web stats

ข่าว

 


ลงตัวด้วยรัก ตอนที่ 12

โพสต์โดย: อินท์สีเลือด วันที่: 22 มีนาคม 2017 เวลา 14:04:05 อ่าน: 317


บรรยากาศภายในห้องโดยสารของรถกระบะสี่ประตูมันน่าอึดอัดด้วยทั้งคนขับและผู้โดยสารร่วมต่างเอาแต่นั่งนิ่งเงียบ  การจราจรที่ติดขัดเป็นประจำในช่วงเย็นยิ่งขัดใจแรงเคลื่อนของรถที่อยากจะไปถึงจุดหมายปลายทางเสียที  ปรียาไม่กล้าแม้แต่จะเอื้อนเอ่ยสิ่งใดสักถ้อยคำเพื่อแก้ตัวเพราะไม่ว่าจะสรรหาคำใดก็คงไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมาได้สักน้อยนิด  กังวลใจในความคิดของรุ่นน้องสาวที่ไม่ได้ติดตามแม่ของตนออกไปหากแต่เลือกจะร่วมทางมากับตน  ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่บ้างในใจแต่ความคิดเหล่านั้นคงไม่พ้นความผิดที่ตนสร้างขึ้นมาเพราะความลืมตัวนั่นแน่นอน ...ก็ใครจะไปคิดกันเล่าว่ามันจะจุดไต้ตำตอเสียขนาดนั้น....


ย่านางเหลือบมองรุ่นพี่สาวที่ทำหน้าที่สารถีอย่างครุ่นคิด  ภาพที่ร่างเพรียวกำลังกอดจูบกับมารดาของเธอมันเวียนวนจนไม่อยากคิดอยากเชื่อว่าเธอจะได้เห็นอะไรแบบนั้น  ไม่มีคำพูด ไม่มีการต่อว่าต่อขาน เธอไม่น่าจะใจเย็นได้ขนาดนี้แถมยังนั่งรถกลับมาด้วยกันอีกแต่เหมือนนั่งมาในรถรับจ้างมากกว่า 

รอยนิ้วบนใบหน้าที่เธอเห็นมันบอกได้ว่าแม่เธอลงแรงน้ำหนักเท่าไหร่อีกข้างนั่นก็คงไม่ต่างกันนัก  คงเจ็บไม่ใช่น้อยหรอกนะไหนจะปากที่เริ่มบวมเจ่อเพราะแรงตบที่โชว์อยู่  แม่ของคนรักเธอก็ช่างทำอะไรไปได้แบบนั้นแม้ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในห้องนั่นก่อนหน้าที่เธอจะผลักประตูเข้าไปเพราะคนที่นั่งข้างๆโทรมาบอกให้เธอไปหายังห้องนั้น ....พี่ปรีนะพี่ปรี จูบใครไม่จูบดันมาจูบแม่ของย่าแล้วอย่างนี้ความรักของย่ากะเอมไม่จบเห่ลงรึไง เฮ้อ......




ปี๊นนนนนนนนนนนน..............เสียงแตรรถคันหลังบีบไล่สนั่นถนนเมื่อรถคันหน้าไม่ยอมขยับตัวออกจากแยกไฟแดงสักที  เจ้าของรถที่ได้สติรีบออกตัวพลางลดกระจกกล่าวขอโทษเมื่อรถคันหลังแซงผ่านไป 


"เข้าข้างทางก่อนไหมคะพี่ปรี  เดี๋ยวย่าขับให้" หญิงสาวเอ่ยปากเพราะคิดว่าอีกคนคงไม่มีสติพอในเวลานี้


"ม่ะ..ไม่เป็นไรค่ะ  พี่ไหว" ปรียาปฏิเสธพยายามคุมพวงมาลัยเพิ่มสมาธิมากขึ้น


"กลัวย่าโกรธหรือคะ" คำถามแรกเปิดออกให้อีกคนกระตุกไหวสายตาหวาดหวั่น


"มัน...เอ่อ....มันควรเป็นอย่างนั้นไม่ใช่เหรอย่า" 


"ไม่มีคำแก้ตัวเลยหรือคะ" ย่านางคาดหวังคำแก้ต่างที่มากกว่านี้


"ไม่มีค่ะ อย่างที่ย่าเห็นพี่คงปฏิเสธอะไรไม่ได้" ปรียาหมุนพวงมาลัยเปิดไฟกระพริบเลี้ยวเข้าจอดข้างทาง


