web stats

ข่าว

 


Viewfinder - บทที่ 4 Let Me Go

โพสต์โดย: anhann วันที่: 03 กันยายน 2019 เวลา 21:52:22 อ่าน: 548



บทที่ 4 Let Me Go






หลังจากสลัดตัวป่วนหลุดไปแล้ว (หรือเปล่า)  แอนน์ก็เสาะหาสิ่งน่าสนใจในลาสเวกัสไปเรื่อยๆ  โดยดูจากกูเกิลแบบที่เธอเคยทำมาเสมอ  เธอเจอมันแล้ว  คิดว่าคุ้มค่าด้วยถ้าเธอจะทนเดินย้อนกลับไปไกลแบบนี้

"โหย  พี่  ต้องเดินย้อนไปอีกเหรอ"  เคลลี่ดูแผนที่ในโทรศัพท์มือถือที่แอนน์ส่งให้ดูแล้วไม่วายต้องบ่น 

"เราก็ต้องกลับโรงแรมกันอยู่แล้วนะ"  แอนน์แย้ง  แน่ใจว่าตัวเองถูกต้อง  "เธอไม่อยากกินเหรอ  ของกอร์ดอน  แรมซีย์เลยนะ  เชคแชคเทียบไม่ได้หรอก"

"มันคนละแบบกัน  พี่สาว"  เคลลี่เถียง  "พี่จะเอางานระดับเซเลบมาเทียบกับฟาสต์ฟู้ดของคนทั่วๆ ไปได้ยังไงล่ะ  แล้วราคามันเท่าไหร่  คุ้มกับสปอนเซอร์หรือเปล่า"

"ขอบใจที่ห่วง  แต่สบายมาก"  แอนน์ว่า  ทำท่าตบกระเป๋ากางเกงยีนของตัวเอง  เคลลี่สั่นหัวให้คุณพี่ขี้อวด  เพราะเคลลี่ไม่รู้หรอกว่าแอนน์ได้เงินจากคลิปที่ตนโผล่หน้าออกมาแค่นิดเดียวนั่นมากเท่าไหร่

"โอเค  ไปก็ไป  นี่ถ้าเป็นตอนกลางวันนะ  ฉันขอบาย  ร้อนยังกับทะเลทราย"

"บ่นเก่ง"  แอนน์พึมพำ  ค้อนให้เจ้าคนหน้าทะเล้นข้างๆ

เวลาอยู่กับเคลลี่  เธอรู้สึกสบายใจเหมือนได้เป็นตัวเองที่สุด  จริงๆ แล้วที่เธอทำงานแบบนี้ก็เพราะอยากได้ตัวตนของเธอกลับคืนมา  เธอที่เคยร่าเริงสดใส  อยู่กับครอบครัวอบอุ่น  แม้จะเป็นเพียงพ่อแม่บุญธรรม  เธอก็สัมผัสได้ถึงความรักแบบพ่อแม่จากพวกท่าน  พวกท่านไม่เคยทำให้เธอรู้สึกเป็นคนนอกเลย  ไม่อย่างนั้น  เธอคงไม่ได้ทุกอย่างจากพวกท่านมาหลังจากที่พวกท่านไม่อยู่แล้วแบบนี้หรอก  ทุกวันนี้เธอยังเสียใจที่ไม่สามารถรักษาสิ่งเหล่านั้นเอาไว้ได้  เธอยังรู้สึกผิด  หากสามารถเก็บเงินได้เยอะกว่านี้  เธอก็อยากจะไปซื้อมันกลับคืนมาให้หมด  อย่างน้อยก็บ้านหลังนั้น  บ้านที่เธอรัก

"ทริปนี้มารีวิวของกินเหมือนเดิมสินะ" 

แอนน์เงยหน้าขึ้นมองเคลลี่เมื่อได้ยินเสียงพึมพำ  สงสัยน้องมันคงจะเบื่อรายการของเธอแล้วละมัง  ที่จริงเธอก็เบื่อเหมือนกันนะ

"ถ้าไม่รีวิวของกิน  เธอจะทำอะไร  เล่นสลอตเหรอ"

"ดูโชว์มายากล" 

"เอาจริงดิ"

เคลลี่พยักหน้าหงึกๆ  "เดวิด  คอปเปอร์ฟิลด์เชียวนะ"

แอนน์มองตึกโรงแรม MGM Grand ที่อยู่ใกล้กับโรงแรมนิวยอร์ก - นิวยอร์กที่เธอกับเคลลี่กำลังจะจากไปมัน 

"ตกลงไหม  ฉันเลี้ยงก็ได้นะ"  เคลลี่เสนอ  ร่าเริงจนแอนน์นึกสงสัย

"รวยเหรอ"

"ไม่รวยหรอก  แต่ฉันมีวิธีซื้อให้ได้ราคาถูกๆ  พี่จะรีวิวไปด้วยก็ได้นะ  ไหนๆ ก็มากันแล้ว" 

