web stats

ข่าว

 


ลงตัวด้วยรัก ตอนที่ 10

โพสต์โดย: อินท์สีเลือด วันที่: 19 มีนาคม 2017 เวลา 01:02:55 อ่าน: 261


พลั๊วะ!!!... เสียงกระทบก้อนกะโหลกจนสะท้านสะเทือนทิ้งอาการมึนไวน์จากมือเรียวแต่หนักเท่าฝ่าเท้าฟาดลงหลังกบาล

"โอ๊ย!!....เจ็บนะมึง ตบมาได้มือแม่งหยั่งกะตีน" ปรียาลูบหลังหัวตนเองให้ซาความเจ็บ

"เออ..ถ้าตีนนะมีนอนกองส่งเมรุ  คิดอุตริติดตะรางกูยังไม่อยากเห็นเห้...มาเยือน"  รัญญาย้อนกึ่งด่ากี่งบ่นเพื่อนตน ทีแรกให้ตกใจอยู่เหมือนกันแต่ไอ้แววตาอาฆาตหากไม่มีมาดร้ายเลยสักนิดมันไม่โชว์ประกายวิบวับบางอย่างคงมีการนองเลือดจริงๆทว่าที่เห็นมันไม่ใช่

"ไอ้รัญ มึงจำตอนที่พาเด็กๆไปฉลองที่บางปูได้ป่ะ" หญิงสาวถามให้อีกฝ่ายนิ่งนึกย้อนหลัง

"ตอนที่ศาลให้มึงชนะและได้เป็นคนดูแลเด็กๆน่ะเหรอ"

"เออ จำได้ป่ะว่ายายเอมเจออะไร"

"ตอนนั้นเหรอ...อืม....." สาวเปรี้ยวกรอกตามองฟ้ามืดดำโปรยดาวเดือนนึกย้อนหาภาพอดีตที่ผ่านมา






ทะเลบางปูที่เปรียบได้เท่ากับหาดบางแสนแห่งที่สองแค่สงบกว่าเพราะคนยังมาเที่ยวกันน้อยในรุ่นบุกเบิกอันซีนเมืองไทย ปรียาพาเด็กๆที่เพิ่งตกมาอยู่ในความปกครองโดยธรรมจากศาลสั่งมาที่นี่เพื่อเปิดโลกใบใหม่ให้เป็นของขวัญแก่พวกเขา  ไผ่มณีกับมันเทศในวัยเก้าขวบต่างพากันสนุกสนานกับผืนน้ำ ส่วนชะเอมเอาแต่เดินเล่นมองธรรมชาติปล่อยทิ้งสามเกลอสยามผู้พามาเปิดโลกให้ดื่มด่ำกับการกินอิ่มล้ำรสสุราบนเตียงผ้าใบบริการ เวลาผ่านไปเท่าไหร่ไม่รู้เพราะกลุ่มผู้ใหญ่กำลังเฮฮาเรื่องคุย ส่วนเด็กๆก็เล่นกันไปตามแรงอยาก  กระทั่งเด็กสาววัยสิบสี่ที่เพิ่งผ่านเรื่องร้ายของชีวิตวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาซบโผกอดรัญญาไว้แน่นดั่งหนีอะไรมา

" เฮ้ย!!...เอม เป็นไรคะ ใครทำอะไรบอกน้าซิ" สาวเปรี้ยวมึนโซดาจับตัวเด็กเริ่มสาวซักถามพลางกอดกระชับปลอบร่างที่สั่นเทา

" เจออะไรมาคะเอม  บอกแม่สิลูก" ปรียาร้อนรนถามเมื่อเห็นแววตาตาตื่นดั่งลูกกวางหนีตายของเด็กน้อย เปิดปากซักถาม  คมกริชผู้ชายคนเดียวในกลุ่มผู้ใหญ่ลุกจากเตียงผ้าใบยืนกวาดสายตาไปรอบๆบริเวณพลางเดินหาเด็กน้อยสองคนที่เล่นน้ำอยู่ไม่ห่างนักนั่น เมื่อมีเด็กต้องดูแลให้ครบและเมื่อมีเหตุอะไรให้ต้องระวังยิ่งต้องอย่าปล่อยให้คลาดสายตา