"พี่กับแม่ของย่ารู้จักกันมาก่อนรึปล่าวคะ" ย่านางเริ่มถามในสิ่งค้างคาเพื่อหาต้นเหตุทั้งหมดของเรื่อง


"ไม่เลยค่ะ พี่เพิ่งเจอไม่คาดด้วยซ้ำว่าจะเป็นคนที่ใกล้ตัวซะขนาดนี้" ปรียาบอกทำสีหน้าลำบากเมื่อสบสายตาสาวรุ่นน้องในที่แคบบนรถที่นั่งกันอยู่


"แล้วทำไมพี่ถึง....."


"พี่ขอโทษค่ะย่า  พี่โมโหและก็....ลืมตัว"  มาแล้วสินะคำแก้ต่างอันแสนทุเรศฟังไม่ขึ้น ปรียาคิดในใจเมื่อตอบข้อข้องใจที่ยังไม่หมดทุกอย่าง


"พี่ปรี....ลืมตัวเนี่ยนะ  มันใช่เหรอ"  ย่านางขึ้นเสียงเล็กน้อยให้รุ่นพี่สาวได้แต่ยิ้มแห้งหน้าตาจืดเจื่อน


"ก็...เอ่อ...ก็  โอ้ย มันไม่รู้จะพูดยังไงนี่ ก็แม่ย่าน่ะมาว่าพี่ฉอดๆๆ พี่เดือดก็เลย...." ปรียาที่อึดอัดจนระเบิดเมื่อถูกต้อนและก็ไขข้อสงสัยให้รุ่นน้องสาวนิ่งยิ้มมุมปาก


"ถามนิดนะคะ เวลาโมโหพี่ปรีจูบทุกครั้งทุกคนที่ใกล้ป่าวคะ"


"ก็ใช่  เย้ย!!!  ไม่ใช่  บ้าเหรอย่าพี่ก็เลือกนะ เอ้ย ไม่ใช่" คำตอบลนลานชวนเกิดเสียงหัวเราะทั้งๆออกจะซีเรียสแต่ก็อดขำไม่ได้ 


"จริงๆเลยพี่ปรี  ย่ากะให้พี่เป็นกองหนุนดันมาหนุนจนล่มแบบไม่เป็นท่าซะนี่ แล้วนี่ย่าจะพาเอมเข้าบ้านได้ง่ายๆไหมนี่"  หญิงสาวบ่นออกมา เธอพอเข้าใจได้ในระดับหนึ่งว่าคนเราเวลาโกรธหรือโมโหมักทำอะไรที่ไม่ได้คิดแต่รุ่นพี่คนนี้ฉีกความโมโหได้แปลกประหลาดกว่าชาวบ้าน (.....โกรธแล้วจูบ อยู่ใกล้มีเปลืองตัวแน่ นี่ชะเอมติดเชื้อมาบ้างรึปล่าวนะนิสัยนี้....)


"อืม...พี่ว่าเรื่องนี้พี่แก้ได้นะถ้าสำเร็จทางก็โปร่ง"  เมื่อความเครียดลดลงปัญญาก็ผุด แต่ไอ้ที่ผุดนี่คงบอกแก่รุ่นน้องสาวทั้งหมดไม่ได้ไม่งั้นคงตายตั้งแต่เวลานี้


"ยังไงคะ" ย่านางถามพลางจ้องหน้าที่เริ่มอีกแล้ว....ไอ้หน้าแบบนี้ยุทธการเจ้าเล่ห์ตัวแม่คิดวางแผนอะไรหลุดโลกอีกรึเปล่า


"เอาน่า  เชื่อพี่สิแต่ย่าต้องร่วมมือกับพี่ด้วยนะ" ปรียากั๊กความคิดไม่ยอมบอกหากแต่ขอความร่วมมือจากอีกฝ่าย


"แน่ใจนะคะว่ามันจะดี"  ถามเชิงไม่ไว้ใจสักเท่าไหร่บทเรียนแห่งการไว้ใจเกือบช๊อคตายรอบก่อนยังหลอกหลอนสยองเกล้าไม่หาย


