Coffee Break [แฟนฟิค] - ตอนที่ 27 She Keep Me Warm
โพสต์โดย:
anhann
วันที่: 16 มีนาคม 2017 เวลา 21:21:35
อ่าน: 310
|
ตอนที่ 27 She Keep Me Warm
เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ...มันก็อาจจริง แต่ก็ไม่ใช่เสมอไป ถึงตอนนี้เราจะกลับมาใช้ชีวิตกันตามปกติแล้ว เธอกลับมาเปิดร้าน ขายกาแฟต่อ สเตฟานี่กลับไปทำงานที่กูเกิล ซันนี่กลับไปเปิดร้านเค้กกับยูริ แต่ช่วงนี้เพื่อนตัวเล็กอกโตนั่นอาจจะยุ่งกว่าเดิมสักหน่อย เพราะยูริต้องเตรียมเรื่องงานแต่งงานที่จะจัดขึ้นในอีกสองเดือนที่จะถึงนี้ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่ากับใคร
เธอก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่า เสือผู้หญิงอย่างยูริจะยอมถอดเขี้ยวเล็บทั้งหมดของตัวเองออกเพื่อผู้หญิงตัวเล็กๆ หน้าเด็กอย่างแทยอน แต่คิดอีกทีมันจะแปลกอะไร ในเมื่อพวกเขาเคยถึงขนาดหมั้นกันมาก่อนที่จะคนตัวเล็กจะถอดแหวนหมั้นปาใส่หน้ายูริ เพราะความเจ้าชู้เขี้ยวลากดินของเพื่อนเธอเป็นเหตุ เธอไม่คิดว่าแทยอนจะยอมให้อภัยยูริง่ายๆ แค่สาวผิวเข้ม เจ้าของร้านเค้กนั่นยอมคุกเข่า (หรือเปล่า) และบอกรักกับหล่อนซ้ำๆ พยายามเทียวไล้เทียวขื่อหาทุกวัน จนแทยอนใจอ่อนยอมตกลงแต่งงานด้วยจนได้
เพื่อนเธอมันเก่งหรือแทยอนจิตใจอ่อนแอก็ไม่แน่ใจ แต่แทยอนบอกกับเธอเองว่า ถ้ารักใครสักคนมากๆ แล้ว เรื่องที่เขาทำไม่ว่าจะหนักหนาสาหัสสักแค่ไหน เราก็พร้อมจะยอมให้อภัยได้ หากเขาสำนึก...น่าทึ่งจริงๆ เลยนะ
เจสสิก้าละสายตาจากจอแล็ปท็อป มองยุนอาที่คุยเล่นกับซอฮยอนอยู่ตรงเคาน์เตอร์กาแฟ ลูกค้าซาแล้วบาริสต้าทั้งสองจึงอาศัยช่วงเวลานี้ทำตัวสบายๆ กัน เก็บแรงไว้รับมือกับช่วงชั่วโมงเร่งด่วนอีกช่วงตอนเย็น
เจ้าเด็กหน้าใสนั่นทำให้คริสตัลมาขอเธอไปเกาหลีทั้งที่เธอเคยชวนว่า ควรจะไปเที่ยวประเทศที่พ่อแม่ของพวกเธอเกิดมาสักหน่อยนั่นตั้งนานมาแล้ว แต่ก็ไม่มีท่าทีที่น้องสาวของเธอจะสนใจสักครั้ง ไม่เคยจะถามถึงด้วย ที่พูดเกาหลีได้บ้างก็เพราะพ่อแม่บังคับให้เรียนหรอกนะ ในชีวิตประจำวันก็แทบไม่ได้ใช้จนสำเนียงพูดแปร่งๆ ไปหมดแล้ว เธอเองก็เหมือนกัน ถ้าไม่ได้พูดกับยูริ ซันนี่ ก็ไม่ค่อยได้พูด เธอกับน้องก็เลยเหมือนพวกเกาหลีดัดจริตไปเลย
แล้วยุนอามีเวทมนตร์หรือไงนะ ถึงชวนน้องเธอไปด้วยสำเร็จ