แอนน์พยักหน้าตกลง  ยังไม่ทันได้ออกเดิน  เคลลี่ก็เดินนำเธอไปไกลแล้ว  หายไปในฝูงนักท่องเที่ยวเบื้องหน้า  แอนน์หน้าเหวอ  ตกใจ  ใช่ว่าเธอไม่กลัวนะ  ตั้งแต่เลิกเที่ยวหัวราน้ำ  สถานที่อโคจรไหนๆ เธอก็ไม่ไปเลย  ไม่ใช่ว่ากลัวแรงดึงดูดจากมัน  ตอนนี้มันทำอะไรเธอไม่ได้แล้ว  หลังจากผ่านการบำบัดมาอย่างหนักหน่วงสิบแปดเดือน  เธอสามารถกลับมาเป็นตัวเธอก่อนจะติดยาได้แล้ว  แม้จะเรียกสิ่งที่สูญเสียไปแล้วกลับมาไม่ได้  แค่ไม่ต้องเสียมันไปอีกก็พอ  ตอนนี้เธอไม่คิดจะกลับไปเป็นแบบนั้นอีก  สุขภาพกายของเธอดีขึ้น  สุขภาพจิตก็ค่อยๆ ดีขึ้นเช่นกัน  งานที่เธอทำตรงนี้คงมีส่วน  เธอได้เจอผู้คนคนละแบบ  คนละระดับ  หลุดออกจากวงโคจรอุบาทว์มาแล้ว  เธอจึงอยากให้เคลลี่เลิกบุหรี่ได้  และเลิกเช่าอพาร์ตเมนต์น่ากลัวนั่นอยู่สักที

แต่เธอไม่ใช่แม่เขา  แฟนก็ไม่ใช่  แค่คนที่ทำงานด้วยกัน  อีกอย่าง  ถ้าเธอไปยุ่งกับเคลลี่มากๆ  อาจทำให้น้องมันเป็นอันตรายก็ได้ 

ไม่  เธอยังไม่ได้หลุดจากวงโคจรอุบาทว์นั่นหรอก  ยังไม่ใช่ตอนนี้  นอกจากเธอจะเลิกกับวิคโตเรีย  แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย  ตัวเธอน่ะไม่กลัวเท่าไหร่หรอก  กลัวแต่วิคโตเรียจะพาลไปหาเคลลี่ที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วย 

ถ้าเคลลี่จะเกี่ยว  ก็คงจะเป็นตรงที่ทำให้เธออยากรู้จักอิสระภาพที่แท้จริง  ได้ใช้ชีวิตของตัวเองจริงๆ อีกครั้งละมัง

"มัวยืนทำอะไรอยู่  มานี่สิ"

แอนน์สะดุ้งเมื่ออยู่ๆ ก็มีมือมาดึงมือเธอ  ลากให้เดินไปด้วยกัน  แต่พอเห็นว่าเป็นเคลลี่  เธอก็ยิ้มออกมา  พาให้เจ้าของมือหันมามองแปลกใจ

"ฉันตกใจนะ  อยู่ๆ พี่ก็ไม่ตามมา"  เคลลี่บ่น

"เป็นห่วงฉันเหรอ"  แอนน์แกล้งถาม  อยากให้น้องผ่อนคลาย  แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล  เธอยิ้มแห้งๆ เมื่อเคลลี่หันมาทำหน้าดุใส่  "โอเค  จะคอยตามให้ทัน  ก็อย่าเดินเร็วนักสิ  ขาฉันสั้นกว่านะ"

"งั้นก็จับมือฉันไว้   จะได้ไม่หายไปอีก"  เคลลี่พูด  เสียงดุแต่แววตาอ่อนโยนจนคนโดนดุดีใจแทนที่จะเคืองกัน 

ถึงอย่างนั้น...

"เธอจับมือฉันไปตลอดไม่ได้หรอก"  แอนน์พูดเบาๆ กับตัวเอง  แต่เคลลี่ยังได้ยิน  และบีบมือแอนน์แน่นขึ้นแทนคำตอบ

..........................................

เคลลี่ได้ตั๋วโชว์มายากลของนักมายากลชื่อก้องโลกมาด้วยราคาที่ต่ำมากจนน่าตกใจ  แอนน์ถึงกับต้องรีวิวเอาไปโชว์คนดูทีเดียว

"ไลฟ์ดีกว่า"  แอนน์พูดขึ้น  เหลือบมองคนตัวสูงข้างๆ ที่กำลังดูตั๋วโชว์ที่เพิ่งได้มาอยู่  เธอสะกิดเคลลี่ให้มาสนใจเธอบ้าง (พอยืนอยู่ติดกันก็เลยไม่ต้องจับมือกันแล้ว)  น้องมันหันมาหรี่ตาให้เธออย่างระแวง  จ้องมือที่ถือโทรศัพท์มือถือของเธอ

"อย่านะแอนน์"  เคลลี่ขู่

"ทำไมล่ะ  ทำอย่างกลัวใครจะเห็นงั้นแหละ"

"ฉันแค่ไม่ชอบ  ไม่ชอบออกกล้อง"

