web stats

ข่าว

 


รอยแค้น รอยรัก ตอนที่ 1

โพสต์โดย: เด็กนรก วันที่: 18 เมษายน 2018 เวลา 12:53:29 อ่าน: 271



หลังจากที่รู้ว่าพี่สาวเข้าห้องคลอดไปแล้ว ไพลินที่กลับมาจากมหาลัยก็รีบมาที่โรงพยาบาลทันที เธอเดินไปเดินมาลุ้นรอว่าพี่จะคลอดเสร็จเมื่อไหร่ แล้วในระหว่างรอนั้นพ่อแม่ของเธอก็มาถึง

"พี่เป็นไงบ้าง ยัยลิน" พลอยพิจิตรถามลูกสาว ไพลินมองแม่ด้วยสีหน้าเครียด

"ไม่รู้สิคะ มารอนี่ก็ไม่มีใครอยู่แล้ว รู้แต่ว่าไอกรีนเข้าห้องคลอดไปด้วย" ไพลินตอบแล้วเธอก็ถูกดึงไปกอดโดยแม่ของเธอ

"ทำหน้าเครียดยิ่งกว่าคนเข้าไปคลอดเองอีกมั้ง จะเว่อร์ไปรึเปล่าลูก อยู่ในมือหมอแล้วไม่เห็นจะต้องห่วงเลย" พลอยพิจิตรพูดพร้อมกับหันไปมองสามีที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ไม่ได้สนใจอะไร "ใช่ไหมคะคุณ"

"ใช่" เลิศตอบรับแล้วยิ้มให้ลูกสาว "ไม่เป็นไรหรอกลิน ถึงพี่เขาจะไม่แข็งแรงแต่พี่เขาพยายามมากเลยนะที่จะมีลูก"

"เพราะงั้นไงถึงห่วง" ไพลินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง คิ้วเรียวสวยขมวดแทบผูกเป็นปม

เธอห่วงพี่สาวเรื่องการมีลูกมาตลอด พี่เกือบตายตั้งหลายครั้งตอนที่ทำ บลาสโตซิสท์คัลเจอร์ (วิธีรักษาภาวะมีบุตรยาก) เพราะพี่สาวสุขภาพไม่แข็งแรงอยู่แล้ว ที่สำคัญตอนที่ท้องก็ตกเลือดไปหลายหน ทำให้สภาพจิตใจแย่ขึ้นเพิ่มภาระให้ร่างกายอีก แต่พี่สาวและพี่เขยก็ยังพยายามจะมีลูกกันอีก....จนสำเร็จและพร้อมคลอดในตอนนี้

"เด็กผู้หญิงใช่ไหม?" เลิศถามภรรยาย้ำ พลอยพิจิตรพยักหน้า "ถ้าเป็นผู้ชายก็ดี เรามีแต่ลูกสาวด้วยสิ"

"ดูพูดเข้า ผู้หญิงก็ได้น่า เด็กคนนี้พยายามมากที่จะมีชีวิตรอดเหมือนกันนะ" พลอยพิจิตรว่าสามีที่ไม่ค่อยสบอารมณ์กับการที่ลูกสาวคนโตมีหลานสาวให้เพราะหวังอยากมีทายาทเป็นชาย

ไพลินนึกดีใจที่เด็กในท้องอยู่มาได้จนพร้อมคลอด เธอไม่ได้ดีใจที่พี่มีลูก แต่ดีใจที่พี่ไม่ต้องพยายามอีกแล้ว แค่คิดเธอก็ทรมานใจแทบบ้าที่เห็นพี่สาวตัวเองแพ้ท้อง เมายาที่หมอให้บำรุงเพื่อประคองครรภ์ แต่แม้จะทรมานอีกคนก็เลี่ยงไม่ได้และอีกคนก็เต็มใจเสียเหลือเกินที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองมีลูก

และในระหว่างที่ไพลินและพ่อแม่กำลังรอคอยอยู่นั้น ประตูห้องคลอดก็เปิดออก ข้างในดูวุ่นวายไปหมด เธอเห็นกล้องที่ตั้งอยู่ข้างๆ ห่างจากเตียงเล็กน้อย คิดว่าพี่เขยคงตั้งใจถ่ายวินาทีที่คลอดลูกไว้