นัยน์ตาใสๆ สีนิลเบนมาสบกับเธอในที่สุด ยุนอารู้ตัวว่าถูกมองมาได้สักพักหนึ่งแล้ว แต่คงเพิ่งคิดออกว่าควรจะเดินมาหาเธอ มาให้เธอสอบสวนให้หมดจด
"รับน้ำชาเพิ่มไหมคะ บอส"
เจสสิก้าห้ามใจไม่ให้หมั่นไส้เจ้าของใบหน้าใสๆ ที่มาปรากฏตัวตรงหน้าพร้อมด้วยกาน้ำชาคนนี้ไม่ได้เลยจริงๆ นับวันยุนอาก็ยิ่งกวนประสาทมากขึ้นราวกับเป็นคริสตัลคนที่สอง
"เอาสิ" เธอตอบเสียงเย็น เจ้าเด็กแสบหน้าใสกลับอมยิ้ม ไม่รู้ตัวว่าเธอกำลังอารมณ์ขุ่น รู้แบบนี้ปล่อยให้มันนอนหลังหักใต้ต้นไม้ไปแบบนั้นดีกว่า พอช่วยมาแล้ว สบายดีแล้วก็มากวนเธอแบบนี้ มันน่าช่วยตรงไหน
"พรุ่งนี้จะพาคริสไปต่อหนังสือเดินทางนะคะ"
นัยน์ตาสีมอคค่าจ้องอีกฝ่ายที่พูดกับเธอขณะรินน้ำชาให้ พอรินเสร็จก็หันมายิ้มให้เธอและนั่งลงตรงเก้าอี้ตัวที่ว่าง ส่วนเธอก็รอว่าจะได้ยินอะไรอีก แล้วยุนอาก็ไม่ปล่อยเธอให้รอนานเกินไป รอยยิ้มใสๆ เมื่อครู่เปลี่ยนเป็นท่าทีจริงจังบนใบหน้าสวยๆ แบบคนที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นในพริบตา น่าประหลาดดีจริง
"คริสคงบอกคุณแล้ว ว่าฉันจะกลับไปเยี่ยมพ่อแม่" ยุนอาเกริ่นนำ เจสสิก้าพยักหน้าเพราะน้องบอกเธอหมดแล้วทุกอย่าง บอกตั้งแต่ตอนยังอยู่ที่แคมป์เลยด้วยซ้ำ จะว่าไป เธอยังตกใจไม่หายเลยนะนี่
"คงจะไปสัปดาห์นึงนะคะ ขออนุญาตลาพักร้อนเลยก็แล้วกัน แต่ถ้าไม่ได้ คุณจะหักเงินเดือนฉันก็ยอมค่ะ"
"ไม่ละ เดี๋ยวเธอไม่มีเลี้ยงน้องฉัน" เจสสิก้าพูดหน้าตาย หากแววตาส่งสัญญาณราวกับจะฝากฝังน้องรักของตัวเองให้กับอีกฝ่ายไปแล้ว
ยุนอายิ้ม พยักหน้าเบาๆ "ขอบคุณค่ะ ฉันจะดูแลคริสตัลอย่างดี ไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันไม่ยอมให้คนที่ฉันรักเป็นอะไรไปหรอก ถึงคุณจะไม่ขู่"
"ขอให้มันจริงเถอะ" คนหวงน้องยังไม่วายทำเสียงดุ แต่ที่สุดก็ต้องหลุดยิ้มออกมาเมื่ออีกฝ่ายทำแก้มป่องๆ แบบคิดว่าตัวเองน่ารัก
ก็น่ารักจริงๆ นั่นแหละ คริสมันตาถึง
"ความรักมันตลกดีนะ ว่ามั้ย" เจสสิก้าเอ่ยกะทันหัน คนข้างๆ ที่เริ่มจะเหม่อนิดหน่อย เพราะคิดถึงคนที่ไปมหาวิทยาลัยยังไม่กลับมาก็เหลือบตามามอง "เธอว่ามันไม่ตลกเหรอ กับเรื่องที่เราเจอกันมาน่ะ"
ยุนอาหัวเราะเบาๆ ในลำคอ พลางพยักหน้าหงึกหงัก "สำหรับคุณ ฉันก็ไม่แน่ใจนะว่าคิดถูกหรือเปล่า แต่สำหรับฉันก็ตลกนิดๆ แหละค่ะ"
"ยังไง"
"ก็...ฉันไม่เคยชอบคนเจ้าชู้เลยไง แล้วดูแฟนฉันสิ"
"ฉันเตือนเธอแล้วนะ" เจสสิก้าชี้หน้าอีกฝ่ายด้วยปากกาที่หยิบมาเพื่อลงตัวเลขในบัญชี "ตอนนี้เธอทำสำเร็จแล้ว ไม่ดีใจหรือไง"
