  อึดอัด

“รายนั้นเพิ่งนอนเมื่อกี้เอง  อย่าเพิ่งไปยุ่งเลย”  อัลร์บอก  อีกคนก็เงยหน้ามาสบตาสงสัย  เธอยิ้ม  “ก็พวกฉันเป็นพวกกลัวแสงนี่นา  ลืมเหรอคะ..ฮันเตอร์”  เด็กสาวหัวเราะเสียงใสอีกครั้ง  หัวใจเธอยิ่งสั่น  ไม่แน่ใจว่าจะเก็บอาการได้อีกนานแค่ไหน  นับวันมันยิ่งยากขึ้นทุกที  และตอนนี้เด็กผู้หญิงตรงหน้าก็ทำให้เธอต้องรีบหันหลังขวับ  หล่อนดึงเสื้อที่ใส่อยู่ออกจากตัว  แค่แว่บเดียวเท่านั้นที่เธอได้เห็นสรีระที่อยากเห็นมานาน  มือเธอก็สั่นจนแทบหยิบจับอะไรไม่ได้อีกต่อไป  แม้แต่เหล้าที่มักใช้เพื่อดับอารมณ์ 

โอ้..ฟลอเรน  เธอจะฆ่าฉันให้ได้เลยใช่ไหม..

“มีเสื้อสำรองไหมคะ  คุณสองคนใจร้ายจังไม่หาเสื้อให้ฉันเปลี่ยนเลย  ให้นอนเน่าอยู่ทั้งคืนเลยนะ”  ฟลอเรนถามปนบ่น  เธอไม่รอให้อีกคนหาของให้  ตรงเข้าไปรื้อเสื้อผ้าของหล่อนเสียแล้ว  ลืมมองไปว่าอัลร์ยืนหันหลังให้  จนกระทั่งหาเสื้อได้หนึ่งตัวและจะหันมาขออนุญาต  “อัลร์คะ  ตัวนี้ได้หรือเปล่า..”  เด็กสาวกระพริบตาเมื่อคนที่เธอถามไม่หันมามองแต่พยักหน้าหงึกๆอยู่ริมหน้าต่าง  มือเธอที่ถือเสื้อนิ่งค้าง  ตามองหล่อนอย่างไม่เข้าใจ  เธอทำผิดอะไรหรือไง  ก็แค่อยากเปลี่ยนเสื้อ  หรือว่า...

“โอ้..”  ฮันเตอร์อุทานเบาๆเมื่อก้มลงดูตัวเอง  เธอมีแค่บราเซียสีดำกับกางเกงหนังรัดรูปแน่นเปรี้ยะ  หรือว่าเพราะเรื่องนี้  แต่ผู้หญิงเหมือนกันจะเห็นมากกว่านี้ก็ไม่น่าจะเป็นอะไรนี่นา  เธอคิดงงๆสั่นศีรษะไม่เข้าใจ  แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก  ความง่วงและความรีบทำให้เธอลืม  “ถ้าคุณไม่ว่าอะไร  ฉันขอยืมนะคะ  แล้วจะให้คนที่บ้านซักมาคืนให้”  พูดแล้วก็จับเสื้อมาใส่รีบๆ มันอาจจะตัวใหญ่ไปนิดเพราะเจ้าของมันยืนตัวใหญ่เหมือนเสาอยู่ริมหน้าต่าง  แต่มันก็ดีกว่าใส่เสื้อเหม็นๆไปนอกบ้านนั่นล่ะ 

ฟลอเรนจับชายเสื้อเชิ้ตตัวยาวรวบและมัดมันเป็นโบว์ที่เอว  ประยุกต์มันให้เข้ากับหุ่นของเธอที่บางกว่า  มาถึงตอนนี้คนที่ยืนอยู่ริมหน้าต่างก็ยังไม่ขยับ  หล่อนเป็นอะไร  อย่าบอกนะว่าหวงเสื้อ   ไม่ล่ะมั้ง..อัลร์น่ารักจะตายไป...

