web stats

ข่าว

 


Viewfinder - บทที่ 9 Secret Love Song

โพสต์โดย: anhann วันที่: 13 กันยายน 2019 เวลา 20:16:02 อ่าน: 580





เธอชอบมองเวลามีคนปรนเปรอเธอแบบนี้  ชอบฟังเสียงดูดเลียน่ารังเกียจที่อีกฝ่ายกระทำ  เธอหยัดสะโพกให้เรียวลิ้นนั้นสอดแทรกเข้ามาลึกเท่าที่มันจะทำได้  ขยุ้มเส้นผมยาวสีเข้มอย่างมีอารมณ์  เปล่งเสียงร้องสุขสมเมื่อถูกฉุดไปสู่สวรรค์  ขณะนี้เธอเสียวซ่านไปถึงสมอง  ไม่ต้องคิดอะไรอีกต่อไป  มือผอมๆ ช้อนท่อนขาทั้งสองของเธอขึ้น  กดริมฝีปากดูดกินเธอเหมือนอร่อยมาก  เธอแทบคลั่งระหว่างที่ลิ้นนั้นตวัดซอกไซภายในของเธอ

โอ้  พระเจ้า  จอร์แดนไปเรียนมันมาจากไหน!

"Fuck me!"  วิคโตเรียร้องเสียงหลง  ข่วนต้นคออีกฝ่ายด้วยเล็บคม  จากนั้นก็แผ่นหลังเมื่อจอร์แดนแทรกมันเข้ามาในตัวเธอแทบจะเป็นจังหวะเดียวกับที่เธอออกัสซึ่มรอบสอง  เธอบีบรัดเจ้านั่นอย่างหนักหน่วง  รู้สึกถึงอาการสั่นระริกภายใน  เธอครางปนหอบตอนหยาดน้ำอุ่นๆ ไหลเข้าสู่ตัวเอง 

จอร์แดนไม่ได้เสร็จเร็วแค่รอจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสมจึงเข้ามา  บางทีอาจจะกลัวเธอเจ็บ  แต่เจ้านี่เคยคิดแบบนั้นเป็นด้วยหรือ  ปกติเอาเธอจนแทบเดินไม่เป็น

วิคโตเรียปรือตามองคนที่ลงมานอนข้างๆ  ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเองเหมือนเตรียมจะหลับแล้ว  เป็นแบบนี้อยู่ประจำ  ทำเสร็จแล้วก็จะหลับทันที  ไม่คิดจะคุยกันก่อนเลย  ถ้าไม่มีเรื่องจะต่อรองกันก็ไม่ค่อยสนเธอหรอก

"แดน"

"หือ"

"อย่า ?หือ? กับฉันสิ"

"ขา  ว่าไงคะ"  จอร์แดนเปลี่ยนคำพูด  เอาใจภรรยา  ไม่อยากขัดใจวิคโตเรียมากกว่าที่ทำไปแล้วหลายอย่าง  ทะเลาะกันบ่อยๆ มันไม่สนุกเลย

"ถ้าฉันท้อง  คุณจะอยู่ด้วยไหม"  วิคโตเรียถาม  กลืนน้ำลายอย่างกังวลใจ  จอร์แดนไม่ได้มาค้างกับเธอทุกวัน  เราต่างคนต่างก็มีชีวิตตัวเอง  รักอิสระเหมือนๆ กัน  และบางทีจอร์แดนก็ไปทำงานต่างประเทศนานๆ  กว่าจะกลับเธอก็เหงาจนประสาทจะเสีย  เมื่อก่อนเธอยังไปอยู่กับแอนน์ได้  แต่ตอนนี้จอร์แดนห้ามเด็ดขาด  ขนาดแอนน์ขอนัดเจอเพื่อคุยกัน  คงอยากจะเคลียร์เรื่องของเรา  เธอยังไปไม่ได้เลย

"คุณท้องหรือยัง"  จอร์แดนย้อน  ไม่ค่อยสนใจนัก  เธอเหนื่อยและอยากหลับเต็มที  ที่จริงก็ไม่ได้มีอารมณ์จะทำเซ็กซ์ให้วิคโตเรียหรอก  แต่ถ้าไม่ทำให้  วิคโตเรียก็อาจต้องออกไปหาที่อื่น  ซึ่งเธอยอมรับไม่ได้ 

"ทำไมต้องถามแบบนี้ล่ะ  ก็ตอบมาแค่นั้น"

"งานฉันยุ่ง  ถ้าคุณกลัวจะต้องเหงา  คุณก็หาใครมาอยู่ด้วยสิคะ"

"พูดอย่างกับคุณยอม"

"คุณทำได้  ฉันเคยบอกแล้วไง  แค่ไม่ใช่อนาสตาเซีย"

วิคโตเรียจ้องตาสีนิลจริงจังของอีกฝ่าย  สายตาแบบนี้ทำให้เธอกลัวจนต้องพยักหน้าให้  ยังไงจอร์แดนก็เป็นสามีเธอ  และจะเป็นพ่อของลูกในอนาคต  แต่เธอจะเป็นแม่ที่ดีได้ไหม

"ฉันรู้ว่าคุณชอบผู้หญิง  ผู้หญิงแท้ๆ ไม่ใช่แบบฉัน  ฉันเลยไม่อยากห้ามคุณ  แค่เว้นเธอคนนั้นคนเดียว  หวังว่าคุณคงให้ฉันได้นะวิค"

"ทำอย่างกับฉันหาได้ง่ายๆ อย่างนั้น"  วิคโตเรียพึมพำหนักใจ

"บอดี้การ์ดของคุณไง  เธอสวยสะบัดเลย  ฉันยังชอบ"

"อย่านะ  แดน"