แอนน์ย่นคิ้วมองเคลลี่อย่างไม่เข้าใจ  คนหน้าตาดีขนาดนี้  ทำไมถึงไม่อยากโชว์ตัวเอง  ถ้าเป็นคนอื่นคงชอบตายเลย  มีคนมาสนใจอยากรู้จักมากขนาดนี้  แค่เคลลี่ออกกล้องแค่ไม่กี่วินาที  คนมากดไลค์คลิปเป็นแสน  คนแชร์ไม่ต้องพูดถึง  ถ้าออกเต็มๆ แฟนคลับเธอจะไม่ย้ายไปเป็นของเคลลี่หมดหรือไง  จะว่าไปน้องมันก็มีอินสตาแกรมของตัวเองอยู่นะ  ลงแค่รูปถ่ายสวยๆ ที่เจ้าตัวถ่ายมาเอง  ลงไว้เก๋ๆ ไม่มีแคปชั่นใดๆ เหมือนจะให้ภาพมันเล่าเรื่องเอง  เคลลี่ไม่ได้เรียนถ่ายภาพมาโดยตรง  แต่เรียนทำหนัง  ทำพวกแอนิเมชั่น  ไม่แปลกที่น้องมันจะตัดต่อคลิปให้เธอได้เจ๋งขนาดนี้  เธอถึงได้พูดเสมอว่า  เคลลี่น่าจะได้ทำงานที่ดีกว่าทำกับเธออยู่ทุกวันนี้  น้องมันคงรักอิสระมากเกินกว่าจะไปทำงานในบริษัทละมัง

เคลลี่ลงขายภาพตามเว็บไซต์ภาพถ่ายอยู่บ้าง  เธอเคยแอบดูตอนน้องมันเอาลงเว็บ  ช่างเป็นคนติสท์ๆ ที่เท่จริงๆ  ใครได้เป็นแฟนคงน่าอิจฉา

"ไปติดหนี้ใครไว้แล้วกลัวเขาตามเจอหรือไง"  แอนน์แกล้งบ่น  ค้อนเคลลี่ไปหนึ่งทีอย่างไม่จริงจังก่อนจะใช้โทรศัพท์มือถือตัวเองไลฟ์ให้แฟนๆ ในเพจเฟซบุ๊กตัวเองดู 

เพราะไม่ได้บอกล่วงหน้า  ช่วงแรกจึงมีคนเข้ามาดูไม่มากแต่สักพักยอดคนดูก็มีมาเพิ่มเยอะจนน่าดีใจ  ความชื่นชมแบบนี้อาจทำให้เธอเหลิงไปบ้าง  แต่มันก็ไม่แปลกอะไร  ถ้าคนเราจะรู้สึกถึงคุณค่าของตัวเองขึ้นมากับเรื่องเล็กๆ พวกนี้  รายการของเธอก็ไม่ได้ไร้สาระเสียทีเดียว  เธอหาข้อมูล  ลงทุนเดินทางไกล  ยอมน้ำหนักขึ้นกับอาหารไขมันเยอะที่ปกติเธอคงไม่กิน  หากเพื่องานและเพื่อเงินก็ต้องทำ  เธอรู้ดีว่าของพวกนี้มันไม่ยั่งยืน  มีคนทำมากขึ้น  คนดูก็กระจายออกไป  ถ้าเธอไม่พัฒนาตัวเอง  ต่อไปคนดูอาจจะเบื่อดูเธอพูดๆ และกินๆ เที่ยวๆ ไปวันๆ แบบนี้ก็ได้

"พูดเยอะเนอะ  พี่เนี่ย"  เสียงเคลลี่ติดเข้ามาในไลฟ์  แอนน์ทำตาโตให้เจ้าของเสียงรู้ตัว  แต่ตากล้องคนเท่ของเธอไม่ใส่ใจ 

"คุณผู้ชมคะ  เคลลี่โกรธแอนน์แล้วค่ะ"  แอนน์ฟ้องคนดู  เธอยิ้มเมื่อได้รับเสียงตอบรับมาท่วมท้น  บางคนมีคอมเมนต์มาว่า  'เสียงหงุดหงิดของน้องเคน่ารักมาก'  นั่นตรงใจเธอที่สุดเลย

"คือแบบนี้ค่ะ  ตอนนี้แอนน์กับเคอยู่ลาสเวกัส  และน้องเคก็ชวนแอนน์ไปดูโชว์มายากลของเดวิด  คอปเปอร์ฟิลด์ละ  ที่จริงเรามาถึงกันตั้งแต่เที่ยงแล้ว  แต่แอนน์ไปถ่ายอย่างอื่นอยู่  เดี๋ยวจะเอามาลงให้ดูกันตอนเช้าพรุ่งนี้นะคะ"  แอนน์หันมาพูดกับแฟนๆ ต่อ  ไลฟ์ต้องดำเนินต่อไป  มือหนึ่งถือโทรศัพท์มือถือ  อีกมือถูกเคลลี่คว้าไปจับอย่างถือวิสาสะ  แล้วน้องมันก็พาเธอเดินไปเรื่อยๆ เพื่อไปให้ทันตารางโชว์

