web stats

ข่าว

 


Viewfinder - บทที่ 15 Circles

โพสต์โดย: anhann วันที่: 25 กันยายน 2019 เวลา 20:59:10 อ่าน: 612



บทที่ 15 Circles





วิคโตเรียหมุนปากกาเล่นระหว่างดูไลฟ์สดของแอนน์  ซึ่งบันทึกไว้ดูย้อนหลัง  เธอมัวทำงานอยู่จึงไม่ได้ดูแบบเรียลไทม์  เวลาของนิวยอร์กกับโอซาก้าก็ห่างกันตั้งสิบสามชั่วโมงด้วย

แฟน... อย่างนั้นเหรอ 

เธอนึกทบทวนคำพูดของแอนน์  และกรอซ้ำตรงคำพูดนั้นสลับกับมือของใครอีกคนในจอ  มือนั้นเป็นของเจ้าเด็กเคลลี่  ญาติผู้น้องของสามีเธอเอง  ไอ้เด็กตัวแสบนั่นมันคงเอาแอนน์ไปกกสบายใจแล้วสินะ  แต่เธอสนทำไมกัน  ในเมื่อเธอกับแอนน์ไม่สามารถข้องเกี่ยวกันได้อีกแล้ว  เธอกำลังจะมีลูก  ท้องเธอก็ใหญ่ขึ้นทุกวัน  อีกไม่นานชุดทำงานที่เธอชอบใส่ก็จะใส่ไม่ได้  ตอนนี้อะไรๆ ก็ขยายไปหมดแล้ว  เธอเจ็บหน้าอก  ยังคลื่นไส้ทุกวัน  อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ หงุดหงิดง่ายจนแทบไม่มีใครกล้าเข้าใกล้  จอร์แดนยังหลบกลับไปนอนบ้านบ่อยๆ  ปล่อยให้เธออาละวาดกับนารูมิแทน  เป็นสามีที่ชั่วมาก  แค่นี้ก็ทนไม่ได้  ดีแล้วละ  ไม่ต้องอยู่หรอก  ทุกวันนี้เธอเกลียดขี้หน้าจอร์แดนมากกว่าเดิมเสียอีก

ผู้หญิงแพ้ท้องก็แบบนี้แหละ  บางคนก็ไม่ชอบสามีตัวเอง  นารูมิชอบปลอบใจเธออย่างนี้  ทำเหมือนไม่รู้ว่าเธอไม่ชอบจอร์แดนมาก่อนหน้านี้เสียอีก  ที่จริงเธอก็ไม่รู้หรอกว่าชอบใครบ้าง  นอกจากตัวเอง

นิ้วเรียวปลายเล็บสีดำจิ้มตรงจอให้วิดีโอพักอยู่ตรงหน้าของแอนน์พอดี  เธอจ้องใบหน้าน่ารักในจอด้วยความรู้สึกหลากหลาย  คิดถึง  เป็นห่วง  อยากเจอ  แน่นอน  เรื่องแบบนี้มันต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว  เธออยู่กับแอนน์มาตั้งหลายปี  เราผ่านอะไรกันมามากมาย  อยู่ๆ จะให้ลืมแค่เวลาไม่กี่เดือนเท่านี้ได้หรือไง  เธอยังจำกลิ่นกาย  รสชาติจูบของแอนน์ได้อยู่เลย  จำได้ทุกอย่าง  โดยเฉพาะตอนเอาน้ำราดหัวแอนน์ที่เสี้ยนยาจนแทบกรีดข้อมือตัวเองตาย 

จำได้ตอนที่แอนน์เอาเหรียญประกาศกิตติคุณสีทองแดงมาอวดเธอ  มันเป็นการประกาศว่าแอนน์งดยามาได้สามเดือนแล้ว  ต่อมาก็สีเงิน  งดมาได้ครึ่งปี  จากนั้นก็เหรียญทองเมื่อครบหนึ่งปี  พอถึงเดือนที่สิบแปด  แอนน์ก็เป็นผู้ตัดขาดจากโคเคนได้สมบูรณ์แล้ว  แทบจะไม่มีแนวโน้มกลับไปเสพอีกแล้ว  จนกระทั่งตอนนี้  ผ่านไปเกือบสามปีแล้วที่แอนน์เลิกยาได้สำเร็จ  และเธอหวังจริงๆ ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก 

ไม่หรอก  เด็กคนนั้นเข้มแข็งกว่าที่ใครๆ คิดไว้  คนเรามันล้มกันได้ทั้งนั้นแหละ  และเราไม่ควรเหยียบหัวคนล้มด้วย  ถ้าไม่อยากจะโดนเหยียบคืนบ้าง  เธอไม่เคยประมาทแบบนั้น  นี่ขนาดไม่ประมาทนะ  แอนน์ตลบหลังได้แบบนี้เลย

เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะ  วิคโตเรียเอ่ยอนุญาตให้คนเคาะเข้ามาได้  ด้วยรู้ว่าไม่มีใครอยู่ในบริษัทอีกแล้วในเวลาป่านนี้  เหลือแค่เธอกับผู้หญิงหน้าห้องเธอเท่านั้น

"จะกลับหรือยังคะ"  นารูมิถาม  เห็นว่าวิคโตเรียยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยก็ลอบถอนหายใจ  "คุณลืมที่คุณจอร์แดนนัดแล้วหรือ"

"ไม่ลืม  แต่ขี้เกียจไป"  วิคโตเรียตอบอย่างไม่แยแส  "ฉันบอกแดนแล้วละ  ว่าให้มากินที่บ้านแทน  ฉันไม่อยากไปเจอคนเยอะๆ  ตอนนี้เขาก็คงเอาเชฟมาทำอาหารให้เรียบร้อยแล้วมั้ง  ถ้าเขาไม่ลืมนะ"

นารูมิพยักหน้า  ไม่ใช่หน้าที่เธอจะไปขัดคอเจ้านาย  ต่อให้ไม่ชอบยังไงก็ตาม  "แล้วจะกลับเลยไหมคะ  จะได้บอกคนรถให้"

วิคโตเรียพยักหน้า  มองหน้าแอนน์ในจออีกชั่วครู่ก็ปิดมันลง  หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพร้อมกับแฟ้มงานที่จะเอากลับไปดูที่บ้านต่อ  จอร์แดนคงกลับบ้านหลังจากกินมื้อค่ำกับเธอเสร็จแล้ว  จากนั้นเธอก็จะได้มีเวลาทำอย่างอื่นบ้าง 

"คืนนี้เธอร่วมโต๊ะกับเรานะ"  เธอพูดขณะลงลิฟต์ผู้บริหารพร้อมกับนารูมิที่เงียบมาตลอดทางจนเดาไม่ออกว่าคิดอะไร  นารูมิแตกต่างกับแอนน์อย่างสิ้นเชิง  หญิงสาวตัวสูงเป็นคนเงียบๆ  ไม่ช่างพูด  หากก็มีความตลกที่น่ารักแบบที่เธอชอบ  ทั้งยังเป็นเจ้าของเรือนร่างสมบูรณ์แบบด้วย

ความสัมพันธ์ระหว่างเราค่อนข้างซับซ้อน  เธอบอกไม่ได้ว่านารูมิคิดยังไงกับมัน  แต่คงไม่ถึงกับรังเกียจกัน  และมันไม่ใช่แค่เซ็กซ์ด้วย  อะไรบางอย่างขณะเราร่วมรักกันมันบอกเธอแบบนั้น 

"ฉันจะกินในครัวกับแม่บ้าน"  นารูมิปฏิเสธเป็นนัย  นัยน์ตาคมมองปราดมาเหมือนจะเอาเรื่อง  "คุณกับสามีจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันตามลำพัง"

"ทำไมฉันรู้สึกเหมือนเธอกำลังประชด"  วิคโตเรียเงยหน้าขึ้นมองคนสูงกว่า  นารูมิก้มมองเธอ  เธอจับคอเสื้อเชิ้ตของอีกฝ่าย  ปลายนิ้วไล้เล่นบนต้นคอ  แก้มขาวของหญิงสาวแดงเรื่อ

"คุณวิค"

"บอกฉันสิว่าเธอไม่พอใจ  บอกสิว่าเธอไม่ชอบเวลาจอร์แดนมา"

นารูมิเบือนสายตาหนี  เกลียดที่วิคโตเรียชอบทำแบบนี้กับเธอทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเธอคิดยังไง  เป็นผู้หญิงนิสัยไม่ดีเลย  แต่ทำไมเธอไม่หนีไปนะ

"โอเค  ไม่ถามก็ได้"  วิคโตเรียเลิกเล่น  "เธออารมณ์เสียง่ายกว่าฉันเสียอีกนะ  รู้ตัวไหม"

"คุณชอบแกล้งฉัน"

"โอ้  พูดเป็นเหมือนกันนี่นา"

นารูมิกลอกตา  เอื้อมมือไปกดปุ่มหยุดลิฟต์ก่อนจะดึงอีกฝ่ายมาประชิดตัว  มองรอยยิ้มยั่วยวนของวิคโตเรียแล้วมันรู้สึกประหลาดทุกที  เธอตื่นตัวเพราะมัน  ทำให้อยากจะจูบผู้หญิงแสนพยศคนนี้เหลือเกิน