จอร์แดนยิ้มมุมปาก  ไล้ปลายนิ้วหัวแม่มือกับเรียวปากภรรยาและทาบปากตัวเองลงไป  วิคโตเรียจูบกลับ  พลิกตัวขึ้นมาคร่อมเธอ  ปลุกเธอให้ตื่นตัวอีกครั้ง  จากนั้นก็ควบเธอราวกับคาวเกิร์ล  เธอชอบมองเสียจริงๆ

"วิค  ขอโทษนะ  ที่ต้องบังคับคุณ"

"ไม่ต้องมาพูดดีหรอก"  วิคโตเรียประชด  ซุกเข้าอ้อมแขนจอร์แดนที่กอดเธอกลับมาอย่างถนอม  เธอจูบแก้มนุ่มๆ ของเขา  ชอบใบหน้าใสๆ แบบนี้  จอร์แดนเป็นคนสวย  สวยมากจนเธอไม่คิดว่าเขาจะไม่ปกติ  บางทีเธอก็นึกสงสารเขา  แต่ความสงสารกับความรักมันคนละเรื่องกัน

"ถ้าคุณไม่อยากเลี้ยงลูก  ฉันจะเลี้ยงเอง  ฉันแค่อยากมีเจ้าตัวเล็กๆ ที่เหมือนคุณ"  จอร์แดนพูด  เสียงฟังดูเศร้าจนวิคโตเรียต้องลืมตามองอย่างสงสัย  แต่เขาก็ยิ้มและจูบหน้าผากเธอ

"นอนเถอะค่ะ  ถ้าอยากให้ลูกติดต้องนอนเยอะๆ นะ  แล้วพรุ่งนี้เราไปดูชุดแต่งงานกัน"

"ไม่ใช่คุณเลือกไว้เองหมดแล้วเหรอ"

"ไม่หรอก  วันนั้นคุณจะต้องสวยที่สุด  ที่รักของฉัน"

วิคโตเรียจะไม่ยิ้มก็อดไม่ได้  ถ้ามีใครมาเอาใจเราขนาดนี้ก็ต้องดีใจจริงไหมล่ะ  ปกติจอร์แดนไม่สนใจใคร  เลือดเย็นอย่างกับอะไรดี  อาจเพราะเขาต้องปกป้องตัวเองจากโลกเน่าๆ ใบนี้ก็ได้

เธอกะพริบตาเมื่อรู้สึกว่าเขาลูบหน้าท้องเธอแต่ไม่ได้เลื่อนต่ำลงไปกว่านั้น  เธอมองตาเขา  นัยน์ตาสีนิลเหมือนจะหยาดน้ำมาคลอๆ  ร้องไห้อย่างนั้นเหรอ  คนบ้านี่ร้องไห้เป็นด้วยหรือไง

"เขาจะเกิดมาจากความรักของฉันที่มีให้คุณ  รู้ไว้นะคะวิค"

วิคโตเรียพยักหน้า  จูบหน้าผากจอร์แดนอย่างนุ่มนวลอย่างที่ปกติเธอไม่เคยทำ  ช่วงนี้เธอรู้สึกผูกพันกับเขามากขึ้นอย่างน่าประหลาด  อาจจะเพราะเธอไม่ได้เอาเขาไปเปรียบเทียบกับแอนน์แล้วก็ได้ 

หรือเธออาจจะรักเขาเข้าแล้ว...

หญิงสาวตรึกตรองอย่างไม่เข้าใจตัวเอง  ยังไม่ทันได้คำตอบเธอก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยเพลีย

.............................................



แต่แล้วเธอก็ไม่ได้เข้าพิธีแต่งงานทั้งที่ไปเลือกชุดมาแล้วเรียบร้อย  จอร์แดนต้องไปทำงานต่างประเทศกะทันหัน  เราจึงแค่จดทะเบียนสมรสกัน  เพราะไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเมื่อไหร่  ถ้างานเสร็จเร็วก็คงได้กลับมาเร็ว  แต่ถ้าช้าก็ต้องยืดไปนานเป็นเดือนเหมือนตอนไปเยอรมัน  คราวนี้จอร์แดนไปดูแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ประเทศไทย  เป็นแหล่งผลิตใหม่ที่บริษัทมิลเลอร์ไปร่วมลงทุนด้วย  เขาบอกว่าถ้าเธออยากไปด้วย  เขาจะพาไปวันหลัง  เผื่อจะได้ไปฮันนีมูนด้วยกัน

ทว่าตอนนี้เธอกำลังกังวล  ประจำเดือนเธอไม่มาสัปดาห์หนึ่งแล้ว  จะไปซื้อที่ตรวจครรภ์ก็ไม่กล้าไปเอง  จะให้แม่บ้านซื้อให้ก็ยังไงไม่รู้  สุดท้ายเธอจึงวานให้นารูมิไปซื้อให้  ตอนนี้อีกฝ่ายก็ยืนมองเธอด้วยท่าทางเห็นใจอยู่

"ฉันไม่กล้าตรวจ"  วิคโตเรียสารภาพ  นารูมิยิ้มแหยๆ  คงไม่รู้จะช่วยเธอได้ยังไง  "เธอเคยใช้ไหม  ฉัน...ฉันใช้ไม่เป็น"

"ไม่เคยค่ะ"  นารูมิตอบตามตรง  "นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันไปซื้อด้วย  อายมาก"  เธอเสริม  "ก็อ่านวิธีการใช้ดู  คุณก็แค่จุ่มมันลงไปในปัสสาวะ  แล้วก็รอ  ใช่ไหมคะ"

วิคโตเรียส่งมันให้นารูมิช่วยดูให้  พอไม่ใส่แว่นแล้วก็อ่านตัวอักษรเล็กๆ ไม่ได้  อีกฝ่ายที่ตอนนี้มาเป็นผู้ช่วยเธอ (และเลขา) แทนบอดี้การ์ดแล้วก็อ่านมันด้วยสีหน้าจริงจัง  จากนั้นก็พยักหน้าให้เธอว่าวิธีการใช้มันก็เป็นแบบที่เจ้าตัวพูดมานั่นแหละ  จริงๆ เธอเองก็พอรู้  แค่เธอกลัว...

