web stats

ข่าว

 


ด้วยแรงแห่งรัก ตอนที่ 9 รักไม่หวังอะไร

โพสต์โดย: ยามเย็น วันที่: 16 กรกฎาคม 2017 เวลา 14:39:45 อ่าน: 162

รัก... ไม่หวังอะไร

ตั้งแต่วันนั้น ขิมก็ไม่เจอเดือนมาเป็นสัปดาห์แล้ว ถามว่าคิดถึงไหม ต้องบอกก่อนเลยว่าคิดถึงมาก มากจนแทบจะทนไม่ไหว... แต่ขิมทำอะไรไม่ได้ จะไปบ้านเดือนขิมก็ยังไม่รู้จัก อยากไปหาอยู่หรอก แต่ไปแล้วจะใช้เหตุผลอะไรล่ะ แล้วเขาจะต้อนรับรึเปล่า เดือนยิ่งปากแข็ง หากไปแล้วเดือนไม่อยากเจอไล่กลับ ขิมกลัวว่าตัวเองจะพานน้อยใจโกรธเดือนเอา แต่ก็นะ...ความคิดถึงมันห้ามไม่ได้ ในเมื่อไปหาไม่ได้ ขิมก็หาทางจะเจอได้อยู่ดี

"ตึกนี้แน่นะอีปีเตอร์" ขิมถามเพื่อนผ่านโทรศัพท์ หน้าก็เงยมองตึกเรียนสูงของคณะบริหาร

(ย่ะ ตึกนั่นแหละ เดี๋ยวก็คงออกมา น้องเขามีเรียนแค่ช่วงเช้าน่ะ) ปีเตอร์ตอบ (เบอร์น้องเขาแกก็มี ทำไมไม่ถาม)

"อยากเซอร์ไพรส์น่ะ" ขิมบอก ปีเตอร์ยิ้ม

(โอ๊ย นังขิม ทำไมแกน่ารักแบบนี้นะเวลามีความรักเนี่ย ฉันอิจฉานังหนูเดือนจริง) ปีเตอร์ว่า ขิมยิ้ม
 
"จากที่รู้มาผัวแกก็ดูแลแกดีนี่ แกได้คนนั้นก็เหมือนกับได้โชคชั้นหนึ่ง ฉันรู้นะว่าเขารักแกมาก"
 
(นี่แกตามสืบเรื่องของฉันเหรอ ฉันอุตส่าห์ปิดไม่ให้ใครรู้ว่ามีผัว) ปีเตอร์ว่า ขิมขำ (แกกำลังทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของฉันนะ นังขิม) ปีเตอร์แกล้งแซ็วแต่ใจนั้นรู้สึกสำคัญมากที่ขิมให้ความสนใจกับตัวเองมากขนาดนี้

"หึๆ ถ้าฉันทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของจริง แกจะไม่มีพื้นที่หายใจเลยล่ะ" ขิมว่า ปีเตอร์ทำหน้าแหย

(ขอผ่านจ้ะ ฉันกลัว) ปีเตอร์ว่า

"วางสายไปนังปี... ปากดีขนาดนี้ระวังผัวนอกใจ"

(ว้าย ปากดี ยัยบ้าเอ๊ย) ปีเตอร์ว่าเสียงดัง ขิมยิ้มขำแล้วกดวางก่อนจะนั่งในรถรอคนที่เธอเฝ้าคิดถึงมาตลอด
 
รอสักประมาณครึ่งชั่วโมงได้ กลุ่มนักศึกษาก็เดินลงมากัน รวมถึงคนที่ขิมรอด้วย คนสวยเดินมากับกลุ่มเพื่อน ขิมสังเกตคนรอบตัวของเดือน ทุกคนมองเดือนเรื่อยๆ ซึ่งขิมไม่แปลกใจเลยที่ใครจะมองหล่อนเพราะความสวยของเดือนไม่ธรรมดาไงล่ะ สวยราวกับนางฟ้านางสวรรค์ มีข้อเสียแค่อย่างเดียว... แต่งชุดรัดรูปเกินไปกระโปรงนักศึกษาก็สั้นเหนือหัวเข่าและนั่น หมายความว่าไม่ผ่านสำหรับขิม
 
