web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 110
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 90
Total: 90

ผู้เขียน หัวข้อ: ตอนที่ ๕  (อ่าน 1511 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ n-ew

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 93
ตอนที่ ๕
« เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 12:08:30 »
ตอนที่ ๕

      พิมพ์รตาจอดรถหน้าบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง กรกฎมองอย่างแปลกใจ“บ้านอาณรงค์เพื่อนพ่อฉันเอง พ่อให้เอาของมาให้ท่านตั้งแต่กลับมาจากฝรั่งเศส ฉันยังไม่ได้มากราบท่านเลย” บอกให้กรกฎคลายความสงสัย ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน โดยมีกรกฎเดินตามเข้าไปอย่างเงียบๆ
      “หนูพิมพ์มาแล้วเหรอ มาๆ ดูซิ ไม่ได้เจอกันนาน สวยขึ้นซะจนอาจำไม่ได้เลย ดีนะที่พ่อหนูโทรมาบอกก่อน ไม่งั้นจำกันไม่ได้จริงๆ” ณรงค์เพื่อนของพ่อเอ่ยทักพิมพ์รตาอย่างเอ็นดู
      “สวัสดีค่ะคุณอา คุณอาก็ยังดูหนุ่มไม่เปลี่ยนเลยนะคะ”   พิมพ์รตายกมือไหว้อย่างนอบน้อม
      “คุณอาค่ะ นี่กรกฎค่ะ กรกฎไหว้คุณอาณรงค์สิ” พิมพ์รตาไม่ลืมแนะนำให้ทั้งสองคนรู้จักกัน กรกฎยกมือไหว้อย่างนอบน้อมเช่นกัน
      “หวัดดีจ๊ะ ใช่คนที่พ่อหนูให้มาคอยดูแลหนูใช่ไหม” ณรงค์รับไหว้ ก่อนเพ่งมองดูกรกฎอย่างสนใจ ‘หน้าตาเด็กๆ แบบนี้นะ นครบอกฝีมือดี’
      “ใช่ค่ะ”
      “อื้ม...ดีแล้วล่ะ ช่วงนี้หนูต้องระวังตัวให้มากหน่อยนะ”
      “พ่อครับวุฒิออกไปข้างนอกนะครับ” เสียงวรวุฒิลูกชายคนเล็กดังเข้ามาโดยไม่เห็นตัว
      “วุฒิ...ตาวุฒิ เข้ามานี่ก่อนลูก” ณรงค์รีบเรียกให้ลูกชายเข้ามาหา
      “ทำไมครับพ่อ วุฒิจะรีบไป เพื่อนมันรออยู่” เสียงบ่นดังมาพร้อมตัวชายหนุ่มผิวขาวตี๋ ตัวสูง หุ่นเพรียวแต่งตัวสไตล์เคป๊อปที่กำลังนิยมกัน
      “วุฒิจำน้องพิมพ์ได้ไหม ลูกอานครไง น้องเพิ่งกลับมาจากฝรั่งเศส หนูพิมพ์จำพี่เค้าได้ไหม ตอนเด็กๆ เราสองคนเคยเล่นด้วยกัน เวลาที่อาไปบ้านหนูไง” ณรงค์บอกให้ทั้งสองคนได้รู้จักกัน และรื้อฟื้นความหลังของทั้งคู่
      “สวัสดีค่ะพี่วุฒิ” พิมพ์รตาเอ่ยทักยิ้มๆ และยกมือไหว้เพราะ   วรวุฒิแก่กว่าเธอ
      “หวัดดีจ๊ะน้องพิมพ์ โห...โตมาสวยไม่เบานะเรา” วรวุฒิถือโอกาสเข้ามาโอบกอดพิมพ์รตาทันที เธอรีบดันตัวออกห่างอย่างไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก ถึงแม้ว่าทั้งสองครอบครัวจะสนิทสนมกัน แต่ระหว่างเธอกับเขาไม่ได้สนิทกันขนาดที่จะกอดกันได้แบบนี้
