web stats

ข่าว

 


ลงตัวด้วยรัก ตอนที่ 7

โพสต์โดย: อินท์สีเลือด วันที่: 17 มีนาคม 2017 เวลา 14:03:11 อ่าน: 224

สายเรียกเข้าของมารดามีมาเป็นระยะ...ตั้งแต่ช่วงสายจนถึงเวลานี้  หญิงสาวไม่คิดจะกดรับไม่ใช่ไม่อยากคุยแต่กลัว...กลัวว่าแม่จะบังคับให้เธอต้องทำอะไรที่ไม่ต้องการ ดวงตายังบอบช้ำด้วยรอยแดงจากการร้องไห้ เธอมานั่งซึมน้ำตาครึ่งค่อนวันที่สวนสาธารณะไม่ไกลบ้าน ช่วงวันทำงานไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านจึงปล่อยน้ำตาได้ไม่อายใครหรือให้ใครได้มองเป็นจุดสนใจ  ย่านางมองโทรศัพท์ในมืออีกครั้งก่อนยกมากดโทรออกเพื่อหาใครบางคนที่เธอเพิ่งได้เบอร์มาไม่นาน


โทนเสียงPlatinum ของสายเรียกเข้าดังเนิ่นนานเพราะเป็นเบอร์แปลกตาไม่คุ้นเคยชวนสงสัยแต่ท้ายสุดเจ้าของเครื่องโทรศัพท์ก็กดรับก่อนที่สายจะถูกตัดลงไป

" สวัสดีค่ะ ใครคะ" ชะเอมนิ่วหน้าเมื่อกรอกเสียงถามหากแต่กลับไม่ได้ยินเสียงตอบรับให้ต้องมองหน้าจออีกครั้งว่าสายที่โทรเข้ามายังคงอยู่หรือว่าหลุดไป

"ชะเอมพูดค่ะ...ใครโทรมาคะ" ถามซ้ำอีกรอบเพิ่มเสียงอีกหน่อยเผื่อว่าอีกฝ่ายหูจะตึง

"....................."

"โอเคร...ไม่พูดงั้นขอวางสายนะคะ" เด็กสาวชักโมโหกับใครไม่รู้ที่โทรเข้ามา ออกจะมั่นใจว่าได้ยินซาวด์รอบข้างของอีกด้านแต่คนโทรหากลับไม่ยอมปริเสียง

"อย่าเพิ่งวางนะคะ" เสียงหวานแต่ตืดเครือๆอู้อี้ๆรีบบอกก่อนที่อีกคนจะตัดสายให้เด็กสาวถึงกับออกอาการงงเป็นลูกไก่ในการ์ตูน

"ใครคะ" ถามอีกเที่ยวแน่นอนเสียงผู้หญิงแต่ใครกันหล่ะ เพื่อนๆเธอก็นั่งกันครบหน้าที่โต๊ะนี่ แถมเบอร์ที่โทรหาเธอก็ไม่รู้จักไม่อยู่ในลิสต์

"พี่เอง"

"ขยายนิดได้ป่ะคะ จะได้รู้ว่าใคร" เด็กสาวย้อนขอความกระจ่าง  เอ่อ....สั้นแบบนี้...จะรู้ไหมพี่เองนี่ใคร ชะเอมค่อนขอดในใจ

"พี่..ที่ติดกระดุมให้เราไง ชะเอม"

" พ่ะ..พี่..พี่ย่า..." ชะเอมเผลอเสียงดังก่อนหันไปยิ้มแห้งๆให้เพื่อนๆที่กำลังใช้สมาธิกันอย่างขอโทษรีบลุกออกจากกลุ่มที่นั่งอ่านหนังสือด้วยท่าทีลนลานรีบร้อนเดินหนีห่างจากกลุ่มเพื่อน

"รู้เบอร์ได้ไงเนี่ย..."เสียงท้วงถามราวไม่พอใจ

"โทรหาไม่ได้เหรอ" เสียงเศร้าๆติดเครือๆเหมือนคนร้องไห้ถามกลับบางเบาให้เด็กสาวรู้สึกห่วง..แต่ห่วงอะไร

"ปล่ะ...ปล่าวค่ะ แค่แปลกใจ" ชะเอมรีบบอกปัด

"ว่างไหม ติดเรียนรึปล่าวคะ"