"เด็กคลอดเรียบร้อยแล้วครับคุณพ่อคุณแม่ ผมเป็นพ่อคนแล้ว" พี่ไอกรีนเดินออกมาทั้งน้ำตาแล้วบอกพ่อกับแม่เธอ พร้อมกับส่งยิ้มให้เธอด้วย พ่อแม่หันไปยิ้มให้กัน แต่ไพลินยิ้มไม่ออก เธอมองเข้าไปด้านในพยาบาลดูวุ่นวายไปหมดมันทำให้เธอไม่สบายใจ ที่สำคัญ...ไม่ได้ยินเสียงเด็กร้องเลย

"ลูกไม่ค่อยแข็งแรงน่ะ ร้องไม่มีเสียง คุณหมอบอกว่าต้องอยู่ในตู้อบ" พี่เขยบอกเธอราวกับรู้ว่าเธอกังวลแล้วเขาก็เดินกลับเข้าไปเมื่อพยาบาลเดินออกมาจากห้องแล้วขอปิดประตูในระหว่างที่รีบวิ่งไปอีกทางอย่างร้อนรน

 

แล้วพวกเราก็ย้ายมาอยู่ในห้องพิเศษส่วนตัวเมื่อตัวพี่สาวและเด็กถูกย้ายออกมาจากห้องคลอด ไอกรีนนั้นยืนถ่ายรูปลูกสาวของตัวเองที่อยู่ในตู้อบโดยมีสายระโยงระยางเจาะตามตัวของลูกเพื่อช่วยให้ลูกมีชีวิตอยู่เพราะเป็นเด็กที่ไม่แข็งแรง

ส่วนพ่อแม่และน้องของคนรักไม่ได้สนใจเด็กเลย พวกเขาต่างสนใจทับทิมที่ตอนนี้เริ่มรู้สึกตัว

"ลูก...ล่ะคะ?" ทัมทิมถามหาลูกก่อนจะมองไปทางตู้อบข้างๆ เมื่อน้องสาวขยับตัวให้ได้มอง แล้วเธอก็ร้องไห้เมื่อเห็นว่าลูกตัวเล็กแค่ไหนและที่สำคัญสายอะไรต่างๆ ก็ระโยงระยางเต็มไปหมด แม้กระทั่งปากเล็กๆ ของลูกก็มีสายพวกนั้นคาอยู่ด้วย เธอรู้ได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องให้ใครบอกเลยว่า ลูกเธอไม่แข็งแรง...เหมือนกับตัวเธอเอง

"ลูกไม่เป็นไรหรอกทิม อย่าคิดมากนะ" ไอกรีนผู้เป็นสามีบอกเธอ ทับทิมร้องไห้มือก็จับมือของแม่แน่นเมื่อแม่จับมือให้กำลังใจเธอ

"พี่เป็นคนทำให้เขาเกิดมานะ อย่ามาร้องไห้แบบนี้สิ ทำตัวให้เข้มแข็งหน่อยเป็นไง จะได้ลุกมาดูแลได้" ไพลินบอกพี่สาว ทับทิมพยักหน้าทั้งน้ำตามองน้องสาวที่พูดแบบนั้นแล้วเธอก็หลบสายตาที่คล้ายจะเย็นชาของไพลินมามองหน้าสามีที่เดินมายืนข้างเตียง

"นี่รู้ไหม เค้าส่งรูปให้ไอริสดูแล้วนะ ไอริสบอกว่าหน้าลูกเราเหมือนตัวเองเลย" ไอกรีนพูด นั่นทำให้ทับทิมยิ้มออกมาแห้งๆ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะดูออกว่าลูกเธอหน้าเหมือนใคร ขนาดเธอเห็นลูกไม่ชัดในตอนนี้ เธอยังรู้ได้เลยว่าลูกตัวเหี่ยวและเล็กมากกว่าเด็กแรกเกิดปกติทั่วไป...เหมือนลูกกรอกไม่มีผิด ไม่มีทางที่จะดูออกหรอก