"ดีใจค่ะ มากที่สุดเลย" ยุนอาตอบพร้อมยิ้มเพ้อฝัน แต่มันก็หุบลงไปเล็กน้อย เพราะเรื่องที่นึกขึ้นมาได้ "บางทีอาจจะกลับเร็วกว่าสัปดาห์นึงก็ได้นะคะ ยังไงก็จะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าค่ะ"
"ฉันเป็นกำลังใจให้เธอนะ ถึงเธอจะได้จากคริสไปเยอะแล้วก็เถอะ" คนขี้เก๊กพูด คนฟังที่อารมณ์อ่อนไหวอยู่แล้วก็อดน้ำตาซึมไม่ได้ เห็นแบบนั้นเจสสิก้าจึงต้องดึงเด็กตัวโตมาซบไหล่ตัวเอง และลูบไหล่ปลอบแทนน้องสาวในฐานะพี่สะใภ้ที่ดี
"ฉันไม่รู้เรื่องของเธอมากนักหรอกนะ แต่ฉันก็คิดว่า เธอต้องผ่านมันไปได้แน่ๆ และขอให้เธอรู้ไว้ด้วยว่า นอกจากคริสแล้ว เธอยังมีฉันอยู่ตรงนี้ คิดซะว่าฉันเป็นพี่สาวอีกคนนึงก็ได้"
"ขอบคุณค่ะ" ยุนอาตอบ กอดเอวพี่สาวแฟนแน่นแบบที่ไม่เคยทำ เพราะไม่เคยกล้าทำ เจสสิก้าเป็นนายจ้างและอายุมากกว่าหลายปี แต่ตอนนี้เราคงสนิทกันมากกว่านั้นแล้ว "คุณใจดีมากกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลย"
"เมื่อก่อนเธอคงเห็นฉันเป็นแม่มดสินะ" เจสสิก้าพูดขำๆ
"เป็นราชินีน้ำแข็งต่างหากค่ะ" ยุนอาแก้ ช้อนตามองอีกฝ่ายทั้งที่ยังพิงศีรษะไว้กับไหล่เล็กๆ ฉกฉวยโอกาสใกล้ชิดเจสสิก้าในตอนที่ยังมีเวลา แต่ถึงสเตฟานี่จะเดินเข้ามาแล้วทำหน้าไม่ชอบใจนิดหน่อย เธอก็จะกอดร่างบางเอาไว้แบบนี้แหละ
"ยุนอา ทำอะไร"
"กอดไงคะ ทำอะไรล่ะ" เธอย้อน จงใจกวนคนมาใหม่เต็มที่ เจสสิก้าก็เหมือนจะเห็นดีเห็นงามไปด้วยเลยกอดเธอกลับมาซะจนน่าเคลิ้มกับกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเจ้าตัว
"กล้านะ กอดแฟนฉันต่อหน้าฉันแบบนี้น่ะ"
"ก็ทำต่อหน้านี่แหละค่ะ ดีกว่าแอบทำลับหลังแล้วกลัวโดนจับได้นะ"
คำตอบโต้ของสเตฟานี่หยุดอยู่แค่ลำคอ แม้จะรู้ว่ายุนอาพูดไปโดยไม่ได้คิดอะไร หากตัวเธอย่อมรู้ดี ทว่าสายตาของอีกคนที่จ้องมาจนเธอรู้สึกตัวก็บอกเธอว่าไม่ต้องคิดมาก เจสสิก้าเข้าใจเธอแล้ว และเราไม่มีเรื่องคั่งค้างกันอีกต่อไป เรื่องทั้งหมดมันจบลงตั้งแต่ตรงลำธารนั้น
"ยุน อ้อนอะไรเจอีกล่ะ"
นัยน์ตาสีเทากะพริบ คริสตัลมาทันเวลาเหมือนมีญาณทิพย์ ยุนอาจึงผละออกจากเจสสิก้าไปจับมือกับคนนามสกุลจองอีกคน เด็กสาวผู้มาใหม่ยิ้มให้เธอเล็กน้อย แล้วหันไปพยักหน้าทักทายพี่สาวก่อนวาดแขนขึ้นคล้องคอแฟนสาวของตัวเองพากันจากไป ทิ้งเธอไว้กับความรู้สึกที่ยังค้างคา...