ถ้าท้องจริงๆ จะทำยังไง  --  โอ้  พระเจ้า  ไม่น่าตามใจเจ้าบ้านั่นเลย

"ไปทำให้เสร็จๆ เถอะค่ะ  ฉันจะรออยู่ตรงนี้  ไม่ไปไหน"  นารูมิเชียร์

วิคโตเรียยังจ้องหน้านารูมิอยู่  ลังเลด้วยความกลัว  เธอกลัวจริงๆ  ไม่ได้ล้อเล่นเลย  เธอกลัวทุกอย่าง  กลัวแพ้ท้อง  กลัวคลอดลูก  กลัวว่าเธอจะทำอะไรที่เคยทำไม่ได้

"ก็ถ้าคุณไม่ทำ  ก็ต้องสงสัยอยู่แบบนี้ต่อไปสิคะ  คุณรู้สึกยังไงบ้างตอนนี้  มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในตัวคุณบ้าง  นอกจากประจำเดือนไม่มา  เวียนหัวไหม  อยากจะอาเจียนหรือเปล่า  หรือว่า --"

นารูมิตาโตเมื่อคำพูดของเธอชะงักไปเพราะริมฝีปากของวิคโตเรียมากระชากมันหายไป  แต่เธอก็ตกใจแค่แป๊บเดียว  เธอพบตัวเองจูบตอบไปคล้ายต้องการมันอยู่แล้ว  บางทีเธออาจคิดถึงการจูบแบบนี้ก็ได้

หญิงสาวเลิกคิ้วสับสนเมื่ออีกฝ่ายผละออกไปยิ้มเหมือนถูกใจมาก

"ทำไมคะ"  นารูมิถาม  ไม่เข้าใจ  เธอไม่ได้รังเกียจวิคโตเรีย  แต่งง  เพราะอีกฝ่ายมีสามีแล้ว  และอาจจะกำลังมีลูกกับเขาด้วย

"เธอพูดมาก"  วิคโตเรียตอบ  แล้วคว้าแขนนารูมิดึงเข้าห้องน้ำมาด้วยกัน  นึกขึ้นเมื่ออีกฝ่ายหันหนีแต่ไม่ได้ขัดขืน  เหมือนอยากดูแต่ไม่กล้า

"อยู่เป็นเพื่อนฉันในนี้แหละ  หันหลังก็ได้"

นารูมิพยักหน้าเงียบๆ  ยืนหันหลังให้วิคโตเรียที่กำลังจะทำเรื่องสำคัญอยู่  สมัยเรียนเธอก็เคยอยู่เป็นเพื่อนเพื่อนสาวที่มีปัญหาแบบเดียวกับวิคโตเรียตอนนี้  ต่างกันตรงที่เพื่อนเธอยังเรียนไม่จบ  ไม่มีเงินมหาศาลอย่างที่วิคโตเรียมี  แถมแฟนหนุ่มก็เฮงซวยมากด้วย  ไม่เหมือนคุณจอร์แดนที่ขยันทำงานจนเหมือนหุ่นยนต์  หากก็อ่อนโยนกับภรรยาเสมอ

เธอถูกเลื่อนมาเป็นผู้ช่วยของวิคโตเรียในวันนั้นที่คุณเจ้านายสั่งให้ออกไปตรวจงานด้วยกัน  พอกลับมาจากสนามบิน (สำนักงานสาขาของสายการบินบริษัทของวิคโตเรียอยู่ที่นั่น)  วิคโตเรียก็ให้เธอไปหาฝ่ายบุคคล  แล้วผู้จัดการฝ่ายก็บอกเธอว่าเธอได้เลื่อนตำแหน่ง  และถ้ามีใบประกาศจบการศึกษามาเพิ่มให้ด้วยก็จะดีมาก  ตอนนั้นเธอก็ดีใจอยู่ที่ได้เลื่อนตำแหน่งทั้งที่เพิ่งมาทำงานไม่นาน  แถมยังไม่ได้สมัครงานตำแหน่งนี้ตั้งแต่แรกด้วย  อีกอย่าง  เงินเดือนผู้ช่วยของวิคโตเรียก็มากกว่าบอดี้การ์ดมาก  ทั้งยังสบายกว่ามากด้วย  ถ้าเธอปฏิเสธก็คงโง่เต็มที

หากใครจะรู้ว่าผู้ช่วยต้องทำเรื่องแบบนี้ด้วย

วิคโตเรียคงจะป่วย  เธอเดาว่าอย่างนั้น  ป่วยทางใจอย่างรุนแรง  อาจมีอะไรสักอย่างที่ทำให้เป็นแบบนี้  หากเธอก็ไม่กล้าเดา  เธอเองก็ใช่ว่าจะไม่ป่วย  ชีวิตของเธอเคว้งคว้างหาทางไปไม่ได้  ไม่รู้จะทำอะไรดีมาสองปีแล้ว  ตั้งแต่แม่ที่เธอรักมากเสียชีวิตไปกะทันหันด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน  เธอไม่เคยรู้เลยว่าแม่ไม่สบาย  มัวแต่ไปทำงาน  ไม่รู้ว่าแม่อยู่บ้านคนเดียวเป็นอย่างไรบ้าง  แม่เธอเย็บผ้าโหลส่งโรงงาน  เพื่อจะได้เงินเล็กๆ น้อยๆ มาไว้ใช้จ่ายภายในบ้าน  แม้ว่าเธอจะบอกว่าไม่ต้องทำแล้ว  เธอจะเป็นคนหาเลี้ยงแม่เอง  แต่แม่ก็ยังยืนยันว่าต้องทำ  ไม่อย่างนั้นจะคิดว่าตัวเองไม่มีค่า 

สุดท้ายแม่ก็มาจากเธอไป  ที่พึ่งสุดท้ายของเธอหายไปในนาทีนั้น

"แนท"  เสียงวิคโตเรียเรียก  นารูมิกะพริบตา  เผลอหันไปมอง  และอีกฝ่ายก็ส่งเครื่องตรวจมาให้เธอดู  ราวกับไม่กล้าดูเอง 

หรือดูไปแล้ว...

