อุบายรักจับใจ yuri ตอนที่ 12
โพสต์โดย:
meAyou
วันที่: 13 มกราคม 2020 เวลา 11:51:50
อ่าน: 482
|
หลังจากหมดพันธะต่อกันใครบางคนก็หายไปจากวงโคจรและนั่นทำให้ชีวิตของเพลงพิณกลับมาสู่ชีวิตที่ปกติอีกครั้งแม้ในบางทีจะรู้สึกเหงา ใช่?เหงา เธอเรียกความรู้สึกนี้ด้วยคำนี้ไม่ผิดหรอกหากแต่มันก็เป็นช่วงเวลาครู่เดียวเท่านั้นความเหงาที่ว่าก็ค่อยๆ จางหายไปพร้อมกับสายลมที่พัดผ่านมา วันนี้เป็นวันที่เธอเดินทางมากรุงเทพด้วยเพราะมาทำธุระและคงต้องอยู่เลยไปถึงงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนสนิทที่งอแงไม่ยอมให้กลับจนเธอใจแข็งปฏิเสธไม่ไหว เพลงพิณทอดถอนหายใจเมื่อไม่สามารถติดต่อคนที่รับปากเป็นดิบเป็นดีว่าจะมารับได้ สุดท้ายเธอก็พึ่งใครไม่ได้นอกจากตัวเองหญิงสาวตัดสินใจใช้บริการของแท๊กซี่ซึ่งน่าจะเป็นยานพาหนะที่ดีที่สุดแล้วในยามวิกาลเช่นนี้หากแต่เพียงหยุดความคิดวุ่นวายในหัวลงก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น "คุณค่ะโรงแรมที่ฉันบอกไม่น่าจะใช้เส้นทางนี้นะคะ" "ทางลัดนะครับคุณคนสวย" คำตอบที่ได้รับทำให้เพลงพิณนึกหวั่นใจกับบางอย่างที่อาจเกิดขึ้นได้ ข่าวสารมากมายที่ได้อ่านมันทำให้นึกระแวงกับการเดินทางแบบนี้อยู่ไม่น้อยบวกกับดวงตาคู่ไม่น่าไว้วางใจของคนขับก็ทำให้คนไม่เคยไว้ใจใครผุดความระแวงขึ้นมาได้แล้ว "งั้นฉันขอลงตรงนี้ค่ะ" "อีกเดี๋ยวก็ทะลุออกทางหลักแล้วครับใจเย็นๆ" "ฉันต้องการลง จอดเดี๋ยวนี้" "ผมไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกน่ะหน้าตาดีขนาดนี้จะเป็นคนไม่ดีได้ยังไง" "จอดรถ" "อย่าใจร้อนสิคนสวยเดี๋ยวก็ถึงแล้วใจเย็นๆ" "ฉันให้โอกาสอีกครั้งจอดรถเดี๋ยวนี้" "ขู่จังถ้าไม่จอดจะทำอะไรเหรอค๊าบ" ดูเหมือนสิ่งที่คิดจะเป็นความจริงแต่ถึงแม้จะไม่ใช่เพลงพิณก็ไม่คิดที่จะเสียเวลาอีกต่อไป "จอด" "ม่ายยยยจอด" "แน่นะ" "แน่สิค๊า?เฮ้ยยยยยย" คนขับแท๊กซี่หลุดความตกใจออกมาไม่น้อยก่อนจะรีบหักรถเข้าข้างทางด้วยอาการมือไม้สั่นเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นบางอย่างที่แม้จะมีขนาดเล็กแต่ความรุนแรงของมันน่ากลัวมากจนทำเอาแข้งขาอ่อนไปหมด "จะ จะ ใจเย็นๆ นะครับผมแค่ล้อเล่น" "ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นของนาย" "หยอกๆ" "ไม่ตลก!" "ครับๆ กลัวแล้วครับ ยอมแล้ว" "หวังว่าจะเข็ดนะไม่งั้นฉันว่านายคงไม่แก่ตายแน่ๆ" "จ่ะแม่จ๋ากลัวแล้วจ้า ลงไปเถอะ" เพลงพิณก้าวลงจากรถอย่างหัวเสียแทนที่จะถึงที่พักเร็วๆ กลับต้องมาเสียเวลา