ตราบาปในใจของเธอ...
"ยุนอาไม่ได้ตั้งใจพูดกระทบเธอหรอก เขาก็พูดไปอย่างนั้น" เจสสิก้าพูดขึ้นอย่างรู้สถานการณ์ และพยักหน้าเรียกคนที่ยังยืนเป็นใบ้อยู่ให้เข้าไปนั่งในเก้าอี้ตัวว่างใกล้กัน
"เธอคิดว่า เขาจะไม่รู้เหรอ" สเตฟานี่เอ่ยอย่างกังวลขณะนั่งลงตามคำเชิญ เจสสิก้ายักไหล่ ตอบไม่ได้เช่นกัน "แล้วถ้าเขารู้..."
"แล้วเธอจะแคร์ทำไม ในเมื่อเธอไม่ได้คิดจะกลับไปทำแบบนั้นอีก หรือเธอคิด" เจสสิก้ายกคิ้วข้างหนึ่งขึ้น ส่งแววตาท้าทายให้อีกคนพูดออกมา
สเตฟานี่สั่นศีรษะเร็วๆ รีบขยับเก้าอี้ของตัวเองมาให้ชิดเจ้าของเสียงเย็นๆ แล้วซบไหล่อ้อนแบบที่ยุนอาทำไปเมื่อกี้ ไม่รู้ว่าจะน่ารักจนอยากเอ็นดูหรือน่ารำคาญจนอยากยันออกไปให้ไกลๆ แต่เมื่อเจสสิก้ายังเฉย เธอก็แอบคิดไปเองว่า น่ารักสูสีกับเจ้าเด็กหน้าใสผู้ชอบกวนใจนั่นก็แล้วกัน
"เจ เธอรำคาญฉันไหม"
"ตอนแรกก็ไม่ แต่ตอนนี้เริ่มนิดๆ แล้วละ" เจสสิก้าตอบ แกล้งทำเป็นยุ่งกับงานทั้งที่ไม่ได้ยุ่งอะไรเท่าไหร่ มันไม่จำเป็นต้องเสร็จเดี๋ยวนี้
สเตฟานี่หน้ามุ่ย ใช่ว่าไม่รู้ว่าโดนแกล้งอยู่ แต่ก็อยากฟังคำพูดดีๆ ให้สมกับที่อุตส่าห์รีบบึ่งกลับมาจากที่ทำงานทั้งที่เพื่อนๆ ชวนไปเที่ยวต่อ
อ้อ รู้แล้ว...เธอส่งเสียงระรื่นขึ้นในใจ แต่เหมือนอีกฝ่ายจะได้ยินด้วยจึงชำเลืองหางตามามองด้วยสายตาระแวง
"ก็แค่คิดว่า จะไปเที่ยวกับเพื่อนที่ทำงานดีไหม ไหนๆ เธอก็ไม่ว่าง เธอจะได้ไม่รำคาญฉัน" พูดออกไปแล้วก็เสียววาบที่ลำคอเพราะสายตาเย็นๆ
"ก็จริงนี่ เธอคงไม่ชอบให้ฉันทำตัวติดเกินไป"
"ก็ไปสิ ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตฉัน"
สเตฟานี่งัดศีรษะขึ้นมาจากไหล่บางทันที แน่นอนว่าเธอโดนงอนไปแล้วเรียบร้อย ตอนนี้เธอฉลาดพอที่จะเข้าใจว่าน้ำเสียงเย็นๆ กับท่าทางเมินๆ แบบนี้มันหมายความว่ายังไง
"ไม่ไปแล้ว อย่าโกรธเลยนะ" เธอบอก จับมือที่กำลังจะลงปากกากับสมุดบัญชีเอาไว้ เจ้าของมันก็หันมาทำหน้าตึงใส่ ถึงจะกลัวจนเหงื่อแตกแต่ก็ต้องทำใจดีสู้เสือไว้ก่อน เจสสิก้าไม่ชอบคนตาขาว เพราะฉะนั้น...