แล้วเธอก็ทำแบบนั้น

มือล้วงเข้าไปใต้กระโปรงวิคโตเรียระหว่างแข่งกันว่าใครจะจูบเก่งมากกว่า  เธอสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นของหญิงสาว  วิคโตเรียยกขาเกี่ยวตัวเธอ  เปิดทางให้สอดมือเข้าไปในกางเกงใน  ปรนเปรออีกฝ่ายที่บ่งบอกความต้องการออกมาอย่างเต็มที่  ไม่ถึงห้านาทีวิคโตเรียก็ร้องอื้อในปากเธอ  จิกไหล่เธอระบัดระบายอารมณ์  น้ำรักท่วมท้นฝ่ามือเธอ  แต่หลังจากนั้นก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  เธอเช็ดมือด้วยทิชชูและทิ้งลงถังขยะเมื่อออกจากลิฟต์และพาเจ้านายสาวไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ 

รถเบนซ์มีคนขับ  หากที่นั่งระหว่างผู้โดยสารด้านหลังกับคนขับตัดขาดกันด้วยกระจกเหมือนในแท็กซี่  มีอินเตอร์คอมเอาไว้สื่อสาร  และมีม่านบังกระจกอีกที  ไม่ให้เห็นว่าเธอกับนายจ้างกำลังทำเรื่องบัดสีกันต่อ

มันกลายมาเป็นแบบนี้ได้ยังไงกันนะ  เธอชอบแบบนี้งั้นหรือ

"เธอสำคัญกับฉันมากกว่าคนที่นอนด้วยกันนะ  แนท"  วิคโตเรียพูดขณะนอนหนุนตักนารูมิอยู่ในเบาะหลัง  กลิ่นเซ็กซ์จางๆ ยังอบอวลในอากาศ  นารูมิไม่ได้มาเพื่อทดแทนแอนน์  แต่เป็นอะไรที่เธอไม่เคยมีมาก่อน

"ฉันไม่รู้ว่าควรต้องพูดอะไร"

"ไม่ต้องพูดก็ได้  แค่เธอเข้าใจฉันก็พอ  เข้าใจว่าฉันจำเป็น"

"คุณเห็นแก่ตัว"

"ถูก  เพราะฉันอยากให้เธออยู่ด้วย  แม้ว่ามันจะผิด" 

"ฉันก็ไม่ได้คิดจะไปไหน"

"เพราะตอนนี้เธอยังไม่ได้หามันต่างหาก" 

นารูมิหยุดมือที่กำลังลูบผมสลวยของคนบนตัก  มองออกไปนอกหน้าต่าง  แสงสีของนิวยอร์กไม่ได้ทำให้เธอตื่นเต้นเหมือนสมัยยังเป็นวัยรุ่นอีกต่อไปแล้ว  ในอายุยี่สิบห้าปี  เธอเหมือนคนแก่สักห้าสิบ  แทบจะไม่มีพลังจะคิดทำอะไรเลย  ถ้าไม่ได้อยู่กับวิคโตเรียแบบนี้  เธอก็ไม่รู้จะไปไหนดี

"ฉันไม่รู้จะอยู่เพื่อใคร  ไม่รู้จะทำอะไรไปทำไม  ไม่มีใครที่จะภูมิใจกับสิ่งที่ฉันทำอีกแล้ว  ฉันเหลือแค่ตัวคนเดียว"

"มีใครคนหนึ่งเคยพูดกับฉันแบบนี้  แต่ตอนนี้เธอไปไกลแล้วละ"

"มิสบราวน์"

วิคโตเรียพยักหน้า  นึกถึงใบหน้าของคนที่อยู่โอซาก้าแล้วยิ้มเจื่อน

"คุณรักเธอไหม"  นารูมิถาม  นึกสนใจขึ้นมา

"ฉันขอเรียกมันว่าความผูกพันจะดีกว่า"  วิคโตเรียตอบ  ช้อนตาขึ้นมองเจ้าของตัก  มือแตะแก้มนารูมิเบาๆ  "เราเจอกันในสถานการณ์ที่ไม่ดีนัก  และมันเป็นอะไรที่ฉันลืมไม่ได้"

"เพราะมันมีความหมายต่อคุณ"

"ฉันรู้สึกเหมือนคืนปีกให้กับนางฟ้าอีกครั้ง"

นารูมิฟังแล้วอดอิจฉาหญิงสาวผู้นั้นไม่ได้  แม้เธอจะไม่ได้อยากจะเป็นนางฟ้า  หรือกลับคืนสู่สวรรค์อะไรเลย  แค่ไม่ต้องลงนรกก็ดีแล้ว

"เธอคนนั้นทำให้ฉันต้องทำอะไรที่ไม่เคยทำ  ในชีวิตที่ไม่ดีของฉัน  ได้มีสักครั้งที่ได้ช่วยใครสักคนที่ต้องการความช่วยเหลือ  มันก็ดีใช่ไหมล่ะ"

"คุณกำลังทำแบบนั้นกับฉันอยู่หรือเปล่า"