"ดูออกขนาดนั้นเลยเหรอคะ?" ทัมทิมถามด้วยเสียงที่หวานแต่แหบแห้งเหนื่อยอ่อน  เธอพยายามทำเหมือนไม่เป็นอะไรเพื่อไม่ให้ทุกคนห่วงโดยเฉพาะน้องสาวที่คอยจับตามองเธอ แม้ว่าตอนนี้ตัวเธอนั้นรู้สึกมึนเบลอ เจ็บจุกหน้าอก ปวดหนักระบมตามท้อง กระดูกสันหลังช่วงล่าง ช่องคลอดและสะโพก เนื้อตัวก็รู้สึกไร้เรี่ยวแรงเย็นวูบวาบไปหมด คอก็แห้งผากราวกับคอจะแห้งเป็นผุยผง เหมือนร่างกายเธอจะรับสภาพการคลอดลูกไม่ค่อยดีนัก เธอรู้สึกได้...

"ครับ ดูออกสิ ลูกเราแข็งแรงเหมือนตัวเองเลยนะ" ไอกรีนบอก มือก็ลูบผมคนรักอย่างเบามือ "ขอบคุณนะทิม ที่ทำให้ผมได้เป็นพ่อคน"

"ฉันอยากเป็นมาตลอดเลย อยากเป็นแม่ของลูก?" ทับทิมเค้นเสียงบอกคนรักอย่างรวดเร็วเพื่อให้อีกคนได้รับรู้ และอยากให้ลูกได้รับรู้ความรู้สึกของเธอในตอนนี้ด้วย

 

ไพลินมองพี่เขยและพี่สาวที่คุยกัน ก่อนจะหันมามองเด็กที่อยู่ในตู้อบพลางเดินไปดูใกล้ๆ แล้วเธอก็ยิ้มออกมาเมื่อเด็กขยับตัวคล้ายกระตุก แม้ว่าดูยังไงก็ไม่น่ารักเพราะตัวเหี่ยว ผิวก็ออกคล้ำๆ แดงๆ ตัวก็เล็กนิดเดียว แต่ก็เพราะเด็กคนนี้ล่ะนะที่จะทำให้พี่สาวเธอเลิกฝืนร่างกายเพื่อมีลูกต่อจากนี้

...ความทุกข์ของพี่สาวหายไปแล้ว เธอนึกขอบคุณจริงๆ ที่เด็กตัวน้อยคนนี้อดทนอยู่ในท้องของพี่เธอจนออกมาสู่โลกในตอนนี้ ทั้งที่สภาพของเด็กและแม่ไม่น่าจะเป็นไปได้ว่ารอดด้วยกันทั้งคู่...

"ทัมทิม ทับทิม!"

ไพลินหันไปมองเตียงของพี่สาวทันทีที่ได้ยินพี่เขยเธอเรียกพี่สาวเธอเสียงดัง เสียงของแม่ก็ร้องไห้ขึ้นมาจนเธอตกใจ

พอเห็นสภาพพี่สาวเธอไม่แปลกใจเลยที่แม่และพี่เขยร้องเรียกพี่สาวของเธอ??ทับทิมนอนตาเหลือกค้าง ร่างกายเกร็งราวกับคนชัก....ไอกรีนจับมือคนรักแน่น มืออีกข้างก็กดเรียกหมอ ใจภาวนาขอให้ทับทิมอดทน ขอให้หล่อนไม่เป็นอะไร ขอให้อดทนเหมือนที่ผ่านมา เขาเชื่อว่าทับทิมจะต้องผ่านไปได้เพราะใจของทับทิมแกร่งกว่าสภาพร่างกาย

ภาพตรงหน้าทำให้ไพลินช็อก แม้ว่าไม่กี่วินาทีต่อมาหมอกับพยาบาลจะเข้ามาและช่วยกันดูแลพี่สาวเธอ แต่เธอก็ยืนนิ่งไม่ไหวติ่งราวกับเวลาของเธอหยุดหมุนไป มีเพียงแค่น้ำตาเท่านั้นที่ไหลออกมา แล้วเธอก็โดนคนเป็นพ่อโอบร่างเพื่อพาออกไปจากห้อง เพื่อให้หมอได้ทำงานของตัวเองอย่างเต็มที่

"ถ้าลูกฉันเป็นอะไรไป ฉันจะไม่ให้อภัยแกเลย ไม่มีวัน ทั้งหมดมันเป็นเพราะแกอยากมีลูกนั่นแหละ!" พลอยพิจิตรตะคอกใส่หน้าไอกรีนที่น้ำตานองหน้าเจ็บปวดเสียใจไม่ต่างกัน มือก็ทุบพี่เขยที่ยืนนิ่งร้องไห้ก้มหน้าอย่างเดียว "ฉันเคยบอกให้แกห้ามทับทิม ให้แกพูดกับลูกของฉันและเลิกล้มความตั้งใจตั้งแต่แท้งลูกครั้งแรกแล้ว แต่แกก็ดื้อด้านคิดว่าเมียแกจะทนไหวแล้วมันเป็นยังไง!"