" เอม...เอม...เจอใครไม่รู้ค่ะ"

"แล้วกัน แล้วเอมวิ่งหนีอะไรมาคะ ทำไมตั่วสั่นไปหมดแบบนี้หล่ะลูก"

"น้ารัญ...เอมกลัวค่ะ..ฮือ...ฮือ" ไม่ตอบแต่ปล่อยเสียงโฮแทนยิ่งทำให้สามเกลอกระวนกระวายใคร่รู้

"เอมครับ...อย่าร้องนะ..เอมบอกน้ากริชทีนะว่าใครทำอะไรเอม น้ากริชจะได้จัดการให้ไงครับ"  ชายหนุ่มทรุดนั่งใกล้เพื่อนสาวตะล่อมถามราวอีกฝ่ายเพิ่งเจ็ดขวบหลังจากเรียกเด็กน้อยอีกสองคนให้ขึ้นจากน้ำทะเล

"คนนั้น...คนนั้น...ฮือ...ฮือ......"  เด็กสาวน้อยๆไม่ยอมพูดอะไรอีกนอกจากเอาแต่ร้องไห้ท่าเดียว เร่งให้สามสหายรีบเคลียร์ค่าความสนุกแล้วพาเด็กๆกลับบ้านแทน






"นี่แกอย่าบอกนะว่า...ที่ไอ้หญ้าคามันเพ้อเนี่ยเกี่ยวข้องกัน" รัญญาที่นึกเหตุการณ์ได้เลาๆลางๆคาดเดา

"อย่างมากเลยแหล่ะมึง"

"ไงวะ กูก็ไม่เข้าใจอยู่ดีอ่ะ มันทำอะไรตอนนั้นจำได้ว่ายายเอมไม่บอกอะไรเลยเอาแต่บอกกลัวและร้องไห้ลูกเดียว"

"ไม่ร้องยังไง มึงก็รู้ยายเอมมันเหมือนเด็กสิบสี่ทั่วไปที่ไหนกันตอนนั้นเพิ่งผ่านมรสุมมา  ความไม่เคยเจออะไรๆเหมือนเด็กคนอื่นๆแถมโดนกักในโลกแคบ ถ้าไม่กลัวไม่ร้องไห้เพราะโดนปล้นจูบแรกมันก็ผิดไปนะ"

"หืม..." รัญญาตาโตยิ่งกว่าไข่ห่านเมื่อจับประโยคที่ฟัง "....จูบแรก!....นังหญ้าเน่านี่มันปล้นจูบแรกยายเอมตอนนั้นเหรอ...มึงรู้ได้ไงไอ้ปรี..."  (โอ้ย...เอาอาก้ามาให้กูทีจะยิงแม่งให้พรุนเลยแย่งมะม่วงม่ายยยพอ..จูบแรกกกก็ยังเป็นมึงอี๊กกกก...ตายยยยไอ้หญ้าแห้วหมู)  รัญญาแทบดิ้นตายยกไวน์กรอกปากอึกใหญ่ เจ็บใจที่ช้าแต่เจ็บจี๊ดกว่าที่รู้ว่าคนเมาหลับคว้าไปตั้งแต่ต้นหมดทางคว้าต่อให้มีไม้สอยยาวกว่ายังแพ้

"ก็ตะล่อมถามเอาตอนที่ยายเอมมันยอมรับฉันเป็นแม่น่ะสิ เลยรู้  แค่ไม่คาดฝันว่าจะเป็นไอ้ย่าก็เท่านั้นเองเพราะคิดมาตลอดว่าเป็นผู้ชาย" ปรียาเล่าพลางขบขันหน้าตาเพื่อนสาวที่แอบเฝ้าทะนุถนอมผลไม้หวานหารู้ไม่ว่าโดนแทะผิวเปลือกไปนานแล้ว

