web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 3
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 21
Total: 21

ผู้เขียน หัวข้อ: กว่าจะรักกัน...เท่าวันนี้ บทที่ ๗  (อ่าน 3506 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ n-ew

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 93
กว่าจะรักกัน...เท่าวันนี้ บทที่ ๗
« เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 14:22:30 »
ตอนที่ื ๗

   รถจอดอยู่หน้าบ้านดลยาแล้ว มิรันตีจ้องมองใบหน้าของคนที่หลับใหลไม่ได้สติอยู่ข้างๆ อย่างพิจารณา ใบหน้าที่คอย ปั้นให้บึ้งตึงอยู่ตลอดเวลายามอยู่ต่อหน้าเธอ ตอนนี้ทุกอย่างผ่อนคลายลง ริมฝีปากอิ่มเต็มสีชมพูเรื่อไม่ได้เม้มเป็นเส้นตรงแบบทุกครั้ง สายตาแข็งกร้าวที่บ่งบอกถึงความไม่ชอบใจทุกครั้งที่เจอหน้าเธอ บัดนี้ปิดสนิทลงกลายเป็นเด็กสาวที่นอนหลับสนิท ไม่มีฤทธิ์เดชใดๆ หลงเหลืออยู่ มิรันตีเอื้อมมือไปลูบผมยาวสลวยนั้นเบาๆ อย่างลืมตัว
    
   'พยศนักนะเรา เจ้าตัวเล็ก' เผลอบีบจมูกรั้นเบาๆ อย่างลืมตัว แต่คนนอนก็ยังไม่มีทีท่าจะรู้สึกตัว เธอจึงจับแขนคนนอนเขย่าเบาๆ พร้อมกับส่งเสียงเรียก

   "น้องดิวค่ะ น้องดิว...น้องดิว... เอ้า...! นอนขี้เซาอีก ยัยขี้เมานี่" มิรันตีทั้งเขย่าทั้งร้องเรียกก็ไม่เป็นผลใดๆ ดลยายังคงนอนหลับสนิท ในที่สุดเธอต้องยอมแพ้ ลงไปกดกริ่งเรียกป๋อมแม่บ้านให้ออกมาช่วยกันพาคนเมาเข้าไปในบ้านอย่างทุลักทุเล เพราะป๋อมตัวเล็กกว่าดลยามาก แล้วคนที่เมาไม่ได้สติก็ปล่อยตัวทิ้งน้ำหนักซะจนทั้งสองคนแทบทรุด

   "โอ๊ย...คุณดิวเห็นตัวเล็กๆ ทำไมตัวหนักขนาดนี้ แล้วทำไมถึงได้เมาไม่ได้สติแบบนี้คะ ถ้าคุณนายรู้เข้ามีหวังบ้านแตกแน่ๆ" ป๋อมบ่นปนหอบเสียงดัง

   "พี่ป๋อมอย่าให้คุณน้ารู้นะว่าน้องดิวเมามา เดี๋ยวเราจะพลอยโดนหางเลขไปด้วย ถ้าไม่อยากหูชาก็ปิดเป็นความลับด้วยนะคะ" มิรันตีทั้งขู่ทั้งขอร้อง

   "ได้...ได้ค่ะ...รับรองพี่ป๋อมจะรูดซิบปากให้สนิทเลยค่ะ เพราะพี่ป๋อมก็ไม่อยากจะหูชาเหมือนกัน" ป๋อมเห็นดีเห็นงามกับมิรันตี อย่างรู้จักเจ้านายของตัวเองดี พลอยทำให้มิรันตีเบาใจไปได้ ไม่งั้นเจ้าตัวเล็กต้องโดนหนักแน่ๆ

   "พี่ป๋อมไปเอาผ้ากับน้ำมาให้รันหน่อย จะได้เช็ดตัวให้ ตัวเหม็นไปหมด ไม่รู้กินหรืออาบกันเนี่ย" บอกพร้อมกับบ่นไปด้วย

   “ได้ค่ะ" รับคำก่อนจะรีบวิ่งออกไป ไม่นานนักก็กลับเข้ามา พร้อมกับผ้าขนหนู และถังใบเล็กใส่น้ำมาวางไว้ให้ มิรันตีหยิบผ้ามาชุบน้ำบิดแล้วค่อยๆ เช็ดลงบนใบหน้าของคนที่หลับสนิทอย่างแผ่วเบา เธอรู้สึกร้อนวูบวาบแปลกๆ ยามที่เช็ดลงไปบนใบหน้า ผ่านลงลำคอของคนนอนหลับตาพริ้ม อย่างที่เธอก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แต่เธอก็พยายามข่มใจเช็ดให้จนเสร็จเรียบร้อย แต่พอป๋อมยื่นชุดนอนมาให้ เธอกลับเบี่ยงตัวออกมาจากตรงนั้น