ขิมเปิดประตูลงจากรถตาก็มองเดือนตลอด แต่ดูเหมือนว่าขิมจะไม่ใช่คนเดียวที่ต้องการเจอหน้าเดือน เพราะมีรถมาเทียบข้างฟุตบาทพร้อมๆ กับหนุ่มหน้าคมรูปหล่อเปิดประตูลงจากรถแล้วยิ้มทักทายเดือนรวมถึงเพื่อนๆ ของเดือนด้วย ขิมกลัวว่าไอ้ผู้ชายที่ชื่อวินจะฉกเดือนไปก่อน เธอจึงรีบเดินไปหาเดือนทันที
 
"เดือน" ขิมเรียกคนสวยที่กำลังยืนกอดอกปั้นหน้านิ่งราวกับนางพญาให้คนหล่อที่พยายามยิ้มและพูดจาให้เดือนพอใจ
 
"พี่ขิม" เดือนมีสีหน้าตกใจแตกต่างจากตอนแรกมาก และตอนนี้หล่อนกำลังหน้าแดงเมื่อเห็นขิม "พะ พี่ พี่ขิมมาได้ไงคะ"
 
"พี่ก็..."

"เธอมาทำไม" วินถามขิมเสียงนิ่งไม่พอใจ เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ตะคอกขิมตามอารมณ์ตอนนี้ที่เห็นขิมมาหาว่าที่คู่หมั้น

"อุ๊ยตาย ดูเหมือนงานจะเข้า" ปุ้ยว่า

"ฉันว่ามันเข้าแล้วล่ะ" อิงอรพึมพำ หญิงไม่พูดอะไร พวกเธอเดินเข้าไปร่วมวงกับการปะทะอันมาคุของคนที่รักเพื่อนและคนที่เพื่อนรัก

"พี่ขิม สวัสดีค่ะ" หญิงทักทายขิม คนอื่นๆ เองก็รีบยกมือไหว้นั่นรวมถึงเดือนด้วยที่ยกมือไหว้ขิมอย่างเก้ๆ กังๆ หมดมาดนางพญาแบบเมื่อกี้

"คือพี่อยากจะชวนไปกินข้าวน่ะ" ขิมมองเดือนแล้วบอกจุดประสงค์อย่างไม่ปิดบัง ถึงแม้ในประโยคจะไม่เอ่ยชื่อออกไปแต่สายตาของขิมชี้ชัดว่าเป็นเดือนที่ตัวเองพูดด้วย เดือนอมยิ้มแต่ก็รีบปรับอารมณ์ให้เป็นปกติไม่ให้แสดงออกมากไปต่อหน้าวิน

"ทำไมน้องเดือนต้องไปกับเธอด้วย" วินถาม "ป่ะน้องเดือน ไปกันเถอะครับ" วินคว้าจับแขนเล็กของเดือน

"พี่วินคะ เดือนไม่ชอบให้ใครถึงเนื้อถึงตัว" เดือนเตือนคนที่ตัวเองรู้จักอย่างไว้ตัวแล้วใช้สายตามองไปที่มือหนาที่กำแขนตัวเองอยู่ วินมองตาสายตาเย็นชาของเดือนแล้วปล่อยมือทันที

ขิมยักยิ้ม...ที่เห็นปฏิกิริยาของเดือนที่มีต่ออีกคน ดีใจอะไรแบบนี้นะ ขิมรู้สึกว่าตัวเองสามารถลอยได้เลยในตอนนี้ ไม่ชอบให้ใครถึงเนื้อถึงตัว แต่เธอกลับได้กอดและจูบไปบ่อยครั้ง

วินมองขิมที่ส่งยิ้มเยาะเย้ยให้ตัวเขาอย่างเจ็บใจ

"พี่ขอโทษครับน้องเดือน พอดีพี่ลืมตัว"