"ดีสิ รับรอง  ตอนนี้กลับบ้านก่อนเดี๋ยวค่อยคุยกัน"  ปรียาเปิดยิ้มกว้างนัยน์ตาพราววับประกายเจ้าเล่ห์ฉายล้น พลางเคลื่อนรถออกตัวมุ่งหน้าเส้นทางกลับบ้าน 


"ลูกเธอ  ลูกฉัน  ใจฉัน ใจเธอ  ถ้าเกี่ยวกันได้ทุกอย่างก็ง่ายไหนๆก็จูบไปแล้วแถมจูบนั่นก็ถูกใจเธอเสียด้วยสิ เธอยังโสด  อีกฝ่ายก็หม้ายผัวตาย  ลองรักแม่หม้ายแต่หุ่นเช้งหน้าสวยดูสักทีชีวิตอาจมีสีสันกว่านี้  หึ...หึ"ปรียานึกในใจคิดถึงรสจูบที่เพิ่งได้สัมผัสมาหมาดๆแล้วให้ยิ้มกริ่มตาใส


ย่านางมองคนนั่งยิ้มตั้งแต่ออกรถมาอดหวั่นๆไม่ได้หวังว่าคงไม่โจนทะยานจนแม่เธอช๊อคตายหรอกนะ (โถ...ย่านางเอ๋ยยยย...หากมองทะลุความคิดในสมองคงได้ฆ่ากันตายบ้างหรอก แม่ตัวจะโดนรุ่นพี่สาวคิดงาบแล้วแม่คุณเอ๋ย.....)







ด้านคนโดนเรียกเก็บค่าตบแถมลูกสาวยังมาจ๊ะเอ๋กับฉากสำคัญลิ้นพันกันนัวเนียอีก รัตนาภรณ์ขับรถออกจากสถานสงเคราะห์บ้านเปลวไฟน้อยจนฝุ่นตลบเกินวัยกลับบ้านวิ่งซุกอกกับหมอนบนที่นอนร่ำไห้น้ำตารินที่โดนจูบ  จูบกับสามีที่เสียไปนั่นคือหน้าที่ภรรยาที่ต้องมีบ้างกับการบ้านของผัวที่นึกอยากร่วมรักแต่กับผู้หญิงที่อาจหาญจาบจ้วงจนล่วงล้ำให้เสียศูนย์ของร่างกายและจิตใจมิหนำซ้ำยังเป็นคนรักของลูกสาว  หล่อนไม่รู้ว่าจะสู้หน้าย่านางยังไง  สาวใหญ่ที่หลงเข้าใจผิดว่าเสียจูบแก่คนรักของลูกนอนตีอกชกตัวข้าวปลาไม่ลงมากินร้อนถึงวิยะดาให้โทรจิกพี่สาวที่หายหัวไร้ร่องรอยมาเป็นเดือนแล้ว


"ไปอยู่เสียไหนของพี่นะ พี่ย่า" เด็กสาวหงุดหงิดที่ติดต่อพี่สาวไม่ได้


"นั่นสิ พี่เองก็กระหน่ำทั้งไลน์ ทั้งเฟส ไม่ตอบสักอันโทรก็ไม่รับ มันต้องมีอะไรแน่ๆ" ชนเวศม์เองก็ร้อนใจเขาไม่เคยเจอแม่ปิดห้องนอนเงียบแบบนี้ ไปเคาะประตูถามก็โดนไล่ลงมา สองพี่น้องได้แต่นั่งมองหน้ากันแค่นั้นเองที่ทำได้ในเวลานี้