"เสียหน้าชะมัด หมดกันชื่อเสียงไบโนวี่  โดนอีเด็กนี่คาบไปแด๊กก"

"ลูกกูไม่ใช่อาหารหมา ไอ้รัญ" บอกเสร็จก็ให้หลบมืองามให้เจ้าของมือวืดหน้าแทบทิ่ม พลางหัวเราะสดใสเฮฮาพรกันรินไวน์กินต่อไม่สนเวลา

"เอาคืนมั้ย"  คำถามหลุดให้อมยิ้มเจ้าเล่ห์พลางเหล่คนเมาพับ

"เอาสิ  ขอคืนหน่อยก็ดีให้รู้ว่าลูกสาวบ้านนี้แม่ก็หวงนะจ๊ะ ฮ่า..ฮ่า...ฮ่า"  ปรียาหัวเราะยกแก้วไวน์ชนกันเซ็นต์สัญญาล้างแค้นเอาคืน

"งั้นก็สงเคราะห์ให้ไอ้หญ้าคามันได้นอนสบายๆกันก่อนเถอะว่ะ เดี๋ยวค่อยมานั่งคิดกันว่าจะทำยังไงกับมันดี" รัญญาบอกก่อนจะช่วยพากันพยุงร่างโปร่งที่ไม่รู้ตัวสักนิดถึงอันตรายหวาดเสียวที่จะตามมาหลังราตรีนี้ผ่านไป  จัดการขุนเป้าหมายให้ได้สบายตัวกว่าคอพาดโต๊ะเสร็จสองสาวเพื่อนรักก็นั่งสุมหัววิธีดัดหลังว่าที่ลูกเขยที่ไม่หล่อแต่สวยเข้มบาดจิตทันที





สองเพื่อนเกลอที่นั่งดื่มด่ำอาบกลิ่นไวน์เคล้าราตรียันสว่างทิ้งร่างหลับใหลให้แดดอ่อนลามเลียร่างสวยที่หมดความสวยเพราะท่าหลับนั่นแหล่ะ ดีที่ไม่มีใครไปอาบน้ำแล้วลงมาด้วยชุดนอนกระโปรงต่างฝ่ายยังคงสภาพกางเกงตัวเดิมจากเมื่อวาน
ท่อนขายาวๆที่ยกพาดแหกแข้งแหกขานอนอ้าซ่าหมดราคาคุณค่าสตรีไทย ขวดไวน์เปล่ากลิ้งกองใต้โต๊ะหินนับได้เกินครึ่งโหล ไม่นับคนที่เดาได้ว่าอ่อนกว่าเพื่อนยังไม่ตื่นอยู่ด้านในพาให้เหล่าเด็กๆส่ายหัวกันกับสภาพทั้งแม่และน้ารวมถึงคนรักหนีร้อนเพราะทะเลาะกับแม่มานั่นด้วยอีกคน

"โอ้โห ท่าจะหนักนะเมื่อคืนพี่เอม ดูท่านอนของแม่กับน้ารัญเด่ะ" นายเทศเปรยกับพี่สาว 

"ก็เป็นอย่างนี้ทุกทีดีนะที่ไม่ดึงพี่ย่ามานอนแบบนี้ด้วย"  ชะเอมบ่นทำหน้าเซ็ง ตั้งวงทีไรเช้ามาก็สภาพนี้ทุกที

"ลำเอียงไปรึปล่าวพี่เอม พูดเหมือนไม่ห่วงแม่กับน้ารัญเลยนะ" ไผ่มณีท้วงติง

"ห่วงสิทำไมจะไม่ห่วง แต่มันเห็นสภาพนี้บ่อยไงไผ่  พี่เลยเซ็ง ไม่รู้จะกินทำไม" หญิงสาวไม่ชอบคนกินเหล้าแต่ต้องมามีแม่ที่พ่วงเพื่อนแม่อย่างรัญญามาตั้งวงประจำจนชินที่ทำได้ก็ได้แค่บ่นเท่านั้นเอง 

