web stats

ข่าว

 


Viewfinder - บทที่ 17 Truth Hurt

โพสต์โดย: anhann วันที่: 30 กันยายน 2019 เวลา 08:57:35 อ่าน: 688




บทที่ 17 Truth Hurt



"พรอวิเดนซ์เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดของอเมริกา  มากมายไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์  สถาปัตยกรรมเก่าแก่  พิพิธภัณฑ์  วัฒนธรรม  อาหารที่น่าสนใจ  แหล่งชอปปิ้ง  ซึ่งแอนน์จะพยายามรวบรวมมาให้คุณๆ ดูกันนะคะ  ไม่รู้ว่าเวลาสองวันจะพอหรือเปล่า  ถ้ายังไงก็ลองไปพร้อมๆ กับแอนน์ดูแล้วกันค่ะ"  แอนน์เปิดทริปพรอวิเดนซ์ด้วยรอยยิ้ม  ระงับความตื่นเต้นของตัวเองไว้ไม่อยู่  เป็นครั้งแรกในรอบเกือบหกปีที่เธอได้มาเดินเล่นในเมืองแห่งความทรงจำแห่งนี้

"เราจะเริ่มต้นกันที่  Mile of History บนถนน Benefit ซึ่งก็คือที่นี่เองค่ะ"  เธอพูด  และออกเดินไปตามถนนเก่าแก่ที่ลาดชันขึ้นเรื่อยๆ  กล้องของเคลลี่ก็คอยจับภาพเธอและทิวทัศน์รอบๆ เพื่อให้คนดูรู้สึกว่าได้มาเที่ยวไปกับเธอด้วย

"ทางเดินนี้จะค่อยๆ สูงชันขึ้นเรื่อยๆ จากแม่น้ำไปตามแนวเนินเขา  เราจะไปมหาวิทยาลัยบราวน์ได้จากที่นี่ด้วยค่ะ"  แอนน์บรรยายเป็นงานเป็นการด้วยรอยยิ้ม  "ถนนเส้นนี้ตกแต่งสไตล์โคโลเนียล  บ้านเรือนที่เราผ่านไปก็ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่  คุณจะสามารถเห็นสถาปัตยกรรมสมัยเก่าจากที่นี่ค่ะ  จะมีไกด์พาทัวร์ด้วย  แต่วันนี้แอนน์ไม่ได้มากับทัวร์  เพราะที่นี่เป็นบ้านเกิดของแอนน์เอง  แต่แอนน์จะไม่บอกหรอกนะ  ว่าบ้านแอนน์หลังไหน"

เคลลี่จับภาพไปเรื่อยๆ ตามแอนน์เดิน  แพนกล้องไปรอบๆ  เก็บตกภาพนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์กันเป็นกลุ่ม  มีทั้งพวกผู้ใหญ่  และนักศึกษาซึ่งคงจะมาจากมหาวิทยาลัยไหนสักแห่ง  โรดไอแลนด์  ไม่ได้มีมหาวิทยาลัยเดียว  มันเยอะจนเธอจำแทบไม่หมดเชียวละ

เห็นกลุ่มนักศึกษาพวกนั้นแล้วก็อดนึกถึงตัวเองสมัยนั้นไม่ได้  มันก็เพิ่งผ่านมาแค่สองปีเท่านั้น  บางทีแอนน์อาจจะพาเราเข้ามหาวิทยาลัยไปในฐานะศิษย์เก่า  ชักน่าสนใจขึ้นทุกทีแล้วสิ

อาห์  เคเอ๊ย  เธอไม่ได้มีงานเดียวนะ  จำไว้ด้วย!

