web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 104
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 100
Total: 100

ผู้เขียน หัวข้อ: ตอนที่ ๔  (อ่าน 1422 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ n-ew

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 93
ตอนที่ ๔
« เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 12:09:17 »
ตอนที่ ๔

   พิมพ์รตาเดินลงมาด้วยเสื้อผ้าชีฟองเนื้อบางเบา สีครีมแขนกุด ตัวเสื้อยาวคลุมสะโพก กับกางเกงขาสั้นสีขาวตามสมัยนิยม ถึงกับทำให้คนที่นั่งรออยู่ถึงกับหน้าบึ้งไม่พอใจโดยไม่รู้ตัว
   ‘รู้แล้วน่ะว่าขาสวย แล้วทำไมต้องใส่สั้นขนาดนั้นด้วย’ คิดแล้วเมินหน้าจากภาพของคนที่เพิ่งเดินเข้ามา
   “โห...! คุณ แต่งซะเต็มยศเชียว กลัวคนเค้าไม่รู้เหรอว่าฉันมีบอดี้การ์ดคอยดูแล” พิมพ์รตาเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะกับภาพที่เห็นตรงหน้า
   กรกฎสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กับกางเกงผ้าใส่สบายสีดำ แล้วยังมีเสื้อสูทสีดำสวมทับอีกที ดูเป็นทางการมากๆ ในสายตาของพิมพ์รตาที่มองมาอย่างล้อเลียน ทำให้คนที่ถูกมองรู้สึกเขินๆ จนเสียความมั่นใจ
   “คุณไม่ได้บอกนี่ค่ะ ว่าจะไปไหน งานอะไร แล้วอีกอย่างฉันก็มีแต่เสื้อผ้าแบบนี้ เพราะมันสะดวกกับงานของฉัน” เธอส่งเสียงเข้มแก้อาการขัดเขินของตัวเอง
   “งั้นถอดเสื้อนอกออกเดี๋ยวนี้เลย” บอกพร้อมๆ กับที่มือเอื้อมมาดึงเสื้อของกรกฎออกทันที
   “ทำไมต้องถอดด้วย” เอ่ยถามก่อนเบี่ยงตัวออกห่างเล็กน้อย
   “เธอก็ลองดูซิว่าฉันแต่งแบบนี้ แล้วเธอเล่นใส่ซะขนาดนี้ เราไม่ได้ไปงานอะไรที่เป็นทางการซะหน่อย ฉันไปธุระส่วนตัว เชื่อฉันซิ” พิมพ์รตาบอกอย่างจริงจังมากขึ้น จนกรกฎต้องยอมถอดออกโดยดี เพราะเธอเชื่อว่าถ้าเธอไม่ถอด เจ้านายเธอต้องจับเธอถอดแน่ๆ
   “แล้วก็พับแขนเสื้อขึ้นด้วย แบบนี้นี่ มาฉันพับให้” ปากพูดแต่มือเอื้อมมาพับแขนเสื้อเชิ้ตให้กรกฎทันที ทั้งๆ ที่กรกฎพยายามเบี่ยงตัวออกห่างแต่ก็ยังหนีไม่พ้น
   “ฉันทำเองได้ค่ะ” กรกฎบอกเสียงอ่อย”บอกพร้อมกับพยายามดึงแขนตัวเองกลับคืน เธอรู้สึกแปลกๆ ที่พิมพ์รตาทำแบบนี้ให้
   “อยู่เฉยๆ เหอะน่า” พิมพ์รตาตวาดเบาๆ อย่างขัดใจ ส่วนมือก็พับแขนเสื้อให้กรกฎอย่างตั้งใจ กรกฎลอบมองใบหน้าที่อยู่ห่างแค่คืบนั้น กับกริยาที่กำลังตั้งใจพับแขนเสื้อให้เธอ หัวใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกดีอย่างประหลาดกับการกระทำของพิมพ์รตา