“เสร็จแล้วค่ะ  ฉันไปก่อนนะ”  เด็กสาวพูดรีบๆและเตรียมจะวิ่งออกจากห้องนอน  แต่เธอนึกอะไรขึ้นมาได้จึงก้าวเร็วๆกลับมาหาคนที่ยืนนิ่งเหมือนเสาหินก่อน  ถือวิสาสะเขย่งตัวขึ้นหอมแก้มขาวของสาวแวมไพร์พร้อมกระซิบ  “แล้วเจอกันคืนนี้ค่ะ  ฝากลาแอลด้วยนะคะ” 

ฟลอเรนวิ่งออกไปเร็วเกินกว่าจะทันได้เห็นว่าคนตัวสูงที่เธอทิ้งไว้ทรุดลงกองกับพื้นห้อง  อัลร์รู้สึกเหมือนโดนดูดพลังงานไปหมด  ยิ่งกว่าตอนที่เธอหิวเลือดเสียอีก 

“ฟลอเรน...”  แวมไพร์ครางและหันไปคว้าขวดเหล้ามาดื่มอักๆ ไม่สนใจจะใช้แก้วอีกต่อไป  แต่เธอรู้ดีว่า  ตอนนี้ขวดเดียวไม่พอ  ขอทั้งลังเลยเถอะ

........................................

หญิงสาวครางลึกในลำคอเมื่อลิ้นที่สอดเข้ามาในปากลากอารมณ์ดิบของเธอออกมาจากที่ซ่อน  หล่อนเก่งเสมอกับเรื่องแบบนี้  มันทำให้เธอคลั่ง  ไม่เคยคิดเรื่องปฏิเสธทุกครั้งที่ถูกเรียกมารวมเตียง  แม้จะมีหน้าที่เพียงดับอารมณ์กระหายของแวมไพร์

นิ้วใหญ่สอดเข้ามาในกายเธอให้สะโพกกระตุกรับ  หล่อนขยับตัวให้ถนัดยิ่งขึ้นก่อนจะเร่งจังหวะโยกตัวเธอไปพร้อมกับหล่อน  หูเธอได้ยินเสียงตัวเองร้องไม่เป็นภาษาคลอกับเสียงเตียงไม้ที่ดังเอี๊ยดอ๊าด  อย่าเพิ่งหักตอนนี้ก็แล้วกัน  ขอให้มันจบซะก่อน

แต่ก่อนจะจบ  เธอรู้ดีว่าตัวเองต้องโดนอะไร  ที่ลำคอเจ็บจี๊ด  เขี้ยวคมคู่งามฝังลงกับเส้นเลือดใหญ่  พลังงานของเธอกำลังถูกดูดออกไป  เธอค่อยๆอ่อนแรงลงทุกทีและหล่อนคงรู้สึกจึงหยุดกลางคัน  ได้ยินเสียงคำรามเบาๆที่ข้างหู  ก่อนที่หล่อนจะจูบที่จุดเดิมที่เจ็บจนชา  และบอกเสียงนุ่ม

“ตื่นขึ้นอีกครั้ง  คอเธอจะไม่มีตำหนิ  ฉันสัญญา”

เธอยิ้มแม้จะเหนื่อย  เพราะรู้ว่าจะเจออะไรต่อ  หล่อนเลื่อนตัวลงไปที่หว่างขาและซุกหน้าอยู่ตรงเนินเนื้อ  เรียวขาของเธอแยกออกอย่างไม่ต้องสั่ง  มันตอบรับกับปลายลิ้นที่ตวัดเชยชิมน้ำหวาน  อะดีนาลีนหลั่งพาให้แรงแห้งเหือดเพราะการเสียเลือดคืนกลับมา  สะโพกของเธอส่ายรับการบริการที่หล่อนให้  ไม่นานเกินรอเสียงกรีดร้องอย่างสุขสมก็หลุดปากเธอออกมา  แวมไพร์ตรงหน้าเลื่อนขึ้นมาขย่มร่างบนตัวเธออีกสองสามทีก่อนที่หล่อนจะทรุดลงนอนซบอกเหมือนสิ้นฤทธิ์  มือเธอก็ขยับลูบหลังเปลือยๆของหล่อน  เพลินกับผิวเนียนๆมันไม่เคยเปลี่ยนไป

“หลับก่อนเถอะ  ไม่ต้องรีบ  อัลร์ไม่โผล่มาตอนนี้หรอก  เค้ารู้..”  หล่อนกระซิบอยู่กับอกขาว   พาให้เธอยิ้ม   ถึงจะเป็นแค่คู่ขา  หล่อนยังมีแก่ใจห่วงกันหรือเพราะเหงาเลยอยากให้เธออยู่ต่อ  เอาเถอะ  ยังไงก็ได้..