   “เอ่อ...พี่ป๋อมเปลี่ยนให้ทีซิค่ะ” หันไปบอกเสียงแผ่ว

   “คุณรันเปลี่ยนให้เลยสิ” ป๋อมยื่นชุดนอนให้

   “พี่ป๋อมเปลี่ยนให้น้องเค้าดีกว่าค่ะ รันไปรอข้างล่างนะคะ” บอกเบาๆ หน้าเป็นสีระเรื่อ ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องนั้นทันที

   “เป็นอะไรทำไมต้องหน้าแดงด้วย ผู้หญิงเหมือนกันจะอายทำไม” ป๋อมรำพึงอย่างแปลกใจ แต่ก็จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดลยาจนเสร็จเรียบร้อย

   “พี่ป๋อมดูแลปิดบ้านให้เรียบร้อยนะคะ มีอะไรก็โทรหารันนะ”

   “ค่ะ คุณรันไม่ต้องเป็นห่วง” มิรันตีรอจนป๋อมลงมา ถึงได้กลับบ้านตัวเอง

   เข้าบ้านอย่างเบาที่สุดด้วยกลัวแม่จะตื่น อาบน้ำเสร็จเข้านอนเป็นนานสองนาน แต่ทำยังไงก็นอนไม่หลับ เธอนอนพลิกตัวไปมา ภาพของดลยาที่นอนหลับตาพริ้ม กับสัมผัสที่เธอลูบไล้ผ่านผ้าเช็ดตัว มันทำให้เธอข่มตาได้ยากเย็นยิ่งนัก เธอรู้สึกแปลกใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมถึงได้คิดถึงดลยามากมายเพียงนี้ ทั้งๆ ที่เวลาเจอะเจอกันก็ไม่เคยที่จะพูดดีๆ กันสักครั้ง เป็นครั้งแรกที่เธอถามตัวเองอย่างว้าวุ่นใจ ครุ่นคิดกว่าจะหลับลงได้ก็จวนรุ่งเช้า

   ดลยาลืมตาตื่นก็ค่อนสาย ได้ยินเสียงก๊อกแก๊กอยู่ใกล้ๆ รีบผลุดลุกอย่างตกใจ

   "อุ้ย...! คุณดิวตื่นแล้วเหรอคะ พี่ป๋อมเห็นว่าสายมากแล้วไม่ลงไป เลยขึ้นมาดู" เสียงป๋อมร้องบอก

   "พี่ป๋อมนะเอง ตกใจนิดหน่อยค่ะ อื้อ...แล้วนี่ดิวขึ้นมานอนได้อย่างไงคะเนี่ย" ถามอย่างงุนงง หลังจากลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ

   "พี่กับคุณรันพาขึ้นมาค่ะ" พอได้ยินป๋อมบอก เธอรีบก้มลงสำรวจตัวเองทันที พอเห็นว่าใส่ชุดนอนเรียบร้อย ใจหายวาบละล่ำละลักถาม รู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ

   "ละ...แล้ว...แล้วใครเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดิวคะ"

   "คุณรัน..." เสียงป๋อมที่กำลังจะเล่า ต้องชะงักอย่างตกใจเมื่อดลยาร้องขัดขึ้นมาเสียก่อน

   “อะไรนะ...พี่ป๋อมปล่อยให้ยายนั่นมาแก้ผ้าดิวได้ยังไงกัน"  ร้องถามเสียงดังอย่างตกใจ พร้อมกับยกมือกอดอกตัวเองหน้าแดงซ่าน แค่คิดถึงดวงตาเป็นประกาย กับรอยยิ้มที่ยียวนของคนที่เธอกำลังพูดถึง มันก็ทำให้เธอรู้สึกขนลุกอย่างไม่รู้สาเหตุ จนต้องยกมือกอดตัวเอง

   "อะไรคะ พี่กำลังจะเล่าว่าคุณรันเป็นคนเช็ดตัวให้คุณดิว แล้วให้พี่เป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ พี่ก็ยังแปลกใจอยู่ว่าทำไมคุณรันถึงไม่เปลี่ยนให้เอง" ป๋อมเล่าอย่างเคลือบแคลงสงสัย

   "ดีแล้วที่ยายนั่นยังรู้จักว่าอะไรควรไม่ควร" รำพึงเบาๆ พร้อมกับถอนหายใจอย่างรู้สึกดีขึ้น ก่อนจะหันไปบอกแม่บ้านน้ำเสียงเป็นปกติขึ้น

   "พี่ป๋อมลงไปก่อนนะคะ เดี๋ยวดิวขออาบน้ำก่อน จะตามลงไป"

