web stats

ข่าว

 


Lost in Blue vol.2 - ตอนที่ 15 This Is What You Came For

โพสต์โดย: anhann วันที่: 22 เมษายน 2017 เวลา 19:52:30 อ่าน: 414


นิยายเรื่องนี้เปิดให้จองแล้ว  สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.yuriread.com/index.php?topic=1414.msg2196;topicseen#new



ตอนที่ 15 This Is What You Came For







เกรซ / Kaya Scodelario



แอรอนเดินออกมาจากห้องนอน  เขาตรงเข้าไปในครัว  เปิดประตูตู้เย็นเป็นอันดับแรก  และหยิบกล่องนมออกมา  ลำดับต่อไปก็เปิดชั้นวางของ  หากล่องซีเรียลมาแกะเทใส่ชาม  เทนมลงไปแล้วควานหาช้อนจากที่ของมัน  แล้วก็เดินพาชามไปยังโซฟาหน้าทีวี  เขาหยิบรีโมต  เปิดหารายการน่าดู  แต่ก็ไม่มีอะไรให้ดูนอกจากข่าว  เขาจึงเลื่อนช่องไปช่องที่ซื้อเพิ่มพิเศษไว้เพื่อดูซีรีส์ได้ทั้งวันในวันหยุด  เมื่อมีอะไรดูเคล้าไปกับอาหารเช้าแล้ว  เขาก็ลดตัวลงนั่งบนโซฟายาวโดยไม่ได้มองว่ามันมีใครอีกคนจับจองอยู่ก่อนแล้วจนได้ยินเสียงร้องโวยวายดังลั่นออกมาจากกองผ้าห่มตรงก้นของเขาเอง

"โอ๊ย  นายล่ำ  ทำบ้าอะไรเนี่ย!"  เกรซผลักพี่ชาย  ไม่ได้สนใจว่าเขาอาจทำชามซีเรียลฉ่ำนมสดหกใส่หัวเธอ  แต่แอรอนก็หวงของกินของเขาเกินกว่าจะทำให้มันตกหล่นให้เสียไปเปล่าๆ  แถมเขายังหัวเราะเยาะเธออีกแน่ะ

"หุบปากไปเลย  แล้วไปทำมาให้กินบ้าง  แต่ไม่เอาซีเรียลนะ"

"อะไรของเธอ  ทำไมฉันต้องทำให้เธอด้วย  ไม่ใช่แฟน  ไม่ใช่แม่ฉัน"

"ฉันเป็นน้องสาวสุดที่รักของนายไง  ตาล่ำ"  เกรซบอก  นอนห่มผ้ามองพี่ชายยืนส่ายหัวไปมาอย่างเอือมระอา  แต่เขาก็เดินกลับเข้าครัวไปอยู่ดี

"ไปแปรงฟัน  ล้างหน้าก่อนเลย  ยายซกมก  เป็นผู้หญิงซะเปล่า"

"นายก็เป็นผู้ชายอะไรไม่รู้  ขี้บ่นชะมัด"  เกรซยอกย้อน  พอแอรอนเงียบ  มีแต่เสียงทำอาหาร  เธอก็นอนมองเพดานห้องใจลอย  นานแค่ไหนแล้วที่เธอเอาแต่หมกตัวอ่านหนังสืออยู่แบบนี้  นานแค่ไหนแล้วที่เธอปฏิเสธไม่รับโทรศัพท์ฮาร์เปอร์  เพราะอยากจะมีสมาธิอ่านหนังสืออย่างเดียว

ถ้าฮาร์เปอร์เบื่อเธอ  แล้วไปมีคนอื่น  เธอจะโทษใครได้...