"บ่นมากแก่เร็วเดี๋ยวพี่ย่าก็หนีไปมีกิ๊กหรอก  เทศว่าพวกเรารีบพาแม่กับน้ารัญไปนอนข้างในก่อนเหอะปลุกคงไม่ตื่นหรอก"  นายเทศบอกพี่สาวทั้งสองก่อนทั้งหมดจะช่วยกันจัดการลากคนเมาเข้าบ้านเหมือนอย่างที่เคยทำทุกครั้ง  สามคนพี่น้องต่างสายเลือดพากันเดินออกจากบ้านไปเรียนพร้อมกันเหมือนทุกวันปล่อยให้เหล่าผู้ใหญ่นอนหลับพักกายกันไปเพราะอย่างไรอาณาเขตของบ้านทั้งหมดก็ปลอดภัยไม่มีอะไรให้ต้องห่วงหรือกังวล 





ย่านางงัวเงียสะลึมสะลือเหม่อมองเพดานไม่คุ้นก่อนบิดกายยืดตัวลุกนั่งบนฟูกหนาที่ตนเองนอนอยู่เมื่อครู่ สมองที่ยังมึนกับฤทธิ์น้ำหวานเฝื่อนฝาดแรงรสดีกรีให้สะบัดหัวหน่อยๆไล่ความมึนเมาที่ยังคงตกค้างขณะเดียวกันหางตาก็เห็นอะไรให้ต้องหันดู  ฟูกหนากว้างขวางใช่จะมีแค่เธอระยะห่างแค่คนนอนคั่นสองร่างสวยนอนกอดก่ายกันใครไม่รู้คงคิดไกลไหลเยอะเพราะภาพส่อล่อแหลมชวนคิดลึก   มองไปรอบๆคาดเดาว่าแฟนสาวและน้องๆคงไปเรียนกันแล้ว  เมื่อคืนดื่มเยอะกว่าที่เคยเธอจึงอยากได้น้ำเย็นๆสักแก้วเพิ่มความสดใสและชุ่มชื่นให้แก่ลำคอที่แห้งผาก เธอเลยลุกจากที่นอนเดินเข้าห้องครัวมาหยุดหน้าตู้เย็นแล้วรอยยิ้มกว้างก็เปิดขึ้นเมื่อสายตาไล่ไปตามตัวอักษรสีแสบตาบนกระดาษขนาดเอ4 ที่ถูกแปะหราไว้



อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ย่า  ตื่นมาคงหิวน้ำชัวร์...เดาถูกใช่มั้ยหล่ะ5555  หาน้ำกินแล้วก็ตามด้วยอาหารบนโต๊ะนะคะ  เอมไปเรียนก่อนน๊าบ่ายๆก็กลับค่ะ เสื้อผ้าเอมเตรียมวางไว้บนโซฟานะคะคิดว่าคงใส่ได้รับรองค่ะว่าสะอาด กลิ่นหอมด้วยขอบอก  อ๊ะ!..ส่วนเครื่องในไม่ต้องห่วงนะเอมน่ะแอบถอดจากตัวพี่ตอนเมาไปซักอบแห้งให้แล้ว  อ่านถึงตรงนี้ย่านางถึงกับตัวชาวาบรีบกวาดมือลูบคลำสำรวจตนเอง
....เฮ่อ...โล่งอก...  เครื่องในยังอยู่ครบ  แหน่..แน..แน๊ รู้น๊า  ตกใจหล่ะซี่ ฮิ ฮิ  ล้อเล่นน่ะ  หุ หุ  ใส่ตัวเก่าไปก่อนนะเย็นนี้ไปเดินห้างกัน รักค่ะ ชะเอม
ปล. ฝากดูแลปากท้องสองเมรีด้วยนะคะ  See You Noon?Noon   จุ๊ฟจ๊วบบบ  ( ?๑? )