      “พี่ขอโทษนะ ลืมตัวไปหน่อย” วรวุฒิบอกแก้เก้อ ยิ้มกรุ้มกริ่มให้พิมพ์รตา กรกฎจ้องมองอย่างไม่ชอบใจกับการกระทำของวรวุฒิ
      “รู้จักกันไว้ วันหลังก็ไปรับน้องไปทานข้าว ไปเที่ยวบ้างนะ น้องเค้าเพิ่งกลับมา คงไม่ค่อยได้ไปไหน” ณรงค์บอกลูกชายด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เพราะตัวเขาเองหวังให้ลูกชายได้ดองกับลูกสาวของนครอยู่แล้ว รวยมหาศาลขนาดนั้น ปล่อยให้หลุดมือก็โง่เต็มที
      “ไปวันนี้เลยมั๊ย พอดีพี่นัดกับเพื่อนไว้ไปไหมคะ” วรวุฒิรับมุขพ่อทันที
      “เอ้อ...คงต้องขอเป็นวันหลังดีกว่าค่ะ วันนี้คงไม่สะดวกพอดีพิมพ์มีธุระค่ะ งั้นพิมพ์ลาคุณอาเลยนะคะ” พิมพ์รตาถือโอกาสลากลับทันที พร้อมกับยกมือไหว้ลา กรกฎยกมือไหว้ตามก่อนจะรีบเดินออกมารอพิมพ์รตาที่รถ
      “เอางั้นเหรอ อาคิดว่าจะอยู่ทานข้าวกับอาซะอีก” ณรงค์ยังเอ่ยชวน
      “ต้องขอเป็นวันหลังนะคะ” พิมพ์รตาบอกอย่างนอบน้อม
      “ตามใจ คนหนุ่มคนสาวก็อย่างงี้แหล่ะ ไปไวมาไว” พูดกลั้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะโอบกอดพาพิมพ์รตาเดินออกมาส่งที่รถ โดยมีวรวุฒิลูกชายเดินตามไม่ห่าง สองพ่อลูกยืนส่งจนรถพิมพ์รตาที่มีกรกฎขับแล่นออกไป
      “สวยใช้ได้เลยนะ แกว่าไหม” ณรงค์หันมาถามลูกชาย
      “ก็พอดูได้” ลูกชายบอกพร้อมกับยักไหล่นิดๆ
      “ถ้าแกได้มาเป็นเมีย รับรองแกมีกินมีใช้ไปตลอดชาติ ลูกสาวเจ้าของร้านเพชรอันดับหนึ่งเชียวนะโว๊ย” ณรงค์บอกลูกชายให้รับรู้
      “แบบนี้ก็ค่อยน่าสนใจหน่อย” วรวุฒิบอกพ่อด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
      “ถ้าแกคิดจะจีบเค้า ก็ควรทำงานให้เป็นเรื่องเป็นราวซะที มัวแต่ทำตัวเหลวไหล เค้าจะรับช่วงแทนพ่อเค้าเชียวนะ” ณรงค์ถือโอกาสต่อว่าลูกชายที่ไม่เอาการเอางาน
      “ผมไปก่อนละพ่อ เดี๋ยวเพื่อนรอ” วรวุฒิรีบเผ่นทันทีก่อนที่พ่อจะเทศน์ยาว
      “แกก็แบบนี้ทุกที ผลาญแต่เงิน ไม่ช่วยหาจนพ่อจะหมดตัวอยู่แล้ว แกยังไม่สำนึก” ณรงค์ยังคงบ่นตามหลังลูกชาย
      วรวุฒิไปเรียนต่อที่อเมริกาก็มัวแต่เที่ยวเกเร จนเรียนไม่จบ ให้กลับมาช่วยงาน ก็ยังไม่ยอมทำ บอกว่าเพิ่งกลับมายังไม่พร้อมทำงาน เอาแต่เที่ยวไปวันๆ ณรงค์เอือมระอากับลูกคนนี้เหลือเกิน พอเจอ  พิมพ์รตา ณรงค์เกิดความคิดที่จะจับให้สองคนแต่งงานกันซะเลย 
      ‘คงต้องลองคุยกับนครดูซะหน่อย หึๆ’ ณรงค์รู้สึกพึงพอใจกับความคิดของตัวเอง

      “เดี๋ยวแวะห้างหน่อยนะ ฉันจะไปซื้อเสื้อผ้าเตรียมใส่ไปทำงานซะหน่อย” พิมพ์รตาบอกกรกฎ