"ไม่มีชั่วโมงเข้าแล้วค่ะ กำลังนั่งอ่านหนังสือ  ทำไมคะ"

"..........................." ย่านางกำลังคิด...และเพราะสมองยังอึงอื้อเลยนิ่งเมื่อถูกถาม

" พี่ย่า....เป็นอะไรรึปล่าวคะ....พี่ย่า...ตอบเอมสิ...พี่ย่า" เสียงที่เงียบแต่สายยังไม่ตัดยิ่งก่อตัวความห่วง เด็กสาวเชื่อว่าอีกคนไม่ปกติ ต้องเกิดอะไรสักอย่างแน่และนั่นทำให้ห่วง ชะเอมเพิ่มเสียงเรียกพลางถามอีกฝ่ายที่ยังนิ่งงันอยู่ปลายสาย

"มาหาพี่ได้ไหม"เสียงแผ่วถามราวกระซิบเพิ่งลอดมาให้รีบย้อนถามกลับทันควัน

"ที่ไหนคะ"

"ที่สวนxxxxxxxxxxxx" ย่านางบอกสถานที่ก่อนวางสายเมื่ออีกฝ่ายรับปากว่าจะรีบมาแถมยังกำชับสั่งให้นั่งรออย่าไปไหนราวกับเธอเป็นเด็กตัวน้อยๆ....แล้วจะไม่รักไหวหรือ.....
เพิ่งกล้าโทรหาตอนจนมุมกับทุกสิ่งแค่อยากได้เห็นเพื่อสร้างกำลังใจให้ตนเอง กลัวถูกปฏิเสธแต่กลับได้การตอบรับที่ชุ่มชื่นจิตใจ  ย่านางเริ่มยิ้มได้แม้จะไม่สดใสนัก






ฝีเท้าที่เร่งรีบเดินหาจุดที่คนโทรมาบอกไว้ทันทีที่ก้าวลงจากรถแท็กซี่เกือบกลายเป็นวิ่งเมื่อเข้าสู่สวนสาธารณะที่อยู่ลึกเลยซอยบ้านตนเองจนเกือบถึงจุดจอดคิวรถสองแถวที่นั่งประจำ  เด็กสาวมั่นใจว่าเกิดเรื่องไม่ดีกับผู้หญิงที่ตนเองแอบรักแอบชอบแต่ไม่กล้า หากโชคชะตาหรือแรงโน้มถ่วงโลกกันที่ลากความรู้จักจนได้ทายทักกันได้โดยบังเอิญ  เด็กสาวหยุดเดินยืนหายใจสูดลึกเข้าปอดเล็กน้อยเมื่อมาถึงม้านั่งไม้ริมสระน้ำอีกด้านของสวนนี่ 

" พี่ย่า..."เสียงปนอาการเหนื่อยหอบทักขึ้นเบาๆให้คนที่นั่งรอหันมองแล้วรีบลุกยืน

"วิ่งมาทำไมคะ" น้ำเสียงอ่อนเอื้อเอ่ยถามเมื่อเห็นเด็กสาว

"ก็...ก็ห่วง" บอกไปแต่ก็อาย...ก็ไม่เคยได้คุยแค่ได้รู้จัก สนิทก็ไม่ใช่แต่แอบชอบน่ะชัวร์ แต่ก็นะก็ยังรู้สึกอายอยู่ดี

"มานั่งพักเถอะค่ะ" รอยยิ้มพร้อมคำชวนให้ร่างบางกว่าเดินไปทรุดลงกับเก้าอี้ไม้ตัวยาวมีพนักนั่นก่อนอีกร่างที่ลุกยืนจะทรุดนั่งข้างๆกัน





แดดที่เริ่มจัดจ้าก่อนจะลาลับขอบฟ้าอีกสองสามชั่วโมงข้างหน้าไม่ได้ทำให้สองคนร้อนเนื้อกายด้วยร่มไม้ที่กางกั้นกรองแสงให้อ่อนจางความร้อนบวกกับลมโชยเอื่อยพัดพาเอาไอเย็นที่ระเหยลอยเหนือผิวน้ำ
ผสานกันเป็นความเย็นเอื่อยอ่อนพัดมาจางๆเป็นระยะให้รู้สึกสดชื่นรื่นรมย์มากกว่าจะร้อนอบอ้าว สองสาวนั่งเงียบมองธรรมชาติรอบตัวปล่อยทิ้งเวลาจ่อมจมไว้ปล่อยหัวใจให้สัมผัสกันเองแบบไร้เสียงเนิ่นนาน