"ค่ะ  ใช่แล้ว  เคชวนแอนน์ไปดูมายากล  และอย่าไปบอกใครนะคะ  น้องเลี้ยงแอนน์ค่ะ  งานนี้  ไม่น่าเชื่อเลย  --  อาห์  ไม่ล้อน้องดีกว่าเนอะ"

เคลลี่กลั้นยิ้มจนปวดแก้ม  มือเธอกับมือแอนน์ชื้นเหงื่อ  แต่เธอชอบ  จะได้ฉวยโอกาสบีบมือเล็กๆ นี้ให้แน่นขึ้นกว่าเดิม  อ้างว่ากลัวจะคลาดกัน

"โชว์ของคอปเปอร์ฟิลด์จัดทุกวันที่โรงแรม MGM Grand ค่ะ  แอนน์ไม่ได้ค่าโฆษณาอะไรกับเขาหรอกนะคะ  แค่น้องชวนไปดู  แอนน์ก็ไม่ขัดใจ  ก็ไม่อยากโดนโกรธอีกเนอะ"  แอนน์พูดกับคนดูไปเรื่อยๆ  แกล้งเดินเบียดคนตัวสูงไปพลาง  อ้างว่าโดนคนอื่นเบียดมาอีกต่อ  จริงๆ ก็โดนแหละ  แต่ถ้าจะไม่เอานมไปโดนแขนเคลลี่ก็ได้  เธอแค่ชอบเห็นเคลลี่หน้าแดง

เป็นผู้หญิงไม่ดีแล้วไง  จะมีสักกี่อย่างที่เธอสามารถทำได้  ถ้ายังอยู่ภายใต้เงาของวิคโตเรีย  แซนเดอร์สัน

"วิธีการซื้อตั๋ว  และการซื้อจะยังไงให้ได้ตั๋วลดราคา  แอนน์จะโพสต์เอาไว้ในเพจ  แต่ต้องรอให้แอนน์กลับถึงโรงแรมก่อน  ตอนนี้ก็ดูบรรยากาศรอบๆ ไปก่อนนะคะ  เห็นไหมคะ  คนเยอะมากเลย  แล้วแอนน์ก็แบบมึนหัวไปหมดเลยค่ะ"

"ก็พูดเยอะไง"  เคลลี่พูด  ชักติดใจที่ได้พูดกับแอนน์ในช่วงอีกฝ่ายไลฟ์คุยกับแฟนๆ เพราะแอนน์ดุเธอไม่ได้  ทำตาถมึงทึงใส่ยังไม่ได้เลย  เหมาะแก่การแกล้งมาก

"คุณผู้ชมคะ  เคดุแอนน์อีกแล้วค่ะ  กล้าจริงๆ เลยอะ"  แอนน์หันไปฟ้องคนดู  เธอลอบยิ้มเมื่อเห็นยอดคนดูเพิ่มขึ้นมหาศาล  เธอมองเห็นทางที่จะทำให้ช่องของเธอไม่น่าเบื่อแล้ว  หวังว่าวิคโตเรียจะเข้าใจว่ามันเป็นงาน 

วงการบันเทิงก็ต้องมีคู่จิ้นกันทั้งนั้นแหละ  วงการยูทูปเปอร์กับวล็อกเกอร์ก็เหมือนกัน

"โอเคค่ะ  ช่างเคเถอะ  ยังไงวันนี้เคก็เลี้ยงโชว์แอนน์แล้ว  แอนน์จะให้อภัยก็ได้"  วล็อกเกอร์สาวพูดต่อ  เธอยกโทรศัพท์ขึ้นสูงๆ เพื่อให้คนดูได้เห็นโรงแรมและทางเข้าที่จะไปดูโชว์  "เห็นไหมคะ  ท่านผู้ชม  อลังการมาก"

"แอนน์  ต้องเข้าแล้ว"  เคลลี่กระซิบเบาๆ  เตือนแอนน์ให้ปิดไลฟ์ก่อนถึงเดินเข้าไปในห้องแสดงโชว์  แอนน์จะได้มีเวลาบอกลาคนดู

"ต้องไปแล้วค่ะทุกๆ คน  เจอกันใหม่คลิปหน้านะคะ  บาย"  แอนน์กดตัดการไลฟ์สดทันพอดีกับที่เคลลี่ส่งตั๋วให้กับคนตรวจ  เธอหอบเบาๆ ให้เคลลี่ที่หันมายิ้มขำๆ ก่อนจะลากเธอเข้าไปในห้องโถงอย่างไม่ทะนุถนอมกันบ้างเลย 