"สองขีด  แต่อีกขีดมันยังจางๆ  แต่ยังไงก็..."  นารูมิหยุดพูดเมื่อเห็นสีหน้าวิคโตเรียที่หน้าซีดขาวเป็นกระดาษ  อยู่ๆ เธอก็ดึงอีกฝ่ายมากอด  รู้สึกเหมือนวิคโตเรียต้องการคนปลอบใจ  แล้วตรงนี้จะมีใครนอกจากเธอ

"ฉันไม่อยากท้อง"  วิคโตเรียพึมพำเสียงซึม  ทั้งที่เธอปล่อยให้มันเกิดขึ้นเองแท้ๆ  แต่ยังไม่วายเสียใจ  ห้าปีที่ผ่านมายังไม่มีวี่แววว่าจะท้องเลย  ตอนนี้ทำไมมันติดง่ายดายนักล่ะ  ก็เพราะเธอเพิ่งจะปล่อยให้มีไง  ถามได้

"คุณแต่งงานแล้ว  ไม่แปลกหรอกค่ะ"  นารูมิพูด  เสียงปลอบโยน  ลูบแผ่นหลังบอบบางของเจ้านายสาวอย่างอ่อนโยน 

เธอไม่รู้หรอกว่าทำไมวิคโตเรียจึงไม่อยากมีลูก  ไม่รู้ปัญหาภายในของคู่รักคู่นี้  เท่าที่พอจะเดาได้  คือวิคโตเรียไม่ใช่ผู้หญิงทั่วๆ ไปที่จะพอใจกับการแต่งงานกับผู้ชายหรือใครสักคน  สร้างครอบครัวด้วยกัน  มีลูกเล็กๆ ให้ดูแล  วิคโตเรียต้องการมากกว่านั้น  ดูเหมือนจะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

"ฉันจำเป็น"  วิคโตเรียพูด  กำเสื้อด้านหลังของนารูมิแน่น  เธอจะเป็นแม่คนแล้วจริงๆ หรือ  เธอยังไม่พร้อมกับเรื่องนี้เลย  ทำไมมันเร็วนักนะ  รอให้เดือนหน้าไม่ได้หรือไง  เจ้าคนที่ทำเธอท้องก็ดันไม่อยู่ด้วย  แล้วเธอจะอยู่ได้ยังไงกัน  แบบนี้จะเดินเชิดหน้าแบบเดิมได้อยู่ไหมล่ะ

แต่เธอไม่ได้ท้องไม่มีพ่อนะ  จอร์แดนประกาศในทวิตเตอร์กับไอจีไปแล้วว่าเธอกับเขาแต่งงานกันเรียบร้อยแล้ว  แค่ยังไม่ได้เข้าพิธีอย่างเป็นทางการ  แค่นั้นหุ้นของบริษัทเราทั้งสองก็พุ่งกระชูด  เห็นไหมล่ะว่าข่าวเรามีอิทธิพลต่อบริษัทมากขนาดไหน  แล้วเธอจะปล่อยให้บริษัทถูกทำลายเพราะความเห็นแก่ตัวของเธอคนเดียวได้อย่างไรกัน  นี่ถ้ามีข่าวเธอท้องเพิ่มไปอีก  คงสนุกกันล่ะ  แล้วเธอก็คงได้อะไรจากบ้านจอร์แดนอีกเพียบ 

เงินทั้งนั้นเลย... แต่เธอไม่ได้ทำเพื่อเงินสักหน่อยนะ

"เธอเดาไม่ออกเหรอ  แนท  ว่าทำไม" 

นารูมิมองตาคนที่เงยหน้ามองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง  ตัวเธอก็ใช่จะไร้เดียงสาจนไม่รู้อะไรเลย  เกิดมาก็ยี่สิบห้าปีแล้วนะ

"นั่นเป็นสาเหตุจริงๆ ที่คุณจูบฉัน"  เธอตอบ  วิคโตเรียยิ้มกว้าง

"และตอนนี้ฉันก็อยากได้อีก" 

"สามีคุณล่ะ"

"เขาอนุญาต"

"ถ้างั้นก็..."  นารูมิเอ่ย  และจบมันด้วยการทาบริมฝีปากลงไปกับคนที่รออยู่ 

"มากกว่านี้"  วิคโตเรียสั่ง  จับมือนารูมิมาจับหน้าอกตัวเอง  ส่งแรงบีบให้อีกฝ่ายทำตาม  จากนั้นเธอก็ไม่ต้องทำอะไรอีกแล้ว 

นารูมิเป็นงานกว่าที่คิด

.....................................................