“รู้มั้ยแอล..  ฉันกำลังคิดวิธีจะให้เธอเดินตอนกลางวันได้อยู่นะ  อยากเห็นแสงตะวันหรือเปล่า”  หญิงสาวถามเสียงตื่นเต้น  ดีใจที่เห็นคนฟังก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน  แอลผุดลุกขึ้นมามองหน้าเธอ  หล่อนเลิกคิ้วเหมือนจะเร่งให้พูด  เธอยกศีรษะขึ้นมาจูบปากหล่อนเบาๆก่อน  พาเสียงฮัมพอใจออกมาจากคู่ขา  ก็หน้าตาเวลาสงสัยของหล่อนน่ารักจนห้ามใจไม่ได้นี่  แต่ตอนนี้ถ้าเธอไม่พูดอะไร  ความน่ารักก็อาจจะกลายเป็นน่ากลัวก็ได้   ยังไม่อยากสู้กับแวมไพร์ตอนนี้  ถึงเธอจะมีวิชา

“เมื่อวานฉันไปห้องหนังสือของคุณย่ามา  กะว่าจะหาอาวุธแปลกๆใหม่ๆมาให้ฟลอเรนใช้  ทุ่นแรงให้เค้า  แล้วฉันก็เจอนี่...”  หญิงสาวมองหน้าให้อีกคนขยับตัวออกจากการนอนทับเธอ  เพื่อจะโยกตัวไปหยิบกระเป๋าสะพายที่ตู้ข้างเตียงมา  ล้วงหยิบหนังสือออกมาหนึ่งเล่ม  ยกขึ้นโชว์หล่อนที่มองมาอย่างสนใจ  เธอนั่งพิงหัวเตียงพลิกเปิดมันดู  หล่อนกระเถิบเข้ามาดูด้วย

“ก่อนอื่น  เธอต้องหาแหวนที่ชอบมา  และฉันจะท่องคาถาใส่   แล้วเธอก็ใส่มันเอาไว้ตลอด  พระอาทิตย์จะทำอะไรเธอไม่ได้อีกต่อไป  แค่ไม่ลืมใส่มันก็พอ”  บอกง่ายๆ  แวมไพร์ตรงหน้าก็มองแปลกๆเหมือนไม่เชื่อ  “ทำไมแอล..  ฉันพูดจริงนะ  ไม่ได้แกล้ง  ไม่เชื่อเธอไปหาแหวนที่ชอบมาสักวงสิ  เอาแหวนนามสกุลของบ้านเธอก็ได้”  เธอท้า  เป็นไปตามคาด  ผู้หญิงข้างๆลุกขึ้นเดินหน้าตาเฉยทั้งที่ไม่ได้ใส่อะไรบนตัว  และเธอก็รู้สึกว่า  เธอน่าจะพร้อมอีกยกกับหล่อน  แค่มองหุ่นงามๆนี้เท่านั้น   

ไม่เอาน่ะ  เดี๋ยวไปไม่ทันฟลอเรน  แถมจะโดนอีตาแฮนเซลบ่นอีกด้วย  ผู้ช่วยเขาชอบหายตัวเรื่อย  แต่ก็มีที่เดียวที่หายมานี่แหละ  ไปที่อื่นไม่เป็น..

“อ่ะ  แหวนที่พ่อฉันให้ก่อนจะหนีไปเที่ยวกับมะม๊า  ทำเผื่ออัลร์ด้วยก็ดี   เค้าจะได้ไปตามหลีหญิงได้ถนัดกว่านี้”  แอลพูดเหมือนเล่นแต่ท่าทางจริงจัง  มันเป็นความน่ารักของหล่อนนั่นแหละ  แต่อย่าบอกนะว่า  ฉันหลงรักแวมไพร์บ้าๆบอๆนี่ไปแล้ว..