เธอก็เอามือนั้นมาจูบซะเลย
"นี่ไง ประทับคำสัญญาแล้วเรียบร้อย" สเตฟานี่ทำเสียงใส แต่ยิ้มได้แป๊บเดียวก็ต้องร้องโอยออกมาเพราะโดนแฟ้มบัญชีเคาะศีรษะให้ต้องลูบมันอย่างสงสารตัวเอง
"เจน่ะ เดี๋ยวโง่ไปจะทำงานได้ไงเนี่ย"
"อย่างกับตอนนี้ฉลาดนักล่ะ" เจสสิก้าย้อนเสียงเขียวแต่หน้าแดงบอกอาการอีกอย่าง "ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนั้น จะทำงาน ไปไกลๆ เลย"
"เขินล่ะสิ"
"สเตฟานี่!"
"โอ๊ยๆ ไปเดี๋ยวนี้แล้วจ้า ไม่ต้องดุก็ได้" คนหน้าหวานรีบหดมือกลับเพราะคนหน้าดุเริ่มเงื้อแฟ้มอีกรอบ แต่ก็ไม่วายเล่นทีเผลอเมื่อแฟ้มนั้นลดลง
จุ๊บ! ไปที่แก้มนุ่มแรงๆ หนึ่งทีจนลิปสติกเฉดเดียวกับเทย์เลอร์ สวิฟต์ติดหน้าคนที่ชี้หน้าจะด่าเธอแต่เกรงใจลูกค้าที่เริ่มทยอยกันเข้ามาในร้านแล้ว
"เดี๋ยวกลับมานะคะ ที่รัก ไม่งอนนะ" สเตฟานี่บอก แล้วรีบเฉดตัวหนีไปด้วยรอยยิ้มทะเล้น ส่วนคนที่ยังนั่งอยู่ก็คลายหัวคิ้วที่ขมวดออกจากกัน แล้วหวนกลับมาทำงานต่อ
เจสสิก้าไม่ได้ลบรอยลิปสติกที่แก้มออก และดวงตาสีน้ำตาลเข้มก็ชำเลืองมองอีกรอยที่มีสีเดียวกันตรงมือขาวๆ ของตัวเองเป็นระยะ พลางส่ายศีรษะไปมาอย่างเอือมๆ พร้อมด้วยรอยยิ้มติดริมฝีปาก
.....................................................
ขายาวก้าวขึ้นบันไดที่จะไปดาดฟ้า เธอเดินตามเสียงกีต้าร์อะคูสติกมาจากชั้นล่างที่เป็นส่วนห้องพักของเจ้าของบ้านและเจ้าของร้านที่เธอเพิ่งจะปิดกับทำความสะอาดเสร็จ
เจสสิก้าออกไปข้างนอกกับสเตฟานี่ คงไปเดตกัน จึงฝากฝังให้เธอดูแลเจ้าของร้านเบอร์สองให้ แต่ต่อให้ไม่ฝากไว้ เธอก็ต้องดูแลอยู่ดี และไม่ใช่เพราะแค่สัญญาที่ให้กันไว้ด้วย มันเป็นสิ่งที่เธออยากทำ ทำไปทุกวัน...