ฮาร์เปอร์เคยโทรมาหาเธออยู่หลายครั้งก่อนหน้านี้  ซึ่งเธอก็รับบ้าง  แต่ไม่รับเป็นส่วนใหญ่  แถมยังทำตัวเหมือนคนอยู่ป่า  ไม่สนใจโซเชียลมีเดียอะไรทั้งนั้น  ไม่เปิดดูเฟซบุ๊กส่วนตัว  ไม่เช็กไลน์  ไม่ยุ่งอะไรกับมันเลย  ตัดขาดโลกภายนอกจนแอรอนยังแขวะว่าเธอน่าจะไปอยู่อะแมซอนให้รู้แล้วรู้รอดไป 

แต่อะไรก็ไม่ร้ายเท่าที่เธอโกหกฮาร์เปอร์ว่าไปกับคนอื่นหรอก

เพราะไม่อยากให้เป็นห่วงว่าเธอจะเครียดเรื่องเรียนมากเกินไป  ก็เลยทำอะไรโง่ๆ ลงไปว่า  เธอไปเรียนติวฝรั่งเศสกับเจด  ทั้งที่ความจริงเจดไม่เคยว่างพอจะทำแบบนั้นกับเธอเลย  นอกจากจะเป็นแบบให้โคลอี้วาดรูปแล้ว  ซึ่งงานมันก็เสร็จไปแล้ว  ก็ยังรับงานถ่ายแบบให้กับดิแองเจิ้ลด้วย  จะเอาเวลาตรงไหนมาติวให้เธอ  อีกอย่าง  ถ้าอยากเรียนฝรั่งเศสกับเนทีฟสปีกเกอร์ตัวจริงจริงๆ แล้วละก็  เธอก็ยังมีแฟนของอาเอลิเนอร์ที่สอนได้  เผลอๆ จะดีกว่าด้วย  เพราะรายนั้นเป็นถึงอาจารย์

มันก็แค่ข้ออ้างงี่เง่าที่ทำให้แอรอนด่าเธอว่าโง่อยู่ทุกวัน!

"เกรซ  ไปล้างหน้า  แปรงฟันสิ  อย่ามาทำตัวสกปรก"  แอรอนดันหลังน้องสาวฝาแฝดออกไปจากครัว  หลังจากเกรซขโมยตักไข่คนที่เขาทำเพิ่งเสร็จไปใส่ปากหนึ่งคำ

"ไหนๆ ก็กินแล้ว  ให้ฉันกินต่อให้เสร็จสิ  แอรอน"

"ไม่ได้  ถ้าไม่ไป  ฉันจะเททิ้งให้หมดเลยนะ  และเธอรู้ว่าฉันไม่ได้ขู่"

"ตาล่ำจู้จี้  ยิ่งกว่าผู้หญิงอีก"

"หยุดพูด  แล้วเข้าห้องน้ำไป  เธอเป็นผู้หญิงตัวเหม็นมาก  เกรซ"

"ปากเสีย  นายหาเมียไม่ได้สวยเท่าฉันหรอก  ตายักษ์"  เกรซแขวะพี่ชาย  แต่ลับหลังเขา  ตอนอยู่ในห้องน้ำคนเดียว  เธอก็ตกใจตัวเองที่ปรากฏอยู่ในกระจกเงา 

ใครกัน...ทำไมถึงโทรมได้ขนาดนี้?

"โอ๊ย  ไม่เอาแล้ว  วันนี้ฉันจะออกจากบ้าน"  หญิงสาวโวยวาย  รีบเปิดก๊อกน้ำ  วักน้ำล้างหน้าล้างตา  บีบโฟมใส่มือแล้วค่อยๆ ขยี้ไปตามผิวแก้มอย่างระวัง  ตาสีฟ้าเข้มเพ่งมองที่เส้นผมตัวเอง  โคนผมสีทองเริ่มออกมาให้เห็นเด่นชัดขึ้นแล้ว 

"โห  นี่ฉันไม่ได้สนใจตัวเองนานแค่ไหนแล้วเนี่ย"  เกรซพูดอย่างปลงๆ  ปลายนิ้วแตะเส้นผมสีทอง  พลางทำหน้าขนลุก

"แอรอน  เอายาย้อมผมให้ฉันด้วย  ถ้าไม่มีก็ไปซื้อมา  เข้าใจไหม"

"ไม่เข้าใจโว้ย  ไปซื้อเอง"

"ไม่ได้  นายไม่รักฉันหรือไง  ฉันเป็นน้องสาวคนเดียวของนายนะ  แอ"

"ทีแบบนี้  เห็นฉันเป็นพี่เชียวนะ  ยายตัวแสบ"  แอรอนตะโกนกลับมา  แล้วก็หายเงียบไป  เกรซยืนรออยู่ครู่หนึ่ง  แล้วคลี่ยิ้มออกมาอย่างร่าเริง

เธอจะกลับเป็นเกรซคนเดิมอีกในไม่ช้านี้แหละ

.................................................