“โอเค..  งั้นอยู่เงียบๆนะ  ขอฉันทำสมาธิก่อน”  เธอกำชับคนพูดมาก  มือหนึ่งดึงผ้าห่มมาคลุมเนื้อตัวตัวเองก่อนเพื่อความปลอดภัยว่าจะไม่โดนแกล้งกลางพิธี   แต่มีอีกอย่างที่เธอต้องไม่ลืม  เพราะถึงไม่ลืมตา  ภาพก็ยังติดตา..ติดใจ..   “ใส่เสื้อหรือเอาอะไรมาใส่ก่อนได้ป่ะคะ   ฉันไม่มีสมาธิเลย”  บอกพร้อมคิ้วขมวด  เสียงแวมไพร์หัวเราะก็ดังขึ้นมา  หล่อนหันไปคว้าเสื้อคลุมมาสวมทับ  เธอแอบครางอย่างเสียดาย   ไม่ได้เห็นหุ่นน่าหลงใหลอีกต่อไปแล้ว  แล้วก็ต้องสั่นหัว  อยากเจ็บตัวอีกหรือไง..

“ขอเทียนสักเล่มก็ดีค่ะ”  หญิงสาวพูดเพิ่ม  และไม่ต้องรอนานของที่ต้องการก็มาอยู่ตรงหน้า  มือขาวรับเทียนที่จุดแล้วมาถือ ระหว่างก้มหน้ามองแหวนสองวงบนผ้าสักหลาดสีแดง  ปากเธอขยับขมุบขมิบอ่านตัวอักษรจากหนังสือ  ไม่ถึงสองนาทีเธอก็ยิ้มและยื่นเทียนคืนให้เจ้าของ  หล่อนเป่าเทียนให้ดับราวเค้กงานวันเกิด  เธอหัวเราะคิกและหยิบแหวนที่บริกรรมคาถาแล้วส่งให้  “ใช้ได้แล้วค่ะ   ลองดูสิ”

แอลหรี่ตามองเธออย่างไม่ไว้ใจแต่หล่อนรับมันไปสวม  “แล้วทำไงต่อ” หล่อนถาม  เธอยิ้มไม่ตอบ  “ไม่เห็นจะมีอะไรเปลี่ยนเลยก็แหวนวงเดิมนี่นา”  เสียงหล่อนบ่นอีก  คราวนี้เธอลุกพรวดขึ้นไปเปิดผ้าม่านแทน  ขี้เกียจพูด  ได้ยินเสียงหล่อนกรี๊ด

“เฮเลนน่า!  จะบ้าหรือไง..  ฉันยังไม่อยากสุกนะ!”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไม่เชื่อดูสิ  แม่สาวขี้บ่น”  แม่มดสาวหัวเราะและเข้าไปดึงแขนยาวที่ปิดหน้าปิดตาสาวตัวสูงออก  หล่อนขัดขืน  “แอล..  เธอไม่เป็นไร   ลืมตาสิ  ฉันไม่โกหก”  ดวงตาสีมรกตค่อยๆเปิดออกอย่างกล้าๆกลัวๆ ยังคงไม่เชื่อ จากนั้นเจ้าของมันก็คลี่ยิ้มดีใจ  หล่อนทำเรื่องน่าหวาดเสียวด้วยการอุ้มเธอขึ้นจากพื้นเขย่าราวกับดีใจมาก  พาเสียงหัวเราะออกจากปากเธออีกครั้ง

“เบาๆแอล   เดี๋ยวฉันก็แหลกคามือหรอก”

“เธอเป็นแม่มดที่น่ารักที่สุดที่ฉันเคยเห็น  เวรี่กู๊ดเฮเลนน่า” หล่อนชมเธออีกครั้งเสียงใสปิ๊งสมเป็นผู้หญิงร่าเริงต่างจากพี่สาวแม้จะเป็นแฝดกัน   เธออ้าปากจะตอบโต้แต่สาวตัวโตทำให้เธอตกใจเมื่อจัดการพาเธอลงไปบนเตียงพร้อมกัน  มันเกิดขึ้นอีกครั้ง 