"ตอนนี้เราก็มาถึงพิพิธภัณฑ์โรดไอแลนด์สกูลออฟดีไซน์ (RISD) แล้วค่ะ  มีผลงานแปดหมื่นชิ้นจากหลากหลายวัฒนธรรม  ยุคสมัย  สิ่งทอ  มีคอลเลคชั่นเครื่องเงินของ Paul Revere ด้วย  แอนน์จะพาเข้าไปดูค่ะ  ตามเข้ามากันเลย"  แอนน์พูดเจื้อยแจ้ว  เดินเร็วๆ เข้าพิพิธภัณฑ์ศิลปะไป  เคลลี่ถือกล้องตาม  ดูแอนน์สอบถามเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ว่าเราสามารถถ่ายทำตรงไหนได้บ้าง 

เราใช้เวลาครึ่งชั่วโมงใน RISD  เคลลี่อยากอยู่ที่นี่ต่อ  ยังเดินไม่ทั่ว  แม้ตอนเป็นนักศึกษาจะเคยมาแล้ว  แต่สำหรับแฟนตัวยงพิพิธภัณฑ์เช่นเธอ  สามารถเดินได้ทั้งวัน  และมาได้บ่อยๆ ด้วย 

"ถัดจาก RISD ก็จะมีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติ  และหอดูดาว  แต่วันนี้เรายังไม่ไปกันนะคะ  แอนน์ของแว่บไปบ้านจอห์นบราวน์ก่อนละกัน  บอกไว้ก่อนนะคะว่า  แอนน์ไม่ได้เป็นญาติกับท่านหรอก"  แอนน์ออกตัวด้วยรอยยิ้มทะเล้น 

"บ้านจอห์นบราวน์ตั้งชื่อตามเจ้าของเดิม  ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้อุปถัมน์ของมหาวิทยาลัยบราวน์  พ่อค้า  รัฐบุรุษและผู้ค้าทาส  ดูขัดๆ ใช่ไหมคะ  แต่ก็นั่นแหละค่ะ  คนเรามีหลายด้าน"  แอนน์พูด  ยักไหล่น้อย  เดินนำเข้ารั้วไป

หญิงสาวเอ่ยต่อเมื่อเห็นเคลลี่ตั้งกล้องมาทางตน  "อ๊ะ  แอนน์เห็นนะว่าบางคนกำลังเปิดกูเกิลดูว่าบ้านจอห์น  บราวน์อยู่ไหนระหว่างดูคลิปนี้  ดังนั้นแอนน์จะไม่เล่าต่อแล้ว  ดูภาพที่เคถ่ายเอาละกันนะคะ"

แอนน์ปล่อยให้วิดีโอมีภาพเธอเดินเงียบๆ ไปเรื่อยๆ สลับตัวบ้านจอห์น  บราวน์ที่เคลลี่ตามถ่าย  จนกระทั่งจะถึงจุดที่ขายตั๋วเข้าชมจึงหันมายิ้มแฉ่งกับกล้องใหม่ 

"บ้านจอห์น  บราวน์เป็นคฤหาสน์หลังแรกในพรอวิเดนซ์  ตั้งอยู่ในคอลเลจฮิลล์ซึ่งติดกับมหาวิทยาลัยบราวน์  และจากจุดนี้  หากเป็นสมัยนั้นจะสามารถมองเห็นเรือสินค้า  คลังสินค้าของไชน่า  เทรดที่อินเดีย พอยต์ได้  ประธานาธิบดี  จอห์นควินซี  อดัมส์พูดถึงบ้านหลังนี้ว่า  'คฤหาสน์สุดงดงามและสง่างามที่สุดที่ฉันเคยเห็นในทวีปนี้'  แล้วคุณๆ ล่ะคะ  คิดว่าไง"

เคลลี่ถือกล้องเดินตามแอนน์ไปเรื่อยๆ  ไม่ได้คิดไปเองแน่ว่าคราวนี้แอนน์ดูเงียบกว่าวิดีโออื่นๆ  ดูเกร็งๆ ด้วย  อาจจะเกี่ยวกับบ้านหลังนั้น  หรือบางอย่างที่เธอยังเดาไม่ออก

เราเดินจนทั่วบ้านจอห์น  บราวน์แล้วจึงออกมา  แอนน์เห็นว่าแสงเริ่มจะหมดแล้วจึงจำใจต้องเปลี่ยนแผน