"เด็กบ้า" ย่านางยิ้มหน้าแดงแรงเลือดขับแต้มสีกับข้อความบนกระดาษที่อ่านจบ พลางดึงกระดาษออกจากตัวแม่เหล็กดูดตู้เย็นพับลงใส่กระเป๋าเสื้อ  ชักไม่แน่ใจว่าน้ำเปล่าบ้านนี้ผสมน้ำตาลด้วยหรือปล่าวทำไมรู้สึกว่ารสมันหวานกว่าน้ำเปล่าที่บ้านของเธอกันนะ






เกือบเที่ยงของวันเมรีหนึ่งในสองลุกมายินอิงไหล่พิงต้นเสาข้างประตูมือถือถ้วยกาแฟใบเขื่องกรุ่นกลิ่นหอมของกาแฟดำมองร่างโปร่งบางด้านนอกตัวบ้านที่นั่งนิ่งใต้ร่มเงาของต้นไม้ที่คลุมกันแสงแดดไว้ให้เย็นระรื่นกับอากาศรอบตัว

"ตื่นนานแล้วเหรอ" เสียงงัวเงียที่ยังทอดตัวนอนแต่พลิกหันตะแคงข้างมานอนมองเอ่ยเสียงถามขึ้นมาให้ละสายตาจากภาพที่มองอยู่ได้หันมามองตอบ

"หึ ตะกี๊เอง เที่ยงแล้วลุกมาล้างหน้าล้างตาเถอะแก  กาแฟป่ะเดี๋ยวชงให้"

"อืม ขอบใจไม่เอาน้ำตาลนะ" ปรียาตอบเพื่อนก่อนลุกเก็บที่นอนจำเป็นแบบลวกๆดันชิดติดข้างผนังฝาบ้าน จัดแจงย้ายโซฟาที่เคลื่อนออกกลับเข้าที่ตั้งตำแหน่งเดิมก่อนทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาที่นั่งเดี่ยวให้ฟื้นตัวจากความง่วงงุน

"อ่ะ...เอากาแฟไปกลั้วคอล้างขี้ฟันเลยแก" รัญญายื่นแก้วกาแฟให้เพื่อนสาวที่ยังซึมขี้ตาพร้อมหย่อนกายลงนั่งโซฟาเดี่ยวอีกตัวเยื้องๆกัน

"มึงมองไรอยู่วะเมื่อกี๊น่ะ กูลืมตามาเห็นยืนมองอยู่หรือว่าเหม่ออะไร" เอ่ยถามหาต่อภาพแรกที่เห็นเมื่อตื่น

"มองย่านาง" น้ำเสียงเรียบนิ่งใบหน้าเรียบเฉยคำพูดอ่อนเอื้อฉุดสายตาคนฟังให้ลดระดับแก้วกาแฟที่กำลังยื่นปากเป่าไล่ความร้อนเพื่อจิบกินลง

"เห็นอะไรหล่ะ ทำเสียงแบบนี้" ปรียาคลี่ยิ้มแรกของวันนี้เล็กน้อยก่อนย้อนถามเพื่อนสาว

"คงจะคิดหนักเอาเรื่องนะ กูเห็นนั่งนิ่งอยู่ใต้ต้นพิกุลนานแล้ว เฮ้อ! ก็นะ เป็นใครก็คงต้องคิดหล่ะว๊า ทะเลาะกับแม่เรื่องแฟนเนี่ยมันก็คงหนักใจน่าดู"

"อืม...แต่เข้าใจน้องมันนะ พูดไปกูก็คิดมากเหมือนกันนะไอ้รัญ คิดหนักใจแทนยายเอม" ปรียาเห็นด้วยแกมกังวลถึงคนของตัวเองด้วยเช่นกัน

"ช่างมันเหอะว่ะ คิดไปก็มากเรื่องอะไรมันจะเกิดก็ช่างถ้ามันคู่กันไม่แคล้วหรอกว่ะ เหมือนเรื่องเมื่อคืนไงใช่มะ" สาวเปรี้ยวสรุปง่ายฉบับตามยถากรรมพลางยกยิ้มมุมปาก