"อกหักเหรอคะ" เด็กกว่าความอดทนจึงน้อยกว่าหลุดคำถามออกไปด้วยสงสัย

"ทำไมถึงคิดแบบนั้นคะ"ย้อนถามแต่ใบหน้ายังมองท้องฟ้านิ่ง

"สภาพคนร้องไห้จะมีกี่เรื่องกันคะ เซ้นท์ผู้หญิงไม่แฟนทิ้งก็ผัวตายนอกนั้นก็โดนผัวเตะ"สรุปติดตลกปนขำขันเล็กๆสร้างรอยยิ้ม

"เช็ดแล้วนะ...ยังเห็นอีกเหรอ"

"โห...เอากระจกไหมคะพี่ย่า" เด็กสาวร้องถามประชด เอ้อ....ส่องสภาพผ่านกระจกคงตกใจ ตาบวมเป็นเคโรโระยศสิบตรีเสียขนาดนั้นมองไม่ออกก็เง่าบรม

"มีเบอร์ได้ยังไงคะ แล้วทำไมถึงโทรมา" อีกประโยคคำถามที่ป้อนส่งหวังคำตอบคลายสงสัย

"ขอเพื่อนพี่มา อาจารย์ฤดีน่ะ แล้วทำไมเอมถึงมา" ตอบแค่อย่างเดียวหากยอกย้อนถามกลับชวนกวนประสาทให้เด็กสาวมองค้อนใส่

"ก็เห็นเป็นเพื่อนแม่ กลัวว่าจะเป็นอะไรไป" นี่ก็ตอบไม่ตรงกับใจทั้งๆที่ห่วงซะมากมายจนรอสองแถวไม่ไหวกระโดดขึ้นพี่แท็กซี่ซิ่งมาเลย

"แค่นั้นเองเหรอ ไว้อกหักคราวหน้าจะไม่รบกวน" ช่างน่าน้อยใจหลงคิดไปว่าเป็นห่วง

"เฮ้ย!!...นี่พี่อกหักจริงๆเหรอ" แค่พูดถามแหย่เล่นๆไม่คิดว่าจะใช่เรื่องจริง เด็กสาวทั้งตกใจและใจหล่นบวกแค้น...ภาพตัวละครในเกมดาบมังกรหยก3Dผุดในสมอง ...ใคร!!!....ใครกัน...มาทำลายทำร้ายใจแม่เซียวเหล่งนึ่งของเค้า.. ยอมไม่ได้....ข้าจะไปฆ่ามันเพื่อล้างแค้นแทนแม่นางเอง...ฮึ่ม!!!  กดเพิ่มสกิลอัพเลเวลเต็มสูบไปขโมยดาบและเคล็ดวิชาจากเตียบ่อกี้แล้วไปล่าตัวมันกัน  ...ฮ่า ๆ...ๆ..@#!!!&#@$#...บลา...บลา..ฆ่าาาาา...ฆ่ามัน  หน้าตาของชะเอมที่ตกในอารมณ์ความคิดอันสุดล้ำสับสนจนล้นปรี่เกินและหากใครได้หลุดเข้าไปนั่งในความคิดกับภาพที่เด็กสาวมโนอยู่นั้นหากไม่ขำท้องแตกก็คงถูกกล่าวหาว่าคนบ้าชัวร์ 

ย่านางมองหน้าคนนั่งข้างๆกันที่มีเศร้าบางช่วง...สายตาดุโหดบางขณะแถมทำท่าเข่นเขี้ยวอะไรสักอย่างทำปากมุบมิบงึมงัมไร้เสียงอีกทั้งยังกำมือแน่นวางบนตักจนเธอต้องโบกมือกวัดแกว่งไปมาตรงหน้าเด็กสาวพลางเรียกชื่อของอีกฝ่าย

"เอม..ชะเอม...น้องเอมคะ" ย่านางเพิ่มเสียงให้สะดุ้งแต่ยังไม่หลุดจากมโนทั้งหมด

"ใคร"