"พรุ่งนี้ค่อยเข้าบราวน์นะ"  แอนน์บอกช่างภาพคู่ใจ  ล้วงขวดน้ำในกระเป๋าเป้มาดื่ม  เธอกับเคลลี่แวะมินิมาร์ทกันก่อนเดินเข้ามาใน  Benefit  เตรียมเสบียงมากินใช้ระหว่างถ่ายงาน  อย่างน้อยก็ต้องมีน้ำเปล่ากับทิชชู

"หิวยัง"

"นิดๆ แต่พอทน  จะไป Thayer ก่อนไหมล่ะ  หรือ Federal ฮิลล์"

"Federal ดีกว่า  หาไรกินกัน  หรือไปดาวน์ทาวน์ดีนะ"

"ถ้าบอกว่าอยากกลับบ้านล่ะ"  เคลลี่หยั่งเชิง  แอนน์หรี่ตามองเธอเหมือนจะจับผิด  "ก็เมื่อยนิดๆ อะ  แต่ยังไม่กลับก็ได้"

"กลับก็ได้  แต่จะไม่มีอะไรกินนะ"  แอนน์พูดเหมือนขู่  เคลลี่จึงยอมตามใจเธอ  เราจึงได้ไปกินอาหารอิตาเลียนกันที่ Federal Hill ในที่สุด

"ถ่ายที่นี่ด้วย"

เคลลี่ยกกล้องขึ้นมาตั้งบนโต๊ะโดยใช้ขาตั้งกล้องช่วย  เธอจะได้กินอาหารได้สะดวกระหว่างแอนน์พูดๆ ยาวเหยียดในจอ  พอแอนน์ส่งสายตาที่เรารู้กันมา  เธอก็ยื่นมือไปกดพักการบันทึกภาพให้  อีกฝ่ายถอนใจเฮือกและยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ

"ได้กินซะที"  แอนน์พูด  ใช้ส้อมม้วนพาสต้าอย่างคล่องแคล่ว  และเอาใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ  ดูอารมณ์ดีจนเคลลี่มองแล้วยิ้ม 

"ห้ามล้อนะ  วันนี้ทั้งวันยังไม่ได้นั่งกินสบายๆ แบบนี้เลย"

เคลลี่ยิ้ม  หันไปมองขวดไวน์บนเคาน์เตอร์  และบางคนก็เตะขาเธอใต้โต๊ะ  จึงต้องหันกลับมายิ้มให้  "ไวน์ที่ดีคู่กับอาหารดีๆ นะ"

"ก็ได้  แต่คนละแก้วพอนะ"

"จะเอาด้วยเหรอ"

"เอาสิ  เรื่องอะไรจะปล่อยให้เธอกินของอร่อยคนเดียวล่ะ  และต้องหารกันนะ  ไม่ใช่เธอจ่ายคนเดียว"

"กลัวไม่ได้ใช้เงินเหรอ"

"ไม่อยากรบกวน"  แอนน์ตอบ  หน้าซึมไปนิดหนึ่ง  หากเป็นคนอื่นคงไม่ทันสังเกต  แต่ไม่ใช่เคลลี่  อีกฝ่ายจึงเตะขาเธอเบาๆ  เรียกให้เงยหน้าขึ้นมาสบตา

"เปล่า  ไม่ได้เป็นอะไร  แค่... นึกถึงความหลังนิดหน่อยน่ะ"

"เคยมาที่นี่กับคนอื่นด้วยเหรอ"  เคลลี่ถาม  นึกสนใจขึ้นมา  เท่าที่รู้วิคโตเรียไม่เคยพาแอนน์ไปเที่ยวไหนเลย  เจอกันแค่ในอพาร์ตเมนต์แอนน์เท่านั้น  แต่ข่าวพวกนั้นอาจจะไม่จริงทั้งหมดก็ได้