"ค่ะ" เดือนรับคำขอโทษแล้วมองหน้าขิม ขิมยิ้มหวานให้คนสวยที่เธอคิดถึง

"ไปกับพี่นะคะ" ขิมย้ำ เดือนเหลือบมองวิน ใจอยากจะไปกับขิมแทบแย่เพราะคิดถึงขิมมาตลอดแต่ก็ไม่อยากให้ขิมมีปัญหากับวิน เพราะครั้งก่อนก็มีปัญหาไปรอบหนึ่งแล้วและคิดว่าขิมก็คงเจอปัญหามามากพอควร ก็ตอนแรกเรื่องที่เขามีปัญหากันมันไม่ยอมจบแต่จู่ๆ ก็จบไปง่ายๆ แล้วขิมก็ไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีก รวมถึงวินด้วยที่ไม่พูดอะไรเลย

"น้องเดือนได้นัดไว้เหรอครับ ทำไมต้องทำหน้าลำบากใจไม่อยากไปก็บอกเขาไปเลยครับ" วินพูดขึ้นเมื่อเห็นเดือนไม่ตอบแถมเอาแต่มองมาที่เขาเหมือนเขาเป็นตัวปัญหา

"เดือนไม่ได้ไม่อยากไปค่ะ ว่าแต่พี่วินมาทำไมคะ" เดือนบอกตามตรงแล้วถามวิน ทุกคนจ้องวินหมด

"คุณป้าให้พี่มารับน้องเดือนไปทานข้าวน่ะครับ" วินบอก เพื่อนของเดือนมองหน้าคนพูดแล้วถอนหายใจ คิดว่าครั้งนี้ขิมคงแพ้อย่างเห็นได้ชัด เดือนเหลือบมองขิมที่ยืนกอดอกมองตัวเองอยู่อย่างเสียดาย แต่ก็ขัดใจด้วยที่คนเป็นแม่ไม่บอกกล่าวรวมทั้งวินด้วย

"พี่ไม่เห็นโทรมาบอกก่อนเลย" เดือนว่า วินยิ้มอ่อนให้

"ก็พี่ไม่คิดว่าเดือนจะมีปัญหาอะไรนิครับ พี่ก็มารับตามปกติ"

"ไม่ค่ะ มันไม่ปกติเพราะปกติพี่จะโทรมาบอกกัน หรือว่าไม่สำคัญแล้วค่ะกับมารยาทที่ต้องโทรมาบอกกันก่อนที่จะพาไปไหน ตอนนี้เดือนไม่ว่างแล้วค่ะ" เดือนบอกแล้วจะเดินไปทางขิมที่เพื่อนๆ ยืนกันอยู่อย่างรอแก้สถานการณ์ให้

"งั้นน้องนิศ... เออ น้องเดือนก็รอคุยกับคุณป้าเถอะ เพราะพี่ก็ต้องบอกคุณป้าเหมือนกันว่าไม่ได้ตัวน้องไปทานข้าวด้วย น้องเดือนต้องเข้าใจนะว่าพี่ต้องบอก หากว่าน้องเดือนไปกับคนอื่นแล้วเป็นอะไรไปพี่คงรู้สึกแย่" วินบอกเชิงขู่

เดือนหันกลับไปมอง ขิมเห็นท่าไม่ดีเลยเข้าไปช่วย

"อะแฮ่ม... เอ่อคุณวิน คุณจะทำให้เรื่องมันยุ่งยากทำไมกันล่ะ ไปด้วยกันเลยสิ ทุกคนเลย" ขิมบอกแล้วยิ้มให้วิน "แค่นี้ก็ไม่มีปัญหา ใช่ไหมคะ"

"ผมไม่อยากจะ..."

"ไปด้วยกันสิคะพี่วิน ถ้าพี่ไม่ไปก็ตามใจเพราะเดือนจะไป" เดือนบอกแล้วเดินไปหาขิม

ขิมยิ้มให้เดือนเหมือนๆ กับที่เดือนยิ้มให้ขิม แค่นี้ขิมก็ดีใจแล้วเพราะไม่ได้คาดหวังอย่างสวยหรูว่าจะได้ไปกันแค่สองคนแต่แรก ขิมยอมไปกับใครก็ได้หากว่ามีเดือนไปด้วย เพราะแค่ได้เห็นหน้าให้หายคิดถึงก็พอ