"เออเนอะ จริงของมึง  ว่าแต่ที่คุยกันจะเริ่มตอนไหน" ปรียาเออออตามเพื่อนในความจริงพลางวกถามเรื่องที่หมายมั่นปั้นแต่งข้อตกลงและแผนร้ายในค่ำคืนที่ผ่านมา

"ตอนไหนจะดีเท่าตอนนี้วะ ทางโปร่งเอาคืนสนุกเลยมึง เหยื่ออยู่ตรงหน้าแล้ว ฮ่า ฮ่า" รัญญาหัวเราะที่จะได้ทำกิจกรรมสนุกๆ

"งั้น ไปอาบน้ำก่อนแล้วลงมือกัน"

" เออ อ่ะ..ชนแก้ว" ถ้วยกาแฟเคลื่อนกระทบหากันท่ามกลางรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ผุดออกมาจากปากสองเมรี




ตุ่บ...เคร้ง..เพล้ง..ตุ่บ...เป๊าะ..เพล้ง...สารพัดเสียงข้าวของที่หล่นกระจัดกระจายบางอันหล่นแตกเสียหายจากการดิ้นรนหนีเอาชีวิตรอดพ้นจากการถูกพันธนาการมัดเป็นผักรัดหนังยางวางขายบนแผงผักตลาดสด

"พี่ปรี/พี่รัญ จะทำอะไร...มามัดย่าทำไม พี่ปรี พี่รัญ"  หญิงสาวโวยวายถามสองสาว ใจหวาดหวั่นกลัวพยายามดิ้นแต่คงทำอะไรไม่ได้มากนักเพราะทั้งแขนขาลำตัวโดนรัดผูกด้วยเชือกผ้าจนแน่นแทบขยับไม่ได้

"เงียบๆเหอะ...เดี๋ยวก็รู้"  รัญญาแสร้งทำเสียงเข้มขู่ทั้งๆที่ในใจกำลังหัวเราะหนักกับการแกล้งคนที่ถูกมัดแน่นนอนราบบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของปรียา

"ตั้งกล้องยังไอ้รัญ" คำถามที่ออกมาทำเอาคนโดนมัดหน้าซีดเผือดมองหน้าคนพูดที่นิ่งเฉยราบเรียบให้ความหวาดกลัวพุ่งสูงขึ้น

"เรียบร้อยแล้ว รีบลงมือเหอะไอ้ปรี เดี๋ยวไม่ทัน" คำพูดถัดมาส่งให้ปรอทความกลัวใกล้จวนเจียนจะแตกภาพของย่านางที่ได้แต่ดิ้นขลุ่กขลั่กหน้าซีดราวกระดาษ อดให้รัญญานึกสงสารอยากเลิกแกล้งแต่เธอเชื่อว่ารุ่นน้องคนนี้ไม่ได้ใจเสาะอย่างที่เห็น

"พวกพี่...จะ..จะทำอะไรคะ..." เอ่ยถามเสียงสั่น ในชีวิตไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้มาก่อนมันทำให้หล่อนตั้งรับไม่ทัน พลาดแรกคือไว้ใจเพียงสองคนเอ่ยชวนให้มาช่วยทำงานที่โดมดินเลยไม่ปฏิเสธรับปากและตามมาเมื่อทำอาหารกลางวันให้สองคนได้กินกันเรียบร้อยตามคำฝากฝังของคนรัก  ไม่นึกว่าตนเองกำลงจะโดนฆ่าแล้วฝังหรือโดนอะไรที่มากกว่านั้น  พลาดที่สองคือตอนที่รุ่นพี่สาวเปรี้ยวอย่างรัญญาขอดูมือทั้งสองข้างอ้างเหตุผลเพราะสารเข้มข้นที่จะทำการทดลองหากมือบางเกินจะอันตราย   ไว้ใจมากมายยื่นไปให้อีกฝ่ายคล้องกุญแจมือของตำรวจได้ง่ายแบบไม่ต้องออกแรงแถมแม่คนรักยังนำเชือกผ้ามามัดให้ดิ้นหนีแต่ไม่พ้นเพราะหมดทางสู้  สุดท้ายเลยโดนอุ้มมาวางบนโต๊ะที่หล่อนเคยเห็นมาแล้ว  เหมือนเป็นหมูรอเชือดบนเขียง