ฮาร์เปอร์รับอาสาไปรับคาร์ลีย์มาจากโรงเรียนพิเศษกับเบน  เพราะช่วงนี้คาร์ลีย์ค่อนข้างงอแง  ไม่อยากไปเรียนเท่าไหร่  เธอเองก็ยังเคี่ยวเข็ญตัวเองให้กลับไปเรียนได้  และใช้เวลาว่างเขียนหนังสือ  ทำงานที่ชอบ  ตอนนี้อาการต่อต้านแม่  ลดลงจนแทบไม่เหลือแล้ว  เป็นอย่างที่อาแซมบอกเธอไว้  ช่วงวัยรุ่นเป็นอะไรที่น่าเวียนหัวเสมอ  แต่ที่อารู้ดีแบบนั้น  ก็เพราะต้องรับมือกับโคลอี้ฉบับร้ายๆ มาก่อน  ร้ายกว่าเธอเยอะด้วย  แบบเธอนี่เทียบไม่ติดฝุ่น

ถ้ากาลเวลาทำให้อะไรๆ เปลี่ยนไปได้  คนก็เช่นกัน...

มันพรากเอาสิ่งที่เรารักไปในบางครั้ง  แต่มันก็ช่วยเยียวยาบาดแผลในใจเราได้ด้วย... เธอไม่แน่ใจว่า  กาลเวลาเป็นตัวร้าย  หรือเป็นตัวดี  แต่มันก็ช่วยสอนอะไรๆ ให้เธอได้มาก 

"ไปหาแซมก่อนนะ"  คาร์ลีย์หันมาบอก 

ฮาร์เปอร์มองตามน้องที่เดินถือกล่องขนมซึ่งแวะซื้อระหว่างทางไปให้อาผมทอง  แซมก็เดินออกจากฉากที่กำลังช่วยสต๊าฟดูมาหาลูกสาว  แล้วหันมาพยักหน้าทักทายเธอด้วยก่อนหันกลับไปคุยกัน 

"เฮ้  วันนี้คุณหนูคาร์เตอร์คนโตมาดูงานเองเหรอเนี่ย"

เสียงพูดติดสำเนียงแปร่งๆ  เรียกให้ฮาร์เปอร์ตวัดสายตาไปมอง  เธอไม่แปลกใจนักที่เจอเจดที่นี่  เพราะได้ข่าวจากแม่มาว่า  เด็กสาวฝรั่งเศสคนนี้ได้เซ็นสัญญาอยู่ในสังกัดของน้าเทย์เลอร์ของเธอแล้วเรียบร้อย 

"ไง  สบายดีนะ"  ฮาร์เปอร์ทักกลับ  พยายามทำตัวดีๆ ถึงจะไม่ค่อยอยากญาติดีกับคนคนนี้นัก  แต่เธอไม่อยากทำตัวเป็นเด็กขี้อิจฉาขี้พาล 

"ก็โอเค  แล้วเกรซล่ะ"  เจดเลิกคิ้ว  เมื่อฮาร์เปอร์ทำหน้างงๆ

"ไม่ได้มาด้วยกันเหรอ"

"ฉันต้องถามเธอสิ"  ฮาร์เปอร์ย้อน  นึกฉุนขึ้นมาจนไม่อยากทำตัวมีมารยาทอีกต่อไปแล้ว  "งงอะไร  ก็เห็นพักนี้ตัวติดกันไม่ใช่เหรอ  มาถามฉัน  ฉันจะรู้ได้ไง"

"เดี๋ยวนะ  ใครทำตัวติดกับใคร  ฉันไม่รู้เรื่อง  ฉันทำงานทุกวัน  ไหนจะไปเข้าเรียนอีก  ไม่มีเวลาไปไหนหรอก  เธอเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ  ฮาร์เปอร์"

"ก็เกรซบอก..." 

เสียงสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือของใครบางคนดังขึ้นมาขัด  เจดบุ้ยปากไปทางฮาร์เปอร์เพราะเธอไม่ได้พกโทรศัพท์เข้ามาทำงาน  ฮาร์เปอร์งงเพราะชื่อไอดีที่ปรากฏบนหน้าจอ  แต่หัวใจกลับเต้นตึกตักด้วยความลุ้น  เธอหมุนตัวหันหลังให้เจดก่อนค่อยกดรับ

"เฮ้  ว่าไง"  ฮาร์เปอร์ทัก  รู้สึกคล้ายได้ยินเสียงถอนหายใจโล่งอกมาจากปลายสาย  แล้วก็รู้สึกว่า  เธออาจกำลังยิ้มอยู่

"ออกมาจากถ้ำได้หรือยัง"

"ฉันอยู่ตรงหน้าทางเข้าดิแองเจิ้ล"  เกรซตอบ  "ฉันจะไปรอในร้านกาแฟ  ถ้าเธอว่าง --"

"จะไปเดี๋ยวนี้  สั่งของกินไว้เผื่อกันด้วย"  ฮาร์เปอร์แทรกโดยไม่รอให้อีกคนจบประโยค  และตัดสายอย่างรวดเร็ว  หันมาอีกทีเจดก็ยืนกอดอกอมยิ้ม  มองเธอด้วยสายตาแปลกๆ  เธอจึงเลิกคิ้วแทนคำถาม

"ถ้าหวงมาก  ก็ใส่ใจให้มากๆ หน่อยสิ  เป็นผู้หญิงเหมือนกัน  ทำไมถึงไม่เข้าใจว่าอีกคนคิดยังไง  ที่แท้เธอก็แค่เด็กน้อย  ใช่ไหม  ฮาร์เปอร์"

ฮาร์เปอร์หงุดหงิด  แต่ก็ทำเพียงสะบัดหน้าให้อีกฝ่าย  เดินหนีเจดไปหาคาร์ลีย์  กระซิบบอกน้องว่ามีแผนจะไปไหน  ดีทีเดียวที่น้องไม่ได้ถามอะไรมากมายให้เธอต้องปั้นคำแก้ตัวมาชี้แจง

"แล้วจะกลับบ้านด้วยกันไหม  ฮาร์ป"

"เดี๋ยวบอกละกัน"

คาร์ลีย์พยักหน้า  ไม่ซักไซ้อะไร  เธอจึงเดินจากออกมา  พยายามไม่มองสีหน้าเยาะเย้ย (หรือเธอคิดว่ามันเป็นแบบนั้น) ของเจดตอนเดินผ่าน  มันต้องไม่ดีอยู่แล้ว  หากทำตัวให้คนอื่นดูถูกได้  แม่เจย์จะต้องผิดหวัง  ถ้าลูกสาวคนเดียวของแม่เป็นแบบนั้น  ยังไงเธอก็พ้นความเป็น คาร์เตอร์  ไปไม่ได้  ไม่ว่าเธอจะใช้นามสกุลอะไร

"เธอโกหกฉัน  ยายแสบ"

เกรซแทบสำลักฟองคาปูชิโน  เพราะฮาร์เปอร์ทุบโต๊ะจนสะเทือนแทนการทักทายแบบหวานแหววอย่างเคย

"ไม่ต้องมาแก้ตัว  ฉันรู้เรื่องหมดแล้ว  เธอหายหัวไปไหนมา"

"อยู่บ้าน"

ฮาร์เปอร์ขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม  ไม่อยากเชื่อหูเลยกับคำตอบนี้

"ไม่จริงอะ  ฉันไปบ้านเธอทีไร  ไม่เคยมีใครอยู่เลย  แอรอนก็ยังไม่มี  พวกเธอพี่น้องเล่นอะไรกัน  เล่นซ่อนหากับฉันหรือไง"