"ไปก็ได้ แต่น้องนิศต้องไปรถพี่" วินบอกเสียงดัง พยายามอย่างยิ่งที่จะข่มอารมณ์โมโห

"เดือนค่ะ ช่วยแก้ด้วยนะคะพี่วิน" เดือนหันไปบอกอีกคนอย่างมีอารมณ์ไม่พอใจ เดือนเองก็ไม่รู้ตัวว่าทำไมถึงยึดติดกับชื่อเดือนนัก ทั้งๆ ที่เธอชื่อนิศมาตลอดชีวิตจนเกิดเรื่องบ้าๆ ที่ทำให้เธอเผชิญหน้ากับความกลัวในเรื่องเหนือธรรมชาติที่หาอะไรมาอธิบายไม่ได้ จนหลวงปู่เปลี่ยนชื่อให้เป็น เดือน... เธอก็รู้สึกว่าชื่อนี้เหมาะกับเธอราวกับว่าเธอไม่เคยใช้ชื่อนิศมาก่อน เธอชื่อเดือน และควรจะชื่อเดือนตั้งแต่แรก

"โธ่ น้องเดือนพี่ก็แค่ลืมตัว ขอโทษนะครับ"

"คุณไม่ควรลืมนะครับ เพราะมันเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของเดือน" วิทย์รีบพูดอย่างอยากจะบอกให้วินจำ

"ฉันไม่ได้ขอให้ขี้ข้าเสนอหน้ามาบอกฉันว่าควรทำยังไงหรอกนะ"

"ก็ถ้าคุณวินไม่รู้จักจำและทำเพื่อคนที่คุณรักก็สมควรที่ขี้ข้าจะเป็นคนบอกนะ และมันวัดมาตรฐานได้อีกด้วยว่าขี้ข้าคนที่เตือนคงรักน้องเดือนมากกว่าคนที่เป็นว่าที่คู่หมั้น" ขิมว่าวิน วินโมโหมากแต่เขาไม่อยากจะมีเรื่องกับขิม เพราะขิมอาจจะทำให้เขาเสียหน้าโดยการแฉเรื่องที่เขาต้องไปขอโทษเพื่อให้เรื่องก่อนหน้านี้จบไป

"ไปกันเถอะค่ะ" หญิงพูดขึ้นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศแล้วควงแขนเดือน

"เดือนขอไปนั่งกับเพื่อนนะคะ ยังไงเราก็ไปเจอกันที่ร้านอยู่ดี" เดือนบอกวินแล้วเดินตรงไปที่รถขิมโดยมีขิมเดินนำไป ขิมเปิดประตูให้เดือนขึ้นนั่งเบาะหน้าข้างคนขับและเพื่อนๆ เดือนนั่งด้านหลัง ส่วนวิทย์ไปเอารถของเดือนที่มาด้วยกันในตอนเช้า ก่อนที่ขิมจะขึ้นรถ ขิมไม่ลืมที่จะหันไปยิ้มเยาะให้วินด้วย และนั่นทำให้วินโมโหมากกว่าเดิม



"พี่คิดไงถึงมาคะ"  เดือนถามทันทีที่ขิมขับรถออกจากที่จอดอยู่ ขิมอมยิ้ม

"อย่าให้บอกเดี๋ยวเธอจะอายเพื่อน" ขิมตอบ เดือนเสมองไปทางอื่นพร้อมกับยิ้มเขิน

"เอ่อ นี่จีบกันเหรอคะ" อิงอรถาม

"พี่น่ะอยากจีบ เอาจริงๆ ก็จีบอยู่นะ แต่ไม่รู้ว่าคนที่กำลังจะหมั้นหมายเขาคิดยังไง" ขิมว่า

"ต้องตอบด้วยเหรอคะ" เดือนหันมาถาม "แล้วอีกอย่างพี่ก็รู้ว่าเดือนมีว่าที่คู่หมั้นแล้ว ทำไมถึงตามจีบ"

"ก็เพราะพี่อยากจีบ จบนะ" ขิมว่าอย่างเอาแต่ใจพลางมองกระจกมองหลังที่มีรถของวินขับตามมา "ว่าแต่อยากไปทานอะไรที่ไหนกันคะ"

"ไม่ได้คิดมาก่อนเหรอคะ" หญิงถาม "พี่นี่แปลกนะ ตั้งใจชวนเดือนไปทานข้าวแต่ไม่คิดร้านไว้"