"ไม่"  วิคโตเรียส่ายหน้า  "เพราะเธอไม่ได้ต้องการฉัน  ฉันต่างหากที่ต้องการเธอ"

นารูมิส่ายหน้า  หากริมฝีปากสวยปรากฏรอยยิ้ม  มือขยับลูบศีรษะคนบนตักต่อไป  วิคโตเรียยิ้ม  เธอรู้สึกว่ามันสวยมาก  มันทำให้หญิงสาวสวยขึ้น  และดูเป็นมนุษย์มากกว่าที่เคย...ไม่ใช่นังแม่มดไร้หัวใจ

"วันนี้ฉันคลื่นไส้น้อยลงแล้วละ"  วิคโตเรียพูด  จับมือนารูมิมาวางบนท้องตัวเอง  มือนั้นเลื่อนเบาๆ ราวกับจะสื่อสารกับชีวิตน้อยๆ ในนั้น  ถ้าจอร์แดนจะรู้จักทำแบบนี้บ้างก็คงดี  บางทีเขาอาจจะกลัวเธอรำคาญ

"แต่คัดหน้าอกมาก  เจ็บไปหมดเลย  ร่างกายผู้หญิงนี่น่าเบื่อเนอะ"

"มหัศจรรย์ต่างหากค่ะ"  นารูมิแย้ง  "คุณกำลังจะให้กำเนิดอีกชีวิตหนึ่งขึ้นมาเลยนะ  ไม่คิดว่ามันน่าทึ่งหรือไง"

"ก็คงงั้น  ถ้าฉันอยากมี"

"ถึงจะพูดอย่างนั้น  เวลาแบบนั้นคุณก็ไม่ได้ป้องกัน  แปลว่าลึกๆ แล้วคุณอาจจะอยากมีเขาก็ได้"

"เธอป้องกันทุกครั้งที่มีเซ็กซ์หรือไงล่ะ"  วิคโตเรียถาม  นารูมิฮัมรับ  คนตั้งใจจะประชดเลยหมดอารมณ์

"เพราะฉันไม่พร้อม  และถ้าพลาดขึ้นมา  ฉันก็คงทำใจเอาเขาออกไม่ได้  ดังนั้นฉันจึงต้องเคร่งครัดกับเรื่องแบบนี้  แต่จริงๆ มันก็ไม่ได้บ่อยที่ฉันจะทำแบบนั้นกับใคร  ถ้าไม่ใช่กับแฟน"

"ฉันก็ไม่ใช่แฟนเธอ  คงเพราะฉันเป็นผู้หญิงสินะ"

"ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ"  นารูมิตอบ  จับมือวิคโตเรีย  คลึงปลายนิ้วเล่น  รู้สึกชอบความกะทัดรัดของมือหญิงสาว  มันไม่ได้ดูเทอะทะเหมือนมือเธอ

"อย่าบอกว่าเธอชอบฉัน"

"ถ้าไม่ชอบก็คงจะทำแบบนั้นไม่ได้มั้งคะ"

วิคโตเรียส่ายหน้ากึ่งยิ้มกับคำตอบที่ได้  เธอหลับตาลง  "จริงๆ ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าฉันต้องการอะไรกันแน่  แค่ตอนนี้ฉันอยากให้เธออยู่ตรงนี้"

"ฉันก็ไม่ได้คิดจะไปไหนเร็วๆ นี้"  นารูมิตอบ  "เพราะงั้นฉันคงจะอยู่กวนใจคุณไปอีกพักใหญ่ๆ เลยละ"

"บังเอิญว่าฉันก็ชอบถูกกวนด้วยสิ"  วิคโตเรียยกมือที่ประสานกันขึ้นมา  งับปลายนิ้วนารูมิอย่างหยอกเอิน  เธอยังได้กลิ่นตัวเองติดอยู่ตรงนั้น

.....................................

"ทุกคนคะ  ตอนนี้แอนน์มาอยู่ที่นี่แล้ว!"  แอนน์ประกาศอย่างร่าเริงกับกล้องที่เคลลี่ถืออยู่  เธอเห็นรอยยิ้มมุมปากของช่างภาพตรงหน้า  แต่ทำเมินมันเสีย  ยังไม่หายเคืองเคลลี่ที่เกือบทำให้เราสายกัน  จริงๆ เธอก็ผิดด้วย  ถ้าเธอไม่โอนอ่อนตามไปเราก็คงไม่ต้องรีบกันจนหอบแบบเมื่อเช้า

เธอตั้งเวลาปลุกไว้หกโมงเช้าเพื่อจะเตรียมตัวไปถ่ายงาน  แม้ว่าจะเดินทางสะดวกด้วยรถไฟที่มีไปถึงที่นั่นเลย  ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีก็ถึงแล้ว  หากเธอก็ต้องเตรียมของหลายอย่างใส่กระเป๋าไปด้วย  ไหนจะแต่งหน้าอีก  แต่เคลลี่ก็เกือบทำให้เธอสาย