คริสตัลนั่งเล่นกีต้าร์อยู่ในมุมเดิมที่เธอเคยเห็น ใบหน้าคมนิ่งสงบ แม้จะเห็นเพียงเสี้ยวหน้าด้านข้าง ริมฝีปากได้รูปไม่ได้ส่งเสียงร้องเพลงออกมา มีเพียงเสียงฮัมเบาๆ ประกอบกับเสียงกีต้าร์เท่านั้น เธอไม่แน่ใจว่ารู้จักเพลงที่คริสตัลกำลังเล่นอยู่ แต่ก็รู้สึกว่ามันเพราะมากจนต้องเดินมาฟังใกล้ๆ แล้วคนที่ดูไม่สนใจอะไรในโลกนอกจากกีต้าร์กับโน้ตเพลงในหัวก็เหลือบตาขึ้นสบกัน
นั่งสิ...สายตานั้นบอกกับเธออย่างอ่อนโยน
ยุนอาก้าวเข้ามานั่งใกล้สาวติสท์อย่างเกรงใจ บางครั้งเธอก็ไม่รู้ว่าคริสตัลคิดอะไรอยู่ ในหัวของนักแต่งเพลงอายุน้อยก็คงมีอะไรเยอะแยะแบบที่เธออาจจะคาดไม่ถึง แต่ก็แอบหวังว่ามันจะมีเรื่องเธออยู่ด้วยบ้าง
"เพราะดี เพลงอะไร" เธอถามเมื่อเจ้าของกีต้าร์วางมือลงกับสายเอ็นเพื่อหยุดเสียงเพลงนั้นแล้ว แล้วก็ต้องขยับตัวเข้าไปใกล้ๆ กันอีกเพราะอีกฝ่ายส่งสายตาเตือนราวกับจะบอกว่า อย่าทำตัวห่างเหินกันเกินไป
"ยังคิดชื่อไม่ออกเลยละ" คริสตัลสารภาพพลางยืดแขนให้คลายความเมื่อยล้า แล้วก็วางมันลงบนบ่าลาดของอีกคนที่อมยิ้มเขินๆ
"ช่วยคิดบ้างสิ"
"คิดไม่เป็นหรอก ให้ทำกาแฟง่ายกว่า" ยุนอาส่ายหัว แล้วยิ้มขำกับแก้มป่องๆ ของอีกคน "คริสเก่งจะตาย เรื่องแค่นี้ คริสทำได้อยู่แล้ว"
"แหงละ" คริสตัลตอบ อมยิ้มกรุ้มกริ่ม ดันกีต้าร์ออกห่างจากตัว แล้วคล้องสองแขนกับคอคนตัวผอมที่ก็กอดเอวเธอกลับมาแทบจะทันที "แต่จริงๆ มันเป็นเพลงที่ฉันแต่งให้ยุนนะ"
"จริงอะ"
"อื้อ ยังไม่เสร็จเลย ยุนไม่น่าได้ฟังก่อน"
"ทำไมล่ะ"
"แบบนี้มันก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิ"
ยุนอายิ้มกว้าง แต่ก็ไม่วายน้ำตาคลอด้วยความดีใจ "ไม่เป็นไรหรอก จะตอนนี้หรือตอนไหน ฉันก็มีความสุขอยู่ดีแหละ"
"มีความสุขแล้วต้องร้องไห้ด้วยหรือไง" คริสตัลถาม เอียงใบหน้ามามองคนที่เดี๋ยวนี้ร้องไห้บ่อยเหลือเกิน แล้วก็ใช้มือตัวเองเช็ดน้ำตานั้นให้ "ขี้แยจังเนอะ พักนี้"
"ไม่รู้สิ มันตื้นตันมั้ง" ยุนอาตอบ กะพริบตาหลายๆ ครั้งให้น้ำตาหยุดไหล กลัวอีกฝ่ายจะไม่สบายใจทั้งที่เธอก็ความสุขจริงๆ อย่างที่บอก
"งั้นก็เก็บเอาไว้ร้องอีกทีตอนฉันตั้งชื่อเพลงได้กับใส่เนื้อร้องเสร็จแล้ว ก็แล้วกัน โอเคไหม"