"อ่ะ..อะไร...ใครอะไรคะ"ย่านางให้งุนงงกับคำถาม

"ใคร ใครที่ทิ้งพี่...ใครที่ทำพี่อกหัก...เอมจะไปฆ่ามัน" น้ำเสียงถามเข้มข้นไม่หลุดมโนหลุดพ้นปากให้ย่านางทั้งอึ้ง...ทั้งเหวอสุดท้ายก็หัวเราะออกมาสุดเสียงปลุกให้มโนคนข้างเคียงมลายหายทำหน้าเอ๋อเออเร่อ...มองคนที่หลับหูหลับตาหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง

"พี่ย่าขำอะไรอ่ะ"คนไม่รู้ตัวเอ่ยถามหน้าเป็น

"ขำเรานั่นแหล่ะเอม...หึ..หึ..ฮ่า..ๆ..ๆ" บอกทั้งๆหัวเราะ " เมื่อกี๊คิดอะไรอยู่คะ...หลุดออกมาหมดเลยรู้มั้ย" ย่านางบอกยังคงไม่หายขำขันให้คนฟังอายจนแทบแทรกตัวว่ายจมลงก้นสระน้ำเบื้องหน้า





"หยุดหัวเราะได้แล้วค่ะ....ขำอะไรนักหนา"หน้าสวยเริ่มงอง้ำประท้วงเสียงขุ่น

"หยุดก็ได้ค่ะ แต่ขออีกนิดนะ" .... เออเนอะ โก๊ะแตกได้โล่ห์ยังมาโกรธกันอีกแน่ะ.... อดคิดต่อว่าต่อขานไม่ได้  " อ้าว!...จะลุกไปไหนคะ" ย่านางร้องถามเมื่อเด็กสาวลุกเดินหนีตัวเองไปตามทางเดินโรยกรวดให้รีบลุกเดินตามอีกฝ่าย

คนหนึ่งเดินนำอีกคนเดินตามกันไม่ห่าง ย่านางทอดฝีเท้าตามอย่างช้าๆเธอมองแผ่นหลังของอีกฝ่ายที่ยังคงเดินไปตามทางเรื่อยๆนั่น แม้ไม่อาจรู้ได้เลยว่าความคิดที่จะบอกรักคนเบื้องหน้าผลจะออกมาเช่นไร อาจจะไม่ใช่อย่างที่เธอคาดหวังไว้หล่ะ หากชะเอมไม่ตอบรักความรักที่เธอหยิบยื่น เธอจะสามารถพบหน้าอีกคนได้โดยไม่รู้สึกอะไรเลยได้หรือเปล่า  เอาน่า...ไม่ร้ายแรงหรอกแค่จีบเด็ก รักเด็กแถมแม่เด็กก็ไม่หวงจะกลัวอะไรไป ย่านางคิดแต่ก็มิวายจะเฮือกทอดถอนลมหายใจออกมาให้คนข้างหน้ากลับหลังหยุดมอง

"โอ๊ะ!....ระวัง"  ย่านางคว้าหมับเข้าที่เอวของชะเอมและอีกคนก็เอื้อมเกี่ยวจับเนื้อผ้าของอีกฝ่ายดึงไว้ด้วยความตกใจเพราะระยะห่างที่ก้าวเดินต่างกันแค่ก้าวสองก้าวเมื่ออีกคนหยุดฝีเท้าในขณะที่คนเดินตามไม่ทันระวังจึงกระแทกชนกันอย่างไม่ตั้งใจ 

(ตึ่กตั่ก...ตึ่กตัก...ตึ่กตั่ก...มันสั่งให้รักเธอ...หัวใจใครมันจะร้องยังไงก็ช่างหากแต่หัวใจของเอมมันร้องแบบนี้นะคร้าาา...พี่ย่าคนสวยยยยย)  ......ระยะประชิดแนบเนื้อตัวยิ่งกว่าตอนถูกช่วยติดกระดุมกระพือรัวความรู้สึกทั้งมวลให้พลุ่งพล่านในกาย