เธอปิดนาฬิกาปลุกที่ใช้โทรศัพท์มือถือตั้งไว้  ตั้งใจจะนอนต่ออีกสักห้านาที  แต่ยังไม่ทันหลับดี  ใต้ผ้าห่มก็มีอะไรยุกยิกอยู่  ความอ่อนเพลียที่เป็นผลพวงมาจากการเดินเขาเมื่อวานทำให้เธอใส่ใจมันน้อยมากจนกระทั่งได้ยินเสียงตัวเองครางออกมา  ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่ได้สติทั้งที่มือขยุ้มหัวที่มุดอยู่ตรงหว่างขาอย่างเหลือจะอดทน  สะโพกแข็งค้างขณะลิ้นซนๆ สอดเข้ามาข้างในกายจากนั้นสมองก็ขาวโพลนไปหมด  เธอหอบเป็นหมาเหนื่อย  กระนั้นยังยกสะโพกตอบรับแรงกระแทกกระทั้น  ยังนึกว่าฝันอยู่จนตอนนั้น  เป็นฝันที่เสมือนจริงเกินไปมาก  ทั้งความเสียวซ่าน  ทั้งความจุกเสียดที่ถูกรุกล้ำอธิปไตย  แรงที่อวัยวะภายในของเธอกระทำกับสิ่งแปลกปลอมที่สร้างความสุขหฤหรรษให้  เธอไม่แน่ใจว่าออกัสซึ่มไปกี่ครั้ง  แค่รู้ผ้าปูที่นอนแฉะ  และเธอคงต้องจ่ายค่าซักรีดให้ทางโรงแรม  --  ให้เจ้าคนทำมันจ่ายสิ!

แอนน์มารู้ตัวว่าโดนลักหลับก็ตอนเคลลี่ตวัดลิ้นกับยอดถันที่แข็งเป็นไตของตน  ไม่ต้องบอกว่าตกใจแค่ไหน  ตอนลืมตามาเห็นว่ามีคนคร่อมร่างเธออยู่และกำลังดูดนมตัวเอง  แถมมือเธอก็กำลังกดศีรษะด้านหลังของอีกฝ่ายอยู่ด้วย  เหมือนกลัวเคลลี่จะเลิกดูด  ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้ห้าม  ทั้งยังพลิกตัวขึ้นมากลายร่างเป็นจ๊อกกี้ขี่ม้าแข่ง  ควบขี่เคลลี่จนถึงเส้นชัยไปเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้  แล้วเธอก็ทรุดตัวลงในอ้อมแขนคนทะลึ่งที่มันพาเธอหื่นแต่เช้า  จากนั้นก็หลับ...

ตื่นอีกทีเกือบจะแปดโมงแล้ว!

เราต้องรีบกันแทบตาย  เพราะที่ที่เราจะไปกันเปิดเก้าโมงเช้า  แต่จะมีคนไปรอกันก่อนเปิดเยอะมาก  เธออยากได้บรรยากาศตอนนั้น  โชคดีที่เจ้าเด็กตัวแสบมันจองตั๋วให้ไว้แล้วทางแอปพลิเคชั่น  ไม่อย่างนั้นเธอคงจะตีให้ก้นลายไปตั้งแต่เช้าละ

อันที่จริงเธอก็ไม่ได้หงุดหงิดหรอก  ที่เคลลี่ทำแบบนั้นเมื่อเช้า  รู้สึกชอบมันเสียด้วย  มันดีที่ได้ตื่นมาเจอคนที่นอนข้างๆ กันเมื่อคืน  ไม่ได้มีแต่ความว่างเปล่าของหมอนข้างๆ  เธออยากได้คนที่กอดเธอแน่นๆ  ไม่ทิ้งเธอไว้ให้เคว้งคว้างตามลำพัง

"ยูนิเวอร์ซัล  สตูดิโอส์  เจแปนค่ะ"  แอนน์พูดต่อ  โบกมือไปทางข้างหลังให้คนดูได้เห็นซุ้มประตูทางเข้าสวนสนุก  "ที่โตเกียวเราไปดิสนีย์ซีกันมาแล้ว  คราวนี้ในเมื่อแอนน์ยังอยู่โอซาก้า  ถ้าจะไม่มาที่นี่ก็คงจะไม่สมกับที่อุตส่าห์ได้มาใช่ไหมคะ  ดังนั้น  มาเที่ยวไปพร้อมกับแอนน์เลยค่ะ"