ส่วนย่านางเองก็ร้อนใจไม่น้อยไปกว่าน้องๆที่นั่งบ่นหาตนเองสักเท่าไหร่ใช่ว่าหล่อนจะไม่สนใจบ้านสนใจแม่หรือน้องๆ  ทั้งเรื่องงานที่ร้านเธอก็ไหว้วานให้นายชาติคอยดูและรายงานทุกๆวันสมอ้างว่าตนอยู่ต่างจังหวัดเหมือนที่แม่ตนบอกแก่คนงานในร้านเอาไว้  ส่วนที่บ้านก็ฝากฝังฤดีเพื่อนรักที่ร่วมช่วยตามคำขอร้องของเธอไม่ให้บอกว่าเธออยู่ที่ไหน  ขณะนี้เธอกลายเป็นสมาชิกในบ้านของปรียาไปเรียบร้อยแล้วและบ้านใหม่หลังนี้ก็ให้การต้อนรับเธอดีที่สุด  แต่เพราะเหตุการณ์วันนี้ทำให้คิดหนักไม่รู้ว่าพี่ปรีคิดทำอะไรแต่ให้กุเรื่องหลอกแม่เธอว่าเธอไม่สบายหนักเพื่อล่อให้มาที่นี่ในวันพรุ่งนี้แล้วยังจะไม่ให้เธออยู่ด้วยมันก็อดห่วงสวัสดิภาพของแม่ไม่ได้   

แน่นอนว่าทุกคนที่นี่รู้เรื่องครบหมดทุกคนบ้านนี้เปิดเผยกันทุกเรื่องจริงๆชะเอมนี้แทบเต้นสวดพี่ปรีซะยับสลับร่างแม่ลูกกันชั่วคราวเพราะพี่ปรีของเธอทำท่าหมาหงอยเลยเพราะโดนลูกสอนยาวเป็นกระบุงตะกร้าไม่นับมันเทศกับไผ่มณีที่คอยเสริมช่วยพี่สาวรุมแม่ตนเองนึกแล้วก็ขำกับเสรีเสมอภาคของบ้านนี้ที่ไม่เหมือนบ้านเธอเลยสักนิดเดียว หญิงสาวกดโทรศัพท์หาเพื่อนรักเพื่อแผนการที่ต้องยืมปากของเพื่อนเป็นคนส่งข่าวอีกครั้ง


"นี่แม่คุณย่านางใบงาม เพื่อนเกือบจะหูไหม้แล้วตัวกว่าจะโทรมาได้นะ" เสียงฤดีต่อว่าต่อขานมาตามคลื่นสาย


"ยายวิกับเวศคงโทรถล่มตัวหล่ะสิ" ย่านางบอกเหมือนรู้


"อืม...เพิ่งวางกันไป ตอบน้องๆบ้างก็ได้มั้งย่า"


"ใกล้จบแล้วหล่ะ หากสำเร็จย่าคงได้พาเอมเข้าบ้านสักที" ย่างนางบอกเสียงแผ่ว


"เฮ้อ! บอกตรงๆนะย่า ทีแรกนี่ไม่เชื่อเลยว่าตัวน่ะจะไปคว้าไข่สุดหวงของพี่ปรีมาได้น่ะ ทำยังไงน่ะว่างๆก็บอกเคล็ดลับกันบ้างนะ เผื่อเพื่อนจะได้พิชิตใจว่าที่แม่ยายของเพื่อนบ้าง"


"แหม ฤดี ตื่นจ๊ะเพื่อน ตื่น อย่างฤดีน่ะเอาพี่ปรีไม่อยู่หรอก"


"อารายยย  หวงแม่แฟนหราา ฮิ ฮิ" ฤดีหยอกเย้าเพื่อนสาว


"เปล่า แค่ขี้เกียจปลอบเพื่อนเลยบอกให้รู้ไงจะได้เลิกฝันลอย"


"อุ๊ย!เกือบลืมเลย ย่า น้องๆตัวโทรมาบอกว่าแม่ไม่ยอมกินข้าวแถมปิดห้องเงียบอีกต่างหาก" ฤดีรีบบอกเพื่อนรัก


"เอ่อ...ไม่มีอะไรหรอก ย่ากำลังจะโทรมาเรื่องนี้เหมือนกัน" ย่านางตอบเพื่อนอย่างไม่แปลกใจเพราะรู้เหตุผลดีก่อนจะขอร้องให้เพื่อนทำตามแผนของพี่ปรีโดยไม่บอกเหตุผลอะไรมากไปกว่าทำยังไงก็ได้ให้แม่ของเธอมาที่บ้านพี่ปรีให้ได้ แม้เพื่อนสาวจะไม่เต็มใจช่วยสักเท่าไหร่เพราะไม่รู้เหตุผลที่เธอไม่กล้าบอกเล่าทั้งหมดแต่สุดท้ายก็ยอมช่วยโดยมีข้อแม้คือการนัดบอดให้กับตนเองเป็นข้อแลกเปลี่ยน
(....อ่ะนะ เตือนแล้วไม่ฟังร้องไห้จะไม่ปลอบเลย แหม แม่คนรักของเธอก็เสน่ห์ใช่ย่อยนะเนี่ย แต่ลองให้ฤดีเจอฤทธิ์บ้าๆที่รวมพลังกับเพื่อนสาวอย่างพี่รัญดูก็ดี จะได้เข็ดขยาดเลิกเพ้อสักที)