"ไม่เอาแล้ว ใครจะร้องบ่อยๆ กันล่ะ ไม่ได้เป็นเด็กสักหน่อย"
คริสตัลยิ้ม ดึงคนแกล้งงอนมากอดแน่นขึ้น แล้วหลับตาลงเมื่อยุนอาลูบแผ่นหลังให้เธออย่างรู้ใจ "ยุนไม่ต้องกลัวนะ ถ้าที่บ้านไม่ดีกับยุน ยุนก็มาอยู่บ้านฉันเลย มาเป็นลูกพ่อแม่ฉัน พ่อแม่ฉันใจดี ไม่ว่าหรอก"
"นี่ขอแต่งงานหรือเปล่าเนี่ย" ยุนอาแกล้งแซวกลบเกลื่อนความดีใจที่อาจทำให้ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง แต่สายตาคริสตัลที่ดันตัวออกมามองหน้ากันก็แน่วแน่เกินไปจนอดกลัวใจไม่ได้ "อย่าทำหน้าตาน่ากลัวแบบนี้สิ คริส"
"ย้ายมาอยู่กับฉันเถอะ ยุนอา"
เจ้าของชื่อทำหน้าไม่ถูก เธอดีใจ แต่ว่า...
"ฉันเกรงใจพี่สาวเธอน่ะ ถ้ามาอยู่ด้วย มันก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม..."
"เธอเป็นแฟนฉัน จะคิดอะไรให้มากนักล่ะ" คริสตัลว่าเสียงขุ่น "ถ้ายุนกลัวว่าจะรบกวนเจ งั้นให้ฉันย้ายออกไปอยู่กับยุนไหม"
"ยะ อย่าเลย แบบนั้นยิ่งไม่ดีใหญ่"
"ทำไมล่ะ"
"ฉันไม่อยากให้คริสทิ้งพี่สาวไปอยู่กับฉัน คริสควรจะอยู่ดูแลคุณเจด้วย ไหนจะร้านอีก"
"แต่เจมีแฟน --"
"มันไม่เหมือนกันหรอก ยังไงคุณเจก็ต้องการคริส ไม่มีใครแทนที่เธอได้หรอก เชื่อฉันสิ" ยุนอาว่า พลางตบบ่าคริสตัลเบาๆ
"แต่ฉันอยากให้เราอยู่ด้วยกันนะ"
"ฉันก็อยาก แต่ว่า..."
"แต่ว่าอะไร เจไม่มีปัญหาหรอก จะชอบซะอีกไม่ว่า มีคนมาช่วยทำงานบ้าน ทำกับข้าวให้กินทุกวัน ไหนจะซักผ้า --"
"เฮ้ๆ ทำไมมันเหมือนคนใช้นักล่ะ" ยุนอาท้วง อีกคนหัวเราะแล้วมาทำเป็นกอดเธอกลบเกลื่อน แถมยังมาหอมคอให้ขนลุกอีก "เอาไว้กลับมาจากบ้านฉันก่อนละกันนะ คริส"
คริสตัลเงียบไปเล็กน้อย แล้วงัดใบหน้าขึ้นมามองกัน เธอเข้าใจดีว่า ยุนอายังกังวลเรื่องที่บ้านอยู่ แต่คงไม่รู้เท่าเจ้าตัวเขาหรอก "หรือยุนจะกลับกับซอสองคนแบบเดิมล่ะ ฉันไม่ไปด้วยก็ได้นะ"
"แต่ฉันอยากให้คริสไปด้วย" ยุนอาพูด ยิ่งเธอรู้สึกไม่สบายใจ เธอก็ยิ่งอยากให้คนตัวเองรักไปอยู่ใกล้ๆ ด้วยในเวลานั้น เผื่อคริสตัลจะช่วยลากเธอออกมาจากบ้านที่ไม่มีใครต้อนรับนั่นให้ ถ้าหากเธอไม่มีแรงจะทำมันเอง