ไพลินมองแม่ที่ร้องและทุบตีพี่เขยเรื่อยๆ โดยมีพ่อพยายามกอดแม่ไว้ ในตอนนี้เธอเองก็คิดแบบเดียวกับแม่...ที่พี่สาวเธออยากมีลูกก็เพราะผู้ชายคนนี้อยากจะมี พี่สาวเธออยากจะทำให้เขามีความสุขตอบแทนที่พี่เขยคอยอยู่เคียงข้างมาเสมอ

 

แล้ววันนั้น...ครอบครัวของไพลินก็เจอกับเรื่องเลวร้ายสุดทรมานเพราะการจากไปของพี่สาวเธอและทันทีที่พี่เขยรู้ว่าพี่สาวเธอตาย พี่เขยก็ร้องไห้เสียงดังอย่างลืมอายแล้วหายไปจากตรงนั้นไม่แม้แต่จะมองพี่สาวเธอเป็นครั้งสุดท้าย

แต่ผ่านไปไม่ถึงสองชั่วโมงก็มีคนโทรมาหาไพลินและแจ้งข่าวร้ายอีกข่าว....พี่เขยเธอตายเพราะอุบัติเหตุทางรถยนตร์

นั่นทำให้พ่อและแม่เครียดหนักกว่าเดิม แม่ร้องไห้จนเป็นลม พ่อก็สีหน้าไม่สู้ดีแต่ก็พาแม่ไปดูแลโดยมีพยาบาลคอยช่วย

ไพลินร้องไห้ ร้องในแบบที่ว่าไม่เคยร้องมาก่อนในชีวิต ร้องราวกับจะขาดใจ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ของเธอต้องตายทั้งที่อดทนอุ้มท้อง แม้จะลำบากลำบนจะตายเอาก็หลายครั้งแต่ก็ผ่านมาได้....ทำไมต้องมาตายเพียงเพราะคลอดเด็กคนเดียว

ไพลินเงยหน้ามองตู้อบที่มีเด็กนอนอยู่ข้างใน

วันเกิดของเด็กที่พี่คลอดออกมาคือวันตายของพี่สาวและพี่เขยเธอ เธอรู้สึกโกรธ?โกรธทุกอย่าง โกรธเกลียดพี่เขยของตัวเอง แต่เจ็บใจที่เขาไม่ได้อยู่ให้เธอโกรธแล้ว เธอรู้สึกว่ามันน้อยไปที่เขาตายจากไปเสียเฉยๆ เขาควรจะต้องมีชีวิตอยู่เพื่อทุกข์ทรมานกับการเสียทับทิมผู้หญิงที่แสนดีคนนี้เหมือนที่เธอกำลังเผชิญ

ที่สำคัญ...เธอเกลียดเด็กคนนี้ ทุกอย่างเป็นเพราะมันที่มีชีวิตรอดอยู่ในท้องพี่สาวเธอจนพี่สาวเธอตายเพราะคลอดมัน

เป็นเพราะมันคนเดียวที่ทำให้พ่อแม่ของตัวเองตาย

 

ไอริสกลับมาเมืองไทยหลังจากที่ไปอยู่เมืองนอกมาได้เกือบ 4 ปี เธอทำงานและเรียนไปด้วยตอนอยู่ที่นั่น ปกติแล้วเรียนแค่ 4 ปีก็จบ แต่เพราะเธอไม่มีทุนมากนักและอยากปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่อื่นก่อน ปีแรกเธอจึงตัดสินใจทำงานเก็บเงินและเริ่มเรียนในปีต่อมา เพราะงั้นตอนนี้เธอจึงเป็นนักศึกษาปี 3 กำลังจะขึ้นปีที่ 4 ปีสุดท้าย