"เอาจริงๆ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะชวนไปกินข้าว แต่พี่อยากเจอน่ะเลยมา" ขิมบอกตามตรง

"ฮู้ย โรแมนซ์อ่ะ อิจฉาเลย บอกตรงๆ "ปุ้ยว่าแล้วบิดตัวเขินแทนเดือน เดือนยิ้มหน้าแดงเหมือนๆ กับที่เพื่อนของเดือนรู้สึกเขินนั่นแหละ

"พอได้ทีเลยชวนเลย แหมพี่ทำบุญมาด้วยอะไรนะดวงโคตรดี ขนาดว่าที่คู่หมั้นเขาก็มายังฉกเดือนไปไม่ได้เลย" หญิงพูด

"ไม่มีใครฉกฉันได้ย่ะ ฉันแค่อยากจะมาแค่นั้นเอง" เดือนรีบแย้ง

"แถวบ้านฉันเรียกว่าฉกมาได้ล่ะ" อิงอรว่า

"ไม่หรอก ไม่ได้ฉกมา แต่มันวิ่งโร่มาหาพี่เขาเฉยๆ เลย" ปุ้ยว่า

"ปากน่ะนัง..." เดือนหันไปว่าเพื่อน

"อยากกินอะไรคะน้องเดือน" ขิมถามตัดบทเดือน

"อะไรก็ได้"

"แล้วเดือนอยากกินอะไรล่ะ" ขิมถามอีก

"ไม่รู้สิคะ เอาที่พี่ชอบแล้วกัน เดือนยังไงก็ได้"

"ไม่อ่ะ พี่อยากรู้ว่าเธอชอบกินอาหารประเภทไหน เธอเลือก"

"โอ๊ย นี่มันเป็นปัญหาโลกแตกแดกอะไรดีใช่ไหมคะ" อิงอรโวยหลังจากฟังสองคนด้านหน้าผลัดกันถามไปมา "ร้านข้างหน้านี่แหละค่ะ เลี้ยวเลย เลี้ยวเลย"

ขิมพยักหน้าแล้วตบไฟเลี้ยวหักพวงมาลัยเข้าไปในร้านอาหารที่เขียนป้ายโชว์หราว่าสเต็กอร่อย ใจไม่อยากจะกินสักนิด แต่หากให้นึกเมนูตอนนี้เธอคิดไม่ออกหรอก เธอคิดออกแค่ว่า อยากจูบเดือน... ริมฝีปากบางที่เคลือบลิปกลอสสีชมพูนั่นมันยั่วยวนเธอมาก



พอลงจากรถ วินก็รีบเข้ามารวมกลุ่มแล้วทำตัวกีดกันคนอื่นแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเดือนทันที ซึ่งขิมอยากจะตั๊นหน้ามันแต่เธอก็ต้องนิ่งเอาไว้เพราะรู้ว่าเดือนลำบากใจ ที่สำคัญกว่านั้น ขิมอยากจะรู้ว่าตัวเองสำคัญกับเดือนมากไหม และขิมก็ได้คำตอบที่ทำให้ตัวเองมีหัวใจที่เปี่ยมด้วยความสุขเพราะเดือนสนใจขิมตลอดเวลาที่นั่งทานข้าวด้วยกัน

"ตามพี่ออกมาทำไมคะ" ขิมกระซิบถามคนสวยที่มาเข้าห้องน้ำแต่เดินเลยมาทางด้านหลังแล้วชะเง้อราวกับมองหาใคร

"พี่ขิม" เดือนหันกลับมาหาอีกคน แต่ก็หันได้แค่ศีรษะเพราะตัวของเธอถูกคนที่ถามรวบกอดเอวไว้ "ปล่อยเถอะค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า"

"งั้นขยับมานี่หน่อยเป็นไง" ขิมบอกแล้วโอบเดือนให้ขยับตามตัวเองหลบมุมกำแพงชิดพุ่มไม้เลื้อย เดือนอมยิ้มยอมรับเลยว่าเธอไม่มีแรงมากพอจะต้านทานความเอาแต่ใจของขิมและเหมือนว่าจะเป็นเธอเองนี่แหละที่ต้องการใกล้ชิดกับขิมเสียเอง ความรู้สึกข้างในของเธอมันมากล้นจนหาคำมาอธิบายไม่ได้ คิดถึง รัก... รักตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ เธอโหยหาที่จะได้อยู่ใกล้ขิม ชอบที่อีกคนเข้าหาตัวเอง หากเทียบกันแล้วเธอเสียอีกที่ต้องการขิมมากกว่า