ถ้าจะถามว่าสี่ปีที่ผ่านมาเธอเคยแอบมองแอบปลื้มเคลลี่บ้างไหม  ก็ตอบได้ว่าเคยนะ  คนดูดีแบบนี้ทำไมจะไม่น่ามองล่ะ  แต่ตอนแรกที่รู้จักกัน  เคลลี่เป็นพวกประหลาดจนเธอไม่แน่ใจว่าจะคุยกันรู้เรื่อง  เธอยังถามเพื่อนที่แนะนำเคลลี่มาเลยว่า  เอาเรื่องแน่เหรอ  แต่เพื่อนคนนั้นก็บอกให้ช่วยๆ น้องมันหน่อย  น้องมันกำลังหาเงินเรียน  เธอก็เลยจำใจรับเคลลี่มาทำงานด้วยกัน  แล้วก็ไม่เสียใจเลยคนประหลาดคนนี้ช่วยงานเธอได้เยอะมาก  เธอแทบไม่ต้องทำอะไรด้วยซ้ำ  ที่สำคัญเงินเดือนไม่แพง  ไม่เรื่องมาก  แค่มีข้าวให้กิน  มีที่ให้นอน  เคลลี่ไปได้ทุกที่  ว่างเสมอสำหรับเธอ  แถมยังแข็งแรง  ไม่รู้จักเจ็บป่วย  อึดถึกยิ่งกว่าแรด (สัตว์นะ  ไม่ใช่คำด่า) ขัดกับหน้าตาที่สวยจนเป็นดาราได้ (และยังไม่ยอมออกกล้องอีกนะ) เดินไปไหนด้วยเธอนี่กลัวจะหมองไปเลยแหละ  พวกเจ้าของร้านที่เธอไปรีวิวอาหาร  บางร้านยอมให้เธอเข้าไปเพราะเคลลี่ไปด้วย  เธอแค่ไม่เคยบอกน้องมันเฉยๆ  กลัวน้องจะไม่ยอมเข้าไป  ปล่อยให้เธอไปนั่งถือกล้องเองอีก

แอนน์ไม่รู้ตัวว่าเธอเหนื่อยจนกระทั่งหลับระหว่างดูโชว์  เอนหัวพิงไหล่เคลลี่ที่ถอดเสื้อแจ็กเกตมาห่มให้เธอและยอมทนหนาวเอง  เธอไม่รู้เรื่องอะไรเลยจนกระทั่งเคลลี่เขย่าไหล่ปลุกเธอ  บอกว่าโชว์จบแล้วให้เรียกแท็กซี่กลับโรงแรม  เธอคงไม่รู้ว่าเคลลี่เอามือประคองศีรษะเธอไว้ตลอดโชว์ไม่ให้ร่วงลงไปอีกด้าน  เพราะเธอหลับสนิท  ถ้าเธอไม่บังเอิญเปิดกล้องโทรศัพท์ทิ้งเอาไว้ในโหมดวิดีโอ  ด้วยความตั้งใจจะแอบถ่ายโชว์ของเดวิดมาให้แฟนๆ ในช่องของเธอดู  พอมาเปิดดูมันทีหลัง  เธอทั้งตกใจและรู้สึกดีมาก  ใครจะไปรู้ว่าคนประหลาดแบบเคลลี่จะมีมุมอ่อนโยนมากขนาดนี้

พระเจ้า  แล้วใครจะไม่อยากได้กันล่ะ!

"ไม่ขึ้นแท็กซี่ดีกว่า  รถติด"

"แล้วเดินไหวเหรอ"  เคลลี่ถามกลับ  มองคนตัวเล็กยืนขยี้ตาเหมือนจะให้หายง่วง  เธอต้องจับแขนออกมาและส่ายหน้าให้  "เดี๋ยวก็ตาช้ำหมดหรอก  ไม่สวยก็มาบ่นอีก"

"เธอนี่ขี้จุกจิกเป็นผู้หญิงเหมือนกันนะ"

"ฉันเป็นผู้หญิง"

แอนน์จะเถียง  แต่เผลอมองต่ำลงจากหน้าคมเข้มของอีกฝ่าย  และหน้าร้อนขึ้นมากะทันหัน  เพราะดันไปจ้องหน้าอกน้องมัน  เคลลี่หุ่นดีเว่อร์  ถึงจะใส่แค่เสื้อยืดแขนสั้นราคาถูกแบบนี้ก็ดูเหมือนใส่ชาแนลตัวเป็นหมื่น  เธอส่งเสื้อแจ็กเกตที่กอดไว้คืนให้เจ้าของ  หากเคลลี่กลับเอามันมาคลุมตัวเธอใหม่  และบอกง่ายๆ ว่า  อากาศมันเย็น  ทะเลทรายก็แบบนี้แหละ

วิคโตเรียก็เคยห่มผ้าให้เธอ  แต่อารมณ์มันไม่เหมือนแบบนี้  เคลลี่ไม่จำเป็นต้องห่วงใยเธอ  ไม่มีหน้าที่ต้องทำ  ขณะที่วิคโตเรียควรทำ  เพราะมันเป็นหน้าที่  หลังจากใช้งานเธอไปหนักขนาดนั้นก็ควรทำอะไรให้บ้างสิ  อย่าทำเหมือนเธอเป็นโสเภณีไปมากกว่านี้เลย  เธอไม่ได้รับเงินสักแดงแล้ว

คนเป็นแฟนกัน  เขาทำอะไรให้กันบ้าง  เธอไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลย  ทำไมถึงน่าสมเพชขนาดนี้นะ  ถ้าพ่อแม่บุญธรรมเธอรู้จะรู้สึกยังไง  แม่แท้ๆ ของเธอด้วย  แต่พวกท่านคงเข้าใจ  เธอก็ได้แต่คิดเข้าข้างตัวเองไปแบบนี้