      “ค่ะ” รับคำก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปยังห้างดังใจกลางเมืองหลวง
      กรกฎเดินตามพิมพ์รตาเข้าร้านโน้นออกร้านนี้  โดยเธอมีหน้าที่ถือของให้กับพิมพ์รตา เธอเลือกซื้อเสื้อผ้าของตัวเองได้หลายชุดทีเดียว
      “ปูคราวนี้ถึงตาเธอล่ะ ไปเดี๋ยวฉันเลือกให้” พิมพ์รตาบอก ก่อนเดินนำกรกฎไปร้านที่เธอหมายตาไว้
      “นี่เหมาะกับเธอนะ” พิมพ์รตาหยิบเสื้อทีเชิ้ตสีสดให้กรกกฎดู
      “เอาไว้ใส่วันสบายๆ แบบนี้ไง ชอบไหม” เธอเอาเสื้อมาทาบกับตัวของกรกฎ เอียงคอมองแล้วยิ้มถูกใจ
      “เธอชอบสีไหน”
      “ไม่ต้องซื้อก็ได้ค่ะ” กรกฎบอกอย่างเขินๆ ที่พิมพ์รตาทำแบบนั้น
      “ทำไมล่ะ ฉันซื้อให้ หรือเธอไม่ชอบแบบนี้ สวยดีออก” พิมพ์รตาบอก โดยไม่ได้สังเกตท่าทางเขินๆ ของกรกฎ
      “เกรงใจค่ะ” กรกฎบอกเสียงเบา
      “เกรงใจอะไรกัน งั้นเพื่อความสบายใจของเธอ ฉันซื้อให้ก่อน เดี๋ยวพอเงินเดือนออก เธอค่อยเอามาคืนล่ะกัน เอาตามนี้นะ” พิมพ์รตาสรุปเอง ก่อนเลือกสีตามที่ตัวเองชอบ เพราะรู้อยู่แล้วว่าถ้าให้เลือกเอง กรกฎคงจะเลือกอีกนาน
      “นี่ไงกางเกงขาเดฟ เธอขาเล็กใส่สวย เธอใส่ไซส์อะไรเหรอคงจะแค่เอ็ม เอาไปลองไป เดี๋ยวฉันรออยู่ตรงนี้ไปลองใส่ให้ดูหน่อย” พิมพ์รตาหยิบกางเกงใส่มือให้กรกฎ แล้วดันให้เดินไปทางห้องลองทันที กรกฎเดินไปห้องลองอย่างไม่อาจเลี่ยงได้
      ‘จอมเผด็จการ แล้วทำไมฉันต้องทำตามเค้าด้วยเนี่ย’ กรกฎอดค่อนขอดไม่ได้ แต่ลึกๆ ในใจกลับรู้สึกดีที่พิมพ์รตาทำอะไรให้เธอแบบนี้
      พิมพ์รตาอมยิ้มมองคนที่ค่อยๆ ก้าวออกมาจากห้องลอง ยืนให้เธอดูตามที่บอก
       “ใส่สบายไหม” เอ่ยถามเมื่อเดินมาจับตัวกรกฎหมุนไปมา
      “มันรัดไปเปล่าคะ เวลามีอะไรฉันยกขาเตะไม่ได้แน่ๆ” เอ่ยกลั้วหัวเราะกลบเกลื่อนความเขิน ‘ก็ดูเธอทำเหมือนเป็นแฟนกัน ตูจะบ้า’
      “เค้ากำลังฮิตกันเลยนะ เดี๋ยวก็ชินเองแหล่ะ สวยดีนะฉันชอบ เอาแบบผ้าธรรมดาด้วยก็ได้ ไม่ต้องเป็นยีนส์หมด” พิมพ์รตาบอกยิ้มๆ
      ‘คนบ้าใส่อะไรก็ดูดีไปหมด หุ่นดีขนาดนี้ ไม่รู้จักแต่งตัว เดี๋ยวฉันจะจับเธอแต่งตัวให้จำเค้าเดิมไม่ได้เลย’ พิมพ์รตาอมยิ้มกับความคิดตัวเอง
      “เอาแบบนี้แหล่ะ” หันไปหยิบกางเกงแบบที่กรกฎลองทั้งสีดำ สีขาว แล้วก็สียีนส์ ยื่นส่งให้พนักงานขายที่รอรับอยู่ กรกฎยืนมองอ้าปากหวออย่างตกใจ
      “คุณจะซื้อทำไมหลายตัว เอาตัวเดียวก็พอค่ะ” กระซิบบอกเบาๆ แต่เจ้าหล่อนไม่ได้สนใจฟัง แต่กลับจับมือเธอลากเดินไปยังชุดที่แขวนอยู่