   “ค่ะ” รู้สึกงงๆ กับอาการของดลยา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

   ใช้เวลาไม่นานนักดลยาก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าลงมาสีหน้าสดชื่นขึ้น

   “พี่ป๋อม...มีอะไรให้ดิวกินมั่ง หิวจัง” ดลยาส่งเสียงลงมาก่อนตัว

   “เมื่อคืนสงสัยไม่ค่อยได้กินอะไร มัวแต่เม้าท์กับเพื่อน” สิ้นประโยคเธอก็โผล่มายังห้องกลาง ที่คิดว่าแม่บ้านของเธอทำงานอยู่พอดี แล้วก็ต้องชะงักเมื่อในห้องนั้นไม่มีแม้แต่เงาของคนที่เธอเรียกหา แต่กลับกลายเป็นคนที่ทำให้เธอรู้สึกวูบวาบตั้งแต่เช้า หน้าแดงขึ้นมาทันที เมื่อคิดถึงว่าเมื่อคืนคนๆ นี้เช็ดตัวให้เธอ

   มิรันตีมองร่างเล็กบาง แต่ดูเอิบอิ่มในชุดเสื้อแขนกุด กับกางเกงขาสั้นโชว์เรียวขายาวไม่วางตา เธอมองจนอีกฝ่ายรู้สึกตัวและทั้งใบหน้าก็แต้มสีระเรื่อตลอดลำคอ

   “บ้า...มองอยู่ได้” ความเก่งของดลยาหายไปอยู่ไหนเสียหมดก็ไม่รู้ เหลือแต่ความขัดเขินเมื่อสบสายตาลึกซึ้งคู่นั้น มันเหมือนจะสื่ออะไรหลายๆ อย่างให้เธอได้รู้

   “ทำไมจ๊ะ พี่มองไม่ได้เหรอ นึกว่าอยากโชว์เห็นใส่สั้นขนาดนี้” ทั้งๆ ที่รู้สึกดีแต่ปากกลับพูดไปไม่ตรงกับใจ พาลให้อีกคนขุ่นเคืองใจ

   “ฮึ...อยากมองก็มองไปเถอะ ยังไงก็ได้แค่มอง”  ริมฝีปากอิ่มเต็มเหยียดยื่นเล็กน้อย

   “พูดดีไปเถอะ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่บ้าน เดี๋ยวพี่ก็ปล้ำเสียหรอก” มิรันตีแกล้งทำหน้าเคร่ง เดินเข้าไปหาด้วยท่าทางเอาจริงเอาจัง ดลยาไม่ได้เกรงกลัว แต่โกรธอาการข่มขู่ของเธอ หล่อนเลยกระโดดทีเดียวถึงตัวมิรันตี กำปั้นเล็กๆ ทุบลงบนไหล่ของคนตัวสูงกว่าแทบไม่ต้องเสียเวลานับ มิรันตีไม่ทันได้หลบเลี่ยงเพราะไม่คิดว่าดลยาจะกล้าทำแบบนั้นกับเธอ

   พอตั้งตัวได้สองแขนของเธอก็กอดรัดเอวคนประทุษร้ายเข้ามาชิดตัวแน่น แทบจะหลอมละลายเข้าไปเป็นร่างเดียวกับเธอ จนคนตัวเล็กทำอะไรไม่ถนัด ได้แต่ร้องด้วยเสียงขุ่นเคือง

   “ปล่อย...เจ็บนะ”

   “เจ็บสิดี ทำร้ายพี่ก่อนทำไมล่ะ ตีอีกสิ เก่งก็ทุบอีก ทุบทีก็จูบทีแลกกัน” มิรันตีท้าสายตาเป็นประกาย อย่างที่ดลยารู้สึก เกลียดชัง เธอหยุดดิ้นยืนหายใจเหนื่อยหอบอยู่ในอ้อมกอดของอีกคนซึ่งรัดแน่น แต่ดวงตายังลุกวาวด้วยแรงอารมณ์ หน้าอกสะท้อนสะเทือนจนคนที่ยืนกอดอย่างแนบชิด ยังรู้สึกถึงแรงเต้นของหัวใจ

   “ทุบพอแล้วใช่ไหม งั้นพี่ขอจูบคืนล่ะกันนะ” มิรันตีกระซิบข้างหูอย่างอยากแกล้ง ก่อนทำปากจู๋ยื่นเข้าหาช้าๆ แต่ยังไม่ทันได้สัมผัสกับสิ่งใดของหล่อน เธอก็ต้องร้องลั่น

   “โอ๊ย...!”