เคลลี่กดปุ่มหยุดการบันทึกภาพเมื่อแอนน์ส่งสัญญาณทางสายตา 

"อึ๋ย  รถไฟเหาะอะนะ"  แอนน์ทำหน้าตาตื่นใส่เคลลี่ที่จับแขนเธอวิ่งไปทางนั้น  "อยากเห็นฉันกรี๊ดหรือไงเนี่ย"

"ไม่น่ากลัวหรอกน่า  ออกจะมุ้งมิ้ง"  เคลลี่บอก  แต่แอนน์ยังลังเล

"เข้าไปดูก่อนก็ได้  และถ้าพี่ไม่ขึ้นรถไฟเหาะ  จะมีอะไรที่สนุกกว่านี้อีกล่ะ  ไหนลองบอก"

แอนน์ส่ายหน้า  พลางพึมพำ  "ก็มีโลกเวทมนตร์แฮร์รี่  พอตเตอร์"

"อันนี้ไว้ค่อยไปหลังจากนี้ละกัน"  เคลลี่บอก  "มีสามเครื่องเล่นให้เลือก  เอาอันไหน"

แอนน์ดูโบรชัวร์ในมือเคลลี่แล้วสยอง  ไม่ว่าอันไหนก็น่ากลัวทั้งนั้น

"เอาอันแรกละกัน  ฮอลลีวูด  ดรีม  เดอะไรด์"  เคลลี่ตัดสินใจแทนแอนน์ที่ยังไม่ทำท่าจะเลือกสักที  "ถ้าเป็นแบ็กดรอป  มันจะถอยหลัง"

"เอาอันแรก"  แอนน์ตัดบท  ยังไงเธอก็ต้องขึ้นอยู่แล้ว  เคลลี่เล่นซื้อตั๋วเครื่องเล่นมาหมดทุกอย่าง  ใช้แอปเดียวกับที่ซื้อตั๋วเข้านั่นแหละ  ซึ่งจริงๆ เธอก็ได้ส่วนลด  เพราะพวกเขาเป็นสปอนเซอร์ให้

"งั้นไปกันเลยเถอะ"

"แบบนี้ฉันต้องถือไม้กันสั่นเองใช่ไหม"

"ไม่เป็นไร  ฉันถือให้"  เคลลี่ตอบ  จัดการเสียบกล้องตัวเล็กกับไม้กันสั่นที่ต้องพกมาด้วยตลอด  เธอปรับทิศทางมันให้เหมือนกับแอนน์เป็นคนถ่ายเอง  ซึ่งไม่ยากนักเพราะทำเป็นประจำอยู่แล้ว

"คนต่อคิวน้อยจัง"  แอนน์พูดเสียงไม่มั่นใจ  เคลลี่ยังไม่ได้บันทึกเทป  เธอยังไม่ต้องเก๊กว่าไม่กลัว  มองหน้าช่างภาพอีกที  เคลลี่ยกนิ้วโป้งเชียร์กลับมา  เด็กบ้านี่คิดว่าเธอเป็นขาลุยนักหรือไงนะ

"ขึ้นกันเหอะ  เดี๋ยวพี่ซื้อหนมให้กิน"

"นี่แน่ะพี่" 

เคลลี่หัวเราะ  เพราะแอนน์ตีแขนเธอ  แถมค้อนตาเขียวปั๊ด  สงสัยยังเคืองเรื่องเมื่อเช้าอยู่  เธอก็แค่คึกไปนิดเท่านั้นเอง 

"จุ๊บที"

"อยากโดนตบไหม"  แอนน์ขู่ฟ่อ  แต่เผลอมองริมฝีปากเจ้าแฟนบ้าของตน  เราตกลงเป็นแฟนกันเมื่อคืนหลังจากเคลลี่ให้สร้อยกับจี้อมูเล็ตมา 

อาจดูเหมือนเธอเป็นคนชอบของกำนัล  พอได้ของก็รับรักอีกฝ่ายทันที  เคลลี่จะคิดแบบนั้นด้วยหรือเปล่า  เธอไม่รู้  เท่าที่เธอรู้แก่ใจมันไม่ใช่

เธออยากได้เคลลี่เป็นแฟนมานานแล้วต่างหาก

ใช่  เธออยากได้เคลลี่มานานแล้ว  แค่ไม่มีจังหวะเท่านั้น  หากจะบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ดี  ยังติดพันธะกับคนอื่นอยู่  แต่กลับอยากได้อีกคน  เธอก็ขอยอมรับว่ามันเป็นจริงอย่างนั้น  ในเมื่อเธออยู่กับคนนี้แล้วสุขใจ  มันจะผิดยังไงก็ต้องยอม

เคลลี่ยกมือยอมแพ้  แต่สีหน้าทะเล้นบอกคนละเรื่องกับแอนน์  เธออยากจะหยิกเจ้าเด็กนี่ให้เนื้อเขียว  หากจำได้ว่าต้องทำงานก่อน  และเคลลี่ก็ต้องพาเธอขึ้นรถไฟเหาะบ้าๆ ตรงหน้านี้ด้วย  เธอจะช็อกตายหรือเปล่านี่