"ฉันเดินได้  หายง่วงแล้ว  เดินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ถึง"

"หิวหรือเปล่าล่ะ"  เคลลี่ถาม  มองอีกฝ่ายที่อารมณ์เปลี่ยนอีกแล้ว

"ไปกินที่กอร์ดอนสิ"  แอนน์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ  เธอไม่รู้สึกหิว  และเกิดหงุดหงิดขึ้นมาเมื่อนึกถึงว่าวิคโตเรียอยู่แถวนี้  จะโผล่มาอีกเมื่อไหร่ก็ได้  หรืออาจจะมาเรียกเธอไปหาที่ห้อง  เธอไม่รู้ว่าวิคโตเรียพักที่ไหน  แต่ถ้าเรียกมาเมื่อไหร่  เธอก็ต้องไป  เหมือนผู้หญิงแบบนั้นชะมัด

เธอไม่ได้รังเกียจการมีเพศสัมพันธ์กับหล่อนหรอก  แค่ไม่ชอบวิธีที่หล่อนปฏิบัติกับเธอหลังเสร็จกิจ  บางทีหล่อนก็ใส่เสื้อผ้าแล้วกลับไปเลย  บางวันก็กลับเช้า  เช้ามากๆ  เธอก็เข้าใจอยู่นะว่าเรื่องของเราเป็นความลับ  แต่แค่บอกลาให้ดีๆ หน่อยน่ะ  ทำเป็นไหม  แค่โน้ตที่เขียนด้วยลายมือตัวเองก็ได้  ไม่ใช่แค่ดอกไม้ราคาแพงกับการ์ดขอโทษดาษดื่น   

เธอไม่เคยไม่ชอบเวลาวิคโตเรียมาช่วยดูบ้านให้เธอเวลาเธอไม่อยู่  ส่งเสื้อผ้าไปซักให้  หรือสั่งมื้อเย็นมาให้เธอเวลาเธอต้องทำงานอยู่ดึก  เธอชอบการดูแลแบบนั้น  แต่คงชอบมากกว่านี้ถ้าเราจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันแบบคนรักกันจริงๆ  เธอเคยอยากไปหาหล่อนที่บ้าน  เคยอยากไปทำบ้านให้  ทำอาหารให้กิน  เคยขอไปหา  แล้วก็ถูกปฏิเสธแบบไร้เยื่อใยกลับมา  หล่อนบอกว่า  งานแบบนั้นมันสำหรับคนใช้  มันทำให้เธอหน้าชาเหมือนถูกตบ  จากนั้นมาเธอก็ไม่เคยขอไปบ้านหล่อนอีกเลย

น่าทุเรศจริงๆ  เธอทนอยู่แบบนี้มาได้ยังไงตั้งหลายปีนะ  ห้าปีแล้ว  เร็วเหมือนโกหก  จะเข้าปีที่หกแล้ว  ไม่เคยมีอะไรดีขึ้นเลย  มันแย่ลง  แย่จนเธอจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว

"กลับห้องดีกว่า  ฉันก็ไม่หิวเหมือนกัน"  เคลลี่พูด  ยกกล้องขึ้นมาถ่ายภาพนิ่งสถานที่กับวิวที่เดินผ่านระหว่างกลับโรงแรม  เดินเงียบๆ ปล่อยให้แอนน์คิดอะไรไปคนเดียว  ถึงอยากจะปลอบ  แต่ก็ไม่รู้ว่าแอนน์เกิดเป็นอะไรขึ้นมา  เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลย 

หรือจะคิดถึงแฟน  อยากกลับไปกอดแฟนแล้วละมัง

"เค  ถ้าคืนนี้พี่ไม่กลับ  เธอจะอยู่คนเดียวได้ไหม"  แอนน์ลองถามเคลลี่ดู  ทั้งที่เธอไม่ได้อยากไปและไม่รู้ด้วยว่าวิคโตเรียจะเรียกเธอหรือเปล่า  เธอแค่กลัวว่าถ้าถูกเรียกขึ้นมา  แล้วเคลลี่จะต้องอยู่ห้องคนเดียวและอาจจะรู้สึกกลัวก็ได้

"ถ้าพี่มีธุระก็ไม่ต้องห่วงฉันหรอก  ฉันอยู่ได้  อพาร์ตเมนต์ที่ฉันอยู่น่ากลัวกว่านี้เยอะ  แค่นี้สบายมาก"  เคลลี่ตอบ  พยายามทำเสียงรื่นเริงทั้งที่ผิดหวัง  เธอไม่ได้คิดจะทำอะไรแอนน์เวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง  แค่อยากอยู่ใกล้ๆ เฉยๆ  อยากดูแลเท่าที่พอจะทำได้