อะไรกันยังไม่หายเหนื่อยเลยนะ  เธอแอบบ่นแต่ความจริงตอบรับจูบร้อนแรงของคนบนตัวไปแล้ว  หล่อนแทรกตัวเข้ามาในตัวเธอพาสะโพกเธอกระตุกให้เข้าจังหวะ  หวังว่า  เวลาไปฝึกกับฟลอเรนจะไม่โดนสังเกตว่าไปทำอะไรมานะ  ถึงเดินไม่ตรง

อา..แต่มีเซ็กส์กับแวมไพร์จะกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ  มีเรื่องให้ตื่นเต้นตลอดเวลา  ขอเพียงว่าหล่อนอย่าเพิ่งเบื่อเธอก่อนก็แล้วกัน  ยังสนุกอยู่เลย..

...............................
“เฮเลนน่า  ไปอยู่ไหนมา ฟลอเรนมารอเธอศตวรรษนึงแล้วนะ!” หนุ่มใหญ่ตะโกนเรียกพาให้หัวที่มึนๆของเธอมึนขึ้นไปอีก  ทั้งเมาเหล้าเมารัก  เดินแทบไม่เป็นแล้ว 

จะดุอะไรนักหนานะ  เมียไม่ให้นอนเตียงด้วยหรือไง  น่ารำคาญจริง.. หญิงสาวบ่นในใจแต่ปากฉีกยิ้มหวานดังโลโก้ประจำตัวก่อนส่งเสียงหวานเสแสร้งตอบกลับเจ้านาย  “ติดธุระส่วนตัวค่ะนายท่าน  ลูกร้องกินนมแต่เช้า  ต้องเอาให้กินก่อนจะมา”

แต่พูดไปแล้ว  เขาก็ทำหน้าอึ้งกระพริบตางง  คงจำได้ว่าเธอยังไม่ได้แต่งงานและไม่เคยท้อง  แฟนก็ไม่เห็นมี  และเขาก็นิ่งคิดไปนานจนเธอได้โอกาสหันไปคว้าสาวที่นั่งลับมีดเล่นฆ่าเวลาอยู่ให้เดินไปด้วยกัน  ฟลอเรนดูงงแต่ไม่สนใจจะถาม  เธอเลยต้องบอกเอง  ก็อยากให้รู้  แต่ความจริงถ้าเธอไม่มัวเล่นจ้ำจี้มะเขือเปาะกับแวมไพร์อยู่ก็คงจะได้คุยกับหล่อนตั้งนานแล้วนะ  ยัยเฮเลนน่า.. นอนค้างบ้านเดียวกันแท้ๆเลย..

“ฉันมีของขวัญจะให้ค่ะ”

“ของขวัญ?  อะไรเหรอคะ”  เด็กสาวถามไม่เข้าใจ  แต่ยิ้มกว้างเมื่อเห็นของที่อีกคนถือขึ้นมา  เฮเลนน่าจับมือเธอไปรับมัน 

“เพนทาเคิลค่ะ  ฉันไปค้นที่ห้องสมบัติคุณย่ามา  คิดว่ามันคงดี   ถ้าฮันเตอร์จะมีเอาไว้”  แม่มดอายุเพิ่งครบยี่สิบห้าหมาดๆเมื่อสองเดือนที่แล้วบอก  เธอถือวิสาสะหยิบมันคืนมาจากมืออีกคนและสวมคอให้หล่อนแทน  “ใส่ไว้ตลอดนะคะ  ถ้าเป็นไปได้  มันจะช่วยป้องกันภัยให้  ปีศาจกลัว” 

“ปีศาจกลัว.?”  ฟลอเรนพึมพำระหว่างหยิบจี้ห้อยคอห้าแฉกขึ้นมาดูอย่างพิเคราะห์  และเพราะบางอย่างที่นึกได้  เลยทำให้ตาโตขึ้นมา  “ถ้างั้นฉันจะใส่เอาไว้ได้ยังไงคะ  เพราะฉันมี---”

“ไม่ต้องกลัวค่ะ  อัลร์กับแอลเป็นแวมไพร์มีเชื้อสาย  พวกเขาไม่กลัวมันหรอก”  เฮเลนน่ารีบบอกก่อนที่จะสาย   ขี้เกียจให้เข้าใจผิดกัน  จากนั้นเธอก็ดีดนิ้วหนึ่งครั้ง  บอกเสียงใสอีกรอบ  “แล้วฉันมีของขวัญที่สองให้เธอด้วยนะ”  เด็กสาวตรงหน้าทำท่าจะถาม  แต่คำตอบนั้นก็มาก่อน  เร็วเหมือนสั่งได้นะแวมไพร์...