      “นี่เธอใส่กระโปรงเป็นไหม” หันมาถามคนที่เดินตามการลากของเธอมา
      “เป็นค่ะ แต่ไม่ค่อยชอบ ไม่เหมาะกับงานที่ทำ” ตอบเสียงเรียบอย่างเริ่มรู้สึกไม่ค่อยพอใจกับเผด็จการที่ได้รับ
      “อืม...งั้นเอาชุดเดียวละกัน” บอกก่อนหันไปเลือกหยิบชุดมาลองทาบกับตัวของกรกฎทีละชุด
      “ทำไมต้องซื้อด้วยละคะ ไม่ได้จำเป็นอะไร” กรกฎคัดค้านเบาๆ
      “ทำไมจะไม่จำเป็น เธอต้องใส่วันแรกที่ฉันไปทำงาน พ่อต้องเปิดตัวฉัน และเธอก็ต้องไปกับฉันในฐานะเลขาส่วนตัวของฉันไง” หันมาอธิบายให้คนที่ยืนหน้าบูดอยู่ข้างๆ ฟังอย่างใจเย็น
      “เลขาส่วนตัว” เสียงดังอย่างตกใจ
      “ใช่ ฉันจะบอกใครๆ ที่ทำงานว่าเธอเป็นเลขาส่วนตัวฉัน เธอก็ต้องคอยทำอะไรๆ ให้ฉันแบบส่วนตัวไง หรือเธอจะให้ฉันบอกใครต่อใครว่าเธอเป็นบอดี้การ์ดของฉัน เธออยากให้คนเขารู้หรือไง ทีนี้เวลาที่ใครจะทำอะไรฉัน เขาก็รู้หมดซิว่าฉันมีเธอคอยดูแลอยู่” บอกอย่างจริงจัง ก่อนจะหันไปเลือกเดรสสีหวานที่เธอดูก็รู้ว่ากรกฎต้องใส่ออกมาสวยแน่นอน
      “เอาชุดนี้ละกันนะ เธอหุ่นดี ใส่อะไรก็สวย เชื่อฉันสิ เอาน่าแค่วันแรก พอวันต่อไปเธอก็ใส่ปกติตามที่เธอชอบล่ะกัน” บอกกรกฎให้สบายใจ เมื่อเห็นสีหน้าที่ทำท่าลำบากใจ เมื่อเห็นชุดที่เธอยกทาบลำตัวหล่อน

      เมื่อจัดการเรื่องเสื้อผ้าเสร็จ พิมพ์รตาก็พากรกฎไปนั่งทานอาหารในร้านที่อยู่ในห้างนั้น อย่างรู้สึกสบายใจ เธอนั่งอยู่ริมกระจกเห็นคนเดินไปมาส่วนใหญ่ใส่แต่เสื้อลายดอกสีสันสดใส นึกได้ว่าเป็นวันสงกรานต์
      “ใช่...! วันนี้วันสงกรานต์นี่นา ไปเล่นน้ำกันไหม” อยู่ๆ เธอก็หันไปชวนกรกฎอย่างนึกสนุก
      “อะไรนะคะ” กรกฎตกใจกับความคิดของพิมพ์รตา
      “ไปเล่นน้ำสงกรานต์กันไง ฉันไม่ได้เล่นมานานหลายปีแล้วนะ ไปอยู่ต่างประเทศไม่เคยได้กลับมาเลย ไปเป็นเพื่อนฉันนะ นะ”     พิมพ์รตาทำหน้าเศร้า จับแขนกรกฎอย่างอ้อนวอน
      “คุณนี่นะบทจะทำตัวเป็นเด็ก ก็ทำได้เนอะ แล้วคุณอยากไปเล่นที่ไหนล่ะ”กรกฎใจอ่อนจนได้
      “ไปสีลมหรือข้าวสารดี” พิมพ์รตาย้อนถาม
      “สีลมมีแต่วัยรุ่นเล่นแป้งด้วย เดี๋ยวมีคนรุมประแป้งคุณ ฉันคงกันไม่ไหว ไปข้าวสารดีกว่าค่ะ” กรกฎบอกยิ้มๆ อย่างนึกสนุก
      “ขนาดนั้นเลยเหรอ น่าไปนะ ดูซิจะมีคนรุมประแป้งฉันเหมือนอย่างที่เธอว่าไหม ไปซื้อเสื้อกัน ฉันชอบสีฟ้าเธอล่ะเอาสีอะไรดีสีส้มหรือแดงดี” พิมพ์รตาชวนคุยอย่างสนุกแล้วพากันเดินหาซื้อเสื้อผ้าลายดอกเพื่อไปเล่นน้ำสงกรานต์กัน





 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.