"แอรอนเพิ่งกลับมาจากฟลอริด้า  พ่อกับแม่ฉันกลับมา"  เกรซตอบ  พยายามฉีกยิ้มเอาใจคนกำลังหงุดหงิด  เพราะเธอเองก็ผิดด้วย  "ส่วนฉัน... ก็แอบอยู่ในบ้านนั่นละ"

"เยี่ยม  เยี่ยมมาก"  ฮาร์เปอร์ประชดหลังจากนั่งเงียบไปประมาณหนึ่งนาที  "แล้ววันนี้ใครไปขุดเธอออกมาล่ะ"

"เธอไง"

"ฉัน?"

"อื้อ"  เกรซขานรับ  ยินยอมให้อีกฝ่ายฟาดฟันใส่ทั้งสายตาและคำพูดโดยไม่คิดโต้เถียง  เนื่องจากตัวเธอเองก็ยังเกลียดตัวเองที่ทำแบบนั้นลงไป 

ถ้าแอรอนไม่กลับมาจากฟลอริด้า  และตบหัวเธอให้รู้สึกสำนึกว่า  ทรุดโทรมมากแค่ไหนแล้วกับการฝังตัวอยู่กับกองหนังสือกฎหมาย  ชีทตัวอย่างคดีต่างๆ ที่พวกรุ่นพี่ส่งต่อมาให้  ดินสอ  ปากกาไฮไลท์  พวกมันทำให้เธอแทบไม่ได้ลุกจากโซฟายาวที่นั่งๆ นอนๆ อยู่กับมัน  ห้องน้ำยังไม่ค่อยจะเข้าไป  ยกเว้นเวลาทนไม่ไหวจริงๆ  ผ้าปูที่นอนก็เรียบกริบ  ปราศจากรอยยับ  เพราะไม่ได้ใช้นอน  ของกินก็ขุดเอาอาหารแช่เย็นที่ซื้อตุนเอาไว้ก่อนจำศีลมาใส่ไมโครเวฟอุ่นกินเอา  เธอเป็นพวกสุดโต่งแบบนี้  เป็นพวกไม่รับโทรศัพท์จนสายตัดไป  จนคนที่โทรมาหมดอารมณ์จะโทร  ต้องยอมแพ้ไปเอง  แถมยังบ้าขนาดที่ฮาร์เปอร์มากดกริ่งเรียกหน้าประตู  ก็ยังไม่เปิดรับอีกด้วย

ช่างเป็นแฟนที่ทำตัวน่าถูกทิ้งมากๆ!

"ฉันนึกว่า  เราเลิกกันแล้วซะอีก"  ฮาร์เปอร์พูดเสียงเบา  นัยน์ตาสีน้ำตาลทองหมองลงจนอีกคนต้องเลิกสนใจคาปูชิโน  ยื่นมือมาจับมือกันไว้

"ฉันขอโทษ  ฮาร์เปอร์"  เกรซเอ่ย  บีบมือเย็นๆ ของคนที่ฝ่าสภาพอากาศหนาวเย็นมาหาเธอ  เธอเอามืออีกข้างมาลูบมือฮาร์เปอร์ข้างนั้น  "ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว  ขอโอกาสอีกทีได้ไหม  อย่าเพิ่งหมดหวังกับฉันนะ"

ฮาร์เปอร์พยักหน้าง่ายดาย  เพราะก็รู้สึกผิดอยู่เหมือนกัน  เธอเองก็หวั่นไหวง่ายเกินไป  โชคดีที่โคลอี้เข้าใจเธอ  และพยายามทำให้เธอเข้าใจมัน  เข้าใจความรู้สึกประหลาดๆ แบบนั้น

"ฉันก็ขอโทษ"

"เรื่อง?"  เกรซถามกลับ  แต่แน่นอนว่า  ฮาร์เปอร์คิดชื่อเรื่องไม่ออก  และไม่ได้อยากจะคิดด้วย  เรื่องอะไรจะต้องบอกทุกอย่าง  ขอยืมความชั่วร้ายจากน้าสาวตาคมมาใช้หน่อยแล้วกัน