เด็กสาวตาโตทันทีที่เห็นของขวัญ  มันชิ้นใหญ่กว่าเมื่อครู่เสียอีก  และไม่ใช่ชิ้นเดียวด้วย  “อัลร์..  แอล..  พวกคุณมาได้ยังไง  นี่ตอนกลางวันนะคะ”  ถามแปลกใจแต่ตัวน่ะเผลอวิ่งไปกระโดดกอดแวมไพร์สาวทั้งสองคนละทีแล้ว  ดีใจเกินเหตุไปหรือเปล่า  และระหว่างแสดงอาการดีใจ  เสียงของคนให้ของขวัญก็เอ่ยล้อให้หน้าร้อน 

“นี่ถ้ากอดฉันแบบนั้นบ้าง  น่าจะดีนะคะ  หอมแก้มหน่อยก็ได้..”  เฮเลนน่าทำแก้มป่องหนึ่งข้างและชี้นิ้วไปที่มัน  ฟลอเรนหันมายิ้มหวานและเตรียมจะเข้ามาหา  หากแต่เอวคอดก็ถูกรั้งไว้ด้วยแวมไพร์ตัวโต  อัลร์ทำตาดุใส่เธอ   อ้อเข้าใจแล้ว..หวงล่ะสิ

“โอ้..แย่จริง  ไม่สนุกเลยแฮะ  มีบางคนขี้หวงที่นี่”  แม่มดบ่น  ถอนหายใจเบื่อและสะอึกเมื่อมีบางคนมายืนตรงหน้า  หล่อนกระซิบ

“เมื่อคืนกับเมื่อเช้ายังสนุกไม่พอหรือไง  หรือจะให้จูบโชว์ฟลอเรน”  แอลยิ้มเจ้าเล่ห์  หัวเราะหึหึเมื่ออีกคนทำตาโตใส่  หล่อนส่ายหน้า  “โอเค..งั้นเลิกยุ่งกับฮันเตอร์   เค้ามีคนจองแล้ว  ไม่เห็นหรือไง”

“ก็โอเค..”  เฮเลนน่าทำเสียงเซ็ง  และเปลี่ยนเรื่องพูด  “ฉันทำแหวนเดินกลางแดดให้พวกเค้าค่ะ  เจ๋งมั้ย..”  พยายามไม่สนใจกับคู่ที่ทำตัวยังกับคนรักกันตรงนั้น  กอดกันไม่ปล่อยสักที  หรือมีบางคนไม่ยอมปล่อยมือกันแน่  แน่ล่ะ  แวมไพร์โหดนั่นไง.. 

ฟลอเรนท่าทางจะเก่งแต่เรื่องล่าปีศาจอื่นนะ  เจอแวมไพร์ขี้หลีอยู่ตรงหน้ายังรู้ไม่ทัน  พวกนี้บางทีอันตรายกว่ายัยจูเลียเสียอีก  อัลร์น่ะ  ถ้าจะจับหล่อนฟัดตรงนี้ได้ก็คงทำไปแล้ว  มือใหญ่ขาวซีดนั่นอยู่กับเอวฮันเตอร์สาวน้อยไม่ยอมห่าง  ออกแนวปกป้องจนน่าหมั่นไส้  ไม่น่าทำแหวนให้ใส่เลย  ปล่อยให้นอนหนาวบนเตียงทั้งวันก็ดีหรอก

“เยี่ยมไปเลยค่ะเฮเลนน่า!”  เด็กสาวชมเสียงใส  ลืมสนใจว่าใครเกาะเอวตัวเองอยู่หรือว่ามันคุ้นสัมผัส   ก็นอนกอดกันมาทั้งคืนแล้ว  แถมไม่ใช่ครั้งเดียวที่ถูกกอด  ชอบซะอีกด้วย  มันอบอุ่น  มันปลอดภัย  เธอชอบให้อัลร์กอดเธอ  แม้ไม่รู้ว่าคนกอดจะกำลังคิดอะไร  หล่อนอยากทำมากกว่ากอดเธอซะอีกนะ..ฟลอเรน..   