แอนน์จำได้แต่เสียงกรี๊ดของตัวเอง  นึกไม่ออกเลยว่าพูดอะไรไปกับกล้องบ้าง  จนกระทั่งมาเปิดเทปดู  เธอสติแตกมาก  พูดอะไรแทบไม่รู้เรื่อง

"ตัดออกให้หมดเลยนะ"  เธอสั่ง  เอานิ้วดันปลายจมูกเคลลี่ที่ยิ้มขำๆ อยู่ตรงหน้า  สักพักก็ทำให้เธอหน้าแดงด้วยการเอามือมาลูบผมเธอและบอกว่า  'ผมยุ่งหมดแล้ว'

แอนน์กัดปากตัวเองแก้เขิน  เธอไม่รู้เลยว่าเคลลี่เห็นอะไรในตัวเธอ  ถึงได้มารักเธอได้  เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ดี  ไม่ได้นิสัยดีนัก  ค่อนข้างหมกมุ่นกับบางอย่างมากเกินไป  และไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่อง

ดูจะไม่เหมาะสมกับคนระดับลูกหลานตระกูลมิลเลอร์เลย

"ไปหาแฮร์รี่กัน"  เธอคว้ามือเคลลี่และจูงเดินไปทางที่จะไปสู่โซนโลกเวทมนตร์ที่เป็นธีมหลักของคลิปที่เธอมาถ่ายทำในวันนี้ 

แต่แล้วขณะเดินอยู่  เคลลี่ก็พูดขึ้นมา

"ฉันมีความสุขที่ได้อยู่กับพี่ทุกวัน"

"ฉันก็มี"  แอนน์ตอบโดยไม่ต้องคิด  แกว่งมือที่จับกันอยู่ระหว่างเดินต่อไป  จากนั้นเธอก็พาเคลลี่วิ่งเข้าซุ้มประตูโลกเวทมนตร์ไปพร้อมกับเสียงหัวเราะใสๆ มีความสุขของตัวเอง

.....................................................

เคลลี่ล้วงโทรศัพท์มือถือตัวเองโทรออกระหว่างที่แอนน์เข้าห้องน้ำ  รอไม่นานก็มีคนรับสาย  เธอโทรผ่านเฟซไทม์จึงแทบไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะรับ  แต่ดูเหมือนจอร์แดนจะว่างอยู่

"ไม่ได้อยู่กับเมียหรอกเหรอ"  เธอถาม  จงใจกวนอารมณ์ญาติผู้พี่ 

"เพิ่งกลับมา"  จอร์แดนตอบ  เคลลี่ได้ยินเสียงเพลงของแรปเปอร์ชื่อดังผ่านลำโพงมาด้วย  เธอไม่รู้มาก่อนว่าจอร์แดนฟังเพลงแบบนี้ด้วย 

"แล้วไหงทำเสียงหงอยแบบนั้นล่ะ"

"ใช้เงินเยอะนะ  เจ้าตัวดี"

เคลลี่สะดุ้งเมื่อจอร์แดนจี้ใจดำ  คงเพราะเธอไปทำเขาก่อน 

"ได้แล้วใช่ไหม  ที่อยากได้น่ะ"  จอร์แดนถาม  เสียงหยันขึ้นจมูก  "ก็ไม่ได้ยากใช่ไหมล่ะ  แค่มีเงินก็พอ"

"ถ้าอยู่ใกล้ๆ นะ  ฉันจะเตะผ่าหมากให้พูดไม่ออกเลย" 

"อ้าว  ก็มันจริงนี่  ผู้หญิงคนนั้นก็สนใจแต่เงินไม่ใช่หรือไง  เมื่อก่อนก็เป็นแบบนั้น  หรือตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วล่ะ"

"แอนน์ไม่ใช่คนแบบนั้น  ฉันบอกพี่กี่ครั้งแล้ว  แดนนี"

"ความรักทำให้คนตาบอด  ฉันเข้าใจ"

"เพราะพี่เองก็ยังรักนังแม่มดนั่นอยู่ใช่ไหมล่ะ"

"อย่าเรียกเมียฉันแบบนั้น  เจ้าเค"

"พี่พูดถึงแฟนฉันไม่ดีก่อน  แอนน์ไม่ได้เป็นแบบที่พี่คิดหรอกนะ"

"โอเคๆ  งั้นก็บอกเรื่องที่อยากจะพูดมา  ไม่ได้แค่จะอวดแฟนอย่างเดียวหรอกใช่ไหม"  จอร์แดนตัดบท  เสียงรำคาญ 