"ไม่  ไม่มีอะไร  กลับบ้านกันเถอะ"

"บ้านใคร  แล้วน้องเธอล่ะ  คาร์ลีย์ไม่ได้มาด้วยเหรอ"

"มา  แต่เขากลับเองได้"  ฮาร์เปอร์ตอบ  มั่วไปแบบนั้นก่อน  แต่ยังไงคาร์ลีย์ก็มีปัญญากลับบ้านเองได้จริงๆ อยู่แล้ว  ถึงเบนจะไม่ได้รออยู่ในลานจอดรถแบบนั้น  แค่เดินออกจากตึกไปอีกนิดหน่อยก็ถึงสตูดิโอของโคลอี้  นั่นไงคนพากลับ  ถ้าไม่อยากนั่งแท็กซี่ให้เปลืองเงิน  หรือเบียดกับคนอื่นในรถไฟ

"ไปนะ"

"โอเค  ไปก็ไป  ตาล่ำนั่นเบื่อหน้าฉันเต็มทีแล้ว  เขาไล่ฉันออกมา"

"ฉันอยากได้พี่ชายแบบนั้น"

"เธอเสียสติแล้ว  ฮาร์เปอร์"  เกรซพูด  แต่ไม่ว่าเธอหรือฮาร์เปอร์ก็รู้ว่า  มันไม่จริง  และเธอรักพี่ชายฝาแฝดของเธอที่สุด

"ไปบ้านฉันนะ  ฉันมีอะไรจะอวด"  ฮาร์เปอร์พูดอย่างรื่นเริง  ฉุดแขนเกรซให้ลุกขึ้นตามกัน  แต่ก็ยอมปล่อยให้คนขี้เสียดายหวนกลับไปหยิบแก้วกาแฟที่ยังกินไม่หมดติดมือกลับไปด้วย

"อะไร  ได้ลูกหมาตัวใหม่เหรอ"

"บ้าสิ  แบบนั้นได้โดนไล่ออกจากบ้านทั้งคนทั้งหมาแน่ๆ"  ฮาร์เปอร์พูดแล้วหัวเราะ  นึกขำแม่เจย์ขึ้นมา  อยากให้เธออยู่บ้านก็เลยต้องยอมให้เธอเอาจังเกิ้ลกับธอร์มาเลี้ยงที่บ้านเล็กได้...จะว่าไปก็สงสารแม่เหมือนกัน

"แล้วอะไรล่ะ  ทำไมต้องมีความลับด้วย"

"นี่ย้อมผมมาใหม่ใช่ป่ะ"

เกรซงง  อยู่ๆ ฮาร์เปอร์ก็เปลี่ยนเรื่องเสียอย่างนั้น  แต่ก็ผงกศีรษะ  แล้วหรี่ตามองอีกฝ่ายที่ลากเธอเข้าร้านมินิมาร์ทระหว่างทาง

"จะซื้ออะไร  ฮาร์เปอร์"

"สีผมเธอไม่เสมอ  น่าอายชะมัด  ฉันจะทำให้ใหม่"

"เฮ้ย  ไม่จริงอะ  อย่ามามั่วนะฮาร์เปอร์  แอรอนบอกว่ามันดีแล้ว"

"เธอโดนตาล่ำนั่นแกล้งแล้วละ  เกรซ"  ฮาร์เปอร์ตอบอย่างจริงจัง  ซึ่งมันก็ทำให้เกรซเชื่อสนิทโดยไม่คิดจะแวบไปดูกระจกให้มั่นใจก่อน 

"เธอว่า  ถ้าฉันผมทองบ้าง  มันจะเป็นไง"

"เห็นแก่พระเจ้าเถอะ  ฮาร์เปอร์  อย่า"  เกรซส่ายหน้า  ซีเรียสสุดชีวิต  "เธอไม่เหมาะกับผมทอง  ผมทองจะทำให้เธอซีดเป็นผี  แบบฉันเมื่อก่อน"

"แล้วคาร์ลีย์  กับแซมล่ะ"