เคลลี่รีบผลักประตูแท็กซี่เปิด  ก้าวพรวดลงมา  ช่วยอีกคนที่ยังเก็บกระเป๋าเงินที่เพิ่งจ่ายค่ารถไม่เสร็จดีให้ลงมาด้วยกัน  แล้วเข้าไปรับกระเป๋าเดินทางจากท้ายรถซึ่งคนขับช่วยยกลงมาให้  ลากมันไปพร้อมกับคนตัวเล็กที่หน้าตาตื่นยิ่งกว่าเธอ  หน้าตาซีดขาวเหมือนคนป่วยเพราะไม่ได้แต่งหน้า

"เค  วิ่งไปก่อนเลย  ไปเกาะเคาน์เตอร์ไว้"  แอนน์ร้องบอกเคลลี่ซึ่งน่าจะวิ่งไวกว่าเธอเยอะ 

"เอาจริงเหรอ"

"อื้อ"

"งั้นก็ได้  เอากระเป๋ามา"  เคลลี่พูด  ไม่รอให้แอนน์ส่งกระเป๋าให้  เธอคว้าก้านจับมาแล้วลากทั้งกระเป๋าตัวเองและของแอนน์ให้พุ่งไปข้างหน้ากับตัวเธอด้วย  เราสองคนพากันตื่นสาย  ตอนนี้จึงต้องรีบไม่ให้ตกเครื่องบิน

เราต้องไปถ่ายงานกันที่ญี่ปุ่น  เธอจึงไปนอนค้างบ้านแอนน์เพื่อจะได้มาสนามบินพร้อมกัน  ปรากฏว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดี  เธออุตส่าห์ไปนอนห้องนอนแขกของแอนน์แล้วนะ (อพาร์ตเมนต์แอนน์มีสองห้องนอน)  หากเจ้าของบ้านกลับลากหมอนมาขอนอนกับเธอด้วย  เธอเลยนอนไม่ค่อยหลับ  กว่าจะหลับได้ก็เกือบเช้า  ตื่นแล้วก็ยังไม่ยอมลุกกันอีก  เราคลอเคลียกันต่อจนกระทั่งแอนน์สะดุ้งเฮือกตอนที่เราเกือบจะเผลอจูบกัน  แล้วก็รีบลุกพรวดวิ่งไปเข้าห้องน้ำทันทีพร้อมกับประกาศลั่นว่าเราจะตกเครื่องไปโตเกียวแล้ว  ตอนนั้นเธอกำลังเคลิ้มเลยงงๆ มึนๆ นิดหน่อย  ว่าทำไมแอนน์ต้องรีบด้วย  จนหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือตัวเองที่ลืมตั้งปลุกไว้นั่นแหละ  กระเด้งขึ้นจากที่นอนทันที  โชคดีที่จัดของไว้เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวานแล้ว  จึงแค่แต่งตัวและเรียกแท็กซี่มารับเท่านั้น

เฮ้อ  เสียดายจัง  ป่านนี้ยังไม่ได้จูบสักครั้งเลย...

ไม่ได้จูบแต่ทำมากกว่านั้นอีก  เคลลี่ยังจำสีหน้าแอนน์ขณะคร่อมร่างอยู่บนตัวเธอและเคลื่อนสะโพกไปมานั่นได้  มันเซ็กซี่จนเธอแทบจะห้ามตัวเองไม่ไหวไม่ให้กระชากเสื้อผ้าแอนน์ออกและทำให้ผู้หญิงขี้อ่อยนั่นร้องอยู่ใต้ร่างเธอ  ไม่มีใครรู้หรอกว่าเธอต้องอดทนอดกลั้นมากแค่ไหนที่จะไม่จับแอนน์กินเสียเดี๋ยวนั้น  แต่ถึงจะไม่ได้กิน  เธอก็ได้ขยำก้นกับก้อนเนื้อเต็มไม้เต็มมือนั่นตามใจชอบแล้ว  และแอนน์ก็ทำท่าเหมือนออกัสซึ่มไปแล้วด้วย

เหมือนเราร่วมรักกันทั้งที่ยังสวมเสื้อผ้า

มือแอนน์สัมผัสเธอนอกร่มผ้า  ลูบไล้ส่วนสำคัญของเธอจนต้องร้องออกมาอย่างลืมตัว  เธอโยกกายให้ปลายนิ้วซนๆ นั่นถูไถตรงนั้นแรงขึ้นจนน้ำกามของเธอหลั่งรินออกมาเปื้อนชั้นในและเอนดอร์ฟินซาบซ่านไปทั่วร่าง  มันเป็นการทำรักผ่านกางเกงอย่างช่ำชอง  เธอไม่จำเป็นต้องช่วยตัวเองอีก  คงไม่ใช่แค่เธอที่เสร็จกิจด้วยวิธีนั้น  แอนน์เองก็เหมือนกัน  เธอจำท่าขย่มตัวบนท่อนขาของเธอได้  เสียงร้องสะอื้นข้างหูขณะร่างบอบบางทรุดลงมาทับตัวเธอทั้งตัว  เธอได้กลิ่นหอมละมุนเซ็กซี่จากหญิงสาว  กลิ่นที่จะถูกปล่อยออกมาหลังจากร่างกายได้รับความพึงพอใจทางเพศ

เรามีเซ็กซ์กันแล้ว  แค่ยังไม่เป็นทางการ...

อย่ามัวแต่ยิ้มสิเว้ย  เคลลี่  เรากำลังจะตกเครื่องกันแล้ว!

แต่เราก็ไม่ได้ตกเครื่อง  แค่เฉียดฉิว  ตอนนี้เรานั่งกันอยู่ในห้องโดยสารชั้นธุรกิจ  แอนน์ยอมลดสเปกลงมานิดหน่อย  กระนั้นที่นั่งชั้นนี้ของสายการบินนี้ก็เลิศหรูแทบไม่ต่างจากชั้นหนึ่ง

สายการบินของพวกแซนเดอร์สันนั่นแหละ

"โอ๊ย  เหนื่อย  หิวด้วย"  แอนน์บ่น  ยังหอบเบาๆ  เหงื่อก็ยังไม่แห้ง

"สั่งของกินสิ  ฉันก็หิวเหมือนกัน"

"อืม  จะได้ถ่ายคลิปด้วย"