"แน่ใจนะ" คริสตัลเลิกคิ้ว แต่อีกฝ่ายกลับตอบเธอด้วยการโถมตัวเข้าใส่จนหงายท้องไปนอนแผ่หลา ดีนะไม่โดนกีต้าร์พัง ไม่อย่างนั้นต้องโดนพี่สาวด่าแน่ๆ ตัวนี้เป็นตัวที่พี่ซื้อให้เมื่อวันเกิดปีที่แล้วด้วย
"นี่ นึกว่าตัวเบางั้นเหรอ"
"เบากว่าเธอละกัน" ยุนอาพูด ซุกหน้าอยู่กับอกนุ่มๆ ของคนด้านล่างครู่หนึ่งก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากัน แล้วสายตาเชื้อเชิญนั่นก็ทำให้เธอต้องขยับมาจูบริมฝีปากสวยๆ นุ่มๆ ที่เฝ้ารอกันอยู่ตลอดเวลา
"ฉันรักคริส รักมากจริงๆ เลยนะ"
"อย่าพูด แล้วทำหน้าเหมือนกับจะหนีฉันไปสิ ใจหายนะ" คริสตัลพูดพลางเกลี่ยเส้นผมยาวๆ ที่ละใบหน้าอีกฝ่ายออกให้
ยุนอายังอยู่บนตัวเธอ อยู่ในสภาพล่อแหลมกัน แต่เธอกลับรู้สึกอบอุ่นมากกว่าจะอยากจับแฟนมาทำอะไรๆ ด้วยแบบเมื่อก่อน ตอนนี้ถ้าเรามีอะไรกัน คงเกิดจากความอยากใกล้ชิดกัน อยากให้ความสุขกันและกันมากกว่าความกระสันทางเพศเพียงอย่างเดียว
"ฉันไม่หายไปไหนหรอก ฉันรักเธอขนาดนี้"
คริสตัลยิ้ม ทำเสียงจุ๊บดังๆ ขณะยกศีรษะขึ้นไปจูบปากแดงๆ ที่ล่อใจเสียเหลือเกิน ยุนอาทำหน้าเขินๆ แต่ก็เลียนแบบเธอกลับมาเหมือนกลัวแพ้
"นี่ ใจคอจะนอนทับกันแบบนี้เหรอ หนักเหมือนกันนะ"
"ทีเธอทับฉันล่ะ ยังไม่เคยว่าอะไรเลย"
"ก็เธอชอบ"
"แล้วเธอไม่ชอบเหรอ ถ้าไม่ชอบ ฉันจะ --"
"ยุนอา ฉันรักเธอนะ"
ยุนอาอ้าปากค้าง คำที่จะประชดหายวับไปทันตา แล้วเธอก็ทำได้แค่ยิ้มกับก้มลงจูบเจ้าของคำพูดนั้นอีกครั้งและอีกครั้ง
"อา ปากช้ำหมดแล้ว" คริสตัลเอ่ยขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มชอบใจ ยุนอาหัวเราะ หยิกจมูกโด่งๆ ของคนทะเล้นจนร้องอู้อี้ แล้วลงมานอนหงายข้างๆ ดูท้องฟ้าซานฟรานซิสโกยามค่ำด้วยกัน ขณะที่มือเกาะเกี่ยวกันอยู่ไม่ห่างราวกับกลัวว่าใครอีกคนจะหายไป
...............................
โอเคค่า เหลืออีก 2 ตอนก็จบแล้วค่ะ แต่มันก็จะมีตอนพิเศษอีก 3 ตอนนะคะ อยู่ในหนังสือน่ะ ซึ่งก็จะมี...
เจทิ , คริสฟานี่ , ยุนคริส นั่นแหละค่ะ อาจจะมียูลแท นิดหน่อยนะ
เอาเป็นว่า เจอกันกับอีกสองตอน (หลัก) ละกันค่ะ ขอบคุณค่า
ป.ล. หนังสือส่งภายในสิ้นเดือนนี้นะคะ แล้วจะแจ้งให้ทุกท่านที่จองและชำระเงินแล้วทราบเมื่อส่งแล้วค่ะ
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|
ความคิดเห็น
|