   “นี่แน่ะ...จูบเหรอ” ดลยาร้องอย่างสาแก่ใจ เมื่ออ้าปากงับริมฝีปากล่างของมิรันตีที่ยื่นเข้าหาเธอ ขบฟันย้ำลงไปแรงๆ จนคนถูกกัดปล่อยแขนที่กอดรัดอยู่ แทบจะผลักร่างบางออกห่าง

   ดลยาหันหลังวิ่งขึ้นห้องนอนตัวเอง ปิดประตูตามหลังมือไม้สั่น กลัวมิรันตีจะแก้แค้นเอา

   “โอ๊ย...ซี๊ด....เก่งจริงอย่าหนีสิ อย่าให้จับได้นะจะจูบให้ปากเจ่อเลยเชียว” มิรันตีร้องขู่ตามหลัง

   “คนบ้า...ขืนมาทำแบบนี้อีกจะกัดให้ปากขาดเลยเชียว” เธอโต้ตอบไม่เกรงกลัวอยู่ในห้องของตัวเอง

   “คุณดิวเป็นอะไรคะคุณรัน ได้ยินเสียงเหมือนทะเลาะกับใคร” ป๋อมที่รันใช้ให้ไปซื้อกับข้าวหน้าปากซอยเดินเข้ามาพอดี

   “ไม่รู้เหมือนกัน อยากรู้ก็ไปถามเค้าซิ” บอกพร้อมกับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

   “แล้วปากคุณรันเป็นอะไรคะ เมื่อกี้ยังเห็นดีๆ อยู่” ป๋อมถามอย่างตกใจที่เห็นปากของมิรันตีเจ่อแดงอย่างเห็นได้ชัด

   “หมากัด...เอ้ย...เดินชนประตูค่ะ มันไม่ยอมหลบ” มิรันตีบอกป๋อมพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

   “ซื้ออะไรมามั่ง ไปตามคุณหนูของพี่สิ เดี๋ยวรันจัดการเทใส่จานให้” บอกพร้อมกับหิ้วถุงใส่อาหารเดินเข้าไปยังห้องครัวอย่างคุ้นเคย

   เสียงเคาะประตูพร้อมกับเสียงของป๋อม ทำให้ดลยากล้าที่จะเปิดประตูออกมา

   “พี่ป๋อม...ว่าไงคะ”

   “ลงไปทานข้าวกันค่ะ พี่ซื้อข้าวมันไก่ร้านโปรดของคุณดิวมาให้”

   “พอได้ยินท้องร้องเลยค่ะพี่ป๋อม ไปค่ะ”บอกพร้อมกับรีบเดินนำแม่บ้านเดินลงไปห้องครัวทันทีด้วยความหิว โดยลืมถามถึงมิรันตี เพราะคิดว่าคงกลับไปแล้ว แต่พอเดินเข้าไปในห้องครัวถึงเพิ่งรู้ว่าเธอคิดผิด เมื่อเห็นมิรันตีนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารอยู่ก่อนแล้ว เธอชะงักเท้าอยู่กับที่ไม่กล้าเดินเข้าไป

   “อ้าวยืนอยู่ทำไมล่ะค่ะคุณดิว เมื่อกี้ยังบอกว่าหิวอยู่เลย คุณรันรออยู่ค่ะ” ป๋อมที่เดินตามหลังมาถามขึ้น

   “เอ่อ...คือ...เอ่อ...” ดลยาพูดไม่ออกขึ้นมา เมื่อเห็นสายตาของอีกคนจ้องมองอยู่

   “มาทานข้าวได้แล้วน้องดิว พี่รอนานแล้วนะคะ อย่าให้โมโหหิว” แกล้งทำเสียงแข็งเย็นชาใส่

   “ใครเค้าบอกให้รอล่ะ”

   “ยังจะมาพูดอีกนะ มาเร็วๆ ไม่งั้นเรื่องเมื่อคืนถึงหูคุณน้ากัลยาแน่ๆ “

   “อย่านะ...” ร้องอย่างตกใจ พร้อมกับเดินเร็วๆ เข้าไปนั่งตรงหน้าอีกคนที่ยิ้มกริ่มอย่างเป็นต่อ

   “ถ้าไม่อยากให้บอกก็ทำตัวดีๆ ว่าง่ายๆ เข้าใจไหม”

   “ค่ะ...” รับคำเสียงเย็นชา สายตาตวัดค้อน ริมฝีปากอิ่มนั้นเหยียดติดจะเยาะ เมื่อเห็นปากของอีกคนเจ่ออย่างเห็นได้ชัด

   “ไม่ต้องมายิ้มเยาะพี่หรอก ระวังตัวไว้ให้ดีๆ ล่ะกัน” คาดโทษไว้ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานข้าว เลยไม่ทันได้เห็นอีกคนทำปากยื่นล้อเลียนเธอ




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.