“ถ้าแบบนี้   เราก็ทำงานตอนกลางวันได้ด้วยแล้วสิคะ  ใช่มั้ย”  ถามไป  ผู้ช่วยครูฝึกก็พยักหน้าหงึกๆกลับมา  จากนั้นหล่อนก็หันไปล้วงกระดาษม้วนหนึ่งขึ้นมาจากกระเป๋าสะพายและให้แวมไพร์ข้างๆช่วยกางมันออก  มันเป็นแผ่นยาวพอสมควรเมื่อเทียบกับร่างบอบบางของหล่อน

“อะไรคะนั่น”  ฟลอเรนถามใจร้อน  อยากออกทำงานเต็มแก่  เธอจะได้มีข้ออ้างกับพ่อแม่อีกวันว่าที่เธอไม่กลับบ้านเพราะอะไร  แต่จะว่าไปก็คิดถึงพี่ชายสองคนเหมือนกันนะ  พวกเขาใจดี  รูปหล่อที่สุดด้วยล่ะ  น่าจะแนะนำให้อัลร์กับแอลเหมือนกัน  แต่ท่าทางพวกหล่อนคงไม่ชอบ  เห็นเคยบอกหมั่นไส้พี่ชายของเธออยู่  ไม่รู้ทำไม..

หรือว่าไม่ชอบผู้ชาย..  โอ้..แวมไพร์เป็นเกย์..?

“เป็นของที่ฉันหามาได้อีกอย่างจากห้องขุมทรัพย์คุณย่าค่ะ”  แม่มดสาวบอก  ชี้มือไปที่ม้วนกระดาษที่ความจริงทำจากหนังสัตว์อะไรสักอย่างที่ทำให้มันอยู่มาได้นานเป็นศตวรรษโดยไม่ผุพัง  และเธอจำไม่ได้แล้วว่ามันคือหนังสัตว์อะไร  เรื่องอื่นมีให้สนใจกว่านี่นา  “ตอนนี้ยังไม่เห็นใช่ไหมคะว่า มันมีอะไรน่าสนใจ  แต่เดี๋ยวทุกๆคนดูนะ  อย่ากระพริบตาล่ะ” เฮเลนน่ายิ้ม  แล้วหลับตาทำปากขมุบขมิบบริกรรมคาถาตามถนัด เพียงไม่นานบางอย่างก็ปรากฏแก่สายตาสามคนที่รอดูอยู่   ฟลอเรนเป็นคนพูดก่อน

“แผนที่?”

“ใช่ค่ะ  แผนที่  เอาไว้ดักจับปีศาจล่ะ  แต่ต้องใช้มายากลนิดหน่อยนะ”

“ดักจับปีศาจ  ยังไงคะ”  ฟลอเรนงง  เผลอดึงมือที่โอบเอวตัวเองไม่ยอมปล่อยออกแล้วเดินไปหาแม่มดตรงหน้า  ไม่ได้สนใจเลยอัลร์แอบครางผิดหวังที่เธอห่างออกไป  ก็เธอสนใจเรื่องอื่นอยู่และเริ่มอึดอัดแล้วถูกกอดนานเกินไป  ชักจะเกินคำว่าอบอุ่นไปนิด

เฮเลนน่ายิ้มกับความสนใจของฮันเตอร์ที่ในที่สุดก็มาที่เธอแล้ว  แอบยิ้มเยาะแวมไพร์ขี้หวงไปหน่อย  อัลร์ชูกำปั้นให้ ทำขู่  เธอก็แกล้งไม่สนใจ  หันมาคุยกับเด็กดีกว่า  มือชี้ไปตามจุดต่างๆของแผนที่และพูด  “ที่ตรงนี้เป็นสมาคมที่เราอยู่กันนะคะ  เห็นแล้วใช่มั้ย”  ฟลอเรนพยักหน้ารับ  “ค่ะ  แล้วนี่ก็ห้องที่เราอยู่” 