"พี่นี่นะ" เดือนว่าอีกคนเบาๆ มือก็จับกุมแขนเล็กที่กอดเอวคอดของตัวเองไว้ เดือนเอียงคอเล็กน้อยเมื่อขิมฝังจมูกหอมแก้มและคอเธอ

"พี่คิดถึงเธอนะเดือน" ขิมบอกในระหว่างที่สูดดมกลิ่นหอมจากเดือนให้ตัวเองได้ชื่นใจ

"ค่ะ รู้แล้ว" เดือนตอบรับ

"แล้วเธอล่ะ คิดถึงกันไหม" ขิมถามพลางคลายอ้อมแขน ซึ่งเดือนหมุนร่างบางหันมาหาเธออย่างกับรู้ใจว่าเธออยากจะให้ทำแบบนี้

"ให้ตอบเหรอคะ" เดือนย้อนถาม ขิมพยักหน้า มือข้างหนึ่งยกลูบขึ้นแก้มเนียนบนใบหน้าที่มีเครื่องสำอางแต่งแต้มเล็กน้อยเพื่อให้ใบหน้าสวยไร้ที่ติมีความเปล่งประกายสวยสมกับยุคสมัยมากขึ้น

"ค่ะ อยากให้ตอบ แล้วอยากได้คำตอบที่พี่พอใจด้วย"

เดือนใจสั่นเมื่อร่างกายรับรู้ถึงความอ่อนโยนจากมือนุ่มที่ลูบไล้แก้มเธอเบาๆ แถมสายตาของคนตัวสูงยังมากล้นด้วยความต้องการเธออีก

"ค่ะ คิดถึงอยู่เหมือนกัน" เดือนตอบ นั่นทำให้ขิมหลุดขำ

"คิดถึงอยู่เหมือนกันเหรอ ทำไมไม่บอกว่าคิดถึงแค่นั้นก็พอ ตอบแบบนี้ไม่เหมือนคิดถึงแต่เหมือนนึกถึงมากกว่านะ"

"พี่เอาแต่ใจ เรื่องมาก"

"เธอก็ปากแข็งนะเดือน ทั้งๆ ที่ไม่น่าจะเป็นคนแบบนี้แท้ๆ "

"เดือนไม่อยากพูด เพราะพูดไปมันไม่เหมาะสม" เดือนบอกพลางผินหน้ามองไปทางอื่นเล็กน้อย ขิมพยักหน้าเข้าใจเพราะเดือนมีว่าที่คู่หมั้น พูดไปมันก็ไม่ดี เดือนเป็นผู้หญิงและหากพูดออกมาเต็มปากว่าคิดถึงเธอหรือมีใจให้แต่กลับไปหมั้นหมายกับคนอื่นคงไม่เหมาะสม

ขิมจับคางของคนสวยให้หันมามองหน้าเธอ ขิมจ้องดวงตาสวยมีแววเศร้าของอีกคนแล้วยิ้มอ่อนโยนให้

"ค่ะ พี่เข้าใจ แต่ถึงแม้ว่าเธอจะพูดไม่ได้ เธอฟังพี่ได้... พี่อยากให้เธอรู้ว่าพี่รักเธอนะเดือน รักมาก มันเป็นความรักที่เกิดขึ้นอย่างตั้งใจจะให้มันเกิดเพราะพี่รอจะเจอเธอมาตลอด พี่รักเธอตั้งแต่แรกเห็น"

เดือนไม่เข้าใจที่ขิมพูดแต่เธอไม่มีอารมณ์มาคิดอะไรเพราะดีใจที่อีกคนเอ่ยคำรักออกมา รักตั้งแต่แรกเห็นเหรอ... เหมือนกับที่เดือนรู้สึกเลย

"....."