(อืมมมม...ขยำกำไว้แน่นชิดเบียดหน้าอกพี่แบบนี้ พี่จะหยุดใจไม่ไหวนะจ๊ะแม่สาวน้อย)  ....ระดับการเต้นถี่ของก้อนเนื้อใต้โครงกระดูกคงเต้นสั่นทะลุส่งผ่านไปถึงมือที่กำเนื้อผ้าที่สวมใส่บริเวณหน้าอกแถมกดเบียดน้ำหนักมือให้หัวใจสั่นไหวระริก   ชั่วโมงเวลาแห่งวินาทีจะผ่านไปเท่าไหร่ช่างเข็มนาฬิกาแค่ผู้หญิงสองคนต่างอยากโอบอุ้มเวลาถ่วงรั้งให้หยุดนิ่งสนิทไว้เพื่อบอกความรู้สึกผ่านทุกจังหวะการเต้นของหัวใจ 

"พี่ย่า......." วงหน้าสวยระบายสีเม็ดเลือดแดงที่ไหลมาคั่งเอ่อบนใบหน้าเงยสบตาคมของคนที่ยืนโอบเอวตนเองไว้แต่ไม่กล้าสบตานานด้วยความอายให้หันเอียงใบหน้าหลบหนีสายตาคมที่ยังจับจ้องเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายโน้มใบหน้าเข้าหาเนื้อข้างแก้มฝังเรียวปากสัมผัสแผ่วสูดกลิ่นหอมจากแก้มนุ่มทันที

"แก้มหอมจังค่ะ" คนขโมยหอมแก้มเอ่ยบอกให้อายหนักขึ้น

"ฉวยโอกาสแล้วยังกล้าพูดอีกนะคะ" ถึงอายแต่ใช่ว่าจะไม่มีแรงโต้แย้งเด็กสาวเริ่มขยับตัวออกห่างแต่ติดที่ร่างสูงกว่าไม่ยอมคลายอ้อมแขนที่รั้งรอบเอวเอาไว้

"แล้วทีเราหล่ะ...พี่ไม่เห็นจะว่าอะไรเลยนะถือว่าหายกันเนอะ" ย่านางบอกพลางยิ้มเจ้าเล่ห์เหลือบตามองลงล่างยังตำแหน่งมือที่ยังกดหน้าอกเธอเอาไว้ให้เด็กสาวรีบคลายมือ
ที่กำเนื้อผ้าบนก้อนเนื้อหยุ่นนุ่มภายใต้เสื้อยกทรงและดันตัวออกจากอ้อมกอดกลายๆที่อีกคนไม่ยื้อรั้งคลายท่อนแขนปล่อยร่างอุ่นออกทั้งๆเสียดาย จังหวะฉุกเฉินดีๆที่ยิ่งหายาก

"ยิ้มแบบนี้อาการอักหักคงไม่หนักแล้วนะคะ งั้นเอมกลับก่อนละกันค่ะพี่ย่า บ๊ายบายค่ะ" ชะเอมบอกลาพลางก้าวเท้าเร็วหนีจะอีกฝ่ายแต่ย่านางก็ไวพอที่จะฉุดยื้อข้อมือเล็กๆของอีกคนไว้ทันให้เด็กสาวส่งสายตาไม่พอใจโต้ตอบ 

"ชอบใจอยู่หรอกแต่ไม่ใช่ของเล่นไง คนอะไรอกหักจากผู้ชายไม่ทันข้ามวันแต่มาหอมแก้มทำหน้าตาเจ้าชู้ใส่ผู้หญิง  เป็นพวกไบรึไง" เด็กสาวก่นประท้วงในใจ

"โกรธหรือคะ"

"แล้วควรให้โกรธไหมคะ"

"พี่ขอโทษค่ะ  แต่พี่ไม่ได้อกหักนะ" ย่านางทักท้วงความเข้าใจผิด

"ก็ไหนพี่...."  หญิงสาวอ่อนวัยกว่ากำลังจะแย้งถึงบทสนทนาแต่ไม่ทันเพราะอีกด้านสวนขึ้นมาซะก่อน

"พี่...อะไรคะ เอมทึกทักสรุปเอาเองต่างหาก" หล่อนโยนกลองความเข้าใจผิดให้เด็กสาวรุ่นน้องพลางดึงมือเด็กสาวไปหาที่นั่งใกล้ๆบริเวณนั้น