"พวกนั้นเป็นพวกตัวซีดที่โอเคที่สุดในสายตาฉันแล้ว  เชื่อสิ  เบ๊บ" 

ฮาร์เปอร์มองมือที่บีบไหล่สลับตาสีฟ้าที่เข้มขึ้นเพราะแสงไฟในร้าน  แล้วเธอก็ยอมแพ้มัน  ยอมเอากล่องเปลี่ยนสีผมสีทองไปเก็บ  หยิบสีอื่นขึ้นมา

"น้ำตาลประกายแดง  นั่นละเจ๋ง"

"โอเค"

"ฮาร์ป  สีทาเล็บด้วย  ลิปสติก  แล้วก็ --"

"เฮ้ๆ  บอกหน่อยว่า  เธอไม่ได้กระหายของพวกนี้  เพราะเพิ่งออกมาจากถ้ำแบบหมีจำศีล"

"เกรงว่า  จะเป็นอย่างนั้นละ"  เกรซตอบ  รื่นเริงจนคนมองได้แต่ยืนเกาหัวไปมาเบาๆ  แล้วก็ต้องเข้าไปช่วยเลือกอีกเวลาคุณผู้หญิงเธอตัดสินใจเองไม่ได้  กว่าจะเลือกได้ว่าจะเอาอะไรสักอย่างก็นานมากๆ พอกับเวลาเธอไปรอแม่เจย์เลือกซื้อของเลย  แต่ถึงอย่างนั้น  ฮาร์เปอร์กลับรู้สึกว่า  เธอคิดถึงบรรยากาศแบบนี้มากเชียวละ

........................................

คาร์ลีย์ขออนุญาตแม่แซมเรียบร้อยแล้ว  เธอจึงสามารถบอกเบนให้ขับรถไปรอเธอที่สตูดิโอของโคลอี้ได้  เพราะเธอจะเดินไปที่นั่นเอง  มันไม่ไกล  ขาของเธอยาว  และมีเรี่ยวแรงพอที่จะทำแบบนั้นได้  ซึ่งเธอก็ควรจะใช้มันก่อนที่มันจะเสื่อมสภาพกลายเป็นง่อยไปเสีย

เด็กสาวกระชับผ้าพันคอ  ดึงขึ้นมาปิดตั้งแต่ใต้จมูกลงไป  แล้วซุกมือกลับเข้ากระเป๋าเสื้อแจ็กเกตทั้งสองข้าง  เธอไม่ได้สนใจรปภ.ที่เฝ้าประตูตึกอยู่  เขาก็ดูจะไม่ได้มองเธอนานเหมือนกัน  เพราะรู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นใคร  ถ้าเขาไม่ใช่คนใหม่ก็คงไม่ขอบัตรผ่านเข้าตึกกับเธอหรอก  จะว่าไปก็เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง  รปภ.ไฟแรงที่เพิ่งได้รับว่าจ้าง  เรียกขอตรวจบัตรกับเธอ  แล้วแม่เทย์เดินอยู่ด้านหลังเธอพอดี  เขาก็เลยโดนหัวหน้าเรียกไปอบรมใหม่  ไม่โดนย้ายก็แล้ว  นับแต่นั้นก็เลยไม่มีใครอยากยุ่งกับเธอหรือฮาร์เปอร์สักคน

คาร์ลีย์ดึงมือออกจากแจ็กเกตข้างหนึ่งเพื่อดันประตูกระจกออกไป  เธอคิดว่าตัวเองมองทางดีแล้วว่าไม่มีใครผลักเข้ามา  แต่บางคนที่ใส่แว่นแล้วก็ยังเซ่อซ่าถลาเข้ามาโดนกระจกที่เธอผลักออกไป  และก็ผงะหน้าหงายร้องโอย  กุมหน้าผากตัวเองแบบน่าสงสาร  หรือ...สมเพชดีล่ะ?

"คาร์ลีย์?"