"ก็มีบ้างแหละน่า"  แอนน์ทำเสียงรำคาญ  ไม่อยากให้เคลลี่ซักไซ้เรื่องเก่าๆ ของตน  เธอพยายามจะลืมมัน  แต่มันก็ใช่จะทำได้ง่ายๆ  แถมเธอก็ไม่ได้จริงจังที่จะลืมมันไปด้วย

"แฟนเหรอ"

"แล้วจะทำไม"

เคลลี่เลิกคิ้ว  มองท่าทางท้าทายของอีกฝ่าย  เธอแกล้งย่นคิ้ว  แล้วส่ายหัว  ก้มหน้ากินอาหารของตัวเองต่อ  กว่าจะได้โต๊ะที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย  ถ้าไม่โชคดีจริงๆ  โต๊ะคงเต็มก่อน 

แอนน์มองเคลลี่ที่ตั้งหน้าตั้งตากินอาหารแล้วก็หงุดหงิดขึ้นมา  หรือเธออยากให้เคลลี่ซักไซ้มากกว่านี้กันนะ

"ฉันไปดูไวน์ก่อน"  เคลลี่บอกและลุกขึ้นไปที่เคาน์เตอร์ที่มีพนักงานกำลังวุ่นกันอยู่ 

แอนน์มองตามไป  สังเกตท่าทางเคลลี่ที่คุยกับพนักงาน  ไม่เหมือนพวกโนโปรไฟล์เลยสักนิด  จริงๆ เธอน่าจะเห็นมันบ่อยๆ  แต่ที่ผ่านมาก็นึกว่าเป็นแค่บุคลิกของคนมั่นใจเฉยๆ  ไม่ใช่...

เคลลี่ไปขอเขาชิมไวน์  ไปพูดยังไงไม่รู้  ถึงได้ชิมแบบนั้น  หรือไปยื่นบัตรดำตำนานนั่นให้พวกเขา  แอนน์ตักอาหารใส่ปากพลางดูเคลลี่ชิมไวน์ไปด้วย  กลัวเจ้าเด็กนั่นจะเมาเสียก่อนจะรู้ว่าชอบขวดไหน  แต่แล้วเคลลี่ก็เดินกลับมาแค่ชิมไปจิบเดียว

"เดี๋ยวเขามาเสิร์ฟให้"

"งั้นถ่ายไว้ด้วยละกัน"  แอนน์บอก  ความสงสัยมาแทนความอยากอาหารเสียแล้ว  นึกอยากรู้ว่าชีวิตเคลลี่เป็นยังไงแน่  ในเมื่อเคลลี่เด็กกำพร้ายากจนคนนั้นไม่มีอยู่จริง  แล้วคนตรงหน้าเธอคนนี้เป็นยังไง

"บางทีก็ต้องมากับครอบครัว"  เคลลี่ตอบโดยที่แอนน์ไม่ต้องถาม

"นั่นสิเนอะ"  แอนน์พึมพำ  ตักบรูสเกต้าใส่ปาก  พลางมองบริกรที่เดินพาไวน์มาเสิร์ฟให้พวกเธอคนแก้ว 

"ทิ้งขวดเอาไว้เลยค่ะ"  เคลลี่บอกเขาหลังจากเทไวน์ให้ตนกับแอนน์เสร็จแล้ว  แอนน์เลิกคิ้ว  มองหน้าเธอเป็นคำถาม  "ค่าอาหารแชร์กัน  แต่ไวน์  ฉันจ่ายเอง"

"ทำไม"

"เพราะฉันอยากดื่ม"

"เดี๋ยวก็เมา"  แอนน์ว่า  แต่เคลลี่ก็แค่ยิ้ม  และยกไวน์ขึ้นจิบด้วยท่าทางที่ไม่น่าห่วงสักนิด  เธอจึงดื่มของตัวเองบ้าง  หากพอจะเทเติมใหม่  มือไวไวก็มาฉกขวดหนีไปดื้อๆ

"ฉันรินให้"  เคลลี่บอก  ยิ้มมุมปากให้คนที่หรี่ตามองเธออย่างกังขา

"คิดจะมอมฉันใช่ไหม"