"หายโกรธนะคะ พี่ง้อใครไม่ค่อยเป็น"

"แล้วใครขอให้มาง้อกันหล่ะ" พูดเสียงสะบัดเบือนหน้าหันหนีไม่มองทำเอาคนนั่งง้อหน้าเสียไปเล็กน้อย

"ก็ถ้าพี่ไม่ง้อให้เอมหายงอนก่อนแล้วพอพี่บอกรักเอม...เอมจะรับรักพี่รึเปล่าคะ" ย่านางไม่รั้งรอเมื่อได้จังหวะก็บอกเลยละกัน

"พี่ย่า!!!!!"  เด็กสาวหันขวับทั้งตัวตกตะลึงค้างกับประโยคบอกรักของร่างโปร่งที่เปิดยิ้มสว่างให้หัวใจทำงานหนัก เส้นเลือดในสมองตีบตันชั่วคราว

"พี่ไม่ได้อกหักแค่ยังไม่ได้บอกรักและเพิ่งกล้าบอกไปเมื่อกี๊ไม่รู้ว่าเขาจะรับรักพี่รึเปล่าค่ะ" รอยยิ้มเปิดกว้างขึ้นเมื่อคนตัวเล็กนิ่งอึ้งเผยอริมฝีปากเปิดค้างไว้เล็กน้อยนั่นดูยั่วยวนชวนอดใจไม่ไหวกับอาการน่ารักน่าฟัดนั่น  ให้เคลื่อนหน้าวางเรียวปากตนเองไปทาบทับปิดไว้และสัมผัสลิ้มชิมรสริมฝีปากนุ่มเชื่องช้าพลิ้วไหวให้สาวรุ่นตัวสั่นชาเมื่อสัมผัสนั้นรุกรานอ่อนโยนถึงภายในเคลิ้มไหวเผลอตัวตอบรับรอยจูบที่แสนหวานไม่คิดป้องปัดหากแต่เต็มใจร่วมมือย่านางสะกดใจถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดายความหวานที่เพิ่งได้ลิ้มรส  มองดวงหน้าแดงระเรื่อของคนถูกจูบไล่สายตาสำรวจซะจนสาวชะเอมสะท้านอาย เด็กสาวรู้สึกเหมือนโดนปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจนหมดตัวกับดวงตาที่ฉายความต้องการเต็มเปี่ยม

"ตกลงรับรักพี่นะคะ" 

"ไม่ตกลงมั้งคะ...ฉวยโอกาสไปหลายช็อตแล้ว" เสียงอ้อมแอ้มอุบอิบย้อนคืน

"ก็พี่รักนี่คะ" ย่านางอ้อนเสียงหวานพลางดึงร่างอุ่นมากอดพิงกายตนเอง "เอม..ไปที่ร้านพี่ไหมคะพี่อยากให้เอมรู้จักคุณแม่"

"พ่ะ..พี่ย่า  ว่ะ..ไวไปไหมคะ เอมยัง...." เด็กสาวไม่คาดฝันว่าคนข้างกายจะข้ามขั้นหลายขั้นตอนในเวลาไม่ถึงชั่วโมง

"ไม่ไวหรอกค่ะ...นะคะ นะ" อ้อนทั้งดวงตาทั้งน้ำเสียงแบบนี้ไม่ใจอ่อนเธอคงโดนข้อหาใจร้ายกับแฟนป้ายแดงเกินไป

"ก็ได้ค่ะ แต่ไม่ใช่วันนี้นะคะขอทำใจนิดนึง เอมกลัว" ชะเอมตอบรับให้ย่านางยิ้มกว้างถูกใจพลางกดหอมแก้มอิ่มอีกรอบ ด้วยสถานที่มันไม่เป็นส่วนตัวหากเผลอใจทำเกินกว่านี้คงได้ไปคุยกับตำรวจบนโรงพักเสียค่าปรับฐานแสดงความรักเกินเหตุในที่สาธารณะไม่ก็คงเป็นภาพคลิปโชว์สนั่นไปทั่วประเทศชั่วข้ามคืนแน่ๆ

"พี่ย่าอ่ะ...เอาเปรียบกันเรื่อยเลย" ประท้วงเล็กๆแต่ก็เปิดยิ้มน้อยให้อีกฝ่าย

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น