“แล้วยังไงต่อคะ..เฮเลนน่า”  เด็กสาวเริ่มใจร้อนกว่าครูฝึกแล้วแต่แม่มดสาวยังใจเย็น  หล่อนค่อยๆอธิบาย 

“เธอเห็นมั้ยว่า  มันมีจุดที่เหมือนรอยเท้าสองจุด  อยู่ตรงนี้และตรงนี้”  มือชี้ไปที่จุดดำๆ  คนข้างๆมองตาม  แวมไพร์ทั้งสองก็เช่นกัน  แม้แต่แอล  เธอก็ยังไม่ให้ดูมันเลย   ก็มีเวลาที่ไหนล่ะ  ยัยนั่นแทบจะไม่ยอมปล่อยฉันออกจากเตียง

ฟลอเรนเริ่มสงสัยกับคำบอก  เธอมองแผนที่สลับไปมากับแวมไพร์ทั้งสองที่ยืนใกล้ตัว  ในที่สุดก็เข้าใจ  “มันบอกเฉพาะร่องรอยของสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์?” แม่มดยิ้มและเข้ามาดึงเธอไปหอมแก้มหนึ่งฟอดใหญ่  เป็นการให้รางวัลเวลาที่เธอตอบคำถามถูกอย่างทุกที  เธอเองก็ดีใจไม่แพ้กัน  นอกจากจะได้ของขวัญตั้งหลายอย่างในวันนี้จากหล่อนแล้ว  เธอยังมีเครื่องมือช่วยทำงานเพิ่มอีกด้วย   เฮเลนน่าสวยแล้วยังใจดีอีก

“ให้ฉันด้วยใช่ไหมคะ” 

“ใช่ค่ะ”  เฮเลนน่าบอกปนหัวเราะ  เพราะเธอรู้มีบางคนที่นี่แอบหมั่นไส้เธออยู่  แต่ก็ใช่ว่าจะสนใจ  และสิ่งน่าสนใจกว่าก็มีเมื่ออยู่ๆฟลอเรนก็พูดเสียงตื่นเต้น

“มีรอยอื่นที่ไม่ใช่อัลร์กับแอลโผล่ขึ้นมาตรงนี้ค่ะ” ยังไม่ทันที่ใครจะได้ถามอะไร  สาวน้อยฮันเตอร์ก็คว้าแผ่นหนังวิเศษติดมือไปกับหล่อน  ฟลอเรนวิ่งออกไปนอกห้องเสียอย่างนั้น   อัลร์กับแอลมองหน้าเธอตาปริบๆ ระหว่างที่เธอได้ยินเสียงฝีเท้าม้า 

“ตามไปสิอัศวิน  จะให้เจ้าหญิงทำงานคนเดียวหรือไง”  สองแวมไพร์บอกลาเธอเร็วๆและหายไปจากห้อง  เฮเลนน่ายืนยิ้ม  “ไฟแรงจริงๆฮันเตอร์ฉัน  ขอให้ปลอดภัยกลับมานะ..คุณหนูมาแชล”




..........................................................


มากันอีกแล้ว..  ก็บอกแล้วว่าคนเขียนชอบ   ชอบอะไรที่มันไม่ธรรมดา   เอ..หรือลืมบอกคนอ่านไปว่า   คนเขียนชอบแฟนตาซี   คนเพ้อเจ้ออะนะ  ฮ่าๆๆ   ~:Emo19:~

แต่คนอ่านอาจจะไม่ชอบก็ได้..   อา..ไม่เป็นไรค่ะ  อ่านๆไปเนอะ  เผื่อจะชอบ    ~:Emo11:~ ~:Emo13:~ ~:Emo17:~



หมายเหตุ : สำหรับคนที่เคยอ่านสองภาคที่แล้ว ทำความเข้าใจกันใหม่เนอะ ฟลอเรนคนนี้ คนละคนกับฟลอเรนในสองภาคนั้นนะคะ อันนี้ภาคอดีตเมื่อร้อยกว่าปีก่อนค่ะ 




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.