"ก็ทำนองนั้น"

แอนน์กลอกตา  ไม่น่าอยากมาที่นี่เลยจริงๆ  เธอดูเสียเปรียบเคลลี่ยังไงไม่รู้  ลืมไปว่าเคลลี่เคยอยู่ที่นี่  และพวกมิลเลอร์ก็คงจะไม่หมกตัวอยู่แค่ในบ้านหลังมหึมานั่นหรอก

"ดื่มเถอะ  ไม่เป็นไร  วันนี้ยกให้วันนึง  เดี๋ยวขากลับฉันเรียกอูเบอร์มารับ  ถ้าพี่เดินไม่ไหว"  เคลลี่ปลอบ
"ถ้างั้นก็ไม่เกรงใจแล้วนะ"

และหลังจากคำพูดนั้น  ไวน์ก็หมดไปสองขวด  เคลลี่มึนหน่อยๆ แต่แอนน์หลับตลอดทางที่นั่งอูเบอร์กลับบ้านเลย  ตอนเข้าบ้านเธอต้องหิ้วปีกพาเข้าไป  หนักทั้งกล้องทั้งคน

"เค  จูบกัน" 

เคลลี่เลิกคิ้ว  มองหน้าแอนน์ที่ยืนพิงเธอขณะไขกุญแจบ้าน

"มัวมองอะไรอยู่เล่า  ไม่อยากจูบเหรอ"

"เอ่อก็..." 

"รังเกียจฉันเหรอ  เหม็นใช่ไหมล่ะ  เธอก็เหม็นเหมือนกันแหละ  โอ๊ย  ทำไมมันมึนหัวแบบนี้นะ"  แอนน์พูดอ้อแอ้  ค้อนเคลลี่ไปพลาง  สักพักก็ทุบหัวตัวเอง  เพราะมันมึนจนยืนไม่อยู่

"เค  ทำไมโลกมันหมุนอะ"

"เพราะโลกมันหมุนรอบตัวเองไง"  เคลลี่ตอบตามตรง  แต่แอนน์คงนึกว่าเธอกวนจึงตีปาก  เธอเบี่ยงหน้าหลบ  และกำลังจะลากแอนน์เข้าบ้าน  แต่อีกฝ่ายกลับผลักเธอออกและวิ่งปิดปากไปอาเจียนบนสนามหญ้าที่ลุงดิก  สามีป้ามีนาตัดไว้อย่างเรียบร้อย

เธอถอนใจเฮ้อ  เดินไปลูบหลังและประคองตัวบางๆ เอาไว้  พลางล้วงหาทิชชูมาให้แอนน์เช็ดปาก  ต้องเช็ดให้เอง  เพราะแอนน์เช็ดไม่ค่อยตรงปากเท่าไหร่ 

"อื้อ  อยากนอนแล้วอะ"  แอนน์งอแง  "ไม่กินแล้วนะ  แบบนี้"

"ก็ไม่ให้กินแล้วแหละ"  เคลลี่พูด  ส่งเสียงฮึบเบาๆ ขณะอุ้มแอนน์ขึ้นจากพื้น  อีกฝ่ายกอดคอเธออัตโนมัติ  พาเข้าบ้านที่เปิดประตูทิ้งไว้แล้ว  เธอใช้ให้ขาเขี่ยปิดประตู  เอาแอนน์ไปหย่อนลงโซฟา

"เค  ไปหนาย..."