เคลลี่รู้อยู่แล้ว  พอพูดถึงแอนน์เมื่อไหร่  ญาติผู้พี่ของเธอก็อารมณ์เสียขึ้นมาทุกที  ท่าทางจะชิงชังคนที่เมียตัวเองเคยเล่นชู้ด้วยมาก  ที่จริงเขาน่าจะเข้าใจว่าคนแบบวิคโตเรียอยู่กับเขาไม่ได้  ผู้หญิงคนนั้นชอบผู้หญิงที่เป็นผู้หญิงจริงๆ  แต่จอร์แดนไม่ใช่  ต่อให้สวยหรือหุ่นดีขนาดไหนก็เถอะ

"บ้านที่พรอวิเดนซ์ยังอยู่ไหม"

"หลังไหน  ที่เธอเคยอยู่น่ะเหรอ  ยังอยู่สิ"

"ไม่ใช่  ที่เมียพี่เคยเอามาจำนองน่ะ  ขายไปหรือยัง"

"ขายได้ไง  วิคจะได้มาถลกหนังหัวฉันน่ะสิ"

"หืมม์  ขนาดนั้นเลย"

"อืม  หวงมาก  ไม่รู้จะหวงทำไมนักหนา  เก่าไปทุกวันแล้ว"

"ช่วยให้คนไปทำความสะอาดให้หน่อยได้ไหม  อีกสองสามวันฉันจะไปพัก  น้ำไฟยังมีใช่หรือเปล่า"

"นึกยังไงขึ้นมา  เค  อ้อ  ฉันจำได้แล้ว  บ้านเก่าของผู้หญิงคนนั้น"

"นั่นแหละ  ดูเหมือนแอนน์จะอยากไประลึกความหลังที่นั่น  ช่วยหน่อยนะแดนนี"

"ทุ่มเทมากไปหรือเปล่า"

"ช่างฉันเหอะน่า  ฉันรักของฉัน  ว่าแต่เรื่องนั้นไปถึงไหนแล้ว" 

"ไว้ค่อยคุยกันตอนเธอกลับมาละกัน  ตอนนี้ฉันง่วง  ขี้เกียจคุย"

"โอเค  แอนน์ออกมาแล้วเหมือนกัน"  เคลลี่ตอบ  "เดี๋ยว  แดนนี"

"ว่าไง"

"ขอบคุณนะ  ไว้จะตอบแทนให้"

"ทำงานให้ดีก็พอ"  จอร์แดนตอบและวางสายไป

"โทษที  คนเยอะมากเลย"  แอนน์พูด  หน้ามุ่ยเดินกลับมาหาเคลลี่

"ไม่เป็นไร  ไปกันเถอะ"

"ไปซื้อของที่ระลึกกันนะ  ฉันอยากได้ผ้าพันคอกริฟฟินดอร์"

"ไม่ใช่สลิธีรินหรอกเหรอ"

"เธอน่ะสิ  สลิธีริน  ทั้งหน้าตาและนิสัยได้มาก"

"โหย  ว่าแฟนตัวเองซะเสียหมดเลยนะ  แต่ไม่เป็นไร  สลิธีรินมีแต่คนเก่ง  ฉันชอบสีเขียวด้วย"  เคลลี่พูดอวดๆ  จับมือแอนน์เดินเหมือนจูงเด็ก  คนตัวเล็กก็ดูเหมือนจะชอบด้วย  อาจจะกลัวหลงทางกัน

"วันนี้สนุกไหม"  แอนน์ถาม  กังวลทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  เคลลี่ไม่มีสิทธิ์บ่นเวลาเรามาถ่ายงานกัน  แต่ตอนนี้เคลลี่ไม่ได้เป็นแค่ช่างภาพเฉยๆ อีกต่อไปแล้ว

"มากๆ"  เคลลี่ตอบ  ยกมือที่จับกันอยู่ขึ้นมาและพลิกด้านที่เป็นมือแอนน์มาจูบ  เห็นแก้มที่ขึ้นเป็นริ้วสีชมพูของหญิงสาว  เธอก็ไม่สนใจแล้วว่าใครจะมองเราหรือไม่ 


.....................................


:58: :44:

Viewfinder เปิดจองวันนี้ - 5 ตุลาคม 2562

สั่งจอง >>> http://bit.ly/2kxIxn3  หรือ ไลน์ anhann นะคะ

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

26 กันยายน 2019 เวลา 10:19:21
:21: เอาเข้าจริงๆนะ เราชอบอ่านเรื่องของวิคกะแนท มากกว่า แอนน์กะเค ไปแล้ว ให้ความรู้สึกว่ามีความเป็นมนุษย์ มากกว่าแอนน์เหมือนคนเมายาอยู่กับความลุ่มหลง มัวเมา ตัญหา การสร้างภาพ จนเข้าเส้นนางไปแล้ว
แสดงความคิดเห็น