แอนน์ยิ้มเจื่อน  พยักหน้าเบาๆ  ก้มมองเท้าตัวเองขณะเดินกอดอก  เก็บมือไว้ไม่ให้อยากไปจับมือเคลลี่อีก  กลัววิคโตเรียจะให้ใครมาตามเธอ  ถ้ามาเห็นเข้าก็อาจจะทำให้เคลลี่เดือดร้อน  ถ้าน้องเป็นอะไรขึ้นมาเพราะอยู่กับเธอ  เธอจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย

"ถ้าพี่กลัวแฟนจะเข้าใจผิด  ฉันไปเปิดอีกห้องก็ได้นะ"

"มีเงินเหรอ  ไหนว่าถังแตก"

"ก็พอมีแหละน่า"  เคลลี่แกล้งทำเสียงหงุดหงิด  แค่เห็นแอนน์ยิ้มออกมาได้แบบนี้ก็ดีใจแล้ว  "ฉันขายรูปได้สองสามรูปน่ะในเว็บ  ก็เลย..."

"มิน่า  กล้าเลี้ยงโชว์ฉัน"  แอนน์พูด  อารมณ์ดีขึ้นทันที  "โอย  นี่ไม่บอกกันก่อนนะ  ฉันจะให้เธอพาไปเลี้ยงร้านที่มีมิชลินสตาร์"

"แหม  ก็ไม่ได้รวยขนาดนั้น"  เคลลี่ว่า  ยิ้มอายๆ  ตกใจเล็กน้อยที่อยู่ดีๆ แอนน์ก็ชูโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและกดถ่ายรูปเธอ

"แอนน์..."

"แค่ถ่ายเล่นน่ะ  ไม่เอาลงหรอก"  แอนน์บอกยิ้มๆ  แต่นัยน์ตาเศร้าจนเคลลี่พยักหน้า  ไม่ว่าอะไร  เธอสอดแขนไปคล้องแขนเคลลี่  อีกฝ่ายหันมามองเธอแปลกใจ  "ไปกินเบอร์เกอร์ที่กอร์ดอนกัน  ฉันอยากกิน"

"อ้วนนะ"  เคลลี่หยอก  เธอหัวเราะเมื่ออยู่ๆ แอนน์ก็มากัดแขนเธอเสียอย่างนั้น  ต้องเอามือดันหน้าผากให้ปล่อย  "โอ๊ย  หมาพันธุ์อะไรเนี่ย!"

"กระต่ายย่ะ"  แอนน์ย้อน  หน้ามุ่ยแต่ในใจเป็นสุข  แอบคิดอยู่นิดๆ ว่าถ้าเธอมีโอกาสได้อยู่กับวิคโตเรียแบบนี้บ้าง  มันจะดีเหมือนกันไหม  แต่ก็คงได้แค่คิด  มันไม่มีทางเกิดขึ้น  อย่างมากเธอก็คงถูกจับไปนั่งในโต๊ะภายในร้านอาหารหรูหราในห้องลับๆ  มีอาหารมากมายปรุงด้วยเชฟชื่อดัง  แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกอยากกิน

ที่จริง  แค่เบอร์เกอร์ชิ้นเดียว  แบ่งกันกินกับแฟนก็มีความสุขแล้ว

เราเดินกันมาเรื่อยๆ จนถึงแพลนเนต ฮอลลีวูด  แอนน์แทบไม่ต้องบอกให้เคลลี่ทำอะไร  อีกฝ่ายก็ยกกล้องขึ้นถ่ายภาพป้ายชื่อร้านเบอร์เกอร์กอร์ดอน  แรมซีย์เอาไว้แล้ว  ใช้กล้องวิดีโอบันทึกภาพบรรยากาศหน้าร้าน  ถ่ายตอนเธอแนะนำร้าน  และถ่ายไปเรื่อยๆ จนถึงด้านใน  เธอก็พูดไปเรื่อยๆ ตามปกติ  รู้สึกว่าโทรศัพท์มือถือตัวเองในกระเป๋ากางเกงสั่นแต่ไม่ได้สนใจ  เวลาทำงานเธอไม่รับโทรศัพท์ใครอยู่แล้ว  ถ้าเป็นวิคโตเรียโทรมาก็ค่อยโทรกลับไปก็ได้  ต้องเข้าใจสิว่าเธอไม่ได้ว่างตลอดเวลา

"พี่จะเอาไร"  เคลลี่หันมาถามแอนน์หลังจากกดหยุดบันทึกภาพ

แอนน์ชะโงกมาดูเมนู  คนตัวสูงก็เบี่ยงตัวหลบให้  เธอก็ชี้ๆ ให้เคลลี่เอาไปสั่งต่อให้  แล้วใช้เวลาระหว่างรออาหารล้วงโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู 

สายไม่ได้รับจากวิคโตเรียหนึ่งสาย  และข้อความในวอทส์แอป

"อยู่ไหน  ฉันจะให้คนไปรับ  ไม่ต้องกลับห้อง"

"ไปไม่ได้ค่ะ  ต้องทำงาน"  แอนน์กดตอบอย่างไม่หยุดคิด  ไม่มีข้อความตอบกลับมาจากวิคโตเรีย  แต่เธอก็ยังไม่เลิกระแวง  วิคโตเรียไม่ให้เธอปิดจีพีเอสโทรศัพท์มือถือ  ไม่ให้ปิดโปรแกรม find my phone  เพราะจะได้รู้ว่าเธออยู่ที่ไหนโดยที่ไม่ต้องรอให้เธอบอกเอง  ป่านนี้อาจจะส่งคนมาหาเธอแล้วก็ได้

ใช่จริงๆ ด้วย!