"ล็อกประตูบ้านก่อน" 

"คอแห้งอะ"

"เดี๋ยวเอาน้ำให้"  ขานรับไปแล้วก็ส่ายหัวให้ตัวเอง  ดันชอบเห็นแอนน์เมาไปเสียได้  ก็น่าเอ็นดูขนาดนี้นี่นา  ขนาดเกือบอ้วกใส่เธอนะเนี่ย

เคลลี่เปิดตู้เย็นเอาน้ำแร่ที่ป้ามีนาใส่ไว้ให้ออกมาสองขวด  ถือเอาไปให้แอนน์  เปิดขวดและส่งให้  ประคองตัวเล็กๆ ขึ้นมาดื่มมัน 

"น่ารักจังเค"  แอนน์พูด  หัวเราะคิกคัก  แต่ต่อมากลับร้องไห้  กอดเคลลี่แน่น  "ฉันคิดถึงพ่อแม่  บ้าน... บ้านหลังนี้น่ะ  มัน..."

"มันเป็นของพี่  สักวันพี่จะได้มันกลับมา"  เคลลี่ปลอบ  ลูบศีรษะกับแผ่นหลังคนตัวเล็กจนสงบลง  เห็นแอนน์เงียบไปนานจึงขยับออกมาดู  เห็นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ 

เมาหลับยังน่ารักเลย  ให้ตายสิ!

เคลลี่คิดว่าจะให้แอนน์นอนตรงนี้ไปก่อน  เธอคงแบกแอนน์ขึ้นห้องข้างบนไม่ไหว  คนไม่มีสติจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น  และเธอก็ต้องเช็ดตัวให้แอนน์ก่อนด้วย

เธอหากะละมังใส่น้ำกับผ้าขนหนูผืนเล็กๆ มาได้ในครัวกับตู้เสื้อผ้าห้องพักแขก  ป้ามีนาคงเตรียมพวกผ้าขนหนูอะไรพวกนี้ไว้ให้  เพราะมันยังมีกลิ่นใหม่อยู่เลย  แต่คงจะซักเรียบร้อยแล้ว  เหมือนมาพักโรงแรมเลยแฮะ

เคลลี่เช็ดหน้ากับแขนให้แอนน์  ดูแลเหมือนคนเป็นไข้หวัด  มันก็คงคล้ายๆ กันกระมัง  เธอเช็ดหน้ากับแขนขาเสร็จแล้ว  แอนน์ก็ยังไม่รู้สึกตัวจึงคิดว่าควรจะเช็ดต่อไป  หรืออาจจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ด้วยเลย

ก็รู้นะว่าไม่ควรคิดแบบนี้ตอนนี้  แต่มือมันก็สั่นระหว่างปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของแอนน์ออกทีละเม็ด  ผิวขาวน้ำนมแสนจะยั่วยวน  ไหนจะริมฝีปากสีชมพูเรื่อที่เผยอน้อยๆ เหมือนกำลังรอจุมพิตจากใครสักคนอีกล่ะ

"แม่ขา  พ่อขา  อย่าทิ้งหนูไป...  หนูไม่อยากอยู่คนเดียว" 

เสียงพูดเจือสะอื้นเบาๆ  กระตุกสติเคลลี่กลับคืนมา  เธอเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าแอนน์แทนหน้าอกกับบราเซียร์สีขาว  และพบสิ่งสะเทือนใจ 

หยาดน้ำหยดใสๆ ไหลออกมาจากหางตาแอนน์

"มารับหนูไปอยู่ด้วยนะคะ  คุณพ่อ  คุณแม่  อย่าทิ้งหนูไว้แบบนี้!  อย่าเพิ่งไปสิคะ  คุณพ่อ  คุณแม่  อย่าไป!"

"แอนน์  แอนน์!  แอนน์  ลืมตาขึ้นสิ  แอนน์!"  เคลลี่ร้องเรียกแอนน์เสียงดัง  รั้งคนที่นอนดิ้นไปดิ้นมาเอาไว้ไม่ให้ตกโซฟา  แต่คนตัวเล็กกลับไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน  เกือบจะถีบเธอกระเด็นเลยเชียว

"อนาสตาเซีย!" 

คราวนี้ได้ผล  แอนน์ลืมตาโพลง  แต่พอเห็นหน้าเธอแทนที่จะกอด  กลับผลักเธอแรงจนร่วงโซฟาจนก้นกระแทก

"แอนน์  ผลักฉันทำไม  ฉันอุตส่าห์เช็ดตัวให้นะ"

"อุตส่าห์งั้นเหรอ!" 