"และพี่รักเธอ รักอย่างที่ไม่หวังอะไรเลย ไม่ว่าเธอจะคิดยังไง พี่จะไม่ทำให้เธอลำบากใจ แค่อยู่ให้พี่รักนะเดือน ไม่ต้องคิดอะไรเรื่องของพี่เลยก็ได้ เพื่อความสบายใจของเธอเอง" ขิมบอกแล้วก้มลงไปหาคนสวย ใจหมายมั่นอยากจะครอบครองริมฝีปากบางนั้นที่เธอจ้องมองมานาน และเดือนก็ทำให้ขิมใจหวิวล่องลอยไปกับความสุขสมเมื่อเดือนยกมือขึ้นกุมมือของขิมที่ประคองหน้าของหล่อนอยู่ แถมแขนเล็กของเดือนอีกข้างยังโอบกอดคอขิมที่โน้มลงไปจูบอีกด้วย

ขิมจูบเดือนอย่างอ่อนโยน ริมฝีปากขยับเม้มจูบริมฝีปากบางที่ทาลิปกลอสสีสวยซึ่งขิมเม้มดูดกินลิปกลอสนั้นอย่างตั้งใจ

"อืม... พี่คะ" เดือนส่งเสียงในคอแล้วเรียกขิมที่เม้มกัดริมฝีปากของเธอราวกับจะดูดกินให้หมด เดือนคิดว่าปากตัวเองในตอนนี้ต้องแดงเจ่อแน่ๆ ที่ขิมกดจูบเม้มดูดขนาดนี้ เดือนรู้สึกอ่อนระทวยเมื่อลิ้นเรียวของขิมสอดเข้ามาในปากแล้วตวัดลิ้นเรียวกับลิ้นของเธอ มันรู้สึกจั๊กจี้อย่างที่ไม่เคยรู้สึก และมันก็รู้สึกดีมากด้วย...จริงๆ ควรจะรังเกียจใช่ไหมที่ใครเอาลิ้นเข้ามาในปากเรา แต่เดือนกลับรู้สึกดีซะอย่างนั้นที่ขิมทำแบบนี้

ขิมยิ้มเมื่อผละออกมาจากอีกคน เราทั้งสองหายใจหอบแล้วยิ้มให้กันอย่างสุขใจ แล้วขิมก็จูบริมฝีปากของหล่อนอีกครั้งก่อนที่จะเลื่อนขึ้นไปจูบสันจมูกแล้วกดจูบหน้าผากของคนสวยอย่างตั้งใจ

"พี่ทำไมชอบ... จูบ"

"เธอทำไมชอบให้พี่จูบล่ะ" ขิมย้อนถาม แล้วหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเดือนทำหน้าไม่ถูก เธอลูบหัวอีกคนอย่างเอ็นดูและรักสุดใจ "ไปกันเถอะค่ะ เดี๋ยวคนอื่นสงสัยว่าทำไมหายมานาน"

"ค่ะ" เดือนว่าแล้วเดินไปก่อน ซึ่งขิมรอสักพักถึงจะตามออกไป พลางคิดเรื่องที่เดือนห่วงภาพลักษณ์เรื่องหมั้นหมาย เรื่องของวิน เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับทางบ้าน ภพชาติอดีตของเดือนในชาติของดวงเดือนหล่อนไม่อยากแต่งงานถึงขนาดว่ายอมตาย เคยทะเลาะกันเรื่องฆ่าตัวตายเพราะหนีการแต่งมาด้วยซ้ำ ทำให้รู้ว่าดวงเดือนหวงชีวิตคู่ที่จะเป็นของเขมมินทร์มากแค่ไหนแต่ดวงเดือนก็รักพ่อแม่ถึงขนาดที่ว่าไม่ยอมดื้อยอมรั้นแต่เลือกความตายให้ตัวเอง...แตกต่างแต่ก็เหมือนกันสินะ เดือนคนนี้ไม่หนีการหมั้นหมายแต่รักครอบครัว รักพ่อแม่ไม่ต่างจากดวงเดือนเลย ภพชาติหมุนเวียนเวลาเดินหน้าแต่จิตใต้สำนึกเหมือนจะติดตามหล่อนมา เพียงแต่ขิมนึกน้อยใจหน่อยที่เดือนดูไม่พยายามจะทำอะไรเลย... แต่ขิมจะทำจะเตรียมพร้อมเอาไว้

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น