แอนน์ขบฟันกรอดเมื่อเห็นหญิงสาวตัวสูงสวยมากยืนอยู่นอกร้าน  เธอจำหล่อนได้อยู่แล้ว  หน้าตาเหมือนดาราซะขนาดนี้  ไม่น่ามาเป็นลูกน้องคนแบบวิคโตเรียได้เลย  ทำไมไม่ทำอาชีพอื่นกันนะ  แล้วเธอจะทำยังไงดี  หล่อนคงไม่มาฉุดเธอออกไปจากร้านหรอกนะ

"ถ้าพี่ไม่อยากอยู่กับเขา  ทำไมพี่ไม่เลิกล่ะ"

เสียงเคลลี่ดังขึ้นมา  แอนน์หลุดจากภวังค์  กะพริบตามองคนตัวสูง  เคลลี่มองกลับมาด้วยสายตาที่ชวนให้ใจระทึก  เธอรู้สึกหน้าร้อน  หัวใจเต้นแรงจนจะหลุดจากอก  ลืมบอดี้การ์ดหน้าสวยของวิคโตเรียไปแล้ว  ยิ่งเคลลี่ขยับหน้าเข้ามาใกล้  สติสตังเธอก็เลือนลงไปทุกที  แต่ว่า...

เจ้าบ้าเคแค่เอาปลายจมูกมาชนกับปลายจมูกของเธอ!

โอ้  พระเจ้า  แค่นี้เธอก็แทบมองหน้าน้องมันไม่ได้แล้ว  คนบ้านี่! 

แอนน์กัดริมฝีปากล่างขณะเดินตามเคลลี่ไปยังโต๊ะที่ว่างอยู่  เธอค้อนน้องมันที่หันมายิ้มทะเล้นให้  แล้วแบบนี้เราจะเหมือนเดิมกันได้ยังไงล่ะ

"กินเหอะ  เดี๋ยวเย็นแล้วไม่อร่อย"  เคลลี่บอก  ยิ้มแย้ม  ใช้มีดตัดแบ่งเบอร์เกอร์ออกเป็นชิ้นพอดีคำและเลื่อนให้แอนน์ที่ยิ้มขอบคุณก่อนจะหยิบมันอย่างระวังเข้าปากเคี้ยว  เห็นนัยน์ตาสีช็อกโกแลตเป็นประกายวาบขึ้นมาก็แน่ใจได้ว่ามันอร่อยจริง  เธอจึงหยิบมาใส่ปากกินบ้างแล้วยกนิ้วโป้ง  แอนน์ทำบ้าง  เธอจึงเอานิ้วไปจิ้มใส่กัน  แอนน์ก็กดนิ้วมากับนิ้วเธอ  ทำไปทำมาจึงกลายเป็นเราเล่นมวยปล้ำนิ้วกัน  แอนน์แพ้ตลอด  สุดท้ายก็แกล้งมางับนิ้วเธอจนชนะไปจนได้  แล้วก็บอกเลิกเล่นเลยทันที  ขี้โกงชะมัด

"ผู้หญิง  เวลามีความสุขแล้วจะสวยขึ้นนะ" 

แอนน์หรี่ตามองคนพูด  เคลลี่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้  กินเบอร์เกอร์ชิ้นโตสบายใจ  พยักพเยิดให้เธอหยิบกินบ้าง  เธอจึงหั่นของตัวเองแบ่งให้เคด้วย

"พรุ่งนี้ไปกินบุฟเฟต์ที่ Wynn กันนะ"  เคลลี่ชวน  "เดี๋ยวป๊าจ่าย"

แอนน์หัวเราะท่าทางยืดตัวตบอกตัวเองของเจ้าเด็กบ้าตรงหน้า 

เท่านี้เอง  แค่นี้เอง  ไม่ต้องอะไรมากมาย  ไม่ต้องร่ำรวยมหาศาล  แค่มีน้ำใจกับเธอบ้างเท่านั้น...  ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เธอคิดแบบนี้  วิคโตเรียคงจะถามแบบนี้กับเธอ

แอนน์เหลือบมองหาผู้หญิงสวยคนนั้น  หล่อนยังยืนอยู่ที่เดิมอย่างอดทน  เธอกลอกตา  ขยับปากพูดไม่มีเสียงให้หล่อนที่จ้องเธอตาไม่กะพริบ

"ไปตายซะ ยายบ้า!"                       


.................................


ดูเหมือนแอนน์จะเลือกแล้วละ   :42: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

04 กันยายน 2019 เวลา 12:58:24
แปลว่าแอนน์พร้อมจะปกป้องคนที่เลือกนี้ด้วยชีวิตรึเปล่า ทีนี้ก็อยู่ที่เจ๊วิค ว่าจะเอาไง
แสดงความคิดเห็น