ปกติช่วงปิดเทอมเธอจะเลือกทำงานจึงไม่ได้กลับมาเมืองไทย แต่อีกปีเดียวเธอก็จะเรียนจบเพราะงั้นปิดเทอมปีนี้เลยเลือกที่จะกลับมาประเทศบ้านเกิด เธอไม่ได้ติดต่อพี่ชายมานานแล้ว พยายามโทรหาแต่ติดต่อไม่ได้ ญาติพี่น้องคนอื่นของเธอก็ไม่มีให้สอบถามและไม่มีช่องทางติดต่อญาติฝั่งพี่สะใภ้เพราะไม่สนิทกันเท่าไหร่ เธอเลยอดทนเก็บความคิดถึงของตัวเองที่มีให้พี่เอาไว้แล้วตั้งใจทำในสิ่งที่ต้องการจะทำ

ตอนนี้ได้กลับมาแล้วเธอก็คิดจะไปเยี่ยมเยือนพี่ชายญาติเพียงคนเดียวของเธอที่เหลืออยู่

พอคิดว่าพี่ชายจะตกใจกับการมาแบบเซอร์ไพรส์ของเธอขนาดไหน ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ตั้ง 4 ปีที่ไม่ได้ติดต่อกัน ครั้งสุดท้ายคือวันที่ลูกของพี่ชายคลอดและพี่ก็ส่งรูปและวิดีโอสั้นๆ ตอนที่ยัยหนูนอนในตู้อบให้ดู ตอนที่เธอได้เห็นเธอร้องไห้เลยล่ะ ทั้งดีใจกับพี่ชายและพี่สะใภ้ ทั้งสงสารหลานที่ออกมาตัวเล็ก ดูไม่แข็งแรง เหนือสิ่งอื่นใดเธอรู้สึกดีมากที่ได้เห็นหน้าหลานสาว

'พี่จะดูแลหลานอย่างดีเลย ตั้งใจทำงานและเรียน แล้วรีบกลับมาอุ้มหลานนะ' นั่นเป็นข้อความสุดท้ายที่พี่เธอส่งมาให้เธออ่านหลังจากส่งรูปลูกมาให้ดู

หลานสาวของเธอต้องน่ารักมากแน่ ๆ ไอริสคิด...เพราะพี่สะใภ้เธอเป็นคนที่สวยมาก สวยแบบที่ว่าอิจฉาพี่ชายเลยที่ได้คบกับคนสวยขนาดนั้น ส่วนพี่ชายเธอก็หน้าตาดีในระดับหนึ่ง...พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ดีลูกก็ต้องน่ารักสิ...

อยากเห็นหน้าจังเลย...ไอริสคิดพร้อมกับยิ้มคนเดียวอย่างตื่นเต้น ในระหว่างที่คิดอะไรเพลินๆ รถแท็กซี่ที่เธอนั่งมาจากสนามบินก็จอดอยู่หน้าบ้านหลังขนาดมหึมา บ้านที่พี่ชายของเธออยู่กับครอบครัวของภรรยา

"มาหาใครครับ ได้นัดไว้ไหมครับ?" ยามหน้าประตูถามมาจากด้านในของบ้านผ่านรั้วประตู

"มาหาพี่ไอกรีนค่ะ" พอไอริสตอบไปแบบนั้นสีหน้าของยามก็เปลี่ยนไป มีความเศร้าและมีความไม่พอใจฉายชัดออกมาทางสีหน้า "พี่กรีนอยู่ไหมคะ?"

"คุณเป็นอะไรกับคุณไอกรีนครับ?"

"เป็นน้องสาวค่ะ" ไอรีสตอบ รู้สึกแปลกที่อีกคนท่าทีเปลี่ยนขนาดนี้ นี่คิดว่าเธอเป็นชู้กับพี่ชายตัวเองหรือเปล่าเนี่ย "ขอเจอพี่ชายได้ไหมคะ?"

ยามมีสีหน้าลำบากใจก่อนจะบอกเรื่องที่ไอรีสแทบไม่อยากจะเชื่อ "เขาตายแล้ว ตายไปเกือบสี่ปีแล้ว"

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น