   พิมพ์รตาพับแขนเสื้อทั้งสองข้างขึ้นไปถึงข้อศอก ก่อนเช็คดูความเรียบร้อย แล้วก็อมยิ้มอย่างพอใจ
   “เสร็จแล้ว ค่อยดูดีหน่อย” เงยหน้าขึ้นมาบอกอย่างรวดเร็ว สบสายตากับคนที่กำลังมองมาอย่างรู้สึกดี ทำให้เธอรู้สึกหน้าร้อนผ่าวอย่างไม่รู้สาเหตุ
   ‘คนบ้า...ทำไมต้องมองหวานหยาดเยิ้มขนาดนั้นด้วยนะ’ รีบปล่อยมือจากแขนกรกฎทันที เมินหน้าหลบสายตาที่มองมาอย่างรู้สึกแปลกๆ
   “เอ้อ...เดี๋ยวเอาเสื้อขึ้นไปเก็บก่อนนะคะ” กรกฎบอกโดยไม่ต้องรอคำตอบ เธอรีบเดินลิ่วขึ้นไปยังห้องของเธอทันที ขณะที่เธอกำลังจะออกจากห้อง เสียงเรียกเข้ามือถือก็ดังขัดจังหวะ เธอชะงักอยู่หน้าประตูก่อนจะหยุดรับโทรศัพท์ เป็นอ้อมที่โทรเข้ามา
   (ว่าไงจ๊ะอ้อม)
   (ปูหายเงียบไปเลยนะ ไม่เห็นโทรหาอ้อมเลยตั้งแต่วันนั้น) เสียงต่อว่าของอ้อมดังมาตามสาย ทำให้กรกฎคิดถึงวันนั้นขึ้นมาอีกครั้ง

   ทั้งสามคนมีกรกฎและอ้อมรวมถึงแจ๊ค ที่นั่งรอฟังผลที่อ้อมเข้าไปแคสงานร้องเพลงที่ห้องอาหารในโรงแรมหรูแห่งนั้น ซึ่งเป็นที่ที่เธอได้เจอกับพิมพ์รตาเป็นครั้งแรกด้วย ในที่สุดอ้อมก็ได้เป็นนักร้องที่ห้องอาหารแห่งนั้นสมใจ ขณะที่มีคนเข้ามาแจ้งข่าวดีนั้น ด้วยความดีใจทั้งอ้อมกับแจ๊คโผเข้ากอดกัน โดยที่ไม่ได้สนใจกรกฎเลยด้วยซ้ำ เธอเดินออกจากตรงนั้นอย่างเงียบๆ รู้สึกวูบไหวกับภาพที่เห็นจนไม่อาจทนอยู่ตรงนั้นได้อีก
   (ปู...ปู...ยังฟังเราอยู่ไหม) เสียงอ้อมที่แว่วเข้ามา ดึงให้กรกฎกลับมาจากการครุ่นคิด
   (อื้อ...ฟังอยู่)
   (เราเห็นปูเงียบไปนาน ปูโกรธอ้อมเหรอ อ้อมขอโทษนะ วันนั้นอ้อมดีใจมาก แต่ทำไมปูไม่อยู่ฉลองกับเราล่ะ หนีไปไม่บอกไม่กล่าวแล้วก็หายเงียบไปเลย อ้อมโทรหาก็ไม่รับ ไปหาที่ห้องก็ไม่เจอ ปูเป็นอะไรหรือเปล่าคะ) อ้อมบอกด้วยน้ำเสียงห่วงใย
   (ไม่เป็นไรหรอก ปูไม่ได้โกรธอะไร อ้อมสบายใจได้ พอดีปูได้งานใหม่ แล้วต้องย้ายมาอยู่บ้านเจ้านายด้วยเพื่อจะได้ดูแลเค้าให้เต็มที่น่ะ อ้อมก็รู้นี่นาว่างานปูเป็นแบบไหน) กรกฎอธิบายให้อ้อมฟังแค่เรื่องงาน ส่วนเรื่องในวันนั้นเธอเลือกที่ปล่อยเลยไป จะให้เธอบอกอ้อมได้ยังไงว่าเธอรู้สึกเสียใจกับการที่ได้เห็นคนที่เธอแอบชอบ กอดกับคนอื่นแทนที่จะเป็นเธอ
   (อ้อมไม่อยากให้ปูทำงานแบบนั้นอีกเลย มันอันตรายอ้อมเป็นห่วงปูนะ โทรหาอ้อมบ้างนะปู ยังไงปูก็เป็นเพื่อนรักของอ้อมนะจ๊ะ) อ้อมบอกถึงความห่วงใยให้กรกฎได้รับรู้ แต่เหมือนเป็นการตอกย้ำให้คนฟังได้รู้สึกระหว่างเธอกับอ้อมเป็นเพียงแค่เพื่อนเท่านั้น