เสียอารมณ์กับคนไร้จิตสำนึกเพราะแบบนี้แหละเธอถึงไม่ชอบสังคมเมืองกรุงที่มีแต่อันตรายรอบตัว มือล้วงหยิบอุปกรณ์สื่อสารออกมาหากแต่กลับพบว่าตัวเองสะเพร่าถึงปล่อยให้แบตหมดเปิดไม่ติดอยู่แบบนี้ให้มันได้แบบนี้สิ! สองเท้าก้าวเดินพร้อมกับการแบกกระเป๋าหนักๆ หนึ่งใบหวังว่าเดินไปสักพักคงจะมีรถผ่านมาให้ร้องขอความช่วยเหลือบ้างนะ เดินอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงเพลงพิณก็มองเห็นแสงไฟจากรถหากแต่ดึกดื่นขนาดนี้ก็คงไม่น่าแปลกที่คนขับจะไม่แม้แต่จะหันมามองเธอ นี่มันถนนที่อยู่ในกรุงเทพจริงๆ หรือเปล่านะทำไมถึงมีรถผ่านไปผ่านมาน้อยเหลือเกิน "คงต้องหาบ้านคน" เพลงพิณมองไปข้างหน้าก็ให้นึกท้อใจ ถนนยาวสุดลูกหูลูกตาขนาดนี้เธอจะโชคดีได้เจอบ้านสักหลังไหมนะ "ปิ๊มๆ" อาจเพราะใช้ความคิดอยู่จึงไม่ทันได้รู้ตัวว่ามีรถผ่านมาจนได้แต่บีบแตรดังขนาดนี้คงจะคิดว่าเธอเดินขวางทางอยู่สินะ นี่เธอก็เดินชิดแล้วหากเดินริมอีกหน่อยคงได้ตกข้างทางแน่ๆ คนพวกนี้ทำไมใจร้ายใจดำกันขนาดนี้นะ เพลงพิณเดินชิดข้างทางเข้าไปอีกหากแต่เสียงแตรก็ยังดังให้หญิงสาวต้องหันไปจ้องมองด้วยความไม่พอใจ จะหาเรื่องกันให้ได้ใช่มั้ย! "นี่ฉันก็เดินริมแล้วนะจะเอายังไงอีก" นํ้าเสียงไม่พอใจดังขึ้นยิ่งถูกไฟส่องหน้าก็ยิ่งทำให้อารมณ์หงุดหงิดเพิ่มมากขึ้นเห็นทีว่านี่จะเป็นครั้งที่สองในคืนนี้แล้วสินะที่เธอต้องใช้สิ่งที่พกมาอีกครั้ง อยากลองดีเดี๋ยวเพลงพิณคนนี้จะจัดให้! "โว๊ๆๆๆ ใจเย็นๆ คุณ" นํ้าเสียงตกใจของคนที่ลงมาจากรถดังขึ้นเมื่อมองเห็นว่ามีวัตถุบางอย่างจ่อมาที่ตัวเอง "อยู่ไร่ไม่เห็นจะโหดแบบนี้เลย" ประโยคหยอกเย้าดังขึ้นให้คนถือปืนที่ทำหน้าโหดปรับเปลี่ยนมาเป็นรอยยิ้มก่อนจะเก็บวัตถุอันตรายใส่กระเป๋าไว้อย่างเดิม "คุณธณิกา!" "ค่ะ รักเองบังเอิญจังนะคุณมา..." คำถามยังไม่ถูกเอ่ยออกมาจนหมดธณิกาก็เกิดอาการตัวแข็งทื่อเพราะการจู่โจมที่คาดไม่ถึง เพลงพิณวิ่งเข้ามากอดเธอ สองแขนของเจ้าหล่อนรัดแน่นยิ่งกว่างูเหลือมรัดเหยื่อเสียอีก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ? "คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ" เพลงพิณคลายกอดออกใบหน้าส่ายไปมาหากจะพูดกันตรงๆ ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าในสถานการณ์เลวร้ายเมื่อสักครู่ก็มีความกลัวเกิดขึ้นไม่น้อย เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อต้องมาประสบพบเจอกับภัยอันตรายก็ต้องมีความหวาดหวั่นเป็นธรรมดาและเมื่อได้รับความช่วยเหลือจากคนที่คุ้นเคยก็ยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกที่เรียกว่าอุ่นใจขึ้นมา