ค่ำคืนนี้ปรียาดึงตัวรัญญามาเป็นกรณีพิเศษเพื่อเตรียมการอะไรบางอย่างที่หญิงสาวคาดหวังผลถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ของความประสบผลสำเร็จ  ที่โดมดินสองสาวจัดอุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้ซึ่งสิ่งต่างๆที่ว่ามันอยู่ในมือของเพื่อนสาวทั้งหมด  ปรียาไม่อยากเชื่อว่ารัญญาจะเป็นไปได้ขนาดนี้ถ้าหลักฐานไม่ปรากฏให้ประจักษ์เต็มสองตา


"นี่ไอ้รัญ  มึงโรคจิตป่าววะ" ปรียาเอ่ยปากถาม


"อ้าว ไอ้นี่ ว่ากูแบบนี้เดี๋ยวขนกลับบ้านให้หมดเลย"


"โอ๊ะ.ๆ ไม่นะเว้ย  กูขอโทษ เอาเป็นว่ารักมึงท่วมท้นละกันน่า"


"ไม่ต้องเลย มึงอย่าคิดว่ากูไม่รู้นะ เกิดมึงจูนติดแม่ไอ้หญ้าคามันจะยุ่งนะไอ้ปรี"


"ก็ดีไม่ใช่รึไง ถ้ามันจะทำให้กูได้ชีวิตใหม่บ้างน่ะไอ้รัญ" ดวงตาเศร้าเหม่อไปกับบริเวณรอบๆ หญิงสาวไม่อยากนึกถึงสิ่งที่ผ่านมาแต่เมื่อถูกเขี่ยสะกิดแผลที่ยังกดรอยลึก


"กูก็ไม่อยากจะรื้อฟื้นนะและที่สำคัญแม่ไอ้หญ้าน่ะเขามีสามีต่อให้ตายแล้วก็เหอะ แล้วแกคิดว่าผู้หญิงที่มีลูกมาถึงสามคนเขาจะเปลี่ยนมาชอบไอ้แบบแกเนี่ยนะ ไม่มีทางว่ะหนักกว่าเคสพี่นวลอีก" รัญญาอยากเตือนสติเพื่อนแต่เหมือนยิ่งตอกย้ำความจริงที่เลี่ยงไม่ได้


"อย่าพูดถึงพี่นวลได้ป่าววะ ส่วนเรื่องที่กูกำลังทำเนี่ยก็ไม่ได้คิดไปไกลอย่างที่มึงพูดหรอก แค่ให้แม่ของย่านางยอมรับยายเอมได้ก็พอ"


"ถ้าไอ้ของพวกนี้มันทำให้ไอ้ย่ากับยายเอมจบลงได้สวยงาม กูยินดีว่ะ"รัญญาตบไหล่เพื่อนรักเบาๆ


"กูสงสัยนะไอ้รัญ" ปรียาจ้องนิ่งสบดวงตาเรียวของเพื่อนตัวแสบที่จ้องตอบ


"สงสัยเรื่อง?"


"มึงเจ็บไม่เป็นหรือไง"


"หึ เจ็บสิ แต่กูก็เป็นสุขว่ะ" รัญญาส่งยิ้มบางให้เพื่อนสาว มองรูปถ่ายของซะเอมที่ถือในมือตนเอง รอยยิ้มเกิดได้ง่ายๆแค่ได้เห็นแม้จะเป็นแค่เพียงรูปถ่ายไม่ต้องเป็นเจ้าของหรอก ไม่ต้องครอบครองเธอก็เป็นสุข สาวเปรี้ยวบอกตนเองแบบนี้เสมอมาตั้งแต่เจอเด็กคนนี้ที่ตอนนี้จะไปอยู่ในมือคนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนของเธอ


Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น