"สปอนเซอร์งั้นสิ"  เคลลี่พูดอย่างรู้ทัน  แอนน์ยักไหล่  ไม่ปฏิเสธ  ตากล้องสาวส่ายหัว  จะไปทางไหนก็ไม่พ้นวิคโตเรียจริงๆ 

"มันเป็นธุรกิจ"  แอนน์พูด  ยักคิ้ว  แล้วกดปุ่มเรียกแอร์โฮสเตทมาขอสั่งอาหารและเครื่องดื่ม  "เธอสั่งด้วยนะ  กินเสร็จจะได้นอนพัก"

เคลลี่พยักหน้าส่งๆ  ตรวจของ  หยิบกล้องมาเช็ก  จัดที่ทาง  เตรียมจะถ่ายคลิป  แต่เธอก็ถูกผู้หญิงข้างๆ จับหน้าให้หันไปหา  แอนน์จ้องตาเธอก่อนจะเอาปลายจมูกมาคลอเคลียกัน  จากนั้นก็จูบสันจมูกเธออย่างขี้เล่น

"ห้ามงอน"  แอนน์สั่ง  จับปลายคางเคลลี่โยกเล่น  คนน้องกลอกตาอย่างแกล้งๆ  และเอาหน้าผากมาชนกันเบาๆ  แอนน์หลับตาผ่อนลมหายใจมีความสุข  การได้อยู่กับคนที่ตัวชอบแบบนี้  ช่วยสภาพจิตใจเธอได้  แต่มันก็ยังติดอยู่นิดเดียว 

วิคโตเรียยังไม่ยอมตัดโซ่ที่ล่ามขาเธอไว้

"ตื่นเต้นไหม"  เธอกระซิบถาม  ลูบคางเคลลี่เล่นไปด้วย

"ที่จะได้ออกจากอเมริกาน่ะเหรอ  หรือว่า..."

"ช่างมันเหอะ" 

เคลลี่มองคนที่สั่งไม่ให้เธองอน  แต่งอนเก่งกว่าเธอมากมาย

แอร์โฮสเตทนำอาหารมาเสิร์ฟให้เคลลี่ก่อน  เธอคงสั่งของง่ายกว่าของแอนน์  คิดว่าจะรอกินพร้อมกัน  แต่แอนน์ก็คือแอนน์  ขี้สั่งเหมือนเดิม

"เอากล้องมานี่  ถ่ายเอง  กินไปเหอะ"  แอนน์แย่งกล้องตัวเล็กจากเคลลี่ไปตั้งไว้ทางตัวเอง  จัดมุมไม่ให้ถ่ายติดเคลลี่ด้วย  ตอนนี้เธอชักจะหวงช่างภาพส่วนตัวของเธอแล้ว  มีคนมาคอมเมนต์หาเคลลี่กันเยอะมาก  เธอกลัวเจ้าเด็กเคโดนใครโฉบไปกินก่อนที่เธอจะได้มาไว้ในกำมือตัวเองจริงๆ

เคลลี่ลงมือกินไปได้นิดหน่อย  อาหารของแอนน์ก็มา  แอนน์กินมันโชว์ในคลิปไปหน่อยหนึ่งแล้วปิดกล้อง  กินต่อโดยไม่มีตาของคนอื่นคอยจับจ้องอีก  ตอนนี้จึงทำอะไรก็ได้  แม้แต่ป้อนเธอ

บางทีเคลลี่ก็อดคิดไม่ได้ว่ามันง่ายเกินไป  วิคโตเรียไม่น่าปล่อยให้แอนน์ทำตามใจแบบนี้  ยกเว้นว่า... ผู้หญิงคนนั้นจะมีเป้าหมายใหม่แล้ว

จอร์แดนไปต่างประเทศ  เปิดทางให้ผู้หญิงโรคจิตนั่นทำตามใจชอบ  ป่านนี้ยายพี่สะใภ้จอมแสบก็คงหาเหยื่อรายใหม่มาแทนแอนน์เรียบร้อยแล้ว  หล่อนอยู่ไม่ได้หรอก  ถ้าไม่มีใครตอบสนองความใคร่ให้  จอร์แดนคิดยังไงถึงได้เลือกเอาผู้หญิงแบบนั้นเป็นแม่ของลูกเขา  แล้วหลานเธอจะเกิดมาเป็นยังไง  หล่อนจะเลี้ยงลูกเป็นหรือ  หล่อนจะเป็นแม่ที่ดีได้ไหม

ไอ้พี่ชั่ว  จะเอาเมียทั้งทีทำไมไม่เลือกบ้างเลย  หรือว่านี่เลือกดีแล้ว

"กินสิ  ทำไมกินน้อย" 

เคลลี่กะพริบตา  มองหน้าคนที่เอาส้อมจิ้มแซลมอนรมควันมาจ่อปากเธอ  แอนน์ทำปากจู๋ดูน่ารักเหมือนเด็กน้อย  เธออยากจะจุ๊บปากที่ดูนุ่มนิ่มนี่เสียจริงๆ  แต่ทุกครั้งที่เข้าใกล้แอนน์ต้องเบี่ยงหน้าหลบและให้เธอจูบตรงอื่นแทน  ราวกับว่ามันยังเป็นของใครอยู่ 

นั่นสินะ  มันยังไม่ใช่ของเธอ  และแอนน์ก็ยังเป็นของคนอื่น

"เราจะอยู่โตเกียวแค่วันเดียวนะ  แล้วไปโอซาก้าต่อ"  แอนน์พูด

เคลลี่พยักหน้า  งับชิ้นแซลมอนที่ถูกส่งให้  แล้วหยิบกุ้งเทมปุระจากจานตนป้อนแอนน์บ้าง  เธอมองปากจิ้มลิ้มนั่นขยับเคี้ยวอาหารด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย  พลางเลียปากตัวเอง  เห็นแอนน์ขมวดคิ้วมองเธออย่างระแวงก็เบนหน้าหนีไปทางอื่น  มือเย็นๆ ทาบลงบนต้นคอด้านหลังของเธอ  ลูบเบาๆ อย่างเอาใจ  แอนน์รู้วิธีมัดใจคน  อ่อยเก่ง  เอาใจคนเก่ง  กระตุ้นให้อยากได้แล้วก็ไม่ให้ในทันที  เป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจนัก

จานอาหารถูกเก็บไปหลังจากเรากินเสร็จได้ไม่นาน  แอนน์เป็นคนเรียกให้แอร์โฮสเตทมาเอามันไป  หญิงสาวไม่ได้จุกจิก  แค่ใช้สิทธิของตัวเอง  รวมถึงสิทธิที่จะนั่งพิงช่างภาพประจำตัวของเธอด้วย

เธอนั่งพิงอกเคลลี่อยู่ในที่นั่งเบาะติดกัน  ไม่ได้ยกที่กั้นขึ้น  ตั้งใจให้เหมือนเรานั่งอยู่ในห้องเดียวกัน  เธอกางตารางงานกับโบชัวร์สถานที่ที่เราจะไปกันให้เคลลี่ดูด้วย  มือข้างหนึ่งยกขึ้นลูบหน้าลูบตาขยี้ใบหูน้องมันเล่น  เคลลี่ก็จับมันไปจุ๊บเบาๆ ให้เธอยิ้ม  เราคุยงานกันและเล่นกันไปด้วย  มันดีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน  แต่แน่นอนมันยังดีไม่สุด  ยังสุขไม่สุด

จนกว่าเธอจะเป็นอิสระจริงๆ  ไม่ต้องกังวลว่าใครจะมาแยกเรา

"นอนดีกว่า  อีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะถึง"  แอนน์ชวน  เปลี่ยนมาสวมชุดนอนของทางสายการบินแล้ว  เธอหงุดหงิดนิดหนึ่งตรงที่เธอรู้ว่าชุดพวกนี้วิคโตเรียเป็นคนออกแบบ  มีเพียงเครื่องบินลำนี้เท่านั้นที่มีบริการให้  รวมทั้งเบาะนั่งที่อยู่ติดกันและเป็นส่วนตัวแบบนี้ด้วย  ที่จริงเธอก็อยากจะใช้สายการบินอื่นดูบ้าง  แต่พอดีว่าเธอได้ส่วนลดเป็นพิเศษกับที่นี่  ชั่วชีวิตด้วย

ดูๆ ไปแล้วก็เหมือนวิคโตเรียจะรั้งเธอไว้ให้อยู่ด้วยไปชั่วชีวิตเลยนะ

"ถ่ายคลิปให้สปอนเซอร์เขายังล่ะ"  เคลลี่ถาม  ส่งกล้องให้แอนน์ที่ทำหน้าเบื่อๆ แต่หยิบมันไปจัดการถ่ายตัวเองพูดๆ อยู่คนเดียว  โชว์ชุดนอน  ชุดเครื่องนอน  ชุดบำรุงผิว  อื่นๆ อีกหลายอย่างที่เครื่องบินลำนี้มีให้

ใช่แล้ว  ยายพี่สะใภ้ตัวแสบแอบใช้แอนน์โฆษณาสายการบินใหม่ให้ตัวเอง  ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมถึงไม่ห้ามแอนน์ออกนอกประเทศแบบที่เคยห้ามมาตลอด  ทำอะไรต้องมีผลประโยชน์ทุกอย่าง  ไม่เคยต้องเสียอะไรฟรีๆ  จอร์แดนชอบผู้หญิงฉลาดแบบนี้แหละ

แอนน์ส่งกล้องคืนให้เคลลี่ที่นอนเอกเขนกใส่หูฟังดูหนัง  ไม่สนใจเธอแล้ว  เธอจึงต้องไปกระแซะขอนอนใกล้ๆ  คนตัวโตกว่าจึงกางแขนให้เธอเข้าไปซุกซบกัน  ลูบหลังเธอให้เพลินจนเคลิ้มจะหลับ  หอมศีรษะเธอด้วย

อะไรจะอบอุ่นอ่อนโยนขนาดนี้กันนะ

"เราเป็นอะไรกัน  แอนน์"  อยู่ๆ เคลลี่ก็ถามขึ้นมาขณะแอนน์กำลังจะหลับ  น้ำเสียงน้อยใจฉุดให้วล็อกเกอร์สาวต้องลืมตาขึ้นมองตากัน

"ฉันเป็นเพื่อนเล่นของพี่เหรอ  คนที่ทำงานด้วยกัน  แค่นั้นใช่ไหม"

"เปล่า"  แอนน์ส่ายหน้า  มองซ้ายขวาดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครสะเหล่อมาชะโงกดูเราในเบาะที่มีฉากกั้นเป็นส่วนตัวนี้  แล้วจึงหันไปจูบต้นคอเคลลี่  จับมือน้องมันมากุมหน้าอกข้างหนึ่งของตน  กัดปากขณะช่วยขยับเรียวนิ้วของเคลลี่ให้เขี่ยปลายยอด  แม้จะเป็นภายนอก  เธอก็เสียวสะท้านไปทั้งตัว 

"ถ้าทำขนาดนี้แล้ว  เธอยังไม่รู้  ฉันก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วนะ" 

เคลลี่ตาค้าง  มองแอนน์แอ่นหน้าอกให้เธอสัมผัสอย่างไม่นึกอาย  แถมยังพามืออีกข้างของเธอต่ำลงไปจนรู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นของเนื้อผ้าที่ปกปิดความอ่อนไหวนั้นอยู่  แอนน์ดันปลายนิ้วเธอให้แนบลงไปกับความร้อนเร่านั้นแล้วเคลื่อนสะโพกอย่างชำนาญ