   (จ๊ะ ถ้าว่างแล้วปูจะโทรหา ปูวางก่อนนะจ๊ะอ้อม เจ้านายรออยู่จ๊ะ) เธอบอกกับอ้อมเสียงแผ่วเบา ใบหน้าดูหมองลงก่อนจะพยายามระงับความรู้สึกเสียใจ เพื่อไปทำงานในหน้าที่ของเธอ ซึ่งพิมพ์รตากำลังยืนรออยู่อย่างหงุดหงิด ที่กรกฎหายไปนาน
   “เอาเสื้อไปเก็บแค่นี้ใช้เวลานานจังนะ” อดต่อว่าไม่ได้
   “ขอโทษค่ะ เพื่อนโทรมาพอดี” บอกเสียงแผ่วเบา ก่อนรีบเดินนำไปยังรถที่พิชิตขับมาจอดรออยู่หน้าบ้านให้แล้ว พิมพ์รตามองตามร่างสูงโปร่ง ที่เดินผ่านเธอไป เธอรู้สึกถึงใบหน้าที่ดูเศร้าหมองทั้งๆ ที่เมื่อสักครู่ยังดีๆ อยู่
   “ขอบคุณนะคะพี่” กรกฎเอ่ยขอบคุณพิชิตที่ยืนอยู่ข้างรถ
   “ขอบคุณทำไม มันเป็นหน้าที่ผมอยู่แล้ว” พิชิตบอกเสียงเรียบ
   “ขอบคุณที่พี่ออมมือให้ปูวันนั้น ทำให้ปูได้ทำงานที่นี่ไง มีอะไรที่ปูไม่รู้ หรือทำไม่ถูกก็ตักเตือนปูได้นะคะ” กรกฎเอ่ยบอกด้วยความจริงใจ พิชิตมองหน้ากรกฎอย่างนิ่งๆ โดยไม่ได้พูดอะไรอีก จนรถคันที่พิมพ์รตานั่ง โดยมีกรกฎเป็นคนขับแล่นห่างออกไป พิชิตยังมองตามรถคันนั้นอย่างรู้สึกเสียดายว่าคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถคันนั้นน่าจะเป็นเขามากกว่า
   “ทำใจให้เป็นกลางนะพิชิต ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่หนูปู นายก็ต้องหาคนใหม่อยู่ดี เพราะคุณหนูไม่อยากได้เธอ ไม่ใช่ความผิดของใคร เรามาช่วยกันดูแลเจ้านายของเราดีกว่านะ” ชัยให้สติและตบบ่าพิชิตเบาๆ
   “ครับลุง” พิชิตบอกอย่างยอมรับความจริง

   รถที่แล่นออกมาด้วยความเร็วสูง โดยที่คนขับยังคงนิ่งเฉย ไม่พูดไม่จาเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ ทำให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆ สะกิดเบาๆ แต่คนขับไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลย จนพิมพ์รตาทนไม่ไหวเลยตีลงไปที่แขนกรกฎอย่างแรง
   “โอ๊ย...! คุณมาตีฉันทำไม เดี๋ยวก็เกิดอุบัติเหตุหรอก” กรกฎตกใจตื่นจากความคิด หันไปต่อว่าคนตีทันที
   “กลัวเกิดอุบัติเหตุงั้นเหรอ แล้วที่เธอเหม่อลอยขับรถเร็วขนาดนั้นไม่กลัวเลยนะ จอดรถเดี๋ยวนี้เลย” พิมพ์รตาสวนกลับแรงไม่แพ้กัน
   “จอดทำไมคะ” หันมาถามอย่างงงๆ
   “ฉันกลัวตายนะซิ จอดเดี๋ยวนี้” พิมพ์รตาบอกเสียงดังอย่างเด็ดขาด จนทำให้คนขับรีบแตะเบรก ก่อนจะค่อยๆ ชะลอรถจอดสนิทตรงไหล่ทาง
   “ลงไปเลย” พิมพ์รตาออกคำสั่งทันที ที่รถจอดสนิท
   “อะไรนะ” กรกฎถามอย่างตกใจ
   “บอกให้ลงไปฉันจะขับเอง เธอใจลอยขนาดนี้ฉันกลัวตาย” บอกแล้วลงจากรถ เดินไปด้านคนขับเปิดประตู ดึงกรกฎให้ลงจากรถแล้วขึ้นไปนั่งแทนที่คนขับแล้วออกรถทันที ทำเอากรกฎที่ยังงงๆ อยู่ต้องวิ่งตาม