"อย่าถามมาก นิ่งๆ"  เสียงเหี้ยมตวาดสั่งจากปากของแม่คนรัก โอ้...นี่มันพระนางไอซิสในการ์ตูนคำสาปฟาโรห์ชัดๆ เสียงและแววตาแบบนี้ อยากกลายร่างเป็นหนอนน้อยจะได้กระดึ้บหนีจากเชือกที่รัดแน่นอีกชั้นเข้ากับแผ่นโต๊ะกว้างนี่ใบมีดสีเงินเล่มเล็กๆแต่ความคมไม่ต้องบรรยายเพราะนั่นมัดมีดผ่าตัดชัดๆในมือของปรียาที่ล้วงหยิบขึ้นมาโชว์ถือพลิกไปมาจากหนึ่งในกล่องเก็บอุปกรณ์ที่อยู่ภายในโดมดินที่คนยืนปล่อยรังสีอำมหิตเป็นเจ้าของ


"พ่ะ..พี่...พี่ปรี....พี่รัญ..."  ย่านางมองอย่างตะลึงพรึงเพริด หัวใจเต้นระรัวด้วยความกลัวกับยิ้มเหี้ยมสายตาโหดของสองสาวที่ก้าวเท้ามายืนชิดขอบโต๊ะ  หล่อนมองกล่องหนาทึบในมือของรัญญา หวังว่าคงไม่ใช่จะตัดเอาอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของเธอเพื่อเอาไปขายหรอก....ใช่ไหม...แม่จ๋า...ช่วยด้วยยยย เสียงร่ำร้องในอก


"หึ...หึ...แป๊บเดียวเองย่า...เดี๋ยวก็สบายแล้ว" ปรียาโปรยยิ้มแสยะน่ากลัวพลางลดระดับใบมีดในมือลงช้าๆ  (...อ่า...คำพูดนี้ชัดเลย......R .I.P กับชีวิตก็คราวนี้) 

"ไม่นะ...พี่ปรี...อย่า...ย่ากลัวแล้ว"  เมื่อใบมีดในมือของปรียาเลื่อนเหนือนิ่งค้างช่วงหน้าอกคนถูกมัด  ย่านางสั่นกลัวร้องห้ามเสียงหลง น้ำตาเริ่มรินไหลลงทางหางดวงตา

"อะไรคะน้องย่า ยังไม่เริ่มเลยกลัวจนร้องไห้แล้วเหรอ" รัญญาทอดเสียงหวานปนยาพิษเอ่ยถามหญิงสาวที่กำลังตกเป็นเหยื่อในการแกล้งครั้งนี้

"อย่าทำอะไรย่าเลยนะคะพี่รัญ...พี่ปรี"  หญิงสาวอ้อนวอนร้องขอต่อสองสาว

"นิ่งๆนะ เดี๋ยวศพไม่สวยไม่รู้ด้วยนะ" ปรียาย้ำความหวานอำมหิตตอกความกลัวลงบนหัวใจให้แทบหยุดเต้น

"ไม่นะ..พี่ปรี...อย่....อย่าาา ....." ย่านางมองใบมีดในมืออีกฝ่ายอย่างทำอะไรเพื่อปกป้องตนเองไม่ได้เลยนอกจากร้องห้ามการกระทำนั่นและปิดสายตาหลบความน่ากลัวภายใต้หัวใจหวีดหวิวสั่นระรัวเร็ว

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น