ตอนที่อยู่ในไร่ธณิกามักโผล่มาเสมอจนเธออดคิดไม่ได้ว่าถูกอีกฝ่ายจับตามองในทุกๆ ฝีก้าวแต่กับสถานการณ์เช่นนี้ สถานที่แห่งนี้เธอกลับพบว่ามันคือความบังเอิญ บังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อ "แล้วคุณมาเดินทำไมตรงนี้คะ ดึกแล้วรู้ไหมว่ามันอันตราย" "ฉันก็ไม่ได้อยากเดินหรอกค่ะแต่พอดีมันมีเหตุจำเป็น" "คะ?" "เอาไว้ฉันจะเล่าให้ฟังนะคะเรื่องมันยาวแต่ตอนนี้ขอรบกวนคุณหน่อยได้มั้ย" เป็นคำขอที่ธณิกาเต็มใจทำที่สุดเมื่อครู่พอเห็นว่ามีคนเดินอยู่ในที่มืดเธอก็กะจะถามไถ่อยู่แล้วแต่พอพบว่าเป็นคนรู้จักก็ยิ่งทำให้นึกเป็นห่วงจนต้องรีบลงมาจากรถแบบนั้น "จะไปไหนล่ะคะเดี๋ยวรักไปส่ง" "เอ่อ ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ค่ะ" "คะ?" "ฉันลืมชื่อโรงแรมนะคะแบตโทรศัพท์ก็หมดจะติดต่อเพื่อนก็ไม่ได้" "งั้นเอาของรักไปใช้ก่อนก็ได้นะคะ" ธณิกาเสนอหากแต่สีหน้าเป็นกังวลของใครอีกคนก็ยังไม่จางไปและนั่นก็ทำให้เธอเป็นห่วงจนอดที่จะถามออกมาอีกครั้งไม่ได้ "มีอะไรหรือเปล่าคะ" "ฉัน เอ่อ คือฉันจำเบอร์เพื่อนไม่ได้ค่ะ" คนพูดเอ่ยหน้าเศร้าต่างจากธณิกาที่ผุดรอยยิ้มน้อยๆ ออกมากับมุมนี้ที่ไม่เคยเห็นมันทำให้เธอรู้สึกต่างไปจากเมื่อครั้งที่พบเจอกันที่ไร่ ในตอนนั้นเพลงพิณดูเก่งกาจไปเสียทุกอย่างหากแต่เพียงพลัดถิ่นเสือสมิงสาวก็กลับกลายมาเป็นลูกแมวตัวน้อยๆ ที่เห็นแล้วก็ให้เกิดความรู้สึกอยากที่จะทะนุถนอมดูแลขึ้นมา "ขึ้นรถเถอะนะคะเดี๋ยวค่อยว่ากัน" "ขอบคุณนะคะแต่ถ้าคุณเจอโรงแรมแถวนี้ก็จอดให้ฉันลงก็ได้จะได้ไม่ต้องรบกวนคุณมากไปกว่านี้" "ไม่รบกวนหรอกค่ะ รักเต็มใจ" "แต่..." "ไม่มีแต่แล้วค่ะขึ้นรถเถอะ ขอกระเป๋าด้วยค่ะ" "ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวฉัน..." "เอามาเถอะค่ะที่นี่รักเป็นเจ้าถิ่นให้รักได้ดูแลคุณบ้างนะคะ" "จะดีเหรอคะ" "ดีสิคะ ดีมากๆ เลย" คนพูดคว้ากระเป๋ามาถือก่อนจะดันตัวลูกแมวหลงทางให้เข้าไปในรถ ธณิกาผ่อนลมหายใจลงก่อนจะเดินไปขึ้นรถทางฝั่งคนขับเธอล่ะอยากจะบอกคนลังเลเหลือเกินว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันดี ดีมากจริงๆ โชคดีที่เธอออกไปเที่ยว โชคดีที่เธอแยกจากเพื่อนในเวลาที่พอเหมาะ โชคดีที่เธอนึกอยากกลับคอนโดโดยใช้ทางลัด โชคดีที่แสงไฟสาดส่องให้ได้เห็นว่ามีคนเดินอยู่ข้างทาง โชคดีที่เธอได้พบกับเพลงพิณ โชคดี?ที่เราได้พบกัน
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|
ความคิดเห็น
|