เคลลี่ยกมือขึ้นป้องหมอนอิงที่ถูกปามาจากคนเมาบนโซฟา  แอนน์ดูเหมือนจะสร่างเมาแล้ว  แต่มาทำร้ายเธอทำไมกันเนี่ย!

"แอนน์  ฉันเจ็บ!"

"ไอ้คนทะลึ่ง  จะลักหลับฉันอีกแล้วใช่ไหม"

"เปล่านะ"

"แล้วทำไมเสื้อฉันเป็นแบบนี้"  แอนน์ถามเสียงดัง  ดึงสาบเสื้อมาปิดหน้าอก  ถึงจะไม่มีอะไรต้องอายกันแล้ว  แต่นี่มันไม่ใช่เวลาสักหน่อย

"เคลลี่  ไอ้บ้ากาม!"

"ฉันเช็ดตัวให้พี่ต่างหาก  ยังไม่ได้ทำอะไรเลย"  เคลลี่ชี้แจง  นั่งแช่อยู่บนพื้นอยู่แบบนั้น 

แอนน์ชะงัก  มองเห็นอ่างน้ำกับผ้าขนหนูจึงค่อยๆ ระลึกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่  เธอดื่มไวน์ที่ร้านอาหารอิตาเลียนมากไปหน่อย  พอคิดได้แล้วก็ปวดหัวจี๊ดขึ้นมาเลย

"จำได้แล้วใช่ไหมล่ะ"  เคลลี่ถาม  เผลอทำท่าล้อเลียนแอนน์จนโดนผ้าขนหนูเปียกหมาดที่ร่วงอยู่บนตักแอนน์ปาใส่หน้า  และคนตัวเล็กก็ลุกขึ้น  วิ่งหนีขึ้นบันไดชั้นสองไปเลย  สองมือยังปิดหน้าอกอยู่แบบนั้น

"จะยังอายอีกทำไมนะ"  เธอพึมพำขำๆ  และหัวเราะเบาๆ เมื่อเสียงแอนน์ดังแว่วมาจากข้างบน

"ไม่ต้องตามมานะ  ไอ้คนลามก  นอนข้างล่างนั่นแหละ"

เคลลี่มองแอนน์ที่ก้มมองมาจากระเบียงชั้นบน  เธอโบกมือให้  และอีกฝ่ายก็แลบลิ้นใส่เธอ  ก่อนจะหายตัวไป  คงจะเข้าห้องไปอาบน้ำให้สร่าง

"ใครจะยอมนอนข้างล่างล่ะ  หนาวตายพอดี"  เคลลี่พึมพำ  ลุกขึ้นปัดก้นกางเกง  ลังเลว่าจะขึ้นตามแอนน์ไปเลยดีไหม  หากเธอก็เปลี่ยนใจไปเดินสำรวจบ้านแทน 

"หาไฟฉายก่อนละกัน"

...................................................




"เจ้าหน้าที่ไอทีไม่ใช่โปรแกรมเมอร์ค่ะ"  นารูมิพยายามอธิบายให้วิคโตเรียเข้าใจสายงานเก่าที่เธอเคยทำมาก่อนจะต้องลาออกเพราะหมดกำลังใจ  เมื่อไม่มีแม่คอยบ่นแล้ว 

"เราดูแลอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ภายในสำนักงาน  กล้อง CCTV  ดูแลอินเทอร์เนต  เซิร์ฟเวอร์  ลงโปรแกรมต่างๆ ให้ยูสเซอร์  ซึ่งก็คือพนักงานในบริษัท  ไม่ใช่เขียนโปรแกรม  แค่พอจะแก้ไขปัญหาให้พวกเขาได้  ฉันไม่ใช่แฮกเกอร์ค่ะ"

"งั้นเหรอ"  วิคโตเรียพึมพำ  สองมือประสานอยู่ใต้คาง  ศอกทั้งสองตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานภายในห้องทำงานในบ้าน