"แค่ข้างนอกก่อน  อย่าเพิ่งสอดเข้าไป"  แอนน์บอก  มองตาเคลลี่ด้วยนัยน์ตาสีช็อกโกแลตหวานเยิ้มเปี่ยมด้วยอารมณ์เสน่หา  เธอกัดปากระงับเสียงครางขณะนิ้วเคลลี่ถูคลึงภายนอกกลีบดอกไม้ที่ฉ่ำแฉะจนเปียกทั้งชุดนอกชุดใน  เคลลี่นวดหน้าอกเธอแรงจนเจ็บ  ช่วยเร่งให้เธอถึงเร็วขึ้น

"อื้อ  เค  ไม่ไหวแล้ว"

"ปล่อยมันออกมาค่ะ"  เคลลี่กระซิบ  จูบแก้มสีชมพูจัดของสาวสวยที่เกยอยู่บนตัวเธอทั้งตัว  จิกไหล่จิกแขนเธออย่างลืมตัว  สุดท้ายก็ครางอู้อี้อยู่กับบ่าเธอที่ตั้งใจงับมันกั้นไม่ให้เสียงอันชวนวาบหวามนี้ดังออกไปให้ใครได้ยิน  เคลลี่จับมือแอนน์มาทำให้ตัวเองบ้าง  แต่เธอให้มันสอดไปในกางเกง  แอนน์มองหน้าเธออย่างตกใจ

"พี่อาจจะไม่ได้เป็นของฉัน  แต่ฉันเป็นของพี่นานแล้ว"  เธอกระซิบ  และปล่อยให้แอนน์มอบความสุขให้เธอบ้าง  เธอแทบจะเสร็จในทันทีที่นิ้วแอนน์ขยับด้วยซ้ำ

แอนน์จูบหน้าผากเคลลี่ที่หอบเหนื่อย  พยายามจับลมหายใจอยู่  เธอลูบแก้มใสๆ ของคนอายุน้อยกว่าอย่างรักใคร่  เคลลี่ก็จับมือเธอไปจูบ  หลับตาพริ้ม  ใบหน้าคมคายแลดูเซ็กซี่กว่าปกติ  สวยจนสะเทือนหัวใจเธอ

"ฉันจองออนเซ็นไว้ด้วยละ"  แอนน์พยายามเบนความสนใจตัวเองออกจากเจ้าคนหน้าสวยที่น่าอิจฉา  บางทีเคลลี่ก็ทำให้เธอเสียเซลฟ์แบบนี้ 

แล้วยังจะมีหน้ามายิ้มน่ารักอีกนะ

"ถ้าอยากดูฉันแก้ผ้า  ไม่ต้องรอออนเซ็นหรอก  แก้ให้ดูเดี๋ยวนี้ยังได้"

"น่าเกลียดจริงๆ เลย  เธอเนี่ย" 

เคลลี่หัวเราะ  จับมือเล็กๆ ที่ตีแก้มเธอแก้เขินมางับเบาๆ  แอนน์หน้าแดงจัด  แล้วงับจมูกเธอเป็นการแก้แค้น

"นอนละ  ไม่คุยกับคนทะลึ่งแล้ว"

"คนเราก็แบบนี้แหละ  ได้แล้วทิ้ง"

"พูดมาก"  แอนน์ดุ  กัดปากตัวเองก่อนจูบปลายจมูกเคลลี่  และทรุดตัวลงนอนทับกัน  มือซนๆ ลูบก้นเธอ  แกล้งบีบเล่น  เพลินจนเธอง่วง

"ฉันรักพี่นะ  แอนน์"  เคลลี่กระซิบเบาๆ  แต่ดังพอให้แอนน์ได้ยิน

"อย่าเสียใจทีหลังก็แล้วกัน"  แอนน์ตอบ  สอดแขนกอดเคลลี่ราวกับเป็นหมอนข้างหรือตุ๊กตาหมีส่วนตัว  ใช้อกอีกฝ่ายหนุนแทนหมอนและหลับไปอย่างง่ายดาย

แต่เคลลี่ยังไม่หลับ  เธอเอื้อมแขนยาวไปหยิบกล้องอีกตัวโดยที่ไม่ทำให้แอนน์ตื่น  และเปิดดูวิดีโอที่มันบันทึกเอาไว้  มันเห็นหน้าแอนน์ชัดเจน  แต่ไม่เห็นเธอ  แค่รู้ว่าเป็นผู้หญิงเหมือนกัน

พระเจ้า  แอนน์ตอนมีอารมณ์โคตรของโคตรเซ็กซี่เลยว่ะ!  เคลลี่คิดและซ่อนกล้องตัวนี้ไว้ในที่ที่แอนน์จะไม่หยิบไปใช้  แล้วจึงกลับมาหอมศีรษะคนหลับที่ร้องอื้ออย่างรำคาญใจก่อนจะหันมาจูบหน้าอกเธอแล้วนิ่งไปอีก

"แล้วพี่จะต้องเป็นของฉันคนเดียว  อนาสตาเซีย"  เคลลี่กระซิบแผ่ว  คิดจะจูบริมฝีปากแอนน์  แต่เปลี่ยนใจไปจูบแก้มเฉียดมุมปากไปนิดเดียว

อดทนไว้  เคลลี่  อุตส่าห์ทนมาได้ตั้งสี่ปีแล้ว  ทนอีกหน่อยจะเป็นไร

....................................................

เรื่องรักมันซับซ้อน...

หรือจิตใจคนเรายากแท้หยั่งถึงกันแน่...

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

13 กันยายน 2019 เวลา 22:26:04
ยอมรับว่าอ่านแล้ว ข้าพเจ้า ก็ไม่เข้าใจความคิดตัวละครเรื่องนี้ อาจจะยังไม่ถึงเวลาเข้าใจมั้ง
แสดงความคิดเห็น