   “คุณ...! จะรีบไปไหน รอฉันก่อนซิ” ตะโกนเรียกเสียงดังอย่างตกใจ แต่พิมพ์รตาไม่ได้ชะลอรถเลยด้วยซ้ำ
   “คนบ้าเอาแต่ใจตัวเอง แล้วจะกลับบ้านยังไงล่ะเนี่ย ไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท โทรศัพท์ก็อยู่บนรถหมด เฮ้อ...จะบ้าตาย” กรกฎได้แต่บ่นออกมาดังๆ หลังจากวิ่งตามรถจนหมดแรง เธอนั่งอยู่ริมถนนอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี
   พิมพ์รตามองกระจกหลัง เห็นกรกฎวิ่งตามรถ จนกระทั่งนั่งลงอย่างหมดแรง รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้างาม ‘สมน้ำหน้า อยากใจลอยดีนัก วิ่งให้ลิ้นห้อยเลยจะได้เข็ด’
   กรกฎเดินอยู่ริมถนนท่ามกลางแดดที่ร้อนจัด แต่เธอไม่รู้จะทำอะไรได้ดีกว่าเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งรู้สึกว่ามีรถมาจอดข้างๆ
   “ขึ้นรถ” เสียงที่คุ้นหูดังมาให้ได้ยิน แต่เธอยังเดินไม่หยุด
   “บอกให้ขึ้นรถ ไม่ได้ยินเหรอ นับหนึ่งถึงสาม ถ้าไม่ขึ้นอย่าหวังว่าจะกลับมาอีกรอบนะ หนึ่ง สอง สะ” กรกฎรีบเปิดประตูขึ้นมานั่งก่อนที่พิมพ์รตาจะนับสาม ทำให้คนขับกลั้นยิ้มอย่างขำกับท่าทางที่อยากจะงอนไม่ยอมขึ้นรถแต่ก็ทำไม่ได้ กรกฎอยากจะต่อว่าแรงๆ แต่ไม่สามารถทำได้จึงนั่งนิ่งเฉยไม่พูดอะไร
   “เอ้า...น้ำเย็นๆ แวะซื้อมาให้” พิมพ์รตายื่นขวดน้ำเย็นมาให้ตรงหน้ากรกฎ แต่เธอยังนิ่งเฉยไม่ยอมรับ
   “รับสิอย่ามาทำหยิ่ง ฉันขับรถอยู่ ดื่มซะด้วย” พิมพ์รตาออกคำสั่งเสียงแข็ง จนกรกฎต้องจำใจเอื้อมมือไปรับขวดน้ำมาเปิดดื่มอย่างกระหาย ‘ทั้งร้อนทั้งเหนื่อยขนาดนั้นนี่นะ แล้วยังจะมาทำหยิ่งอีก’ พิมพ์รตายิ้มในหน้า เหลือบมองคนนั่งข้างๆ รู้สึกสงสารขึ้นมาเหมือนกัน
   “ขอโทษนะ วันหลังก็อย่าขับรถใจลอยอีก มันอันตราย”    พิมพ์รตาเอ่ยเสียงอ่อนลง
   “คะ...!” กรกฎหันไปมองหน้าพิมพ์รตาอย่างแปลกใจในสิ่งที่ได้ยิน
   “เธอได้ยินไม่ผิดหรอก ฉันขอโทษ ฉันก็แค่อยากให้เธอรู้สึกตัวแค่นั้นเอง ไม่ได้ตั้งใจทิ้งหรอกนะ ถ้าฉันทิ้งเธอแล้วใครจะคอยดูแลฉันล่ะ คุณพ่อจ้างเธอมาดูแลความปลอดภัยให้ฉันไม่ใช่เหรอ” อธิบายอย่างรู้สึกอารมณ์ดีขึ้น
   “ขอโทษนะคะคุณพิมพ์ ใช่ซิคุณพ่อคุณจ้างฉันให้มาดูแลคุณ แต่ฉันกลับทำให้คุณรู้สึกไม่ปลอดภัยซะเอง ให้ฉันขับรถให้เถอะ” บอกเสียงอ่อยอย่างสำนึกผิด
   “ไม่เป็นไร รู้ตัวก็ดีแล้ว ฉันชอบพูดตรงๆ นะ ไม่ชอบอ้อมค้อม เดี๋ยวขากลับเธอค่อยขับล่ะกัน ใกล้จะถึงแล้วล่ะ” หันมายิ้มให้กรกฎอย่างรู้สึกดีขึ้นกับการรู้สึกผิดของกรกฎ





 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.