นารูมิพยักหน้า  และหรุบตาลงเช็กข้อมูลในแท็บเล็ต  วันนี้วิคโตเรียไม่เข้าออฟฟิศ  แต่ทำงานที่บ้านแทน  วิคโตเรียไม่ได้ให้เหตุผลว่าเพราะอะไร  แค่ไม่อยากเข้าก็อยู่บ้านเท่านั้นเอง

เจ้านายว่ายังไงก็แบบนั้นแหละ

"แล้วมันเรียนยากไหมล่ะ"  วิคโตเรียถาม  หน้าตาไม่บอกอารมณ์

"ยากค่ะ  สำหรับคนที่ไม่มีหัวทางนั้นนะ"

"แล้วเธอมีหัวหรือเปล่า"

นารูมิเงยหน้าขึ้นจากแท็บเล็ต  จะดูหน้าคนถามว่าจริงจังหรือแค่แกล้งเธอเล่น  แต่วิคโตเรียก็ทำหน้าว่างเปล่าเหมือนเคย

เดาใจไม่ถูกหรอก  อีแบบนี้

"ถ้าหัวบนบ่ามีค่ะ  แต่หัวแบบนั้นคงไม่"  เธอตอบ  ไม่ได้ตั้งใจจะเล่นมุก  แต่วิคโตเรียก็ยิ้มขำๆ กลับมา  ก่อนจะเก๊กหน้าเบลอๆ เหมือนเดิม 

"ฉันไม่ใช่แฮกเกอร์ค่ะ  แต่ให้ซ่อมคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปให้คุณ  ฉันก็พอจะทำได้  และฉันไม่คิดจะเป็นด้วย"

"งั้นไปจ้างมา"

นารูมิเลิกคิ้ว  งงกับคำสั่ง  หากแววตาจริงจังของเจ้านายสาวก็ทำให้ต้องคิดหนัก  "คุณจะทำอะไรคะ  พอจะบอกได้ไหม"

"เอาไว้หาคนมาได้แล้วค่อยรู้พร้อมกัน"  วิคโตเรียตอบง่ายๆ  หยิบแว่นตามาสวม  ยื่นมือหนึ่งมาให้นารูมิที่ยื่นแท็บเล็ตให้อย่างรู้งาน

"ผลกำไรในทรัสต์ดีอยู่ค่ะ  ในตลาดหุ้นก็เช่นกัน"  ผู้ช่วยสาวรายงาน  คุณเจ้านายพยักหน้ารับรู้

"หาโบรกเกอร์มาขายหุ้นตัวนี้ให้ที"  วิคโตเรียบอก  พยักหน้าเรียกนารูมิให้มาดูแท็บเล็ตด้วยกันใกล้ๆ  และใช้นิ้วชี้ลงไป

"ได้ค่ะ  แต่นั่นมันของ..."

"ไม่เป็นไร  ขายให้หมด  ได้เงินมาแล้วก็โอนเข้าบัญชีนั้นไปละกัน"

"เอ่อ  ค่ะ"  นารูมิตอบ  รับแท็บเล็ตกลับคืนมา  เห็นสัญญาณจากวิคโตเรียจึงขอตัวออกไปจากห้อง  ไปจัดการเรื่องที่เจ้านายสั่งให้ทำ 

ไม่ใช่หน้าที่เธอต้องไปคัดค้านหรือออกหน้าให้ใครสักหน่อยนี่นา   


.............................................

:58: :44:

Viewfinder เปิดจองวันนี้ - 5 ตุลาคม 2562

สั่งจอง >>> http://bit.ly/2kxIxn3  หรือ ไลน์ anhann นะคะ

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

30 กันยายน 2019 เวลา 14:46:21
นารูมิเหมือนหุ่นยนต์ที่น่าเอ็นดู มากกว่าเศรษฐีปลอมตัวมาน่าเตะอ่ะ
แสดงความคิดเห็น