"โทษที  แต่ฉันคิดว่า  เธอควรต้องไปตัดแว่นใหม่นะ"  เธอบอก  แล้วรีบเดินจากมาตอนที่ยังอารมณ์ดีอยู่  แต่ดูเหมือนเพย์ตันจะสมองเสื่อมว่าเราไม่ใช่เพื่อนกัน  จึงยังเดินตามเธอมาอีก

"คาร์ลีย์ --"

"ฉันขอโทษแล้วใช่ไหม"  คาร์ลีย์หยุดเดินแล้วถาม  เพย์ตันที่หน้าผากแดงแจ๋ก็พยักหน้าหงึกหงัก  ดูเหมือนเขิน  หรืออายที่เดินชนกระจกก็ไม่รู้

"งั้นฉันก็ไปได้แล้วสินะ"

"ดะ  เดี๋ยวสิ  เดี๋ยวก่อน"

"อะไร  ฉันรีบอยู่"

"อย่าลาออกจากโรงเรียนเลยนะ"  เพย์ตันพูด  ความหงุดหงิดบนหน้าของคาร์ลีย์จึงจางลง  แต่มีความงงขึ้นมาแทนที่

"ใครพูด  ใครบอกเธอแบบนั้น"

เด็กสาวขี้อายหน้าเจื่อน  แต่ไม่มีทางเลือกอย่างอื่นนอกจากเปิดปากพูดออกไป  ในเมื่อกล้าเรียกคาร์ลีย์เอาไว้แล้ว  ถ้าไม่กล้าพูดก็เสียเปล่าสิ

"พวกเขาพูดกัน  พวกนั้นน่ะ  พวกเพื่อนๆ เธอ"

คาร์ลีย์กลอกตา  ไม่ผิดจากที่คิดไว้เท่าไร  คนพวกนั้นไม่เคยจะเงียบอะไรได้  นอกจากต้องเอาหมัดไปยัดปาก  ทั้งที่เธอแค่เปรยออกมาเล่นๆ  ยังจะกระจายข่าวไปเสียจนกลายเป็นเรื่องใหญ่จนได้  ขนาดซื่อบื้อๆ อย่างเพย์ตันยังรู้เรื่องได้  แล้วจะมีคนไหนในโรงเรียนอีกที่ไม่รู้  สงสัยเธอต้องลาออกจริงๆ แล้ว

"ตกลงมันจริงหรือเปล่า  หรือพวกนั้นแค่กุข่าวขึ้นมา"  เพย์ตันถาม  คาร์ลีย์ยักไหล่  ไม่เห็นความจำเป็นต้องแก้ตัวหรือพูดความจริง 

"ฉันมีธุระ  นัดกับแฟนไว้  ไว้คุยกันวันอื่น"

"แต่เราไม่เคยคุยกันเลยนะ  คาร์ลีย์"

"ก็เข้ามาหาฉันสิ  ขาก็มี  แล้วถ้าตอนนี้พูดได้  ก็แสดงว่า  ไม่ได้เป็นใบ้  ใช่ไหมล่ะ"  คาร์ลีย์ตอบอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก  เธอหมุนตัวกลับมาเดินต่อ  แต่ยังได้ยินเสียงเพย์ตันพูดไล่หลังมา

"เจอกันที่โรงเรียนนะ  คาร์ลีย์"

คุณหนูคาร์เตอร์คนเล็กไม่ได้หันไปตอบ  หากก็ไม่ได้ปฏิเสธเช่นกัน   



.............................................


มีอะไรยังงงตรงไหนไหมคะ  ใครอยากเจอเกรซ  นางกลับมาแล้วนะคะ  ไม่ได้หายไปไหนหรอก  อิอิ

เหลือเปิดจองกันอีก 8 วันนะคะ  อย่าลืมละ  เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนนะคะ   :21:

ขอบคุณค่ะ   :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

22 เมษายน 2017 เวลา 21:12:31
 :24: :74:ร้อนมาก  เกรซกลับมาง้อสาว สาวเจ้าก็ง้อง่ายดีจริง  :08:
นึกว่าเรื่องนี้เพย์ตันจะหายไปเลยนะเนี่ยยังมีบทอีก อิอิ
แสดงความคิดเห็น